ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Debt Love หนี้รักมัดหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 6 ใครกัน? 100%

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ค. 59


    6
    ใครกัน?

              หลังจากวันนั้นมาชีวิตฉันที่ว่าวุ่นวายอยู่แล้วยิ่งเลวร้ายกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัว ทำไมน่ะเหรอ ไม่ว่าฉันจะทำอะไรอยู่ถ้าเขาเรียกก็ต้องไปทันที
             ...ไม่เว้นแม้แต่ตอนกินข้าว...
              วันนั้นฉันตื่นมาแต่เช้าเพื่อทำงานบ้านทั้งหลาย และทำโดยไม่หยุดจนเกือบจะสิบโมงแล้ว แน่นอนว่ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องฉันเลยนอกจากน้ำที่ดื่มเมื่อตอนตื่นนอน ดังนั้นสภาพฉันที่เดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อที่จะไปหาอะไรกินนั้นทั้งโทรม และอิดโรยเลยทีเดียวแถมเสียงท้องยังร้องดังลั่นอีกต่างหาก T T
               'คุณป้าคะ วันนี้มีอะไรกินบ้าง' ฉันเอ่ยปากถามตุณป้าแม่บ้านที่กำลังเตรียมอาหารอยู่ ส่วนสาวใช้คนอื่นก็กำลังนั่งกินอาหารกันอยู่ด้วย
               'ข้าวต้มกุ้งค่ะหนูเฟรม มากินตอนที่กำลังร้อนๆเลยค่ะ ป้าทำสุดฝีมือเลยนะคะ'
               'ว้าววว' ฉันร้องออกมาอย่างดีใจ และไม่รอช้าฉันรีบนั่งลงบนเก้าอี้ทันทีเพื่อที่จะได้จัดการเจ้าข้าวต้มกุ้งตรงหน้าที่ยั่วน้ำลายฉันเป็นอย่างมาก
               'กินแล้วนะคะ' ในขณะที่ฉันกำลังอ้าปากเพื่อที่จะได้กินเจ้าข้าวต้มกุ้งแสนอร่อยนั้น ก็ดันมีมารผจญจนได้
               'เฟรม! เธออยู่ไหนมาหาฉันตอนนี้เลย'
               เคร้ง!
               เสียงเรียกของเพลย์ลิสที่ดังลั่นบ้านนั้น ทำให้ฉันตกใจเลยปล่อยช้อนในมือตกลงไปในชามข้าวต้ม ฉันทำเป็นไม่สนใจเสียงเรียก และหยิบช้อนขึ้นมาเพื่อที่จะได้กินสักที
              'เฟรม ฉันเรียกเธอไม่ได้ยินเหรอ'
              คราวนี้ไม่ได้มาแค่เสียง แต่เจ้าตัวดันมาเองเลยเขายืนพิงประตูห้องครัวพร้อมกับจ้องมาที่ฉันอย่างบังคับ
              'แต่ฉันกำลังกะ...'
              'เธอลืมข้อตกลงของเราแล้วงั้นเหรอ'
              '...'
              'โทรศัพท์ฉันอยู่ไหนนะ'
              ฟึ่บ!
              'เดี๋ยวหนูมานะคะ'
              ฉันหันไปบอกคุณป้าแม่บ้านก่อนจะเดินออกจากห้องครัวโดยไม่รอเขา ปล่ยให้เขาเดินตามนั่นแหละ คิดว่าเอาเรื่องที่จะแจ้งตำรวจมาขู่แล้วฉันจะกลัวเหรอ เหอะ! นายคิดถูกแล้วล่ะ TOT
               สรุปคือวันนั้น ฉันก็อดกินข้าวต้มกุ้ง กว่าจะได้เย็นกินอีกทีก็มื้อเย็นนู่น!
               อ้อ ลืมบอกไป ฉันย้ายห้องนอนแล้วนะ ห้องใหม่ฉันอยู่ติดกับห้องคุณป้าแม่บ้านนั่นแหละและยังอยู่ภายในบ้านหลังใหญ่ด้วยแต่ไม่ได้อยู่ชั้นบนนะ อยู่ชั้นล่างนี่แหละ ภายในห้องอาจจะไม่ได้หรูหรือกว้างอะไรมากมาย แต่ก็ถือว่าใช้ได้เลยล่ะ มีทั้งแอร์ เตียง ห้องน้ำในตัว โต้ะไว้สำหรับอ่านหนังสือ ก็ครบแล้วล่ะ ส่วนคนที่ให้ย้ายก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเพลย์ลิสคนเดียว ส่วนเหตุผลก็
               'กว่าจะฉันจะให้คนไปตาม และรอเธอมาอีก เสียเวลาเปล่า ย้ายมาอยู่ที่นี่แหละ ง่ายดี'
               อืม...เหตุผลง่ายดีจริงๆ =_=
               และนั่นแหละเมื่อย้ายมาอยู่ใกล้ๆแบบไม่ต้องเสียเวลาให้คนไปตามแล้ว ก็หนักกว่าเก่าเลยล่ะ ทุกวันนี้นะฉันได้ยินแต่
               'เฟรม!'
               'เฟรม! มานี่เดี๋ยวนี้'
               'ยัยลูกหนี้! เธออยู่ไหน'
               'ยัยตัวแสบ! มาหาฉันด่วนเลย'
               และอีกสารพัด จนบางครั้งฉันก็รู้สึกว่าหูแว่วไปเองด้วยซ้ำอีก ให้ตายเถอะ -*-



               "เฮ้ออออ..."
              ฉันถอนหายใจออกมาอย่างดัง ก้วยความปลงตกในชีวิต ตอนนี้ฉันกำลังนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่ที่ม้านั่งหินอ่อนมุมหนึ่งของมหาวิทยาลัย พร้อมกับซันเดย์ที่นั่งเก้าอี้ม้าหินอ่อนตัวถัดไป เหตุผลที่เลือกนั่งที่นี่ก็เพราะแถวนี้ไม่ค่อยมีคนปละค่อนข้างสงบเลยล่ะ
               "แกเป็นอะไรไป ฉันเห็นแกถอนหายใจเหมือนกำลังปลงกับชีวิตแบบนี้ แกมีปัญหาอะไรหรือเปล่า"
              ซันเดย์ถามอย่างเป็นห่วง ช่วงนี้ฉันทั้งเหนื่อยทั้งเบื่อ มันก็เลยไม่รู้จะทำยังไง
               "เรื่องเดิมนั่นแหละ ฉันได้เล่าให้แกฟังแล้วใช่มั้ย ที่ฉันขโมยกระเป๋าสตางค์เขาแล้วโดนเขาจับได้น่ะ"
               "เคยเล่าสิ ฉันยังตกใจอยู่เลยที่แกทำแบบนั้นน่ะ"
               "นั่นแหละตั้งแต่นั้นมานะ ฉันไม่เคยได้อยู่อย่างสงบสุขเลย หมอนั่นเรียกใช้ฉันทั้งวันไม่หยุดเลย!"
              ฉันทุบลงบนโต้ะด้วยความโมโห เพราะอดกลั้นมานานแล้ว เรื่องเล็กน้อยแค่ช่วยหยิบรีโมททีวีใฟ้หน่อยก็ยังเรียกเลย คิดดูสิ =^=
               "เอาน่าๆ แก ทนอีกสักพักเถอะ ถ้าพี่แกหาเงินมาใช้ได้เมื่อไหร่ แกก็ได้กลับบ้านเองแหละ"
               "ฉันคงทนนานขนาดนั้นไม่ได้หรอกนะ กว่าพี่ฉันจะหาเงินได้ก็ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ด้วย ฉันว่าจะหางานพิเศษทำสักหน่อย"
               แต่จะทำอะไรนี่สิยังคิดไม่ออก
               "ถ้าแกอยากทำงานล่ะก็ ทำร้านพี่สาวฉันก็ได้นะพี่สาวฉันเปิดร้านกาแฟใกล้ๆมหาวิทยาลัยนี่แหละ"
               "จริงเหรอ O_O งั้นตกลงแก"
              ดีเลยแบบนี้ เพราะฉันกับพี่สาวของซันเดย์เคยคุยกันบ้างน่าจะไม่มีปัญหาอะไร และเมื่อทำงานพิเศษเสร็จ ฉันค่อยกลับไปทำงานที่บ้านตอนเย็นก็ได้นี่นะ

    25%


               หลังจากที่ตกลงกันได้แล้วซันเดย์ได้โทรไปคุยกับพี่สาวเรื่องที่ฉันจะไปทำงานพิเศษ แล้วเราก็รีบเดินทางไปทันที 
               เมื่อนั่งแท็กซี่มาประมาณยี่สิบนาที เราก็มาถึงร้านกาแฟที่ว่า จะเห็นได้ว่าทั้งร้านตกแต่งให้เป็นกระจกซะส่วนใหญ่ ภายในร้านนั้นตกแต่งสไตล์วินเทจ ทำให้เหมาะรู้สึกเหมาะที่จะเป็นสถานที่พักผ่อนและอ่านหนังสือเลยทีเดียว แถมทางร้านยังมีโซนด้านนอกที่มีต้นไม้ใหญ่ให้ความรู้สึกร่มรื่น
               "มากันแล้วเหรอ ซันเดย์ เฟรม" เมื่อเข้ามาในร้านก็เห็นพี่สาวซันเดย์ยืนรอก่อนอยู่แล้ว
               "สวัสดีค่ะ" ฉันรีบยกมือไหว้พี่สาวซันเดย์ทันที
               "สวัสดีจ้ะเฟรม เห็นซันเดย์บอกว่าอยากทำงานพิเศษอยู่เหรอ"
               "ใช่แล้วค่ะ"
               "งั้นมาทำที่ร้านพี่ก็ได้นะ เลิกเรียนแล้วก็ได้ ร้านพี่ปิดประมาณหนึ่งทุ่ม"  พี่สาวของซันเดย์แนะนำอย่างใจดี
               "ตกลงค่ะ แล้วเริ่มงานตอนนี้เลยใช่มั้ยคะ"
               "ได้เลย งั้นตามพี่มาเลย"
               เมื่อคุยกันเสร็จเรียบร้อยแล้วฉันก็เดินตามพี่เขาไป ส่วนซันเดย์ขอตัวไปทำธุระที่อื่นเลยอยู่เป็นเพื่อนไม่ได้ ฉันเลยบอกไปว่าไม่เป็นไร จากที่ตกลงกันงานที่ฉันต้องทำคือเสิร์ฟกาแฟกับเค้ก กับเรื่องในส่วนของค่าจ้างแล้วฉันเลยเริ่มงานทันที 
               ในร้านตอนนี้นอกจากฉันแล้วก็มีพี่สาวซันเดย์ แล้วก็พี่พนักงานเคาน์เตอร์อยู่ ลูกค้าภายในร้านตอนนี้ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เพราะยังเป็นเวลาบ่ายโมงอยู่ลูกค้าน่าจะเยอะช่วงเย็นประมาณบ่ายสามโมง
                หลังจากเดินเสิร์ฟกาแฟไปหลายโต้ะแล้วจึงได้รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองโมงครึ่งแล้วลูกค้าก็เริ่มทะยอยเข้ามากันแล้ว หนึ่งในนั้นมีลูกค้าคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้านและเมื่อเขามองเห็นฉันเขาหยุดมองฉันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปสั่งอาหาร ด้วยความที่เขามองฉันนั้นทำให้ฉันสังเกตว่าเขาเป็นเด็กที่ดูดีคนหนึ่ง ใช่แล้ว'เด็ก' เพราะเครื่องแบบที่เขาใส่เป็นเครื่องแบบนักเรียนม.ปลาย และด้วยหน้าตาของเขาที่มีดวงตาสองชั้นไม่โตมากนัก จมูกที่โด่งสวยรับกับริมฝีปากหยักนั้น ถึงจะเป็นแค่เด็กม.ปลายแต่ก็มีเสน่ห์มากทีเดียว
                "เฟรม เอากาแฟไปเสิร์ฟโต้ะสองด้วย"
                เสียงของพี่สาวซันเดย์ดึงสติฉันให้กลับมา ฉันเดินไปหยิบถาดที่บรรจุลาเต้เย็น และเค้กช็อกโกแลตไว้ในมือทั้งสองข้างก่อนจะเดินไปเสิร์ฟให้ที่โต้ะสอง ซึ่งเป็นโต้ะของน้องม.ปลายเมื่อครู่
                 "ลาเต้เย็น และเค้กช็อกโกแลตได้แล้วค่ะ"   ฉันวางอาหารลงบนโต้ะพร้อมกับทวนรายการอาหารไปด้วย และกำลังจะเดินออกมา
                 "พี่ครับ"
                 แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวออกมาเสียงของน้องคนเดิมก็เรียกฉันให้หันกลับไป
                 "คะ? จะรับอะไรเพิ่มดีคะ"  สงสัยคงอยากจะสั่งรายการอาหารเพิ่มล่ะมั้ง
                 "ผมไม่ได้จะสั่งเพิ่มครับ ผมแค่อยากถามว่า พี่ชื่อเฟรมเหรอครับ"
                 แต่สิ่งที่เขาพูดกลับไม่ใช่รายการอาหาร แต่เป็นการถามถึงชื่อฉันแทน
                 "ชะ...ใช่ค่ะ พี่ชื่อเฟรม"
                 ฉันตอบไปด้วยความงุนงงเล็กน้อย ทำไมต้องถามชื่อฉันด้วยนะ ฉันมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักน้องเขานะ
                 "ดีจังเลยครับ"
                 ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มนิดๆเหมือนพึงพอใจอะไรบางอย่าง
                 "ผมอยากรู้จักชื่อพี่มานานแล้วครับ และวันนี้ก็ได้รู้สักที"
                 "คะ...คะ?"
                  หมายความว่ายังไงกัน...

    65%

                  "น้องรู้จักกับพี่ด้วยหรือคะ"
                  ฉันสงสัยจริงๆนะ เพราะว่าฉันมั่นใจว่าไม่เคยเห็นหน้าน้องเขามาก่อน หรือว่าเคยเจอแต่ฉันจำไม่ได้กันแน่นะ
                  "จะว่ารู้จักก็ได้ หรือไม่รู้จักก็ได้ครับ" ดูเหมือนว่าคำตอบนี้ไม่ได้ทำให้ฉันเข้าใจขึ้นเลย แถมยังงงมากกว่าเดิมอีกต่างหาก
                  "เดี๋ยวพี่ขอตัวก่อนะคะ"
                  ฉันรีบเอ่ยขอตัว แล้วเดินกลับไปยืนที่เดิมซึ่งใกล้กับเคาน์เตอร์ทันที ส่วนน้องคนเมื่อกี้ก็หันไปให้ความสนใจกับลาเต้และเค้กตรงหน้า โดยใช้เวลาไม่นานก็จัดการกับอาหารจนหมด แต่แทนที่น้องเขาจะเดินออกไปทางประตูร้าน น้องเขากลับเดินมาทางนี้แทน
                  "พี่ทำงานที่นี่หรือครับ"
                  "เอ่อ... ใช่ค่ะ พี่ทำงานพิเศษที่นี่" น้องเขาพยักหน้ายิ้มๆก่อนจะรีบพูดต่อ
                  "ผมจะแวะมาใหม่นะครับ และหวังว่าเราจะได้เจอกันนะครับ"
                  ไม่รอให้ฉันได้พูดอะไร เจ้าของประโยคเมื่อครู่ก็เดินออกจากร้านไปแล้ว
                   "จากที่พี่ดูนะ พี่คิดว่าเด็กกำลังจีบเธออยู่นะ" พี่ที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์พูดพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่ม
                   แต่ว่า น้องเขาเนี่ยนะจะจีบฉันเหรอ ไม่จริงหรอกมั้ง...


                   นาฬิกาข้อมือแบบเข็มบนข้อมือซ้ายบ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มตรง หลังจากที่ปิดร้านแล้วก็กินเวลาไปเกือบสองทุ่ม พี่สาวของซันเดย์บอกให้ฉันกลับบ้านก่อนได้ส่วนที่เหลือเดี๋ยวจัดการเอง ฉันจึงรีบเร่งกลับมาบ้านเพราะเพลย์ลิสโทรมาตั้งแต่ห้าโมงเย็นจนถึงตอนนี้รวมแล้วไม่ต่ำกว่ายี่สิบสาย คุณพระ... โทรมาขนาดนี้โจรขึ้นบ้านหรือไงกัน ถามว่าฉันรับสายเขาไหม เหอะ! ไม่หรอก และเพราะไม่รับสายนี่แหละ เป็นเหตุให้คุณชายยืนหน้าบึ้งอยู่กลางห้องรับแขกอยู่ในตอนนี้ ดูจากสภาพโดนบ่นหูชาแน่ๆ รู้แบบนี้ฉันน่าจะซื้อสำลีเข้ามาจะได้เอาไว้อุดหูเอาไว้ =_=*
                   "ไปไหนมา ทำไมกลับมาเอาตอนนี้ แล้วทำๆมไม่รับโทรศัพท์ฉัน"
                   นั่นไงล่ะเริ่มแล้วสิ บางครั้งฉันก็สงสัยนะว่าตัวเองมีเจ้าหนี้หรือเจ้าชีวิตกันแน่ 
                   "ไปทำงานมา" 
                   "ทำงานอะไร ทำที่ไหน ทำตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมฉันไม่รู้"
                   แล้วฉันจะตอบคำถามไหนก่อนดีเนี่ย ถามมาขนาดนี้เป็นพ่อฉันหรือเปล่าเนี่ย
                   "ทำงานพิเศษที่ร้านกาแฟ เป็นร้านของพี่สาวเพื่อน และเพิ่งเริ่มทำวันนี้วันแรก"
                    เขาทำหน้าฉงนเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
                   "นี่เธอคิดว่า แค่เงินจากการทำงานพิเศษจะใช่หนี้สิบล้านได้เหรอ"
                   "ก็ดีกว่าทำแค่งานบ้านนะ อย่างน้อยก็จะได้เอาเงินทะยอยมาคืนนายด้วย"
                   ฉันตอบไปตามความคิดของฉัน และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ว่าอะไร เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้พูดอะไรต่อหลังจากนั้น ฉันจึงกำลังจะเดินไปห้องของตัวเองเพื่อพักผ่อน เนื่องจากวันนี้เหนื่อยมาก T T
                    หมับ!
                   "เดี๋ยวก่อนสิ ฉันยังพูดไม่จบ"
                   ฉันโดนเพลย์ลิสจับข้อมือไว้ก่อนที่จะได้เดินไป นั่นทำให้ฉันต้องหันกลับไปฟังว่าเขามีอะไรพูดอีก
                   "ฉันก็ไม่ว่าอะไรนะถ้าเธอจะทำงานพิเศษน่ะ แต่คราวหน้าถ้าจะไปทำงานก็โทรบอกฉันก่อนจะได้ไปส่ง แล้วก็เมื่อเลิกงานแล้วก็โทรบอกฉันเหมือนเดิม จะได้รับกลับบ้าน เข้าใจใช่ไหม"
                    ฉันถึงกลับขมวดคิ้ว จะไม่ให้งงได้ไงล่ะผกติไม่ได้ใจดีขนาดนี้นี่นา
                    "เธอเข้าใจที่ฉันพูดหรือเปล่าเฟรม" เมื่อเห็นฉันไม่ตอบสักทีเขาจึงถามย้ำอีกครั้ง
                    "โอเคๆ เข้าใจแล้ว แล้วก็ปล่อยมือออกจากข้อมือฉันได้แล้วมั้ง"
                    ฉันยกข้อมือให้เห็นว่าจับไม่ยอมปล่อยสักที และเหมือนเพลย์ลิสเพิ่งจะรู้ตัวจึงค่อยๆปล่อยมืออกจากข้อมือฉันช้าๆ
                     "พี่ครับผมกลับมาแล้ว"
                     เสียงที่ดังมาจากประตูบ้านดึงความสนใจจากคนในบ้านทันที ฉันรู้สึกว่าเสียงที่ได้ยินเมื่อครู่เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
                     ด้วยความสงสัยฉันจึงหันไปมองทางต้นเสียงมและสิ่งที่ฉันเห็นทำให้ฉันต้องเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจเป็นอย่างมาก เมื่อบุคคลที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือน้องม.ปลายที่เจอที่ร้านกาแฟวันนี้ และดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะประหลาดใจมากเหมือนกันที่เห็นฉันที่นี่
                     "น้องมาทำอะไรที่นี่/พี่เฟรมมาทำอะไรที่นี่"
                     เราถามขึ้นมาพร้อมกัน เพราะต่างคนก็อยากรู้ว่าอีกฝ่ายมาทำอะไรที่นี่
    แต่คนที่งงที่สุดก็คงจะเป็นเพลย์ลิสที่ทำหน้าประมาณว่าเรารู้จักกันได้ยังไง
                     "เธอรู้จักน้องชายฉันด้วยเหรอ"
                     "ห้ะ! นี่น้องชายนายเหรอ"
                     คือฉันก็เคยได้ยินมานะว่าเขามีน้องชาย ที่จริงฉันก็สงสัยนะว่าย้องชายเขาไปไหนไม่เคยเห็นที่บ้านเลย แต่ไม่ได้ถามออกไปแค่นั้น ใครจะคิดล่ะว่าเด็กที่เจอกันที่ร้านกาแฟที่ทำเหมือนจะรู้จักฉัน เป็นน้องชายของเขาน่ะ
                     "ใช่ สรุปแล้วเธอไปรู้จักกับน้องฉันได้ไง"
                     "คือฉันไม่ได้รู้จักหรอก แต่น้องชายของนายรู้จักฉัน ฉันเพิ่งเคยเจอน้องเขาวันนี้ที่ฉันทำงานพิเศษอยู่"
                     แต่ดูเหมือนเพลย์ลิสจะยังไม่เข้าใจเท่าไหร่ ฉันจึงตั้งใจจะหันไปถามน้องตรงๆอีกครั้ง แต่ก็โดนน้องเขาพูดตัดบทซะก่อน
                     "สวัสดีครับพี่เฟรม ผมชื่อพีซเป็นน้องชายพี่เพลย์ลิสครับ :)"
                     "แล้วพีซรู้จักพี่ได้ยังไง" ฉันไม่รอช้ารีบถามต่อทันที
                     "เมื่อปีก่อน ผมไปหาพี่เพลย์ลิสที่มหาวิทยาลัย ในขณะที่ผมกำลังนั่งรอพี่ชายอยู่ผมก็เห็นพี่เดินมากับเพื่อนๆน่ะครับ"
                     "แต่ว่าพี่ไม่เคยเห็นพีซเลยนะคะ"
                     "ไม่แปลกหรอกครับ เพราะผมไม่เคยเข้าไปทักพี่เลย พูดง่ายๆผมแอบมองพี่มาตลอด "
                      เดี๋ยวก่อนนะ แค่เห็นฉันเดินผ่านถึงขั้นแอบมองมาตลอดเลยเหรอ
                     "พีซพูดแบบนี้อาจจะทำให้พี่เข้าใจว่าพีซสนใจพี่ก็ได้นะคะ แหะๆ"
                      ฉันหัวเราะแห้งๆ ไม่ใช่ว่าฉันจะเข้าข้างตัวเองนะ แต่ว่ามันก็อดคิดแบบนี้ไม่ได้จริงๆ
                      "แล้วถ้าผมบอกว่า ผมสนใจพี่เฟรมล่ะครับ"
                      "O_O" อึ้งเลยสิฉัน นี่พีซสนใจฉันจริงๆเหรอเนี่ย ไปต่อไม่ถูกเลยนะแบบนี้
                      "อะแฮ่ม" 
                      ดูเหมือนว่าเหตุการณ์เมื่อกี้ทำให้เราลืมใครไปคนหนึ่ง เพลย์ลิสที่ตอนแรกยืนดูอยู่เงียบๆส่งเสียงกระแอมออกมาพร้อมกับเดินมายืนข้างๆฉัน
                      "อ๋อ ผมลืมถามเลยครับทำไมพี่เฟรมถึงมาอยู่ที่นี่ครับ แล้วพี่เป็นเพื่อนกับพี่เพลย์ลิสเหรอครับ"
                      "คือพี่อาศัยอยู่ที่นี่ค่ะ แต่พี่ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทเพลย์ลิสหรอก จริงๆแล้วพี่เป็น..."
                      "เป็นลูกหนี้"
                      ฉันยังไม่ทันอธิบายจบเพลย์ลิสก็พูดแทรกขึ้นมา
                       ฟึ่บ
                      "ของ-ฉัน"
                      เสียงพูดที่หนักแน่นราวกับต้องการจะเน้นย้ำเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอาแขนมาพาดไหล่ฉันไว้เหมือนจะโอบกลายๆ ส่วนพีซในตอนนี้สีหน้าเขาดูค่อนข้างตกใจไม่น้อย
                      จริงๆสิ่งเขาพูดมันก็ไม่ผิด แต่ทำไมจะต้องเอาแขนมาพาดไว้ที่ไหล่ฉันด้วย
                      ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
                      ให้ตายเถอะเสียงหัวใจฉัน มันจะเต้นแรงไปแล้วนะ





    100% แล้วค่ะ ขอโทษคุณผู้อ่านที่หายไปนานนะคะ T T
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×