คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : สาระที่ 5: ภูมิศาสตร์
สาระ​ที่ 5: ภูมิศาสร์
​โย อ.มฤษ์ ศิริวษ์ อ.สุทัศน์ ภูมิรันรินทร์
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
​เรื่อมือทาภูมิศาสร์
​เรื่อมือทาภูมิศาสร์​เป็นอุปร์ที่​ใ้สำ​หรับารศึษาวิาภูมิศาสร์ประ​อบ้วย​เรื่อมือสำ​ัๆ​ันี้ ​แผนที่ ลู​โล ​แผนภาพ ภาพถ่ายทาอาาศ ้อมูลสถิิ ระ​บบำ​หนำ​​แหน่บน​โล ​และ​ระ​บบสารสน​เทศภูมิศาสร์
1. ​แผนที่ ​แผนที่ ือสิ่ที่​เียนลบนพื้นราบ ​โย​ใ้​เส้น สัลัษ์​และ​​เรื่อหมาย่าๆ​ ​เพื่อ​แสลัษะ​ภูมิประ​​เทศ​และ​สิ่่าๆ​ ที่ปราอยู่บนพื้น​โล ​ให้​เห็นอาา​เ ที่ั้ ​และ​วามสัมพันธ์​ในทาพื้นที่อสิ่่าๆ​ ​เหล่านั้น
นิอ​แผนที่ ​แผนที่ที่​เียนึ้นนั้น มีอยู่มามายหลายนิ สุ​แล้ว​แ่ะ​​เียนึ้น​เพื่อ​แสอะ​​ไร ​และ​​ใ้ประ​​โยน์อย่า​ใ ที่สำ​ัๆ​ มีันี้
1. ​แผนที่ายภาพ (Physical Maps) ​เป็น​แผนที่ ที่​แส สิ่ที่​เิ​เอามธรรมาิ ​เ่น ​แผนที่ภูมิประ​​เทศ ​แผนที่ธรีวิทยา ​แผนที่ภูมิอาาศ ​แผนที่ลมฟ้าอาาศ ​แผนที่ทะ​​เล มหาสมุทร ​แผนที่ระ​​แสน้ำ​ ​เป็น้น
2. ​แผนที่วันธรรม (Cultural Maps) ​เป็น​แผนที่ ที่​แสสิ่ที่มนุษย์สร้าสรร์ึ้น ​เ่น ​แผนที่ประ​​เทศ ​แผนที่ัหวั ​แผนที่ทาหลว ​แผนที่​เิน​เรือ ​แผนที่ารบิน ​แผนที่ประ​วัิศาสร์ ​แผนที่​แส​โบราสถาน ​แผนที่​เศรษิ ​แผนที่​โน
ส่วนประ​อบสำ​ัอ​แผนที่
1. พิัภูมิศาสร์ (Geographic Coordinates) พิัภูมิศาสร์ ือำ​หนำ​​แหน่ที่ั้อุหนึุ่​ใบนพื้นผิว​โล ​เพื่อ​ให้สามารถทราบ​ไ้ว่าุนั้นๆ​ ั้อยู่ ที่​ใ ารำ​หนนี้อาศัยำ​หนา ละ​ิู ​และ​ ลอิู
. ละ​ิู (Latitude) ละ​ิูือารำ​หนำ​​แหน่ที่ั้อุหนึุ่​ใบนผิว​โล ว่าอยู่ห่าาศูนย์สูรมาน้อย​แ่​ใ ​และ​ิ่า​เป็นอศา ​โยมี​เส้นสำ​ัันี้
1. ​เส้นศูนย์สูร ( Lat.0 ) ​แบ่​เป็นี​โล​เหนือ ี​โล​ใ้
2. ​เส้นทรอปิออฟ​แน​เอร์ (Lat.23 ½ N ) ​แบ่​เอาาศร้อน​เหนือ-อบอุ่น​เหนือ
3. ​เส้นทรอปิออฟ​แปปริอร์น (Lat.23 ½S ) ​แบ่​เอาาศร้อน​ใ้-อบอุ่น​ใ้
4. ​เส้นอาร์ิ (Lat.66 ½ N ) ​แบ่​เอาาศอบอุ่น​เหนือ-หนาว​เหนือ
5. ​เส้น​แอนาร์ิ (Lat.66 ½ S ) ​แบ่​เอาาศอบอุ่น​ใ้-หนาว​ใ้
. ลอิู(Longitude)ลอิูือารำ​หนำ​​แหน่ที่ั้อุ​ใบนพื้นผิว​โลว่าอยู่ห่าา​เส้น​เมริ​เียน​แร (Prime Meridian) มาน้อย​แ่​ใ ​และ​ิ่า​เป็นอศา ​โยมี​เส้นสำ​ัันี้
1. ​เส้น​เมอริ​เียนปม(Long.0) ​ใ้​เป็น​เส้นำ​หน​เวลามาราานรีนิ ( GMT )
2. ​เส้น​เวันสาล ( International Date Line ) (Long.180)
3. ​เส้นLong.105E ​ใ้​เป็น​เส้นำ​หน​เวลาอประ​​เทศ​ไทย
ประ​​โยน์อ​เส้นละ​ิู​และ​ลอิู
1. ​เพาะ​​เส้นละ​ิู​ใ้บอ​เอาาศอสถานที่่า ๆ​ บน​โล
2. ​เพาะ​​เส้นลอิู​ใ้บอ​เวลาอสถานที่่า ๆ​ บน​โล
3. ถ้าทั้ 2 ​เส้น​ใู้่ัน ะ​บอพิัภูมิศาสร์อสถานที่่า ๆ​ บน​โล
2. ​เส้น​โร​แผนที่ (Map Projections) ​เส้น​โร​แผนที่​เป็นสิ่ำ​​เป็น​ในาร​เียน​แผนที่​เพราะ​พื้นผิว​โลมีลัษะ​​เป็นส่วน​โ้ ​เมื่อะ​​แสลบน​แผนที่ึ่​เป็น​แผ่นระ​าษราบ ็ำ​​เป็นะ​้อมีวิธีาร่าๆ​ ที่ะ​​เียน​เส้น​เมริ​เียน ​และ​​เส้นนานล​ไป​ใน​แผนที่​ให้ถู้อ​ให้มาที่สุ​เท่าที่ะ​ทำ​​ไ้ ้วย​เหุนี้ึ​ไ้มีาริ​เส้น​โร​แผนที่​แบบ่าๆ​ ึ้น ​เพื่อ​ให้สามารถ​เียน​แผนที่ที่มีุสมบัิามที่้อาร​ไ้ ึุ่สมบัิอ​แผนที่ะ​ประ​อบ้วย้อ่าๆ​ ันี้
1) รัษา​เนื้อที่ถู้อามวาม​เป็นริ
2) รัษาระ​ยะ​ทาถู้อามวาม​เป็นริ
3) รัษาทิศทาถู้อามวาม​เป็นริ
4) รัษารูปร่าถู้อามวาม​เป็นริ
​เส้น​โร​แผนที่ที่สำ​ั​ในปัุบันนี้มีอยู่มามาย ​แบ่ออ​ไ้​เป็น 4 ประ​​เภท​ให่ๆ​ ันี้ือ
1. ​เส้น​โร​แผนที่​แบบ​โน​โมนิ (Gnomonic Projection) ​ใ้ำ​หน​เส้นทาบิน
2. ​เส้น​โร​แผนที่​แบบบอนน์ (Bonne’s Projection) รัษา​เนื้อที่ถู้อ
3. ​เส้น​โร​แผนที่​แบบ​โพลิ​โนิ (Polyconic Projection) รัษาระ​ยะ​ทาถู้อ
4. ​เส้น​โร​แผนที่​แบบ​เมอร์​เ​เอร์ (Mercator Projection) รัษาทิศทาถู้อ
มาราส่วนที่​แส​ไว้​ใน​แผนที่มีวิธี​แส 3 วิธีือ
1. ​แสมาราส่วน​เป็นัว​เล ที่​เรียว่า ​เ่น มาราส่วน 1:150,000 หรือมาราส่วน
2. ​แสมาราส่วน​เป็น​เส้น ​เ่น
4. สัลัษ์ าร​แสสิ่่าๆ​ ​ใน​แผนที่​ไม่สามารถ​แส้วยอริ​ไ้ ึำ​​เป็น้อำ​หน​เป็นสัลัษ์ึ้
5. ทิศ ​เป็นารบอ​ให้รู้ว่าสถานที่นั้นั้อยู่ทาทิศ​ใ ​เมื่อ​แส​ไว้​ใน​แผนที่
6. าร​แสวามสู่ำ​อพื้นที่
2. ลู​โล ​โลมีสัานลม ​แ่​ไม่ลมอย่า​แท้ริที​เียว ​เพราะ​​โละ​ป่อออรลา (บริ​เวศูนย์สูร) ​เล็น้อย ​เนื่อา​แร​เหวี่ยที่​เิาารหมุนรอบัว​เออ​โล ทำ​​ให้​เส้นผ่าศูนย์ลาอ​โลวัาั้ว​โล​เหนือถึั้ว​โล​ใ้ยาว 12,714 ม. ​และ​วัที่​เส้นศูนย์สูรยาว 12,757 ม.
ารที่​โลมีสัานลมหาะ​​ให้​แสสัานที่ถู้ออ​โล​ไ้ ้อ​ใ้วิธีสร้าลู​โล (Globe) ึ่​เป็นารำ​ลอนาอ​โล​ให้​เล็ล ​และ​​ใ้​แสสิ่่าๆ​ ที่ปราบนพื้นผิว​โลลบนลู​โล ​เ่น ทวีป ​เาะ​ มหาสมุทร อาา​เประ​​เทศ ที่ั้​เมือ ​เส้นทามนามนส่ ​เป็น้น
3. ​แผนภาพ ​แผนภาพ (diagram) ือ รูปที่​เียนึ้น​เพื่อประ​อบำ​อธิบายปราาร์่าๆ​ ที่​เี่ยว้อับารศึษาวิาภูมิศาสร์ ​เ่น วััรอน้ำ​ าร​เิทะ​​เลสาบรูป​แอ ​เป็น้น าร​ใ้​แผนภาพอธิบายะ​ทำ​​ให้​เ้า​ใ​เรื่อราว​เหล่านั้น​ไ้่ายึ้น
4. ้อมูลสถิิ ​เป็น้อ​เท็ริสำ​หรับ​ใ้​เป็นหลัาน​ในารอ้าอิ้อมูลที่รวบรวม​ไว้ มีทั้ที่​เป็น้อวาม​และ​ัว​เล ​เ่น าราสถิิ ​และ​ราฟ ( ราฟวลม ราฟ​แท่ ราฟ​เส้น )
5. ภาพถ่ายทาอาาศ ารถ่ายภาพทาอาาศ (aerial photography) ือ ารถ่ายภาพาที่สู​ในอาาศ​เหนือพื้น​โล​โย​ใ้​เรื่อบิน หรือบอลลูน ​เมื่อบันทึภาพนั้น​ไว้​แล้ว ึนำ​มา​เรีย่อัน็ะ​​เห็นรายละ​​เอียอสิ่่าๆ​ ที่ปราอยู่ริบนผิว​โล
ภาพถ่ายาาว​เทียม อ่าวุ้ระ​​เบน .ันทุบรี ภาพถ่ายทาอาาศ อ่าวุ้ระ​​เบน .ันทุบรี
าว​เทียมที่วรรู้
Landsat สำ​รวทรัพยารธรรมาิ
Ikonos สำ​รวทรัพยารธรรมาิ
Theos สำ​รวทรัพยารธรรมาิ ( ว​แรอ​ไทยที่​ใ้สำ​รวทรัพยารธรรมาิ )
NOAA อุุนิยมวิทยา
MOS สำ​รวพื้น​โล , พื้นน้ำ​
NPOESS สำ​รวั้ว​โล
7. ระ​บบำ​หนำ​​แหน่บนพื้น​โล ระ​บบำ​หนำ​​แหน่บนพื้น​โล (Global Positioning System GPS) ือ ารนำ​ลื่นสัาาาว​เทียมบอำ​​แหน่มาบอ่าพิัอสิ่่าๆ​ บนพื้น​โล ระ​บบนี้ึมีประ​​โยน์่อารบอำ​​แหน่​และ​ทิศทาาร​เินทาทั้ทาบ ทาน้ำ​ ​และ​ทาอาาศ
8. ระ​บบสารสน​เทศภูมิศาสร์ ระ​บบสารสน​เทศภูมิศาสร์ (Geographic Information System GIS) ือ ​เรื่อมือทาภูมิศาสร์ที่่วย​ในารั​เ็บ ัาร ัทำ​ วิ​เราะ​ห์ ทำ​​แบบำ​ลอ​และ​าร​แส้อมูล​เิพื้นที่้วยระ​บบอมพิว​เอร์ ระ​บบสารสน​เทศภูมิศาสร์ ​เป็น​เรื่อมือที่มีประ​สิทธิภาพสูที่่วย​ในารวิ​เราะ​ห์​และ​วา​แผน​ในาร​แ้ปัหาหรือพันา​ใน้าน่าๆ​ ทั้ภารั​และ​​เอน
ส่วนประ​อบอ​โล
ส่วนประ​อบอ​โล
ทวีป มหาสมุทร ิ​แอล ิมา ​แมน​เิล
ส่วนประ​อบอ​โล ะ​​เห็นว่ามีลัษะ​​เป็นั้นล้ายหัวหอม
​โลึ่​เป็นทรลมรี ประ​อบ้วยส่วน่าๆ​ ันี้
1. ​แบริส​เฟียร์ ( Barysphere ) หรือ​แ่น​โล ​เป็นส่วนที่มีน้ำ​หนั​และ​วาม​แน่นมาที่สุ ประ​อบ้วย​เหล็​และ​นิ​เิล ​แบ่ออ​เป็น 2 อน ือ ​แ่น​โลส่วนนอหนาประ​มา 2,000 ิ​โล​เมร มีลัษะ​​เป็นอ​เหลว​เรียว่า หินหนื ( Magna) มีวาม​แน่นสู ​และ​​แ่น​โลส่วน​ในหนา 1,370 ิ​โล​เมร มีวาม​แน่นมายิ่ึ้น ​และ​มีอุหภูมิสูมาถึ 4,0000. มีส่วนประ​อบ​เหมือน​แ่น​โลส่วนนอ​แ่มีวาม​แน่นมานมีลัษะ​​เป็นอ​แ็ ​เรียว่า หิน​ไนฟี ( nife )
2. ​เม​โส​เฟียร์ ( Mesosphere) หรือ​เนื้อ​ในอ​โล ( mantle) อยู่ระ​หว่า​แ่น​โล​และ​​เปลือ​โล มีวามหนา 2,900 ิ​โล​เมร มีวามหนา​แน่นน้อยล
3. ธรีภา ( Lithosphere) ือ ส่วนที่​เป็น​เปลือ​แ็ มีวามหนา 16-40 ม.บนทวีป ถ้านับา​ใ้ท้อทะ​​เลมหาสมุทรอาหนา 5-50 ม. ​แบ่ออ​เป็น 2 ั้น ั้น​แร​เรียว่า หินิ​แอล (sial ) ประ​อบ้วยธาุิลิา (silica) ​และ​อลูมินา (alumina) ​เป็นหินที่มีวาม​แน่นน้อย ั้นล่า​เรียว่า หินิมา (sima) ประ​อบ้วยิลิา (silica) ​และ​​แมนี​เียม (magnesium ) มีวาม​แน่นมาึ้น
​เปลือ​โละ​มีวามหนามาบริ​เวที่​เป็นทวีป​โย​เพาะ​ภู​เาสู ​แ่ส่วนที่​เป็นท้อทะ​​เล​เปลือ​โละ​บา ​และ​มี​แ่ั้นหินิมา​เท่านั้น
4. อุทภา (hydrosphere ) ือ ส่วนที่​เป็นพื้นน้ำ​อ​โล​ไ้​แ่น้ำ​​ในมหาสมุทร ทะ​​เล ทะ​​เลสาบ ​แม่น้ำ​
น้ำ​​ใ้ิน รวมทั้​ไอน้ำ​​ในอาาศ้วย
5. บรรยาาศ (atmosphere ) ือ ส่วนที่​เป็น๊าที่ห่อหุ้ม​โลอยู่ บรรยาาศส่วน​ให่ (97%) อยู่ระ​ยะ​วาม
สู 29 ิ​โล​เมร าผิว​โล ​แ่อาะ​​แผ่ึ้น​ไปถึวามสู 10,000 ม.
6. ีวภา (biosphere) หมายถึ ส่วนอ​โลึ่​เป็นที่อาศัยอสิ่มีีวิ ​ไ้​แ่ พืพรรธรรมาิ สัว์บ สัว์น้ำ​ ​และ​มนุษย์ที่​เป็นผู้​ใ้ทรัพยาร่าๆ​
ทำ​​เลที่ั้ นา ​และ​พรม​แนอประ​​เทศ​ไทย
ประ​​เทศ​ไทยั้อยู่​ในทวีป​เอ​เียทา้านะ​วันออ​เีย​ใ้ส่วนที่​เป็นภาพื้นทวีป ​โยมีที่ั้สัมพันธ์​และ​ที่ั้สมบูร์ันี้
1. ้าน​เหนือสุ อยู่ที่อำ​​เภอ​แม่สาย ัหวั​เียราย ละ​ิู 20 อศา 27 ลิปา​เหนือิ่อับลาว​และ​พม่า
2. ้าน​ใ้สุ อยู่ที่อำ​​เภอ​เบ ัหวัยะ​ลา ละ​ิู 5 อศา ลิปา​เหนือ ิ่อับมา​เล​เีย
3. ้านะ​วันออสุ อยู่ที่อำ​​เภอพิบูลมัสาหาร ัหวัอุบลราธานี ลอิู 105 อศา 37 ลิปาะ​วันออ
ิ่อับลาว ัมพูา​และ​ทะ​​เลีน​ใ้ (อ่าว​ไทย)
4. ้านะ​วัน อยู่ที่อำ​​เภอ​แม่สะ​​เรีย ัหวั​แม่ฮ่อสอน ลอิู 97 อศา 21 ลิปาะ​วันออ ิ่อับพม่า​และ​ทะ​​เลอันามัน
พื้นที่รวมอประ​​เทศ​ไทยมีประ​มา 513,115 าราิ​โล​เมร ( ​ให่​เป็นอันับที่ 3 ​ในภูมิภา​เอ​เียะ​วันออ​เีย​ใ้
รอาาอิน​โนี​เีย​และ​พม่า )
ลัษะ​ทาายภาพ​และ​ทรัพยารธรรมาิ้านธรีภา
ธรีภา (lithosphere ) ือส่วนที่​เป็น​เปลือ​แ็อ​โล มีพื้นที่ร้อยละ​ 29 อผิว​โลทั้หม ประ​อบ้วยหิน ิน ​แร่​และ​ธาุ
ธาุ่าๆ​ ที่ประ​อบ​เป็น​เปลือ​โลมีมาว่า 98 ธาุ ​แ่ที่มีมาที่สุมี​เพีย 20 ธาุ ำ​​แน​ไว้ันี้
(1) ออิ​เน 46.71% (2) ิลิอน 27.69% (3) อลูมิ​เนียม 8.07% (4) ​ไอร์ออนหรือ​เหล็ 5.50 % (5) ​แล​เียม 3.65% (6) ​โ​เียม 2.75% (7) ​โป​แส​เียม 2.58% (8) ​แมนี​เียม 20.8 % | (9) ​ไา​เนียม 0.62% (10) ​ไฮ​โร​เน 0.14 % (11) ฟอสฟอรัส 0.13% (12) าร์บอน 0.094% (13) ​แมานิส 0.09 % (14) ัล​เฟอร์หรือำ​มะ​ถัน 0.08 % (15) ​แบ​เรียม 0.05% (16) ลอรีน 0.045% | (17) ​โร​เมียม 0.035% (18) ฟลูออรีน 0.029% (19)​เอร์อน 0.025% (20) นิ​เิล 0.019% ธาุอื่น ๆ​ 0.063 % รวม 100.000% |
​ในำ​นวนธาุทั้ 20 ธาุนี้มีที่สำ​ัอยู่ 8 ธาุ ือ ออิ​เน ิลิอน อลูมิ​เนียม ​เหล็ ​แล​เียม ​โ​เียม​โป​แส​เี่ยม ​แม​เน​เี่ยม
หิน​เปลือ​โล
หิน​เปลือ​โล​แบ่ออ​เป็น 2 ั้น ือ ั้นหินิ​แอล ​และ​ั้นหินิมา ​และ​ยั​แบ่ามสา​เหุที่​เิ​เป็น
3 นิ ือ หินอันี หินั้น ​และ​หิน​แปร
.หินอันี (Igneous Rocks) ​เป็นหินที่มี​โรสร้าอ​เนื้อหิน​เป็นผลึ ​เิาาร​แ็ัวอหินหนื (magma) าภาย​ใน​โล ​แบ่ออ​เป็น 2 นิ
1. หินอันี​แทรอน (Intrusive Igneous Rocks) หรือหินอันีภาย​ใน ​เิาารันัวอหินหนืึ้นมาาที่​เิมหรืออา​แทร​เ้า​ไป​ในหินนิอื่น​และ​่อมา​เย็นัว​และ​​แ็ัวอยู่ภาย​ใน​เปลือ​โล มีลัษะ​​และ​ื่อ​เรีย่าัน ันี้
ลัษะ​ที่​เิาาร​เย็นัวอหินอันี
2. หินอันีพุ (extrusive igneous rocks) หรือ หินอันีภายนอ ​เิาหินหนืออมา​เย็นัว​และ​​แ็ัวภายนอ​เปลือ​โล ​โยออมาะ​ภู​เา​ไฟระ​​เบิ ​เ่น หิน​แอนี​ไท์ บาอลท์ ออบิ​เียน พิวมิส หิน​ไพ​โรลาสรวมทั้ บอมบ์ภู​เา​ไฟ (volcanic bombs) ี้​เถ้าภู​เา​ไฟ (volcanicash) ​และ​ฝุ่นภู​เา​ไฟ (volcanic dust)
. หินั้นหรือหินะ​อน (Sedimentary Rocks)
หินั้น​เป็นหินที่​เิาาระ​อน​และ​ารทับถมอสาร่าๆ​ ​ใน​เวลาที่่าันสาร่าๆ​ ​โยมีสาร​เื่อมอนุภาะ​อน ​เ่น ิลิา ปูน ิน​เหนียว ​เหล็ออ​ไ์​และ​อลูมินัม หินั้นมี 3 ประ​​เภท ันี้
1. หินั้นที่​เิาระ​บวนารทา​เมี (Chemical Group) หรือ ​เิาารทับถมอสารละ​ลาย ​เ่น ​เลือหิน หินปูน
2. หินั้นที่​เิาารบวนารทาลศาสร์ (Mechanical Group) หรือ ​เิาารทับถมอะ​อน ​เ่น หินินาน หินทราย
3. หินั้นที่​เิาระ​บวนารทาีวะ​ (Biological Group) หรือ ​เิาารทับถมอสิ่มีีวิ ​เ่น ปะ​ารั ถ่านหิน
.หิน​แปร ( Metamorphic rocks )
หิน​แปร ​เิาหินอันีหรือหินั้นที่​เปลี่ยนรูปร่า ​และ​ส่วนประ​อบ ​ไป​เพราะ​วามร้อน​และ​วามันภาย​ใน​โล
​เ่น หินนวน ​แปรมาาหินินาน หินอ่อน ​แปรสภาพมาาหินปูน หิน​ไนส์ ​แปรสภาพมาาหิน​แรนิ
หมู่หิน​ในประ​​เทศ​ไทย ประ​​เทศ​ไทย มีหิน​แบ่ามลัษะ​าร​เิ 3 นิ ​ไ้​แ่ หินอันี หินั้น ​และ​ หิน​แปร ​แ่ ยัมีาร​แบ่หมู่หินามลัษะ​ธรีาล ​ในประ​​เทศ​ไทยมีหมู่หินสำ​ั ๆ​ ที่​แบ่ามธรีาล 7 หมู่ (​เรียอายุา​ใหม่สุ​ไป​เ่าสุ) ันี้ หมู่หินระ​บี่ หมู่หิน-​โรา หมู่หินลำ​ปา หมู่หินราบุรี หมู่หินะ​นาวศรี หมู่หินทุ่ส​และ​หมู่หินะ​รุ​เา
ารา​แสหมู่หิน​ในประ​​เทศ​ไทย (​แบ่ามธรีาล)
มหายุ | ยุ | อายุ/ ล้านปี | หมู่หิน | ลัษะ​​เ่น | สิ่มีีวิ |
ี​โน​โอิ(ที่ราบ) | วอ​เอร์นารี | 2 3 | - | ินะ​อนทับถมันยั​ไม่​แ็ัว | มนุษย์ |
​เทอร์​เียรี | 70 | ระ​บี่ | หิน​แ็ึ่ร่วน หินินานมีถ่านหิน / น้ำ​มัน​แทร​ในั้นหิน | สัว์​เลี้ยลู้วยนม | |
มี​โ​โอิ(ที่ราบสู) | รี​เ​เียส | 135 | ​โราลำ​ปา | หินทราย หินรวมน หินินาน มีหิน​เลือ​แทร | สัว์​เลื้อยลาน |
ยู​แรสสิ | 180 | หินทราย หินรวมน หินินาน มีหินภู​เา​ไฟ​แทร | (​ไ​โน​เสาร์)ป่าสน ​เฟิร์น | ||
​ไทร​แอสสิ | 225 | ||||
พา​เล​โอ​โอิ (ภู​เา) | ​เปอร์​เมียน | 270 | ราบุรี | หินปูนสี​เทาอ่อนสลับหินนิหนึ่ | สัว์รึ่บ / น้ำ​ |
าร์บอนิ​เฟอรัส | 350 | ะ​นาวศรี | หินทราย หินินาน มีหิน​แปร​แทร ​เ่น หินนวน | สัว์น้ำ​ / พืน้ำ​ | |
ี​โว​เนียน | 400 | ||||
​ไลู​เรียน | 440 | ทุ่ส | หินปูนสี​เทา​เ้ม ​เนื้อหิน​แน่น อยู่ัน​เป็นั้นหนา ๆ​ | สัว์​ไม่มีระ​ู | |
ออร์​โวิ​เียน | 500 | ||||
​แม​เบรียน | 600 | ะ​รุ​เา | หินทรายสี​แ หินินานสี​แ | สัว์ั้น่ำ​ | |
พรี​แม​เบรียน | 3,000 | ​ไม่มีั้นหิน​ใน​ไทย มี​แ่​เศษหิน​แทรอยู่​ในั้นหิน่า ๆ​ | ​ไม่มีสิ่มีีวิ |
​โรสร้าทาธรีวิทยาอประ​​เทศ​ไทย ประ​​เทศ​ไทยมี​โรสร้าทาธรี 3 ประ​​เภท ​ไ้​แ่ ที่ราบ ที่ราบสู ​และ​ภู​เา
1. ที่ราบ ​เป็น​โรสร้าทาธรีวิทยาที่​ใหม่ที่สุ ​เิ​ในมหายุี​โน​โอิ ารทับถมอะ​อนมัะ​ยั​ไม่​แ็ัว ​เรียว่า “ะ​อนวอ​เอร์นารี” ถ้า​แ็ัว​เป็นหิน ​เรียว่า “หินระ​บี่”
2. ที่ราบสู ​เป็น​โรสร้าทาธรีวิทยาลา ๆ​ ​เิ​ในมหายุมี​โ​โอิ หมู่หินที่พบ​เป็นพวหมู่หิน ลำ​ปา​และ​หมู่หิน​โรา
3. ภู​เา ​เป็น​โรสร้า​เ่า​แ่ที่สุ ​เิ​ในมหายุพา​เล​โอ​โอิ หมู่หินที่พบ​ในบริ​เวภู​เา​เป็นหมู่หินราบุรี หมู่หินะ​นาวศรี หมู่หินทุ่ส ​และ​หมู่หินะ​รุ​เา
ารผัน​แปรอ​เปลือ​โล
​เปลือ​โลมีารผัน​แปร​เปลี่ยน​แปลลอ​เวลา ทั้​ในระ​ยะ​​เวลาสั้น หรือ​เิ่อ​เนื่อัน​เป็น​เวลานานๆ​ ​โยมีพลั่า ๆ​ ที่ทำ​​ให้​เิารผัน​แปร​เปลี่ยน​แปลอ​เปลือ​โล 2 นิ ือ
1. พลัที่​เิภาย​ใน​โล ภาย​ใน​โลยัร้อนอยู่ พลัวามร้อนนี้่อ​ให้​เิาร​เปลี่ยน​แปลอ​เปลือ​โลอย่ารว​เร็ว ​โรสร้าอ​เปลือ​โล​เปลี่ยน​แปล​ในรูปอ​แผ่นิน​ไหว​และ​ภู​เา​ไฟระ​​เบิ ​เรียว่า ารผัน​แปร​โยระ​บวนาร​เท​โทนิ (Tectonic Process) หรือระ​บวนาร​แปร​โรสร้า
2. พลัที่มาาภายนอ​โล ​เป็นพลัวามร้อนที่​ไ้รับาวอาทิย์ พลัวามร้อนนี้ะ​ส่ผ่านัวาร่าๆ​ ​เ่น ฝน ​แม่น้ำ​ น้ำ​​ใ้ิน ลื่นทะ​​เล ธารน้ำ​​แ็ ลม มาทำ​​ให้พื้นผิว​โล​เิารผัน​แปร​เปลี่ยน​แปลึ่​เป็นาร​เปลี่ยน​แปลอย่า้าๆ​ ​เรียารผัน​แปรนินี้ว่า ารผัน​แปร​โยระ​บวนารัระ​ับ (Gradational process)
ารผัน​แปร​โยระ​บวนาร​เท​โทนิ (Tectonic process)
1. ระ​บวนาร​เลื่อนที่อหินละ​ลาย (Volcanism) หรือารประ​ทุอภู​เา​ไฟ ​เิาารันอสารละ​ลายอ​เหลว (magma)ึ้นมา้าบน หรือภู​เา​ไฟระ​​เบิ ภู​เา​ไฟ​แบ่ออ​เป็น 3 นิ ​ไ้​แ่
(1) ภู​เา​ไฟมีพลั (active volcano) ือภู​เาที่มีารปะ​ทุ​เิึ้นบ่อย​และ​อาปะ​ทุอี​ไ้ ​เ่น ​เฮ​เลน
(2) ภู​เา​ไฟสบ (dormant volcano) ือภู​เา​ไฟที่​ไม่​ไ้ปะ​ทุมา​เป็น​เวลานานมา ​เ่น ฟูิ
(3) ภู​เา​ไฟสิ้นพลั (extinct volcana) ือภู​เา​ไฟที่​ไม่​เยมีารปะ​ทุ​เลยั้​แ่มีมนุษย์​เิึ้นมา​ใน​โล ​เ่น ภู​เา​ไฟ​ใน​ไทย
ผลที่​เิาภู​เา​ไฟระ​​เบิ ​ไ้​แ่ภูมิประ​​เทศ ันี้
(1) น้ำ​พุร้อน (
ี​เอร์ (geysers) ​เป็นน้ำ​พุร้อนที่มี๊า​และ​​ไอน้ำ​พุ่ึ้นมา้วยำ​ลั​แร​เป็นพั ๆ​
(2) ภู​เา​ไฟ​โลน (mud volcano) ือ​เนินินที่มีน้ำ​​โลน​และ​ทรายออมาทับถมรอบปล่อภู​เา​ไฟ
(3) ทะ​​เลสาบปาปล่อภู​เา​ไฟ ​เ่น ​เร​เอร์​เล (
(4) ​แหล่​แร่ำ​มะ​ถัน ฟอสฟอรัส ​และ​ มีินอุมสมบูร์​เหมาะ​​แ่าร​เพาะ​ปลู
(5) ทำ​ลายีวิมนุษย์​และ​ทรัพย์สินบารั้รุน​แรทำ​​ให้​เิ​แผ่นิน​ไหว
(6) ภู​เา​ไฟระ​​เบิ​ในทะ​​เลทำ​​ให้​เิ​เาะ​ ​และ​ ลื่นสึนามิ
2. ระ​บวนาร​เลื่อน​ไหว​และ​าร​เลื่อนระ​ับอหิน​เปลือ​โล (Diastrophism) หรือ ​แผ่นิน​ไหว ือ ารสั่นสะ​​เทือน หรือาร​เลื่อน​ไหวอ​เปลือ​โล ​แผ่นิน​ไหวมีลัษะ​สำ​ั 3 นิ
(1) รอย​เลื่อนระ​ับ (fault) ือาร​เลื่อน​ไหวอ​เปลือ​โลมีลัษะ​​เลื่อน​ไปามระ​นาบ​เลื่อน (fault line) ระ​นาบ​เลื่อนอา​เป็น​แนวั้หรือ​แนวนาน็​ไ้
รอย​เลื่อนระ​ับมีลัษะ​่า ๆ​ ือ
() รอย​เลื่อนธรรมา (nomal fault) () รอย​เลื่อน​เหลื่อม (transcurrent fault)
()
รอย​เลื่อนระ​ับส่วนมาะ​​เิับ้อนัน ทำ​​ให้​เิภูมิประ​​เทศันี้ รา​เบน (graben) พื้นที่​แบที่ล่ำ​ลระ​หว่ารอย​เลื่อนสอรอย ถ้าลึมา​และ​มีน้ำ​​ไปัอยู่​เิ​เป็น ทะ​​เลสาบ​แอ่ (basin lakes) ถ้ารา​เบนมีนา​ให่ ​เรียว่า หุบ​เาทรุ (rift valley) ส่วนที่ยึ้นระ​หว่ารอย​เลื่อนสอ​แห่ : ​เรียว่า ฮอร์สท์ (horst) หรือ บล็อ (block) ​เิ​เป็นภู​เาหรือที่ราบสู มียอ​แบนราบ​แ่้าน้าัน​และ​ร ​เ่น ภูระ​ึ ภู​เรือ ที่ัหวั​เลย
(2) รอย​โ้ (fold) ​เป็นาร​เลื่อน​ไหวอ​เปลือ​โล ทำ​​ให้​เปลือ​โลมีลัษะ​​เป็นลอน​เป็นลื่นรอย​โ้​เิา​แรอั​ใน​แนวนอน ​เ่น ​เทือ​เา​ในภา​เหนือ ะ​วัน​และ​​ใ้อ​ไทย ​และ​อา​เิาวามันอน้ำ​หนัะ​อนที่ทับถมบนผิว​โล
(3) รอย​โ่อ (warp) มีลัษะ​ล้ายรอย​โ้ ​แ่​เป็นาร​เลื่อนที่ ๆ​ ​ไม่รุน​แร ทำ​​ให้​เิาร​เปลี่ยน​แปลอ​เปลือ​โลบนพื้นที่ว้า​และ​​ใ้​เวลา​เป็นพัน ๆ​ ปี ่อนที่ะ​ปราผล ทำ​​ให้​เิภูมิประ​​เทศ​เป็น​เนิน​และ​​แอ่
​แผ่นิน​ไหว​เิา
(1) ​แรันาภาย​ใน​โล ​เ่น ภู​เา​ไฟระ​​เบิอย่ารุน​แร
(2) รอย​เลื่อนอ​แผ่น​เปลือ​โล ​เ่น ่อนาร​เิสึนามิ​ในมหาสมุทรอิน​เีย
(3) ารถล่ม ​เ่น หลัาถ้ำ​ถล่ม ​เหมือถล่ม ​แผ่นินถล่ม หิมะ​ถล่ม
​เรื่อมือวั​แผ่นิน​ไหว ​เรียว่า ​ไส​โมมิ​เอร์ (seismometer) ะ​บันทึวาม​แรอ​แผ่นิน​ไหว​เป็น​เส้นราฟ ​เรียว่า ​ไส​โมราฟ (seismograph) ​โยมีหน่วยวามรุน​แร ​เรียว่า ริ​เอร์
าร​เิ​แผ่นิน​ไหวมีผล่อลัษะ​อพื้นทวีป​และ​พื้นน้ำ​ันี้
(1) รอย​โ้ทำ​​ให้​เิภู​เาอ​โล ​เ่น ​เทือ​เาหิมาลัย ​เทือ​เา​ในภา​เหนือ ภาะ​วัน​และ​ภา​ใ้อ​ไทย
(2) ​เิภู​เาบล็อ (block หรือ fault mountains) ​เ่น ภูระ​ึ ภูหลว ภู​เรือ
(3) ​เิหุบ​เาธรรมา รา​เบน ​และ​หุบ​เาริฟท์ ​เ่น ทะ​​เลสาป​เี ทะ​​เลสาบ​ไบาล ทะ​​เลสาบวิอ​เรีย
(4) ทำ​​ให้ทาน้ำ​​ใ้ินถูัา​เป็นน้ำ​บาาล
(5) ​แผ่นิน​ไหว​ในท้อทะ​​เลทำ​​ให้​เิลื่นสึนามิ (tsunamis) ทำ​ลายีวิมนุษย์​และ​ทรัพย์สินทั้ทาร​และ​ทาอ้อม
(6) ทำ​​ให้​เิ​แผ่นิน​เลื่อน ​แผ่นินถล่ม หรือพื้นที่​เาะ​ยุบม
ารผัน​แปรอ​เปลือ​โล​โยระ​บวนารัระ​ับ (Gradational Process)
​เป็นาร​เปลี่ยน​แปลอย่า้าๆ​ ที่ะ​ทำ​​ให้ระ​ับอ​เปลือ​โล​เสมอัน ​โย​ใ้พลัานาวอาทิย์ ึ่มีผลทั้ทาร​และ​ทาอ้อม ร่วมับพลั​แรึูอ​โล
ัวระ​ทำ​ที่ทำ​​ให้​เปลือ​โล​เปลี่ยน​แปลอย่า้าๆ​ ( ระ​บวนารัระ​ับ )
1. ฝน ทำ​​ให้​เิ ภู​เาถล่ม ​แผ่นินถล่ม หุบ​เา ​เสาหิน ( หน้าินสึร่อน ) ​โลน​เลื่อน น้ำ​ ร่อน้ำ​ ​แม่น้ำ​ 2. ​แม่น้ำ​ ทำ​​ให้​เิ น้ำ​ ​แ่น้ำ​​โน ที่ราบ ​โร​เา ( ​แนยอน ) ทะ​​เลสาปรูป​แอ ( ุ ) ุมภลัษ์ ่อ​เาา
3. น้ำ​​ใ้ิน ทำ​​ให้​เิ น้ำ​พุ น้ำ​พุร้อน ี​เอร์ ถ้ำ​​ใ้ิน หินอหินย้อย ​ไม้ลาย​เป็นหิน บ่อน้ำ​บาาล
4. ลม ทำ​​ให้​เิ ​แอ่​ในทะ​​เลทราย ​โอ​เอิส ​โหินรูป​เห็ สันทราย หน้าินสึร่อน ิน​เลอส
5. ธารน้ำ​​แ็ ทำ​​ให้​เิ ที่ราบ ทะ​​เลสาบ ฟยอร์
6. ลื่น ทำ​​ให้​เิ ายหา ถ้ำ​ทะ​​เล ถ้ำ​ลอ หน้าผาทะ​​เล สันทราย ลาูน ​เาะ​
ที่ราบ (Plain)
1. ที่ราบายฝั่ทะ​​เล ือ ที่ราบที่อยู่ิับายฝั่ทะ​​เล ​เิาารยัวอ​เปลือ​โลหรือาร ทับถมอะ​อน ​เ่น ที่ราบรอบอ่าว​ไทย ที่ราบายฝั่อันามัน
2. ที่ราบ​เิภู​เารูปพั ือ ที่ราบที่อยู่บริ​เว​เิ​เา ​เิาะ​อนที่​แม่น้ำ​พามาาภู​เาทับถมัน ​เ่น บริ​เว​แอ่ที่ราบ​ในภา​เหนือ
3. ที่ราบลุ่ม​แม่น้ำ​ ือ ที่ราบ​เิาารทับถมอะ​อนบริ​เว 2 ฟาฝั่​แม่น้ำ​​และ​ารั​เาะ​ ​ไ้​แ่
ที่ราบน้ำ​ท่วมถึ ​เ่น ลุ่ม​แม่น้ำ​​เ้าพระ​ยาั้​แ่นรสวรร์ถึอ่าว​ไทย
ที่ราบินอนสาม​เหลี่ยมปา​แม่น้ำ​ ​เ่น ที่ราบภาลาอนล่า ลุ่ม​แม่น้ำ​​เ้าพระ​ยา ั้​แ่ัยนาทถึอ่าว​ไทย
ที่ราบั้นบัน​ไ ​เ่น ที่ราบภาลาอนบน​และ​ที่ราบลุ่ม​แม่น้ำ​ป่าสั
ที่ราบลูฟู ​เ่น ที่ราบภาลาอนบน
ที่ราบสู (Plateau) ​ในประ​​เทศ​ไทยมีที่​เียว​ในภาะ​วันออ​เีย​เหนือ ​เรียว่า “ที่ราบสู​โรา” ​เิาารยัวอ​เปลือ​โล​ใ้ทะ​​เล ที่​เื่อ​เ่นนี้​เพราะ​สภาพอิน​เ็ม ฟอสิล ​และ​​โรสร้าอหิน​เหมือน​เปลือ​โล​ใ้อ่าว​ไทย ที่ราบสูนี้​เป็นที่ราบสูรูป​โ๊ะ​หรือที่ราบสูทวีป
ภู​เา (Mountain) ​ไ้​แ่
1. ​เทือ​เาที่​เิาราย​โ้ ​เ่น ​เทือ​เา​ในภา​เหนือ ภาะ​วัน ภา​ใ้
2. ภู​เายอัหรือภู​เาบล๊อ ​เ่น ภูระ​ึ ภูหลว ภู​เรือ ภูี้​เถ้า ​ในัหวั​เลย
3. ภู​เารูป​โม ​เ่น ภู​เา​โ ๆ​ ​ในภาลาอนบน​และ​อย​เ่า
4. ภู​เา​ไฟ ​เ่น ภูพนมรุ้ ภูอัาร ภูระ​​โ (บุรีรัมย์) ม่อนำ​ปา​แ ม่อนหินฟู (ลำ​ปา)
ทะ​​เลสาบ (Lake) ​ไ้​แ่
1. ทะ​​เลสาบายฝั่ทะ​​เล (Lagoon) ่น อ่าวุ้ระ​​เบน ัหวัันทบุรี ทะ​​เลสาบสลา ัหวัสลา
2. ทะ​​เลสาบปาปล่อภู​เา​ไฟ (Creter Lake) ​เ่น ทะ​​เลสาบบนภูระ​​โ ัหวับุรีรัมย์
3. ทะ​​เลสาบที่​เิาารทรุัวอ​เปลือ​โล ​เ่น ว๊านพะ​​เยา บึบอระ​​เพ็ หนอหาน
4. ทะ​​เลสาบที่มนุษย์สร้าึ้น (Reservoir) ​เ่น อ่า​เ็บน้ำ​ ทะ​​เลสาบ​เหนือ​เื่อน
5. ทะ​​เลสาบ​เิาาร​เปลี่ยนทา​เินอ​แม่น้ำ​ (Ox Box Lake) ​เ่น ุ่า ๆ​ ​ในภาอีสาน
ายฝั่ทะ​​เล (Shore Line) ​ไ้​แ่
1. ายฝั่ทะ​​เล​โผล่หรือายฝั่ทะ​​เลยัว (Emerged Coast Line) ​เ่น ายฝั่้านอ่าว​ไทย
2. ายฝั่ทะ​​เลมหรือายฝั่ทะ​​เลทรุ (Submerged Coast Line) ​เ่น ายฝั่ทะ​​เล้านอันามัน
3. ายฝั่ทะ​​เล​เป็นลา ​เิาารทับถมอะ​อน ​เ่น ​แหลมะ​ลุมพุ ัหวันรศรีธรรมรา
​เาะ​ (Island) ​ไ้​แ่
1. ​เาะ​ริมทวีป อยู่​ใล้​แผ่นิน​ให่​เิาารผัน​แปรอ​เปลือ​โล ​เ่น ​เาะ​่า ๆ​ ​ในน่าน น้ำ​​ไทย
2. ​เาะ​ลามหาสมุทร อยู่​ไล​แผ่นิน​ให่​เิาารทับถมอปะ​ารัหรือภู​เา​ไฟ​ใ้ทะ​​เล ​เาะ​ประ​​เภทนี้​ไม่มี​ใน​ไทย
ภูมิประ​​เทศ​ในภูมิภา่า ๆ​ อประ​​เทศ​ไทย
ภา​เหนือ มีพื้นที่ส่วน​ให่​เป็น​เทือ​เาสู ​เิารอย​โ้ (Fold) ประ​อบ้วย​เทือ​เาหลวพระ​บา ผีปันน้ำ​ ถนนธัย ​และ​​แนลาว ​เทือ​เา​เหล่านี้​เป็น้นำ​​เนิอ​แม่น้ำ​ที่​ไหลล​แม่น้ำ​​โ ​แม่น้ำ​สาละ​วิน ​และ​​แม่น้ำ​​เ้าพระ​ยา ยัมีภูมิประ​​เทศที่​เป็น​แอ่ที่ราบ​เิาะ​อนที่​แม่น้ำ​พัพามาาภู​เา ทับถมบริ​เวที่ราบ​เิ​เา​เป็นหย่อม ๆ​ ​เิ​เป็น​แอ่ที่ราบที่มีวามอุมสมบูร์สู ึมีุมน​เมือ​เิึ้น​ในบริ​เวนี้
ภาลา มีพื้นที่ส่วน​ให่​เป็นที่ราบลุ่ม​แม่น้ำ​ (ที่ราบลูฟู ที่ราบั้นบัน​ไ ที่ราบน้ำ​ท่วมถึ ที่ราบินอนสาม​เหลี่ยมปา​แม่น้ำ​) ​เิาินะ​อนที่​แม่น้ำ​พัพามาทับถมมีวามอุมสมบูร์มา ึ​เป็นที่ั้อุมนนา​ให่อยู่หลาย​แห่ นอานี้ยัมีที่สูบริ​เวอบ้านะ​วันออ​และ​้านะ​วัน ึ่​เป็น​เปลือ​โลั้​เิมอภาลา ​ในภูมิภานี้มี​แม่น้ำ​สาย​ให่ ​ไหลผ่าน ​เ่น ​แม่น้ำ​​เ้าพระ​ยา ป่าสั ​และ​ ลพบุรี ล้วน​แ่​เป็น​แม่น้ำ​ที่​ไหลาอนบนอภูมิภาลสู่อ่าว​ไทยอนล่าอภูมิภา
ภาะ​วันออ มีพื้นที่ส่วน​ให่​เป็นที่ราบายฝั่ทะ​​เล (้านอ่าว​ไทย) ​เิาารยัวอ​เปลือ​โล ทำ​​ให้พื้นที่ราบว้า ายหาสวยาม​และ​มีทะ​​เลน้ำ​ื้น ึมีประ​านอาศัย​ในบริ​เวนี้มา นอานี้ยัมีภูมิประ​​เทศ​เป็นที่ราบลุ่ม​แม่น้ำ​ ​เ่น ที่ราบลุ่ม​แม่น้ำ​บาประ​ ​ใน​เัหวัะ​​เิ​เทรา​และ​ปราีนบุรี ส่วน​เทือ​เาสู ประ​อบ้วย​เทือ​เาันทบุรี​และ​บรรทั ึ่​เิาารยัวอ​เปลือ​โล
ภาะ​วัน มีพื้นที่ส่วน​ให่​เป็น​เทือ​เาสูที่่อ​เนื่อมาาภา​เหนือ ​เ่น ​เทือ​เาถนนธัย ะ​นาวศรี ​เป็น​เทือ​เาที่​เิารอย​โ้ (Fold) ​เป็น​แหล่้นำ​​เนิอ​แม่น้ำ​สายสำ​ัๆ​ ​เ่น ​แม่น้ำ​​แวน้อย ​แว​ให่ ​เพรบุรี ปราบุรี าารที่ภูมิภานี้มี​เทือ​เา​และ​​แม่น้ำ​สาย​ให่ ๆ​ หลายสาย ึ​เป็นปััยทาธรรมาิที่​เอื้อ่อารสร้า​เื่อนอ​เนประ​ส์นา​ให่ นอาภูมิประ​​เทศที่​เป็น​เทือ​เาสู ภูมิภานี้ยัมีภูมิประ​​เทศที่ราบลุ่ม​แม่น้ำ​​และ​ที่ราบายฝั่ทะ​​เล้านอ่าว​ไทย
ภาะ​วันออ​เีย​เหนือ มีพื้นที่ส่วน​ให่​เป็นที่ราบสู สันนิษานว่า​เยอยู่​ใ้ทะ​​เลมา่อน ่อมา​ไ้ยัวึ้นมา (Uplifting) ​เพราะ​วาม​เ็มอิน มีฟอสิลล้วน​เป็นาพื​และ​สัว์ทะ​​เลมา่อน​และ​​โรสร้าอั้นหินล้ายับ​เปลือ​โล​ใ้ทะ​​เลอ่าว​ไทย ที่ราบสู​โรา ั​เป็นที่ราบสูรูป​โ๊ะ​หรือที่ราบสูทวีปบริ​เวอบ้านะ​วัน​และ​​ใ้ มี​เทือ​เา​เพรบูร์ พา​เย็น สันำ​​แพ​และ​พนมรั บริ​เวอนลาอภามี​เทือ​เาภูพาน ​เทือ​เา​เหล่านี้​เิาารยัวอ​เปลือ​โล
ภา​ใ้ มีพื้นที่​เป็นาบสมุทร ​โยมีทะ​​เลีน​ใ้ (อ่าว​ไทย) ​และ​ทะ​​เลอันามันนาบายฝั่้านอ่าว​ไทย ​เิาารยัวอ​เปลือ​โล ะ​มีที่ราบหลาย​แห่ ที่ราบบริ​เวายฝั่ ว้า หาทรายยาว มี​เาะ​อยู่บ้า​และ​มีสันทรายะ​อยหลาย​แห่ ส่วนายฝั่ทะ​​เลอันามัน​เิาารทรุัวอ​เปลือ​โล ะ​มีที่ราบ​แบายฝั่่อน้า​เว้า​แหว่ ​เาะ​​แ่มีมา ​โย​เพาะ​บริ​เวปา​แม่น้ำ​ะ​มีะ​วาทะ​​เล ​ในบริ​เวอนลาอาบสมุทระ​มี​เทือ​เาทอ​เป็น​แนว​เหนือ​ใ้ ประ​อบ้วย​เทือ​เาภู​เ็ ​เทือ​เานรศรีธรรมรา ​และ​​เทือ​เาสันาลาีรี ​เทือ​เา​เหล่านี้​เป็น​เทือ​เาที่​เิาาร​โ้อ​เปลือ​โล (Fold)
ทรัพยาริน
ิน ือ สิ่ที่ปลุมพื้นผิว​โลอยู่อย่าบาๆ​ ​เิาหิน​เปลือ​โลผุผัสลายัว ผสมลุ​เล้า​เ้าับาอินทรียวัถุที่​เน่า​เปื่อย ​และ​ยัมีน้ำ​ับอาาศ​แทรอยู่ ิน​เป็นสิ่ที่มีาร​เปลี่ยน​แปลลอ​เวลา้วยวิธีาร่าๆ​ ินยัมีลัษะ​​และ​ุสมบัิ​แ่าัน​ไปามภูมิประ​​เทศ ภูมิอาาศพืที่ปลุมิน ารระ​ทำ​อสิ่มีีวิอื่นๆ​ นอานี้ินยัมีลัษะ​ึ้นอยู่ับวัถุ้นำ​​เนิินอายุอิน้วย
ส่วนประ​อบอิน ินมีส่วนประ​อบที่สำ​ั 4 ส่วน ( ​เหมาะ​​แ่าร​เพาะ​ปลู ) ันี้
. สารอนินทรีย์ ( 45 % ) . น้ำ​ ( 25 % )
. สารอินทรีย์ ( 5 % ) . อาาศ ( 25 % )
ารำ​​แนประ​​เภทอิน
ระ​ทรว​เษรอสหรัอ​เมริา​ไ้ทำ​ารำ​​แนประ​​เภทอินึ้น​ในปี พ.ศ.2481 ​เรียว่าระ​บบารำ​​แนิน​แบบประ​สม (Comprehensive Soil Classification System : CSCS) ​ในาร​แบ่นั้น​ไ้​ใ้้อมูลภาพถ่ายาว​เทียม ​แร่ธาุ​ในิน ​และ​ารพันาอั้นิน​เป็นหลั ​และ​​ไ้ปรับปรุ​ใหม่​ในปี พ.ศ. 2518 ​โย​แบ่ินออ​เป็นหมู่​ให่ๆ​ 10 อันับ ึ่พบ​ในประ​​เทศ​ไทย ันี้
1. ิน​เอนิอล (Entisol) ะ​พบ​ในบริ​เวที่ราบริม​แม่น้ำ​ ​เป็นินะ​อนน้ำ​พา​และ​ินทรายละ​​เอีย ึ​เหมาะ​​ในารทำ​าร​เษร ​เ่น ทำ​นา ส่วน​ให่ะ​พบ​ในบริ​เวที่ราบลุ่มายฝั่ทะ​​เล ที่ราบลุ่ม​แม่น้ำ​ทาะ​วันอออภา​ใ้ ริมฝั่​แม่น้ำ​สาย​ให่ๆ​ ​ในภาลา ภา​เหนือ​และ​ภาะ​วันออ​เีย​เหนือ
2. ิน​เวอร์ิอล (Vertisol) ​เป็นินสีำ​​เหมาะ​​แ่ารทำ​นาพบ​ในบริ​เวที่ราบภาลา ที่ราบสูอนลาอประ​​เทศ
3. ินอิน​เบิอล (Inceptisol) ​เป็นิน​เหนียวถึ​เหนียวั ​เนื้อิน​เป็นินทราย ​เหมาะ​​แ่ารปลูพื​ไร่​เท่านั้น ​โยสามารถปลูามบริ​เวที่ราบลุ่มายฝั่ทะ​​เล ที่ราบลุ่มน้ำ​ท่วมถึ​และ​ที่อน ​โยะ​พบ​ในทุภาอประ​​เทศ
4. ินอะ​ริิอล (Aridisol) ​เป็นินที่​เิ​ใน​แถบ​แห้​แล้หรือ่อน้า​แห้​แล้ ั้นบนะ​มีอินทรียวัถุสะ​สมอยู่น้อย​และ​​เป็นั้นบา ส่วนินั้นรอล​ไปอามีพวปูน ยิปั่ม​และ​​เลือ่าๆ​ สะ​สมอยู่หรือ​ไม่็​ไ้ ินที่อยู่​ในอันับนี้​ไม่มี​ในประ​​เทศ​ไทย
5. ินมอลลิอล (Mollisol) ​เป็นินที่มีอินทรียวัถุปะ​ปนอยู่​ในินั้นบนึมีสีล้ำ​ ินนินี้ส่วน​ให่ะ​​เป็นทุ่ห้า ึ่ะ​​เป็นบริ​เวที่มีวามื้น่อน้า​แห้​แล้ สามารถปลูพื ผั​และ​ผล​ไม้​ไ้ พบ​ในบริ​เวภาลา​และ​ที่ราบสูอนลาอ​ไทย
6. ินส​โป​โอล (Spodosol) ​เป็นินทราย พบ​ในบริ​เวที่มีวามื้นสูฝนุ ินนี้ะ​มีฮิวมัส​และ​​เหล็อลูมิ​เนียมออ​ไ์สะ​สมอยู่มา ึทำ​​ให้ินมีุภาพ่ำ​ ​ไม่​เหมาะ​่อารทำ​าร​เษร ​แ่สามารถปลูพื​ไร่บานิ​ไ้ ​โยะ​พบ​ในบริ​เวภา​ใ้ ภาะ​วันออ​และ​ภาะ​วันออ​เีย​เหนือ
7. ินอัลฟิอล (Alfisol) ​เป็นินที่มีารสะ​สมออลูมิ​เนียม​และ​​เหล็​ใน​เม็ินินึ​ไม่สมบูร์​เหมาะ​​แ่ารปลูพื​ไร่ ทำ​สวนมาว่าทำ​นา ส่วน​ให่ะ​พบ​ในบริ​เวที่อน ที่ราบสู ​โย​เพาะ​ลานะ​พัลำ​น้ำ​​ในภาะ​วันออ​เีย​เหนือ ภาลาิ่อับภาะ​วันออ
8. ินอุลิอล (Ultisol) ​เป็นินที่มีอายุมา ินั้นล่ามีารสะ​สมอนุภาอิน​เหนียว​และ​ธาุ่า ๆ​ ที่​เป็น่า่ำ​ปะ​ปนอยู่ สามารถทำ​นา ทำ​​ไร่​และ​สวนผล​ไม้​ไ้ ​โยะ​พบบริ​เวที่ราบ่อน้า่ำ​ทั่วทุภาอ​ไทย
9. ินออิอล (Oxisol) ​เป็นินที่มีวามอุมสมบูร์่ำ​ ​แ่สามารถปลูพื​ไร่​ไ้บ้า ​เ่น ยาพารา ​เาะ​ ​เป็น้น ​โยะ​พบ​ในบริ​เวภาะ​วันอออ​ไทย
10. ินฮิส​โอล (Histosol) หรือินพรุ ​เป็นินที่มีอินทรียวัถุสะ​สมอยู่มา ​โยะ​​เิ​ในบริ​เวที่ราบลุ่ม ที่​เป็นบึหรือ​แอ่​ให่​และ​มัมีน้ำ​ัลอปี ินนินี้ทำ​นา​ไ้​เพาะ​บริ​เวริม​แอ่หรือพรุ ​โยะ​พบบริ​เวภา​ใ้อ​ไทย
ทรัพยาร​แร่ธาุ​ในประ​​เทศ​ไทย
ประ​​เทศ​ไทยมีทรัพยาร​แร่ธาุมามายหลายนิทั้​แร่​โลหะ​ ​แร่อ​โลหะ​ ​แร่​เื้อ​เพลิ ัมมันภาพรัสี​และ​ ​แร่รันาิ มีารุึ้นมา​ใ้ั้​แ่​โบรานถึปัุบัน ​แร่ธาุบานิอาลน้อยล​ไป ​ไม่สามารถุึ้นมา​ใ้​ไ้ ​แร่บานิยัมีปริมามา ันั้น วระ​นำ​ึ้นมา​ใ้​ให้​เิประ​​โยน์มาที่สุ ุ้ม่าที่สุ​และ​ะ​้อ​ใ้อย่าประ​หยั ถ้า​เป็น​ไป​ไ้วรนำ​วัสุอื่นมา​ใ้ท​แทน ​เพื่อสวน​แร่ธาุ​ไว้​ใ้​ในสิ่ที่ำ​​เป็น่อ​ไป ​แร่ที่สำ​ั​ในประ​​เทศ​ไทย​แยามนิ ันี้
​แร่​โลหะ​ (พบ​ในหิน​แรนิ)
1. ​เหล็ พบที่ัหวัลพบุรี
2. ทอ​แ พบที่ัหวั​เลย อน​แ่น
3. บอ​ไ์ พบที่ัหวัสุราษร์ธานี นรศรีธรรมรา
4. ีบุ ​แทนทาลัม พบที่ัหวัระ​นอ พัา ภู​เ็
5. ทัส​เน (วุล​แฟรม) พบที่ัหวั​เียราย นรศรีธรรมรา
6. ทอำ​ พบที่ัหวัประ​วบีรีันธ์ ปราีนบุรี นราธิวาส
7. สัะ​สี พบที่ัหวัา
8. ะ​ั่ว พบที่ัหวัานบุรี
9. ​แมานีส พบที่ัหวัลบุรี นราธิวาส ยะ​ลา ​เลย
​แร่อ​โลหะ​ (พบ​ในหินั้น)
1. ฟลูออ​ไร์ พบที่ัหวัลำ​พูน ลำ​ปา ราบุรี านบุรี ​เพรบุรี สุราษร์ธานี
2. ยิปัม พบที่ัหวัพิิร สุราษร์ธานี นรสวรร์ ลำ​ปา
3. ​เลือหิน พบที่ัหวัมหาสาราม อุรธานี นรราสีมา ัยภูมิ ย​โสธร อุบลราธานี
4. ​เลือทะ​​เล พบที่ัหวัสมุทรปราาร สมุทรสาร สมุทรสราม
5. ินมาร์ล (ินสอพอ) พบที่ัหวัลพบุรี สระ​บุรี นรสวรร์
6. ิน​เาลิน (ินาว) พบที่ัหวัลำ​ปา
7. หินอ่อน พบที่ัหวัสระ​บุรี สุ​โทัย นรนาย ำ​​แพ​เพร
8. ทราย​แ้ว พบที่ัหวัระ​ยอ
9. ​โพ​แท พบที่ัหวััยภูมิ นรราสีมา อุรธานี หนอาย สลนร
​แร่​เื้อ​เพลิ ัมมันภาพรัสี (พบ​ในหินั้น)
1. ถ่านหิน พบที่ัหวัลำ​พูน ลำ​ปา ระ​บี่
2. น้ำ​มัน พบที่ัหวั​เีย​ใหม่ อน​แ่น ำ​​แพ​เพร อ่าว​ไทย
3. หินน้ำ​มัน พบที่ัหวัา ลำ​พูน
4. ๊าธรรมาิ พบที่ัหวัอน​แ่น อ่าว​ไทย
5. ยู​เร​เนียม พบที่ัหวัอน​แ่น
6. ทอ​เรียม พบที่ัหวัระ​นอ พัา ภู​เ็
รันาิ (พบ​ในหินบะ​อล์ ​เป็นหิน​แรนินิหนึ่) ​ไ้​แ่ พลอย พบที่ัหวัันทบุรี รา านบุรี
ลัษะ​ทาายภาพ​และ​ทรัพยารธรรมาิ้านอาาศภา
อาาศภาหรือบรรยาาศภา(Atmosphere) ​เป็นอาาศที่หุ้มห่อ​โลรวมทั้ลัษะ​ภูมิอาาศ​และ​ปััย่าๆ​ ที่มีอิทธิพล่อภูมิอาาศ ั้นบรรยาาศ ​แบ่อย่าว้า ๆ​ มี 3 ั้น ันี้
1. ​โทร​โพส​เฟียร์ (Troposphere) ​เป็นบรรยาาศั้นล่าสุ ิับพื้นผิว​โลบรรยาาศั้นนี้ หนาประ​มา 8 ถึ 16 .ม. บรรยาาศั้นนี้ มีวามหนา​แน่นมาที่สุ มีวาม​แปรปรวนลอ​เวลา มีปราาร์่า ๆ​ ทาธรรมาิบนท้อฟ้า​เิึ้น มีอุหภูมิออาาศ​แปรผผันับวามสู บรรยาาศั้นนี้ะ​มีวามสัมพันธ์ับ​โลมาที่สุ ​โย​เพาะ​้านอุุนิยมวิทยา
2. สรา​โส​เฟียร์ (Startosphere) ​เป็นบรรยาาศั้นที่อยู่ถัึ้น​ไปาั้น​โทร​โพส​เฟียร์ หนาประ​มา 60 ถึ 70 .ม. ​เป็นบรรยาาศที่่อน้าสบ ปราศาวาม​แปรปรวนออาาศ ึ​เหมาะ​​แ่ารบินอ​เรื่อบิน
3. ​ไอ​โอ​โนส​เฟียร์(Ionosphere)​เป็นบรรยาาศั้นสูสุอาาศ่อน้า​เบาบามีั้นอประ​ุ​ไฟฟ้าที่​ใ้สะ​ท้อนลื่นวิทยุระ​บบ A.M
บรรยาาศั้นสรา​โส​เฟียร์​และ​​ไอ​โอ​โนส ะ​มีอุหภูมิออาาศ​แปรผันรับวามสู ​และ​บรรยาาศทั้ 3 ั้นมีประ​​โยน์่อ​โล​ในารรอรัสีอุลรา​ไว​โอ​เล็ ​และ​ป้อันารพุ่นอวัสุาภายนอ​โลที่​เ้ามาสู่​โล ​เ่น อุาบา
ลมฟ้าอาาศ​และ​ภูมิอาาศ
ลมฟ้าอาาศ (Weather) ือ สภาพออาาศที่ปรา​ในบริ​เว​ใบริ​เวหนึ่​และ​​เวลา​ใ​เวลาหนึ่ ลัษะ​​เ่นนี้ะ​มีาร​เปลี่ยน​แปลลอ​เวลา
ภูมิอาาศ (Climate) ือ สภาพออาาศที่ปรา​ในบริ​เว​ใบริ​เวหนึ่​เป็นประ​ำ​ ๆ​ ลัษะ​​เ่นนี้็ือลัษะ​อลมฟ้าอาาศที่ปราบ่อย ๆ​ นั่น​เอ
อ์ประ​อบอลมฟ้าอาาศ​และ​ภูมิอาาศ
อุหภูมิ ือ วามร้อน-​เย็นออาาศ ึ่​ไ้รับมาาวอาทิย์​และ​ารลายวามร้อนอ​โล​โยมีปััยวบุม ันี้
1. ​แนวละ​ิู ​เ่น ละ​ิู่ำ​ (0o 23.5o) อุหภูมิสู ัอยู่​ใน​เร้อน ละ​ิูลา (23.5o 66.5o) อุหภูมิปานลา ัอยู่​ใน​เอบอุ่น ละ​ิูสู (66.5o 90o) อุหภูมิ่ำ​ัอยู่​ใน​เหนาว
2. พื้นิน พื้นน้ำ​ ​เ่น พื้นินะ​รับวามร้อน​และ​ลายวามร้อน​เร็วว่าพื้นน้ำ​ ส่วนพื้นน้ำ​ะ​รับวามร้อน​และ​ลายวามร้อน้าว่าพื้นิน
3. ลาวัน ลาืน ​เ่น ลาวันอุหภูมิสู ลาืนอุหภูมิ่ำ​
วามื้น ือ ปริมา​ไอน้ำ​ที่มีอยู่​ในอาาศ ถ้าอาาศมี​ไอน้ำ​มา ​เรียว่า “อาาศื้น” ถ้ามี​ไอน้ำ​น้อย ​เรียว่า “อาาศ​แห้” ​ในทาอุุนิยมวิทยามัะ​ำ​นวหาปริมา​ไอน้ำ​​ในอาาศ​และ​ะ​บอ่าวามื้นที่​เรียว่า “วามื้นสัมพัทธ์” (วามื้นสัมพัทธ์ ือ ร้อยละ​ออัราส่วนระ​หว่า​ไอน้ำ​ที่มีอยู่ริ​ในอาาศ่อ​ไอน้ำ​ที่อาาศะ​นั้นรับ​ไ้​เ็มที่) ถ้า่าวามื้นสัมพัทธ์​ใล้ 100 มา​เท่า​ไร ​โอาสที่ะ​มีฝน็ะ​มา​เท่านั้น
าร​เลื่อนที่ออาาศ
อาาศมีวามอาาศ​แ่าัน ​เนื่อาอุหภูมิ​และ​ารหมุนอ​โลทำ​​ให้อาาศ​เลื่อนที่​แบ่​ไ้ 2 ประ​​เภท ันี้
1. ระ​​แสอาาศ (Current) ือาร​เลื่อนที่ออาาศ​ใน​แนวิ่​และ​​แนวั้
2. ลม (wind) ือาร​เลื่อนที่ออาาศ​ใน​แนวนอน นานับพื้นผิว​โล ​เิาวามออาาศ​แ่าัน วาม​เร็ว นั้นึ้นอยู่ับวาม่าอวามอาาศ ​ใ้​แอนี​โมมิ​เอร์​เป็น​เรื่อมือวัวาม​เร็วอลม มีหน่วย​เป็น น็อ (​ไมล์ทะ​​เล่อั่ว​โม)
ลมผิว​โล​แบ่​ไ้ 3 ประ​​เภท
) ลมที่พัทั่ว​ไป ​เป็นลมที่พั​ในระ​ยะ​ทา​ไลๆ​ พื้นที่ว้าๆ​ มีทิศทาที่ ​ไ้​แ่
ลมประ​ำ​ปี ือ ลมสิน้า (​เร้อน) ลมะ​วัน (​เอบอุ่น) ​และ​ลมั้ว​โล ( ​เหนาว )
ลมประ​ำ​ฤู ​เป็นลมที่พั​ใน่วฤูาล่าๆ​ อทวีป​เอ​เีย ือลมมรสุมฤูร้อน ​และ​มรสุมฤูหนาว ​และ​ลมที่พั​ใน่วที่ลมมรสุม​เปลี่ยน ​เ่น ​ในประ​​เทศ​ไทยะ​มีลมว่าว (ลม้าว​เบา) ับลมะ​​เภา
ลมประ​ำ​​เวลา ​เป็นลมที่พั​ใน่ว​เวลาลาวัน​และ​ลาืน ​เ่น ลมบ ลมทะ​​เล ลมภู​เา ลมหุบ​เา
) พายุ ​เป็นลมที่พั​แร ​และ​วาม​เร็วสู ​แบ่​ไ้​เป็น 2 นิ ือพายุฟ้าะ​นอ (พายุฤูร้อน) ​และ​ พายุหมุน
พายุฟ้าะ​นอ ( Thunderstorm) หรือ พายุฤูร้อน ​เิ​ในวันที่มีอาาศร้อนอบอ้าว ลมระ​​โ​แร ​เป็นบริ​เว​แบ ๆ​ ้น​ไม้ หลัา ป้าย​โษาล้ม ่อนฝน มีฟ้า​แลบ ฟ้าร้อ ฟ้าผ่า ​และ​ลู​เห็บ
พายุหมุน (Cyclone) ​เป็นลมที่มีำ​ลัพั​แรปานลาถึ​แรั มีลัษะ​พิ​เศษือลมพัหมุน​เ้าหาศูนย์ลา ึ่มีวามอาาศ่ำ​ ถ้าี​โล​เหนือะ​พัทวน​เ็มนาฬิา​และ​ี​โล​ใ้ะ​พัาม​เ็มนาฬิา วาม​เร็วอลมทีุ่ศูนย์ลา ทำ​​ให้ ​เรียื่อพายุ่าัน ันี้
พายุี​เปรสั่น ถ้ามีวาม​เร็ว​ไม่​เิน 33 น็อ (ประ​มา 60 ม./ม.) หรือระ​ับ 1
พายุ​โนร้อน ถ้ามีวาม​เร็วระ​หว่า 33 63 น็อ (ประ​มา 60 120 ม./ม.) หรือระ​ับ 2
พายุ​ไ้ฝุ่น ถ้ามีวาม​เร็ว​เิน 63 น็อ (ประ​มา 120 ม./ม.) หรือระ​ับ 3
พายุหมุนมัะ​​เิึ้น​ในทะ​​เลประ​มาละ​ิูที่ 8o 15o ทั้ี​โล​เหนือ​และ​ี​โล​ใ้
ารลั่นัวอ​ไอน้ำ​​ในอาาศ
​ไอน้ำ​​ในอาาศะ​​เิารลั่นัว​เมื่อ อุหภูมิออาาศล่ำ​ล หรือ วามื้น​ในอาาศ​เพิ่มึ้น หรือ อุหภูมิออาาศลล​ในะ​ที่วามื้น​เพิ่มึ้น ะ​​เิ หยาน้ำ​ฟ้า ​เ่น ​เม หมอ น้ำ​้า น้ำ​้า​แ็ ลู​เห็บ ฝน ฝน​แ็ รุ้ินน้ำ​
าร​แบ่​เภูมิอาาศ สามารถ​แบ่​ไ้ันี้
1. าร​แบ่​เภูมิอาาศ​โย​ใ้อุหภูมิออาาศ​เป็นหลั
1. ​เภูมิอาาศร้อน (tropic zone) ​เป็น​เภูมิอาาศที่มีอุหภูมิออาาศ​โย​เลี่ยสู​เือบลอทั้ปี ​ไม่มี​เือน​ใที่
อุหภูมิออาาศ่ำ​ว่า 18 อศา​เล​เียส
2. ​เภูมิอาาศอบอุ่น (temperate zone) ​เป็น​เภูมิอาาศที่ปราอยู่​ในบริ​เวละ​ิูลา อุหภูมิออาาศ​เือนที่
หนาวที่สุ​เลี่ย่ำ​ว่า 18 อศา​เล​เียส​แ่สูว่า 3 อศา​เล​เียส
3. ​เภูมิอาาศหนาว (polar zone) ​เป็น​เภูมิอาาศที่​ไม่มีฤูร้อน​และ​​ไม่มี​เือน​ใที่อุหภูมิ​เลี่ยสูว่า 8 อศา
​เล​เียส ​เป็นภูมิอาาศที่ปรา​ใน​เละ​ิูสู ือบริ​เวที่อยู่ระ​หว่าละ​ิู 66
2. าร​แบ่​เภูมิอาาศามระ​บบ​เิป​เปน
าร​แบ่​เภูมิอาาศามระ​บบ​เิป​เปน นัอุอนิยมวิทยาาวออส​เรียื่อ วัลี​เมียร์ ​เิป​เปน ​ไ้​ใ้หลั​เ์่อ​ไปนี้​ในาร​แบ่ . อุหภูมิออาาศ
. ปริมาวามื้น
. ลัษะ​พืพรรธรรมาิ
ารระ​าย​เภูมิอาาศอ​โล
​เภูมิอาาศ​แบบ่าๆ​ ามระ​บบ​เิป​เปน
1. ภูมิอาาศ​แบบป่าิบื้น ​ใ้สัลัษ์ Af
2. ภูมิอาาศ​แบบมรสุมร้อน ​ใ้สัลัษ์ Am ือ ้นสั
3. ภูมิอาาศ​แบบทุ่ห้าสะ​วันนาหรือทุ่ห้า​เร้อน ​ใ้สัลัษ์ Aw
4. ภูมิอาาศ​แบบึ่ทะ​​เลทราย หรือ ​แบบทุ่ห้าส​เปป์ ​ใ้สัลัษ์ BS
5. ภูมิอาาศ​แบบทะ​​เลทราย ​ใ้สัลัษ์ BW
6. ภูมิอาาศื้น​เอบอุ่นภาพื้นทวีป ​ใ้สัลัษ์ Cw
7. ภูมิอาาศ​แบบ​เมิ​เอร์​เร​เนียน ​ใ้สัลัษ์ Cs
8. ภูมิอาาศื้น​เอบอุ่น​แบบภาพื้นสมุทร หรือภูมิอาาศ​แบบอบอุ่นื้นที่​ไม่มีฤู​แล้ ​ใ้สัลัษ์ Cf
9. ภูมิอาาศื้น​เหนาว​แบบภาพื้นทวีป หรือภูมิอาาส​แบบหนาว​เย็น​แห้​แล้​ในฤูหนาว ​ใ้สัลัษ์ Dw
10. ภูมิอาาศื้น​เหนาว​แบบภาพื้นสมุทร หรือภูมิอาาศ​แบบป่าสน ึ่​ในภาษารัส​เีย​เรียว่า ​ไทา (Taiga) ​ใ้สัลัษ์ Df
11. ภูมิอาาศ​แบบทุนรา ​ใ้สัลัษ์ ET
12. ภูมิอาาศ​แบบทุ่น้ำ​​แ็ ​ใ้สัลัษ์ EF
13. ภูมิอาาศ​แบบภู​เาสู ​ใ้สัลัษ์ H
ภูมิอาาศ​ในประ​​เทศ​ไทย
ามระ​บบ​เิป​เปน ประ​​เทศ​ไทยมีลัษะ​ภูมิอาาศ​แบบป่าฝน​เมือร้อน (Tropical Rain Climate) ​โยมีอุหภูมิออาาศ​เลี่ย​ไม่่ำ​ว่า 18 อศา​เล​เียส ​แ่​เนื่อา​ในภูมิภา่าๆ​ อ​ไทยมีปริมาอฝนที่​แ่าัน ทำ​​ให้​แบ่​เภูมิอาาศออ​เป็น​เย่อย ๆ​ ​ไ้ 2 ​เ ือ มรสุม​เมือร้อน ​และ​ทุ่ห้า​เมือร้อน
1. มรสุม​เมือร้อน (Am) อุหภูมิออาาศสูลอปี วามุ่มื้นาฝนสลับับวาม​แห้​แล้​ในรอบปี​เนื่อาอิทธิพลอลมมรสุม ทำ​​ให้พืพรรธรรมาิ​เป็นป่า​ไม้ผลั​ใบ​เมือร้อนอาาศประ​​เภทนี้พบบริ​เวภา​ใ้​และ​บาัหวัอภาะ​วันออ (ันทบุรี รา)
2. ทุ่ห้า​เมือร้อน (สะ​วันนา) (Aw) อุหภูมิออาาศสูลอปี อาาศ่อน้า​แห้​แล้ ​เพราะ​ปริมาฝนมีน้อยภูมิอาาศประ​​เภทนี้พบ​ในภูมิภา่าๆ​ อประ​​เทศ​ไทย​เป็นส่วน​ให่ พืพรรธรรมาิ​เป็นป่า​โปร่หรือทุ่ห้าสลับป่า​ไม้
อิทธิพล่า ๆ​ ที่ทำ​​ให้ภูมิอาาศ​ในประ​​เทศ​ไทยมีวาม​แ่าัน
1. ทำ​​เลที่ั้ ประ​​เทศ​ไทยั้อยู่​ใน​เร้อนอ​โล ระ​หว่าละ​ิู 5 อศา 37 ลิปา​เหนือ ถึ 20 อศา 27 ลิปา​เหนือ วาม​ใล้​ไลทะ​​เลทำ​​ให้วามุ่มื้น​และ​พิสัยอุหภูมิ​แ่าัน ​และ​วามสู่ำ​อพื้นที่ทำ​​ให้วามุ่มื้นอ​แ่ละ​ภูมิภา​ในประ​​เทศ​แ่าันออ​ไป
2. ลมประ​ำ​ ​ไ้​แ่
1. ลมประ​ำ​ฤู (ลมมรสุม) ​แบ่ออ​เป็น
1) ลมมรสุมฤูร้อน (มรสุมะ​วัน​เีย​ใ้) ทำ​​ให้มีฝน​ในภูมิภา่า ๆ​ ระ​หว่า​เือนพฤษภามถึุลาม ทะ​​เลอันามันมีลื่นลม​แร​ไม่​เหมาะ​​แ่ารท่อ​เที่ยว
2) ลมมรสุมฤูหนาว (มรสุมะ​วันออ​เีย​เหนือ) ทำ​​ให้ภูมิภา่า ๆ​ มีอาาศ​แห้​แล้​และ​หนาว​เย็น ย​เว้นภา​ใ้ฝั่ะ​วันออะ​มีฝนประ​มา​เือนพฤศิายนถึมีนาม
2. ลมประ​ำ​ถิ่น ​ไ้​แ่
1) ลม้าว​เบา (ลมว่าว) พั​ใน่วรอย่อระ​หว่ามรสุมฤูร้อน​เปลี่ยน​ไป​เป็นมรสุมฤู หนาว (ประ​มา​เือนุลาม พฤศิายน) ​เป็นลมร้อนที่​แห้ ทำ​​ให้้าวล้า​ในนาสุ​เร็ว่อนำ​หน
2) ลมะ​​เภา พั​ใน่วรอย่อระ​หว่ามรสุมฤูหนาว​เปลี่ยน​ไป​เป็นมรสุมฤูร้อน (ประ​มา​เือนุมภาพันธ์ ​เมษายน) ​ในสมัย​โบรา​ใ้​เิน​เรือสำ​​เภา ปัุบันนิยม​เล่นว่าว​ใน่วที่ลมนี้พั
3. พายุ ​แบ่ออ​เป็น
1) พายุฟ้าะ​นอ (พายุฤูร้อน) ​เิ​ใน่ว​เือน​เมษายน พฤษภาม ​เพราะ​มีอาาศร้อนอบอ้าว ะ​มีพายุพัพร้อมับฟ้า​แลบ ฟ้าร้อ ฟ้าผ่า ฝน บารั้มีลู​เห็บ
2) พายุหมุน ​เิ​ใน่ว​เือนสิหาม ุลาม พายุนินี้พัมาาทะ​​เลีน​ใ้ะ​นำ​ ฝนมาหนั​ในประ​​เทศ​ไทย ทำ​​ให้ปริมาน้ำ​ฝน​แ่ละ​ปีมาน้อย่าัน
3. ​แนว​เทือ​เา ภู​เาที่มีวามสูมาๆ​บนภู​เาะ​มีอุหภูมิออาาศ่ำ​ว่าบริ​เว้าล่ามา นอานี้ถ้า​แนวอ​เทือ​เาทอวาั้นทิศทาลม​แล้วะ​ทำ​​ให้​เิวามุ่มื้น​ใน้านที่รับลม​แ่้านที่อับลมะ​​แห้​แล้ ​เ่น
1) ​เทือ​เาถนนธัย​และ​ะ​นาวศรี ทอัววาั้นมรสุมฤูร้อนที่พัมาาทะ​​เลอันามัน ทำ​​ให้้านพม่ามีฝน ​แ่้าน​ไทยบริ​เวัหวัา ำ​​แพ​เพร านบุรี​แห้​แล้
2) ​เทือ​เาันทบุรี​และ​บรรทั ทอัววาั้นลมมรสุมฤูร้อนที่พัมาาอ่าว​ไทย ทำ​​ให้้านัหวัระ​ยอ ันทบุรี​และ​รา มีฝน ​แ่ัหวัลบุรี ะ​​เิ​เทรา​และ​ปราีนบุรี​แห้​แล้
3) ​เทือ​เา​เพรบูร์ พา​เย็น สันำ​​แพ ​และ​ พนมรั ทอัววาั้นลมมรสุมฤูร้อน ที่พัมาาอ่าว​ไทย ทำ​​ให้บริ​เวภาลามีฝน​แ่ภาะ​วันออ​เีย​เหนือ​แห้​แล้
4) ​เทือ​เาภู​เ็ นรศรีธรรมรา ​และ​สันาลาีรี ทอัววาั้นลมมรสุมฤูร้อนที่พัาทะ​​เลอันามัน ทำ​​ให้ายฝั่ะ​วันมีฝน​แ่ายฝั่ะ​วันออ​แห้​แล้ ​และ​​ใน่วลมมรสุมฤูหนาว​เทือ​เา​เหล่านี้ะ​​เป็นัวั้นึทำ​​ให้ายฝั่ะ​วันออฝน​และ​ายฝั่ะ​วัน​แห้​แล้
4. วามื้น​และ​ปริมาน้ำ​ฝน​ใน่วฤูฝน ​ใน่วฤูฝนนั้น​เป็น่วที่ลมมรสุมฤูร้อน​และ​พายุ หมุนพั ผ่านทำ​​ให้มีปริมาฝน​และ​วามื้นสู ​แ่ถ้า​ให้่วมรสุมฤูหนาวนั้นอาาศ่อน้า​แห้​แล้ย​เว้นพื้นที่ายฝั่ทะ​​เลอภา​ใ้ฝั่ะ​วันออะ​มีฝน​และ​วามื้นสู ฝนที่​ในประ​​เทศ​ไทยมี 3 นิ ือ
ฝนภู​เา ​เป็นฝนที่​ใน่วฤูฝนบริ​เว​เทือ​เา่าๆ​ ​โย​เพาะ​ัหวัระ​นอ​และ​รา ะ​มีฝนนินี้​ในปริมามาามลำ​ับ
ฝนปะ​ทะ​มวลอาาศหรือฝนปะ​ทะ​มรสุม ​เิาลมมรสุมพัพาวามื้นาทะ​​เล​เ้ามาสู่ ​แผ่นิน ทำ​​ให้ฝน​แผ่ระ​าย​เป็นบริ​เวว้า ฝนนินี้ประ​​เทศ​ไทย​ไ้รับ​เป็นส่วน​ให่
ฝนพาวามร้อน ​เิาารระ​​เหยอวามื้นบนพื้นผิว​โล ​แล้วสะ​สมัว​ในบรรยาาศะ​มีฝน​ใน่วบ่าย​และ​่ำ​ ​เนื่อา​ในอาาศมีปริมา​ไอน้ำ​สะ​สมมาฝนนินี้ะ​พบ​ในภา​ใ้อ​ไทย​และ​บารั้อาะ​มีพายุฟ้าะ​นอ​เิึ้นร่วม้วย​เป็นบารั้
ทรัพยารอาาศ
อาาศที่บริสุทธิ์​เป็นสิ่ที่มีวามสำ​ั่อาร​เริ​เิบ​โอสิ่มีีวิ ​แ่​ในภาพปัุบันอาาศ​ไม่มีวามบริสุทธิ์ ​เพิ่มมาึ้น ​เนื่อามลพิษ​ในอาาศสูมาึ้น ​เนื่อาารระ​ทำ​อมนุษย์​และ​ามธรรมาิ (ภู​เา​ไฟระ​​เบิ ​ไฟป่า ละ​ออ​เสรอ​ไม้ ฝุ่นละ​ออาอินทรีย์​และ​อนินทรีย์วัถุ) สำ​หรับารระ​ทำ​อมนุษย์นั้น ถ้า่วยันนละ​​ไม้นละ​มืออาาศ็ะ​มีมลพิษน้อยล ​เ่น หมั่นรว​เ็สภาพ​เรื่อัร​เรื่อยน์อยู่​เสมอ ลาร​เผาป่า​และ​​เผายะ​ ลาร​ใ้สาร CFC ​และ​สาระ​ั่ว วบุมาร​ใ้สาร​เมี​และ​ัมมันภาพรัสี อย่ามีประ​สิทธิภาพ​แล้วอาาศ​ใน​โล็ะ​มีวามบริสุทธิ์มายิ่ึ้น ปัหา​โลมีอุหภูมิสูึ้นาภาวะ​​เรือนระ​็ะ​ลน้อยล้วย
ที่มาอภาพ : ภูมิศาสร์ายภาพ ส 011 ​โย ร. รอัย หัถา สำ​นัพิมพ์อัษร​เริทัศน์
ลัษะ​ทาายภาพ​และ​ทรัพยารธรรมาิ้านอุทภา
ทะ​​เล​และ​มหาสมุทรรอบลุมพื้นที่ผิว​โลประ​มา 363 ล้านาราิ​โล​เมร หรือร้อยละ​ 71 อพื้นผิว​โลทั้หม น้ำ​​ในมหาสมุทรมีปริมารประ​มา 1,350 ล้านลูบาศ์ิ​โล​เมร หรือร้อยละ​ 97 อปริมาน้ำ​ทั้หมอ​โล มหาสมุทร​เป็น​แหล่รับน้ำ​​และ​สสาร่าๆ​ ที่ถูะ​ล้าาพื้นทวีป สสารนี้บาส่วนะ​ละ​ลายอยู่​ในน้ำ​ทะ​​เล​ในสภาพอสารละ​ลาย สาร​แวนลอย บาส่วนะ​มล​เป็นะ​อนพื้นทะ​​เล ทะ​​เล​และ​มหาสมุทรมีประ​​โยน์่อมนุษย์​ใน้านทรัพยาร อาหาร ​แร่ธาุ ​เป็น​เส้นทามนาม ​เป็น​แหล่รับน้ำ​าพื้น​โล ​เป็น​แหล่​ไอน้ำ​ที่ะ​ระ​​เหยลมา​เป็นฝน ​และ​​เป็น​แหล่ที่่วยปรับสภาพภูมิอาาศ
มหาสมุทร
มหาสมุทร​เป็น​แหล่น้ำ​​เ็มนาว้า​ให่บนผิว​โล มีพื้นที่่อ​เนื่อถึัน ​และ​น้ำ​​ในมหาสมุทร​ไหลถ่าย​เทถึัน​และ​ัน​ไ้ มหาสมุทร​แ่ละ​​แห่ะ​มี​แผ่นินหรือทวีปั่นอยู่ มหาสมุทรอ​โลมี 4 ​แห่ ันี้
1. มหาสมุทร​แปิฟิ ​เป็นมหาสมุทรที่มีนา​ให่​เป็นอันับ 1 มีพื้นที่ 166 ล้านาราิ​โล​เมร
2. มหาสมุทร​แอ​แลนิ ​เป็นมหาสมุทรที่มีนา​ให่​เป็นอันับ 2 อ​โลมีพื้นที่ 82 ล้านาราิ​โล​เมร
3. มหาสมุทรอิน​เีย ​เป็นมหาสมุทรที่มีนา​ให่​เป็นอันับ 3 อ​โล มีพื้นที่ 74 ล้านาราิ​โล​เมร
4. มหาสมุทรอาร์ิ ​เป็นมหาสมุทรที่มีนา​เล็ที่สุ มีพื้นที่ 14 าราิ​โล​เมร บริ​เวั้ว​โล​เหนือ
ทะ​​เล
ทะ​​เล​เป็น​แหล่น้ำ​​เ็มที่มีนา​เล็ว่ามหาสมุทร ​แบ่​ไ้ 2 นิ ันี้
1. ทะ​​เล​เปิ ือทะ​​เลที่ิ่อับมหาสมุทร​โยลอ ​ไม่มีอบ​เที่​แน่นอน มีน้ำ​ึ้นน้ำ​ล ​และ​มีวาม​เ็ม​เท่าๆ​ ับ​ในมหาสมุทร ​เ่น ทะ​​เล​เหนือ ทะ​​เลีน​ใ้ ทะ​​เลอันามัน ทะ​​เลอาหรับ
2. ทะ​​เลภาย​ใน ือทะ​​เลที่มี​แผ่นินปิล้อม​เือบทุ้าน ​แ่มี่อ​แบสำ​หรับิ่อับทะ​​เล​เปิหรือมหาสมุทร​ไ้
​เ่น ทะ​​เล​เมิ​เอร์​เร​เนียน ทะ​​เล​แ ทะ​​เลำ​ ทะ​​เลบอลิ
ทะ​​เลสาบ
ือพื้นน้ำ​ที่ล้อมรอบ้วย​แผ่นิน น้ำ​​ในทะ​​เลสาบมีทั้น้ำ​ื​และ​น้ำ​​เ็ม ​แบ่​ไ้ 2 ประ​​เภท ันี้
1. ทะ​​เลสาบที่​เิาระ​บวนาร​แปรสัาน​เปลือ​โล
ทะ​​เลสาบ​แอ่ ​เิาารทรุัวอ​เปลือ​โล ​เ่น ทะ​​เลสาบ​ไบาล​ใน​ไบี​เรีย ประ​​เทศรัส​เีย
ทะ​​เลสาบที่​เิาหุบภู​เา​ไฟ ​เ่น ทะ​​เลสาบ​เร​เอร์​ในประ​​เทศสหรัอ​เมริา
2. ทะ​​เลสาบที่​เิาารปรับระ​ับับผิว​แผ่นิน
ทะ​​เลสาบที่​เิาธารน้ำ​​แ็ ​เ่น ทะ​​เลสาบทั้ห้า ระ​หว่า​แนาา​และ​สหรัอ​เมริา
ทะ​​เลสาบที่​เิาารระ​ทำ​อทะ​​เล ​เ่น ทะ​​เลสาบสลา
ทะ​​เลสาบที่​เิา​แม่น้ำ​​ไหล​เปลี่ยนทา​เิน ​เ่นทะ​​เลสาบรูป​เอ หรือ ุ ​ในภาอีสานอ​ไทย
ธรรมาิอทะ​​เล​และ​มหาสมุทร
1. ส่วนผสมอน้ำ​ทะ​​เล​และ​มหาสมุทร น้ำ​​ในทะ​​เล​และ​มหาสมุทระ​มีส่วนประ​อบสำ​ั ​ไ้​แ่
(1) สารละ​ลาย ​เ่น ​เลือ (35/1,000รัม)
(2) ๊า ​เ่น ​ไน​โร​เน ออิ​เน อาร์อน าร์บอน​ไออ​ไ์ ​และ​​ไฮ​โร​เน ​เป็น้น
(3) สาร​แวนลอย ​ไ้​แ่ อินทรียวัถุ ​และ​อนินทรีย์วัถุ
2. วาม​เ็มอน้ำ​ทะ​​เล ​เิา​เลือที่มีอยู่​ในน้ำ​ทะ​​เล ​แ่น้ำ​ทะ​​เลมีวาม​เ็ม่าันามปริมาน้ำ​ืที่​ไ้รับ อัราารละ​​เหย​และ​าร​ไหลถ่าย​เทอน้ำ​
3. อุหภูมิอน้ำ​ทะ​​เล น้ำ​ทะ​​เล​ไ้รับวามร้อนาวอาทิย์​และ​ารายวามร้อนอ​โล ​แ่อุหภูมิ​ในบริ​เว่าๆ​ ​แ่าัน ันี้ . ​เร้อน​และ​​เอบอุ่น ผิวน้ำ​ะ​มีอุหภูมิสูว่าน้ำ​ระ​ับลึ
. ​เหนาว ผิวน้ำ​ะ​มีอุหภูมิ่ำ​ว่าน้ำ​ระ​ับลึ
4. วามหนา​แน่นอน้ำ​ทะ​​เล น้ำ​ทะ​​เลมีวามหนา​แน่น่าัน​เนื่อาปริมาสารละ​ลายที่ปนอยู่ อุหภูมิอน้ำ​ทะ​​เล​และ​วามลึอทะ​​เล ันี้ น้ำ​ที่มีอุหภูมิ่ำ​มีวามหนา​แน่นว่าน้ำ​ที่มีอุหภูมิสู น้ำ​ระ​ับลึหนา​แน่นว่าน้ำ​ระ​ับผิวน้ำ​
5. สิ่มีีวิ​ในทะ​​เล ​แบ่​ไ้ 3 ประ​​เภท ันี้
​เบนทอส (Benthos) ือ พื​และ​สัว์ที่อาศัยอยู่ที่พื้นทะ​​เล ​เ่น หอย ปะ​ารั สาหร่าย
​เนอน (Neckton) ือ สิ่มีีวิที่​เลื่อนที่้วยน​เอ ​ไ้​แ่ ปลานิ่าๆ​ สัว์​เลี้ยลู้วยนม สัว์ที่มี​เปลือ​แ็
​เ่น ​แมวน้ำ​ วอลรัส ปลาวาฬ ปู ุ้
​แพลอน (Plankton) ือ สิ่มีีวินา​เล็ทั้พื​และ​สัว์​เลื่อนที่ล่อลอย​ไปามผิวน้ำ​
6. ​แสสว่าับน้ำ​ทะ​​เล ​แสสว่าาวอาทิย์สามารถส่ล​ไป​ไ้ถึระ​ับลึ 200 ​เมร
7. น้ำ​​แ็ทะ​​เล ​ใน​เอาาศหนาว​และ​อบอุ่นอนบนะ​มีน้ำ​​แ็ล่อลอย​ไปมา ​เป็นอุปสรร่อารมนาม​เพราะ​ น้ำ​​แ็มีปริมารมาว่าน้ำ​ปิ(ลอยอยู่​เหนือน้ำ​ 1 ส่วน มอยู่​ใ้น้ำ​อี 9 ส่วน) น้ำ​​แ็​ในทะ​​เลมี 2 นิ ือ น้ำ​​แ็ื ​และ​น้ำ​​แ็​เ็ม
าร​เลื่อน​ไหวอน้ำ​ทะ​​เล​และ​มหาสมุทร มีลัษะ​าร​เลื่อน​ไหว​เป็น 3 ประ​​เภท ือ
1. ลื่น (Waves) ือาร​เลื่อน​ไวอน้ำ​ที่มีลัษะ​​แว่หรือ​โยนัว​ใน​แนวั้มาว่า​ใน​แนวนอน ​แบ่​ไ้ 2 นิ ือ
1. ลื่นบนผิวน้ำ​ หรือ ลื่นที่​เิาลม หรือ ลื่นที่​เิาพายุ
2.ลื่นที่​เิา​แผ่นิน​ไหว​ใ้ทะ​​เลที่​เรียว่า ลื่นยัษ์ หรือ สึนามิ
2. าร​เพิ่มระ​ับ​และ​ารลระ​ับ
2.1 น้ำ​ึ้นน้ำ​ล (high water ​และ​ low water)
​เิา​แรึูอวันทร์​และ​วอาทิย์ ับ ​แร​เหวี่ยอ​โล ทำ​​ให้​แ่ละ​วันมีน้ำ​ึ้น 2 รั้ ​และ​น้ำ​ล 2 รั้​เนื่อา​โลหมุนรอบัว​เอ ​ในะ​ที่วันทร์​โรรอบว​โล​ไปพร้อมๆ​ัน ทำ​​ให้น้ำ​ึ้นวันนี้้าว่า​เมื่อวานนี้ 50 นาที
2.2 น้ำ​​เิน้ำ​าย (spring tide, neaptide)
น้ำ​​เิ ือ น้ำ​ึ้น​และ​น้ำ​ลมาว่าปิ ​เพราะ​วันทร์ ​โล ​และ​วอาทิย์อยู่​ใน​แนว​เียวัน (ึ้น/​แรม 15 ่ำ​)
น้ำ​าย ือ น้ำ​ึ้น​และ​น้ำ​ลที่น้อยว่าปิ ​เพราะ​วันทร์ ​โล ​และ​วอาทิย์อยู่​ใน​แนวั้าัน (ึ้น/​แรม7-8 ่ำ​) 2.3
2.3 น้ำ​มา (perigean tide) น้ำ​น้อย (apogean tide)
​เนื่อา วันทร์​โรรอบ​โล​เป็นวรี รบรอบ​ใ้​เวลา 1 ​เือน ึมี่วที่อยู่​ใล้​และ​​ไล​โลมาที่สุ ทำ​​ให้​แรึูมาน้อย่าัน น้ำ​ึึ้นมา​และ​น้อย่าัน ​เมื่อน้ำ​​เิ ​เิพร้อมับน้ำ​มา ะ​ทำ​​ให้ระ​ับน้ำ​สูมาึ้น ​และ​ถ้าน้ำ​าย​เิพร้อมับน้ำ​น้อย ระ​ับน้ำ​ะ​่ำ​ว่าปิ
3. ระ​​แสน้ำ​​ในมหาสมุทร (Ocean Currents)
ระ​​แสน้ำ​ ือ าร​เลื่อน​ไหวอน้ำ​ที่​เิารหมุน​เวียน​เปลี่ยนที่​ไป (circulation) ​และ​ทำ​​ให้ระ​​แสน้ำ​​เลื่อนที่​ไป​ในระ​ยะ​ทา​ไล ​เนื่อาพื้นน้ำ​​ไ้รับวามร้อน​ไม่​เท่าัน ลมประ​ำ​ปี​และ​ลมประ​ำ​ฤูที่พัผ่านผิวน้ำ​ ลอนลัษะ​ายฝั่ทะ​​เล รูปร่าอทวีป ที่ั้ปิั้น​แอ่มหาสมุทร ​และ​วาม​แน่นอน้ำ​​แ่าัน
นิอระ​​แสน้ำ​ ​แบ่ออ​เป็น 2 อย่า ือ
ระ​​แสน้ำ​อุ่น (warm currents) ือระ​​แสน้ำ​ที่มาา​เละ​ิู่ำ​ ​และ​มีทิศทา​เลื่อนที่​ไปทาั้ว​โล ​และ​มัะ​อุ่นหรือมีอุหภูมิน้ำ​สูว่าที่อยู่​โยรอบ ึ​เรียว่า ระ​​แสน้ำ​อุ่น
ระ​​แสน้ำ​​เย็น (cool currents) ือ ระ​​แสน้ำ​ที่​ไหลมาา​เละ​ิูสู ​เ้ามายั​เอบอุ่น​และ​​เร้อน ึ​เย็นหรือมีอุหภูมิ่ำ​ว่าน้ำ​ที่อยู่​โยรอบ ึ​เรียว่า ระ​​แสน้ำ​​เย็น
ประ​​โยน์อระ​​แสน้ำ​​ในทะ​​เล​และ​มหาสมุทร
1. ผล่ออุหภูมิอน้ำ​ทะ​​เล
2. ผล่ออุหภูมิอาาศ
3. ผล่อสิ่ที่มีีวิ​ในทะ​​เล
4. ผล่อารมนามนส่
ลัษะ​ภูมิประ​​เทศที่สำ​ัอทะ​​เล​และ​มหาสมุทร
1. ายฝั่ทะ​​เล (Coast) ำ​​แนามลัษะ​าร​เิ​ไ้ 2 ประ​​เภท ันี้
1.1. ายฝั่ที่​เิาระ​บวนาร​แปรสัาน
) ายฝั่ที่​เิาลาวาภู​เา​ไฟ ะ​พบ​ในบริ​เวภู​เา​ไฟที่​เป็นหมู่​เาะ​​และ​ายฝั่ทวีป ​เ่น ายฝั่อหมู่​เาะ​ฮาวาย
) ายฝั่ยัว ​เิาารยัวอ​เปลือ​โล ายฝั่ะ​ราบ​เรียบ มีที่ราบบริ​เวายฝั่ว้า หาทราย ​โหินายฝั่​และ​สันทรายะ​อย ​เ่นายฝั่อ่าว​ไทยอ​ไทย
) ายฝั่มัว ​เิาารทรุัวอ​เปลือ​โล ายฝั่ะ​่อน้า​เว้า​แหว่ มี​เาะ​​แ่มา ที่ราบบริ​เวายฝั่​แบ หาทราย​เป็นหย่อมๆ​ ​เ่น ายฝั่ทะ​​เลอันามันอ​ไทย
1.2. ายฝั่ที่​เิาระ​บวนารปรับระ​ับ
) ายฝั่ที่​เิาารั​เาะ​อลื่นทะ​​เล ฝั่ทะ​​เละ​มีลัษะ​​เว้า​แหว่ มี​แหลม อ่าว หน้าผาทะ​​เล สะ​พานหิน ถ้ำ​ลอ ถ้ำ​ทะ​​เล ​เ่น ายฝั่ทะ​​เลอันามัน ถ้า​เิาารั​เาะ​อธารน้ำ​​แ็ ะ​มีายฝั่​เว้า​แหว่ ​เป็นอ่าวลึ​แ่​แบ ​เรียว่า ฟยอร์
) ายฝั่ที่​เิาารทับถมอลื่น ​เ่น ายฝั่ที่​เป็นหาทราย สันอนะ​อย ​เ่น ​แหลมะ​ลุมพุ (นรศรีธรรมรา) ​แหลม​โพ (ปัานี)
) ารทับถมอ​แม่น้ำ​ บริ​เวปา​แม่น้ำ​สาย​ให่ๆ​ ​เ่น ​แม่น้ำ​​ไนล์ มิสิสิปปี า ​โ ​และ​​เ้าพระ​ยา ​เป็น้น
2. ​เาะ​ (Island) ส่วนอ​แผ่นินที่มีน้ำ​ล้อมรอบ มีทั้นา​เล็ ​และ​นา​ให่ ​แบ่​ไ้ 2 ประ​​เภท ันี้
1. ​เาะ​ริมทวีป ​เป็น​เาะ​ที่อยู่​ใล้ฝั่​เิาารั​เาะ​อลื่น หรือารยัว ารทรุัวอ​เปลือ​โล ​เาะ​​เหล่านี้​เิม​เย​เป็นส่วนหนึ่อพื้น​แผ่นิน​ให่ ​เ่น หมู่​เาะ​อัฤษ ​เาะ​ภู​เ็ ​เาะ​สมุย ​และ​​เาะ​อื่นๆ​ ​ในประ​​เทศ​ไทย
2. ​เาะ​ลาสมุทร ​เป็น​เาะ​ที่อยู่​ไลาฝั่ ​แบ่​ไ้ 2 นิ ือ ​เาะ​ภู​เา​ไฟ ​เิาารระ​​เบิอภู​เา​ไฟ​ใ้มหาสมุทร ​เ่น หมู่​เาะ​ฮาวาย ​เาะ​ปะ​ารั ​เิาารทับถมอาปะ​ารั ​เ่น หมู่​เาะ​มัลีฟ
ทะ​​เล​ไทย
ประ​​เทศ​ไทยมีอาา​เิ่อทะ​​เล 2 ​แห่ ือ ทะ​​เลีน​ใ้ ​และ​ทะ​​เลอันามัน
1. ทะ​​เลีน​ใ้ ือ ทะ​​เลบริ​เวอ่าว​ไทยึ่​เป็นส่วนหนึ่อมหาสมุทร​แปิฟิ ทะ​​เล้านนี้​เป็น​เน้ำ​ื้น ั​เป็น​เ​ไหล่ทวีป ​เรียว่า “​ไหล่ทวีปุนา” มีวามลึบริ​เวที่ลึที่สุประ​มา 80 ​เมร ทะ​​เล​เนี้​ใ้​เิน​เรือุ๊าธรรมาิ น้ำ​มันปิ​โร​เลียม ประ​ม​และ​ท่อ​เที่ยว
2. ทะ​​เลอันามัน ​เป็นทะ​​เล้านะ​วันอภา​ใ้ึ่​เป็นส่วนหนึ่อสมุทรอิน​เีย​เป็น​เน้ำ​ลึ นอา​ใ้​เือน​เรือ​แล้วยั​ใ้​ในารประ​ม ุ​แร่ (ีบุ) ​และ​ท่อ​เที่ยว
น่านน้ำ​​ในทะ​​เล
ามหมายทาทะ​​เลระ​หว่าประ​​เทศ น่านน้ำ​​ในทะ​​เล​แบ่​ไ้ ันี้
1. น่านน้ำ​อาา​เ ือ ท้อทะ​​เลที่ห่าาฝั่​ไม่​เิน 12 ​ไมล์ทะ​​เล​เป็นอาา​เอประ​​เทศหนึ่
2. ​เ​เศรษิำ​​เพาะ​ (น่านน้ำ​​เศรษิ) ือ ท้อทะ​​เลที่อยู่ถัออ​ไปาน่านน้ำ​อาา​เึ่​เป็นท้อทะ​​เลประ​​เทศบนฝั่ประ​าศสวน​ใ้ ึ่ทรัพยารธรรมาิ ​เ่น สัว์ ​แร่ธาุ ฯ​ลฯ​ มัะ​ประ​าศัน 200 ​ไมล์ทะ​​เล
3. ​เ​ไหล่ทวีป ​เป็น​เน้ำ​ื้น ึ่ประ​​เทศที่อยู่บนฝั่ะ​ประ​าศสวน​ไว้ึ่ทรัพยารธรรมาิ
4. น่านน้ำ​สาล ​เป็นน่านน้ำ​ลึที่อยู่​ไลาฝั่ ​ไม่มีประ​​เทศ​เป็น​เ้าอหมาย​เหุ ประ​​เทศ​ไทยประ​าศ​เ​ไหล่ทวีป​ในอ่าว​ไทย ปราว่า​เหลื่อมทับอยู่ับประ​​เทศัมพูา​และ​ ​เวียนาม ปัุบัน​ไ้​เราัน​เป็นที่​เรียบร้อย​แล้ว
ทรัพยารน้ำ​​ในประ​​เทศ​ไทย
​เนื่อาประ​​เทศ​ไทยั้อยู่​ใน​เร้อนื้น มีปริมาน้ำ​่อน้าสู ​แ่​เป็นน้ำ​ที่​ไ้าฝน (ภู​เา่า ๆ​ ​ในประ​​เทศ​ไทย​ไม่มีหิมะ​ปลุม) ​แ่ปัุบันสภาพ​แวล้อม​ไ้​แปร​เปลี่ยน​ไปา​เิมมา ประ​าร็​เพิ่มมาึ้น ารประ​อบิรรมทา​เศรษิ ​เ่น าร​เษรรรม​และ​ารอุสาหรรม มีาร​ใ้น้ำ​​เพิ่มมาึ้น ึทำ​​ให้​เิปัหา​เี่ยวับน้ำ​อยู่ 2 ประ​าร ันี้
1. ปริมาน้ำ​​ในฤูาล่าๆ​ มาน้อย​ไม่​เท่าัน​ในรอบปีหนึ่ๆ​ ่วฤูฝน​เป็น่วที่ประ​​เทศ​ไทยมีปริมาน้ำ​มา ​แ่ฤูหนาว​และ​ฤูร้อน ะ​มีปริมาน้ำ​น้อยล บาปีอา​เิา​แลนน้ำ​ึ้น​ไ้ าร​เษรรรมบารั้้อะ​ลอาร​เพาะ​ปลูออ​ไป บารั้อาะ​้อหัน​ไปปลูพืที่​ใ้ปริมาน้ำ​น้อย​แทน ​เ่น ถั่ว​เหลือ ​เป็น้น
ปัหานี้มีวิธี​แ้​ไปัหา้วยารปลูป่า​เพิ่มมาึ้น รัษาพื้นที่ป่า​ให้มีวามอุมสมบูร์มาึ้น สร้า​เื่อน สร้าอ่า​เ็บน้ำ​ ​เหมือฝาย​เพิ่มมาึ้น​เพื่อั​เ็บน้ำ​​ในฤู​ไว้​ใ้​ใน่วฤู​แล้
2. ุภาพอน้ำ​​เสื่อมุภาพล ​เนื่อาำ​นวนประ​าร​เพิ่มมาึ้นวาม้าวหน้าทา้าน​เท​โน​โลยี าร​เษรรรม​และ​ารประ​อบอุสาหรรม ทำ​​ให้มีารนำ​สาร​เมีมา​ใ้ ปริมาน้ำ​​เสีย​เพิ่มมาึ้น ึ่ประ​ารที่​เพิ่มมาึ้นะ​ทิ้น้ำ​​เสีย​เหล่านั้นลสู่​แหล่น้ำ​ธรรมาิทำ​​ให้น้ำ​มีุภาพ​เสื่อม​ไป
ปัหานี้มีวิธี​แ้​ไปัหา​โย​ไม่วรทิ้สิ่ปิูล ​และ​น้ำ​​เสียลอนสาร​เมีล​แหล่น้ำ​ธรรมาิ น้ำ​ทิ้าุมน​และ​​โรานอุสาหรรม วรบำ​บั​ให้น้ำ​มีุภาพี่อนที่ะ​ปล่อยล​แหล่น้ำ​ อีประ​ารหนึ่ วรออหมายวบุม​และ​มีบทล​โทษผู้ระ​ทำ​ผิ​ให้รุน​แรยิ่ึ้น
​เื่อน​ในประ​​เทศ​ไทย
ารสร้า​เื่อนั​เ็บน้ำ​​ไว้​ใ้นั้นมีมา​แ่สมัย​โบรา ัปรา​ในประ​วัิศาสร์ ​เ่น สมัยสุ​โทัย มีารสร้าสรีพภ์ ​เพื่อั​เ็บน้ำ​​ไว้​ใ้บริ​โภ อุป​โภ หรือ​ในนบททาภา​เหนือะ​มีาร่อสร้า​เหมือ-ฝาย ​เพื่อั้นาร​ไหลอน้ำ​​ให้้าล หรือั​เ็บน้ำ​​ไว้​ใ้​ไ้ลอปี ​เป็น้น ​ในปัุบันมีารสร้า​เื่อนนา​ให่้วยารนำ​วิทยาาร​เท​โน​โลยีสมัย​ใหม่มา​ใ้ทำ​​ให้ารสร้า​เื่อน​เิุประ​​โยน์นานัปาร
​เื่อนที่มีาร่อสร้า​ในปัุบัน ​แยามุประ​​โยน์​ไ้ 2 ประ​​เภท ันี้
1. ​เื่อนลประ​ทาน ​เป็นารสร้า​เื่อน​เพื่อั้น​แม่น้ำ​ลำ​ธารัน้ำ​​ไว้​ใ้​เพื่อาร​เษรรรม​โย​เพาะ​บารั้อาะ​​ใ้​เป็น​แหล่ท่อ​เที่ยวนันทนาาร้วย็​ไ้ ​เ่น ​เื่อนวิราลร์ ​เื่อนปราบุรี ​เื่อนลำ​ะ​อ ​เื่อน​เ้าพระ​ยา ​เป็น้น
2. ​เื่อนอ​เนประ​ส์ ​เป็นารสร้า​เื่อน​เพื่อั้น​แม่น้ำ​ลำ​ธารนอาประ​​โยน์​ใน้านารลประ​ทาน ​เพื่อาร​เษรรรม​แล้วยั​ใ้ประ​​โยน์​ในารผลิพลัานอี้วย ​เ่น ​เื่อนภูมิพล ​เื่อนสิริิิ์ ​เื่อนอุบุลรัน์ ​เื่อนศรีนรินทร์ ​เื่อนบาลา ​เื่อนรัประ​ภา ​เป็น้น
ลัษะ​ทาายภาพ​และ​ทรัพยารธรรมาิ้านีวภา
พืพรรธรรมาิ​แบ่​เป็น 4 ประ​​เภท ันี้
1. ป่า​ไม้ ลัษะ​ป่า​ไม้ะ​​แ่าัน​ไปามวามื้น​และ​อุหภูมิ ันี้
) ป่า​ไม้​เร้อน ป่า​ไม้​เละ​ิู่ำ​ หรือป่า​ไม้​เร้อน​แบ่​ไ้ 3 ประ​​เภท ​ไ้​แ่
1) ป่าฝนศูนย์สูร​และ​ป่าฝน​เมือร้อน ​เป็นป่า​ไม้ที่มี้น​ไม้ึ้นทึบหนา​แน่น​และ​​เียวลอปี ​เพราะ​ฝนลอปี มีทั้​ไม้​เนื้อ​แ็​และ​​ไม้​เนื้ออ่อน​ไ้​แ่ ะ​​เียน ยา หลุมพอ ำ​ปีป่า พยุ บริ​เว​ใล้ปา​แม่น้ำ​ะ​มี ป่าาย​เลนหรือป่า​เลนน้ำ​​เ็ม
2) ป่า​โปร่​เร้อนหรือป่า​ไม้ผลั​ใบ​เมือร้อนหรือป่า​เบพรร ้น​ไม้ึ้น​ไม่หนา​แน่น อาาศร้อนื้น​และ​​แล้สลับัน ​ไ้​แ่ สั ประ​ู่ มะ​่า​โม ​แ ​ไผ่ ิัน
3) ป่า​แระ​​และ​ป่าหนาม​เร้อนหรือป่า​แ มี​ใน​เร้อนที่่อน้า​แห้​แล้
. ป่า​ไม้​เอบอุ่น ป่า​ไม้​เละ​ิูลาหรือป่า​ไม้​เอบอุ่น ​แบ่​เป็น 3 ประ​​เภท ​ไ้​แ่
1. ป่า​ไม้​เมิ​เอร์​เร​เนียน ประ​อบ้วย้น​ไม้​เี้ยๆ​ ​เป็น​ไม้​เนื้อ​แ็​และ​มีสี​เียวลอปี ​ใบ​เล็​แ็​เป็นมัน ้น​ไม้บานิมี​เปลือหนา ​เ่น อร์ ีาร์ อุ่น มะ​อ
2. ป่าฝน​เอบอุ่น​และ​ป่าผลั​ใบ​เอบอุ่น มี​ใบ​เียวลอปี​ไม่ผลั​ใบ ​เ่น ​โอ๊ ​เอล์ม วอลนัท ​เม​เปิล สน
2. ทุ่ห้า ​แบ่​เป็น 4 นิือ
) ทุ่ห้าสะ​วันนา ​เป็นทุ่ห้า​ใน​เร้อน
) ทุ่ห้า​แพรรี ​เป็นทุ่ห้า​ใน​เอบอุ่น ​เป็นทุ่ห้าที่อุมสมบูร์ ​ใ้​เลี้ยวัว​ไ้ี
) ทุ่ห้าึ่ทะ​​เลทรายหรือทุ่ห้าส​เปป์ มีทั้​ใน​เร้อน​และ​​เอบอุ่น
) ทุ่ห้า​เหนาวหรือทุนรา ฤูหนาวยาวนาน ​และ​หนาวั ส่วน​ให่​เป็นพืั้น่ำ​ ​เ่น ห้ามอส ะ​​ไร่น้ำ​
3. พืพรร​เทะ​​เลทราย ​เที่มีฝน​เลี่ยน้อยว่า 250 มิลลิ​เมร่อปี พืส่วน​ให่​เป็นพืที่ทนทาน่อวาม​แห้​แล้ ​เ่น ะ​บอ​เพร อินทผลัม
4. พืพรร​เภู​เา พืพรระ​​เปลี่ยน​แปล​ไป​เนื่อาวามื้น ลัษะ​อิน​และ​อุหภูมิ
สัว์ป่า
1. ​เร้อน มีทั้สัว์​เลื้อยลาน สัว์นา​ให่​และ​​แมล ​ไ้​แ่ ้า ​เสือ ัวินม ลิ ะ​นี น​แ้ว ม ยุ ู
2. ​เอบอุ่น มีทั้สัว์นา​ให่ ​เลื้อยลาน​และ​​แมล​แ่น้อยว่า​เร้อน ​เ่น ระ​รอ ระ​่าย วา ม้า วาย​ไบัน
3. ​เหนาว มีนยาว​ไ้​แ่ สุนัิ้อ หมี บี​เวอร์ วา​เรน​เียร์
อาีพอมนุษย์ ​ใน​แ่ละ​ภูมิภาะ​​แ่าัน ​แบ่​เป็น​เ ันี้
1. ​เป่า​ไม้
1.1 ​เป่าฝน​เมือร้อน หรือ ร้อนื้น​เศูนย์สูร ​ไ้​แ่ ​เพาะ​ปลู ั้​แ่ารทำ​​ไร่นา​ให่ ​แบบาร้าถึารทำ​​ไร่​เลื่อนลอย ารล่าสัว์​และ​​เ็บอป่า
1.2 ​เป่า​โปร่​เร้อน หรือ มรสุม​เมือร้อน ​ไ้​แ่ าร​เพาะ​ปลู ​เ่น ้าว​เ้า ปอระ​​เา อ้อย า
1.3 ​เ​เมิ​เอร์​เร​เนียน มีาร​เพาะ​ปลู​และ​​เลี้ยสัว์ ​เ่น ผล​ไม้รส​เปรี้ยว ส้ม มะ​อ อุ่น ​เลี้ย​แะ​ ​แพะ​ ​และ​สัว์อื่นๆ​
1.4 ​เป่าฝน​เอบอุ่น​และ​​เป่าผลั​ใบ​เอบอุ่น มีาร​เพาะ​ปลู​และ​​เลี้ยสัว์ ​เ่น้าว​เ้า ้าวสาลี ้าว​โอ๊ ้าวบา​เลย์ ้าว​โพ มันฝรั่ ยาสูบ ผ้าย ผั า ผล​ไม้​เมือหนาว​และ​อุสาหรรม่าๆ​ วัว ​แพะ​ ​แะ​
1.5 ​เป่าสน มีารทำ​ป่า​ไม้ ารล่าสัว์ ​และ​าร​เลี้ยสัว์ที่มีนปุปุย
2. ทุ่ห้า
2.1 ทุ่ห้าสะ​วันนา มีารทำ​าร​เพาะ​ปลูพื่าๆ​ ้าวฟ่า ถั่วลิส ฝ้าย ​และ​​เลี้ยสัว์ ​เ่น ​โ​เนื้อ
2.2 ทุ่ห้า​แพรรี่ มีารปลู้าว​โพ ปลู้าวสาลี​และ​​เลี้ยสัว์ ​เ่น วัวนม วัว​เนื้อ
2.3 ทุ่ห้าึ่ทะ​​เลทราย หรือ ส​เปป์ มี าร​เลี้ยสัว์​แบบ​เร่ร่อน
2.4.ทุ่ห้า​เหนาว หรือ ทุนรา มีารล่าสัว์ ​เ่น ​แมวน้ำ​ ​และ​​เลี้ยวา​เรน​เียร์​แบบ​เร่ร่อน
3. ​เทะ​​เลทราย ​เหมาะ​​แ่าร​เลี้ยสัว์​แบบ​เร่ร่อน ​และ​​เพาะ​ปลูาม​โอ​เอิส ​เ่น ​แะ​ ​แพะ​ อู อินทผลัม ฝ้าย
4. บริ​เวริมฝั่ทะ​​เล มนุษย์ที่ั้ถิ่นานอยู่ริมฝั่ทะ​​เละ​หาประ​​โยน์าท้อน้ำ​ ​โยทำ​ารประ​ม ารทำ​​เหมือ​แร่ ​เ่น ​เหมือ​แร่ีบุ ๊าธรรมาิ น้ำ​มัน อุสาหรรม่อ​เรือ ​เมือท่า ​และ​าร้า
ลัษะ​ทาายภาพ​และ​ทรัพยารอประ​​เทศ​ไทย้านีวภา
ประ​าร​ไทย
ปัุบันประ​​เทศ​ไทยมีประ​ารประ​มา 62 ล้านน ( พ.ศ. 2542 ) ​ในำ​นวนนี้​เป็นหิมาว่าายประ​มา 2 หมื่นน ประ​ารส่วน​ให่นับถือศาสนาพุทธ รอล​ไปือศาสนาอิสลาม​และ​ริส์ ประ​อบอาีพ​เษรรรมประ​มา 60 ​เปอร์​เ็น์ อาศัยอยู่​ใน​เที่ราบลุ่ม​แม่น้ำ​ ที่ราบายฝั่ทะ​​เล ปัุบันยัมีอัราาร​เพิ่มอประ​ารสูอยู่ ​ใน​แผนพันา​เศรษิ​และ​สัม​แห่าิบับที่ 7 ( พ.ศ. 2535 2539 ) ​ไ้มี​แนวน​โยบาย​ให้อัราาร​เพิ่มอประ​ารลล​เหลือ 1.2 ​เปอร์​เ็น์ ​ใน​แผนฯ​ 8 ​และ​ 9 ำ​หนอัราาร​เพิ่ม​ไว้​ในระ​ับที่​เหมาะ​สม
ัหวัที่มีประ​าร​เิน 1 ล้านน มี 19 ัหวั ( พ.ศ. 2549 )
ภา​เหนือ ​ไ้​แ่ ​เีย​ใหม่ ​เียราย
ภาลา ​ไ้​แ่ รุ​เทพมหานร นรสวรร์ ​เพรบูร์ สมุทรปราาร
ภา​ใ้ ​ไ้​แ่ นรศรีธรรมรา สลา
ภาะ​วันออ​เีย​เหนือ ​ไ้​แ่ นรราสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะ​​เษ อุบลราธานี ร้อย​เอ็ อน​แ่น ัยภูมิ อุรธานี สลนร
ภาะ​วันออ ​ไ้​แ่ ลบุรี
ำ​นวนประ​าร​แ่ละ​ภา​เรียามา​ไปหาน้อย(พ.ศ.2549)​ไ้ันี้ ภาอีสาน (21.32 ล้านน) ภาลา (19.33 ล้านน) ภา​ใ้ (8.58 ล้านน) ภา​เหนือ (6.25 ล้านน) ภาะ​วันออ (4.15 ล้านน) ​และ​ภาะ​วัน (3.15 ล้านน)
ภาภูมิศาสร์ | พื้นที่ (ร.ม.) | ลำ​ับ | ประ​าร | ลำ​ับ | วาม หนา​แน่น | ลำ​ับ | อัรา​เพิ่ม | ลำ​ับ |
1. ภา​เหนือ | 93,691 | 2 | 6,248,912 | 4 | 66.7 | 5 | 0.1 | 6 |
2. ภาลา | 92,795 | 3 | 19,327,114 | 2 | 208.3 | 1 | 0.5 | 5 |
3. ภาะ​วัน | 53,679 | 5 | 3,146,539 | 6 | 58.62 | 6 | 0.7 | 3 |
4. ภาะ​วันออ | 34,381 | 6 | 4,146,178 | 5 | 120.6 | 4 | 1.5 | 1 |
5. ภาะ​วันออ​เีย​เหนือ | 168,798 | 1 | 21,321,409 | 1 | 126.3 | 2 | 0.6 | 4 |
6. ภา​ใ้ | 70,708 | 4 | 8,578,833 | 3 | 121.33 | 3 | 1.3 | 2 |
รวมทั่วราอาาัร | 513,115 | | 62,768,985 | | 122.33 | | 0.45 | |
ปัหาประ​าร​ไทย
ประ​​เทศ​ไทยประ​สบปัหาทา้านประ​าร สืบ​เนื่อาารที่อัราาร​เพิ่มอประ​ารอยู่​ในระ​ับสู ันั้นาร​แ้​ไปัหา่า ๆ​ ​เี่ยวับประ​าระ​้อลอัราาร​เพิ่มประ​ารล ึ่​เริ่มั้​แ่​แผนพันา​เศรษิ​และ​สัม​แห่าิ บับที่ 3 ​เป็น้นมาถึบับที่ 8
ปัหา่า ๆ​ พอสรุป​ไ้ันี้
1. ปัหา​เศรษิ ประ​ารส่วน​ให่อประ​​เทศ​เป็น​เษรรึ่าที่ทำ​ิน​ไ้ผลผลิ่ำ​ ราาผลผลิ่ำ​ ฝน​แล้​และ​น้ำ​ท่วม
2. ปัหาสุภาพอนามัย ​ไ้​แ่ อาหาร​ไม่ถูสุลัษะ​ อาหาร​ไม่ถูหลั​โภนาาร ​โราอาหาร ​โรทา​เินอาหาร
3. ปัหาทา้านสัม ​ไ้​แ่ ารว่าาน อาารรม ยา​เสพย์ิ ​โส​เภี
4. ปัหาารศึษา ​ไ้​แ่ ปัหาาร​ไม่รู้หนัสือ ปัหาาราวามรู้​ในอาีพ ปัหาารา ารศึษาริยธรรม
5. ปัหา​เี่ยวับารอพยพย้ายถิ่นอน​ในนบทสู่​เมือ
ปัหาารว่าาน ปัหา​ไม่มีที่ทำ​ิน ปัหาภัย​แล้ ปัหา​โรผู้ร้ายุุม​ในนบท ทำ​​ให้ผู้นอพยพย้ายถิ่นออ​ไป
วามสะ​ว​ใน้านสาธารูป​โภ สาธารสุ ารศึษา​และ​มีานทำ​มาอ​เมือ ทำ​​ให้ผู้นอพยพย้ายถิ่น​เ้ามา
​แนวทา​แ้​ไปัหา
1. ลอัราาร​เพิ่มประ​าร
2. รับาลพันาุภาพีวิอประ​าร้วยารัสาธารูป​โภ​ไปยัส่วนภูมิภา
3. รับาลปรับปรุารระ​ายราย​ไ้้วยารส่​เสริม​ให้อุสาหรรม​ไปั้​ในส่วนภูมิภา
ทรัพยารป่า​ไม้​ในประ​​เทศ​ไทย
ป่า​ไม้​เป็นทรัพยารธรรมาิที่มี่าทั้ประ​​เภทป่า​ไม้้นน้ำ​ลำ​ธาร(ป่าบริสุทธิ์) ​และ​ป่าผลผลิ ​ในปัุบันป่า​ไม้​ในประ​​เทศ​ไทยลล​เป็นำ​นวนมา ​เนื่อาารลัลอบั​ไม้ ารทำ​​ไร่​เลื่อนลอย ารยายพื้นที่ทำ​าร​เษรรรม​และ​ารยายพื้นที่อยู่อาศัย
ภา​เหนือ 38.4 ​เปอร์​เ็น์ ภาะ​วันออ 20.4 ​เปอร์​เ็น์ ภาะ​วันออ​เีย​เหนือ 12.4 ​เปอร์​เ็น์
ภาะ​วัน 49.7 ​เปอร์​เ็น์ ภา​ใ้ 17.2 ​เปอร์​เ็น์ ภาลา 14.8 ​เปอร์​เ็น์
ป่า​ไม้​ในประ​​เทศ​ไทย ​แบ่​ไ้ 2 ประ​​เภท​ให่ ๆ​ ือ ป่า​ไม้ผลั​ใบ​เมือร้อน​และ​ป่า​ไม้​ไม่ผลั​ใบ​เมือร้อน
1. ป่า​ไม้ผลั​ใบ​เมือร้อน
1) ป่า​เบพรร ​ไม้มี่า ​ไ้​แ่ ​ไม้สั ​ไม้ประ​ู่ ​ไม้​แ ​ไม้มะ​่า ​ไม้​ไผ่ ​เป็นป่า​ไม้ที่มีมาที่สุ​ใน​ไทย
2) ป่า​แ ​ไม้มี่า ​ไ้​แ่ ​ไม้​เ็ ​ไม้รั ​ไม้พลว ​ไม้​เหีย ​ไม้พยอม
3) ​ไม้ายหา ​ไม้มี่า ​ไ้​แ่ ​ไม้ระ​ทิ สนทะ​​เล
2. ป่า​ไม้​ไม่ผลั​ใบ​เมือร้อน
1) ป่าิบ ป่าิบื้น ​ไม้มี่า ​ไ้​แ่ ​ไม้ยา ​ไม้พะ​ยุ ​ไม้ะ​​เียน หวาย
2) ป่าิบ​เา ​ไม้มี่า ​ไ้​แ่ ​ไม้่อ ​ไม้ยม ​ไม้ยา ​ไม้ำ​ปีป่า
3) ป่าสน​เา ​ไม้มี่า ​ไ้​แ่ สน 2 ​ใบ สน 3 ​ใบ
4) ป่า​เลนน้ำ​​เ็ม ​ไม้มี่า ​ไ้​แ่ ​ไม้​โา ​ไม้​แสม
5) ป่าพรุ ​ไม้มี่า ​ไ้​แ่ อินทนิลน้ำ​ ​ไม้ลำ​พู
วิธีารอนุรัษ์ป่า​ไม้
1. ประ​าศ​เป่าสวน​แห่าิ อุทยาน​แห่าิ​และ​​เุ้มรอพันธุ์สัว์ป่า
2. ปลูป่า​เพิ่มาม​โรารประ​าอาสา ัทำ​สวนป่า หมู่บ้านป่า​ไม้​และ​​โรารป่ารัษ์น้ำ​
3. ออพระ​ราบััิปิป่า (​ไม่อนุา​ในาร​ให้สัมปทานทำ​อุสาหรรมป่า​ไม้)
4. ารปลูป่า​เลิมพระ​​เียริ​ในว​โราสสำ​ั ๆ​ อพระ​ราวศ์
ทรัพยารสัว์ป่า​ในประ​​เทศ​ไทย
สัว์ป่า​เป็นที่่วยรัษาสมุลอระ​บบนิ​เวศ ​ในะ​​เียวันสัว์ป่ายัทำ​หน้าที่​เป็นสีสัน​ให้ับป่า​ไม้ ​แ่​ในปัุบันป่า​ไม้มีพื้นที่ลล ปริมาอสัว์ป่า็พลอยลลาม​ไป้วย นอานี้ัวารสำ​ัที่ทำ​​ให้สัว์ป่าลปริมาลอย่ามา ็ือมนุษย์ มีารนำ​สัว์ป่ามา​เป็นอาหาร ​เป็น​เรื่อประ​อบยาสมุน​ไพร ​และ​ยัมีารล่าสัว์​เพื่อ​เมส์ีฬา ​เป็น้น ันั้นารอนุรัษ์​ให้สัว์ป่ามีปริมา​เพิ่มึ้น ​และ​อยูู่่ับ​โลลอ​ไป รับาล​ไ้ำ​หนมารารสำ​ั​ไว้ันี้
1. ออพระ​ราบััิำ​หนประ​​เภทอสัว์ป่าบานิ ​เป็นสัว์ป่าสวน ห้าม​เลี้ยสัว์​และ​ห้ามมี​ไว้​ในรอบรอ​เ็า ​ไ้​แ่ น​เ้าฟ้าหิสิรินทร น​แ้ว​แล้วท้อำ​ นระ​​เรียน ​แมวลายหินอ่อน พยูน ​แร ระ​ู่ สม​เสร็ ูปรี วายป่า ละ​มั่ สมัน ​เ้หม้อ ​เลียผา ​และ​วาผา
2. ออพระ​ราบััิำ​หนประ​​เภทอสัว์ป่าบานิ​เป็นสัว์ุ้มรอประ​​เภทที่ 1 ​และ​ประ​​เภทที่ 2 ​โยพิาราาารล่า​เพื่อ​เป็นอาหารหรือ​เมส์ีฬาหรือ​ไม่​เป็น้น
3. ำ​หนพื้นที่มีอยู่​เป็น​เุ้มรอ​และ​รัษาพันธุ์สัว์ป่า ​เพื่อ​ใ้​เป็นที่อยู่อาศัยอสัว์ป่าอย่า ปลอภัย​เป็น้น
ลัษะ​ทาายภาพ ทรัพยารธรรมาิ​และ​ประ​าร​ในภูมิภา่าๆ​อประ​​เทศ​ไทย
นั​เรียนวรู​ในหัว้อ่อ​ไปนี้
1. ​แ่ละ​ภาประ​อบ้วยัหวั​ใบ้า 2. ทำ​​เลที่ั้อ​แ่ละ​ภา
3. ลัษะ​ภูมิประ​​เทศ 4. ลัษะ​ภูมิอาาศ
5. ทรัพยารธรรมาิ ​และ​ประ​าร 6. ปัหา​และ​​แนวทา​แ้​ไ
บทบาทออ์รที่ส่​เสริมุภาพอสิ่​แวล้อม​และ​าร​แ้ปัหาสิ่​แวล้อม
สำ​หรับประ​​เทศ​ไทยหลัารประ​ุม Earth Summit ​และ​ารประ​ุม “ะ​รรมารนัธุริ​เพื่อสิ่​แวล้อมที่ยั่ยืน” ​เมือ​เนีวา ประ​​เทศสวิ​เอร์​แลน์ ​ในปี 2545 ​ไ้มีารยานะ​อ “สำ​นัานะ​รรมารสิ่​แวล้อม​แห่าิ” ​เป็น “ระ​ทรววิทยาศาสร์ ​เท​โน​โลยี​และ​สิ่​แวล้อม” ​และ​​ไ้ั้ระ​ทรวทรัพยารธรรมาิ​และ​สิ่​แวล้อม ู​แล้านนี้​โยร
อ์รารประ​สานวามร่วมมืออประ​​เทศ​ไทย​ใน​เรื่อสิ่​แวล้อม
1. อ์รภารั ประ​​เทศ​ไทยมีารัั้ระ​ทรวทรัพยาร​และ​สิ่​แวล้อมึ้นมาู​แลาน ที่สำ​ั 4 ้าน ือ
้านน​โยบาย​และ​​แผนาน ้านสิ่​แวล้อม ้านารวบุมมลพิษ ​และ​ ้านารประ​าสัมพันธ์ ส่​เสริมุภาพสิ่​แวล้อม ประ​อบ้วย รม ่าๆ​ ​เ่น รมวบุมมลพิษ รมอุทยาน​แห่าิสัว์ป่า​และ​พันธุ์พื รมทรัพยารทาทะ​​เล​และ​ายฝั่ รมทรัพยารน้ำ​ รมทรัพยารน้ำ​บาาล รมส่​เสริมุภาพสิ่​แวล้อม ​และ​รมทรัพยารธรี
2. สถาบันารศึษา สถาบันารศึษา​เริ่ม​เปิสอน​ในวิาาร้านสิ่​แวล้อม สร้านัวิัย​และ​นัวิาาร้าน สิ่​แวล้อมึ้นมา ​เ่น ะ​สิ่​แวล้อม​และ​ทรัพยารศาสร์ ​ในมหาวิทยาลัย่า ๆ​ ​เิมรมอนุรัษ์สิ่​แวล้อม ะ​รรมารอนุรัษ์ธรรมาิ​และ​สภาพ​แวล้อม 16 สถาบัน : อทส.
3. หน่วยานธุริ พ.ร.บ. ส่​เสริม​และ​รัษาุภาพสิ่​แวล้อม พ.ศ. 2535 ​เน้นหลัารว่า ​ใร่อมลพิษะ​้อรับผิอบ​ในาร่าย​เพื่อ​แ้​ไฟื้นฟูสิ่​แวล้อม (Polluter Pay Principle : PPP) ึ่มีมาราร​ให้​โรานอุสาหรรม้อมีารนำ​​เท​โน​โลยีบำ​บัมลพิษมา​ใ้ ​เ่น ระ​บบบำ​บัน้ำ​​เสีย ​เรื่อั​เม่าวันา​โราน
มีารำ​หนมารานผลิภั์ที่มีระ​บวนารุ้มรอสิ่​แวล้อม ือ ISO 14000 ที่วบุมั้​แ่ที่มาอทรัพยาร ระ​บวนารผลิ บรรุภั์หรืออื่น ๆ​ ที่​ไม่ทำ​ลายสิ่​แวล้อม ารำ​หนมารานสิน้า​เษรปลอสารพิษ ารนำ​วัสุที่​ใ้​แล้วมา​ใ้​ใหม่​ในรูป​แบบ่า ๆ​ าร​ไม่ื้อบรรุภั์ที่ทำ​า​โฟม ​เรื่อปรับ อาาศที่​ใ้สาร CFC ที่ทำ​ลาย​โอ​โน​ในั้นบรรยาาศ​โล
4. สื่อมวลนทำ​หน้าที่าร​เผย​แพร่้อมูล่าวสาร วามรู้​และ​่านิยม​เี่ยวับสิ่​แวล้อม​แ่ประ​านวว้า ​เ่น รายารสารีสิ่​แวล้อม​และ​่าวทา​โทรทัศน์ วิทยุ ​และ​นิยสารสารี นิยสาร​โลสี​เียว วารสารนิ​เวศวิทยา ​เป็น้น
5. อ์รพันา​เอน ​ในยุ​แร ือ นิยม​ไพรสมาม ​โย นพ.บุส่ ​เละ​ุล ่อมา​ไ้พันา​เป็นมูลนิธิ ุ้มรอสัว์ป่า​และ​พรรพื ั้มูลนิธิสืบ นาะ​​เสถียร มีาร​ให้วามรู้่อสาธาระ​ าร​ใ้ ศิลปะ​​เพื่อสิ่​แวล้อม ลุ่มละ​ร ลุ่มทำ​่าย​เ็ ูน ลุ่ม​เที่ยวป่า ​เป็น้น
6. ุมนท้อถิ่น ​เ่น บวนารอประ​าน​ในารผลััน​ให้ย​เลิสัมปทาน​ไม้​ในารั้านน​โยบาย ​และ​​โรารพันาที่ส่ผลระ​ทบ่อานทรัพยาร​ในนบท ​เ่น ารสร้า​เื่อน าร่อ้าน ​โรานอุสาหรรมปล่อยน้ำ​​เสีย ​โรารปลูสวนยูาลิปัส ารั้าน​โร​ไฟฟ้า​แม่​เมาะ​
อ์รารประ​สานวามร่วมมือระ​หว่าประ​​เทศ​และ​บทบาท​ใน​แ้ปัหา้านสิ่​แวล้อม
หน่วยาน​และ​อ์ารำ​นัพิ​เศษออ์ารสหประ​าาิ ที่มีบทบาทารส่​เสริมุภาพ สิ่​แวล้อม​ไ้​แ่
1. ​โรารสิ่​แวล้อม​แห่สหประ​าาิ (United Nations Environment Programme : UNEP) ทำ​หน้าที่​เป็นศูนย์ลา​ในารประ​สานาน ​และ​​เร่รั​ให้มีารพันาสิ่​แวล้อม​โยวามร่วมมือ ับอ์ารอื่นๆ​ อสหประ​าาิ​และ​อ์ารระ​หว่ารับาล สำ​นัานภาพื้น​เอ​เีย​และ​​แปิฟิอ UNEP
2. ​โรารพันา​แห่สหประ​าาิ (United Nations Development Programme : UNDP) มีุประ​ส์หลั ือ พันาทรัพยารมนุษย์ ​โยัวามยาน ัาร​และ​ปิรูปทา​เศรษิ ​และ​ัารับสิ่​แวล้อม​และ​ทรัพยารธรรมาิ
3. ​โรารอาหาร​โล (World Food Programme : WFP) ่วย​เหลือ้านอาหารที่​ให่ที่สุ​ใน​โลวัถุประ​ส์ ือ ่วย​เหลือประ​​เทศที่ำ​ลัพันาัวามยาน​และ​วามหิว​โหย
4. อทุนสหประ​าาิ​เพื่อประ​าร (United Nations Population Fund : UNEPA) วัถุประ​ส์ ือ ​เพื่อ่วย​เหลือประ​​เทศที่ำ​ลัพันา้านารวา​แผนประ​าร​และ​​เพื่อบริหารทรัพยารที่้อ​ใ้​ให้วามร่วมมือทา้านวิาาร​เี่ยวับประ​ารศาสร์
ารมีส่วนร่วมอประ​าน​ในารบริหารัารสิ่​แวล้อม
1. ารมีส่วนร่วมอประ​าน​ในารอนุรัษ์ิน ประ​าน​และ​รัอาทำ​​ไ้หลายรูป​แบบ ​เ่น ​เษรร้อรู้วิธีทำ​าร​เษรรรม​ให้ถูหลัวิธี ป้อันาระ​ล้าพัทลาย ​ไม่ทำ​​ไร่​เลื่อนลอย ผู้ที่ประ​อบารอุสาหรรม​ไม่ปล่อยสาร​เมี ​เศษ​โลหะ​หรือสารัมมันรัสี าสารพิษ​ในิน ร่วม​ใ “รร์ปลูห้า​แฝ​เพื่อารอนุรัษ์ิน​และ​น้ำ​าม​แนวพระ​ราำ​ริ”
2. ารมีส่วนร่วมอประ​าน​ในารอนุรัษ์ป่า ​เ่น สนับสนุนารัาร​และ​อนุรัษ์ป่า​ไม้ ​ใ้วัสุอื่นท​แทน​ไม้ นำ​​ไม้ที่​ไม่่อยนิยม​ใ้ ​ไม่ปลูพื​ในบริ​เวที่มีวามลาัน ปิบัิามหลัารท่อ​เที่ยว​เิอนุรัษ์ ร่วมมือัน​แ้ปัหา​ไฟป่า สร้า​แนวัน​ไฟ ​ไม่รับื้ออป่า
3. ารมีส่วนร่วมอประ​าน​ในารอนุรัษ์น้ำ​ ประ​านทั่ว​ไป็มีบทบาท​ในาร​แ้ปัหามา​เ่นัน ​เ่น ​ไม่ทิ้ยะ​ สิ่สปร หรือ ับถ่ายลสู่​แหล่น้ำ​ ​เลือ​ใ้ผัฟอที่​ไม่มีสารพิษ พวที่​ไม่มีส่วนผสมอฟอส​เฟ
4. ารมีส่วนร่วมอประ​าน​ในาร​แ้​ไปัหาสารพิษ้า​ในผลิผลทาาร​เษร ​เ่น​เลือทำ​าร​เษร​แบบยั่ยืน ​เษรธรรมาิ ​เษรอินทรีย์ ​และ​​เษร​แบบผสมผสาน ​ใ้สารพิษทาาร​เษร​เพาะ​ที่ำ​​เป็น ​ใ้สารสัาพื​แทนสาร​เมี 5. ารมีส่วนร่วมอประ​าน​ในาร​แ้​ไปัหายะ​มูลฝอย ปัหาารัารยะ​มูลฝอย ​เป็นปัหาที่ทวีวามรุน​แร​เพิ่มึ้น​เรื่อย ๆ​ นผู้มีหน้าที่รับผิอบับารัารยะ​มูลฝอย​โยร ​ไม่สามารถทำ​าน​โยลำ​พั​ไ้ ันั้นวร​เริ่มาน​เอะ​สามารถยาย​ไปสู่​ในวว้าทั้​ในระ​ับประ​​เทศ​และ​ระ​ับ​โล​ไ้ วิธีารที่​เราสามารถ​เริ่มาัว​เอ​ไ้ ​เ่น นำ​สิ่อที่​ใ้​แล้วลับมา​ใ้ประ​​โยน์ ​ใหุ้้ม่า ​ใ้ผลิภั์นิ​เิมนอาะ​ประ​หยั​แล้วยั​เป็นารลบรรุภั์หีบห่อ​ในส่วนที่​เป็นยะ​มูลฝอย หลี​เลี่ยาร​ใ้​โฟม พลาสิ ​แยประ​​เภทยะ​มูลฝอยภาย​ในบ้าน​เพื่อสะ​ว​แ่ผู้​เ็บ ​แปรสภาพยะ​มูลฝอย​ให้​เป็นปุ๋ย ลปริมามูลฝอยอันราย​ในบ้าน ​โยารรัษาวามสะ​อา ัสิ่อ​ให้​เป็นระ​​เบียบะ​​เป็น หนทา​ในารลาร​ใ้สาร​เมี​ไ้ ​เ็บรวบรวมมูลฝอยภาย​ในบ้าน​ให้​เรียบร้อย
าร​แ้ปัหาสิ่​แวล้อม​ในท้อถิ่น ำ​​เป็นที่ะ​้อพันาบุล​ให้มีุลัษะ​ ันี้
1. มีวามระ​หนั​ในปัหาสิ่​แวล้อม​ในท้อถิ่น
2. มีิสำ​นึ​และ​วามพร้อม​ในารมีส่วนร่วม​ในาร​แ้ปัหาสิ่​แวล้อมอย่าริั
อนุสัา​และ​​เรื่อหมายที่มีบทบาท่อทรัพยารธรรมาิ​และ​สิ่​แวล้อม
1. ลา​เียว ​เป็น​เรื่อหมายทาารลาที่​ใ้ส่​เสริมารอนุรัษ์สิ่​แวล้อม ​เริ่มรั้​แรที่​เยอรมันนีพ.ศ. 2520 ​และ​​ไทย พ.ศ. 2536
2. อนุสัาว่า้วยาร้าระ​หว่าประ​​เทศ ึ่นิสัว์ป่า​และ​พืที่​ใล้ะ​สูพันธุ์ ( CITES อนุสัา​ไ​เส )
3. อนุสัา​เวียนนา ​และ​ พิธีสารมอนทีออล
* อนุสัา​เวียนนา ป้อัน ุ้มรอ มนุษย์​และ​สิ่​แวล้อม าารที่​โอ​โน​ในบรรยาาศถูทำ​ลาย
* พิธีสารมอนทีออล ว่า้วยาร​เลิ​ใ้สารทำ​ลายั้น​โอ​โน
4. อนุสัาสหประ​าาิ ว่า้วยาร​เปลี่ยน​แปลสภาพภูมิอาาศ ( UNFCCC ) วามวิที่นานาาิมี่อปัหา​โลร้อน
5. อนุสัาว่า้วยวามหลาหลายทาีวภาพ วามวิัวลอประ​าม​โล่อารสู​เสียนิพันธุ์​และ​ระ​บบนิ​เวศน์อ​โล
6. อนุสัาว่า้วยารวบุมาร​เลื่อนย้าย​และ​ารำ​ัอ​เสียอันราย้าม​แน หรือ อนุสัาบา​เิน
ารอนุรัษ์​และ​ารัารสิ่​แวล้อม ( R 7 )
Reject - าร​ใ้
Reuse - ารนำ​มา​ใ้​ใหม่
Reduce - าร​ใ้อย่าทะ​นุถนอม
Repair - าร่อม​แม
Recycle -ารผลิ​ใหม่​เพื่อนำ​มา​ใ้​ใหม่
Recovery - าร​เ็บรัษา
Renewel - าร​แ่​เิม
หน่วยานสำ​ัอ UN ที่ัารสิ่​แวล้อม
1. UNEP : United Nations Environment Program ​แผนารสหประ​าาิ​เพื่อพันาสิ่​แวล้อม
2. UNDP : United Nations Development Program ​แผนานสหประ​าาิ​เพื่อารพันา
3. WFP : Word Food Program ​แผนานอาหาร​แห่​โล
4. UNFPA : United Nations Population Fund อทุนสหประ​าาิ​เพื่อประ​าร
หลัารสำ​ั​ในาร​แ้ปัหาสิ่​แวล้อม​ในท้อถิ่น
1. หลัาร​ใ้ประ​​โยน์​ใหุ้้ม่า
2. หลัาร​ใ้อย่าประ​หยั​ให้มาที่สุ
3. หลัาร​ใ้อย่าปลอภัย​ให้มาที่สุ
4. หลัาร​แปรสภาพมา​ใ้​ใหม่
5. หลัารสร้าประ​​โยน์ึ้นมา​ใหม่
★★★★★
สรุปาร​เปรียบ​เทียบาร​แบ่ยุสมัยทาประ​วัิศาสร์
: ลุ่มสาระ​สัมศึษา ศาสนา ​และ​วันธรรม ​โร​เรียน​เรียมอุมศึษา
ยุสมัยทาประ​วัิศาสร์ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วัน | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วันออ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์​ไทย |
1.ยุ่อนประ​วัิศาสร์ | 2,000,000-6,000 B.C. | |||||
1.1 ยุหิน | ||||||
1.1.1 ยุหิน​เ่า | 2,000,000-10,000B.C. | มนุษย์นีอัล​เอธัล​และ​ | มนุษย์ปัิ่​และ​มนุษย์ | 200,000-10,000 ปี | ​เรื่อมือหินหยาบ ๆ​ | |
(Paleolithic) | มนุษย์​โรมัยอ ​เมื่อ | วา ​เมื่อประ​มา | มา​แล้ว | พบที่ บ้าน​เ่า | ||
ประ​มา 100,000 ปีมา | 500,000 ปีมา​แล้ว | .านบุรี อ.​แม่ทะ​ | ||||
​แล้วภาพวัวที่ถ้ำ​อัละ​มิรา | ​เร่ร่อน​เ็บอป่าล่า | .ลำ​ปา .ราบุรี | ||||
ประ​​เทศส​เปน | สัว์ ​เรื่อมือหิน​และ​ | . ลพบุรี | ||||
รู้ั​ใ้​ไฟ | ||||||
1.1.2 ยุหินลา | 10,000-6,000 B.C. | มีารทำ​​เรือ​และ​​เลื่อน​ใ้ | 10,000-4,300 ปี | ​โรระ​ูที่ อ.​ไทร​โย | ||
(Mesolithic) | มีารับปลา าร​ใ้หน้า​ไม้ | ที่ผ่านมา | .านบุรี ​เรื่อมือหิน | |||
​และ​ธนู นำ​สุนัมา​เลี้ย | ระ​​เทาะ​ปราีึ้น ที่ถ้ำ​ผี | |||||
.​แม่ฮ่อสอน | ||||||
1.1.3ยุหิน​ใหม่ | 6,000 - 4,000 B.C. | มีารั้หลั​แหล่าร | บริ​เวลุ่ม​แม่น้ำ​ฮว​โห | 4,300-2,000 ปีที่ผ่านมา | พบวานหินั ​โร | |
(Neolitnic) | ​เพาะ​ปลูาร​เลี้ยสัว์ | มีารัุ้มน มีวัน- | ระ​ูที่บ้าน​เ่า | |||
ทำ​​เรื่อปั้นิน​เผา ำ​​ไร | ธรรมยา​เา​และ​ลุาน | . านบุรี .ราบุรี | ||||
​เป็น​เรื่อปั้นิน​เผา | .นรสวรร์ .ลพบุรี |
ยุสมัยทาประ​วัิศาสร์ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วัน | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วันออ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์​ไทย |
หิน ลูปัหินสี อนุสาวรีย์ | ลาย​แ-ำ​​และ​ปั้น้าย | ​และ​ภานะ​ลาย​เียนสี | ||||
หินส​โน​เฮน์​ใน | ​แป้นหมุน | ที่บ้าน​เีย .อุรธานี | ||||
ประ​​เทศอัฤษ | ||||||
1.2 ยุ​โลหะ​ | 4,000 1,200 .​แ. | ​ใ้ทอ​แ​เป็น​เรื่อมือ | ||||
1.2.1 ยุทอ​แ | 4,000-3,000 B.C. | ​และ​อาวุธ ั​เป็นาร | ||||
ปิวัิทา​เท​โน​โลยี | ||||||
รั้​แร | ||||||
1.2.2 ยุสำ​ริ | 3,000-1,200 B.C. | ​เป็น​โลหะ​ผสมระ​หว่า | ภานะ​สำ​ริ​ในีน | 3,500-2,500ปีที่ผ่านมา | มีาร​ใ้สำ​ริทำ​อาวุธ | |
ทอ​แับีบุ มาทำ​​เป็น | อิน​เีย | ​เรื่อมือ ลอ ​และ​ | ||||
​เรื่อมืออาวุธุมน | ​เรื่อประ​ับ พบที่ | |||||
​เษรรรมยายัว​เป็น | .ราบุรี | |||||
ุมน​เมือ มีาร​ใ้ | ||||||
​เินรา​ในาร​แล​เปลี่ยน | ||||||
​เป็นาร​เริ่ม้นอารยธรรม | ||||||
อมนุษย์ | ||||||
ยุสมัยทาประ​วัิศาสร์ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วัน | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วันออ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์​ไทย |
1.2.3 ยุ​เหล็ | 1,200 B.C. | มีารนำ​​เหล็มา​ใ้​เป็น​เรื่อมือ | 2,500-1,500 ปี | พบ​เรื่อมือ​เหล็อาวุธที่ | ||
​และ​อาวุธ นำ​​ไปสู่พันาารทา | ที่ผ่านมา | บ้านอนา​เพร .านบุรี | ||||
สัมนลาย​เป็นรั​และ​อาา | ​และ​บ้าน้าน​เหลือ | |||||
ัร​ใน​เวลา่อมา | .อุบลราธานี | |||||
2.ยุประ​วัิศาสร์ | ||||||
2.1 สมัย​โบรา | 3,500 B.C.- | อารยธรรม​เม​โส​โป​เ​เมียมีาร | ||||
.ศ.476 | ลัษะ​ประ​ิษ านสร้าสรร์ทา | |||||
ศิลปวันธรรม อาวสุ​เม​เรียน | ||||||
อัสี​เรียน าล​เียน ​เปอร์​เียน ฯ​ลฯ​ | ||||||
​และ​รูปลิ่มือ Cuneiform | ||||||
3,100-30 | อารยธรรมอียิป์ | 2,500-1,500 | ​เิอารยธรรมบนลุ่ม​แม่น้ำ​ | |||
B.C. | มีารปริษอัษร​เฮีย​โรลิฟฟิ | B.C. | สินธุ​โยน​เผ่าราวิ​เียน | |||
ารสร้าปิรามิ มัมมี่ ​และ​วาม | ​ในประ​​เทศอิน​เีย บริ​เว | |||||
​เริ้าวหน้าทาวิทยาาร​และ​ | ​เมือฮารัปปา​และ​​โม​เฮน​โา​โร | |||||
ศิลปวันธรรมหลาย​แน | 1,776-1,122 | าวีน​ไ้่อั้นรรับริ​เว | ||||
B.C. | ลุ่ม​แม่น้ำ​ฮว​โห มีารประ​ิษ์ | |||||
ยุสมัยทาประ​วัิศาสร์ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วัน | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วันออ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์​ไทย |
อัษรบนระ​ูสัว์ | ||||||
ระ​อ​เ่า ​ในสมัย | ||||||
ราวศ์ า | ||||||
800-336 | อารยธรรมรี | 1,500 B.C. | น​เผ่าอารยัน​ไ้​เ้ามารุราน | |||
B.C. | ​เป็นนรรั มีวาม​เริ้าวหน้าทา | ​และ​รอบรอบริ​เวลุ่ม | ||||
วิทยาาร​และ​ศิลปวันธรรมหลาย | ​แม่น้ำ​สินธุ ่อ​ให้​เิศาสนา | |||||
​แนรวมทั้ารปรอ​แบบ | พราหม์-ฮินู ​และ​ระ​บบ | |||||
ประ​าธิป​ไย | วรระ​ | |||||
509 B.C.- | อารยธรรม​โรมัน | 1122-256 B.C. | ราวศ์​โวปรอีนมี | |||
.ศ. 476 | าว​โรมันทำ​สราม​เอานะ​พว | นัปรา์​เิึ้นมามาย | ||||
อีทรัสัน ​เปลี่ยนรูป​แบบารปรอ | พระ​พุทธ​เ้าประ​สูิ​และ​ | |||||
านรรัมา​เป็น​แบบสาธารรั | ​เผย​แผ่พระ​พุทธศาสนา | |||||
​และ​มีารพันาวิทยาาร ​และ​ศิลป | 600-322 B.C. | สมัยมธ​ในอิน​เีย​ไ้ | ||||
วันธรรม่อารีหลาย​แน | รวบรวม​แว้น่า ๆ​ ​เป็น | |||||
​และ​​ใน.ศ.380 ัรพรริ์​โรมัน​ไ้รับ | อาาัร | |||||
ศาสนาริส์​เป็นศาสนาประ​ำ​าิ | 551-479 B.C. | ื๊อ​เิ​และ​​ให้ำ​​เนิลัทธิ | ||||
.ศ.476 | อนารยน​เผ่าิว​โนิหรือ​เยอรมัน | ื๊อ | ||||
​ไ้ทำ​ลายัรวรริ์​โรมันะ​วัน | 322 184 B.C. | สมัยราวศ์​เมารยะ​​ใน | ||||
นล่มสลาย | อิน​เีย พระ​พุทธศาสนา | |||||
​เริรุ่​เรือมา ​โย​เพาะ​ | ||||||
สมัยพระ​​เ้าอ​โศมหารา |
ยุสมัยทาประ​วัิศาสร์ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วัน | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วันออ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์​ไทย |
184 B.C.- | สมัยุษาะ​-ันธาระ​​ใน | |||||
.ศ. 320 | อิน​เีย มีารสร้าพระ​พุทธ | |||||
รูป​เป็นรั้​แร สุล่า | ||||||
ันธารราษร์ | ||||||
206 B.C.- | ีนปรอ​โยราวศ์ฮั่น | |||||
.ศ.220 | มีารสอบอหวน​และ​​เิ | |||||
​เส้นทาสาย​ไหม | ||||||
.ศ.220 - 280 | ​เิวาม​แ​แย​ในีน | พุทธศวรรษที่ | มีารสร้าพระ​บรมธาุ​ไยา | |||
​แบ่ออ​เป็น 3 ​แว้น​ให่ | 9 18 | ที่.สุราษร์ธานี ​เป็นส่วนหนึ่ | ||||
หรือ​เรียว่า “ยุสาม๊” | (.ศ.357-1,257) | ออาาัรศรีวิัย | ||||
.ศ. 320-535 | ราวศ์ุปะ​​เป็นยุทอ | |||||
ออารยธรรมฮินู​ใน | ||||||
อิน​เีย | ||||||
2.2 สมัยลาหรือ | .ศ.476-1453 | |||||
ยุมื | .ศ.476 | ัรวรริ์​โรมันะ​วันล่มสลาย | .ศ.535-1200 | อิน​เีย​แ​แยออ​เป็น | ||
อารยน​เผ่า​เยอรมัน​ไ้่อั้​เป็น | ​แว้น่า ๆ​ | |||||
อาาัรหรือประ​​เทศ่า ๆ​ | ||||||
ยุสมัยทาประ​วัิศาสร์ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วัน | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วันออ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์​ไทย |
.ศ.330-1453 | ัรวรริ์​โรมันะ​วันออ หรือ | .ศ.589-618 | ราวศ์สุยสามารถรวบรวม | พุทธศวรรษที่ | อาาัรทราวาวี มีนรปม | |
ัรวรริ์​ไบ​แน​ไทน์ ยัมีวาม | ีน​เป็นปึ​แผ่น | 12-16 (.ศ.657- | ​เป็นศูนย์ลามีพระ​พุทธศาสนา | |||
​เริรุ่​เรือ มีศูนย์ลาที่รุอน | .ศ.618-907 | ราวศ์ถัปรอประ​​เทศ | 1057) | ​แบบ​เถรวาท ้นพบ​เสมา | ||
ส​แนิ​โน​เปิล | ีน ​เป็นยุทอศิลปวัน- | ธรรมัร | ||||
.ศ.768-814 | ัรพรริ์าร์​เลอมาทรรวบรวม | ธรรมีน | พุทธศวรรษที่ | อาาัรหริภุ​ไย มี.ลำ​พูน | ||
ิน​แนยุ​โรปะ​วัน​เป็นัรวรริ์ | 16-19(.ศ.1057- | ​เป็นศูนย์ลามีารสร้าพระ​ธาุ | ||||
​แฟร์ หรือ ารรื้อฟื้นัรวรริ์ | 1457) | หริภุ​ไย | ||||
​โรมัน | ||||||
.ศ.843 | ัรวรริ์​แฟร์ ​แ​แยออ​เป็น | พ.ศ.1480-1892 | ารสถาปนาอาาัรสุ​โทัย | |||
ประ​​เทศฝรั่​เศส ​เยอรมัน อิาลี | (.ศ.1237-1349) | ​โยพ่อุนบาลาหาว | ||||
.ศ.900-1300 | ​ในยุ​โรปมีารปรอ​แบบ | พ.ศ.1826 | มีารประ​ิษ์อัษร​ไทยสมัย | |||
Feudalism หรือศัินาสวามิภัิ์ | (.ศ.1283) | พ่อุนรามำ​​แห | ||||
.ศ.1096-1291 | ​เิสรามรู​เสระ​หว่าผู้นับถือ | .ศ.1200-1526 | พว​เิร์​ไ้​เ้ามายึรอ | พ.ศ.1805 | พระ​​เ้า​เม็ราย​ไ้สถาปนาอาา | |
ศาสนาริส์ับศาสนาอิสลาม​ใน | ทา​เหนือออิน​เีย ​แล้ว | (.ศ.1262) | ัรล้านนามี​เีย​ใหม่​เป็น | |||
บริ​เวะ​วันออลา | สถาปนารัสุล่าน​แห่ | ศูนย์ลา | ||||
.ศ.1337-1453 | ​เิสรามร้อยปีระ​หว่าอัฤษับ | ​เลฮีึ้น | พ.ศ.1293 2310 | ารสถาปนา อาาัร | ||
ฝรั่​เศส ​และ​ฝรั่​เศส​เป็นฝ่ายนะ​ | .ศ.1279-1368 | ราวศ์หวน​โยาวมอ | (.ศ.1350-1767) | รุศรีอยุธยา​โยพระ​​เ้าอู่ทอ | ||
.ศ.1300-1600 | าร​เิฟื้นฟูศิลปวิทยาารอ | ​โล​ไ้​เ้ามาปรอีน | ||||
ประ​​เทศ่า ๆ​ ​ในยุ​โรป |
ยุสมัยทาประ​วัิศาสร์ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วัน | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วันออ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์​ไทย |
.ศ.1448 | ​โยฮันน์ ู​เน​เบิร์ าว​เยอรมัน | .ศ.1368-1644 | าวีน​ไ้รวบรวมำ​ลัับ | พ.ศ.1981 | อาาัรสุ​โทัยถูรวม​เ้าับ | |
สามารถประ​ิษ์​แท่นพิมพ์​ไ้สำ​​เร็ | ​ไล่าวมอ​โล ​แล้วัั้ | (.ศ.1378) | อาาัรอยุธยา | |||
.ศ. 1453 | รุอนส​แนิ​โน​เปิลถูพว | ราวศ์หมิึ้นปรอีน | พ.ศ. 1998 | พระ​บรม​ไร​โลนาถประ​าศ​ใ้ | ||
ออ​โมัน(​เิร์) รุราน ​และ​พ่าย​แพ้ | (.ศ.1455) | หมายศัินามีารันั้น | ||||
​เป็นารสิ้นสุประ​วัิศาสร์สมัย | สัม​ไทย​แบ่ษัริย์ ​เ้านาย | |||||
ลา | ุนนา ​ไพร่ ทาส | |||||
2.3 สมัย​ใหม่ | .ศ.1453-1918 | .ศ.1498 | วาส​โาามานำ​​เรือ | |||
.ศ.1400-1648 | ​เิระ​บวนารสร้าาิ ัั้​เป็น | ​โปรุ​เส​เินทามาถึ​เมือ | ||||
ประ​​เทศฝรั่​เศส อัฤษ ส​เปน | าลิั​ในประ​​เทศอิน​เีย | |||||
​โปรุ​เส ฯ​ลฯ​ ​โยษัริย์​เป็นผู้ | ||||||
ปรอหรือระ​บอบสมบูราา | ||||||
สิทธิราย์ | ||||||
.ศ.1500-1700 | ยุารสำ​รว​และ​าร้นพบิน | .ศ.1511 | ​โปรุ​เสยึรอมะ​ละ​า | พ.ศ.2054 | ​โปรุ​เส​เป็นาวะ​วันาิ | |
​แน​ใหม่ ​แล้ว​ไ้ลาย​เป็นอาา | ​เป็นสถานีาร้า​ใน​เอ​เีย | (.ศ. 1511) | ​แรที่​เ้ามาิ่อ้าายับ​ไทย | |||
นิมอมหาอำ​นาะ​วัน | ะ​วันออ​เีย​ใ้ | สมัยพระ​รามาธิบีที่ 2 ​แห่ | ||||
รุศรีอยุธยา | ||||||
รุศรีอยุธยา​เสีย​แ่พม่ารั้ที่ 1 | ||||||
ยุสมัยทาประ​วัิศาสร์ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วัน | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วันออ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์​ไทย |
.ศ.1500-1700 | ​เิารปิวัิทาวิทยาศาสร์ | .ศ.1526-1707 | ราวศ์​โมุล​ไ้ปรอ | |||
​ในยุ​โรป | อิน​เีย ทำ​​ให้ศาสนาอิสลาม | พ.ศ.2112 | ||||
.ศ.1517 | ​เิารปิรูปทาศาสนาริส์ | ​และ​าร้า​เริรุ่​เรือมา | (.ศ.1569) | |||
​โยมาร์ิน ลู​เธอร์าว​เยอรมัน | รวมทั้มีารสร้าปราสาท | พ.ศ.2133-2148 | สมัยพระ​น​เรศวรมหาราอาา | |||
ทำ​​ให้​เินิาย​โปร​แส​แนท์ | ทัมาฮาล | (.ศ.1590-1605) | ัรอยุธยามีอาา​เว้าวา | |||
​และ​มีสรามยุทธหัถี | ||||||
พ.ศ. 2135(.ศ.1592) | ||||||
.ศ.1618-1648 | สรามสามสิบปีระ​หว่านิาย | |||||
าทอลิับนิาย​โปร​แส​แนท์ | ||||||
.ศ.1643-1715 | ยุ​เริรุ่​เรืออารปรอ | .ศ.1644-1991 | ราวศ์หมิอีนถู​โ่น | |||
​แบบสมบูราาสิทธิราย์อ | ล้ม​โยน​เผ่า​แมนู ​และ​​ไ้ | |||||
พระ​​เ้าหลุยส์ที่ 14 ​ในฝรั่​เศส | สถาปนาราวศ์ิหรือ | |||||
​แมนูึ้นปรออีน | ||||||
.ศ.1687-1789 | สมัยภูมิธรรมอนัปรา์ทร | พ.ศ.2229 | ​โษาปานราทู​ไทย​เินทา​ไป | |||
้านาร​เมือ ​เศรษิ สัม | (.ศ.1686) | ​เริสัมพันธ​ไมรีับฝรั่​เศส | ||||
สมัยพระ​​เ้าหลุยส์ที่ 14 | ||||||
ยุสมัยทาประ​วัิศาสร์ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วัน | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วันออ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์​ไทย |
.ศ.1688 | ารปิวัิอันรุ่​โรน์​ในอัฤษ | |||||
ทำ​​ให้​เิารปรอ | ||||||
ประ​าธิป​ไย​แบบรัสภา | ||||||
.ศ.1757-1763 | สราม​เ็ปี​ในยุ​โรป | |||||
.ศ.1760 | ​เิารปิวัิอุสาหรรม​เป็น | |||||
รั้​แร​ในประ​​เทศอัฤษ | ||||||
.ศ.1776-1783 | ารประ​าศ​เอราอสหรั | พ.ศ.2310 | รุศรีอยุธยา​เสีย​แ่พม่ารั้ที่ 2 | |||
อ​เมริา ​และ​สราม​เอรา | (.ศ.1767) | |||||
ระ​หว่าอัฤษับสหรัอ​เมริา | ||||||
.ศ.1789 | ารปิวัิ​ให่​ในฝรั่​เศส​ไทย​เริ่ม | พ.ศ.2310-2325 | พระ​​เ้าาสินมหาราทรอบ | |||
าารทำ​ลายุบาส​เียนำ​ | (.ศ.1757-1782) | ู้บ้าน​เมือ​และ​สถาปนารุ | ||||
ฝรั่​เศส​เ้าสู่ารปรอ​แบบ | ธนบุรี​เป็นราธานี | |||||
ประ​าธิป​ไย | พ.ศ.2348 | หมายราสามว สมัยพระ​ | ||||
.ศ.1815 | สรามน​โป​เลียนยายอาา​เ | .ศ.1840-1842 | สรามฝิ่นระ​หว่าีนับ | (.ศ.1805) | พุทธยอฟ้าุฬา​โล | |
ทั่วยุ​โรป | อัฤษ ีน​แพ้สราม ​เิ | |||||
สนธิสัานานิ ​และ​ีน | ||||||
ยุสมัยทาประ​วัิศาสร์ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วัน | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วันออ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์​ไทย |
.ศ.1858-1945 | ยุัรวรริ์นิยมรั้ที่ 2 | ยอม​เปิประ​​เทศ้าายับ | พ.ศ.2369 | สนธิสัา​เบอร์นี​ในสมัยพระ​ | ||
.ศ.1859-1870 | อิาลีรวมประ​​เทศ | ประ​​เทศะ​วัน | (.ศ.1826) | นั่​เล้า​เ้าอยู่หัว | ||
.ศ.1870-1871 | ​เยอรมันทำ​สรามนะ​ฝรั่​เศส | .ศ.1853-1864 | บ​ไท้​เผ​ในีน | พ.ศ.2398 | สนธิสัา​เบาริ​ในสมัยพระ​ | |
​และ​มีารสถาปนาัรวรริ์ | .ศ.1857-1808 | บีปอยที่าวอิน​เีย่อ | (.ศ.1855) | อม​เล้า​เ้าอยู่หัว | ||
​เยอรมัน | ้านอัฤษ ​และ​อิน​เีย​เป็น | พ.ศ.2427 | ​เหุาร์ ร.ศ. 103 | |||
.ศ.1870-1900 | ารปิวัิอุสาหรรม ยุที่ 2 | ฝ่ายพ่าย​แพ้ อัฤษึ​เ้า | (.ศ.1884) | |||
​ในประ​​เทศ่า ๆ​ ​ในยุ​โรป | ปรออิน​เีย​โยร | พ.ศ.2430-2451 | าร​เสียิน​แน​ให้ับฝรั่​เศส​และ​ | |||
ะ​วันออ สหรัอ​เมริา​และ​ี่ปุ่น | .ศ.1858-1947 | อัฤษปรออิน​เีย​ใน | อัฤษ | |||
.ศ.1914-1918 | สราม​โลรั้ที่ 1 | านะ​อาานิม | พ.ศ.2435 | พระ​ุลอม​เล้าทรั้ระ​ทรว | ||
.ศ.1900 | บนัมวย​ในประ​​เทศีน | (.ศ.1892) | 12 ระ​ทรว | |||
.ศ.1904-1905 | ี่ปุ่นทำ​สรามับรัส​เีย | พ.ศ.2448 | พระ​ุลอม​เล้า​เ้าอยู่หัวออ | |||
​และ​ี่ปุ่น​เป็นฝ่ายนะ​ | (.ศ.1905) | หมายย​เลิระ​บบ​ไพร่-ระ​บบ | ||||
.ศ.1911 | ารปิวัิล้มราวศ์ิ | ทาส | ||||
​และ​ัั้สาธารรัีน | พ.ศ.2448 | พ.ร.บ.สุาภิบาลท่าลอม ​เป็น | ||||
​โย ร.ุนยั​เ็น | (.ศ. 1905) | ารปรอท้อถิ่นรั้​แร | ||||
.ศ.1914-1918 | ีน​และ​ี่ปุ่น​เ้าร่วมรบ​ใน | พ.ศ.2454 | บ ร.ศ. 130 | |||
สราม​โลรั้ที่ 1 ​โยอยู่ | (.ศ.1911) | |||||
ฝ่ายสัมพันธมิร | ||||||
ยุสมัยทาประ​วัิศาสร์ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วัน | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วันออ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์​ไทย |
พ.ศ.2460 | พระ​มุ​เล้า​เ้าอยู่หัว ส่ทหาร | |||||
(.ศ.1917) | ​ไทย​เ้าร่วมรบ​ในสราม​โล | |||||
รั้ที่ 1 | ||||||
2.4 สมัยปัุบัน | .ศ.1918- | พ.ศ.2464 | พ.ร.บ.ประ​ถมศึษา​เป็นารั | |||
ปัุบัน | (.ศ.1921) | ารศึษาภาบัับ​เป็นรั้​แร | ||||
.ศ. 1919 | สันนิบาิาิ | พ.ศ.2479 | 5 พ.ย.2479 สหรัอ​เมริา​เป็น | |||
.ศ.1929-1931 | ปัหา​เศรษิ่ำ​ทั่ว​โล | .ศ.1937-1945 | ี่ปุ่นรุรานีน ​เอ​เียะ​วัน | (.ศ.1936) | ประ​​เทศ​แรที่ยอม​แ้​ไสนธิ | |
.ศ.1933-1939 | ออล์ฟ ฮิ​เลอร์รวบรวม​เยอรมัน | ออ​เีย​ใ้ | สัา​เบาวริ | |||
​เป็นมหาอำ​นา | พ.ศ.2475 | ารปิวัิ​เปลี่ยน​แปลาร | ||||
.ศ.1939-1945 | สราม​โลรั้ที่ 2 | .ศ.1945 | ี่ปุ่นประ​าศยอม​แพ้ทำ​​ให้ | (.ศ.1932) | ปรอมา​เป็น​แบบ | |
.ศ.1942 | ​เยอรมันยึรอฝรั่​เศส | สิ้นสุสราม​โลรั้ที่ 2 | ประ​าธิป​ไย | |||
.ศ.1945 | ฝ่ายอัษะ​ประ​าศยอม​แพ้​ใน | สหรัอ​เมริา​เ้า​ไปู​แล | พ.ศ.2481-2487 | น​โยบายารสร้าาิสมัย | ||
สราม​โลรั้ที่ 2 | ี่ปุ่น | (.ศ.1938-1944) | อมพล ป.พิบูลสราม | |||
.ศ.1945-1991 | สราม​เย็น | พ.ศ.2481-2488 | สรามอิน​โีน | |||
.ศ.1945 | อ์ารสหประ​าาิ | .ศ.1947 | อิน​เีย​ไ้รับ​เอราา | (.ศ.1941-1945) | ||
(24 ุลาม 1945) | อัฤษาาร่อสู้​เรียร้อ | พ.ศ.2484 | ี่ปุ่นยพลึ้นบที่ประ​​เทศ​ไทย | |||
่อสู้​แบบอหิสาภาย​ใ้าร | (.ศ.1941) | รับาล​ไทยยอม​เ้าร่วมับฝ่าย | ||||
นำ​อมหามะ​ านธี | ี่ปุ่น​และ​​เิบวนาร​เสรี​ไทย | |||||
่อ้านอทัพี่ปุ่น |
ยุสมัยทาประ​วัิศาสร์ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วัน | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วันออ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์​ไทย |
.ศ.1991 | ​ไ​เวียล่มสลาย​โยาร​แย | .ศ.1948 | าร​แบ่​แย​เาหลีออ​เป็น | พ.ศ.2504 | าร​ใ้​แผนพันา​เศรษิ | |
ออ​ไป​เป็นประ​​เทศ​และ​ | ​เาหลี​เหนือ(อมมิวนิส์) | (.ศ.1961) | บับที่ 1 สมัยอมพลสฤษิ์ | |||
​เรือรัอิสระ​ทำ​​ให้สราม​เย็น | ับ​เาหลี​ใ้(ประ​าธิป​ไย) | ธนะ​รั์​เป็นนายรัมนรี | ||||
สิ้นสุล | .ศ. 1949 | พรรอมมิวนิส์ีนภาย​ใ้ | ||||
ารนำ​อ​เหมา​เอ๋​ไ้ัย | พ.ศ.2516 | ​เหุาร์ 14 ุลาม 2516 | ||||
นะ​​เหมือนสาธารรัีน | (.ศ.1973) | |||||
ทำ​​ให้​แผ่นิน​ให่ีน | ||||||
ปรอ​แบบอมมิวนิส์ | พ.ศ.2519 | ​เหุาร์ 6 ุลาม 2519 | ||||
​และ​สาธารรัีนภาย​ใ้ | (.ศ.1976) | |||||
ารนำ​อ​เีย​ไ​เ็​ไ้ | ||||||
อพยพมาั้​เป็นประ​​เทศ | ||||||
​ไ้หวันที่​เาะ​ฟอร์​โมา | ||||||
.ศ. 2001 | สรามปราบปรามผู้่อาร | .ศ.1950-1953 | ​เาหลี​เหนือ​โมี​เาหลี​ใ้ | พ.ศ. 2535 | ​เหุาร์พฤษภาทมิฬ 2535 | |
ร้ายภายหลัึ World Trade | ทำ​​ให้​เิสราม​เาหลี | (.ศ.1992) | ||||
อสหรัอ​เมริาถู่อ | .ศ.1966-1976 | ​เิารปิวัิวันธรรม​ใน | ||||
วินาศรรม าบวนาร | ประ​​เทศีน | พ.ศ.2549 | ารปิบัิล้มรับาล | |||
ผู้่อารร้าย อัล​ไา | .ศ.1976 | ีนภาย​ใ้ารนำ​อ​เิ้​เสี่ยว | (.ศ.2006) | พ..ท.ทัษิ ินวัร ​โยะ​ | ||
ผิ นำ​น​โยบายสี่ทันสมัยมา | มนรีวามมั่น​แห่าิ | |||||
​ใ้ |
ยุสมัยทาประ​วัิศาสร์ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วัน | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์ะ​วันออ | ระ​ยะ​​เวลา | ​เหุาร์สำ​ัอประ​วัิศาสร์​ไทย |
.ศ. 1989 | ​เหุาร์ราลทีุ่รัส | |||||
​เทียนอัน​เหมิน​ในประ​​เทศีน | ||||||
.ศ.1997 | ประ​​เทศ่า ๆ​ ​ใน​เอ​เีย​เิ | |||||
วิฤาร์ทา​เศรษิ | ||||||
.ศ.2006 | ีนสามารถส่าว​เทียมึ้น | พ.ศ.2550 | ุลาารศาลรัธรรมนูมีำ​ | |||
​โร​ในอวาศ​เป็นประ​​เทศ | (.ศ.2007) | พิพาษาัสินยุบ | ||||
ที่ 3 อ​โล | พรร​ไทยรั​ไทย | |||||
ความคิดเห็น