ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บันทึกหน้าที่3: เหยินหายไปไหน
“ภรรยา”
“อะไรนะคะ!?”
ทิฟฟานี่รู้สึกเหมือนหูตามันพล่าเลือนผิดปกติ ได้ยินคำเมื่อกี้ไม่ชัดสักนิด อีกทั้งรู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองมันเต้นแรงมากจนกลบเสียงทุกอย่าง แต่ทว่าก็หายไปในทันทีที่อีกฝ่ายพูดประโยคต่อมา
“ล่อเล่นค่ะ มันเป็นมุขค่ะ ฮ่าๆ”...แต่ถ้าเป็นจริงๆจะดีมากเลย แทยอนเติมข้อความที่เหลือในใจ มือเล็กล้วงเข้าไปอุ้มเจ้าจินเจอร์ที่อยู่ในตระกร้าออกมาฟัดให้หายหมั่นเขี้ยวเบาๆ
“บ๊อก บ๊อก!! (ย๊า!! แทงกูมันเจ็บนะ!!)”
“อ่า... คุณทิฟฟานี่คะ จะสะดวกมั้ยถ้าดิฉันจะขอให้คุณช่วยมาเป็นเลขาส่วนตัว จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระของเลขาอิม” แทยอนถาม ในขณะที่มือก็ยังคงแกล้งเจ้าจินเจอร์อยู่
“บ๊อกๆๆๆ (บอกให้หยุดไง แทงกูอ้ะ)”
“ได้ค่ะ ยินดีมากเลยค่ะ” ทิฟฟานี่ตอบด้วยความดีใจสุดๆและส่งยิ้มตาปิดจนเห็นเป็นรูปเสี้ยวพระจันทร์มาให้ ทำเอาอีกคนเหมือนตกอยู่ในภวังค์แห่งความหลงใหลชั่วขณะ แรกๆก็คิดว่าทิฟฟานี่หน้านิ่งๆก็สวยอยู่แล้วนะ แต่ก็ต้องเปลี่ยนความคิด หากผู้หญิงคนนี้ยิ้มด้วยความสุขจริงๆ คงจะเป็นรอยยิ้มที่สวยที่สุดจนเขาอยากจะเห็นแก่ตัวเก็บไว้มองเพียงคนเดียว
“ได้มั้ยคะคุณแทยอน?”
“คะ?”
“บ๊อก บ๊อก (แทงกูเหม่ออะไร ไม่ได้ยินที่ฟานี่ถามเหรอ)”
แทยอนดึงสติตัวเองกลับมา แล้วหันไปมองหน้าอีกคนประมาณว่าช่วยทวนให้ฟังอีกที เมื่อกี้ไม่ทันได้ฟัง
“คุณแทยอนอาจจะฟังไม่ทัน เมื่อสักครู่ฉันได้ถามว่า ฉันสามารถเริ่มดูงานได้เลยรึเปล่าคะ?”
“ถ้าคุณต้องการแบบนั้นก็ได้ค่ะ แต่ตอนนี้... เราไปทานข้าวเที่ยงกันนะคะ”
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ทิฟฟานี่ออกไปทานข้าวกับเจสสิก้า...
วันนั้นทิฟฟานี่ต้องวิ่งวุ่นเป็นการใหญ่ เพราะเธอห่วงเจ้าจินเจอร์มาก มันยังเล็กอยู่และเธอก็ไม่อยากทิ้งมันไว้เพียงตัวเดียวในบ้าน มันคงจะต้องเหงาแน่ๆ เธอโทรเช็กกับเจสสิก้าแล้วว่าทางร้านเขาไม่ยอมให้เข้าไป จึงต้องเตรียมของเล่นแทบทั้งบ้านที่มีอยู่ไปไว้ในห้องนอนของเธอ แล้วก็หาเสื้อผ้ามาใส่ให้มัน ตอนนี้อากาศเริ่มหนาวแล้ว มันยังเล็กอาจจะเป็นหวัดได้
ซึ่งกว่าที่ทิฟฟานี่จะยอมห่างกับเจ้าจินเจอร์ได้ ก็เล่นเอาเจสสิก้าเกือบไม่มีคนไปดินเนอร์ด้วยซะแล้ว เพราะคนร่างบางดูเหมือนจะติดอิขิงเสียเหลือเกินนนน จนเมื่อมาถึงร้านก็พากันช่วยสั่งอาหารแล้วคุยเล่นกันอยู่สักพัก
“น้องฟานี่คะ”
“มีอะไรรึเปล่าคะพี่สิก้า”
“เอ่อ... คือ พี่ คือๆ”
ร่างเพรียวนึกคำพูดดีๆไม่ออกเมื่อสบสายตาจริงจังของอีกคน เขามีเรื่องอยากจะบอกอีกคนตั้งมากมาย แต่พอเอาเข้าจริงก็พูดไม่ออกซะงั้น ตั้งสติอยู่นานกว่าจะพูดออกมาได้
“พี่... จะไม่อยู่ประมาณ2-3เดือน”
“อะไรนะคะ พี่สิก้าจะไปไหนเหรอคะ?”
“แม่ของพี่อยากให้พี่ไปดูงานที่ต่างประเทศเสียหน่อย จะไปประมาณอีก2สัปดาห์หน้าน่ะคงจะคริสมาสต์พอดี พี่ก็เลยอยากจะ... เอ่อ.. อยาก”
“คะ?”
ร่างบางเอียงคอมองอีกคนที่หยิบกล่องใบไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป น่าจะเป็นกล่องใส่สร้อยคอ ทิฟฟานี่เคยเห็นกล่องแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง มันเป็นกล่องที่ใครอีกคนหนึ่งเคยเล่าให้ฟังว่าทุกตระกูลสายตรงเท่านั้นที่จะมีกล่องใบนี้พร้อมประทับตราประจำตระกูลไว้จะมีเพียงกล่องเดียว มอบให้แด่ผู้ที่เหมาะจะเป็นคู่ครองคนต่อไปเท่านั้น และสิ่งของภายในกล่องของแต่ล่ะตระกูลจะไม่เหมือนกัน
ซึ่งตอนนี้เขาคนนั้นก็ได้มอบมันให้แก่เธอเมื่อนานมาแล้ว และมันก็ยังคงหลับใหลอยู่ภายในห้องเก็บที่อีกซีกโลกหนึ่งของพร้อมกับหัวใจที่ยังคงเจ็บปวดของเธอเมื่อคิดถึงเจ้าของกล่องใบนั้น ...ก็พอจะรู้ว่าอีกคนจะทำอะไร
ทิฟฟานี่หลับตาลงแล้วภาพความทรงจำมากมายเมื่อหลายปีก่อนจะฉายขึ้นมาให้เห็นเหมือนเป็นหนังเรื่องหนึ่ง ทุกวันนี้ที่เธอยังใช้ชีวิตปกติสุขได้เพราะเธอทำงานหนักและตั้งใจจะไม่เก็บเรื่องของเขามาคิดอีกแล้ว แม้ว่าส่วนลึกภายในจิตใจก็ยังเพียรเรียกหาเขาตลอดเวลาก็ตาม...
“ช่วยรับไว้ได้ไหม?”
คำพูดที่แสดงความจริงใจและอ่อนโยนในตอนนี้ ช่างเหมือนกับเขาคนนั้นเมื่อก่อนจริงๆ... เธอ ...อาจจะยังไม่สามารถลืมเขาได้หมดจริงๆ
“พี่สิก้าคะ... ฟานี่... ไม่พร้อมจะมีใครตอนนี้จริงๆค่ะ”
“ขอโทษจริงๆนะคะ”
ถึงทิฟฟานี่จะชอบเจสสิก้าแค่ไหน เธอแยกออกว่ายังไงซะก็แค่ความรู้สึก “ชอบ” มันไม่เหมือนเขาคนนั้นที่เธอยกความรักให้ไปหมดแล้วทั้งใจ ไม่ใช่ว่าเธอตั้งใจจะยึดมั่นรักคนๆนั้นตลอดไป แต่แค่เธอยังไม่พร้อมจะมีใคร...
“ไม่เป็นไร พี่รอเธอได้เสมอนะ”
เจสสิก้าบอกด้วยรอยยิ้ม แม้ข้างในจะเจ็บปวดสักเพียงใด ตอนนี้ก็ได้แต่อดกลั้นความรู้สึกนั้นไว้ แล้วเก็บไว้ในส่วนที่สึกที่สุดในหัวใจ
“พี่มองที่โต๊ะนั้นบ่อยแล้วนะ ...มีอะไรรึเปล่า?”
อิม ยุนอา เลขาแห่งคิมกรุ๊ป หันไปถามลูกพี่ลูกน้องคนสนิทด้วยความสงสัย ก็พี่สาวเธอน่ะสิ พอเห็นคนที่เหมือนคู่รักกันเดินมานั่งโต๊ะตรงมุมสวีทก็ทำหน้ากระอักกระอวนอยู่พักหนึ่ง แล้วก็จ้องที่โต๊ะนั้นตลอดเลย
“เปล่า”
คนที่ถูกพาดพิงเอ่ยตอบเสียงเรียบ เขาเบนสายตากลับมาที่น้องสาวไม่แท้ของเขา ไม่อยากจะตอบอะไรมาก เรื่องนั้นมันก็นานมาแล้วด้วย
“สนใจใครในโต๊ะรึเปล่าเอ่ย??”
“ไม่”
อุ้ย เสียงดุซะด้วย งั้นเรื่องนี้น้องยุนจะไม่ยุ่งค่ะ ควอน ยูริ ลอบเฝ้ามองตลอดตรงที่เจสสิก้าและทิฟฟานี่นั่งอยู่ จนทั้งสองคนออกไปแล้วสายตาคมก็ยังจะมองตามไปจนสุดทาง
“ไหนบอกว่าไม่สนใจไง มองตามจนคอจะหมุนได้รอบทิศอยู่แล้ว”
“ก็ไม่ได้สนใจ”
“เหรอออ ขอให้มันจริงเหอะ”
“เรื่องของฉันน่า”
คิม แทยอนเอ่ยปากชวนใครมาทานข้าวกลางวันด้วย หลายๆคนอาจจะคิดว่ามันหรูเริศสมกับลักษณะภายนอก แต่คิดผิดคิดใหม่ได้เลย คุณคิมพาคนร่างบางมาที่ร้านเบเกอรี่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นร้านเล็กๆตั้งอยู่ใกล้กับคิมกรุ๊ป จึงไม่ต้องทนหนาวต่อการเดินผ่านหิมะนานนัก
ตัวร้านตกแต่งสไตล์ค่อนข้างไปทางยุโรปหน่อยๆ แต่ก็เข้ากับบรรยากาศหิมะตกแบบนี้มาก วันนี้คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะหิมะตก ถึงจะเป็นวันคริสมาสต์แต่ที่นี่ก็ไม่ได้ตกแต่งอะไรมากมาย แค่ให้พอรู้ว่าวันนี้คือวันคริสมาสต์ แต่แทยอนอธิบายว่าร้านนี้เพื่อนของเขาทำคนเดียวจึงไม่ได้มีเวลามากที่จะตบแต่งร้าน และจะเน้นไปที่การตกแต่งขนมให้เข้ากับเทศการต่างๆแทน
“ว่าไงประธานคิม วันนี้พาสาวคนใหม่มาเหรอ”
“เงียบไปเลยซุนคยู นี่เลขาคนใหม่ของฉัน ทิฟฟานี่ ฮวัง” แทยอนผ่ายมือไปยังคนด้าน แหม เขาไม่ได้อยากให้อีกคนรู้นิสัยหน้าม่อของเขาสักหน่อย
“ทิฟฟานี่ค่ะ เรียกฟานี่ก็ได้”
“ลี ซุกคยูจ๊ะ ให้ดีเรียกซันนี่เถอะ อย่าไปเรียกตามไอ้หมาเตี้ยเลยนะ” ซันนี่ยิ้มตอบด้วยวามสดใสร่าเริงของเธอ แล้วหันมาถามแทยอน
“แกจะเอาเหมือนเดิมใช่มั้ย?”
“อือ... เอ่อใช่ ของที่ว่ามาถึงแล้วหรือยัง?”
“อือๆ มาถึงแล้ว แกจะเอาเลยเหรอ?”
“หลังจากนี้ก็ได้”
ซันนี่เดินไปเตรียมนู่นเตรียมนี่อยู่สักพัก ก็เดินมาหาพวกแทยอนแล้วพาเข้าไปที่มุมวีไอพีซึ่งมีแต่กลุ่มเพื่อนๆของพวกเขาเท่านั้นถึงจะได้นั่งโซนที่เป็นส่วนตัวและบรรยากาศรอบด้านดีที่สุดในร้าน
“ฟานี่อยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ย หรือจะเอาเค้กดี?” ซันนี่ถาม
“บ๊อก บ๊อก บ๊อก (เค้กเหรอ ใครพูดว่าเค้กอ่า)”
“เอาเป็นเค้กก็ได้ค่ะ”
ทิฟฟานี่ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่จึงนั่งมองวิวไปเรื่อยเปื่อย บางครั้งก็หันไปแกล้งเจ้าจินเจอร์บ้างเป็นบางที ส่วนคุณคิมน่ะเหรอนั่งเก๊กอยู่นั่นแหละ
“นี่คุณทิฟฟานี่”
“คะ มีอะไรเหรอคะคุณแทยอน”
“เรามาทำความรู้จักกันดีมั้ย? แบบไม่ต้องใช้คำสุภาพตลอดเวลา”
“บ๊อก บ๊อก บ๊อก (คุยอะไรกันนนน)”
ขิงน้อยผู้ถูกลืมก็พยายามจะแทรกบทสนทนาเข้ามาให้ได้ แต่ก็ถูกแทยอนแกล้งอีกรอบตามเคย เชอะ เค้างอนแล้วนะ ใช้งานเค้าแล้วพอเจอฟานี่ของเค้าก็เฉดเค้าทิ้งเลยนะ คนหล่องอนน เค้าเป็นพระเอกนะTT
“อืม... เป็นความคิดที่ดีนะ”
ทิฟฟานี่ยิ้มตอบ อย่างน้อยตอนนี้บรรยากาศในการคุยก็ไม่ค่อยตึงเครียดเท่าไหร่ ถึงจะเป็นเจ้านายกับลูกน้อย แต่ถ้าทำงานที่ต้องใช้ใจไปด้วยกันแบบนี้ จะให้พูดสุภาพกันตลอดเวลาก็ไม่ไหวมั้ง เกร็งตายพอดี
“งั้นแทจะเรียกคุณว่าฟานี่ แล้วแทนตัวเองด้วยชื่อนะ ส่วนคุณก็เรียกแทว่าแทงกูนะ”
“แทงกูป็นชื่อเล่นของคุณเหรอ?”
“ใช่ เพื่อนแล้วก็คนรู้จักส่วนใหญ่ชอบเรียกชื่อนี่น่ะ”
แทยอนคุยสบายขึ้นหน่อย อย่างน้อยก็พอจะหาเรื่องคุยได้น่ะนะ ทิฟฟานี่นิ่งคิดไว้สักพักหนึ่งก่อนจะเผลอพูดออกมาก่อนที่สมองจะประมวลความคิดเสร็จ
“ไม่เอาอ่ะ ฟานี่ไม่ชอบซ้ำกับคนอื่น ฟานี่เรียกคุณว่า แทแท ดีกว่า ฟานี่จะได้เรียกคนเดียว”
-------------------------------------------------------
จะพยายามรีไรท์ไปด้วยในตัวนะ555555555555
เพราะตอนนี้เขียนเอาไปลงในบอร์ดสภาพหลับๆตื่นๆ
เขียนไปเขียนมา เอะ มันไม่น่าจะเกี่ยวกับหมาแล้วนะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น