คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ชานฟานทูเอเอ็ม - my heart's made up on you
but my heart's made up on you
My body can't take What you give to me,
what you give Got my heart made up on you
-R5 heart made up on you-
3.00 pm
‘ปาร์ค ชานยอล’
ผมคิดถึงเจ้าของชื่อมาตั้งแต่เมื่อเช้าหลังจากที่ผมเก็บกระเป๋าตังค์ได้ เขาอาจจะไม่ได้ตามผมมาก็ได้อาจจะแค่โชคร้ายที่ทำกระเป๋าตังค์ตกไว้ก่อนหน้านี้ แต่ผมคิดว่าตอนเดินผมมองทางดีนะ อย่างน้อยก็ต้องมองเห็นบ้าง ถ้าคิดว่าเป็นเขาที่ตามผมมาก็ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไร
“เห้อออออ”
ผมถอนหายใจยาวๆพร้อมกับหยิบจานและแก้วน้ำไปที่อ่างล้างจาน ใกล้เวลาเข้ากะแทนจงอินแล้ว ผมต้องแวะไปเอายูนิฟอร์มที่เอาไปซักเมื่อเช้าที่ร้านซักอบรีดด้วย
ปัง!
ผมปิดประตูห้องพักเดินออกมาจากคอนโด สอดมือเข้าไปที่กระเป๋าเสื้อโค๊ตเมื่อมือปะทะกับความหนาวเย็น ยิ่งเวลาเย็นก็ยิ่งหนาว ยิ่งกะประจำของผมนี่แทบจะแบกผ้าห่มออกมาจากห้องด้วยเลย นั่งรอรถเมล์ถึงกับขาแข็ง
ตึ้ง
Oohsehun
ฮยอง ไปถึงร้านรึยังครับ?
Kriswu
ยังเลย กำลังนั่งรถเมล์อยู่มีอะไรหรอ
Oohsehun
พอดีผู้จัดการเขาจะฝากซื้อของตกแต่งร้านเพิ่มอ่ะ ฮยองช่วยแวะให้หน่อยได้มั้ย ผู้จัดการเขาโทรมาบกผมตอนผมถึงหน้าร้านแล้วอ่ะ เขาบอกให้พี่เข้าสายได้
Kriswu
ได้ เอาออร์เดอร์มา
ผมรับออร์เดอร์มาจากเซฮุนแล้วก็เปลี่ยนเส้นทางไปลงที่มาร์เก็ตแทน เลือกซื้อไม่นานผมก็ได้ของครบตามออร์เดอร์แวะไปเอายูนิฟอร์มที่ร้านซัก อบ รีด แล้วก็นั่งรถเมล์ต่อไปทางร้าน
4.00 pm
ผมเดินผ่านหน้าร้านเพื่อเข้าไปทางประตูด้านหลัง คนดูเยอะมากผมเพิ่งเคยเจอลูกค้าเยอะขนาดนี้เพราะถึงแม้ว่าผมจะมีลูกค้ามากในกะของตัวเองแต่มันเทียบไม่ได้เลยกับกะนี้ ไม่รู้ว่าจงอินกับดีโอน้องมันเอาอยู่กันได้ยังไง แค่เห็นจากนอกร้านผมยังเหนื่อยแทน
“หวัดดีครับ ผู้จักการ” ผู้จัดการเป็นผู้ชายตัวสูงหุ่นดีแต่มีอายุมากใกล้เกษียรแล้วแต่เขายังดูแข็งแรงเพราะดูแลสุขภาพตลอดเวลา เขามีภรรยากับลูกสาวที่เป็นพยาบาล ลูกกับภรรยาเลยเอาใจใส่เขาเป็นพิเศษเรื่องสุขภาพ
“เอ้อ ซื้อของที่ผมสั่งมาหรือป่าว” ผมยื่นถุงไปให้เขาตรวจดูว่าผมซื้อมาครบหรือเปล่า
“เดี๋ยวผมจะโอนเงินเข้าบัญชีให้คุณนะรวมค่ารถให้ด้วย” ผมพยักหน้ารับคำ
“ผมให้เลย์เข้ามาเพิ่มที่กะนี้สำหรบวันนี้เป็นพิเศษเพื่อช่วยคุณแต่งร้านนะ มันจะดีมากถ้าคุณทำเสร็จได้ทัน”
“ครับ” ผมหิ้วถุงอุปกรณ์ออกมาจากห้องพักพนักงานเอาไปใส่ไว้ที่ใต้เค้าท์เตอร์ ผมเจอโอเซฮุนกับอี้ชิงยืนคุยกันอยู่
“มาแล้วหรอ” ผมกับอี้ชิงเราสนิทกันมากพอสมควรเลยเพราะเขาเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับผมยิ่งเป็นคนจีนด้วยกันเลยยิ่งทำให้เราผูกพันกันเพราะเวลาพูดภาษาจีนด้วยกันมันจะทำให้เราคิดถึงบ้านและครอบครัวน้อยลง เหมือนเราเป็นครอบครัวเดียวกัน
“อ่า อี้ชิงวันนี้ไปที่มาร์เก็ตมา พุดดิ้งชาเขียวที่นายชอบมันลดครึ่ราคาด้วยนะแต่ฉันเห็นตอนคิดเงินเสร็จเลยไม่ได้ซื้อมาให้” อี้ชิงตาเป็นประกายขึ้นมาทันทีเมื่อพูดถึงขนมของโปรดของเขา
“ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวฉันไปซื้อเองตอนออกกะก็ได้”
“เอางั้นก็ได้ ถ้า...” ผมหยุดชะงักกลางคันเมื่อเสียงของโอเซฮุนดังแทรกขึ้นมากลางประโยค
“ฮยองสองคนจะช่วยพูดให้ผมเข้าใจด้วยได้ป้ะ ละเกลียดจริงๆเลยไอ้ที่พูดจีนกันแล้วเหลือบมองผมเนี่ย มันหมายความว่าไงฮะ” ผมกับอี้ชิงหัวเราะออกมาพร้อมกันเพราะหน้าตาสุดเหวี่ยงของโอเซฮุน
“พวกฉันไม่ได้พูดถึงนายหรอกน่า ป้ะๆทำงานกันได้แล้วลูกค้าเดินเข้าร้านมาละเนี่ย” อี้ชิงดันผมให้ไปหยิบของตกแต่งที่ผมเพิ่งเอาเข้าไปไว้ที่ใต้เค้าท์เตอร์
“ชานยอลเอาไรวะ” เสียงกลุ่มเด็กผู้ชายดังโหวกเหวกโวยวายแต่ชื่อของคนในกลุ่มนั้นทำให้ผมชะงักลงทันที
“เอาชาเขียวเย็น” เมนูนี้ชื่อแบบนี้ ปาร์คชานยอลชัวร์ๆ
“อี้ฟาน ได้ยินฉันมั้ย หยิบสายรุ้งให้ฉันแล้วก็ออกมาจากตู้ได้แล้ว” ผมได้สติตอนที่อี้ชิงเรียก ผมลุกขึ้นมาพร้อมๆกับการสบตาของผมกับปาร์ค ชานยอลที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มและอยู่ท่ามกลางเพื่อนของเขาที่เป็นเหมือนเพื่อนพระเอกในละครหลังข่าว เขาก็ช่างเลือกคบเพื่อนจริงๆ เพื่อนเขาเหมือนเป็นแบ็คกราวในทุกๆที่ที่เขาไป มันทำให้ปาร์ค ชานยอล เด่นอยู่ตลอดเวลา
“O_O” หน้าปาร์คชานยอลช็อคโลกมากแล้วหูก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงรวมถึงแก้มขาวๆของเขาด้วย เหมือนเพื่อนเขาจะสักเกตุเห็นเลยหันมามองทั้งผมทั้งชานยออลอยู่หลายครั้ง
“กู...กูไปหาที่นั่งตรงนู้นก่อนนะ” เขาหลบตาผมก็จะรีบวิ่งหายไปทิ้งเพื่อนอีกสิบกว่าคนของเขากับผมยืนงงเป็นไก่ตาแตก
“อะไรของมันวะ เขินอย่างกับเจอสาว” เพื่อนคนนึงของปาร์คชานยอลพูดขึ้น แล้วเพื่อนที่เหลือก็หัวเราะ
ผมกดออร์เดอร์ตามที่เด็กกลุ่มนี้สั่งแต่ผมก็ยังได้ยินเสียงซุบซิบที่เหมือนตั้งใจจะให้ผมได้ยินมากกว่า
“พี่เขาน่ารักมากเลยนะเว้ย แบบโคตรหล่อ หรือชานยอลจะเปลี่ยนรสนิยมจากสาวใสๆเป็นแบบนี้วะ”
“กูไม่รู้หว่ะแต่พอมันสบตาพี่เขามันก็เขินใหญ่เลย”
“แต่แปลกนะเว้ยที่วันนี้มันยอมมา ปกติร้านแบบนี้มันเคยย่างกรายเข้ามาเมื่อไหร่กัน”
“เรื่องนี้ต้องมีเสือกหว่ะ”
เอากันเข้าไป ผมยื่นเครื่องส่งสัญญาณไปให้เขา เด็กกลุ่มนั้นรับไปก่อนที่จะส่งยิ้มแบบแซวใส่ผมแล้วก็เดินหายไปทางที่ ปาร์ค ชานยอลวิ่งไป
ผมทำออร์เดอร์ไปพร้อมกับคิดเรื่องของปาร์คชานยอลไปด้วย เขาอาจจะเขินอายที่คิดว่าผมอาจจะรู้ว่าเขาเดินตามผมไปเมื่อเช้าหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็เข้าล็อคพอดีที่เขารู้ตัวว่ากระเป๋าตังค์หายและรู้ว่าผมเป็นคนเก็บได้ตอนที่เขาวิ่งหนีผม ก็เลยอายกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่คือเขาจะตามผมมาทำไม พอเจอหน้ากันก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรที่ต้องพูดกันนี่
ปวดหัว +_+
ผมจะเลิกคิดเรื่องนี้ไปซะ ถ้าเขายังไม่พูดอะไรผมก็ไม่มีอะไรที่จะไปตัดสินเขาได้ดังนั้นก็เลยตามเลย แล้วเดี๋ยวก็ฝากกระเป๋าตังค์คืนไปทางเพื่อนเขาเลยแล้วกันจะได้จบๆกันไป
ติ้ด
ผมกดส่งสัญญาณเมื่อจัดอาหารใส่ถาดเรียบร้อย เพื่อนของเขาสองสามคนเดินมายกถาดไป
“ขอโทษนะครับ” ผมเรียกคนสุดท้ายที่เดินมาเอาไว้แล้วยื่นกระเป๋าตังค์ของปาร์คชานยอลที่ผมพกติดตัวเอาไว้เพราะกลัวมันหาย คืนให้เขา
“พอดีผมเจอตก น่าจะเป็นของเพื่อนคุณ” เขาเปิดกระเป๋าตังค์ดูก่อนจะพยักหน้ารับ
“ขอบคุณแทนชานยอลมันด้วยครับ มันไม่ยักกะบอกว่าทำกระเป๋าตังค์หาย ขอบคุณที่เอามาคืนให้นะครับ” แบ็คกราวน์บอยยิ้มให้ผมก่อนจะเดินจากไป
ลื ม ไ ป ซ ะ ก็ แ ล้ ว กั น
9.00 pm
หลังจากที่ผมคืนกระเป๋าตังค์ของปาร์คชานยอลผ่านทางแบ็คกราวน์บอยเพื่อนของเขาไป ผมก็หัวหมุนกับออร์เดอร์จนไม่ได้สนใจว่าเขากับเพื่อนกลับออกไปจากร้านแล้วจนถึงเวลาเลิกกะถึงสังเกตุเห็น
“เหนื่อยหน่อยนะครับ” ผมทักทายลู่หานฮยอง มินซอกฮยอก และซูโฮฮยอง โบกมือบ๊ายบายเซฮุนแล้วก็ออกจากร้านมา ผมมีเวลาพักก่อนถึงกะของตัวเองห้าชั่วโมง ผมชะงักลงไม่ใช่เพราะความหนาวเย็นที่ปะทะหน้าแต่เป็นเพราะร่างสูงโปร่งของปาร์คชานยอลในชุดนักเรียนยืนพิงกำแพงข้างๆประตูหลังร้าน
“เอ่อ...” ปาร์คชานยอลเหมือนทำท่าจะพูดอะไรซักอย่างแต่เขาก็ไม่พูดซักที ผมคิดว่าเขาอาจจะไม่ได้มีธุระกับผมก็ได้ประกอบกับอากาศหนาวมากผมก็เลยหันหลังเดินออกจากซอยไป แต่ฝีเท้าที่เดินตามมาเรื่อยๆทำให้ผมงงมาจากใจจริงเลย ผมหันกลับไปก็เจอปาร์คชานยอลเดินตามมาครั้งนี้เขาไม่ได้หลบผมเหมือนครั้งที่แล้ว ปลายจมูกแล้วแก้มของเขาเป็นสีแดงเรื่อเพราะอยู่ในอากาศหนาวเย็นเป็นเวลานาน พร้อมๆกับเสียงจามที่ดังเป็นระลอก
ถ้าเดินตามไปแบบนี้เขาต้องเป็นหวัดแน่
ผมเบี่ยงฝีเท้าเข้าไปที่มาร์เก็ตเลือกซื้อนมอุ่นรสชาเขียวของโปรดของผมมาสองกระป๋องและแน่นอนปาร์คชานยอลก็เดินมาเข้ามาเหมือนเดิม ผมคิดเงินแล้วเดินต่อไปที่สวนสาธารณะใกล้ๆ เลือกนั่งเก้าอี้ไม้ข้างต้นเมเปิ้ล ปาร์คชานยอลเลือกนั่งเก้าอี้ตัวข้างๆผมที่ห่างกันแค่เมตรเดียว ก่อนจะนั่งเขาเหมือนลังเลใจว่าจะนั่งลงดีมั้ยแต่สุดท้ายก็ทิ้งก้นลงบนเก้าอี้ ทุกอย่างเงียบลง ได้ยินแค่เสียงหายใจกับเสียงใบไม้ร่วงลงมา
ซวบซาบ!
เสียงถุงพลาสติกที่ใส่ของจากร้านสะดวกซื้อดังขึ้นเพราะผมหยิบกระป๋องนมออกมาแล้วยื่นให้คนข้างๆ เหมือนเขาจะช็อคจนไม่ขยับตัวดวงตาคู่ใสแจ๋วที่เบิกโตสบตากับผมแสดงความช็อคแปดจุดแปดริกเตอร์
“รับไปสิ่” แขนยาวๆส่งมือมารับกระป๋องนมจากผมไป ผมหันมาเปิดกระป๋องนมของตัวเองแล้วดื่มอึกใหญ่หลายๆอึกจนมันหมด ผมหันไปมองคนข้างๆยังไม่ได้เปิดกระป๋องแถมยังเอาแต่ก้มมองกระป๋องนมอยู่อย่างนั้น
ผมคิดว่าผมได้เปิดโอกาสให้เขาพูดเรื่องที่เดินตามผมมานานสองนานแล้วนะ แต่เขาไม่คิดจะพูดอะไรเลยหรือไง
“เห้ออออ” ผมถอนหายใจเบาๆกับความเงียบ เขาไม่คิดจะพูดอะไรผมก็เลยไม่รู้จะต้องทำยังไง ถ้ามานั่งกันแบบนี้ก็คงไม่ได้ไปไหนกันพอดี ผมอยากกินไส้หมูย่างจะแย่ ถ้าไม่รีบไปจะไม่ทันเวลาก่อนจะเข้ากะน่ะสิ่
ผมลุกขึ้นยืนแล้วก้าวขาออกไปเพื่อไปยังร้านไส้หมูย่างที่เปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงร้านโปรดของผม ในเมื่อเขาไม่อยากพูดอะไรผมก็ไม่ต้องการฟังอะไร พอผมเดินพ้นตรงไปเรื่องของเขาก็เป็นแค่เรื่องที่เคยเกิดขึ้น
หมับ!
“ผม...ผมขอโทษที่เดินตามคุณไปเมื่อเช้า แต่ผมไม่ได้มีเจตนาร้ายกับคุณนะ ผมแค่เจอคุณพอดีเลยอยากรู้ว่าคุณจะไปไหนต่อ ผมขอโทษที่ทำให้คุณวุ่นวาย ผมไม่ได้ตั้งใจ” ปาร์คชานยอลพูดด้วยใบหน้าแสดงความกังวลใจ มือที่กำรอบข้อมือผมบีบแน่น
“ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร ผมแค่อยากรู้จักคุณมากกว่านี้ ผมไม่ได้อยากทำให้คุณวุ่นวาย” ถ้าดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ ดวงตาของเขาทำให้ผมสงสัย
“ผมไม่ได้ตั้งใจ อู๋อี้ฟาน ผมขอโทษ”
_______________________________________________
#มุมของเรา
พระเอกของเราทำไมมุ้งมิ้งจัง 5555
ตอนนี้ฟิคตีสองก็เดินทางมาถึงตอนที่สามแล้วนะคะ
ขอบคุณสำหรับการเข้ามาชม การเมนต์ แล้วก็กดเป็นแฟนคลับ
คนเขียนจะพยายามต่อไปนะคะ
พูดคุยกันได้ในทวิต ติดแท็ก #ฟิคตีสอง หรือเมนต์ในแต่ละตอนค่ะ
ทื้งไว้ที่ 70%นะคะ เดี๋ยวกลับมาต่อ
กลับมาต่อ 100%แล้วนะคะ
มาดูกันว่านี่ใช่คำสารภาพรักของปาร์คชานยอลหรือเปล่า
!ตกใจ!
ความคิดเห็น