ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { chanyeol x yifan } | 2am |

    ลำดับตอนที่ #3 : ชานฟานทูเอเอ็ม - my heart's made up on you

    • อัปเดตล่าสุด 29 ธ.ค. 57


    SQWEEZ

    ฟิคตีสอง - เย็นวันที่ ห นึ่ ง
     


    My mind says, no you're not good for me
    You're not good but my heart's made up on you
    My body can't take
    What you give to me, what you give
    Got my heart made up on you

    My mind says, no you're not good for me You're not good
    but my heart's made up on you
    My body can't take What you give to me,
    what you give Got my heart made up on you

    -R5 heart made up on you-

     

    My mind says, no you're not good for me
    You're not good but my heart's made up on you
    My body can't take
    What you give to me, what you give
    Got my heart made up on yo



    3.00 pm

     

    ปาร์ค ชานยอล
     

                    ผมคิดถึงเจ้าของชื่อมาตั้งแต่เมื่อเช้าหลังจากที่ผมเก็บกระเป๋าตังค์ได้ เขาอาจจะไม่ได้ตามผมมาก็ได้อาจจะแค่โชคร้ายที่ทำกระเป๋าตังค์ตกไว้ก่อนหน้านี้ แต่ผมคิดว่าตอนเดินผมมองทางดีนะ อย่างน้อยก็ต้องมองเห็นบ้าง ถ้าคิดว่าเป็นเขาที่ตามผมมาก็ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไร

     

    เห้อออออ

     

                    ผมถอนหายใจยาวๆพร้อมกับหยิบจานและแก้วน้ำไปที่อ่างล้างจาน ใกล้เวลาเข้ากะแทนจงอินแล้ว ผมต้องแวะไปเอายูนิฟอร์มที่เอาไปซักเมื่อเช้าที่ร้านซักอบรีดด้วย

     

    ปัง!

     

                    ผมปิดประตูห้องพักเดินออกมาจากคอนโด สอดมือเข้าไปที่กระเป๋าเสื้อโค๊ตเมื่อมือปะทะกับความหนาวเย็น ยิ่งเวลาเย็นก็ยิ่งหนาว ยิ่งกะประจำของผมนี่แทบจะแบกผ้าห่มออกมาจากห้องด้วยเลย นั่งรอรถเมล์ถึงกับขาแข็ง

     

    ตึ้ง

     

    Oohsehun

    ฮยอง ไปถึงร้านรึยังครับ?

    Kriswu

    ยังเลย กำลังนั่งรถเมล์อยู่มีอะไรหรอ

    Oohsehun

    พอดีผู้จัดการเขาจะฝากซื้อของตกแต่งร้านเพิ่มอ่ะ ฮยองช่วยแวะให้หน่อยได้มั้ย ผู้จัดการเขาโทรมาบกผมตอนผมถึงหน้าร้านแล้วอ่ะ เขาบอกให้พี่เข้าสายได้

    Kriswu

    ได้ เอาออร์เดอร์มา

     

                    ผมรับออร์เดอร์มาจากเซฮุนแล้วก็เปลี่ยนเส้นทางไปลงที่มาร์เก็ตแทน เลือกซื้อไม่นานผมก็ได้ของครบตามออร์เดอร์แวะไปเอายูนิฟอร์มที่ร้านซัก อบ รีด แล้วก็นั่งรถเมล์ต่อไปทางร้าน

     

    4.00 pm

     

                    ผมเดินผ่านหน้าร้านเพื่อเข้าไปทางประตูด้านหลัง คนดูเยอะมากผมเพิ่งเคยเจอลูกค้าเยอะขนาดนี้เพราะถึงแม้ว่าผมจะมีลูกค้ามากในกะของตัวเองแต่มันเทียบไม่ได้เลยกับกะนี้ ไม่รู้ว่าจงอินกับดีโอน้องมันเอาอยู่กันได้ยังไง แค่เห็นจากนอกร้านผมยังเหนื่อยแทน

     

    “หวัดดีครับ ผู้จักการ” ผู้จัดการเป็นผู้ชายตัวสูงหุ่นดีแต่มีอายุมากใกล้เกษียรแล้วแต่เขายังดูแข็งแรงเพราะดูแลสุขภาพตลอดเวลา เขามีภรรยากับลูกสาวที่เป็นพยาบาล ลูกกับภรรยาเลยเอาใจใส่เขาเป็นพิเศษเรื่องสุขภาพ

     

    “เอ้อ ซื้อของที่ผมสั่งมาหรือป่าว” ผมยื่นถุงไปให้เขาตรวจดูว่าผมซื้อมาครบหรือเปล่า

     

    “เดี๋ยวผมจะโอนเงินเข้าบัญชีให้คุณนะรวมค่ารถให้ด้วย” ผมพยักหน้ารับคำ

     

    “ผมให้เลย์เข้ามาเพิ่มที่กะนี้สำหรบวันนี้เป็นพิเศษเพื่อช่วยคุณแต่งร้านนะ มันจะดีมากถ้าคุณทำเสร็จได้ทัน”

     

    “ครับ” ผมหิ้วถุงอุปกรณ์ออกมาจากห้องพักพนักงานเอาไปใส่ไว้ที่ใต้เค้าท์เตอร์ ผมเจอโอเซฮุนกับอี้ชิงยืนคุยกันอยู่

     

    “มาแล้วหรอ” ผมกับอี้ชิงเราสนิทกันมากพอสมควรเลยเพราะเขาเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับผมยิ่งเป็นคนจีนด้วยกันเลยยิ่งทำให้เราผูกพันกันเพราะเวลาพูดภาษาจีนด้วยกันมันจะทำให้เราคิดถึงบ้านและครอบครัวน้อยลง เหมือนเราเป็นครอบครัวเดียวกัน

     

    “อ่า อี้ชิงวันนี้ไปที่มาร์เก็ตมา พุดดิ้งชาเขียวที่นายชอบมันลดครึ่ราคาด้วยนะแต่ฉันเห็นตอนคิดเงินเสร็จเลยไม่ได้ซื้อมาให้” อี้ชิงตาเป็นประกายขึ้นมาทันทีเมื่อพูดถึงขนมของโปรดของเขา

     

    “ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวฉันไปซื้อเองตอนออกกะก็ได้”

     

    “เอางั้นก็ได้ ถ้า...” ผมหยุดชะงักกลางคันเมื่อเสียงของโอเซฮุนดังแทรกขึ้นมากลางประโยค

     

    “ฮยองสองคนจะช่วยพูดให้ผมเข้าใจด้วยได้ป้ะ ละเกลียดจริงๆเลยไอ้ที่พูดจีนกันแล้วเหลือบมองผมเนี่ย มันหมายความว่าไงฮะ” ผมกับอี้ชิงหัวเราะออกมาพร้อมกันเพราะหน้าตาสุดเหวี่ยงของโอเซฮุน

     

    “พวกฉันไม่ได้พูดถึงนายหรอกน่า ป้ะๆทำงานกันได้แล้วลูกค้าเดินเข้าร้านมาละเนี่ย” อี้ชิงดันผมให้ไปหยิบของตกแต่งที่ผมเพิ่งเอาเข้าไปไว้ที่ใต้เค้าท์เตอร์

     

    “ชานยอลเอาไรวะ” เสียงกลุ่มเด็กผู้ชายดังโหวกเหวกโวยวายแต่ชื่อของคนในกลุ่มนั้นทำให้ผมชะงักลงทันที

     

    “เอาชาเขียวเย็น” เมนูนี้ชื่อแบบนี้ ปาร์คชานยอลชัวร์ๆ

     

    “อี้ฟาน ได้ยินฉันมั้ย หยิบสายรุ้งให้ฉันแล้วก็ออกมาจากตู้ได้แล้ว” ผมได้สติตอนที่อี้ชิงเรียก ผมลุกขึ้นมาพร้อมๆกับการสบตาของผมกับปาร์ค ชานยอลที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มและอยู่ท่ามกลางเพื่อนของเขาที่เป็นเหมือนเพื่อนพระเอกในละครหลังข่าว เขาก็ช่างเลือกคบเพื่อนจริงๆ เพื่อนเขาเหมือนเป็นแบ็คกราวในทุกๆที่ที่เขาไป มันทำให้ปาร์ค ชานยอล เด่นอยู่ตลอดเวลา
     

    O_O” หน้าปาร์คชานยอลช็อคโลกมากแล้วหูก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงรวมถึงแก้มขาวๆของเขาด้วย เหมือนเพื่อนเขาจะสักเกตุเห็นเลยหันมามองทั้งผมทั้งชานยออลอยู่หลายครั้ง

     

    “กู...กูไปหาที่นั่งตรงนู้นก่อนนะ” เขาหลบตาผมก็จะรีบวิ่งหายไปทิ้งเพื่อนอีกสิบกว่าคนของเขากับผมยืนงงเป็นไก่ตาแตก

     

    “อะไรของมันวะ เขินอย่างกับเจอสาว” เพื่อนคนนึงของปาร์คชานยอลพูดขึ้น แล้วเพื่อนที่เหลือก็หัวเราะ

     

                    ผมกดออร์เดอร์ตามที่เด็กกลุ่มนี้สั่งแต่ผมก็ยังได้ยินเสียงซุบซิบที่เหมือนตั้งใจจะให้ผมได้ยินมากกว่า

     

    “พี่เขาน่ารักมากเลยนะเว้ย แบบโคตรหล่อ หรือชานยอลจะเปลี่ยนรสนิยมจากสาวใสๆเป็นแบบนี้วะ”

     

    “กูไม่รู้หว่ะแต่พอมันสบตาพี่เขามันก็เขินใหญ่เลย”

     

    “แต่แปลกนะเว้ยที่วันนี้มันยอมมา ปกติร้านแบบนี้มันเคยย่างกรายเข้ามาเมื่อไหร่กัน”

     

    “เรื่องนี้ต้องมีเสือกหว่ะ”

     

                    เอากันเข้าไป ผมยื่นเครื่องส่งสัญญาณไปให้เขา เด็กกลุ่มนั้นรับไปก่อนที่จะส่งยิ้มแบบแซวใส่ผมแล้วก็เดินหายไปทางที่ ปาร์ค ชานยอลวิ่งไป

     

                    ผมทำออร์เดอร์ไปพร้อมกับคิดเรื่องของปาร์คชานยอลไปด้วย เขาอาจจะเขินอายที่คิดว่าผมอาจจะรู้ว่าเขาเดินตามผมไปเมื่อเช้าหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็เข้าล็อคพอดีที่เขารู้ตัวว่ากระเป๋าตังค์หายและรู้ว่าผมเป็นคนเก็บได้ตอนที่เขาวิ่งหนีผม ก็เลยอายกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่คือเขาจะตามผมมาทำไม พอเจอหน้ากันก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรที่ต้องพูดกันนี่

     

    ปวดหัว +_+

     

                ผมจะเลิกคิดเรื่องนี้ไปซะ ถ้าเขายังไม่พูดอะไรผมก็ไม่มีอะไรที่จะไปตัดสินเขาได้ดังนั้นก็เลยตามเลย แล้วเดี๋ยวก็ฝากกระเป๋าตังค์คืนไปทางเพื่อนเขาเลยแล้วกันจะได้จบๆกันไป

    ติ้ด

                    ผมกดส่งสัญญาณเมื่อจัดอาหารใส่ถาดเรียบร้อย เพื่อนของเขาสองสามคนเดินมายกถาดไป

     

    “ขอโทษนะครับ” ผมเรียกคนสุดท้ายที่เดินมาเอาไว้แล้วยื่นกระเป๋าตังค์ของปาร์คชานยอลที่ผมพกติดตัวเอาไว้เพราะกลัวมันหาย คืนให้เขา

     

    “พอดีผมเจอตก น่าจะเป็นของเพื่อนคุณ” เขาเปิดกระเป๋าตังค์ดูก่อนจะพยักหน้ารับ

     

    “ขอบคุณแทนชานยอลมันด้วยครับ มันไม่ยักกะบอกว่าทำกระเป๋าตังค์หาย ขอบคุณที่เอามาคืนให้นะครับ” แบ็คกราวน์บอยยิ้มให้ผมก่อนจะเดินจากไป

     

    ลื ม ไ ป ซ ะ ก็ แ ล้ ว กั น

     

    9.00 pm

     

                    หลังจากที่ผมคืนกระเป๋าตังค์ของปาร์คชานยอลผ่านทางแบ็คกราวน์บอยเพื่อนของเขาไป ผมก็หัวหมุนกับออร์เดอร์จนไม่ได้สนใจว่าเขากับเพื่อนกลับออกไปจากร้านแล้วจนถึงเวลาเลิกกะถึงสังเกตุเห็น

     

    “เหนื่อยหน่อยนะครับ” ผมทักทายลู่หานฮยอง มินซอกฮยอก และซูโฮฮยอง โบกมือบ๊ายบายเซฮุนแล้วก็ออกจากร้านมา ผมมีเวลาพักก่อนถึงกะของตัวเองห้าชั่วโมง ผมชะงักลงไม่ใช่เพราะความหนาวเย็นที่ปะทะหน้าแต่เป็นเพราะร่างสูงโปร่งของปาร์คชานยอลในชุดนักเรียนยืนพิงกำแพงข้างๆประตูหลังร้าน

     

    “เอ่อ...” ปาร์คชานยอลเหมือนทำท่าจะพูดอะไรซักอย่างแต่เขาก็ไม่พูดซักที ผมคิดว่าเขาอาจจะไม่ได้มีธุระกับผมก็ได้ประกอบกับอากาศหนาวมากผมก็เลยหันหลังเดินออกจากซอยไป แต่ฝีเท้าที่เดินตามมาเรื่อยๆทำให้ผมงงมาจากใจจริงเลย ผมหันกลับไปก็เจอปาร์คชานยอลเดินตามมาครั้งนี้เขาไม่ได้หลบผมเหมือนครั้งที่แล้ว ปลายจมูกแล้วแก้มของเขาเป็นสีแดงเรื่อเพราะอยู่ในอากาศหนาวเย็นเป็นเวลานาน พร้อมๆกับเสียงจามที่ดังเป็นระลอก

     

    ถ้าเดินตามไปแบบนี้เขาต้องเป็นหวัดแน่

     

                ผมเบี่ยงฝีเท้าเข้าไปที่มาร์เก็ตเลือกซื้อนมอุ่นรสชาเขียวของโปรดของผมมาสองกระป๋องและแน่นอนปาร์คชานยอลก็เดินมาเข้ามาเหมือนเดิม ผมคิดเงินแล้วเดินต่อไปที่สวนสาธารณะใกล้ๆ เลือกนั่งเก้าอี้ไม้ข้างต้นเมเปิ้ล ปาร์คชานยอลเลือกนั่งเก้าอี้ตัวข้างๆผมที่ห่างกันแค่เมตรเดียว ก่อนจะนั่งเขาเหมือนลังเลใจว่าจะนั่งลงดีมั้ยแต่สุดท้ายก็ทิ้งก้นลงบนเก้าอี้ ทุกอย่างเงียบลง ได้ยินแค่เสียงหายใจกับเสียงใบไม้ร่วงลงมา

     

    ซวบซาบ!

     

                    เสียงถุงพลาสติกที่ใส่ของจากร้านสะดวกซื้อดังขึ้นเพราะผมหยิบกระป๋องนมออกมาแล้วยื่นให้คนข้างๆ เหมือนเขาจะช็อคจนไม่ขยับตัวดวงตาคู่ใสแจ๋วที่เบิกโตสบตากับผมแสดงความช็อคแปดจุดแปดริกเตอร์

     

    “รับไปสิ่” แขนยาวๆส่งมือมารับกระป๋องนมจากผมไป ผมหันมาเปิดกระป๋องนมของตัวเองแล้วดื่มอึกใหญ่หลายๆอึกจนมันหมด ผมหันไปมองคนข้างๆยังไม่ได้เปิดกระป๋องแถมยังเอาแต่ก้มมองกระป๋องนมอยู่อย่างนั้น
     

                    ผมคิดว่าผมได้เปิดโอกาสให้เขาพูดเรื่องที่เดินตามผมมานานสองนานแล้วนะ แต่เขาไม่คิดจะพูดอะไรเลยหรือไง

     

    “เห้ออออ” ผมถอนหายใจเบาๆกับความเงียบ เขาไม่คิดจะพูดอะไรผมก็เลยไม่รู้จะต้องทำยังไง ถ้ามานั่งกันแบบนี้ก็คงไม่ได้ไปไหนกันพอดี ผมอยากกินไส้หมูย่างจะแย่ ถ้าไม่รีบไปจะไม่ทันเวลาก่อนจะเข้ากะน่ะสิ่

     

                    ผมลุกขึ้นยืนแล้วก้าวขาออกไปเพื่อไปยังร้านไส้หมูย่างที่เปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงร้านโปรดของผม ในเมื่อเขาไม่อยากพูดอะไรผมก็ไม่ต้องการฟังอะไร พอผมเดินพ้นตรงไปเรื่องของเขาก็เป็นแค่เรื่องที่เคยเกิดขึ้น

     

    หมับ!

     

    “ผม...ผมขอโทษที่เดินตามคุณไปเมื่อเช้า แต่ผมไม่ได้มีเจตนาร้ายกับคุณนะ ผมแค่เจอคุณพอดีเลยอยากรู้ว่าคุณจะไปไหนต่อ ผมขอโทษที่ทำให้คุณวุ่นวาย ผมไม่ได้ตั้งใจ” ปาร์คชานยอลพูดด้วยใบหน้าแสดงความกังวลใจ มือที่กำรอบข้อมือผมบีบแน่น

     

    “ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร ผมแค่อยากรู้จักคุณมากกว่านี้ ผมไม่ได้อยากทำให้คุณวุ่นวาย” ถ้าดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ ดวงตาของเขาทำให้ผมสงสัย

     

    “ผมไม่ได้ตั้งใจ อู๋อี้ฟาน ผมขอโทษ”

     

    นี่ คื อ ก า ร ส า ร ภ า พ รั ก ห รื อ เ ป ล่ า น ะ





    _______________________________________________

    #มุมของเรา
    พระเอกของเราทำไมมุ้งมิ้งจัง 5555
    ตอนนี้ฟิคตีสองก็เดินทางมาถึงตอนที่สามแล้วนะคะ
    ขอบคุณสำหรับการเข้ามาชม การเมนต์ แล้วก็กดเป็นแฟนคลับ
    คนเขียนจะพยายามต่อไปนะคะ
    พูดคุยกันได้ในทวิต ติดแท็ก #ฟิคตีสอง หรือเมนต์ในแต่ละตอนค่ะ

    ทื้งไว้ที่ 70%นะคะ เดี๋ยวกลับมาต่อ

    กลับมาต่อ 100%แล้วนะคะ
    มาดูกันว่านี่ใช่คำสารภาพรักของปาร์คชานยอลหรือเปล่า


    !ตกใจ!


     
    -3-
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×