ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 1 ชนชั้นสง่างาม :: } ` ชั้นขุนนางผู้น้อย
UG Theme Cafe'
ชั้นที่ 1 ชั้นขุนนางผู้น้อย
สวัสดีเหล่า "ขุนนางผู้น้อย"
หากเจ้าต้องการเป็นชนชั้นสูงผู้สง่างามแล้วไซร้
ที่ห้องเรียนนี้ เจ้าจะต้องเรียนรู้ความเชื่อ
ประวัติศาสตร์การก่อร่างสร้างเมือง
ศิลปะ สถาปัตยากรรม จารีตประเพณี กฏหมาย
ทั้งหมดทั้งมวลในดาร์คแลนด์
ในชั้นเรียนนี้ หากเจ้าไม่เข้าใจอันใด สามารถถามได้ที่กล่องคอมเม้นด้านล่าง
ภารกิจ
ภารกิจ คือ สถานการณ์จำลอง เพื่อทดสอบทักษะของท่าน
ในชั้นนี้ มีภารกิจทั้งหมด 5 ภารกิจ ท่านจะภารกิจเหล่านี้หรือไม่ก็ได้
และเลือกทำกี่ภารกิจก็ได้
โดยคะเเนนจากภารกิจที่ท่านทำ จะช่วยในการสอบเพิ่มระดับของท่าน
และเมื่อทำภารกิจเสร็จสิ้น ท่านจะไ้ด้รับรางวัล
ท่านสามารถเลือกทำ "ภารกิจ" ต่างๆดังนี้
คลิกเพื่อทำภารกิจ "ชงชากับเลดี้บลูโรส"
คลิกเพื่อทำภารกิจ "ช่วยเหลือท่านรัฐมนตรี"
คลิกเพื่อทำภารกิจ "แต่งกายงามไปงานเต้นรำ"
ข้อควรระวัง
อนึ่ง ระว่างการเดินทางทำภารกิจของท่าน
ท่านอาจจะต้องแวะตามสถานที่ต่างๆ และจำเป็นต้องโพสคอมเม้น
เมื่อท่านโพสคอมเม้น ไม่ว่าที่ใดก็ตามในดาร์คแลนด์
ให้แนบบัตรประนักเรียนศาสตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ด้้วยเสมอ
และผลการทำภารกิจของท่าน จะปรากฏที่หอพักของท่าน ทุกวันศุกร์
การสอบเลื่อนระดับ
หากท่านศึกษาบทเรียนในชั้นนี้จนถ่องแท้แล้ว กรุณาทำข้อสอบ
เพื่อสอบเพิ่มระดับ...เข้าสู่ ชั้นที่ 2 ชั้น "ลอร์ดเลดี้ที่เคารพ"
หากท่านสอบผ่าน จะได้รับเหรียญตราให้เข้าเรียนในชั้นต่อไป
คลิกเพื่อทำข้อสอบเลื่อนระดับสู่ชั้นต่อไป
บทเรียนที่ 1 ประวัติศาสตร์ดาร์คแลนด์
สวัสดีเหล่าว่าที่ขุนนางผู้น้อยทั้งหลาย (เดินอย่างสง่างามเข้ามาในห้องเรียน กวาดสายตมองนักเรียนทุกคนอย่างเยือกเย็น) บทเรียนที่หนึ่งนี้อาจจะน่าเบื่อเสียหน่อย ใครชอบวิชาประวัติศาสตร์ก็เเปลกคนแล้วล่ะ (ยกเว้นฉัน โฮะๆ) เอาล่ะ รู้ไหมว่าเหตุใดพวกเจ้าจำเป็นต้องเรียนวิชานี้
หากพวกเจ้าใฝ่ฝันจะเป็นผู้ดีมีตระกูลสูงส่งน่ายกย่องในดาร์คแลนด์ ฝันจะได้รับหน้าที่ทรงเกียรติในสภาขุนนางชั้นสูง พวกเจ้าก็ต้องมีความรู้ด้านประวัติศาสตร์ดาร์คแลนด์ให้ได้สักครึ่งหนึ่งของฉัน
ประวัติศาสตร์คืออะไร? ก็คืออดีตที่ถูกบันทึกและรวบรวมไว้ ยุคแห่งประวัติศาสตร์เริ่มต้นเมื่อมนุษย์รู้จักประดิษฐ์ตัวอักษรนั่นเอง ดังนั้นอดีตที่ไม่ถูกบันทึกไว้ เเต่ถูกบอกเล่าต่อกันมา จึงไม่ใช่ประวัติศาสตร์ เราเรียกกันว่า "ตำนานปรัมปรา "
ในชั้นเรียนนี้จะมีหนังสือสองเล่มที่พวกเจ้าต้องศึกษา ก็คือ หนังสือที่รวบรวมทุกสรรพสิ่งในจักรวาลดาร์คแลนด์ (แม้แต้ใครตดก็บันทึกไว้) และ หนังสือประวัติศาสตร์ดาร์คแลนด์ รวบรวมโดย นายกรัฐมนตรีไบร์ ลูมินอส ซึ่งเป็นนักสำรวจคนแรกของดาร์คแลนด์ และเป็นบิดาแห่งประวัติศาสตร์ดาร์คแลนด์
เอาล่ะ...ลองเปิดหนังสือประวัิติศาสตร์ดาร์คแลนด์สิ สำหรับประวัติดาร์คแลนด์ที่เริ่มบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเริ่มต้นเมื่อ 5000 ปีก่อนคริสกาล ซึ่งบันทึกเรื่องราวของตระกูลอันรา ตระกูลเเรกที่สถาปนาดาร์คแลนด์ขึ้น
แต่ตำนานปรัมปราดาร์คแลนด์ ซึ่งเล่าต่อกันมาถึง 25000 ปี เกี่ยวกับยมทูตทั้งห้าและมนุษย์คนแรกแห่งดาร์คแลนด์ เป็นเพียงตำนานเท่านัน ไม่จัดวาเป็นประวัติศาสตร์ เพราะไม่มีหลักฐานบันทึกไว้
สถานที่หลายเเห่งในดาร์คแลนด์มีเรื่องราวโบราณซ่อนเร้นอยู่ โดยเฉพะที่ จัตุรัสดาร์คแลนด์ หากแบกจอบเเบกเสียมไปขุด อาจจะเจอเรื่องราวมากมายซ่อนอยู่ เมืองประวัติศาสตร์สำคัญของดาร์คแลนด์ คือ เเคว้นเนพีอา ซึ่งจัดเป็นเขตอนุรักษ์เมืองเก่า สำหรับศึกษาประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตดั้งเดิม สามารถไปเดินเล่นได้นะจ๊ะ...แต่ระวังจะโดนนังงูพิษโจเซฟิน นางค้างคาวชาร์ม และนังผีเสื้อปีศาจมายาโรสไล่กัดเอาล่ะ หึหึหึ
วิชาประวัติศาสตร์ จบเพียงเท่านี้ (ทรุดตัวนั่งลง) แต่อย่าลืมเชียวล่ะว่าประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงได้...ตามหลักฐานที่้คค้นพบ...
และที่สำคัญ ตั้งใจทำภารกิจให้ดี โฮะๆ...หวังวาาจะรอดตายจากภารกิจ กลับมาเจอกันอีกนะ โฮะๆๆ (ยกพัดปิดหน้า )
ภารกิจ คือ สถานการณ์จำลอง เพื่อทดสอบทักษะของท่าน
ในชั้นนี้ มีภารกิจทั้งหมด 5 ภารกิจ ท่านจะภารกิจเหล่านี้หรือไม่ก็ได้
และเลือกทำกี่ภารกิจก็ได้
โดยคะเเนนจากภารกิจที่ท่านทำ จะช่วยในการสอบเพิ่มระดับของท่าน
และเมื่อทำภารกิจเสร็จสิ้น ท่านจะไ้ด้รับรางวัล
ท่านสามารถเลือกทำ "ภารกิจ" ต่างๆดังนี้
คลิกเพื่อทำภารกิจ "ชงชากับเลดี้บลูโรส"
คลิกเพื่อทำภารกิจ "ช่วยเหลือท่านรัฐมนตรี"
คลิกเพื่อทำภารกิจ "แต่งกายงามไปงานเต้นรำ"
ข้อควรระวัง
อนึ่ง ระว่างการเดินทางทำภารกิจของท่าน
ท่านอาจจะต้องแวะตามสถานที่ต่างๆ และจำเป็นต้องโพสคอมเม้น
เมื่อท่านโพสคอมเม้น ไม่ว่าที่ใดก็ตามในดาร์คแลนด์
ให้แนบบัตรประนักเรียนศาสตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ด้้วยเสมอ
และผลการทำภารกิจของท่าน จะปรากฏที่หอพักของท่าน ทุกวันศุกร์
การสอบเลื่อนระดับ
หากท่านศึกษาบทเรียนในชั้นนี้จนถ่องแท้แล้ว กรุณาทำข้อสอบ
เพื่อสอบเพิ่มระดับ...เข้าสู่ ชั้นที่ 2 ชั้น "ลอร์ดเลดี้ที่เคารพ"
หากท่านสอบผ่าน จะได้รับเหรียญตราให้เข้าเรียนในชั้นต่อไป
คลิกเพื่อทำข้อสอบเลื่อนระดับสู่ชั้นต่อไป
บทเรียนที่ 1 ประวัติศาสตร์ดาร์คแลนด์
สวัสดีเหล่าว่าที่ขุนนางผู้น้อยทั้งหลาย (เดินอย่างสง่างามเข้ามาในห้องเรียน กวาดสายตมองนักเรียนทุกคนอย่างเยือกเย็น) บทเรียนที่หนึ่งนี้อาจจะน่าเบื่อเสียหน่อย ใครชอบวิชาประวัติศาสตร์ก็เเปลกคนแล้วล่ะ (ยกเว้นฉัน โฮะๆ) เอาล่ะ รู้ไหมว่าเหตุใดพวกเจ้าจำเป็นต้องเรียนวิชานี้
หากพวกเจ้าใฝ่ฝันจะเป็นผู้ดีมีตระกูลสูงส่งน่ายกย่องในดาร์คแลนด์ ฝันจะได้รับหน้าที่ทรงเกียรติในสภาขุนนางชั้นสูง พวกเจ้าก็ต้องมีความรู้ด้านประวัติศาสตร์ดาร์คแลนด์ให้ได้สักครึ่งหนึ่งของฉัน
ประวัติศาสตร์คืออะไร? ก็คืออดีตที่ถูกบันทึกและรวบรวมไว้ ยุคแห่งประวัติศาสตร์เริ่มต้นเมื่อมนุษย์รู้จักประดิษฐ์ตัวอักษรนั่นเอง ดังนั้นอดีตที่ไม่ถูกบันทึกไว้ เเต่ถูกบอกเล่าต่อกันมา จึงไม่ใช่ประวัติศาสตร์ เราเรียกกันว่า "ตำนานปรัมปรา "
ในชั้นเรียนนี้จะมีหนังสือสองเล่มที่พวกเจ้าต้องศึกษา ก็คือ หนังสือที่รวบรวมทุกสรรพสิ่งในจักรวาลดาร์คแลนด์ (แม้แต้ใครตดก็บันทึกไว้) และ หนังสือประวัติศาสตร์ดาร์คแลนด์ รวบรวมโดย นายกรัฐมนตรีไบร์ ลูมินอส ซึ่งเป็นนักสำรวจคนแรกของดาร์คแลนด์ และเป็นบิดาแห่งประวัติศาสตร์ดาร์คแลนด์
เอาล่ะ...ลองเปิดหนังสือประวัิติศาสตร์ดาร์คแลนด์สิ สำหรับประวัติดาร์คแลนด์ที่เริ่มบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเริ่มต้นเมื่อ 5000 ปีก่อนคริสกาล ซึ่งบันทึกเรื่องราวของตระกูลอันรา ตระกูลเเรกที่สถาปนาดาร์คแลนด์ขึ้น
แต่ตำนานปรัมปราดาร์คแลนด์ ซึ่งเล่าต่อกันมาถึง 25000 ปี เกี่ยวกับยมทูตทั้งห้าและมนุษย์คนแรกแห่งดาร์คแลนด์ เป็นเพียงตำนานเท่านัน ไม่จัดวาเป็นประวัติศาสตร์ เพราะไม่มีหลักฐานบันทึกไว้
สถานที่หลายเเห่งในดาร์คแลนด์มีเรื่องราวโบราณซ่อนเร้นอยู่ โดยเฉพะที่ จัตุรัสดาร์คแลนด์ หากแบกจอบเเบกเสียมไปขุด อาจจะเจอเรื่องราวมากมายซ่อนอยู่ เมืองประวัติศาสตร์สำคัญของดาร์คแลนด์ คือ เเคว้นเนพีอา ซึ่งจัดเป็นเขตอนุรักษ์เมืองเก่า สำหรับศึกษาประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตดั้งเดิม สามารถไปเดินเล่นได้นะจ๊ะ...แต่ระวังจะโดนนังงูพิษโจเซฟิน นางค้างคาวชาร์ม และนังผีเสื้อปีศาจมายาโรสไล่กัดเอาล่ะ หึหึหึ
วิชาประวัติศาสตร์ จบเพียงเท่านี้ (ทรุดตัวนั่งลง) แต่อย่าลืมเชียวล่ะว่าประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงได้...ตามหลักฐานที่้คค้นพบ...
และที่สำคัญ ตั้งใจทำภารกิจให้ดี โฮะๆ...หวังวาาจะรอดตายจากภารกิจ กลับมาเจอกันอีกนะ โฮะๆๆ (ยกพัดปิดหน้า )
บทเรียนที่ 2 วัฒนธรรมจารีตประเพณีดาร์คแลนด์
(รินชากุหลาบแจกขุนนางผู้น้อยทุกคน) บทเรียนที่สองนี้แสนจะง่ายดายเสียยิงกว่าง่าย จารีตประเพณีคืออะไร...สิ่งนั้นก็คือสิ่งที่ถูกสืบทอดต่อกันมายาวนาน เเละเห็นว่าดีงามคู่ควรที่จะสืบทอดต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเเต่งกาย, การปฏิบัติต่อกัน, มารยาท, พิธีกรรม, ความเชื่อ
สิ่งเหล่านี้นี่เอง..ถือเป็นคุณค่าของชาวดาร์ค เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษดาร์คคิดค้นขึ้นมา สมควรรักษาไว้ เพื่อเป็นมรดกแด่คนรุ่นหลัง สิ่งเหล่านี้ทำให้ชาวดาร์คมีควาฒโดดเด่นเหนือชาติอื่นนั่นเอง
จารีตประเพณีดาร์คมีมากมายมหาศาล...บางสิ่งอาจจะลบเลือนหายไปตามกาลเวลาบ้าง..แต่บางสิ่งยังคงเหลืออยู่
จารีตเจ็ดประการของชาวดาร์คได้แก่
1 การงับคอและดูดเลือดคือการทักทายโดยปกติของดาร์คแลนด์
2 ชาวดาร์คมีความหลากหลาย มีทั้ง ผี วิญญาณ ภูติ ปีศาจ มนุษย์ เเละอื่นๆก็ตามเเต่
3 ชาวดาร์ครักการท้าประลอง ะหากมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือผู้ตาย ไม่ต้องรับโทษ หากทรัพย์สินใดได้รับความเสียหาย ให้ซ่อมเเซมจนคืนสภาพเดิม
4 ชาวดาร์คแลนด์นิยมเเนะนำตัวเเละไปพูดคุยจิบน้ำชาในวันว่างที่ จัตุรัสดาร์คแลนด์ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชาวดาร์คแลนด์
5 พิธีสำคัญของชาวดาร์คนิยมจัดที่มหาวิหารดาร์คแลนด์ เช่น ชุมนุมพระจันทร์สีเลือด ชุมนุมราตรีไร้จันทร์ ชุมนุมพระจันทร์เต็มดวง เป็นพิธีกรรมของชาวดาร์คที่สืบทอดกันมานาน
6 ชาวดาร์คมีกีฬาสานสัมพันธ์ที่สืบทอดมาแต่บรรพบุรุษคือ อันได้แก่ ดาร์คแลนด์เกมส์ เเละ ดาร์คแลนด์คัพ เป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ของชาวดาร์คแลนด์ ควรแก่การเข้าร่วม
7 แมวเป็นอาหารหลักของชาวดาร์คแลนด์ เป็นสัตวฺ์ที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้
ในชั้นเรียนนี้มีหนังสือสนุกๆ ให้อ่านเล่น
ตำราหัดแต่งตัวหลอนแบบดาร์คแลนด์
ตำราจารีตเจ้าแห่งแมว
ตำราพิธีกรรมอำมหิต
บทเรียนที่ 3 สภาพสังคมและ วิถีชีวิตชาวดาร์ค
ชาวดาร์คแลนด์เท่าเทียมกัน ทุกคนถือเป็นพี่น้องโดยเสมอภาค ต่างมีเสรีภาพที่จะทำิ่งทีตนต้องการโดยไม่กระทบผลเสียต่อผู้อื่น
ชาวดาร์ครักสงบ และ นิยมการอยู่คนเดียวเงียบๆ ในบ้าน หรือเฝ้ามองในมุมมืด ดูผู้คนสนทนากันอย่างเงียบเชียบ ที่จัตุรัส ปลีกวิเวก ห่างจากผู้คนทั่วไป
ในขณะที่ชาวดาร์คอีกหลายส่วน รักสนุก พวกเขาชอบการละเล่น กลั่นเเกล้งกัน และนิยมทำธุรกิจที่บ้าน หรือท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ
ชาวดาร์คบางส่วนมักเก็บกักตัวเองกับอารมณ์เบื้องลึกของจิตใจ เช่นความเศร้า ความสลดหดหู่ พวกเขามักจมดิ่งกับอารมณ์เหล่านี้จนแปลกแยกจากคนทั่วไป
แม้จะมีบัญญัติให้ทุกคนเท่าเทียม แต่ลึกๆในดารคแลนด์ ยังมีสังคมชนชั้น
นั่นก็คือ ชนชั้นสูง ได้เเก่ เหล่าขุนนางระดับสูง ชนชั้นกลาง ได้แก่ นักธุรกิจ เหล่าขุนนางระดับรองลงมา และข้าราชการทั่วไป เเละ ชนชั้นล่าง คือประชาชนธรรมดา
ผลจากการมีสังคมชนชัน เป็นผลมาจากค่านิยมในอดีตที่ยังลบล้างไม่หมด ทำให้เรามักเห็นการกดขี่ข่มเหงผู้คนอยู่บ่อยครั้งในดาร์คแลนด์
ดาร์คแลนด์มีทั้งหมดเจ็ดเเคว้น แต่ละเเคว้นจะมีสภาพวิถีชีวิตที่เเตกต่างกัน อาทิ
เเคว้นรัตติกาลเป็นที่อยู่ของชนชั้นสูงผู้ร่ำรวยและมีหน้ามีตาในสังคม
เเคว้นเนพีอา เป็นที่อยู่ของกลุ่มอำนาจเก่า หรือผู้ดีเ่ก่า
แคว้นบลเลียมมอร์ธ เป็นที่อยู่ของนับรบและขุนนางผู้ซื่อสัตย์และจงรักภัคดี
แคว้นไอร์กลาเซียร์เป็นที่อยู่ของเหล่านักปราชญ์ผู้ชาญฉลาด และรักสงบ
แคว้นโพเทสต้า เป็นที่อยู่ของเหล่าปีศาจผู้รักสนุก และชื่นชอบความบันเทิงทุกรุปแบบ
เเคว้นไฟร์ไอนิชเป็นที่อยู่ของเหล่าผู้ทรงเวทย์ที่นิยมฝึกพลังกันอย่างดุเดือด
และเเคว้นเทียร์ดอลล่า เป็นที่อยู่ของเหล่าชาวดาร์คผู้รักสงบ
ในชั้นเรียนนี้ แนะนำให้อ่าน
คู่มือการใช้ชีีวิตในดาร์คแลนด์ รวมเล่ม ฉบับสมบูรณ์
และท่านจะเห็นวิธีชีวิตชาวดาร์คดียิ่งขึ้น หากไปเยือนที่
ย่านการค้า Dark Disen
ซึ่งเป็นแหล่งรวมสินค้าแบบชาวดาร์ค
บทเรียนที่ 4 ศิลปะดาร์คแลนด์
การจะเป็นชนชั้นสูงที่ดีได้นั้น จะต้องมีความรู้ด้านศิลปะไม่มากก็น้อย
ศิลปะ จะช่วยสจรรโลงจิตใจของพวกเจ้าให้สูงส่งขึ้น
ศิลปะจะช่วยบรรเทาความปวดร้าว และความโศกเศร้าในจิตใจ
ศิลปะนั้นคือมิตรแท้
อย่าคิดอะไรมาก... บทเรียนนี้ขอให้พวกเจ้าไป ไปเข้าร่วมศึกษา
ที่นี่
ในชั้นเรียนนี้ แนะนำให้ไปทัศนศึกษาที่
พิิพิธภัณฑ์แห่งดาร์คแลนด์
หอคอยวรรณกรรมดาร์คแลนด์
หอคอยแห่งเสียงเพลง
บทเรียนที่ 5 กฏหมายดาร์คแลนด์
กฏหมาย เป็นสัญญาร่วมกันของประชาชน เพื่อที่จะได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
เพราะธรรมชาติของมนุษย์นั้น เมื่อมีเสรีภาพเต็มที่ อาจจะทำร้ายกันได้
จึงต้องมีกฏหมายมาจำกัดเสรีภาพของมนุษย์
เพื่อให้อยู่ร่วมกันโดยสงบสุข
ในดารคแลนด์ก็มีกฏหมายเช่นกัน
ในชั้นเรียนนี้ แนะนำให้อ่าน
ประมวลกฏหมายแห่งดาร์คแลนด์
บทเรียนที่ 6 การปกครองดาร์คแลนด์
ดินแดนแห่งนี้มืดมิดซ่อนในม่านหมอกแห่งนี้ทุกคนเท่าเทียม เป็นพี่น้อง ปราศจากชนชั้น ประชาชนที่นี่พูดสิ่งที่คิดได้อย่างเสรี วิพากษ์วิจารณ์ผู้นำได้เต็มที่ เมื่อผู้นำของพวกเขาทำพลาด พวกเขาไม่โกรธเกลียด แต่ลงโทษเพื่อให้สำนึกรู้ว่าเจ้าของอำนาจคือประชาชน....พวกเขารักที่จะช่วยกันพัฒนา พวกเขามีความสุขเมื่อเห็นชาติเจริญ รัฐแต่ละรัฐล้วนปกครองตัวเองตามลักษณะถิ่นของพวกเขา ทีนี่มีคณะผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง คณะซึ่งไม่ได้มุ่งหวังอำนาจหรือการยกย่อง พวกเขาทำงานอยู่เบื้องหลังฉาก ความสุขของประชาและความเจริญของชาติคือคจุดหมายสำคัญ....น่าเสียดายที่ดินแดนนี้มืดมิดและซ่อนในม่านหมอก...คนนอกไม่อาจมาเห็น
นี่คือคำพรรณาของชาวต่างชาติที่หลุดเข้ามาในดาร์คแลนด์ และตัดสินใจฝังร่างตัวเองที่นี่ โดยไม่กลับไปยังประเทศของเขาอีก
ดาร์คแลนด์ปกครองโดยระบบประชาธิปไตยแบบสภา
ซึ่งจะมีการเลือกตั้งปีละ 1 ครั้ง ในทุกวันที่ 28 เดือนพฤษภาคม
โดยเเ่ต่ละพรรคการเมืองจะส่งผู้ลงสมัครเป็นผู้แทนเเคว้นทั้งหกในดาร์คแลนด์
อย่างไรก็ตามดาร์คแลนด์เพิ่งเป็นประชาธิปไตยได้เพียงสามปี ภายใต้การปฏิวัติของเลดี้บลูโรส แห่งดาร์คแลนด์ ที่บุกยึดอำนาจเลดี้นัวร์แห่งดาร์คแลนด์ และควบคุมเลดี้นัวร์ฯไว้ในปราสาทมืด เพื่อมอบอำนาจอธิปไตยให้แก่ชาวดาร์คแลนด์ อย่างไรก็ตาม เลดี้นัวร์ก็ยังถือเป็นผู้นำสูงสุดของชาวดาร์คแลนด์ เพียงเเต่ปราศจากอำนาจทางการเมืองใดๆ
ในอดีต ดาร์คแลนด์ปกครองแบบอำนาจนิยม คือมีเลดี้นัวร์เป็นผู้นำสูงสุด ทำให ถึงเเม้ทุกวันนี้ดาร์๕แลนด์จะเป็นประชาธิปไตยเเล้ว แต่ชาวดาร์คก็ยังให้ความเคารพนับถือเเก่เลดี้นัวร์อยางสูงสุดจนใครก็ไม่อาจลวงละเมิดได้ ถึงกระนั้นเลดี้นัวร์ก็ไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองของดาร์คแลนด์ และไม่กระทำตัวเป็นปริปักษ์กับรัฐบาล อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำได้อย่างเต็มที่ ทำให้ดาร์คแลนด์ไม่มีการแบ่งฝักเเบ่งฝ่ายเป็นฝ่ายเจ้า เเละฝ่ายนายกรัฐมนตรี (เหมือนประเทศเทย)
สำหรับดาร์คแลนด์ แบ่งเป็นสภาทั้งสามได้เเก่
1 สภาปกครองสูงสุด ทำหน้าที่บริหาร ซึ่งแบ่งเป็น
สภาฐานันดร(ฝ่ายขุนนางที่มาจากการเเต่งตั้ง)
VS
สภาสามัญชน (ฝ่ายนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และผู้แทนแคว้นที่มาจากการเลือกตั้ง)
2 สภาความมั่นคงแห่งดาร์คแลนด์ ทำหน้าที่ปกป้องอาณาจักร แบ่งเป็น
ฝ่ายกองทัพ ปกป้องอันตรายจากนอกอาณาจักร
และฝ่ายผู้พิทักษ์ ปกป้องอาชญากรรมภายในอาณาจักร
3 สภาตุลาการแห่งดาร์คแลนด์ ทำหน้าที่ควบคุมความยุติธรรม เเบ่งเป็น
ศาลปกครองสำหรับติดสินคดีที่เกี่ยวจ้องกัขขุนนาง ข้าราชการ
และศาลยุติธรรม สำหรับตัดสินคดีทั่วไป
สำหรับปัญหาการปกครองของดาร์คแลนด์ จะพบได้ว่าเลดี้บลูโรสแห่งดารคแลนด์มีบทบาทอย่างสูงในดาร์คแลนด์ สื่อมวลชนเคยวิพากษ์ว่า แท้จริง อำนาจส่วนใหญ่ของดาร์คแลนด์ ยังอยู่ในมือของเลดี้บลูโรส ในฐานะประธานการปกครองสูงสุด แม้จะมีนายกรัััฐมนตรี แต่นายกรัฐมนตรีก็หาได้มีอำนาจสูงสุดไม่ หลายคนมองว่าเป็นการกีดขวางความเป็นประชาธิปไตยของดาร์คแลนด์ และพยายามเรียกร้องให้เลดี้บลูโรสลงจากตำแหน่ง ในขณะที่อีกหลายคนยังยืนยันว่าจำเป็นต้องมีเลดี้บลูโรส
ในชั้นเรียนนี้ แนะนำให้ไปทัศนศึกษา หาความรู้เพิ่มเติมที่
ปราสาทกลางแห่งดาร์คแลนด์
(รินชากุหลาบแจกขุนนางผู้น้อยทุกคน) บทเรียนที่สองนี้แสนจะง่ายดายเสียยิงกว่าง่าย จารีตประเพณีคืออะไร...สิ่งนั้นก็คือสิ่งที่ถูกสืบทอดต่อกันมายาวนาน เเละเห็นว่าดีงามคู่ควรที่จะสืบทอดต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเเต่งกาย, การปฏิบัติต่อกัน, มารยาท, พิธีกรรม, ความเชื่อ
สิ่งเหล่านี้นี่เอง..ถือเป็นคุณค่าของชาวดาร์ค เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษดาร์คคิดค้นขึ้นมา สมควรรักษาไว้ เพื่อเป็นมรดกแด่คนรุ่นหลัง สิ่งเหล่านี้ทำให้ชาวดาร์คมีควาฒโดดเด่นเหนือชาติอื่นนั่นเอง
จารีตประเพณีดาร์คมีมากมายมหาศาล...บางสิ่งอาจจะลบเลือนหายไปตามกาลเวลาบ้าง..แต่บางสิ่งยังคงเหลืออยู่
จารีตเจ็ดประการของชาวดาร์คได้แก่
1 การงับคอและดูดเลือดคือการทักทายโดยปกติของดาร์คแลนด์
2 ชาวดาร์คมีความหลากหลาย มีทั้ง ผี วิญญาณ ภูติ ปีศาจ มนุษย์ เเละอื่นๆก็ตามเเต่
3 ชาวดาร์ครักการท้าประลอง ะหากมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือผู้ตาย ไม่ต้องรับโทษ หากทรัพย์สินใดได้รับความเสียหาย ให้ซ่อมเเซมจนคืนสภาพเดิม
4 ชาวดาร์คแลนด์นิยมเเนะนำตัวเเละไปพูดคุยจิบน้ำชาในวันว่างที่ จัตุรัสดาร์คแลนด์ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชาวดาร์คแลนด์
5 พิธีสำคัญของชาวดาร์คนิยมจัดที่มหาวิหารดาร์คแลนด์ เช่น ชุมนุมพระจันทร์สีเลือด ชุมนุมราตรีไร้จันทร์ ชุมนุมพระจันทร์เต็มดวง เป็นพิธีกรรมของชาวดาร์คที่สืบทอดกันมานาน
6 ชาวดาร์คมีกีฬาสานสัมพันธ์ที่สืบทอดมาแต่บรรพบุรุษคือ อันได้แก่ ดาร์คแลนด์เกมส์ เเละ ดาร์คแลนด์คัพ เป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ของชาวดาร์คแลนด์ ควรแก่การเข้าร่วม
7 แมวเป็นอาหารหลักของชาวดาร์คแลนด์ เป็นสัตวฺ์ที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้
ในชั้นเรียนนี้มีหนังสือสนุกๆ ให้อ่านเล่น
ตำราหัดแต่งตัวหลอนแบบดาร์คแลนด์
ตำราจารีตเจ้าแห่งแมว
ตำราพิธีกรรมอำมหิต
บทเรียนที่ 3 สภาพสังคมและ วิถีชีวิตชาวดาร์ค
ชาวดาร์คแลนด์เท่าเทียมกัน ทุกคนถือเป็นพี่น้องโดยเสมอภาค ต่างมีเสรีภาพที่จะทำิ่งทีตนต้องการโดยไม่กระทบผลเสียต่อผู้อื่น
ชาวดาร์ครักสงบ และ นิยมการอยู่คนเดียวเงียบๆ ในบ้าน หรือเฝ้ามองในมุมมืด ดูผู้คนสนทนากันอย่างเงียบเชียบ ที่จัตุรัส ปลีกวิเวก ห่างจากผู้คนทั่วไป
ในขณะที่ชาวดาร์คอีกหลายส่วน รักสนุก พวกเขาชอบการละเล่น กลั่นเเกล้งกัน และนิยมทำธุรกิจที่บ้าน หรือท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ
ชาวดาร์คบางส่วนมักเก็บกักตัวเองกับอารมณ์เบื้องลึกของจิตใจ เช่นความเศร้า ความสลดหดหู่ พวกเขามักจมดิ่งกับอารมณ์เหล่านี้จนแปลกแยกจากคนทั่วไป
แม้จะมีบัญญัติให้ทุกคนเท่าเทียม แต่ลึกๆในดารคแลนด์ ยังมีสังคมชนชั้น
นั่นก็คือ ชนชั้นสูง ได้เเก่ เหล่าขุนนางระดับสูง ชนชั้นกลาง ได้แก่ นักธุรกิจ เหล่าขุนนางระดับรองลงมา และข้าราชการทั่วไป เเละ ชนชั้นล่าง คือประชาชนธรรมดา
ผลจากการมีสังคมชนชัน เป็นผลมาจากค่านิยมในอดีตที่ยังลบล้างไม่หมด ทำให้เรามักเห็นการกดขี่ข่มเหงผู้คนอยู่บ่อยครั้งในดาร์คแลนด์
ดาร์คแลนด์มีทั้งหมดเจ็ดเเคว้น แต่ละเเคว้นจะมีสภาพวิถีชีวิตที่เเตกต่างกัน อาทิ
เเคว้นรัตติกาลเป็นที่อยู่ของชนชั้นสูงผู้ร่ำรวยและมีหน้ามีตาในสังคม
เเคว้นเนพีอา เป็นที่อยู่ของกลุ่มอำนาจเก่า หรือผู้ดีเ่ก่า
แคว้นบลเลียมมอร์ธ เป็นที่อยู่ของนับรบและขุนนางผู้ซื่อสัตย์และจงรักภัคดี
แคว้นไอร์กลาเซียร์เป็นที่อยู่ของเหล่านักปราชญ์ผู้ชาญฉลาด และรักสงบ
แคว้นโพเทสต้า เป็นที่อยู่ของเหล่าปีศาจผู้รักสนุก และชื่นชอบความบันเทิงทุกรุปแบบ
เเคว้นไฟร์ไอนิชเป็นที่อยู่ของเหล่าผู้ทรงเวทย์ที่นิยมฝึกพลังกันอย่างดุเดือด
และเเคว้นเทียร์ดอลล่า เป็นที่อยู่ของเหล่าชาวดาร์คผู้รักสงบ
ในชั้นเรียนนี้ แนะนำให้อ่าน
คู่มือการใช้ชีีวิตในดาร์คแลนด์ รวมเล่ม ฉบับสมบูรณ์
และท่านจะเห็นวิธีชีวิตชาวดาร์คดียิ่งขึ้น หากไปเยือนที่
ย่านการค้า Dark Disen
ซึ่งเป็นแหล่งรวมสินค้าแบบชาวดาร์ค
บทเรียนที่ 4 ศิลปะดาร์คแลนด์
การจะเป็นชนชั้นสูงที่ดีได้นั้น จะต้องมีความรู้ด้านศิลปะไม่มากก็น้อย
ศิลปะ จะช่วยสจรรโลงจิตใจของพวกเจ้าให้สูงส่งขึ้น
ศิลปะจะช่วยบรรเทาความปวดร้าว และความโศกเศร้าในจิตใจ
ศิลปะนั้นคือมิตรแท้
อย่าคิดอะไรมาก... บทเรียนนี้ขอให้พวกเจ้าไป ไปเข้าร่วมศึกษา
ที่นี่
ในชั้นเรียนนี้ แนะนำให้ไปทัศนศึกษาที่
พิิพิธภัณฑ์แห่งดาร์คแลนด์
หอคอยวรรณกรรมดาร์คแลนด์
หอคอยแห่งเสียงเพลง
บทเรียนที่ 5 กฏหมายดาร์คแลนด์
กฏหมาย เป็นสัญญาร่วมกันของประชาชน เพื่อที่จะได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
เพราะธรรมชาติของมนุษย์นั้น เมื่อมีเสรีภาพเต็มที่ อาจจะทำร้ายกันได้
จึงต้องมีกฏหมายมาจำกัดเสรีภาพของมนุษย์
เพื่อให้อยู่ร่วมกันโดยสงบสุข
ในดารคแลนด์ก็มีกฏหมายเช่นกัน
ในชั้นเรียนนี้ แนะนำให้อ่าน
ประมวลกฏหมายแห่งดาร์คแลนด์
บทเรียนที่ 6 การปกครองดาร์คแลนด์
ดินแดนแห่งนี้มืดมิดซ่อนในม่านหมอกแห่งนี้ทุกคนเท่าเทียม เป็นพี่น้อง ปราศจากชนชั้น ประชาชนที่นี่พูดสิ่งที่คิดได้อย่างเสรี วิพากษ์วิจารณ์ผู้นำได้เต็มที่ เมื่อผู้นำของพวกเขาทำพลาด พวกเขาไม่โกรธเกลียด แต่ลงโทษเพื่อให้สำนึกรู้ว่าเจ้าของอำนาจคือประชาชน....พวกเขารักที่จะช่วยกันพัฒนา พวกเขามีความสุขเมื่อเห็นชาติเจริญ รัฐแต่ละรัฐล้วนปกครองตัวเองตามลักษณะถิ่นของพวกเขา ทีนี่มีคณะผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง คณะซึ่งไม่ได้มุ่งหวังอำนาจหรือการยกย่อง พวกเขาทำงานอยู่เบื้องหลังฉาก ความสุขของประชาและความเจริญของชาติคือคจุดหมายสำคัญ....น่าเสียดายที่ดินแดนนี้มืดมิดและซ่อนในม่านหมอก...คนนอกไม่อาจมาเห็น
นี่คือคำพรรณาของชาวต่างชาติที่หลุดเข้ามาในดาร์คแลนด์ และตัดสินใจฝังร่างตัวเองที่นี่ โดยไม่กลับไปยังประเทศของเขาอีก
ดาร์คแลนด์ปกครองโดยระบบประชาธิปไตยแบบสภา
ซึ่งจะมีการเลือกตั้งปีละ 1 ครั้ง ในทุกวันที่ 28 เดือนพฤษภาคม
โดยเเ่ต่ละพรรคการเมืองจะส่งผู้ลงสมัครเป็นผู้แทนเเคว้นทั้งหกในดาร์คแลนด์
อย่างไรก็ตามดาร์คแลนด์เพิ่งเป็นประชาธิปไตยได้เพียงสามปี ภายใต้การปฏิวัติของเลดี้บลูโรส แห่งดาร์คแลนด์ ที่บุกยึดอำนาจเลดี้นัวร์แห่งดาร์คแลนด์ และควบคุมเลดี้นัวร์ฯไว้ในปราสาทมืด เพื่อมอบอำนาจอธิปไตยให้แก่ชาวดาร์คแลนด์ อย่างไรก็ตาม เลดี้นัวร์ก็ยังถือเป็นผู้นำสูงสุดของชาวดาร์คแลนด์ เพียงเเต่ปราศจากอำนาจทางการเมืองใดๆ
ในอดีต ดาร์คแลนด์ปกครองแบบอำนาจนิยม คือมีเลดี้นัวร์เป็นผู้นำสูงสุด ทำให ถึงเเม้ทุกวันนี้ดาร์๕แลนด์จะเป็นประชาธิปไตยเเล้ว แต่ชาวดาร์คก็ยังให้ความเคารพนับถือเเก่เลดี้นัวร์อยางสูงสุดจนใครก็ไม่อาจลวงละเมิดได้ ถึงกระนั้นเลดี้นัวร์ก็ไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองของดาร์คแลนด์ และไม่กระทำตัวเป็นปริปักษ์กับรัฐบาล อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำได้อย่างเต็มที่ ทำให้ดาร์คแลนด์ไม่มีการแบ่งฝักเเบ่งฝ่ายเป็นฝ่ายเจ้า เเละฝ่ายนายกรัฐมนตรี (เหมือนประเทศเทย)
สำหรับดาร์คแลนด์ แบ่งเป็นสภาทั้งสามได้เเก่
1 สภาปกครองสูงสุด ทำหน้าที่บริหาร ซึ่งแบ่งเป็น
สภาฐานันดร(ฝ่ายขุนนางที่มาจากการเเต่งตั้ง)
VS
สภาสามัญชน (ฝ่ายนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และผู้แทนแคว้นที่มาจากการเลือกตั้ง)
2 สภาความมั่นคงแห่งดาร์คแลนด์ ทำหน้าที่ปกป้องอาณาจักร แบ่งเป็น
ฝ่ายกองทัพ ปกป้องอันตรายจากนอกอาณาจักร
และฝ่ายผู้พิทักษ์ ปกป้องอาชญากรรมภายในอาณาจักร
3 สภาตุลาการแห่งดาร์คแลนด์ ทำหน้าที่ควบคุมความยุติธรรม เเบ่งเป็น
ศาลปกครองสำหรับติดสินคดีที่เกี่ยวจ้องกัขขุนนาง ข้าราชการ
และศาลยุติธรรม สำหรับตัดสินคดีทั่วไป
สำหรับปัญหาการปกครองของดาร์คแลนด์ จะพบได้ว่าเลดี้บลูโรสแห่งดารคแลนด์มีบทบาทอย่างสูงในดาร์คแลนด์ สื่อมวลชนเคยวิพากษ์ว่า แท้จริง อำนาจส่วนใหญ่ของดาร์คแลนด์ ยังอยู่ในมือของเลดี้บลูโรส ในฐานะประธานการปกครองสูงสุด แม้จะมีนายกรัััฐมนตรี แต่นายกรัฐมนตรีก็หาได้มีอำนาจสูงสุดไม่ หลายคนมองว่าเป็นการกีดขวางความเป็นประชาธิปไตยของดาร์คแลนด์ และพยายามเรียกร้องให้เลดี้บลูโรสลงจากตำแหน่ง ในขณะที่อีกหลายคนยังยืนยันว่าจำเป็นต้องมีเลดี้บลูโรส
ในชั้นเรียนนี้ แนะนำให้ไปทัศนศึกษา หาความรู้เพิ่มเติมที่
ปราสาทกลางแห่งดาร์คแลนด์
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น