ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5 ความลับไม่มีในโลกหรอกนะ 100%
สวัสดีค่ะนักอ่านทุกท่าน ก่อนอื่นไรท์ขอโทษนะคะที่หายไปนานมาก ก่อนหน้านี้ไรท์สอบเลยขาดการอัพไปด้วย ช่วงนี้ไรท์ว่าง จะพยายามอัพให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่อ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ
5
ความลับไม่มีในโลกหรอกนะ
ฉันกลับมาถึงบ้านเพลย์ลิสประมาณสองทุ่ม ก่อนหน้านี้ฉันแวะไปที่บ้านตัวเองเพื่อไปหาพี่ที่บ้านมา พี่บอกว่าตอนนี้เริ่มทำงานพิเศษเพื่อเก็บเงินแล้ว ได้ยินแค่นั้นฉันก็ดีใจมากแล้ว และอีกสาเหตุหนึ่งที่ฉันไปที่บ้านเพราะฉันนำ 'ของ' ต่างๆที่ฉันใช้วันนี้ไปไว้ที่บ้านกันไว้ก่อน อีกอย่างฉันก็ไม่อยากจะเจอหน้าเพลย์ลิสตอนนี้ด้วย
"หนูเฟรม!"
มีเสียงหนึ่งเรียกฉันที่กำลังจะเดินไปที่ห้องตัวเองให้หันไปมองก็พบว่าคุณแม่บ้านกำลังเดินมาหาฉันด้วยท่าทางรีบร้อน
"คุณป้ามีอะไรเหรอคะ"
"คุณหนูบอกป้าไว้ว่าถ้าหนูเฟรมมาถึงแล้ว ให้ตามไปพบที่ห้องคุณหนูน่ะค่ะ"
พบที่ห้องเขางั้นเหรอ ให้ตายสิยิ่งไม่อยากเจอหน้าอยู่ด้วย แล้วเรียกไปพบแบบนี้ ฉันรู้สึกว่ามันไม่ปกติน่ะสิ เริ่มรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีแล้วสิ
ฉันชั่งใจอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจตอบออกมา
"ก็ได้ค่ะ หนูจะไปพบเขาเดี๋ยวนี้"
"งั้น ตามป้ามาเลยค่ะ"
จากนั้นคุณป้าแม่บ้านก็เดินนำไปที่บ้านหลังใหญ่ ทันที
ในขณะที่ฉันและคุณแม่บ้านเดินไปตามขั้นบันได ตอนนี้ในหัวฉันมีเรื่องให้คิดตีกันวุ่นวายไปหมด หมอนั่นรู้เหรอว่าใครทำ...ไม่หรอกน่าจะรู้ได้ยังไง ฉันมั่นใจนะว่าเขาไม่เห็นหน้าฉัน แต่มันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ แล้วเขาจะเรียกฉันไปพบทำไม
"ถึงแล้วค่ะหนูเฟรม"
เสียงของคุณแม่บ้านเรียกฉันที่กำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเองให้หันมาสนใจสิ่งรอบตัวอีกครั้ง
ตอนนี้ฉันยืนอยู่หน้าห้องหนึ่ง เดาเอาว่าน่าจะเป็นห้องของเพลย์ลิส ซึ่งห้องของเขาอยู่ถัดมาทางขวาสองห้องนับจากบันได
แต่เดี๋ยวก่อนนะ นี่ไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องแบบนี้
ก๊อกๆๆ
"ขออนุญาตค่ะคุณหนู คุณเฟรมมาแล้วค่ะ"
คุณป้าบอกพร้อมกับเปิดประตูเข้าไป ภายในห้องตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่ทว่าก็ดูหรูหรา เฟอร์นิเจอร์ต่างๆก็จัดได้เข้ากับห้องเป็นอย่างดี
ส่วนเจ้าของห้องในตอนนี้ นั่งอยู่บนเก้าอี้ ด้านหน้าเขาเป็นโต้ะที่ดูก็รู้ว่าไว้สำหรับอ่านหนังสือ บนนั้นมีโน้ตบุ๊ควางอยู่หนึ่งเครื่อง ถ้ามองจากประตูห้องก็จะเห็นว่าเขานั่งหันข้างให้อยู่ และเขาก็ยังอยู่ในชุดเดิมเหมือนเมื่อตอนเย็นด้วย
"ขอบคุณครับป้า ผมขอคุยกับเฟรมตามลำพังนะครับ"
เขาหันหน้ามาพูดกับคุณป้า ท่านจึงให้ฉันเข้าไปในห้อง ก่อนที่ท่านจะปิดประตู ทำให้ตอนนี้ฉันอยู่กับเขาในห้องแค่สองคน และบรรยากาศก็เริ่มอึดอัดขึ้นด้วย
ให้ตายสิตอนนี้ฉันเริ่มกังวลมากขึ้นแล้วนะ เพราะสายตาที่เขามองมาตอนนี้มันไม่ได้เหมือนสายตาที่พร้อมจะหาเรื่องฉันตลอดเวลาเหมือนที่ผ่าน แต่มันเป็นสายตาที่จ้องจับผิดชัดๆ
"นายมีธุระอะไร ถึงต้องเรียกฉันมาถึงที่นี่"
ฉันพูดทำลายความเงียบ โดยที่ตอนนี้ฉันยืนห่างจากโต้ะที่เขานั่งพอสมควร ใครจะไปอยากยืนใกล้ล่ะ ชะงักที่ติดหลังฉันอยู่ตอนนี้ก็ทำให้ฉันอยากออกจากห้องนี้เดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำไป
"วันนี้หลังเลิกเรียนแล้ว เธอไปไหนมา"
เขาถามทั้งที่ยังไม่ละสายตาออกไปไหน ยังจ้องฉันอยู่เหมือนเดิม
"ฉันไปหาพี่ที่บ้านมา" ฉันตอบโดยที่ไม่หลบสายตาไปไหน และพยายามควบคุมน้ำเสียงโดยไม่ให้เขาจับพิรุธได้
"เธอแน่ใจนะว่าก่อนที่เธอจะไปหาเฟค เธอไม่ได้ไปไหนมาก่อน"
"ทำไมนายถึงอยากรู้ขนาดนั้นว่าฉันไปไหน จริงๆแล้วฉันมีสิทธิ์ที่จะไปไหนก็ได้นะ ถึงฉันจะเป็นลูกหนี้นาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องบอกนายนะว่าฉันจะไปไหน"
ฉันร่ายยาวไปแบบนั้น ก็ดูเขาสิทำหน้าเหมือนตำรวจกำลังสอบสวนผู้ร้ายอยู่นั่นแหละ
"จริงๆ ฉันก็แค่ถามว่าเธอไปที่ไหนก่อนที่จะไปหาเฟคหรือเปล่า แต่เธอดันตอบมายาวขนาดนี้ เหมือนเธอมีอะไรปิดบังอยู่"
ตอนนี้ฉันรู้ตัวแล้วว่าพลาดอย่างมากที่ตอบเขาไปแบบนั้น หมอนี่ตั้งใจจะต้อนฉันชัดๆ ลางสังหรณ์ที่ฉันคิดว่าเขาอาจจะรู้แล้วเริ่มชัดขึ้นมาแล้วนะ
"ถ้านายต้องการจะถามแค่ว่าฉันไปไหนมาบ้าง ฉันก็ตอบไปหมดแล้ว งั้นฉันขอตัวก่อนละกัน"
ฉันรีบขอตัวแล้วหันหลังจะเดินไปที่ประตูทันที แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวไปไหนเสียงของเพลย์ลิสก็หยุดฉันไว้ก่อน
"ท่าทางแบบนั้นเธอคงจะรู้แล้วสินะว่า ฉันกำลังหมายถึงอะไรอยู่"
เสียงของเขาที่อยู่ใกล้กว่าตอนแรกทำให้ฉันหันไปแล้วพบว่าเขายืนอยู่ด้านหลัง พร้อมกับของในมือที่ชูมาตรงหน้าฉันตอนนี้ ของนั้นทำใฟ้หัวใจฉันหล่นไปถึงตาตุ่มทันที เมื่อของที่อยู่ในมือนั้นมันไม่ควรจะอยู่ที่นี่ในเวลานี้
ใช่...กระเป๋าสตางค์เขาที่ฉันทิ้งลงถังขยะไปแล้วไงล่ะ
"ก็แค่กระเป๋าสตางค์ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน" ฉันถามทั้งๆที่มันอาจจะไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลยก็ตาม
"มันจะไม่เกี่ยวเลย ถ้าคนที่ขโมยกระเป๋าตังค์ฉันไปทิ้งมันไม่ใช่เธอ"
"..."
"ก็ได้ในเมื่อเธอไม่ยอมรับฉันก็มีอีกอย่างให้ดู"
เขาเดินกลับไปที่โต้ะอีกครั้งพร้อมกับเปิดโน้ตบุ๊ค แล้วหมุนตัวเครื่องมาที่ฉัน ทำให้เห็นสิ่งที่ปรากฏบนหน้าจออย่างชัดเจน
วีดีโอที่ปรากฏอยู่คือผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังแอบอยู่มุมหนึ่งพร้อมกับมองไปทางห้องน้ำชายก่อนที่จะใส่เสื้อกันหนาว แว่นกันแดด และหน้ากากอนามัย ก่อนที่จะเดินออกไป วีดีโอเล่นไปเรื่อยๆตั้งแต่ต้นจนถึงผู้หญิงคนนั้นเรียกแท็กซี่แล้วขึ้นรถไป
ในวีดีโอนั่นทำให้เห็นหน้าชัดเจนเลยว่าผู้หญิงคนนั้นคือฉัน และเมื่อวีดีโอจบลงฉันรู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ชื้นอยู่ยนมือตัวเอง และไม่ต้องบอกเลยว่าหน้าฉันตอนนี้ซีดเป็นไก่ต้มแน่
ฉันค่อยๆเลื่อนสายตาไปมองเพลย์ลิสอีกครั้ง ก็พบว่าเขามองฉันอยู่ก่อนแล้ว จากนั้นก็ค่อยๆเดินมาหยุดตรงหน้าฉันอีกครั้ง
"คราวนี้ฉันหวังว่าเธอจะยอมรับนะ เฟรม"
ฉันว่าชีวิตของฉันหลังจากนี้ ไม่สงบสุขกว่าเดิมแน่ๆ
55%
Playlist'part
ผมกำลังยืนมองผู้หญิงตรงหน้าในตอนนี้อยู่ สีหน้าของเธอในตอนนี้ทั้งซีด และตื่นตระหนกเลยล่ะ แน่นอนว่าหลักฐานขนาดนี้เธอไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้แน่นอน เธอคงไม่คิดสินะว่าผมจะรู้เร็วขนาดนี้
"จริงๆแล้ว ฉันขอชมนะที่เธอทำให้ฉันขายหน้าได้ขนาดนั้น แต่เธอก็คงจะลืมไปสนิทเลยสินะว่าที่ห้างมีกล้องวงจรปิดน่ะ เฟรม :)"
ย้อนไปเมื่อตอนเย็น
'กระเป๋าสตางค์มันจะหายไปไหนได้'
ผมบ่นกับตัวเองแบบนั้นพลางคิดว่าผมไปวางลืม หรือทำตกไว้ที่ไหน แต่วาสตอนนี้สิ่งแรกที่ต้องทำคือติดต่อประชาสัมพันธ์เผื่อมีคนเก็บได้ หรือประกาศให้ช่วยตามหา
เมื่อคิดได้ดังนั้นผมรีบวิ่งไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ทันที
'ขอโทษนะครับ กระเป๋าสตางค์ผมหายน่ะครับ ไม่ทราบว่ามีคนเก็บได้หรือเปล่าครับ'
'นี่ใช่ของคุณหรือเปล่าคะ'
เธอพูดพร้อมกับยื่นกระเป๋าสตางค์ที่ดูคุ้นตาใลหนึ่ง เมื่อตรวจดูแล้วพบว่าเป็นของผมจริงๆ พร้อมกับตรวขสอบว่าไม่มีอะไรหายไปเลยไม่วาสจะบัตรเครดิต หรือว่าเงินสดยังอยู่ครบทุกอย่าง
'ใช่ครับนี่ของผมเอง'
'ทางเรากำลังจะประกาศพอดีเลยค่ะ พอดีว่าคนที่เก็บได้เขาบอกว่าเจอในถังขยะใกล้ๆกับร้านเสื้อ และบอกอีกว่าเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังทิ้งลงในถังขยะค่ะ เขาพยายามเรียกเธอแล้วแต่เธอรีบร้อนเดินออกไปจากห้างก่อนค่ะ'
ได้ยินแบบนี้นผมถึงกับขมวดคิ้ว นี่ผมโดนล้วงกระเป๋าเหรอ แล้วจะทำแบบนั้นไปทำไมในเมื่อได้กระเป๋าสตางค์ไป แต่ไม่เอาอะไรไปเลยแถมยังเอาไปทิ้งอีกต่างหาก
'พอจะทราบหรือเปล่าครับว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าตา หรือลักษณะเป็นยังไง'
'เขาบอกว่าไม่เห็นด้านหน้าเธอค่ะ เฟ็นแต่ด้านหลังใส่เสื้อแขนยาวและไว้ผมยาวด้วยค่ะ'
เสื้อแขนยาว... ผมยาว... มันทำให้ผมนึกถึงผู้หญิงที่ชนกันหน้าห้องน้ำ เธอก็ใส่เสื้อแขนยาว และผมยาวด้วย แล้วเธอจะทำไปทำไมกันนะ ไม่ได้อะไรไปเลยมีแต่จะทำให้ผมขายหน้า
เดี๋ยวก่อน... ขายหน้าเหรอ ถ้าคิดแบบนั้นก็พอจะนึกออกอยู่หนึ่งคน...คนที่ผมแกล้งเธอเมื่อเช้าไงล่ะ
ฟังไม่ผิดหรอกครับ ผมเองแหละที่ให้คนนำเธอไปขังที่โกดังเอง จะหาว่าผมใจร้ายก็ได้นะแต่พอเห็นเธอทีไร มันอดไม่ได้ที่อยากจะแกล้งทุกที (แต่บางทีมันก็แรงไปนะ! =_=*)
'ถ้างั้นผมขอดูกล้องวงจรปิดได้มั้ยครับ'
ผมต้องการให้แน่ใจว่าคนที่ทำเป็นเฟรมจริงๆ และที่สำคัญ...
ผมต้องมีหลักฐาน
ตอนนี้ผมกำลังเดินตามพนักงานคนเดิมเพื่อไปที่ห้องควบคุม เพื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิด แน่นอนว่าตอนแรกเขาไม่ยอมง่ายๆ แต่พอผมบอกนามสกุลพร้อมกับเอาบัตรประชาชนให้ดู เขาก็รีบติดต่อให้ผมสามารถดูได้ทันที เพราะครอบครัวผมเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายหนึ่งของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ปกติผมไม่ใช้วิธีหรอกนะ แต่ครั้งนี้มันจำเป็น
'นี่ครับ'
เมื่อมาถึงห้องควบคุมแล้ว เจ้าฟน้าที่ภายในห้องได้เปิดให้ผมดู ภาพฉายช่วงที่ผมกำลังเดินเข้าห้องน้ำ ผมยืนดูไปเรื่อยๆจนเห็นภาพผู้หญิงกำลังแอบอยู่ที่มุมหนึ่งพลางมองไปทางห้องน้ำชาย ผมจึงรีบบอกให้เขารีบกดหยุดทันที
'ช่วยกดหยุดตรงช่วงนี้หน่อยครับ'
เมื่อภาพหยุดแล้วผมได้เห็นหน้าเธออย่างชัดเจน
เป็นเธอจริงๆด้วยเฟรม
'แจ้งตำรวจเลยมั้ยครับ'
เจ้าหน้าที่หันมาถามผม ผมไม่แจ้งตำรวจหรอกครับ ผมพอจะนึกออกแล้วว่าจะทำยังไงต่อไป
'ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวหลังจากนี้ผมจัดหารเอง รบกวนช่วยนำไฟล์เหตุการณ์ทั้งหมดให้ผมหน่อยนะครับ'
แล้วเจ้าหน้าที่ก็หันไปจัดการนำไฟล์มาให้ผม
หึ เธอนี่มันแสบมากจริงๆเลยนะเฟรม ฉันอยากจะเห็นจริงๆว่าเธอจะทำสีหน้ายังไงเมื่อเห็นหลักฐานพวกนี้นะ ยัยตัวแสบ!
75%
"ฉันยอมรับก็ได้ว่าฉันทำ"
หลังจากที่เงียบเป็นเวลานาน ในที่สุดเธอก็ยอมสารภาพออกมา
"แต่นายทำฉันก่อน นายเอาฉันไปจังไว้ที่โกดังนั่นนายไม่คิดว่ามันแรงไปเหรอ!"
"แล้วเธอแน่ใจได้ยังไงว่าฉันทำ อะไรที่ทำให้เธอมั่นใจขนาดนั้น"
ผมก็อยากจะรู้จริงๆ ว่าทำไมเธอถึงคิดว่าผมเป็นคนทำ
"วิธีเลวๆแบบนี้ มีแต่นายนั่นแหละที่ทำได้" นี่ไม่ได้หลอกด่ากันใช่มั้ย =_=*
"ในเมื่อนายรู้แล้วว่าฉันทำ แล้วนายจะทำยังไงกับฉันล่ะ"
เธอเชิดหน้าอย่างท้าทาย ยัยตัวแสบนี่ขนาดถูกจับได้พร้อมหลักฐานขนาดนี้ ยังไม่ยอมอ่อนให้ผมอีกนะ ก็ได้เฟรมเธอทำแบบนี้เองนะ
"นั่นสินะ อืม... ฉันจะทำอะไรดีล่ะ"
ผมทำท่าใช้ความคิด ก่อนที่จะเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา
เฟรมมองผมอย่างสงสัยว่าทำไมถึงต้องเอาโทรศัพท์ออก
"แจ้งตำรวจก็เข้าท่านะ เพราะหลักฐานเนี่ยครบเลย"
ผมพูดไปด้วย ส่วนนิ้วมือผมก็กดโทรศัพท์ไปด้วย
หมับ!
"ดะ...เดี๋ยวก่อน"
เธอรีบจับมือผมที่กำลังกดโทรศัพท์อยู่ด้วยมือของเธอทั้งสองข้างและเงยหน้าขึ้นมามองผม ซึ่งผมได้มองเธออยู่ก่อนแล้วนั่นทำให้เราสองคนสบตากันอย่างจัง อีกทั้งระยะห่างใบหน้าของเราสองคนตอนนี้ไม่ห่างกันมากแทบจะสัมผัสถึงลมหายใจของอีกฝ่ายอยู่แล้ว
หลังจากผ่านไปเกือบนาทีเธอเริ่มรู้สึกตัว จึงรีบปล่อยมือจากมือผมแล้วรีบถอยหลังไปหลายก้าว
"ถ้างั้น ฉันไม่แจ้งตำรวจก็ได้และหวังว่าเธอจะไม่ทำแบบนี้อีก"
"ขะ...เข้าใจแล้ว แค่นี้ใช่มั้ยฉันของตัวก่อน"
หลังจากตอบแล้วเธอก็รีบร้อนเปิดประตู แต่ยังไม่ทันเดินออกไปผมรีบพูดขึ้นมาซะก่อนทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว แล้วค่อยๆหันหน้ากลับมา
"แล้วฉันขอย้ำอีกครั้งฉันเป็นเจ้าหนี้เธอเป็นลูกหนี้ เฟรมต่อจากนี้ไม่ว่าเธอจะทำอะไรอยู่ เมื่อฉันเรียกเธอต้องรีบมาหาฉันก่อนเข้าใจแล้วนะ"
ผมรีบพูดยาวเหยียดแทบไม่ได้หายใจ ส่วนเฟรมก็ไม่พูอะไรได้แต่พยักหน้ารับแล้วรีบเดินออกไปทันที
ปัง!
เสียงประตูปิดลงแล้วแต่ผมก็ยังยืนอยู่ที่เดิม
ความรู้สึกเมื่อกี้มันอะไรกัน แค่ผมเห็นหน้าเฟรมในระยะใกล้แค่นั้น ทั้งที่กับผู้หญิงคนอื่นมากกว่านี้ด้วยซ้ำไป
ตึก ตึก ตึก
ทำไมหัวใจของผมตอนนี้มันต้องเต้นแรงด้วย!
End Playlist'part
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น