ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { chanyeol x yifan } | 2am |

    ลำดับตอนที่ #11 : ชานฟานทูเอเอ็ม - ไม่รู้ตัว

    • อัปเดตล่าสุด 29 ธ.ค. 57




    เช้าวันที่ สิ บ
     


    อยากบอกว่าเธอมีแฟนคนนึง ที่แอบไปหึงเธอทุกวันทุกวัน

    ไม่รู้อะไรซะบ้างเลย

    ก็เป็นแฟนเธอวันๆโดยที่เธอเองก็ไม่ยอมรู้ตัว

    และฉันก็กลัวซะเกินจะบอก

    5.00 am
     

    “โอ้ยยย” ผมร้องพลางส่งมือไปขยี้ผมตัวเอง ทำไปได้ยังไงเนี่ยน่าอายเป็นบ้าเลย ไปจับมือชานยอลเนี่ยนะ โถ่ๆๆๆ

     

    “ฮยองเป็นบ้าอะไรเนี่ย” ผมมองไปที่เซฮุนที่ทำปากบู้ที่ตัวเองคิดว่าน่ารักส่งมาให้ผมซึ่งในความคิดผม มันน่าเตะเสียมากกว่า

     

    “ทั้งสองคนทำงานได้แล้ว” ผมรีบวิ่งไปทำตามคำสั่งของเทาทันทีโดยไม่ได้ตอบคำถามของเซฮุน วันนี้ก็ลูกค้าเยอะเป็นพิเศษหนึ่งในสามก็แฟนคลับของเซฮุนทั้งนั้น ยิ่งปิดเทอมนี่แทบจะแบ่งเวรกันมาเฝ้าเป็นกะเลยทีเดียว เด็กผู้หญิงเดี๋ยวนี้แลดูน่ากลัวทำตัวอย่างกับตัวเองเป็นผู้ชายและเซฮุนเป็นดั่งประหนึ่งดอกไม้งามเพียงดอกเดียวในโลกที่สามารถผสมพันธุ์ได้ =_=

     

    “เด็กนั่นกลับไปแล้วหรอ” ผมชะงักไปตามคำถามของเทา

     

    “หมายถึงชานยอลหรอ” ผมหยิบแก้ววางลงในถาดส่งไปให้เซฮุนพร้อมๆกับตอบเทาไปด้วย

     

    “ใช่” เทาพยักหน้ารับ จะว่าไปตั้งแต่เข้ามาในร้านพร้อมๆกับชานยอลหลังจากที่ผมเดินมาประจำที่เค้าท์เตอร์ก็ไม่เห็นชานยอลอีก เขาอาจจะกลับออกไปแล้วก็ได้

     

    “ผมเห็นเขานั่งอยู่อีกฝากนู่นแหน่ะฮยอง” เซฮุนที่เพิ่งกลับมาจากการไปถูร้านหันมาบอกผม ผมพยักหน้ารับเบาๆ

     

    “อี้ฟาน เอาหนังสือใหม่พวกนี้ไปจัดหน่อย” ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย วันนี้เป็นเวรของเซฮุนนะทำไมผมต้องทำให้ด้วยอ่ะ

     

    “ไม่ต้องขมวดคิ้วเลย วันนี้น้องมันปวดขาไปทำแทนมันหน่อย” ผมหันไปมองที่เซฮุนที่อยู่ดีๆก็เอามือกุมขาแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมา ผมก็เลยตัดสินใจยกกล่องหนังสือออกมาจากเค้าท์เตอร์ทันที ผมเดินผ่านเข้าไปในโซนด้านข้าง มองเห็นชานยอลนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงที่นั่งที่เป็นขั้นบันได เมื่อเราสบตากันชานยอลก็วิ่งลงมาหาผมอย่างรวดเร็ว ของในมือหายไปอยู่ในอ้อมแขนของชานยอลเป็นที่เรียบร้อยพร้อมๆกับส่งร้อยยิ้มกว้างมาให้ผม

     

    ...น่ารัก...

     

                    ผมยิ้มตอบกลับชานยอลไป เขาเดินไปที่ชั้นวางหนังสือที่ยังว่างอยู่หันมามองผมเมื่อผมพยักหน้าให้เขาวาง ชานยอลก็วางกล่องลง

     

    “ไปนั่งเถอะ เดี๋ยวผมทำเอง” ชานยอลยิ้มแล้วส่ายหัวเบาๆ

     

    “ให้ผมช่วยเถอะอี้ฟาน อยู่เฉยๆก็เบื่ออยู่ดี แม่สอนว่าเราควรทำตัวให้เป็นประโยชน์นะครับ” ชานยอลรับหนังสือที่ผมให้เขาจัดไปถือ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีชานยอลช่วยก็ทำให้งานมันเสร็จเร็วขึ้นจริงๆ

     

    “อี้ฟานแถวนี้มันเต็มแล้วอ่ะครับ” ผมหันไปมองชานยอลที่ชี้ว่าชั้นที่ผมให้เขาเอาหนังสือไปใส่มันเต็มแล้ว

     

    “เอามาสิ่ เดี๋ยวผมใส่ในฝั่งนี้แทน” ผมรับหนังสือจากมือชานยอลที่เขายื่นมา ผมปีนขึ้นไปที่ชั้นเก็บหนังสือบนสุดสอดหนังสือใส่ในชั้น แต่ถุงเท้ากับพื้นไม้ที่ลื่นทำให้ผมเสียหลักหงายหลังลงมา

     

    “เห้ยยยยย อี้ฟาน” เสียงร้องของชานยอลดังขึ้นใกล้ๆหู

     

    ผมหลับตาปี๋เอามือรองศีรษะเอาไว้กันกระแทน หลังผมต้องกระแทกแรงแน่ๆข่างล่างเป็นขั้นบันไดซี่ใหญ่ๆที่กว้างพอจะให้คนหนึ่งคนนั่งได้เลย ถ้าหล่นลงไปคงเจ็บไม่น้อยแน่ๆ

     

    “ปั้ก!!
     

    “โอ้ยยซี๊ดด”

     

                    เสียงร้องดังขึ้นพร้อมๆกับที่หลังของผมสัมผัสกับบางอย่างที่นุ่มๆและแข็งแรงผมรู้สึกเจ็บนิดหน่อยไม่มากเท่าที่คิด แต่เสียงร้องของชานยอลที่ตามมาทำให้ผมเข้าใจในทันทีว่าที่ที่ผมหล่นลงไปมีชานยอลรองรับอยู่

     

                    ผมรีบพลิกตัวลุกขึ้นมาทันที ส่งมือไปช่วยดึงชานยอลที่นอนแบ๊บอยู่บนพื้นมือข้างหนึ่งจับที่แถวๆหน้าอกหน้าตาเหยเกแสดงความเจ็บปวด ก็แหงหล่ะผมตัวใช่จะเล็กๆที่ไหนหล่ะ เอาตัวมารองแบบนี้ก็เจ็บนะสิ่ เห้อ
     

    “คงไม่ต้องถามใช่มั้ยว่าเจ็บหรือเปล่า” ผมพูดยิ้มๆชานยอลส่งหน้าตาน่าสงสารมาให้ผม

     

    “แต่ขอบใจนะ ไม่ได้ชานยอล ผมเจ็บหนักแน่ๆ” ชานยอลพยักหน้าแต่มือยังกุมแถวๆหน้าอกกับท้องอยู่ จุกจนพูดไม่ออกแน่ๆ

     

    “นั่งก่อนสิ่” ผมยื่นมือไปดันไหล่ของชานยอลให้นั่งลงตรงขั้นบันได

     

    “เห้ยยยยย ทำอะไรครับอี้ฟาน” ชานยอลร้องเสียงหลง หูและแก้มแดงขึ้นสีเรื่อเมื่อผมยื่นมือไปเลิกเสื้อของเขาขึ้นแต่ก่อนที่จะได้ทันเห็นอะไรชานยอลก็เอามือมาบังเสียก่อน

     

    “ก็ดูอกกับท้องไงว่าช้ำหรือเปล่าจะได้เอาน้ำแข็งมาประคบ” ผมขมวดคิ้ว ชานยอลกระเถิบไปไกลขึ้นอีกดวงตาโตสีดำดิ้นขลุกขลิกไปมา หรือว่าชานยอลจะเป็นคนมีพุง หรือเขามีแผลเป็นก็เลยอายไม่อยากให้ผมดู

     

    “เปิดเสื้อให้ผมดู ชานยอล” ผมเอ่ยเสียงเข้ม ถึงมันจะเป็นเหตุผลอะไรก็ตามที่ผมคาดเดาไว้ตอนต้นแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องกังวลอะไร

     

    “เอ่อ...ไม่ต้องครับ อี้ฟาน” ชานยอลยังส่ายหน้าเหมือนเดิมมือกุมท้องเอาไว้ ผมขมวดคิ้วแสดงความโกรธอย่างมาก ชานยอลหลุบตาลง ค่อยๆเขยิบเข้ามานั่งชิดผม แล้วเปิดเสื้อของเขาขึ้น

     

                    ผิวขาวๆของชานยอลมีรอยแดงเป็นปื้นตรงท้องกับหน้าอก อีกวันสองวันมันจะต้องกลายเป็นสีม่วงช้ำแน่ๆ แต่สิ่งที่ทำให้ผมงงว่าชานยอลจะอายเรื่องอะไรในเมื่อนอกจากผิวขาวๆของเขาแล้ว หน้าท้องก็ยังมีซิกแพคไม่รู้จะอายเรื่องอะไร
     

    ผมเงยหน้าขึ้นไปทันที ผมชะงักลงเมื่อเราสบตากัน จมูกของเราห่างกันไม่ถึงสองเซนกลิ่นลมหายใจหอมๆของชานยอลลอยวนไปทั่ว

     

    ตึกตักๆๆ

     

                    เสียงหัวใจดังก้องไปทั่วหูไปหมด ไม่รู้ว่าเป็นของชานยอลหรือของผมกันแน่ ผมกับชานยอลนิ่งอยู่แบบนั้นเหมือนรอบข้างไม่มีใครสักคนอยู่เลย เหมือนมีแค่เรา

     

    “เอ่อ...” ผมละสายตาออกมาก่อนจะหันหน้าไปอีกทาง ชานยอลนั่งกระแอ่มกระไอสองสามครั้งก็จะนิ่งไป ฝ่ามือใหญ่ของชานยอลเลื่อนมากุมมือผมเอาไว้ หัวใจของผมยิ่งเต้นดังกว่าเดิม มันเหมือนจะกระเด็นออกมา

     

    “เดี๋ยวไปเอาน้ำแข็งมาให้นะ” ชานยอลค่อยๆคลายมือออก ผมลุกขึ้นไปที่เค้าท์เตอร์ เทากับเซฮุนกำลังง่วงกับการชงกาแฟผมห่อน้ำแข็งด้วยผ้าเสร็จแล้วก็ตรงไปหาชานยอลทันที

     

                    ผมยื่นห่อน้ำแข็งไปให้ชานยอล เขารับไว้แล้วสอดเข้าไปในเสื้อชานยอลสะดุ้งเมื่อความเย็นสัมผัสกับผิว

     

    “งื้ออ ผมเจ็บอ่ะอี้ฟาน” ผมมองหน้าชานยอลแล้วก็เกิดกังวลขึ้นมา ถ้าเกิดมันเป็นอะไรมากกว่าช้ำจะทำยังไงเนี่ย หรือผมควรจะพาเขาไปหาหมอมั้ยนะ

     

    “เจ็บมากเลยหรอ ชานยอล ไปหาหมอกันมั้ย” ชานยอลใช้มือที่ว่างโบกมือปฏิเสธ ผมคว้ามือของชานยอลข้างที่เขายกขึ้นมาดูใกล้ๆ ชานยอลสะดุ้งเมื่อผมเอามือแตะรอยแผลถลอกเล็กๆที่อยู่บนหลังมือของเขา

     

    “เป็นแผลตรงนี้ก็ไม่บอก” ผมพูดเบาๆชานยอลเขยิบเข้ามาใกล้ๆจนไหล่เราชิดกัน ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าของผ้ากันเปื้อน หยิบเอาพลาสเตอร์ปิดแผลออกมาติดบนหลังมือให้ชานยอล

     

    “ขอบคุณครับ” ผมพยักหน้านึกโทษตัวเองที่ทำให้ชานยอลต้องมาเจ็บตัวเพราะผมที่ไม่ระวังตัวเอง

     

    “เดี๋ยวผมไปช่วยเทากับเซฮุนก่อนนะนี่มันก็หกโมงกว่าแล้วนะชานยอลกลับบ้านได้แล้ว”

     

    “อื้อ” อื้อของชานยอลคือการส่ายหัวไม่ใช่การพยักหน้า

     

    “เดี๋ยวรออี้ฟานเลิกกะไง จะได้กลับพร้อมกัน” ชานยอลสบตาปิ๊งๆกับผมแต่ผมขมวดคิ้วส่งกลับไป

     

    “นะครับ..นะคร้าบบบบ” เสียงอ้อนๆของชานยอลทำให้ผมพยักหน้าอย่างใจอ่อน

     

    “เย่เดี๋ยวผมนอนรอนะ จุกมากเลย T^T” ชานยอลเบะปากหน้าเหมือนจะร้องไห้ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหันหลังไปช่วยงานที่เค้าท์เตอร์เหมือนเดิมเพราะจัดหนังสือเสร็จพอดีกับที่ร่วงลงมานั่นแหละ

     

    “หึๆ” ผมหันไปมองหน้าเซฮุนที่เหลือบมองผมด้วยหน้าตาที่แฝงไปด้วยความชั่วร้าย ดวงตาหยีเล็กลงพร้อมๆกับปากที่คลี่ยิ้มออกมา

     

    “มีอะไรเซฮุน” หน้าตาแบบนี้ไม่น่าไว้ใจเลย

     

    “ไม่มีอะไรเลยฮยอง ฮริ” ฮริพ่อง ผมส่งค้อนวงโตๆไปให้เซฮุนแล้วหันไปพูดเป็นภาษาจีนกับเทาเรื่องออร์เดอร์แต่แกล้งทำเป็นเหลือบมองไปที่เซฮุน เทาเหมือนจะรู้มันก็หัวเราะขำ แต่เซฮุนนี่หน้าบึ้งไม่พอใจมากจนผมขำ

     

    “เออๆ บอกก็ได้” ผมเดินเข้าไปใกล้ๆเซฮุน ชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ๆโทรศัพท์ของเซฮุนแต่เมื่อเห็นความร้อนก็ฉีดพุ่งไปทั่วหน้าเป็นภาพที่ถ่ายมาจากหน้าจอกล้องอีกที เป็นรูปของผมกับชานยอลตอนที่หน้าเราใกล้กันมากและอีกรูปคือรูปที่ผมกับชานยอลจับมือกันแล้วมองไปคนละทางชานยอลยิ้มเต็มปากส่วนผมอมยิ้มแล้วหันไปอีกด้าน

     

                    ผมเอามือจับปากตัวเอง ไม่รู้ตัวเลยแฮะว่าตอนนั้นผมกำลังยิ้มอยู่ ผมหันไปมองหน้าเซฮุนที่ส่งยิ้มล้อเลียนน่าถีบมา

     

    “ไปเอารูปมาจากไหน” ภาพนี้ถ่ายมาจากหน้าจอกล้องอีกที

     

    “ระดับเซฮุนนะฮยอง ก็ให้แฟนไซต์ประจำตัวผมถ่ายให้สิ่ เดี๋ยวเขาส่งเอชดีมาให้ ฮริ” ผมกะจะแย่งโทรศัพท์มาลบรูป แต่ได้ยินแบบนี้ ต่อให้ลบได้ สุดท้ายมันก็หามาได้ใหม่อยู่ดี

     

    “เล่นไปเรื่อย” ผมส่ายหัวแล้วขมวดคิ้วใส่หน้าเซฮุน

     

    “ฮยองเขินก็บอกเหอะ ฮ่าๆๆๆ รูปอย่างกับพรีเวดดิ้ง” เสียงหัวเราะตรงกลางของเซฮุนตอนสุดท้ายของประโยคผสมกับเสียงของจื่อเทาที่บ้าไปกับเซฮุนด้วย

     

    “หยุดน่า มันใช่เรื่องล้อเล่นหรือไง” เมื่อเห็นผมทำเสียงเข้มเซฮุนก็ขยับตัวลากขายาวๆมากอดเอวผมเอาไว้ แล้วเอาหัวถูแขนผมไปมา

     

    “ฮยองก็รู้ว่าผมรักฮยองน้า แค่ล้อเล่นเฉยๆเนอะๆ อย่าโกรธสิ่” ผมเอามือผลักหัวเซฮุนออกไปแต่ก็กลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่เพราะท่าทางประหลาดๆของเซฮุน เซฮุนหัวเราะร่ามือก็ยังกอดเอวผมอยู่

     

    “อี้ฟาน” ผมหันไปมองตามเสียงที่แสดงความขุ่นมัว ปลายเสียงคือชานยอลโหมดวันแรกที่เจอกัน หน้าตาชานยอลบอกบุญไม่รับมาก สายตาเขาเลื่อนต่ำลง แล้วก็น้าบึ้งกว่าเดิม
     

    “มีอะไรหรอ” ผมถามชานยอลเหมือนเขามีเรื่องอะไรหรือเปล่าทำไมทำหน้าตาแบบนั้นก็ไม่รู้ เหมือนโกรธใครมาร้อยชาติอย่างนั้นแหละ

     

    “ผมแค่จะมาบอกว่าผมจะกลับก่อนนะครับ” ดวงตาชานยอลฉายแววตัดพ้อขึ้นมาแวบนึงก่อนจะหายไป พูดจบประโยคชานยอลก็หันหลังเดินออกจากร้านไปเลย

     

    “เอ่อ...ไม่ได้มีปัญหากันใช่มั้ย” เทาเอ่ยถามผมเบาๆ

     

    “โถ่ ฮยองของผมโดนทิ้งซะแล้ว โอ๊ยย” ผมเอามือโขกหัวเซฮุน พูดอะไรไม่รู้เรื่อง

     

    “เขาโมโหอะไรของเขา เมื่อกี้ยังบอกว่าจะกลับด้วยกันอยู่เลย” ผมพูดให้เทากับเซฮุนฟังอย่างงงๆ

     

    “ฮยองนี่ไม่รู้จริงๆอ่ะหรอ” ผมส่ายหน้ารับคำเซฮุน มันพูดเหมือนกันรู้ว่าชานยอลโมโหเรื่องอะไร

     

    “ฮยองรู้จักคำว่า หึง มั้ยอ่ะ”

    __________________________________

    #มุมของเรา
    ขอโทษที่มาต่อช้ามากๆเลย
    คิดอะไรไม่ออกจริงๆอันนี้ยอมรับ
    แต่เรื่องนี้ก็ใกล้จะจบแล้ว (มั้ง)
    แต่งสดทุกครั้งเลย
    55555555555
    อย่าทิ้งกันไปไหนน้าาา
    เซฮุนตัวป่วนก่อเรื่องซะแล้ว5555

    อย่าลืมติดแท็ก #ชานฟานทูเอเอ็ม
    มาสกรีมกัน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×