ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic] Kim Ginger [TaeNy]

    ลำดับตอนที่ #6 : บันทึกหน้าที่5: ทำงานวันแรก(1)

    • อัปเดตล่าสุด 26 ม.ค. 57


     


     

    คืนนั้น...

     

                ทิฟฟานี่นอนเล่นอยู่บนเตียงสีชมพูแล้วก็เจ้าปริ๊นซ์ที่นอนอยู่ตรงปลายเตียง เธอตั้งใจว่าจะนอนแล้วล่ะ แต่เสียงข้อความแจ้งเตือนในโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน เมื่อเธอเปิดดูก็เป็นเบอร์แปลกที่เธอไม่ได้เมมไว้

     

    Taeyeon_ss: สวัสดี คนสวย:D

    FanyFanyTiffany: ใครอ่ะ?

    Taeyeon_ss: แทเอง

    FanyFanyTiffany: อ๋อ แทแทนี่เอง เอาเบอร์ฟานี่มาได้ไงคะ?

    Taeyeon_ss: ความลับ อิอิ

    FanyFanyTiffany: :( บอกหน่อยยย

    Taeyeon_ss: สายสืบดี:P ㅋㅋㅋ

    FanyFanyTiffany: งั้นคำถามต่อไป แทแทมีธุระอะไรรึเปล่าคะ?

    Taeyeon_ss: คิด

    FanyFanyTiffany: หือ??

    Taeyeon_ss: มันไปถึงรึยังล่ะ?

    Taeyeon_ss: :P

     

                ทิฟฟานี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเก็ทในอีกไม่กี่วิต่อมา สองมือพิมพ์ข้อความตอบกลับไปด้วยความหมั่นไส้ ก็ไม่ได้หลงหรอกนะ แค่เห็นว่ามันน่ารักดีเท่านั้นเอง ...จริงๆนะ ช่วยทำหน้าเชื่อกันหน่อยเซ่!

     

    FanyFanyTiffany: เสี่ยวที่สุด

    FanyFanyTiffany: นี่ท่านประธานคิมกรุ๊ปลงทุนส่งข้อความมาหาเลขา เพราะคิดถึงเนี่ยนะ

    Taeyeon_ss: ไม่ได้เหรอ ㅋㅋㅋ

    FanyFanyTiffany: มีสิทธิ์ห้ามที่ไหน

    FanyFanyTiffany: พูดแบบนี้จะจีบฟานี่รึไง? ㅋㅋㅋㅋ

    Taeyeon_ss: ให้ป่ะล่ะ?

    FanyFanyTiffany: บ้า พูดเป็นเล่นไป

    FanyFanyTiffany: นอนแล้วนะคะท่านประธานคิม:P ฝันดีค่ะ

    Taeyeon_ss: ฝันดีค่ะ พรุ่งนี้แทจะไปรับที่หน้าบ้านตอน7โมงนะ เอาปริ๊นซ์มาเล่นด้วยนะจินเจอร์มันเหงา อย่าสายล่ะคุณเลขา:P

     

     

                ทิฟฟานี่ปิดหน้าจอมือถือ แล้วล้มตัวลงนอนทันที แล้วก็ไม่ลืมที่จะคว้าลูกชายตัวใหม่ของเธอมากอด เจ้าปริ๊นซ์เองก็ซุกตัวเข้าหาอกของทิฟฟานี่เพื่อหาความอบอุ่น ในคืนนั้นทิฟฟานี่หลับสนิทโดยที่ไม่รู้เลยว่าคนที่เธอเพิ่งคุยกันอยู่เมื่อครู่นั้นยังอยู่หน้าบ้านของเธออยู่เลย

     

                “ป่ะ จินเจอร์ กลับบ้านกันเถอะ ฟานี่เข้านอนแล้ว”

     

                “บ๊อก บ๊อก (ดีเหมือนกันครับ)”

     

                ทิฟฟานี่เห็นแทยอนขับรถออกไปแล้วน่ะจริง แต่แทยอนก็วกรถกลับมาได้ใช่มั้ยล่ะ เขาจอดรถและดับเครื่องคอยเฝ้ามองอีกคนจากในรถจนกว่าไฟในห้องนอนของคนร่างบางจะดับลงถึงจะยอมกลับไป แทยอนถึงได้ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ทิฟฟานี่บอกทางก็ได้ เพราะเขามาที่นี่ทุกคืนอยู่แล้ว วันไหนที่เขาไม่เห็นไฟหน้าบ้านไม่เปิดก็แสดงว่าคนร่างบางออกไปข้างนอก เขาก็ต้องรอจนกว่าทิฟฟานี่จะกลับมาถึงบ้าน จากข้อมูลที่เขาไปสืบมาได้ ทิฟฟานี่ไม่มีญาติอยู่ที่เกาหลี จึงเป็นไปได้ยากที่เจ้าตัวจะไปต่างจังหวัดหรือไปหาครอบครัว

     

                แทยอนไม่ได้เป็นโรคจิตนะ แค่ห่วงความปลอดภัยของทิฟฟานี่ ...จริงๆนะ เชื่อกันหน่อยสิ... ร่างเล็กสตาร์ทรถแล้วขับออกไปด้วยความรวดเร็ว พรุ่งนี้เขาต้องตื่นแต่เช้ามารับคนสวยถึงหน้าบ้าน ดึกขนาดนี้ยังไม่นอนอาจจะพากันไปสายได้

     

     

     

     

    FanyFanyTiffany: สุดหล่อ ตื่นยังคะ:P

    Taeyeon_ss: ตื่นแล้ว กำลังออกมารับคนสวยอยู่ㅋㅋㅋ

    FanyFanyTiffany: ขับรถอยู่รึเปล่า

    Taeyeon_ss: ใช่

    FanyFanyTiffany: ค่ะ งั้นขับรถดีๆ อย่าเล่นโทรศัพท์ระหว่างขับรถล่ะคุณคิม:P

    Taeyeon_ss: ครับ สุดสวย:D

     

                แทยอนวางโทรศัพท์ไว้ที่ช่องวางของ แล้วรีบขับรถไปรับคนสวยของเขาทันที ไม่ลืมที่จะยกตะกร้าเจ้าจินเจอร์มานั่งกั้กที่แทนคนสวยของเขาชั่วคราวด้วย

     

                “บ๊อก บ๊อก? (แทงกูจะไปรับฟานี่เหรอ?)”

     

                “อือออ เดี๋ยวจะได้เจอฟานี่แล้วน่า ไม่ต้องห่วงๆ”

     

                “บ๊อก บ๊อก บ๊อก บ๊อก (แต่ผมไม่อยากเจอไอ้ตัวเผือกนั่น)”

     

                “แกน่าจะดีใจกว่านี้นะ”

     

                “บ๊อก! (อยากเจอที่ไหนกันล่ะ!)”

     

                “งั้นเรารีบไปกันดีกว่าเนอะ”

     

                แทยอนไม่ได้แค่พูดอย่างเดียว เขาเหยียบคันเร่งจนมิด จนรถเหวี่ยงไปมาอย่างน่าหวาดเสียวที่สุดสำหรับหมาน้อยวัย4เดือนเศษ ยังไงซะเช้าๆแบบนี้ก็ไม่ค่อยมีคนอยู่แล้ว ซิ่งได้ไม่รบกวนใคร ฮิฮิ

     

                “บ๊อก!!!!! (แทงกู!!!!!!)”

     

     

     

     

     

     

     

                สวัสดีฮะ ฮวัง ปริ๊นซ์ ลูกหมาตัวใหม่ของหม่าม้าฮะ หม่าม้าฟานี่ให้ผมเรียกเองนะฮะ อย่าได้อิจฉาผมไป ฮิฮิ ผมกำลังเล่นรอคนที่ชื่อแทยอนมารับหม่าม้ากับผมไปทำงานฮะ คุณรู้มั้ย เมื่อคืนผมโคตรตกใจที่เห็นแทยอนหัวเราะตอนแกล้งไอ้ดำมากฮะ ถ้าปิดตาไม่มองหน้านึกว่าป้าอายุสักห้าสิบปลายๆมานั่งอยุ่ในบ้าน จึงเป็นชื่อใหม่ที่ผมจะตั้งให้เขาฮะ แทจุมม่า

     

    ปริ้นน ปริ้นนนน

     

                “อ๊ะ แทแทคงมาแล้ว มาเร็วปริ๊นซ์ แทแทมารับแล้วนะครับ” หม่าม้าหันมาเรียกผม แล้วย่อตัวลงมาเพื่อจะอุ้มผมขึ้นมา

     

                “บ๊อก บ๊อก? (แทจุมม่ามาเหรอฮะหม่าม้า?)” ผมถามอย่างไร้เดียงสา แม้จะรู้ว่าหม่าม้าคงไม่เข้าใจภาษาของผมหรอก แต่ผมฟังภาษามนุษย์ออกนะ

     

                “รีบไปกันเถอะ”

     

                เธอห่อผ้ากันความหนาวให้อย่างดี ร่างบางหยิบเสื้อโค้ชตัวหนามาสวมก่อนจะวิ่งออกไปที่หน้ารั้วสีน้ำตาลแล้วมองหารถของแทยอน และตัวแทยอนเอง

     

                “อันยองค่ะคนสวย”

     

                “อันยองค่ะ... มาตรงเวลาจังเลยนะคะ”

     

              “ก็สัญญาไว้แล้วนนี่น่า...”

     

                เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่งลงชั่วขณะ เธอเหมือนเห็นภาพซ้อนทับระหว่างแทยอนกับใครอีกคนขึ้นมา ทั้งน้ำเสียงแล้วก็แววตา คล้ายมากๆ... ทำไมต้องเห็นคนๆนั้นอีกแล้ว...เมื่อแทยอนเห็นว่าทิฟฟานี่นิ่งไปเสียเฉยๆ เขาก็เอามือไปโบกที่ด้านหน้าแล้วเรียก

     

                “ฟานี่ เป็นอะไรไปน่ะ?”

     

                “ค คะ? ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ...อันที่จริง แทแทไม่ต้องลำบากมารับฟานี่เองก็ได้นี่คะ ให้ฟานี่นั่งรถไปเองจะดีกว่า เราเพิ่งรู้จักกันเองนะคะ” ทิฟฟานี่ถามไปตามที่คิดจริงๆ เพิ่งรู้จักกันได้ข้ามวันเอง แต่แทยอนก็ดีกับเธอมาก

     

    ถ้ากับเจ้านายของเธอคิม แทยอนนั้น เธอคิดว่าเขาก็โอเคในระดับหนึ่งเลย จะสนิทกันบ้างก็ไม่เห็นแปลก ถึงบางครั้งจะเห็นว่าเขามองเธอเหมือนเอ็นดูเด็กเล็กๆบ้างก็เถอะ ยังไงก็ต้องทำงานร่วมกันกันแล้ว หากจะลงเรือลำเดียวกัน จะไม่ไว้ใจหรือสนิทกันไว้มันก็ยากต่อการทำงานอยู่ ฉะนั้นหากวันดีคืนดีเจ้านายของเธออยากจะเกรียนแตกหรือเฉยชาก็ต้องทำใจชินกับมันให้ได้

     

                “คิดมากน่า แททำเพราะอยากทำให้นะ”

     

                “แต่แทแทจะโดนมองด้านลบนะ”

     

                “ใครสนล่ะ พ่อแม่แทก็ไม่ใช่สักหน่อย ถ้าพวกเขายังรับเงินเดือนจากแทอยู่ เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาทำอะไรแทได้หรอก” แทยอนบอกพร้อมหยักไหล่เล็กน้อย แล้วดันหลังทิฟฟานี่ให้เข้าไปในรถ

     

                “อากาศมันเย็นนะ เข้าไปในรถเถอะ”

     

                “อื้อออ”

     

                เมื่อทิฟฟานี่เปิดประตูเข้าไปในรถก็พบเจ้าจินเจอร์ที่ส่งเสียงต้อนรับด้วยความดีใจ แต่เธอต้องเอามันไว้ที่ขาล่ะนะจะได้นั่งสะดวกหน่อย

     

                “บ๊อก!! (แกอีกแล้ว!!)” ไอ้ตัวดำส่งเสียงขู่ แต่ดูมันสิ มันถูกขังอยู่ในกรงล่ะ ผมมองมันแล้วเบะปากเยาะเย้ย

     

                “บ๊อก บ๊อก บ๊อก (แล้วจะทำไม หม่าม้าพามา)” ผมตอบแล้วเชิดหน้าขึ้นอย่าเหนือกว่า

     

                “บ๊อกๆๆๆๆ (ย๊า!! หม่าม้าอะไรของแก ฟานี่เป็นภรรยาฉัน)” เจ้าจินเจอร์ตอบอย่างดุเดือด มันแทบจะพังตะกร้าออกมาให้ได้เลยทีเดียว แต่เจ้าตัวเล็กในอ้อมกอดของทิฟฟานี่ก็แสยะยิ้มเล็กน้อย

     

                “บ๊อก (เพ้อเจ้อ)” เหอะ ไร้สาระ....

     

                “บ๊อก บ๊อก (หรือจะไฝว้?)”

     

                “บ๊อก (มาดิ)”

     

                สองตัวกัดกันข้ามกรง เจ้าจินเจอร์ผู้ซึ่งถูกคุณคิมจับยัดใส่ตะกร้ามาเพราะคุณคิมขี้เกียจอุ้มและขนมันจะติดเสื้อ ส่วนลูกชายที่รักของหม่าม้าฟานี่ก็ยิ้มเยาะเย้ยอย่างผู้ชนะส่งไปให้จินเจอร์ที่อยู่ในตะกร้า

     

                “บ๊อก บ๊อก!! (อย่าให้ออกไปได้นะ)”

     

                “บ๊อกๆๆ (ออกมาให้ได้ก่อนเหอะ ไอ้ดำ)”

     

                “บ๊อก (ไอ้เผือก แก๊!!!!!)”

     

     

     

     

                รถของแทจุมม่าแล่นไปตามทางที่ผมไม่เคยผ่านไปตามทางเรื่อยๆสักพักจึงชะลอความเร็วลง ด้านหน้าของผมเป็นตึกสูงใหญ่มหึมาตั้งอยู่กับการตรวจทางเข้าออกที่แสนเข้มงวด แต่แทจุมม่ากลับผ่านไปได้โดยไม่ต้องเสียเวลาอะไรเลย เมื่อเข้ามาในตัวลานจอดรถของคิมกรุ๊ปก็เห็นคนตัวสูงๆหัวเหม่งหน่อยๆยืนดักคอยอยู่ที่หน้าโรงรถท่ามกลางสภาพที่หนาวเหน็บ หม่าม้าจึงหันไปถามแทจุมม่าที่กำลังดับเครื่องยนต์รถ

     

                “ให้คุณยุนอาออกมารอแบบนี้ไม่เป็นไรเหรอ?”

     

                “เป็นหน้าที่ของเลขาน่ะ”

     

                “บ๊อกๆๆ (แทงกูก็เป็นแบบนี้แหละ ลงแรงอะไรแล้วต้องกำไรสถานเดียว)”

     

                “บ๊อก บ๊อก (หนวกหูจริงๆไอ้ดำ)” ผมแว๊ดขึ้นมา ไอ้ดำเงยหน้ามองผมในมือหม่าม้าฟานี่แล้วงึมงำๆอยู่คนเดียว แทงกูก็ขี้แกล้ง ฟานี่ก็สนใจแต่เจ้าปริ๊นซ์ ผมยังจำเป็นป่ะ ไรท์ตอบ!!?! (จำเป็นย่ะ!)

     

                ทั้งสองพากันลงมาจากรถ ยีราฟหัวเหม่งก็เดินมาทักทายพอเป็นพิธีก่อนจะยื่นซองเอกสารให้หม่าม้าฟานี่กับแฟ้มงานเล่มโตถึงสามเล่มให้แทจุมม่าที่ทำหน้าตาปุเลี่ยนๆ

     

                “เซ็นให้ด้วยล่ะ อยากกลับไปก่อนเอง ยุนทำให้ตามสมควรแล้วนะ... พี่นี่หาเรื่องอู้งานได้ตลอดเลยจริงๆ ไปแล้วไปลับไม่เคยจะกลับอ่ะ ...เอาแต่ใจตัวเองที่สุด” ยุนอาทั้งบ่นทั้งแขวะเจ้านายของตัวเองด้วยความเหนื่อยใจ เอาจริงๆแทยอนก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว พูดมากไปก็เท่านั้นแหละ

     

                “เอาน่า พี่ให้แกคุ้มกว่าชาวบ้านเขาเป็นสิบเท่ายังจะมาบ่นอีก ทำให้มันคุ้มหน่อยสิ”

     

                “เกินคุ้มสุดๆเลยเหอะ ยุนล่ะอยากกลับไปกระทืบออนนี่จริงๆเลย ทำไมต้องส่งยุนให้มาทำงานกับพี่นะ ทำกับออนนี่เองก็ได้แท้ๆ” ยุนอาบ่นพร้อมเบ้ปากเมื่อนึกถึงหน้าลูกพี่ลูกน้องเพื่อนสนิทของแทยอน ก็นะ คงจะรู้นั่นแหละว่าถ้ายุนอามาอยู่กับตัวเองแล้ว นอกจากจะไม่ทำอะไรแล้วยังจะเปลืองค่าอาหารสุดๆเลยด้วย

     

                “มันส่งแกมาฝึกไง เห็นมันว่าภายในอาทิตย์หน้าจะมาเยี่ยมแกล่ะ”

     

                “อ๋อเหรอ ไว้คุยแล้วกัน ยุนง่วงมากเลย อยู่ทำงานให้พี่ยันเช้าเนี่ย มีอะไรก็โทรเรียกแล้วกัน” ยุนอาทำท่าทางจะเดินหันกลับไปที่ตึกสำนักงานใหญ่ของคิมกรุ๊ป

     

                “อ่อ คุณทิฟฟานี่ต้องเอาพี่แทให้อยู่หมัดนะคะ นี่แค่วันแรกๆเลยยังไม่ค่อยออกอาการ เดี๋ยวอยู่ๆไปจะเกิดอาการบานตามร่างกาย” ว่าแล้วเลขาอิมก็ชิ่งหายตัวไปเหลือไว้แต่ว่าที่คุณเลขากับประธานคิม

     

                “แทแทชอบหนีจริงๆเหรอ?”

     

                แทจุมม่าไม่ยอมตอบรีบจูงมือหม่าม้าฟานี่ตามยีราฟหัวเหม่งที่ผมเพิ่งรู้เมื่อกี้ว่าชื่อยุนอาเข้าไปทันที หนอยยย จะจีบสาวแต่มาเผากันต่อหน้าแบบนี้มันเคืองจริงๆ แทจุมม่ามองไปรอบๆก็ไม่เห็นเหม่งยุนอาแล้ว คนอะไรเรื่องหนีล่ะไวจริงเชียว ทั้งคู่เดินจูงมือ... ต้องบอกว่าแทจจุมม่าจับมือหม่าม้าฟานี่อยู่ฝ่ายเดียวมากกว่า ทั้งสองจะเดินไปที่ลิฟท์ระหว่างทางก็มีสายตานับหลายคู่คอยจับจ้องอยู่

     

                “แทแท” หม่าม้าฟานี่หันหน้าไปกระซิบ

     

                “หือ?”

     

                “ไม่เป็นไรแน่นะ? ...คนพวกนั้นมองพวกเราใหญ่แล้วนะ” หม่าม้าฟานี่กระซิบให้เบากว่าเดิม เพราะดูเหมืนแทจุมม่าจะไม่ให้ความร่วมมือเลย

     

                “ไม่เห็นจะเป็นไรเลย แทบอกฟานี่แล้วไง... แทกับฟานี่ไม่ได้ทำอะไรผิดกันสักหน่อย อยากมองก็มองไปสิ” แทจุมม่าไม่ได้กระซิบตอบแต่พูดออกมาโต้งๆเลยให้ได้ยินกันทั่ว พนักงานต่างก็ได้ยินทั่วรีบหันกลับไปตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตัวเอง

     

                จะว่าก็ว่านะหม้าม้าฟานี่ก็ไม่รู้จะทำยังไงก็ยิ้มมันไว้ก่อน พนักงานชายเห็นทีก็เหมือนจะโดนไวรัสตายิ้มสะกดให้หันมองตามจนคอแทบหักไป ขนาดผมยังอดจ้องไม่ได้เลย อ่าาา อยากทำได้บ้าง  แทจุมม่าคงไม่อยากให้หม่าม้าฟานี่เสียศูนย์กับการมาทำงานวันแรกจึงรีบพาขึ้นลิฟท์ไป ก็หวงอ่ะ ที่นี่พนักงานชายเยอะจะตาย มองอยู่นั่นแหละเดี๋ยวแม่จะควักตาออกให้หมดหรอก

     

                เมื่อพ้นเงาแทนี่แล้วเหล่าพนักงานทั้งชายและหญิงต่างจับกลุ่มซุบซิบนินทากันเสียงดัง แทยอนนั้นแต่เดิมก็เป็นที่นิยมให้หมู่สาวๆอยู่แล้วก็ไม่แปลกที่จะโดนมองเมื่อควงผู้หญิงแปลกหน้ามาให้เห็นกันขนาดนี้ ส่วนพนักงานชายก็โดนไวรัสตายิ้มสะกดใจขนาดนั้น สงสัยช่วงนี้ประเด็กเม้ามอยหอยกาบของชาวพนักงานคิมกรุ๊ปคงไม่พ้นเรื่องท่านประธานคิมคนนี้แน่นอน

     

     

     

     

                ตึกสำนักงานใหญ่คิมกรุ๊ปแห่งนี้มีถึง52ชั้นด้วยกัน ชั้นบนสุดเป็นชั้นของท่านประธานคิมผู้อินดี้และขี้หวงความเป็นส่วนตัวมาก ใครที่ไม่มีธุระห้ามขึ้นมาเดินเพ่นพ่านเอาขนม ดอกไม้ จดหมายรัก บลาๆๆมาวางไว้หน้าห้องเด็ดขาด เมื่อทิฟฟานี่ขึ้นมาถึงเธอก็แปลกใจเมื่อหน้าห้องของแทยอนนั้นไม่มีอะไรอยู่เลยนอกจากตู้โชว์รางวัลมากมายที่ตั้งโชว์อยู่ด้านหน้า แล้วก็โซนสำหรับน้องหมาอย่างแท้จริง

     

                “ปริ๊นซ์ จินเจอร์ อยู่ในนี้อย่าซนนะคะ จินเจอร์อย่าแกล้งน้องล่ะ” ว่าจบทิฟฟานี่ก็รีบตามแทยอนที่เข้าไปรอในห้องก่อนหน้าแล้ว

     

                “บ๊อก บ๊อก (ฟานี่อ้ะ มีแต่ไอ้เผือกนี่แหละชอบด่าผม เฮอะ!)” จินเจอร์ตะกายจะตามทิฟฟานี่เข้าไปให้ได้ ส่วนปริ๊นซ์ที่หามุมนอนได้สบายก็เห่าขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

     

                “บ๊อก บ๊อก บ๊อก (ถ้าแกอยู่เฉยๆฉันจะด่าแกป่ะไอ้ดำ)”

     

                จินเจอร์หันมันหาเจ้าตัวขาวขนปุยที่นอนอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อนใจเลยสักนิด แถมท่านอนกับหน้าตายังชวนหน้าหมั่นไส้ที่สุด เป็นหมาที่จ้องจะเข้ามาพรากความรักของมันกับทิฟฟานี่ชัดๆ!!

     

                “บ๊อก (อ๋อ พูดงี้จะไฝว้?)”

     

                “บ๊อก บ๊อก (เข้ามาเลยไอ้ดำ)”

     

     

     

     

                เรื่องที่แทยอนเป็นคนหวงความเป็นส่วนตัวเป็นเรื่องจริง จะเห็นได้อย่างตอนที่ทิฟฟานี่มาเอาเจ้าจินเจอร์มาคืน แทยอนก็ไม่ได้ให้ขึ้นมาที่ชั้นนี้ หากไม่สำคัญมากๆจริงๆคนที่ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายกับพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองอย่างแทยอน จะไม่ยอมให้ใครขึ้นมาง่ายๆ

     

                “คุณคิม ไม่ทราบว่าเอาโต๊ะของเลขาฮวังคนนี้ไปไว้ที่ไหนคะ?”

     

                “ก็คุณฮวังเป็นเลขาส่วนตัวของดิฉันนี่คะ เลขาส่วนตัวก็ต้องทำงานในห้องของประธานสิคะ”

     

                “ห๊ะ!?

     

                ทิฟฟานี่อยากจะเถียงใจจะขาดว่าเลขาบ้านไหนเขาเข้าไปทำงานกับเจ้านายเนี่ย ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว หรือคุณคิมมันจะมีจุดประสงค์แอบแฝงจริงๆเนี่ย? ไม่ว่าเปล่าแทยอนยังเปิดเข้าไปในห้องให้ดูว่าโต๊ะของทิฟฟานี่ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของโต๊ะแทยอนจริงๆ

     

                ภายในห้องทำงานสีครีมปูพื้นด้วยพรมหนานุ่มอย่างดีของแทยอน กำแพงฝั่งด้านโต๊ะของเขาเป็นกระจกนิรภัยแบบใสทั้งหมด ภายในห้องมีโซฟากับโต๊ะรับแขกขนาดเล็กสำหรับนั่งแค่ไม่กี่คนเท่านั้น แล้วก็ทีวีพร้อมเครื่องเสียง ตู้เย็น ไมโครเวฟ ชั้นหนังสือ กีต้าร์ และแกรนเปียโนสีดำ จนทิฟฟานี่อดสงสัยไม่ได้ว่านี่มันห้องทำงานหรือบ้านพักขนาดย่อมกันแน่ ส่วนตรงซอกหลืบที่ทิฟฟานี่เพิ่งสังเกตเห็นมันมีห้องอยู่ด้วยกัน2ห้องซ่อนอยู่ ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย

     

                ทิฟฟานี่เดินไปที่โต๊ะของตัวเองที่มีเอกสารตารางงานของแทยอนบางส่วนกองอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เธอนั่งอ่านเอกสารได้อยู่สักพักก็เริ่มรู้สึกว่ามันมืดแปลกๆ ก็เงยหน้าไปประทะกับประธานคิมที่ยืนเอามือยันโต๊ะแล้วสอดส่องเอกสารงานต่างๆของเธอ

     

                “อะไรเนี่ยคุณคิมมม กลับไปทำงานเลยนะ” ทิฟฟานี่ลุกขึ้นดันหลังแทยอนให้กลับไปที่โต๊ะสภาพเหมือนภูเขาเอกสารขนาดยักษ์

     

                “ก็จะดูเฉยๆว่าทำเป็นรึเปล่า”

     

                โถ่ว ฟานี่อยากจะบ้าตาย นี่อ่านประวัติเลือกหรือสุ่มเลือกตำแหน่งมาให้กันแน่เนี่ยยยย มันเป็นข้ออ้างของคนขี้เกียจทำงานที่ค้างเป็นภูเขาแบบนี้ชัดๆ!  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×