คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ชานฟานทูเอเอ็ม - you're just like christmas day
เธอเป็นเหมือนวันคริสต์มาสที่ฉันรอคอยมาตลอด
เธอเป็นเหมือนกับวันคริสต์มาส เมื่อฉันนึกถึงเธอ
ฉันตื่นเต้นเหมือนเด็กๆเมื่อถึงวันนั้น
You’re just like Christmas day
6.30 am
“ยัวร์สเปซยินดีต้อนรับครับ” ผมกล่าวทักทายลูกค้ามาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้วประมาณหนึ่งพันหนึ่งร้อยสิบเอ็ดครั้ง เว่อร์ -.- และคนที่เข้ามาตั้งแต่ตีสองอย่าง ปาร์ค ชานยอลก็ยังนอนหลับเป็นตายอยู่บนสโลปไม่ว่าเสียงดังแค่ไหนก็ไม่สามารถปลุกเขาได้ อีกทั้งด้วยแรงแห่งหมอนอิงที่ประดับโซฟาก็กลายเป็นเพื่อนร่วมสาบานของเขาไปแล้ว
ไม่ไปโรงเรียนหรือไงกัน -.-
เวลานี้เป็นเวลาที่ลูกค้าจะเยอะเป็นพิเศษเพราะวันนี้ไม่ใช่วันหยุด ลูกค้าที่เป็นพนักงานบริษัทกับเด็กมัธยมปลายก็เดินเข้าออกร้านกันให้ควั่ก ออร์เดอร์กาแฟ นมสด ขนมปัง มากซะจนผมทำแทบไม่ทัน ปกติก็เหนื่อยอยู่แล้วขนาดเข้ากะกันสามคนแต่ตอนนี้เหลือผมแค่คนเดียว เท่ากับผมต้องทำงานยกกำลังสาม
“ฮยองงงงงง” ผมหันไปตามเสียงเรียกที่คุ้นหูว่าจะได้ยินในกะเดียวกันบ่อยมากๆ เสียงแหลมๆเหมือนคุณปู่
“ขอบคุณพระเจ้า โอเซฮุน นายมาทันเวลาช่วยชีวิตฉันจริงๆ” ผมพูดกับเซฮุนพร้อมๆกับชงกาแฟมือเป็นระวิง
“ก็งี้แหละ ผมมันเป็นคนที่พระเจ้าส่งมาเกิด โอโฮรัช” โอเซฮุนแสยะยิ้มที่เรียกเสียงกรี๊ดเบาๆจากรอบข้าง ก็แฟนคลับเด็กนี่นี่แหละ เด็กมัธยมปลายทั้งนั้น มาหลงชอบเซฮุนกันเป็นโหล แต่ก็ดีนะ ผู้จัดการชอบใจใหญ่เลยบอกว่าลูกค้าเยอะก็ดีต่อยอดของร้านเราเหมือนกัน ดังนั้นเซฮุนก็เลยกลายเป็นลูกรักของผู้จัดการไปอย่างช่วยไม่ได้
“เอาเถอะ เฮียไม่มีเวลามาเถียงด้วยหรอก จัดขนมปังใส่จานตามออร์เดอร์ได้แล้ว” ผมชี้ไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ขึ้นรายการอาหารและบอกเลขเครื่องส่งสัญญาณ
“ครับๆ” เซฮุนรับคำแล้วต่างคนก็ต่างทำงานของตัวเอง ผมชงกาแฟเสร็จก็กดส่งสัญญาณไปที่เครื่องรับของลูกค้าเพื่อที่เขาจะได้เดินมาเอาที่เค้าท์เตอร์ ความจริงตามร้านทั่วไปคือพนักงานต้องเอาไปเสิร์ฟแต่สเปซเป็นที่นั่งแบบอิสระพนักงานไม่สามารถจำได้ว่าลูกค้านั่งตรงไหน หรือลูกค้าคนไหนเป็นคนสั่งอาหาร
“เห้” ผมหันไปตามเสียงเรียกก็เจอ ปาร์ค ชานยอล ลูกค้าผู้ทรงเกียรติของผมกำลังยืนปิดปากหาว หน้าตาเหมือนยังไม่ตื่นดี ผมที่เคยเซ็ทตั้งก็ดูยุ่งเหยิงแต่ออร่าความเป็นเน็ตไอดอล(ในความคิดผม)ก็ยังคงส่องแสงไม่มีหมองลง
“ครับ” ผมรับคำ
“นมสด กับเซนวิสใส่หมูหยองแฮมชีส” ผมหันไปเทนมสดร้อนกับหยิบแซนวิชออกมาจากตู้แล้วส่งให้ปาร์ค ชานยอลที่ยืนหลับตาโงนเงนอยู่หน้าเค้าท์เตอร์
“เท่าไหร่อ่ะ” เขาซดนมอึกใหญ่ไปแล้วถึงเปิดปากถามผม
“ไม่คิดเงิน” ปาร์คชานยอลหยุดซดนมในแก้วทันที
“ทำไม?” พอหยุดซดนมก็หันไปยัดแซนวิชคำใหญ่เข้าปากแทน ดูท่าเขาหิวมากจริงๆ
“ขอบคุณที่ช่วยต่อต้นคริสมาสต์ก่อนหน้านี้” ปาร์ค ชานยอล พยักหน้าอย่างเข้าใจ แววตาใสไม่มีแววขุ่นเหมือนสองสามชั่วโมงก่อนหน้านี้ สงสัยเขาคงอารมณ์ดีขึ้นแล้วหล่ะมั้ง
“ความจริงไม่ต้องก็ได้นะ ผมก็ไม่ได้ลำบากอะไร” เขาสบตาผมด้วยแววตาขัดเขินเล็กน้อย เพราะเขาพูดว่า’ผม’กับผมเป็นครั้งแรก ตลกดี ทำไมเขาต้องเขินด้วยนะ ดูเด็กน้อยจริงๆ
“รับไปเหอะ” ผมยิ้มให้เขาเหมือนทุกครั้ง เวลาเขาอารมณ์ดี ความหล่อก็ส่องประกายกว่าตอนโดนความอารมณ์เสียครอบงำเยอะเลย
“เอ่อ...ผมขอโทษนะเรื่องก่อนหน้านี้ที่หาเรื่องคุณ” เขาทำหน้าลำบากใจแต่แววตาแสดงความรู้สึกผิดจริงๆ ความจริงผมไม่ค่อยติดใจเท่าไหร่ไม่ได้โกรธด้วยซ้ำ ลูกค้าที่ขี้เหวี่ยงขี้วีนกว่านี้ก็มีเยอะที่ผมเคยโดนมากแค่นี้ถือว่าจิ๊บๆ
“ขอบคุณ”
“ผมก็ต้องขอบคุณเหมือนกัน”
.
8.00 am
ปาร์ค ชานยอลเพิ่งเดินออกจากร้านไป ผมค้นพบว่าครอบครัวเขาต้องร่ำรวยแน่ๆเพราะเห็นมีเบนซ์คันใหญ่แล่นเข้ามาจอดรอรับที่หน้าร้าน
“ฮยอง ผู้ชายที่เดินออกไปเมื่อกี้อ่ะ ฮยองรู้ป้ะว่าเป็นใคร แค่เดินขึ้นรถเบนซ์ไป เลตติ้งผมก็ตกทันทีเลย” เซฮุนทำหน้ายุ่งเหยิงที่โดนแย่งแฟนคลับไป
“หมายถึง ปาร์คชานยอลหรอ” มันก็จริง ปาร์คชานยอล หล่ออย่างกับเน็ตไอดอล โอเซฮุนมันจะโดนแย่งแฟนคลับไปก็ไม่แปลก จนถึงเวลาแปดโมง ผมก็ยังคงต้องชงกาแฟอยู่เหมือนเดิม ถึงแม้นักเรียนมัธยมปลายจะเหลือแค่ประปลายแต่พนักงานบริษัทก็ยังคงเยอะอยู่ เพราะเขาจะเริ่มทำงานกันก็คงประมาณเก้าโมงตรง
“นายปาร์ค ชานยอลนี่เอง หึจะจำชื่อนี้ไว้ให้แม่นเลย เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับโอเซฮุน” แสยะยิ้มร้ายกาจเหมือนที่เคยทำ ผมว่ามันดูน่าตลกมากกว่าน่ากลัว ผมรู้สึกต้องกลั้นยิ้มกลั้นหัวเราะทุกครั้งที่โอเซฮุนแสยะยิ้มที่แสนกวนโอ๊ย
“ว่าแต่ฮยองรู้จักชื่อเขาได้ไงอ่ะ แต่เดี๋ยวๆๆ ฮยองกางต้นคริสมาสต์นั้นเสร็จได้ไงอ่ะคนเดียว ถึกไปป้ะ”
“นั่นเป็นสาเหตุที่เฮียรู้จักชื่อเขาไง” ผมตอบเซฮุนพร้อมกับเปิดลิ้นชักหยิบผ้าผืนใหม่ขึ้นมาเช็ดเค้าท์เตร์
“หา? เดี๋ยวๆ ผมงงอ่ะฮยอง”
“ก็เขาเป็นคนมาช่วยกางไง ตอนนั้นไม่มีลูกค้าเลยแล้วจื่อเทาก็ป่วย เฮียต้องเข้ากะคนเดียวจนนายมาเนี่ยแหละ”
“เย่เฮท ต้องขอบคุณเขาหรือเปล่าเนี่ย ผมไม่ต้องเสียเหงื่อเลยแฮะ ฮ่าๆ ” หน้าตาดีใจออกหน้าออกตาเกินไปจนหน้าหมั่นไส้
“นายต้องขอบคุณเฮียมากกว่า แล้วอีกอย่างนะ เรายังไม่ได้ตกแต่งเค้าท์เตอร์ โต๊ะ หน้าร้านอีก” โอเซฮุนแทบจะเบะปากเป็นรูปทีน
“ฮ่าาาา น่าเบื่อชะมัด” ว่าแล้วเซฮุนก็บิดตูดหยิบอุปกรณ์และเครื่องประดับที่เอาไว้ตกแต่งหน้าร้านไว้ในอ้อมแขนแล้วก็เดินไปปะทะกับลมหนาวหน้าร้าน
.
9.00 am
“เหนื่อยหน่อยครับวันนี้” เสียงอี้ชิงดังมาเหมือนทุกวันเพื่อเป็นการขอบคุณเพื่อนพนักงานด้วยกันที่ทำงานกะก่อนหน้า ซึ่งหมายถึงการหมดเวลาแห่งการเหน็ดเหนื่อยและเข้าสู่เวลาพักผ่อน
“เหนื่อยหน่อยนะครับ” คิมจงแดและบยอนแบคฮยอนก็ตามมา ผมยกมือทักทายตามปกติ
ตึ้ง
Kimkai
เฮียอู๋ครับ วันนี้เฮียว่างหรือเปล่าครับเวลาของกะผมอ่ะครับ 16:00-21:00
คิมจงอิน หรือไค อายุสิบเจ็ดปี เป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบแล้วก็เอาการเอางานดี ก็ดีกว่าเซฮุนเป็นไหนๆ ขยันและทำงานอย่างรอบคอบแทบไม่มีความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากเด็กคนนี้เลยรวมถึงเพื่อนสนิทของไค ดีโอก็เหมือนกัน คู่นี้เข้ากะเดียวกันทำงานดีเหมือนกันผู้จัดการเลยวางใจให้ทำงานกะเย็นที่คนเยอะเพราะสองคนนี้ยังเรียนมอปลายอยู่เวลาเดียวที่ทำงานได้คือเวลานี้
Kriswu
ว่างๆจะให้เข้าแทนหรอ
Kimkai
ครับ พอดีผมกับดีโอมีงานที่โรงเรียนต่อนิดหน่อย ถ้ายังไงพอผมได้เงินมาผมจะแบ่งส่วนที่เฮียเข้าแทนผมให้นะครับ
Kriswu
ได้ๆยังไงเฮียก็ว่างพอดี ช่วงนี้มหาวิยาลัยปิดเทอมแล้ว
Kimkai
ขอบคุณครับเฮีย ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไปขอเฮียชวนเซฮุนฮยองหรือเฮียจื่อเทามาเข้ากะแทนดีโอด้วยได้มั้ยครับ
Kriswu
ไม่น่าจะมีปัญหานะ
Kimkai
ขอบคุณครับเฮีย
Kriswu
ไม่เป็นไร
“เซฮุน ว่างเข้ากะดีโอมั้ย” ผมเรียกเซฮุนที่เดินเข้ามาในร้านด้วยไหล่ที่ห่อเข้าเพราะอากาศข้างนอกหนาวมาก หน้าหนาวแล้วอากาศก็อุณภูมิลดลง
“ว่าง แต่ฮยองเข้าด้วยหรือเปล่าอ่ะ ถ้าฮยองไม่เข้าผมก็ไม่เข้านะ” โอเซฮุนอังมือสองข้างเข้ากับปากตัวเองแล้วก็เป่าลมอุ่นๆใส่มือตัวเอง
“เฮียเข้าแทนไคไง” ผมตอบ เซฮุนพยักหน้าเป็นอันตกลง
ผมกับเซฮุนหันไปบอกลา อี้ชิง จงแดแล้วก็แบคฮยอน หลังจากนั้นก็เดินไปหลังร้านเพื่อเปลี่ยนชุดและเก็บของ อาการง่วงเข้าครอบงำผมอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้จะทำงานมาได้สองเดือนแล้วแต่แรงดึงดูดจากที่นอนมันไม่เคยลดน้อยลงเลยจริงๆ
“ฮยองจะกลับไปนอนที่หอเลยป่าว” เซฮุนถามผม
“อาจจะนะ หรือไม่ก็อาจจะไปหาอะไรกินก่อน” ผมตอบพร้อมๆกับเก็บของจากล็อกเกอร์ไปด้วย ว่าจะเอาเสื้อยูนิฟอร์มไปซักที่ร้านซัก อบ รีด ซะหน่อย ตอนชงกาแฟให้ลูกค้าเมื่อเช้ากาแฟดันกระฉอกใส่เสื้อซะงั้น
“อ้อ งั้นผมกลับก่อนนะ ง่วงมากนั่งรถมาโคตะระเพลีย ฮยองกลับบ้านดีๆนะครับ” โอเซฮุนโค้งลาผมแล้วออกจากหลังร้านไป
ท่าทางจะเหนื่อยจริงๆแหละ เห็นว่าญาติของเซฮุนอยู่จังหวัดที่ไกลออกไปเพราะไปกันทั้งครอบครัวเลยเอารถยนต์ไปนั่งหลายชั่วโมงก็เพลียเป็นธรรมดา
ผมเดินออกมาจากนอกร้านก็รู้สึกอยากหมุนตัวกลับเข้าไปเหมือนเดิมเพราะอากาศหนาวมาก เหมือนจะถูกแช่แข็ง ผมรู้สึกอยากได้หมวกไหมพรมใบใหม่ซักใบ เดี๋ยวค่อยหาเวลาไปซื้อแล้วกัน สีแดงดีมั้ยนะ
ร้านซัก อบ รีด อยู่ซอยถัดไปจากร้านแต่ต้องเดินเข้าซอยเข้าไปลึกหน่อยแต่ราคากำลังโอเคและก็ทำความสะอาดได้ดีมาก ผมเลยกลายเป็นลูกค้าประจำไปเลยทั้งซักชุดนักศึกษา ชุดลำลอง แม้กระทั่งยูนิฟอร์มที่ทำงาน
จากซอยใหญ่ที่ผู้คนเดินขวั่กไขว่ก็เริ่มเป็นซอยที่เล็กลงและผู้คนก็บาง ผมรู้สึกเหมือนมีคนเดินตามก้นผมมานานแล้วตอนแรกนึกว่าคิดไปเองแต่พอคนเริ่มน้อยมันก็เริ่มชัดขึ้น พอผมหยุดก็หยุดตาม พอผมเดินก็เดินตาม พอผมหันก็หลบผม ผมเดินเข้าไปในร้านซักอบรีด ทำเหมือนทุกอย่างปกติดีพอผมเดินออกมาแล้วเดินออกไปซักพักหนึ่ง สุดท้ายผมตัดสินใจหยุดเดินซะดื้อๆเหมือนจะกระทันหันไปคนที่ตมผมรีบวิ่งกลับออกไปจากซอยอย่างรวดเร็วทำให้ผมรู้ว่าเป็นผู้ชาย ในขณะที่ผมกำลังจะวิ่งตามไปผมก็เหยียบกระเป๋าเงินเข้า ผมเปิดดูเพื่อจะดูว่าเจ้าของเป็นใคร และเจ้าของน่าจะเป็นคนเดียวกับที่เดินตามผมมาตั้งนานสองนาน พอผมเปิดดูก็ตกใจโคตะระก็บัตรประชาชนมันเขียนว่า
.
‘ปาร์ค ชานยอล’ หน่ะสิ่
___________________________________________________
#มุมของเรา
แต่ตอนต่อไปจะพยายามให้ยาวกว่านี้เนาะ
พูดคุยกันได้ผ่านทาง ทล.ติดแท็ก #ฟิคตีสอง
หรือทางคอมเมนต์ในแต่ละตอนค่ะ
แสยะยิ้ม 'ระวังตัวไว้เลยปาร์ค ชานยอล'
ตื่นเถิดชาวไทย อย่าหลับใหลลุ่มหลง
ความคิดเห็น