ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Debt Love หนี้รักมัดหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5 ความลับไม่มีในโลกหรอกนะ 100%

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 59


    สวัสดีค่ะนักอ่านทุกท่าน ก่อนอื่นไรท์ขอโทษนะคะที่หายไปนานมาก ก่อนหน้านี้ไรท์สอบเลยขาดการอัพไปด้วย ช่วงนี้ไรท์ว่าง จะพยายามอัพให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่อ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ




    5
    ความลับไม่มีในโลกหรอกนะ

              ฉันกลับมาถึงบ้านเพลย์ลิสประมาณสองทุ่ม ก่อนหน้านี้ฉันแวะไปที่บ้านตัวเองเพื่อไปหาพี่ที่บ้านมา พี่บอกว่าตอนนี้เริ่มทำงานพิเศษเพื่อเก็บเงินแล้ว ได้ยินแค่นั้นฉันก็ดีใจมากแล้ว และอีกสาเหตุหนึ่งที่ฉันไปที่บ้านเพราะฉันนำ 'ของ' ต่างๆที่ฉันใช้วันนี้ไปไว้ที่บ้านกันไว้ก่อน อีกอย่างฉันก็ไม่อยากจะเจอหน้าเพลย์ลิสตอนนี้ด้วย
              "หนูเฟรม!" 
              มีเสียงหนึ่งเรียกฉันที่กำลังจะเดินไปที่ห้องตัวเองให้หันไปมองก็พบว่าคุณแม่บ้านกำลังเดินมาหาฉันด้วยท่าทางรีบร้อน
              "คุณป้ามีอะไรเหรอคะ"
              "คุณหนูบอกป้าไว้ว่าถ้าหนูเฟรมมาถึงแล้ว ให้ตามไปพบที่ห้องคุณหนูน่ะค่ะ"
              พบที่ห้องเขางั้นเหรอ ให้ตายสิยิ่งไม่อยากเจอหน้าอยู่ด้วย แล้วเรียกไปพบแบบนี้ ฉันรู้สึกว่ามันไม่ปกติน่ะสิ เริ่มรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีแล้วสิ
              ฉันชั่งใจอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจตอบออกมา
              "ก็ได้ค่ะ หนูจะไปพบเขาเดี๋ยวนี้"
              "งั้น ตามป้ามาเลยค่ะ"
              จากนั้นคุณป้าแม่บ้านก็เดินนำไปที่บ้านหลังใหญ่ ทันที
              ในขณะที่ฉันและคุณแม่บ้านเดินไปตามขั้นบันได ตอนนี้ในหัวฉันมีเรื่องให้คิดตีกันวุ่นวายไปหมด หมอนั่นรู้เหรอว่าใครทำ...ไม่หรอกน่าจะรู้ได้ยังไง ฉันมั่นใจนะว่าเขาไม่เห็นหน้าฉัน แต่มันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ แล้วเขาจะเรียกฉันไปพบทำไม
              "ถึงแล้วค่ะหนูเฟรม"
              เสียงของคุณแม่บ้านเรียกฉันที่กำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเองให้หันมาสนใจสิ่งรอบตัวอีกครั้ง
              ตอนนี้ฉันยืนอยู่หน้าห้องหนึ่ง เดาเอาว่าน่าจะเป็นห้องของเพลย์ลิส ซึ่งห้องของเขาอยู่ถัดมาทางขวาสองห้องนับจากบันได
              แต่เดี๋ยวก่อนนะ นี่ไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องแบบนี้
              ก๊อกๆๆ
              "ขออนุญาตค่ะคุณหนู คุณเฟรมมาแล้วค่ะ"
              คุณป้าบอกพร้อมกับเปิดประตูเข้าไป ภายในห้องตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่ทว่าก็ดูหรูหรา เฟอร์นิเจอร์ต่างๆก็จัดได้เข้ากับห้องเป็นอย่างดี
              ส่วนเจ้าของห้องในตอนนี้ นั่งอยู่บนเก้าอี้ ด้านหน้าเขาเป็นโต้ะที่ดูก็รู้ว่าไว้สำหรับอ่านหนังสือ บนนั้นมีโน้ตบุ๊ควางอยู่หนึ่งเครื่อง ถ้ามองจากประตูห้องก็จะเห็นว่าเขานั่งหันข้างให้อยู่ และเขาก็ยังอยู่ในชุดเดิมเหมือนเมื่อตอนเย็นด้วย
              "ขอบคุณครับป้า ผมขอคุยกับเฟรมตามลำพังนะครับ"
              เขาหันหน้ามาพูดกับคุณป้า ท่านจึงให้ฉันเข้าไปในห้อง ก่อนที่ท่านจะปิดประตู ทำให้ตอนนี้ฉันอยู่กับเขาในห้องแค่สองคน และบรรยากาศก็เริ่มอึดอัดขึ้นด้วย
              ให้ตายสิตอนนี้ฉันเริ่มกังวลมากขึ้นแล้วนะ เพราะสายตาที่เขามองมาตอนนี้มันไม่ได้เหมือนสายตาที่พร้อมจะหาเรื่องฉันตลอดเวลาเหมือนที่ผ่าน แต่มันเป็นสายตาที่จ้องจับผิดชัดๆ
              "นายมีธุระอะไร ถึงต้องเรียกฉันมาถึงที่นี่"
               ฉันพูดทำลายความเงียบ โดยที่ตอนนี้ฉันยืนห่างจากโต้ะที่เขานั่งพอสมควร ใครจะไปอยากยืนใกล้ล่ะ ชะงักที่ติดหลังฉันอยู่ตอนนี้ก็ทำให้ฉันอยากออกจากห้องนี้เดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำไป
              "วันนี้หลังเลิกเรียนแล้ว เธอไปไหนมา"
               เขาถามทั้งที่ยังไม่ละสายตาออกไปไหน ยังจ้องฉันอยู่เหมือนเดิม
              "ฉันไปหาพี่ที่บ้านมา" ฉันตอบโดยที่ไม่หลบสายตาไปไหน และพยายามควบคุมน้ำเสียงโดยไม่ให้เขาจับพิรุธได้
              "เธอแน่ใจนะว่าก่อนที่เธอจะไปหาเฟค เธอไม่ได้ไปไหนมาก่อน"
              "ทำไมนายถึงอยากรู้ขนาดนั้นว่าฉันไปไหน จริงๆแล้วฉันมีสิทธิ์ที่จะไปไหนก็ได้นะ ถึงฉันจะเป็นลูกหนี้นาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องบอกนายนะว่าฉันจะไปไหน"
               ฉันร่ายยาวไปแบบนั้น ก็ดูเขาสิทำหน้าเหมือนตำรวจกำลังสอบสวนผู้ร้ายอยู่นั่นแหละ
               "จริงๆ ฉันก็แค่ถามว่าเธอไปที่ไหนก่อนที่จะไปหาเฟคหรือเปล่า แต่เธอดันตอบมายาวขนาดนี้ เหมือนเธอมีอะไรปิดบังอยู่"
               ตอนนี้ฉันรู้ตัวแล้วว่าพลาดอย่างมากที่ตอบเขาไปแบบนั้น หมอนี่ตั้งใจจะต้อนฉันชัดๆ ลางสังหรณ์ที่ฉันคิดว่าเขาอาจจะรู้แล้วเริ่มชัดขึ้นมาแล้วนะ
              "ถ้านายต้องการจะถามแค่ว่าฉันไปไหนมาบ้าง ฉันก็ตอบไปหมดแล้ว งั้นฉันขอตัวก่อนละกัน"
              ฉันรีบขอตัวแล้วหันหลังจะเดินไปที่ประตูทันที แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวไปไหนเสียงของเพลย์ลิสก็หยุดฉันไว้ก่อน
              "ท่าทางแบบนั้นเธอคงจะรู้แล้วสินะว่า ฉันกำลังหมายถึงอะไรอยู่"
    เสียงของเขาที่อยู่ใกล้กว่าตอนแรกทำให้ฉันหันไปแล้วพบว่าเขายืนอยู่ด้านหลัง พร้อมกับของในมือที่ชูมาตรงหน้าฉันตอนนี้ ของนั้นทำใฟ้หัวใจฉันหล่นไปถึงตาตุ่มทันที เมื่อของที่อยู่ในมือนั้นมันไม่ควรจะอยู่ที่นี่ในเวลานี้
              ใช่...กระเป๋าสตางค์เขาที่ฉันทิ้งลงถังขยะไปแล้วไงล่ะ
              "ก็แค่กระเป๋าสตางค์ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน"  ฉันถามทั้งๆที่มันอาจจะไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลยก็ตาม
              "มันจะไม่เกี่ยวเลย ถ้าคนที่ขโมยกระเป๋าตังค์ฉันไปทิ้งมันไม่ใช่เธอ"
              "..."
              "ก็ได้ในเมื่อเธอไม่ยอมรับฉันก็มีอีกอย่างให้ดู"
              เขาเดินกลับไปที่โต้ะอีกครั้งพร้อมกับเปิดโน้ตบุ๊ค แล้วหมุนตัวเครื่องมาที่ฉัน ทำให้เห็นสิ่งที่ปรากฏบนหน้าจออย่างชัดเจน
               วีดีโอที่ปรากฏอยู่คือผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังแอบอยู่มุมหนึ่งพร้อมกับมองไปทางห้องน้ำชายก่อนที่จะใส่เสื้อกันหนาว แว่นกันแดด และหน้ากากอนามัย ก่อนที่จะเดินออกไป วีดีโอเล่นไปเรื่อยๆตั้งแต่ต้นจนถึงผู้หญิงคนนั้นเรียกแท็กซี่แล้วขึ้นรถไป
              ในวีดีโอนั่นทำให้เห็นหน้าชัดเจนเลยว่าผู้หญิงคนนั้นคือฉัน และเมื่อวีดีโอจบลงฉันรู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ชื้นอยู่ยนมือตัวเอง และไม่ต้องบอกเลยว่าหน้าฉันตอนนี้ซีดเป็นไก่ต้มแน่
               ฉันค่อยๆเลื่อนสายตาไปมองเพลย์ลิสอีกครั้ง ก็พบว่าเขามองฉันอยู่ก่อนแล้ว จากนั้นก็ค่อยๆเดินมาหยุดตรงหน้าฉันอีกครั้ง
              "คราวนี้ฉันหวังว่าเธอจะยอมรับนะ เฟรม"
              ฉันว่าชีวิตของฉันหลังจากนี้ ไม่สงบสุขกว่าเดิมแน่ๆ

    55%
             
              Playlist'part
              ผมกำลังยืนมองผู้หญิงตรงหน้าในตอนนี้อยู่ สีหน้าของเธอในตอนนี้ทั้งซีด และตื่นตระหนกเลยล่ะ แน่นอนว่าหลักฐานขนาดนี้เธอไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้แน่นอน เธอคงไม่คิดสินะว่าผมจะรู้เร็วขนาดนี้
              "จริงๆแล้ว ฉันขอชมนะที่เธอทำให้ฉันขายหน้าได้ขนาดนั้น แต่เธอก็คงจะลืมไปสนิทเลยสินะว่าที่ห้างมีกล้องวงจรปิดน่ะ เฟรม :)"


               ย้อนไปเมื่อตอนเย็น
               'กระเป๋าสตางค์มันจะหายไปไหนได้'
               ผมบ่นกับตัวเองแบบนั้นพลางคิดว่าผมไปวางลืม หรือทำตกไว้ที่ไหน แต่วาสตอนนี้สิ่งแรกที่ต้องทำคือติดต่อประชาสัมพันธ์เผื่อมีคนเก็บได้ หรือประกาศให้ช่วยตามหา
               เมื่อคิดได้ดังนั้นผมรีบวิ่งไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ทันที
               'ขอโทษนะครับ กระเป๋าสตางค์ผมหายน่ะครับ ไม่ทราบว่ามีคนเก็บได้หรือเปล่าครับ'
              'นี่ใช่ของคุณหรือเปล่าคะ'
              เธอพูดพร้อมกับยื่นกระเป๋าสตางค์ที่ดูคุ้นตาใลหนึ่ง เมื่อตรวจดูแล้วพบว่าเป็นของผมจริงๆ พร้อมกับตรวขสอบว่าไม่มีอะไรหายไปเลยไม่วาสจะบัตรเครดิต หรือว่าเงินสดยังอยู่ครบทุกอย่าง
              'ใช่ครับนี่ของผมเอง'
              'ทางเรากำลังจะประกาศพอดีเลยค่ะ พอดีว่าคนที่เก็บได้เขาบอกว่าเจอในถังขยะใกล้ๆกับร้านเสื้อ และบอกอีกว่าเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังทิ้งลงในถังขยะค่ะ เขาพยายามเรียกเธอแล้วแต่เธอรีบร้อนเดินออกไปจากห้างก่อนค่ะ'
               ได้ยินแบบนี้นผมถึงกับขมวดคิ้ว นี่ผมโดนล้วงกระเป๋าเหรอ แล้วจะทำแบบนั้นไปทำไมในเมื่อได้กระเป๋าสตางค์ไป แต่ไม่เอาอะไรไปเลยแถมยังเอาไปทิ้งอีกต่างหาก
              'พอจะทราบหรือเปล่าครับว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าตา หรือลักษณะเป็นยังไง'
              'เขาบอกว่าไม่เห็นด้านหน้าเธอค่ะ เฟ็นแต่ด้านหลังใส่เสื้อแขนยาวและไว้ผมยาวด้วยค่ะ'
               เสื้อแขนยาว... ผมยาว... มันทำให้ผมนึกถึงผู้หญิงที่ชนกันหน้าห้องน้ำ เธอก็ใส่เสื้อแขนยาว และผมยาวด้วย แล้วเธอจะทำไปทำไมกันนะ ไม่ได้อะไรไปเลยมีแต่จะทำให้ผมขายหน้า
               เดี๋ยวก่อน... ขายหน้าเหรอ ถ้าคิดแบบนั้นก็พอจะนึกออกอยู่หนึ่งคน...คนที่ผมแกล้งเธอเมื่อเช้าไงล่ะ
              ฟังไม่ผิดหรอกครับ ผมเองแหละที่ให้คนนำเธอไปขังที่โกดังเอง จะหาว่าผมใจร้ายก็ได้นะแต่พอเห็นเธอทีไร มันอดไม่ได้ที่อยากจะแกล้งทุกที (แต่บางทีมันก็แรงไปนะ! =_=*)
             'ถ้างั้นผมขอดูกล้องวงจรปิดได้มั้ยครับ'
              ผมต้องการให้แน่ใจว่าคนที่ทำเป็นเฟรมจริงๆ และที่สำคัญ...
              ผมต้องมีหลักฐาน
              ตอนนี้ผมกำลังเดินตามพนักงานคนเดิมเพื่อไปที่ห้องควบคุม เพื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิด แน่นอนว่าตอนแรกเขาไม่ยอมง่ายๆ แต่พอผมบอกนามสกุลพร้อมกับเอาบัตรประชาชนให้ดู เขาก็รีบติดต่อให้ผมสามารถดูได้ทันที เพราะครอบครัวผมเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายหนึ่งของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ปกติผมไม่ใช้วิธีหรอกนะ แต่ครั้งนี้มันจำเป็น
              'นี่ครับ'
               เมื่อมาถึงห้องควบคุมแล้ว เจ้าฟน้าที่ภายในห้องได้เปิดให้ผมดู ภาพฉายช่วงที่ผมกำลังเดินเข้าห้องน้ำ ผมยืนดูไปเรื่อยๆจนเห็นภาพผู้หญิงกำลังแอบอยู่ที่มุมหนึ่งพลางมองไปทางห้องน้ำชาย ผมจึงรีบบอกให้เขารีบกดหยุดทันที
              'ช่วยกดหยุดตรงช่วงนี้หน่อยครับ'
              เมื่อภาพหยุดแล้วผมได้เห็นหน้าเธออย่างชัดเจน 
              เป็นเธอจริงๆด้วยเฟรม
              'แจ้งตำรวจเลยมั้ยครับ'
              เจ้าหน้าที่หันมาถามผม ผมไม่แจ้งตำรวจหรอกครับ ผมพอจะนึกออกแล้วว่าจะทำยังไงต่อไป
              'ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวหลังจากนี้ผมจัดหารเอง รบกวนช่วยนำไฟล์เหตุการณ์ทั้งหมดให้ผมหน่อยนะครับ'
               แล้วเจ้าหน้าที่ก็หันไปจัดการนำไฟล์มาให้ผม 
               หึ เธอนี่มันแสบมากจริงๆเลยนะเฟรม ฉันอยากจะเห็นจริงๆว่าเธอจะทำสีหน้ายังไงเมื่อเห็นหลักฐานพวกนี้นะ ยัยตัวแสบ!

    75%

              "ฉันยอมรับก็ได้ว่าฉันทำ"
               หลังจากที่เงียบเป็นเวลานาน ในที่สุดเธอก็ยอมสารภาพออกมา
              "แต่นายทำฉันก่อน นายเอาฉันไปจังไว้ที่โกดังนั่นนายไม่คิดว่ามันแรงไปเหรอ!"
              "แล้วเธอแน่ใจได้ยังไงว่าฉันทำ อะไรที่ทำให้เธอมั่นใจขนาดนั้น"
               ผมก็อยากจะรู้จริงๆ ว่าทำไมเธอถึงคิดว่าผมเป็นคนทำ
              "วิธีเลวๆแบบนี้ มีแต่นายนั่นแหละที่ทำได้" นี่ไม่ได้หลอกด่ากันใช่มั้ย =_=*
              "ในเมื่อนายรู้แล้วว่าฉันทำ แล้วนายจะทำยังไงกับฉันล่ะ"
                เธอเชิดหน้าอย่างท้าทาย ยัยตัวแสบนี่ขนาดถูกจับได้พร้อมหลักฐานขนาดนี้ ยังไม่ยอมอ่อนให้ผมอีกนะ ก็ได้เฟรมเธอทำแบบนี้เองนะ
               "นั่นสินะ อืม... ฉันจะทำอะไรดีล่ะ"
                ผมทำท่าใช้ความคิด ก่อนที่จะเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา
                เฟรมมองผมอย่างสงสัยว่าทำไมถึงต้องเอาโทรศัพท์ออก 
              "แจ้งตำรวจก็เข้าท่านะ เพราะหลักฐานเนี่ยครบเลย"
               ผมพูดไปด้วย ส่วนนิ้วมือผมก็กดโทรศัพท์ไปด้วย
               หมับ!
               "ดะ...เดี๋ยวก่อน"
                เธอรีบจับมือผมที่กำลังกดโทรศัพท์อยู่ด้วยมือของเธอทั้งสองข้างและเงยหน้าขึ้นมามองผม ซึ่งผมได้มองเธออยู่ก่อนแล้วนั่นทำให้เราสองคนสบตากันอย่างจัง อีกทั้งระยะห่างใบหน้าของเราสองคนตอนนี้ไม่ห่างกันมากแทบจะสัมผัสถึงลมหายใจของอีกฝ่ายอยู่แล้ว
                หลังจากผ่านไปเกือบนาทีเธอเริ่มรู้สึกตัว จึงรีบปล่อยมือจากมือผมแล้วรีบถอยหลังไปหลายก้าว
               "ถ้างั้น ฉันไม่แจ้งตำรวจก็ได้และหวังว่าเธอจะไม่ทำแบบนี้อีก"
               "ขะ...เข้าใจแล้ว แค่นี้ใช่มั้ยฉันของตัวก่อน"
                หลังจากตอบแล้วเธอก็รีบร้อนเปิดประตู แต่ยังไม่ทันเดินออกไปผมรีบพูดขึ้นมาซะก่อนทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว แล้วค่อยๆหันหน้ากลับมา
                "แล้วฉันขอย้ำอีกครั้งฉันเป็นเจ้าหนี้เธอเป็นลูกหนี้ เฟรมต่อจากนี้ไม่ว่าเธอจะทำอะไรอยู่ เมื่อฉันเรียกเธอต้องรีบมาหาฉันก่อนเข้าใจแล้วนะ"
                 ผมรีบพูดยาวเหยียดแทบไม่ได้หายใจ ส่วนเฟรมก็ไม่พูอะไรได้แต่พยักหน้ารับแล้วรีบเดินออกไปทันที
                 ปัง!
                 เสียงประตูปิดลงแล้วแต่ผมก็ยังยืนอยู่ที่เดิม
                 ความรู้สึกเมื่อกี้มันอะไรกัน แค่ผมเห็นหน้าเฟรมในระยะใกล้แค่นั้น ทั้งที่กับผู้หญิงคนอื่นมากกว่านี้ด้วยซ้ำไป
                 ตึก ตึก ตึก
                 ทำไมหัวใจของผมตอนนี้มันต้องเต้นแรงด้วย!
                 
                 End Playlist'part









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×