ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { chanyeol x yifan } | 2am |

    ลำดับตอนที่ #2 : ชานฟานทูเอเอ็ม - you're just like christmas day

    • อัปเดตล่าสุด 29 ธ.ค. 57


    @SQWEEZ

    ฟิคตีสอง - สายวันที่ ห นึ่ ง

     

     

    เธอเป็นเหมือนวันคริสต์มาสที่ฉันรอคอยมาตลอด

    เธอเป็นเหมือนกับวันคริสต์มาส เมื่อฉันนึกถึงเธอ

    ฉันตื่นเต้นเหมือนเด็กๆเมื่อถึงวันนั้น
    You’re just like Christmas day

    -christmas day exo-
     

    6.30 am
     

    ยัวร์สเปซยินดีต้อนรับครับผมกล่าวทักทายลูกค้ามาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้วประมาณหนึ่งพันหนึ่งร้อยสิบเอ็ดครั้ง เว่อร์ -.- และคนที่เข้ามาตั้งแต่ตีสองอย่าง ปาร์ค ชานยอลก็ยังนอนหลับเป็นตายอยู่บนสโลปไม่ว่าเสียงดังแค่ไหนก็ไม่สามารถปลุกเขาได้ อีกทั้งด้วยแรงแห่งหมอนอิงที่ประดับโซฟาก็กลายเป็นเพื่อนร่วมสาบานของเขาไปแล้ว

     

    ไม่ไปโรงเรียนหรือไงกัน -.-

     

                    เวลานี้เป็นเวลาที่ลูกค้าจะเยอะเป็นพิเศษเพราะวันนี้ไม่ใช่วันหยุด ลูกค้าที่เป็นพนักงานบริษัทกับเด็กมัธยมปลายก็เดินเข้าออกร้านกันให้ควั่ก ออร์เดอร์กาแฟ นมสด ขนมปัง มากซะจนผมทำแทบไม่ทัน ปกติก็เหนื่อยอยู่แล้วขนาดเข้ากะกันสามคนแต่ตอนนี้เหลือผมแค่คนเดียว เท่ากับผมต้องทำงานยกกำลังสาม

     

    ฮยองงงงงงผมหันไปตามเสียงเรียกที่คุ้นหูว่าจะได้ยินในกะเดียวกันบ่อยมากๆ เสียงแหลมๆเหมือนคุณปู่

     

    “ขอบคุณพระเจ้า โอเซฮุน นายมาทันเวลาช่วยชีวิตฉันจริงๆ” ผมพูดกับเซฮุนพร้อมๆกับชงกาแฟมือเป็นระวิง

     

    “ก็งี้แหละ ผมมันเป็นคนที่พระเจ้าส่งมาเกิด โอโฮรัช” โอเซฮุนแสยะยิ้มที่เรียกเสียงกรี๊ดเบาๆจากรอบข้าง ก็แฟนคลับเด็กนี่นี่แหละ เด็กมัธยมปลายทั้งนั้น มาหลงชอบเซฮุนกันเป็นโหล แต่ก็ดีนะ ผู้จัดการชอบใจใหญ่เลยบอกว่าลูกค้าเยอะก็ดีต่อยอดของร้านเราเหมือนกัน ดังนั้นเซฮุนก็เลยกลายเป็นลูกรักของผู้จัดการไปอย่างช่วยไม่ได้

     

    “เอาเถอะ เฮียไม่มีเวลามาเถียงด้วยหรอก จัดขนมปังใส่จานตามออร์เดอร์ได้แล้ว” ผมชี้ไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ขึ้นรายการอาหารและบอกเลขเครื่องส่งสัญญาณ

     

    “ครับๆ” เซฮุนรับคำแล้วต่างคนก็ต่างทำงานของตัวเอง ผมชงกาแฟเสร็จก็กดส่งสัญญาณไปที่เครื่องรับของลูกค้าเพื่อที่เขาจะได้เดินมาเอาที่เค้าท์เตอร์ ความจริงตามร้านทั่วไปคือพนักงานต้องเอาไปเสิร์ฟแต่สเปซเป็นที่นั่งแบบอิสระพนักงานไม่สามารถจำได้ว่าลูกค้านั่งตรงไหน หรือลูกค้าคนไหนเป็นคนสั่งอาหาร

     

    “เห้” ผมหันไปตามเสียงเรียกก็เจอ ปาร์ค ชานยอล ลูกค้าผู้ทรงเกียรติของผมกำลังยืนปิดปากหาว หน้าตาเหมือนยังไม่ตื่นดี ผมที่เคยเซ็ทตั้งก็ดูยุ่งเหยิงแต่ออร่าความเป็นเน็ตไอดอล(ในความคิดผม)ก็ยังคงส่องแสงไม่มีหมองลง

     

    “ครับ” ผมรับคำ

     

    “นมสด กับเซนวิสใส่หมูหยองแฮมชีส” ผมหันไปเทนมสดร้อนกับหยิบแซนวิชออกมาจากตู้แล้วส่งให้ปาร์ค ชานยอลที่ยืนหลับตาโงนเงนอยู่หน้าเค้าท์เตอร์

     

    “เท่าไหร่อ่ะ” เขาซดนมอึกใหญ่ไปแล้วถึงเปิดปากถามผม

     

    “ไม่คิดเงิน” ปาร์คชานยอลหยุดซดนมในแก้วทันที

     

    “ทำไม?” พอหยุดซดนมก็หันไปยัดแซนวิชคำใหญ่เข้าปากแทน ดูท่าเขาหิวมากจริงๆ

     

    “ขอบคุณที่ช่วยต่อต้นคริสมาสต์ก่อนหน้านี้” ปาร์ค ชานยอล พยักหน้าอย่างเข้าใจ แววตาใสไม่มีแววขุ่นเหมือนสองสามชั่วโมงก่อนหน้านี้ สงสัยเขาคงอารมณ์ดีขึ้นแล้วหล่ะมั้ง

     

    “ความจริงไม่ต้องก็ได้นะ ผมก็ไม่ได้ลำบากอะไร” เขาสบตาผมด้วยแววตาขัดเขินเล็กน้อย เพราะเขาพูดว่า’ผมกับผมเป็นครั้งแรก ตลกดี ทำไมเขาต้องเขินด้วยนะ ดูเด็กน้อยจริงๆ

     

    “รับไปเหอะ” ผมยิ้มให้เขาเหมือนทุกครั้ง เวลาเขาอารมณ์ดี ความหล่อก็ส่องประกายกว่าตอนโดนความอารมณ์เสียครอบงำเยอะเลย

     

    “เอ่อ...ผมขอโทษนะเรื่องก่อนหน้านี้ที่หาเรื่องคุณ” เขาทำหน้าลำบากใจแต่แววตาแสดงความรู้สึกผิดจริงๆ ความจริงผมไม่ค่อยติดใจเท่าไหร่ไม่ได้โกรธด้วยซ้ำ ลูกค้าที่ขี้เหวี่ยงขี้วีนกว่านี้ก็มีเยอะที่ผมเคยโดนมากแค่นี้ถือว่าจิ๊บๆ

     

    “ขอบคุณ”

     

    “ผมก็ต้องขอบคุณเหมือนกัน”

    .

    8.00 am

     

                    ปาร์ค ชานยอลเพิ่งเดินออกจากร้านไป ผมค้นพบว่าครอบครัวเขาต้องร่ำรวยแน่ๆเพราะเห็นมีเบนซ์คันใหญ่แล่นเข้ามาจอดรอรับที่หน้าร้าน

     

    “ฮยอง ผู้ชายที่เดินออกไปเมื่อกี้อ่ะ ฮยองรู้ป้ะว่าเป็นใคร แค่เดินขึ้นรถเบนซ์ไป เลตติ้งผมก็ตกทันทีเลย” เซฮุนทำหน้ายุ่งเหยิงที่โดนแย่งแฟนคลับไป

     

    “หมายถึง ปาร์คชานยอลหรอ” มันก็จริง ปาร์คชานยอล หล่ออย่างกับเน็ตไอดอล โอเซฮุนมันจะโดนแย่งแฟนคลับไปก็ไม่แปลก จนถึงเวลาแปดโมง ผมก็ยังคงต้องชงกาแฟอยู่เหมือนเดิม ถึงแม้นักเรียนมัธยมปลายจะเหลือแค่ประปลายแต่พนักงานบริษัทก็ยังคงเยอะอยู่ เพราะเขาจะเริ่มทำงานกันก็คงประมาณเก้าโมงตรง

     

    “นายปาร์ค ชานยอลนี่เอง หึจะจำชื่อนี้ไว้ให้แม่นเลย เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับโอเซฮุน” แสยะยิ้มร้ายกาจเหมือนที่เคยทำ ผมว่ามันดูน่าตลกมากกว่าน่ากลัว ผมรู้สึกต้องกลั้นยิ้มกลั้นหัวเราะทุกครั้งที่โอเซฮุนแสยะยิ้มที่แสนกวนโอ๊ย

     

    “ว่าแต่ฮยองรู้จักชื่อเขาได้ไงอ่ะ แต่เดี๋ยวๆๆ ฮยองกางต้นคริสมาสต์นั้นเสร็จได้ไงอ่ะคนเดียว ถึกไปป้ะ”

     

    “นั่นเป็นสาเหตุที่เฮียรู้จักชื่อเขาไง” ผมตอบเซฮุนพร้อมกับเปิดลิ้นชักหยิบผ้าผืนใหม่ขึ้นมาเช็ดเค้าท์เตร์

     

    “หา? เดี๋ยวๆ ผมงงอ่ะฮยอง”

     

    “ก็เขาเป็นคนมาช่วยกางไง ตอนนั้นไม่มีลูกค้าเลยแล้วจื่อเทาก็ป่วย เฮียต้องเข้ากะคนเดียวจนนายมาเนี่ยแหละ”

     

    “เย่เฮท ต้องขอบคุณเขาหรือเปล่าเนี่ย ผมไม่ต้องเสียเหงื่อเลยแฮะ ฮ่าๆ ” หน้าตาดีใจออกหน้าออกตาเกินไปจนหน้าหมั่นไส้

     

    “นายต้องขอบคุณเฮียมากกว่า แล้วอีกอย่างนะ เรายังไม่ได้ตกแต่งเค้าท์เตอร์  โต๊ะ หน้าร้านอีก” โอเซฮุนแทบจะเบะปากเป็นรูปทีน

     

    “ฮ่าาาา น่าเบื่อชะมัด” ว่าแล้วเซฮุนก็บิดตูดหยิบอุปกรณ์และเครื่องประดับที่เอาไว้ตกแต่งหน้าร้านไว้ในอ้อมแขนแล้วก็เดินไปปะทะกับลมหนาวหน้าร้าน
    .

     

    9.00 am

     

    “เหนื่อยหน่อยครับวันนี้” เสียงอี้ชิงดังมาเหมือนทุกวันเพื่อเป็นการขอบคุณเพื่อนพนักงานด้วยกันที่ทำงานกะก่อนหน้า ซึ่งหมายถึงการหมดเวลาแห่งการเหน็ดเหนื่อยและเข้าสู่เวลาพักผ่อน

     

    “เหนื่อยหน่อยนะครับ” คิมจงแดและบยอนแบคฮยอนก็ตามมา ผมยกมือทักทายตามปกติ

     

    ตึ้ง

     

    Kimkai

    เฮียอู๋ครับ วันนี้เฮียว่างหรือเปล่าครับเวลาของกะผมอ่ะครับ 16:00-21:00

     

                    คิมจงอิน หรือไค อายุสิบเจ็ดปี เป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบแล้วก็เอาการเอางานดี ก็ดีกว่าเซฮุนเป็นไหนๆ ขยันและทำงานอย่างรอบคอบแทบไม่มีความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากเด็กคนนี้เลยรวมถึงเพื่อนสนิทของไค ดีโอก็เหมือนกัน คู่นี้เข้ากะเดียวกันทำงานดีเหมือนกันผู้จัดการเลยวางใจให้ทำงานกะเย็นที่คนเยอะเพราะสองคนนี้ยังเรียนมอปลายอยู่เวลาเดียวที่ทำงานได้คือเวลานี้

     

    Kriswu
     

    ว่างๆจะให้เข้าแทนหรอ

    Kimkai

    ครับ พอดีผมกับดีโอมีงานที่โรงเรียนต่อนิดหน่อย ถ้ายังไงพอผมได้เงินมาผมจะแบ่งส่วนที่เฮียเข้าแทนผมให้นะครับ
     

    Kriswu

    ได้ๆยังไงเฮียก็ว่างพอดี ช่วงนี้มหาวิยาลัยปิดเทอมแล้ว

    Kimkai

    ขอบคุณครับเฮีย ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไปขอเฮียชวนเซฮุนฮยองหรือเฮียจื่อเทามาเข้ากะแทนดีโอด้วยได้มั้ยครับ

    Kriswu

    ไม่น่าจะมีปัญหานะ

    Kimkai

    ขอบคุณครับเฮีย

    Kriswu

    ไม่เป็นไร

     

    “เซฮุน ว่างเข้ากะดีโอมั้ย” ผมเรียกเซฮุนที่เดินเข้ามาในร้านด้วยไหล่ที่ห่อเข้าเพราะอากาศข้างนอกหนาวมาก หน้าหนาวแล้วอากาศก็อุณภูมิลดลง

     

    “ว่าง แต่ฮยองเข้าด้วยหรือเปล่าอ่ะ ถ้าฮยองไม่เข้าผมก็ไม่เข้านะ” โอเซฮุนอังมือสองข้างเข้ากับปากตัวเองแล้วก็เป่าลมอุ่นๆใส่มือตัวเอง

     

    “เฮียเข้าแทนไคไง” ผมตอบ เซฮุนพยักหน้าเป็นอันตกลง

     

                    ผมกับเซฮุนหันไปบอกลา อี้ชิง จงแดแล้วก็แบคฮยอน หลังจากนั้นก็เดินไปหลังร้านเพื่อเปลี่ยนชุดและเก็บของ อาการง่วงเข้าครอบงำผมอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้จะทำงานมาได้สองเดือนแล้วแต่แรงดึงดูดจากที่นอนมันไม่เคยลดน้อยลงเลยจริงๆ

     

    “ฮยองจะกลับไปนอนที่หอเลยป่าว” เซฮุนถามผม

     

    “อาจจะนะ หรือไม่ก็อาจจะไปหาอะไรกินก่อน” ผมตอบพร้อมๆกับเก็บของจากล็อกเกอร์ไปด้วย ว่าจะเอาเสื้อยูนิฟอร์มไปซักที่ร้านซัก อบ รีด ซะหน่อย ตอนชงกาแฟให้ลูกค้าเมื่อเช้ากาแฟดันกระฉอกใส่เสื้อซะงั้น

     

    “อ้อ งั้นผมกลับก่อนนะ ง่วงมากนั่งรถมาโคตะระเพลีย ฮยองกลับบ้านดีๆนะครับ” โอเซฮุนโค้งลาผมแล้วออกจากหลังร้านไป

     

                    ท่าทางจะเหนื่อยจริงๆแหละ เห็นว่าญาติของเซฮุนอยู่จังหวัดที่ไกลออกไปเพราะไปกันทั้งครอบครัวเลยเอารถยนต์ไปนั่งหลายชั่วโมงก็เพลียเป็นธรรมดา

     

                    ผมเดินออกมาจากนอกร้านก็รู้สึกอยากหมุนตัวกลับเข้าไปเหมือนเดิมเพราะอากาศหนาวมาก เหมือนจะถูกแช่แข็ง ผมรู้สึกอยากได้หมวกไหมพรมใบใหม่ซักใบ เดี๋ยวค่อยหาเวลาไปซื้อแล้วกัน สีแดงดีมั้ยนะ

     

                    ร้านซัก อบ รีด อยู่ซอยถัดไปจากร้านแต่ต้องเดินเข้าซอยเข้าไปลึกหน่อยแต่ราคากำลังโอเคและก็ทำความสะอาดได้ดีมาก ผมเลยกลายเป็นลูกค้าประจำไปเลยทั้งซักชุดนักศึกษา ชุดลำลอง แม้กระทั่งยูนิฟอร์มที่ทำงาน

     

                    จากซอยใหญ่ที่ผู้คนเดินขวั่กไขว่ก็เริ่มเป็นซอยที่เล็กลงและผู้คนก็บาง ผมรู้สึกเหมือนมีคนเดินตามก้นผมมานานแล้วตอนแรกนึกว่าคิดไปเองแต่พอคนเริ่มน้อยมันก็เริ่มชัดขึ้น พอผมหยุดก็หยุดตาม พอผมเดินก็เดินตาม พอผมหันก็หลบผม ผมเดินเข้าไปในร้านซักอบรีด ทำเหมือนทุกอย่างปกติดีพอผมเดินออกมาแล้วเดินออกไปซักพักหนึ่ง สุดท้ายผมตัดสินใจหยุดเดินซะดื้อๆเหมือนจะกระทันหันไปคนที่ตมผมรีบวิ่งกลับออกไปจากซอยอย่างรวดเร็วทำให้ผมรู้ว่าเป็นผู้ชาย ในขณะที่ผมกำลังจะวิ่งตามไปผมก็เหยียบกระเป๋าเงินเข้า ผมเปิดดูเพื่อจะดูว่าเจ้าของเป็นใคร และเจ้าของน่าจะเป็นคนเดียวกับที่เดินตามผมมาตั้งนานสองนาน พอผมเปิดดูก็ตกใจโคตะระก็บัตรประชาชนมันเขียนว่า

    .

     ‘ปาร์ค ชานยอลหน่ะสิ่ 

    ___________________________________________________


    #มุมของเรา

    ตอนที่สองมาแล้วนะคะตอนนี้อาจจะสั้นไปหน่อย
    แต่ตอนต่อไปจะพยายามให้ยาวกว่านี้เนาะ
    พูดคุยกันได้ผ่านทาง ทล.ติดแท็ก #ฟิคตีสอง
    หรือทางคอมเมนต์ในแต่ละตอนค่ะ



    แสยะยิ้ม 'ระวังตัวไว้เลยปาร์ค ชานยอล'


    ตื่นเถิดชาวไทย อย่าหลับใหลลุ่มหลง
     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×