ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TOPBOM] : The Novel

    ลำดับตอนที่ #9 : The Novel [9/...]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 83
      0
      27 เม.ย. 58




     

    [Fic] : The Novel [9/...]

     

    Paring : T.O.P - BIGBANG x Park Bom - 2NE1

     

    Genre : AU

     

    A/N : Fiction is fiction.

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              นี่เป็นเดทที่แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่บมเคยเดทมา

     

     

              ชเวซึงฮยอนโทรมาเมื่อคืนและนัดว่าวันเสาร์นี้เขาว่าง อยากชวนเธอออกมาข้างนอกด้วยกัน ปาร์คบมไม่ได้ปฎิเสธแม้ว่าจะขมวดคิ้วตอนที่ได้ยินบอกจุดที่ให้ขึ้นรถไฟใต้ดินสายสีส้มแล้วมาเจอกันที่สถานีอันกุก ทางออกที่ 2

     

     

              วันนี้เธอเลือกใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มกับกางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบ เพราะรู้ดีว่าย่านที่อีกฝ่ายนัดเจอกัน เป็นย่านที่จะเข้าไปหมู่บ้านบุกชอน แม้จะอยู่โซลมาตลอดชีวิต แต่บมก็ไม่ได้ไปย่านนั้นหลายปีแล้วตั้งแต่เรียนจบมัธยม

     

     

              น่าแปลกใจจริงๆ ที่ซึงฮยอนนัดให้มาเจอแถวนี้

     

     

              นักเขียนสาวมาถึงก่อนเวลานัด 5 นาที และคิดว่าซึงฮยอนคงยังมาไม่ถึง แต่เมื่อเดินออกมา ชเวซึงฮยอนกลับยืนรออยู่แล้ว และมีแก้วอเมริกาโน่เย็น 2 แก้วอยู่ในมือด้วย พอเห็นบมเดินเข้าไปใกล้ คนที่ยืยรออยู่แล้วก็ส่งยิ้มกว้าง

     

     

              ตาคมเป็นประกายระยิบระยับจนบมหน้าร้อน

     

     

              “มาถึงนานหรือยังคะ” บมถามเสียงใส แต่ยังแอบบ่นเล็กๆ “คุณชอบมาก่อนเวลาเรื่อยเลย ฉันเลยดูเหมือนมาสาย”

     

              “เพิ่งมาถึงเอง ไปซื้อกาแฟมาให้ด้วยครับ”

     

              “ขอบคุณค่ะ”

     

     

              มือบางรับแก้วกาแฟมาจากซึงฮยอน ก่อนจะเดินจิบไปเรื่อยๆ ตากลมโตของบมมองกองหมอนสีสดใสที่คุณลุงคนหนึ่งวางขายอยู่ริมทางเดิน คนที่เดินมาด้วยกันจึงถามเสียงเบา

     

     

              “อยากได้เหรอครับ”

     

              “เปล่าค่ะ เห็นสีมันสดใสดี”

     

     

              บมตอบพร้อมรอยยิ้ม ทำให้ซึงฮยอนยิ้มตามไปด้วย มือแข็งแรงเอื้อมมากุมมือขวาของปาร์คบมไว้อย่างลังเล แต่เมื่อเห็นนักเขียนสาวไม่ว่าอะไร ซึงฮยอนจึงกุมมือบางไว้อย่างมั่นคงระหว่างที่เดินไปข้างหน้าด้วยกัน

     

     

              “เมื่อคืนนอนหลับสนิทไหมครับ”

     

              “ก็ดีนี่คะ ทำไมเหรอ นอนไม่หลับเหรอคะ” บมทำตาโตอย่างตกใจ แต่เมื่อเห็นซึงฮยอนยังยิ้มอยู่ ตากลมก็หรี่ลงอย่างเจ้าเล่ห์ “ตายจริง นอนไม่หลับเพราะคุยกับฉันเหรอ เหมือนเด็กมัธยมเพิ่งปิ๊งสาวเลยนะคะเนี่ย”

     

              “มั่วแล้ว ผมนอนหลับสนิทดีนะครับ”

     

              “งั้นแสดงว่าไม่ตื่นเต้นสินะที่ได้คุยกับฉันก่อนนอน”

     

              “ก็ตื่นเต้นนิดหน่อยนะ”

     

     

              ปาร์คบมหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นรอยยิ้มเขินๆ ของชเวซึงฮยอน นักเขียนสาวคล้องแขนตัวเองไว้กับแขนอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนซึงฮยอนจะตกใจไม่น้อยกับท่าทางสบายๆ ของเธอ บมเลยเอียงคอถามพร้อมกับแกล้งทำหน้าสงสัย

     

     

              “เป็นแฟนกันแล้ว เดินควงแขนกันไม่ได้เหรอคะ”

     

     

              ชเวซึงฮยอนไม่ตอบแต่ควงแขนเพรียวของแฟนสาวหมาดๆ ไว้แน่นขึ้น บมหัวเราะเบาๆ แล้วเดินต่อโดยไม่พูดอะไร การที่เธอเป็นอายุมากกว่าซึงฮยอนหลายปี ทำให้ไม่จำเป็นต้องเขินอายเหมือนสาวน้อย แต่สามารถทำตัวสนิทสนมกับคนที่เธอตัดสินใจจะคบหาได้อย่างสะดวกใจ

     

     

              และดูเหมือนซึงฮยอนเองก็ชอบแบบนั้น เพราะบรรณาธิการหนุ่มของปาร์คบมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปตลอดทางเดินเข้าหมู่บ้านบุกชอน

     

     

              กว่าจะเดินถึงจุดชมวิวที่ 1 ที่มองเห็นพระราชวังชางด๊อก บมก็รู้สึกเหนื่อยและมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมาตามไรผม แต่รอยยิ้มกลับยังประดับอยู่บนริมฝีปากอิ่ม เพราะเธอเริ่มสนุกกับการสังเกตสิ่งรอบตัวว่าแตกต่างไปจากตอนที่เธอเคยมาเมื่อหลายปีก่อน

     

     

              “ตรงนั้นน่ะค่ะ” บมพูดพลางหอบเบาๆ และชี้ไปที่ร้านตรงใกล้ๆ จุดชมวิว “เมื่อก่อนเคยมีร้านขายกาแฟ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นร้านขายของที่ระลึกแล้ว เสียดายจัง ร้านนั้นเค้กอร่อยมากๆ”

     

              “ไว้เดี๋ยวผมค่อยพาไปร้านอื่นที่เค้กอร่อยเหมือนกัน ดีไหมครับ” ซึงฮยอนพูดเหมือนจะล้อเลียนทำให้นักเขียนสาวหน้าหงิก

     

              “ไม่เอาล่ะค่ะ ไม่เห็นอยากกินเลย”

     

     

              ชเวซึงฮยอนหัวเราะเมื่อเห็นบมทำหน้างอ แต่สุดท้ายคุณนักเขียนก็ยิ้มร่าเริงเมื่อชวนมาถ่ายรูปที่พระราชวังชางด๊อกเป็นฉากหลัง ซึงฮยอนรู้สึกสบายใจ เพราะบมดูสบายๆ ไม่ได้มีท่าทีกังวลหรือไว้ตัว ทำให้เขาค่อนข้างมั่นใจในความสัมพันธ์ของตัวเองกับนักเขียนสาว

     

     

              อย่างน้อยก็เริ่มต้นได้สวยทีเดียว

     

     

              ทั้งคู่ไม่ได้เสียเวลาไปรายทางนัก นอกจากบางจุดที่มีภาพเขียนบทกำแพงที่น่ารักจนต้องหยุดถ่ายรูปด้วยกัน ซึงฮยอนชมบมในใจไม่ได้ที่ไม่บ่นเลยแม้แต่คำเดียวว่าเหนื่อย ทั้งที่ระยะทางที่เดินมาเป็นทางเดินขึ้นเนิน และค่อนข้างไกล

     

     

              มือเรียวของนักเขียนสาวที่กุมเอาไว้ตั้งแต่เดินขึ้นเนินเขาละจากมือแข็งแรงไป ปาร์คบมวิ่งขึ้นเนินเขาข้างหน้า และหันกลับมาหาซึงฮยอนที่กำลังเดินตามมา

     

              “นี่ค่ะ ฉันเห็นคุณยายถือดอกโมรันตรงนี้เลย”

     

     

              บมเล่าเมื่อซึงฮยอนเดินมาใกล้ มือเรียวชี้จุดไปที่บ้านหลังซ้ายมือ ตรงจุดชมวิวที่ 6 ที่บริเวณถนนกาฮวาดง ตากลมสวยเป็นประกายสดใส และรอยยิ้มนั้นเหมือนเด็กที่กำลังจะอวดของเล่นกับเพื่อน

     

     

              “ตรงนี้เหรอครับ”

     

              “ค่ะ ตรงนี้เลย” ปาร์คบมพูดอย่างตื่นเต้น “มันดูลึกลับไหมคะ เพราะถ้ามองไปจากตรงนี้ รอบๆ ก็เป็นบ้านแบบโบราณ แต่กลับเห็นตึกสมัยใหม่อยู่ไกลๆ น่ะค่ะ”

     

              “ครับ”

     

              “ทำไมคะ” ตากลมมองคนข้างตัวอย่างเอาเรื่อง “ไม่ตื่นเต้นเหรอครับ”

     

              “ตื่นเต้นครับ ที่ได้เห็นที่มาของนิยายที่ทำให้เราได้เจอกัน ถ้าตอนนั้นคุณไม่มาที่นี่ เราอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอกันเลยก็ได้นะ”

     

     

              บมรู้สึกแก้มทั้งสองข้างร้อนผ่าวเพราะคำพูดและสายตาของซึงฮยอนที่มองมา ก็จริงอย่างที่บรรณาธิการหนุ่มว่า ถ้าตอนนั้นเธอไม่เดินเล่นเพลินจนมาถึงที่นี่ เธออาจจะไม่มีแรงบันดาลใจเขียนหนังสือเรื่อง โมรัน และอาจจะไม่มีโอกาสได้รู้จักกับคนตรงหน้า

     

     

              ทุกสิ่งทุกอย่างที่คนเราตัดสินใจทำลงไป มักส่งผลต่ออนาคตอย่างคาดไม่ถึงเสมอ

     

     

              กลุ่มเด็กนักเรียนมัธยมกลุ่มเล็กๆ เดินมาแถวๆ ที่ทั้งคู่ยืนอยู่ สาวๆ ถ่ายรูปกับทิวทัศน์ด้านหลัง  โชคดีที่วันนี้ตัดสินใจหยิบขาตั้งกล้องติดมาด้วย เมื่อจัดตำแหน่งกล้องเรียบร้อย ซึงฮยอนจึงโอบเอวบางของคนรักและถ่ายรูปคู่กัน

     

     

              ตาคมจ้องไปที่ใบหน้าขาวนวลที่เริ่มมีเลือดฝาดจางๆ ตรงข้างแก้ม ก่อนจะพูดเบาๆ เพราะหมู่บ้านบุกชอน เป็นเขตที่ยังมีคนอาศัยอยู่จริงๆ จึงต้องระมัดระวังเรื่องการใช้เสียง

     

     

              “เดี๋ยวผมจะอัดรูปไว้ให้นะครับ จะได้ไว้เป็นที่ระลึกว่าว่าที่นี่เป็นที่สร้างแรงบันดาลใจของคุณ ในการเขียนหนังสือที่คุณรักมากๆ แล้วก็ที่สำคัญ คุณมาที่นี่กับผมด้วย”

     

              “เรื่องหนังสือน่ะใช่ แต่เรื่องมาด้วยกันนี่ไม่สำคัญมั้งคะ” บมว่าพลางยิ้มกว้าง แต่ซึงฮยอนกลับหัวเราะ

     

              “ไม่สำคัญได้ยังไงครับ มาเดทอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่ตกลงคบกันก็ต้องทำสำคัญสิ”

     

     

              เสียงของซึงฮยอนไม่ดังนัก แต่เพราะถนนแคบและกลุ่มนักเรียนมัธยมยืนอยู่ไม่ไกล สาวๆ จึงหัวเราะคิกคัก และมองมาที่คู่รักหมาดๆ ด้วยสายตาอิจฉา บมแอบสังเกตเห็นเด็กคนหนึ่งมองซึงฮยอนของเธอแล้วหน้าแดงด้วย

     

     

              นักเขียนสาวจึงเดินไปคล้องแขนซึงฮยอนอย่างแนบเนียน และเป็นธรรมชาติ แต่ดูเหมือนคุณบรรณาธิการจะรู้ทัน เพราะซึงฮยอนหัวเราะเบาๆ ตอนพับขาตั้งกล้อง และกุมมือเธอเดินต่อไปโดยทิ้งกลุ่มเด็กมัธยมไว้ข้างหลัง

     

     

              บมได้แต่อมยิ้ม และให้คะแนนแฟนหนุ่มเพิ่ม ในฐานที่รู้ใจกันโดยไม่ต้องให้เธอทำท่าหึงหวง

     

     

              คู่รักไม่ได้ใช้เวลาระหว่างทางเดินไปยังจุดชมวิวจุดสุดท้ายของหมู่บ้านบุกชอนนานนัก เพราะไม่ได้หยุดถ่ายรูปที่จุดชมวิวจุดที่ 7 แต่เดินเลยไปยังจุดที่ 8 ที่เรียกว่า บันไดหินซัมชองดง ซึงฮยอนบอกให้บมยืนนิ่งๆ และตัวเองวิ่งไปถ่ายรูปจากด้านล่าง เป็นมุมเงยขึ้นมา

     

     

              หลังจากได้รูปที่พอใจ นักเขียนสาวก็บอกให้คนรักมาถ่ายด้วยกัน ซึงฮยอนเลยต้องตั้งกล้องใหม่และรีบวิ่งขึ้นไปยืนข้างๆ ปาร์คบม ลมอุ่นของฤดูใบไม้ผลิพัดผ่านมา ตอนที่ได้ยินเสียงชัตเตอร์ทำงานพอดี ร่างสูงกำลังจะเดินลงไปเก็บกล้อง แต่มือบางคว้าแขนไว้ก่อน

     

     

              รอยยิ้มหวานหยด แต่ดูเจ้าเล่ห์เหมือนวันที่เจอกันครั้งแรกแล้วบมหลอกว่าเป็นปาร์คโกอึนประดับอยู่บนริมฝีปากอิ่ม

     

     

              “จะเดินลงไปเฉยๆ ได้ยังไงคะ มาเป่ายิงฉุบกัน ใครได้ลงไปก่อน ชนะ”

     

     

              ซึงฮยอนแทบจะหลุดหัวเราะออกมา เพราะรอยยิ้มแบบเด็กกวนๆ ของบม แต่สุดท้ายก็ต้องยอมตามใจคุณนักเขียนที่รัก เพราะตากลมๆ นั้นเป็นประกายสดใสเหมือนเด็กน้อยที่กำลังชอบใจนักหนา และสีหน้าของคนรักก็ยิ่งสดใสมากกว่าเดิมอีก เมื่อชนะการเป่ายิงฉุบถึง 3 ครั้งรวด

     

     

              “ฉันชนะแน่”

     

     

    ปาร์คบมว่าเสียงใส จนซึงฮยอนอยากจะเลิกเล่นและเดินไปดึงคนพูดมากอดไว้แน่นๆ แต่นักเขียนสาวกลับส่งสัญญาณให้เริ่มต้นเกมต่อไป

     

     

              “คราวนี้ผมไม่อ่อนให้แล้วนะ”

     

     

              ซึงฮยอนพูดและทำหน้าจริงจังจนบมหัวเราะคิกคัก เพราะคิดว่ายังไงตัวเองก็เป็นต่อ แต่เมื่ออีกฝ่ายชนะไป 5 ครั้งรวด และเป็นฝ่ายลงไปอยู่ใกล้บันไดขั้นสุดท้ายมากกว่า นักเขียนสาวก็เริ่มทำหน้ายุ่ง

     

     

              “ทำไมฉันแพ้อยู่เรื่อยเลย” บมทำหน้างอและเริ่มงอแง “คุณออกช้าหรือเปล่า ฉันแพ้ติดๆ กันเลย”

     

              “เปล่านะ มาเร็วครับ เหลืออีกไม่กี่ตาแล้ว”

     

     

              บรรณาธิการหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล และยอมอ่อนข้อให้โดยการออกช้ากว่าหน่อย เพื่อให้ตัวเองแพ้ สีหน้าสดใสของปาร์คบมทำให้เขายิ้มออก โดยเฉพาะเมื่อชนะจนได้มายืนที่บันไดขั้นเดียวกัน บมยิ้มกว้างและทำหน้าเหมือนเด็กเกเรก่อนจะพูดเบาๆ

     

     

              “รอบนี้ฉันชนะแน่ ตามฉันไม่ทันแน่ๆ”

     

     

              ชเวซึงฮยอนหัวเราะและโอบเอวบางเข้ามาใกล้ ... ใกล้เสียจนบมเห็นขนตายาวเป็นแพที่ล้อมกรอบตาของซึงฮยอน แวววิบวับในตาคมเป็นประกายกล้าเสียจนบมรู้สึกทำตัวไม่ถูก และเหมือนลมหายใจขาดห้วงไปจริงๆ ตอนที่ริมฝีปากอิ่มถูกสัมผัสด้วยริมฝีปากของอีกฝ่าย

     

     

              แผ่วเบาเหมือนผีเสื้อจุมพิตดอกไม้

     

     

              บมรู้สึกเหมือนเท้าทั้งสองข้างไม่ติดพื้น ตอนที่อ้อมแขนของซึงฮยอนคลายออกไป และมือแข็งแรงก็เอื้อมมากุมมือเธอไว้แทน ซึงฮยอนยิ้มก่อนจะพูดเบาๆ เหมือนเคย

     

     

              “เดินลงไปด้วยกันนะครับ เราจะได้ชนะทั้งคู่ไง”

     

     

              นักเขียนสาวพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย และปล่อยให้ซึงฮยอนกุมมือเดินลงไปหยิบขาตั้งกล้อง ลมอุ่นๆ พัดผ่านมาอีกหน พร้อมกลิ่นหอมของดอกไม้บางชนิด ทำให้บรรยากาศวันนี้สดชื่น และจะเป็นอีกหนึ่งวันในความทรงจำของปาร์คบม

     

     

              และที่พิเศษที่สุดคือ วันนี้ไม่ใช่หมู่บ้านบุกชอนกับคุณยายปริศนาที่ถือดอกโมรัน แต่เป็นวันที่เธอออกมาเดินเล่นกับคนพิเศษในหัวใจอย่างชเวซึงฮยอน

     

     

              นี่เป็นเดทที่น่าประทับใจที่สุดสำหรับปาร์คบมจริงๆ

     

     

     

     

     

     

    TBC

     

     

     

     

     

     

    Talk ... มาแล้วค่ะ มาอย่างรวดเร็ว ด้วยความมุ่งมั่น หวังว่าจะเพลิดเพลินกันนะคะ ฝากเพจด้วยค่ะ Ployniez’s fiction ไปพูดคุยกันได้นะคะ ขอบคุณค่า ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×