ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic] Kim Ginger [TaeNy]

    ลำดับตอนที่ #4 : บันทึกหน้าที่3: เหยินหายไปไหน

    • อัปเดตล่าสุด 22 ม.ค. 57





    “ภรรยา”



    “อะไรนะคะ!?” 



    ทิฟฟานี่รู้สึกเหมือนหูตามันพล่าเลือนผิดปกติ ได้ยินคำเมื่อกี้ไม่ชัดสักนิด อีกทั้งรู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองมันเต้นแรงมากจนกลบเสียงทุกอย่าง แต่ทว่าก็หายไปในทันทีที่อีกฝ่ายพูดประโยคต่อมา



    “ล่อเล่นค่ะ มันเป็นมุขค่ะ ฮ่าๆ”...แต่ถ้าเป็นจริงๆจะดีมากเลย แทยอนเติมข้อความที่เหลือในใจ มือเล็กล้วงเข้าไปอุ้มเจ้าจินเจอร์ที่อยู่ในตระกร้าออกมาฟัดให้หายหมั่นเขี้ยวเบาๆ



    “บ๊อก บ๊อก!! (ย๊า!! แทงกูมันเจ็บนะ!!)”



    “อ่า... คุณทิฟฟานี่คะ จะสะดวกมั้ยถ้าดิฉันจะขอให้คุณช่วยมาเป็นเลขาส่วนตัว จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระของเลขาอิม” แทยอนถาม ในขณะที่มือก็ยังคงแกล้งเจ้าจินเจอร์อยู่



    “บ๊อกๆๆๆ (บอกให้หยุดไง แทงกูอ้ะ)”



    “ได้ค่ะ ยินดีมากเลยค่ะ” ทิฟฟานี่ตอบด้วยความดีใจสุดๆและส่งยิ้มตาปิดจนเห็นเป็นรูปเสี้ยวพระจันทร์มาให้ ทำเอาอีกคนเหมือนตกอยู่ในภวังค์แห่งความหลงใหลชั่วขณะ แรกๆก็คิดว่าทิฟฟานี่หน้านิ่งๆก็สวยอยู่แล้วนะ แต่ก็ต้องเปลี่ยนความคิด หากผู้หญิงคนนี้ยิ้มด้วยความสุขจริงๆ คงจะเป็นรอยยิ้มที่สวยที่สุดจนเขาอยากจะเห็นแก่ตัวเก็บไว้มองเพียงคนเดียว



    “ได้มั้ยคะคุณแทยอน?”



    “คะ?”



    “บ๊อก บ๊อก (แทงกูเหม่ออะไร ไม่ได้ยินที่ฟานี่ถามเหรอ)”



    แทยอนดึงสติตัวเองกลับมา แล้วหันไปมองหน้าอีกคนประมาณว่าช่วยทวนให้ฟังอีกที เมื่อกี้ไม่ทันได้ฟัง



    “คุณแทยอนอาจจะฟังไม่ทัน เมื่อสักครู่ฉันได้ถามว่า ฉันสามารถเริ่มดูงานได้เลยรึเปล่าคะ?”



    “ถ้าคุณต้องการแบบนั้นก็ได้ค่ะ แต่ตอนนี้... เราไปทานข้าวเที่ยงกันนะคะ”








    ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ทิฟฟานี่ออกไปทานข้าวกับเจสสิก้า...



    วันนั้นทิฟฟานี่ต้องวิ่งวุ่นเป็นการใหญ่ เพราะเธอห่วงเจ้าจินเจอร์มาก มันยังเล็กอยู่และเธอก็ไม่อยากทิ้งมันไว้เพียงตัวเดียวในบ้าน มันคงจะต้องเหงาแน่ๆ เธอโทรเช็กกับเจสสิก้าแล้วว่าทางร้านเขาไม่ยอมให้เข้าไป จึงต้องเตรียมของเล่นแทบทั้งบ้านที่มีอยู่ไปไว้ในห้องนอนของเธอ แล้วก็หาเสื้อผ้ามาใส่ให้มัน ตอนนี้อากาศเริ่มหนาวแล้ว มันยังเล็กอาจจะเป็นหวัดได้



    ซึ่งกว่าที่ทิฟฟานี่จะยอมห่างกับเจ้าจินเจอร์ได้ ก็เล่นเอาเจสสิก้าเกือบไม่มีคนไปดินเนอร์ด้วยซะแล้ว เพราะคนร่างบางดูเหมือนจะติดอิขิงเสียเหลือเกินนนน จนเมื่อมาถึงร้านก็พากันช่วยสั่งอาหารแล้วคุยเล่นกันอยู่สักพัก



    “น้องฟานี่คะ”



    “มีอะไรรึเปล่าคะพี่สิก้า”



    “เอ่อ... คือ พี่ คือๆ”



    ร่างเพรียวนึกคำพูดดีๆไม่ออกเมื่อสบสายตาจริงจังของอีกคน เขามีเรื่องอยากจะบอกอีกคนตั้งมากมาย แต่พอเอาเข้าจริงก็พูดไม่ออกซะงั้น ตั้งสติอยู่นานกว่าจะพูดออกมาได้



    “พี่... จะไม่อยู่ประมาณ2-3เดือน”



    “อะไรนะคะ พี่สิก้าจะไปไหนเหรอคะ?”



    “แม่ของพี่อยากให้พี่ไปดูงานที่ต่างประเทศเสียหน่อย จะไปประมาณอีก2สัปดาห์หน้าน่ะคงจะคริสมาสต์พอดี พี่ก็เลยอยากจะ... เอ่อ.. อยาก”



    “คะ?”



    ร่างบางเอียงคอมองอีกคนที่หยิบกล่องใบไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป น่าจะเป็นกล่องใส่สร้อยคอ ทิฟฟานี่เคยเห็นกล่องแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง มันเป็นกล่องที่ใครอีกคนหนึ่งเคยเล่าให้ฟังว่าทุกตระกูลสายตรงเท่านั้นที่จะมีกล่องใบนี้พร้อมประทับตราประจำตระกูลไว้จะมีเพียงกล่องเดียว มอบให้แด่ผู้ที่เหมาะจะเป็นคู่ครองคนต่อไปเท่านั้น และสิ่งของภายในกล่องของแต่ล่ะตระกูลจะไม่เหมือนกัน



    ซึ่งตอนนี้เขาคนนั้นก็ได้มอบมันให้แก่เธอเมื่อนานมาแล้ว และมันก็ยังคงหลับใหลอยู่ภายในห้องเก็บที่อีกซีกโลกหนึ่งของพร้อมกับหัวใจที่ยังคงเจ็บปวดของเธอเมื่อคิดถึงเจ้าของกล่องใบนั้น ...ก็พอจะรู้ว่าอีกคนจะทำอะไร



    ทิฟฟานี่หลับตาลงแล้วภาพความทรงจำมากมายเมื่อหลายปีก่อนจะฉายขึ้นมาให้เห็นเหมือนเป็นหนังเรื่องหนึ่ง ทุกวันนี้ที่เธอยังใช้ชีวิตปกติสุขได้เพราะเธอทำงานหนักและตั้งใจจะไม่เก็บเรื่องของเขามาคิดอีกแล้ว แม้ว่าส่วนลึกภายในจิตใจก็ยังเพียรเรียกหาเขาตลอดเวลาก็ตาม...



    “ช่วยรับไว้ได้ไหม?”



    คำพูดที่แสดงความจริงใจและอ่อนโยนในตอนนี้ ช่างเหมือนกับเขาคนนั้นเมื่อก่อนจริงๆ... เธอ ...อาจจะยังไม่สามารถลืมเขาได้หมดจริงๆ



    “พี่สิก้าคะ... ฟานี่... ไม่พร้อมจะมีใครตอนนี้จริงๆค่ะ”



    “ขอโทษจริงๆนะคะ”



    ถึงทิฟฟานี่จะชอบเจสสิก้าแค่ไหน เธอแยกออกว่ายังไงซะก็แค่ความรู้สึก “ชอบ” มันไม่เหมือนเขาคนนั้นที่เธอยกความรักให้ไปหมดแล้วทั้งใจ ไม่ใช่ว่าเธอตั้งใจจะยึดมั่นรักคนๆนั้นตลอดไป แต่แค่เธอยังไม่พร้อมจะมีใคร...



    “ไม่เป็นไร พี่รอเธอได้เสมอนะ”



    เจสสิก้าบอกด้วยรอยยิ้ม แม้ข้างในจะเจ็บปวดสักเพียงใด ตอนนี้ก็ได้แต่อดกลั้นความรู้สึกนั้นไว้ แล้วเก็บไว้ในส่วนที่สึกที่สุดในหัวใจ








    “พี่มองที่โต๊ะนั้นบ่อยแล้วนะ ...มีอะไรรึเปล่า?”



    อิม ยุนอา เลขาแห่งคิมกรุ๊ป หันไปถามลูกพี่ลูกน้องคนสนิทด้วยความสงสัย ก็พี่สาวเธอน่ะสิ พอเห็นคนที่เหมือนคู่รักกันเดินมานั่งโต๊ะตรงมุมสวีทก็ทำหน้ากระอักกระอวนอยู่พักหนึ่ง แล้วก็จ้องที่โต๊ะนั้นตลอดเลย



    “เปล่า”



    คนที่ถูกพาดพิงเอ่ยตอบเสียงเรียบ เขาเบนสายตากลับมาที่น้องสาวไม่แท้ของเขา ไม่อยากจะตอบอะไรมาก เรื่องนั้นมันก็นานมาแล้วด้วย



    “สนใจใครในโต๊ะรึเปล่าเอ่ย??”



    “ไม่”



    อุ้ย เสียงดุซะด้วย งั้นเรื่องนี้น้องยุนจะไม่ยุ่งค่ะ ควอน ยูริ ลอบเฝ้ามองตลอดตรงที่เจสสิก้าและทิฟฟานี่นั่งอยู่ จนทั้งสองคนออกไปแล้วสายตาคมก็ยังจะมองตามไปจนสุดทาง



    “ไหนบอกว่าไม่สนใจไง มองตามจนคอจะหมุนได้รอบทิศอยู่แล้ว”



    “ก็ไม่ได้สนใจ”



    “เหรอออ ขอให้มันจริงเหอะ”



    “เรื่องของฉันน่า”













    คิม แทยอนเอ่ยปากชวนใครมาทานข้าวกลางวันด้วย หลายๆคนอาจจะคิดว่ามันหรูเริศสมกับลักษณะภายนอก แต่คิดผิดคิดใหม่ได้เลย คุณคิมพาคนร่างบางมาที่ร้านเบเกอรี่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นร้านเล็กๆตั้งอยู่ใกล้กับคิมกรุ๊ป จึงไม่ต้องทนหนาวต่อการเดินผ่านหิมะนานนัก



    ตัวร้านตกแต่งสไตล์ค่อนข้างไปทางยุโรปหน่อยๆ แต่ก็เข้ากับบรรยากาศหิมะตกแบบนี้มาก วันนี้คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะหิมะตก ถึงจะเป็นวันคริสมาสต์แต่ที่นี่ก็ไม่ได้ตกแต่งอะไรมากมาย แค่ให้พอรู้ว่าวันนี้คือวันคริสมาสต์ แต่แทยอนอธิบายว่าร้านนี้เพื่อนของเขาทำคนเดียวจึงไม่ได้มีเวลามากที่จะตบแต่งร้าน และจะเน้นไปที่การตกแต่งขนมให้เข้ากับเทศการต่างๆแทน



    “ว่าไงประธานคิม วันนี้พาสาวคนใหม่มาเหรอ”



    “เงียบไปเลยซุนคยู นี่เลขาคนใหม่ของฉัน ทิฟฟานี่ ฮวัง” แทยอนผ่ายมือไปยังคนด้าน แหม เขาไม่ได้อยากให้อีกคนรู้นิสัยหน้าม่อของเขาสักหน่อย



    “ทิฟฟานี่ค่ะ เรียกฟานี่ก็ได้”



    “ลี ซุกคยูจ๊ะ ให้ดีเรียกซันนี่เถอะ อย่าไปเรียกตามไอ้หมาเตี้ยเลยนะ” ซันนี่ยิ้มตอบด้วยวามสดใสร่าเริงของเธอ แล้วหันมาถามแทยอน



    “แกจะเอาเหมือนเดิมใช่มั้ย?”



    “อือ... เอ่อใช่ ของที่ว่ามาถึงแล้วหรือยัง?”



    “อือๆ มาถึงแล้ว แกจะเอาเลยเหรอ?”



    “หลังจากนี้ก็ได้”



    ซันนี่เดินไปเตรียมนู่นเตรียมนี่อยู่สักพัก ก็เดินมาหาพวกแทยอนแล้วพาเข้าไปที่มุมวีไอพีซึ่งมีแต่กลุ่มเพื่อนๆของพวกเขาเท่านั้นถึงจะได้นั่งโซนที่เป็นส่วนตัวและบรรยากาศรอบด้านดีที่สุดในร้าน



    “ฟานี่อยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ย หรือจะเอาเค้กดี?” ซันนี่ถาม



    “บ๊อก บ๊อก บ๊อก (เค้กเหรอ ใครพูดว่าเค้กอ่า)”



    “เอาเป็นเค้กก็ได้ค่ะ”



    ทิฟฟานี่ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่จึงนั่งมองวิวไปเรื่อยเปื่อย บางครั้งก็หันไปแกล้งเจ้าจินเจอร์บ้างเป็นบางที ส่วนคุณคิมน่ะเหรอนั่งเก๊กอยู่นั่นแหละ



    “นี่คุณทิฟฟานี่”



    “คะ มีอะไรเหรอคะคุณแทยอน”



    “เรามาทำความรู้จักกันดีมั้ย? แบบไม่ต้องใช้คำสุภาพตลอดเวลา”



    “บ๊อก บ๊อก บ๊อก (คุยอะไรกันนนน)”



    ขิงน้อยผู้ถูกลืมก็พยายามจะแทรกบทสนทนาเข้ามาให้ได้ แต่ก็ถูกแทยอนแกล้งอีกรอบตามเคย เชอะ เค้างอนแล้วนะ ใช้งานเค้าแล้วพอเจอฟานี่ของเค้าก็เฉดเค้าทิ้งเลยนะ คนหล่องอนน เค้าเป็นพระเอกนะTT



    “อืม... เป็นความคิดที่ดีนะ”



    ทิฟฟานี่ยิ้มตอบ อย่างน้อยตอนนี้บรรยากาศในการคุยก็ไม่ค่อยตึงเครียดเท่าไหร่ ถึงจะเป็นเจ้านายกับลูกน้อย แต่ถ้าทำงานที่ต้องใช้ใจไปด้วยกันแบบนี้ จะให้พูดสุภาพกันตลอดเวลาก็ไม่ไหวมั้ง เกร็งตายพอดี



    “งั้นแทจะเรียกคุณว่าฟานี่ แล้วแทนตัวเองด้วยชื่อนะ ส่วนคุณก็เรียกแทว่าแทงกูนะ”



    “แทงกูป็นชื่อเล่นของคุณเหรอ?”



    “ใช่ เพื่อนแล้วก็คนรู้จักส่วนใหญ่ชอบเรียกชื่อนี่น่ะ”



    แทยอนคุยสบายขึ้นหน่อย อย่างน้อยก็พอจะหาเรื่องคุยได้น่ะนะ ทิฟฟานี่นิ่งคิดไว้สักพักหนึ่งก่อนจะเผลอพูดออกมาก่อนที่สมองจะประมวลความคิดเสร็จ



    “ไม่เอาอ่ะ ฟานี่ไม่ชอบซ้ำกับคนอื่น ฟานี่เรียกคุณว่า แทแท ดีกว่า ฟานี่จะได้เรียกคนเดียว” 



    -------------------------------------------------------
    จะพยายามรีไรท์ไปด้วยในตัวนะ555555555555
    เพราะตอนนี้เขียนเอาไปลงในบอร์ดสภาพหลับๆตื่นๆ
    เขียนไปเขียนมา เอะ มันไม่น่าจะเกี่ยวกับหมาแล้วนะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×