ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { chanyeol x yifan } | 2am |

    ลำดับตอนที่ #6 : ชานฟานทูเอเอ็ม - how long that i've luv u

    • อัปเดตล่าสุด 29 ธ.ค. 57




    ฟิคตีสอง - กลางดึกวันที่ ส า ม

     
    How Long That I've Loved You
    ที่ฉันรักเธอไม่รู้เมื่อไหร่
    ที่ทั้งหัวใจ ฉันมีเพียงแต่เธอ
    How Long Will I Love you
    ไม่รู้ว่าวันนั้นจะนานเท่าไหร่
    แต่เวลาแห่งความรัก
    ที่ในใจของฉันคงไม่หยุดเดิน

    how long - the 38 years ago

     

    ฟิคตีสอง กลางดึกวันที่ ส า ม

    จ ริ ง ๆ ต อ น นี้ ก็ ดี น ะ
     

                    แขนของชานยอลก็ยังคงอยู่ที่เดิม แขนของเขาอุ่นดีมันช่วยทำให้ผมอุ่นขึ้น เขาคงกลัวผมหนาว ผมเลื่อนตัวให้ต่ำลงเพื่อใช้แขนของเขาเป็นหมอนรองหัว เขาก็นิ่งไม่ขยับให้ผมนอนอยู่แบบนั้น พลุที่อยู่บนท้องฟ้าเริ่มจางหายไปแล้ว ใกล้คริสต์มาสก็มักจะมีคนฉลองกันแบบนี้เยอะ
     

    “ต้องเข้ากะแล้ว เดี๋ยวจะสาย” ผมลุกขึ้นหลังจากที่พักขาจนหายเหนื่อย ชานยอลลุกตามทำท่าจะเดินตามผมไป

     

    “เดี๋ยวๆ ไม่ต้องตามมาเลย” ชานยอลชะงักลง หน้าเริ่มบึ้ง

     

    “พรุ่งนี้มีเรียนไม่ใช่หรอชานยอล กลับบ้านไปนอนได้แล้วนี่มันจะเที่ยงคืนแล้วนะ” ชานยอลพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ท่าทางแอบขัดใจเล็กน้อยเพราะหัวคิ้วขมวดเข้าหากัน

     

    “ก็ได้ ผมกลับก็ได้ อี้ฟานกลับร้านดีๆนะครับ” ผมรับถุงของส่วนของตัวเองจากมือชานยอลมาถือ ผมยกมือโบกบอกลาชานยอลแต่ชานยอลดันยื่นโทรศัพท์ของเขามาให้ผม

     

                    หูของชานยอลแดงน้อยๆเหมือนเขินอาย หน้าจอโทรศัพท์ที่ยื่นมาเป็นหน้าเสิร์ชไอดีของคาทอล์ค เขาเสมองไปทางอื่น นอกจากหูจะแดงแล้วแก้มขาวๆของเขาก็ยังแดงอีกด้วย

     

    “อะไร” ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ เค้าอึกอักเล็กน้อย ท่าทางอย่างนั้นทำให้ผมนึกเอ็นดู แต่ถ้าเขาอยากได้ก็ต้องเอ่ยปากขอสิ่ ไม่ควรหัดอ้อมค้อมตั้งแต่เด็กๆนะ เขาควรจะเป็นคนตรงๆ แค่ขอไอดีคาทอล์ครุ่นพี่เองเขาจะเขินอายอะไร

     

    “เอ่อ...” ผมยืนมองเขาแบบรอคอย หน้าของชานยอลเริ่มแดงมากกว่าเดิม จนผมสงสารเขานิ่งไปเป็นสองสามนาที จนสุดท้ายได้ยินเขาสูดหายใจเฮือกใหญ่

     

    “เอ่อ...ผะ...ผมขอไอดีคาทอล์คอี้ฟานหน่อยครับ” ชานยอลหลับตาปี๋ท่าทางลุ้นระทึกมาก ผมยังยืนนิ่งไม่ไหวติง จนชานยอลค่อยๆลืมตา หน้าเขาเสียทันทีเลยเมื่อผมยังไม่รับโทรศัพท์มาจากเขา
     

    “ถ้า...ถ้าอี้ฟานไม่อยากให้ก็ไม่เป็นไรครับ” ชานยอลพูดเสียงเบาๆเขากำลังจะเก็บโทรศัพท์ลงไปในเสื้อโค๊ท

     

    “ผมไม่ได้ไม่อยากให้หรอก” ชานยอลยังคงทำหน้าเศร้าอยู่

     

    “ไม่เป็นไร ผมรู้คุณคงอยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง วันสองวันมานี้ผมตามติดคุณจนคุณรู้สึกไม่มีความเป็นส่วนตัวใช่มั้ย ไม่เป็นไรผมเข้าใจดีแล้ว ผมขอโทษนะ”

     

    ดราม่า

     

                    ผมรู้สึกว่าปาร์ค ชานยอลกำลังเข้าโหมดดราม่าโดยมีผมเป็นสาเหตุซึ่งเขาคิดไปเองทั้งสิ้น

    “หน้าจอคุณมันล็อคไปแล้ว คุณตั้งรหัสผ่านไว้ไม่ใช่หรอ ผมจะรู้มั้ยหล่ะ”

     

    “ห๊ะ!?” ดวงตาใสแจ๋วของชานยอลเบิกกว้าง ผมทำหน้านิ่งๆส่งไปให้เพราะเขาอึกอักนานมากกว่าจะเอ่ยขอผม หน้าจอของเขามันก็เลยดับลง

     

    “โอ๊ยยยยยย” ชานยอลทำหน้าแบบโคตรอายมาก เขาปลดล็อคแล้วส่งให้ผม เขาใช้สองมือปิดหน้าแล้วแอบดูผมผ่านช่องนิ้วของตัวเอง

     

                    ผมเสิร์ชหาไอดีของตัวเองก่อนจะกดแอดเฟรนเป็นที่เรียบร้อยผมส่งคืนให้ชานยอลพร้อมโบกมือบ๊ายบาย

     

    ชานยอลโบกมือให้ผมจนมองเห็นเขาเป็นแค่จุดเล็กๆ

     

    ตรึ้ง

    Real_pcy

    กลับถึงร้านปลอดภัยนะครับ อี้ฟาน

    Kriswu

    ชานยอลก็เหมือนกัน

     

    ก็ เ ป็ น ช่ ว ง เ ว ล า ที่ ดี น ะ
     

    7.00 am

     

    “ยัวร์สเปซยินดีต้อนรับครับ” ผมหาวเป็นครังที่ล้านแปด อาจจะเป็นเพราะผมออกไปเที่ยวกับชานยอลจนถึงดึกดื่นก็เลยนอนน้อยกว่าปกติหรือเปล่านะ รู้สึกเหมือนจะหลับในยังไงชอบกล

     

                    ร้านสเปซถูกตกแต่งเพื่อรอเทศกาลคริสต์มาสเรียบร้อยแล้วจากแรงกายแรงใจของพนักงานทุกกะรวมถึงลูกค้าอย่างปาร์ค ชานยอล

     

    ตรึ้ง

     

    Real_pcy

    อี้ฟาน คุณยืนหลับอยู่หรอ >.<

                    ผมอ่านคาทอล์คที่ขึ้นโชว์แจ้งเตือนว่ามีข้อความเข้า เป็นปาร์คชานยอลที่ขอไอดีคาทอล์คผมไปเมื่อคืน เขาพูดเหมือนว่านั่งอยู่ในร้านอาจจะเข้ามาตอนที่ผมเข้าไปหลังร้านก็เป็นได้

    Galaxy_fanfan

    Zzzzzzzzz

    Real_pcy

    คึๆๆๆ คุณเปลี่ยนชื่อหรอ

    Galaxy_fanfan

    มันเข้ากับฉันดีไม่ใช่หรือไง

     

    “อย่ามัวแต่เล่นโทรศัพท์อี้ฟาน” เสียงจื่อเทาอย่างดุทำให้ผมรู้สึกผิดทันทีแทนที่จะช่วยเขาดันมาเล่นโทรศัพท์

     

    “ขอโทษๆ” ผมเอ่ยขอโทษจื่อเทาเบาๆเขาโบกมือเป็นเชิงช่างมันเถอะ แต่เสียงหัวเราะหึๆน่าขนลุกมันก็ดังมาจากเซฮุนที่หน้าตาสมน้ำหน้าผมมาก ผมแยกเขี้ยวขู่ส่งไปให้ทีนึงแล้วก็รีบหันมาจัดของตามออร์เดอร์ที่กองพะเนิน

     

    “อี้ฟานนนนนนน” เสียงตะโกนดังลั่นมาจากหน้าประตู คนที่นั่งโซนใกล้ๆประตูกับเค้าท์เตอร์ถึงกับสะดุ้ง

     

    “งั้นเดี๋ยวออกไปเอาดอกไม้เลยแล้วกันนะ” ผมบอกจื่อเทากับเซฮุนเขาพยักหน้า ผมเดินออกมาจากเค้าท์เตอร์ไปยังหน้าประตู เพื่อนของชานยอลโค้งเพื่อทักทายผม
     

    “หวัดดีครับพี่”

     

    “ดีฮะ”

     

                    เสียงทักทายผมดังแซงแซ่ไปหมด ผมเดินออกมาจากร้านพร้อมๆกับชานยอลและเพื่อนของเขา
     

    “อี้ฟาน เย็นนี้ผมมีงานที่โรงเรียนอ่ะ เป็นเทศกาล” เสียงเขาดูเซ็งมาก

     

    “ขอให้สนุกนะ” ผมอวยพรอย่างน้อยถึงเขาจะไม่ชอบมันแต่ก็น่าจะเจอเรื่องอะไรดีๆบ้างแหละ

     

    =3=” ชานยอลทำปากยื่น ผมหัวเราะเบาๆพร้อมกับรับดอกไม้มาจากเจ้าของร้านที่มายืนส่งดอกไม้ให้ร้านเหมือนทุกๆวัน ผมก้มหัวขอบคุณเธอ

     

    “อี้ฟาน...” ชานยอลเรียก ผมขานรับในลำคอเบาๆเพราะกำลังเช็คดอกไม้ที่ถืออยู่ในมืออยู่

     

    “ไปที่โรงเรียนผมมั้ย ตอนเย็น” คำถามของชานยอลทำให้ผมหันกลับไปมองหน้าเขาอย่างงงๆ เหล่าแบ็คกราวน์บอยเมื่อเห็นชานยอลหูแดงหน้าแดงแต่ผมยังเงียบอยู่ก็ค่อยโผล่ออกมารวมกันแล้วคนนึงก็กอดคอชานยอลไว้

     

    “พี่มาเถอะครับ สนุกนะ”

     

    “ใช่ครับพี่ อาหารอร่อยก็เยอะ สาวเยอะด้วยครับพี่ รับรอง แซ่บ” เมื่อแบ็คกราวน์บอยคนนี้พูดจบเขาก็เหมือนแตกสลายหายไปเมื่อโดนชานยอลโบกมือใส่กระโหลกอย่างแรงพร้อมๆกับความร่วมมือร่วมใจของเหล่าแบ็คกราวน์บอยที่เหลือทำให้เขาถูกกลืนหายไปอย่างรวดเร็ว
     

                    ผมเงียบเพราะกำลังนึกอยู่ว่ามีธุระอะไรที่ต้องไปทำหรือเปล่าเย็นนี้

     

    “ถ้าอี้ฟานไม่ว่างก็...ก็ไม่เป็นไรครับ ผมไม่อยากรบกวน” ดวงตาใสๆของชานยอลหลุบต่ำลงอย่างน่าสงสาร
     

    “พี่ไปเถอะครับ สงสารชานยอลมัน กว่ามันจะกล้าชวนพี่พวกผมเกือบตาย”
     

    “ย่าห์!” ชานยอลตะโกนใส่เพื่อนเขาอย่างเขินอาย

     

    “ความจริงพี่ก็ไม่ได้มีธุระอะไรหรอก เย็นนี้ เพียงแต่เกรงใจเพราะมีแต่เพื่อนกันทั้งนั้นถ้าพี่ไปด้วยอาจจะอึดอัดนะ”

     

    “ไม่เลยครับ ไม่อึดอัดสักนิดครับอี้ฟาน” ชานยอลยิ้มดีใจจนเพื่อนเขาเขย่าตัวชานยอลไปมา

     

    “งั้นสี่โมงเจอกันที่สวนสาธารณะนะครับ เดี๋ยวผมมารับ”
     

    “โอเค”

     

    .

    4.15 pm

    .

    “อี้ฟานนนนนนน” เสียงชานยอลดังมากก่อนที่ตัวของเขาจะมาถึงผมซะอีก เสียงหอบหายใจฮั่กๆทำให้รู้ว่าเขาต้องวิ่งมาแน่ๆท่าทางรีบร้อนทำให้ผมงง

     

    “รีบไปไหนชานยอล” เขาวางมือสองข้างไว้ที่หัวเข่าแล้วก็ยังหอบอยู่

     

    “ผม..แฮ่ก...กลัวอี้ฟานจะรอนาน พอดีมีเรื่องให้ช่วยก่อนที่จะออกมาพอดี” ผมบอกเขาให้ใจเย็นๆส่งชาเขียวที่เพิ่งกดออกมาจากตู้สดๆร้อนๆระหว่างที่ยืนรอเขา พอชานยอลเงยหน้าขึ้นมาเขาก็ชะงักลงพร้อมๆกับเบิกตากว้างนั่น

     

    “มะ...มีอะไร” ผมถามอย่างเสียความมั่นใจ

     

                    ชานยอลหน้าแดงไปหมดเขาเขินจนผมงง เสื้อผ้าวันนี้ก็ไม่ได้แปลกอะไรนี่แค่แต่งให้มันเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อย เสื้อก็ไม่ได้ขาดกางเกงก็ไม่ได้แหว่ง เชิ้ตขาวกับกางเกงสีดำแล้วก็โค๊ทยาวสีน้ำเงิน ไม่ได้มีอ๊อฟชั่นเสริมพิเศษอะไรเลย

     

    “ปะ...เปล่าครับ” หลังจากที่ชานยอลปฏิเสธว่าไม่มีอะไรก็ชวนผมนั่งรถเมล์ไปเพราะไม่ได้รีบเหมือนขามาที่เขาต้องวิ่งมาเองเพราะขี้เกียจรอรถเมล์

     

    .

                    โรงเรียนของชานยอลเป็นโรงเรียนที่ใหญ่มากและดูหรูหราไม่ใช่น้อย น่าจะเป็นโรงเรียนเอกชน เด็กนักเรียนแต่ละคนก็ดูท่าทางคุณหนูคุณนายกันทั้งนั้น

     

                    ระหว่างทางเดินเข้าไปด้านในโรงเรียนก็มีซุ้มของนักเรียนตั้งอยู่มากมาย คนเดินขวั่กไขว่กันเต็มไปหมดทั้งเด็กในโรงเรียนและโรงเรียนอื่นด้วย ชานยอลถูกทักมากที่สุดที่เขาจะสามารถหันกลับไปทักทายได้ตลอดทางไม่เว้นแม้แต่ภารโรงยังทัก คุณชานยอลสบายดีมั้ยครับ -.-

     

    “อี้ฟานอยากกินน้ำผลไม้ปั่นมั้ย”

     

    “อี้ฟาน อยากกินไอศกรีมมั้ย”

     

    “อี้ฟานอยากกินราเมนมั้ย”

     

    “อี้...”

     

    “พอแล้วชานยอลแค่ในมือผมผมก็กินไม่หมดแล้วนะแล้วในมือชานยอลอีกหล่ะ” ชานยอลหัวเราะแหะๆพาผมเดินว่อนไปทั่วโรงเรียนเลยระหว่างทางมีคนทักและมอบขนมนมเนยให้เขาไม่ขาดสาย ชานยอลถามผมตลอดว่าผมอยากกินนั่นกินนี่มั้ย แรกๆผมก็กินนะแต่สักพักมันไม่ไหวละ เยอะมากชานยอลก็ทั้งรับทั้งซื้อขนมตลอดทาง เจ้าตัวยิ้มร่าแจกจ่ายไปทั่ว จนสักพักเขาก็เริ่มหุบยิ้มเพราะอากาศที่หนาวเย็นและของในมือเขาที่มีเยอะและหนักมาก เราตัดสินใจไปที่ซุ้มของชานยอลเพื่อนั่งพัก

     

    “ฮิ้ววววว หายหัวไปไม่มาช่วยเพื่อนฝูงทำมาหากินเลยนะ” แบ็คกราวน์บอยแซวเสียงดังตั้งแต่ที่ผมกับชานยอลก้าวเข้ามาในซุ้ม ซุ้มของชานยอลขายน้ำแข็งใสที่ใส่ไอศกรีมและท็อปปิ้งต่างๆมากมาย คนต่อคิวรอซื้อเยอะมาก ส่วนมากจะเป็นเด็กผู้หญิงซะส่วนใหญ่

     

                    ระหว่างที่นั่งพักอยู่นั้นชานยอลก็ยื่นขนมมาให้ผมไม่ขาดสาย ทั้งขนมปัง ขนมไทยที่รสชาติอร่อยมาก เห็นเขาบอกว่าเพื่อนที่ทำย้ายมากจากประเทศไทยเป็นลูกเจ้าของร้านอาหารและขนมไทย

    “อร่อยมั้ย” ชานยอลนั่งลุ้นขนมทุกชิ้นที่เขายื่นให้ผมกิน

     

    “อะ...”

     

    “ชิบหายหล่ะ... รถไฟชนกัน” เสียงตะโกนของแบ็คกราวน์บอยที่ยืนอยู่หน้าร้านดึงความสนใจของผมไปประโยคแรกดังฟังชัดแต่ประโยคที่สองเบาราวกลับกลัวว่าใครจะได้ยิน

     

    “ชานยอลคะ”

     

    “น้องชานยอล”

     

                    ชานยอลที่หันหน้าเข้าหาผมแล้วหันหลังให้คนที่เรียกชื่อหันกลับไปมองต้นเสียง เมื่อเขาเห็นทั้งสองคนที่ยืนอยู่หน้าร้าน หน้าเขาก็แสดงความตกใจออกมาก

     

    “หมิงหลิง...แบคฮยอน”

     

                    ชานยอลครางชื่อของผู้หญิงและผู้ชายที่ยืนเรียกเขาอยู่หน้าร้าน แบคกราวน์บอยบางคนทำของร่วงจากมือกันเป็นแถว บางคนสำลักน้ำ

     

    เอ๊ะ

     

    นั่นไม่ใช่...

    “ บ ย อ น แ บ ค ฮ ย อ น”

    เหรอ



    ___________________________
    มาละจย้าาาาาาา
    สามสิบเปอร์ก่อนนะหัวไม่ค่อยแล่นเลย
    ขอบคุณสำหรับคอมเมนค์ค่ะ

    เยยยยยย่ครบร้อยเปอร์แล้วนะคะ
    จะมาม่ามั้ยนะ คนแต่งยังไม่รู้เลยแล้วแต่อารมณ์
    เดี๋ยวๆ 5555
    ขอบคุณที่ยังติดตามตลอดนะคะ
    ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×