ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TOPBOM] : The Novel

    ลำดับตอนที่ #8 : The Novel [8/...]

    • อัปเดตล่าสุด 26 เม.ย. 58



     



    [Fic] : The Novel [8/...]

     

    Paring : T.O.P - BIGBANG x Park Bom - 2NE1

     

    Genre : AU

     

    A/N : Fiction is fiction.

     

     

     

     

     

     

              “แล้วเธอตอบไปว่ายังไงล่ะบมมี่”

     

             

              ซานดาร่าถามเสียงใสเมื่อเพื่อนสนิทโทรมาเล่าเรื่องที่ออกไปกินข้าวกลางวันกับหนุ่มรุ่นน้องให้ฟัง มือบางของเธอจัดเสื้อผ้าในร้านไปด้วยระหว่างที่กำลังคุยกับปาร์คบม เจ้าของร้านสาววิ่งไปล๊อคประตูหน้าเพราะได้เวลาจะปิดร้านแล้ว

     

     

              “บมมี่ ยังฟังอยู่ไหม” ซานดาร่าถามเมื่ออีกฝ่ายเงียบไป “นี่ ตกลงเธอตอบไปว่าไง”

     

              “ไม่ว่าไง ฉันไม่ได้ตอบ”

     

              “อ้าว! แล้วกัน”

     

     

              ซานดาร่าร้องเสียงหลงเมื่อได้ยินคำตอบของปาร์คบม ก่อนจะถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดใส่คนปลายสายที่ฟังอยู่

     

     

              “เธอไม่ตอบอะไรแบบนี้ เขาก็คิดว่าเธอไม่โอเคน่ะสิ”

     

              “ก็ไม่เห็นว่าเขาจะว่ายังไงนี่นา”

     

              “โธ่เอ้ย! บมมี่ เธอไม่ยอมเปิดโอกาสให้ตัวเองแบบนี้ แล้วจะยังไงต่อ เกิดคุณบรรณาธิการของเธอถอดใจขึ้นมา ไม่ต้องขึ้นคานเหมือนฉันเหรอ”

     

              “ขึ้นคานอะไรกัน เธอก็มีหนุ่มๆ มาจีบตั้งเยอะ” บมมี่ทำเสียงงอแงใส่อีกฝ่าย “มีแต่เธอแหละที่ไม่ยอมมองหนุ่มๆ คนไหน”

     

              “มันไม่เหมือนกันหรอกบมมี่ ฉันเป็นคนมีภาระเยอะ มีเรื่องให้ต้องกังวลมากอยู่แล้ว”

     

              “ไม่จริงหรอกน่า”

     

              “นี่ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย” ซานดาร่ารีบขัดเสียงใส “ตกลงว่ายังไง เธอไม่ตอบเขา แล้วเขาก็ไม่ถามต่อเลยเหรอ”

     

              “อือ ฉันแค่บอกว่าจะกลับบ้านเลย เขาก็บอกว่าจะเดินไปส่ง”

     

              “แล้วยังไงต่อ”

     

              “ก็ไม่ยังไงต่อ เขาก็เดินไปส่งที่บ้าน”

     

     

              ถึงไม่เห็นหน้าคนพูด แต่ซานดาร่าก็รู้ดีว่าน้ำเสียงใสๆ ของปาร์มบมนั้นบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังอารมณ์ดี เธอไม่เคยมีโอกาสเจอคนที่มาจีบปาร์คบมสักครั้ง แต่เท่าที่ฟังดูก็เป็นคนน่ารัก และดูจะจริงใจกับปาร์คบม

     

     

              ไม่ใช่ผู้ชายแบบที่เอาแต่ตามตี๊อไม่เลิกราจนทำให้บมลำบากใจ

     

     

              “เอ ... แล้วแบบนี้ เมื่อไหร่ฉันจะได้รู้จักเขาบ้างน้า”

     

              “ไม่รู้สิ” หางเสียงของปาร์คบมสะบัดเหมือนขัดใจ “วันเปิดตัวหนังสือเขาก็ไม่มาหรอก เห็นว่ามีอบรมอะไรก็ไม่รู้”

     

              “ว้า! เสียดายจัง นึกว่าจะได้เจอกัน อยากจะเห็นหน้าบรรณาธิการของเธอจริงๆ เลย”

     

              “อะไรล่ะ ไม่ใช่ของฉันสักหน่อย”

     

     

    บมงอแงเรื่องที่ซานดาร่าแกล้งแซวอยู่นานหลายนาทีก่อนจะวางสาย กว่าเจ้าของร้านเสื้อผ้าจะจัดการเก็บร้านจนเสร็จและทำบัญชีเรียบร้อยก็เกือบจะ 2 ทุ่มแล้ว ซานดาร่าถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆ และหยิบกระเป๋าสะพายมาเตรียมออกจากร้าน แต่ก็สะดุ้งจนสุดตัวเมื่อหันไปเจอชายหนุ่มร่างสูงยืนส่งยิ้มมาให้อยู่ที่หน้าประตูร้าน

     

     

              “พี่ฮงจุนมาเมื่อไหร่คะ ตกใจหมดเลย”

     

     

              ซานดาร่าถามเสียงเบาตอนที่กำลังล๊อคประตูหน้าร้าน อีกฝ่ายไม่ตอบแต่ยื่นแก้วเครื่องดื่มอุ่นๆ มาให้ ไอร้อนจากแก้วทำให้ซานดาร่าเดาได้ว่าลูกพี่ลูกน้องของปาร์คบมคงจะมาถึงไม่นานนัก และก็จริงดังที่คาดไว้ เพราะปาร์คฮงจุนตอบเบาๆ อย่างเคย

     

     

              “เพิ่งมาถึงตอนดาร่าเก็บร้านเสร็จพอดี”

     

              “เหรอคะ”

     

     

    ซานดาร่าตอบเบาๆ พลางยกเครื่องดื่มขึ้นจิบ รสขมอมหวานของโกโก้ร้อนในมือทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นหลังจากวันนี้ยุ่งมาทั้งวัน ตากลมของหญิงสาวแอบเหลือบมองพี่ฮงจุนที่เดินข้างกันมา ความรู้สึกที่เธอมีให้พี่ชายของบมไม่เคยเปลี่ยนตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน

     

     

              พี่ชายใจดี ที่คอยดูแลเธอเหมือนกับเป็นน้องสาวอีกคน

     

     

              “ดาร่าจะไปงานเปิดตัวหนังสือของบมมี่หรือเปล่า”

     

     

              เสียงทุ้มๆ ของอีกฝ่ายทำให้ซานดาร่าหลุดจากความคิดของตัวเอง เธอพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนเหมือนทุกที ทำให้ใบหน้าของคนฟังดูสดใสขึ้น

     

     

              “งั้นดีเลย เดี๋ยวพี่ไปรับที่บ้านนะ”

     

              “ไม่ต้องหรอกค่ะ นั่งรถไฟใต้ดินไปแป๊บเดียวเอง”

     

              “จะนั่งรถไปเองทำไม” ปาร์คฮงจุนขัดเสียงเบา “ยังไงพี่ก็ต้องไปรับบมอยู่แล้ว บ้านดาร่าก็ใกล้กันด้วย ไปกับพี่ทีเดียวเลยก็ได้”

     

              “ก็เกรงใจนี่คะ ไม่รู้ว่าพี่ต้องไปรับใครบ้าง”

     

     

              ซานดาร่าตอบเลี่ยงๆ และพยายามรักษาสีหน้าให้เป็นปกติ เธอรู้อยู่แล้วว่ายังไงเสียปาร์คฮงจุนก็จะต้องไปรับบมมี่ แต่ที่ไม่อยากไปด้วยกันก็เพราะไม่รู้ว่าแฟนสาวของปาร์คฮงจุนจะไปด้วยหรือเปล่า

     

     

    เธอไม่อยากลำบากใจ

     

     

              “ก็รับแค่บมมี่ แล้วก็คิดว่าจะแวะไปรับดาร่าด้วย เราไปกันแค่ 3 คน ไปด้วยกันนะ”

     

              “ก็ได้ค่ะ”

     

     

              ปาร์คฮงจุนยิ้มอย่างพอใจเมื่อเพื่อนสนิทของน้องสาวตกลงตามที่เสนอไป ซานดาร่าเดินจิบโกโก้ร้อนไปเรื่อยๆ และกลับบ้านโดยใช้รถไฟใต้ดิน พี่ชายของปาร์คบมบอกว่าจะกลับด้วย จะได้คุยกันระหว่างทางกลับบ้าน เพราะไม่ได้เจอกันนานแล้ว

     

     

              ลมฤดูใบไม้ผลิพัดผ่านไปอย่างร่าเริง เมื่อทั้งคู่เดินลงไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน

     

     

              ปาร์คบมพยายามทำใจให้ไม่ตื่นเต้นมากจนเกินไป วันนี้เธอตื่นไปแต่งหน้าทำผมที่ร้านตั้งแต่เช้า แต่กลับไม่ยอมหยิบโทรศัพท์มากดดู เพราะปกติแล้วพี่ฮงจุนมักจะให้เลขาของเขาส่งรายละเอียดเรื่องที่ว่ามีข่าวการเปิดตัวหนังสือของเธอในสื่อไหนบ้าง

     

     

              บมไม่เคยกังวลขนาดนี้มาก่อนเลย ทั้งที่ไม่ใช่หนังสือเล่มแรกด้วยซ้ำ

     

     

             โมรัน เป็นหนังสือที่เธอใช้เวลาอยู่กับมันนานที่สุด หลายคนอาจจะคิดว่ายิ่งใช้เวลาเขียนนานยิ่งเห็นข้อบกพร่องและสามารถแก้ไขได้ แต่สำหรับเธอแล้ว ยิ่งแก้ไขข้อบกพร่องมากเท่าไหร่ บมก็ยิ่งไม่มั่นใจมากขึ้นเท่านั้น

     

     

              นักเขียนสาวใจชื้นขึ้นมาเป็นกองเมื่อมองเห็นแถวของคนที่มายืนรอรับหนังสือและลายเซ็นจากมือเธอ พี่ฮงจุนกำหนดเวลาไว้เป็นช่วงบ่ายโมงตรง จะมีการสัมภาษณ์ประมาณ 15 นาที และเริ่มงานแจกลายเซ็นจนกระทั่งถึงบ่ายสองโมงครึ่ง

     

     

              ฮงจุนให้ทีมที่ดูแลสถานที่พาบมเข้าไปทางด้านหลังร้าน ส่วนตัวเองกับซานดาร่าจะแยกไปนั่งรอที่หน้าเวที นักเขียนสาวรู้สึกว่ารอยยิ้มที่ตัวเองส่งให้ทีมงานนั้นฝืดเฝื่อนเต็มที แม้ว่าจะพยายามคิดในแง่ดีมากเท่าไหร่ แต่เธอก็ยังรู้สึกกังวล

     

     

              ถึงจะประสบความสำเร็จมาแล้วหลายครั้ง แต่ประสบการณ์ที่เคยล้มเหลวทำให้เธอไม่กล้ามั่นใจ

     

     

              โทรศัพท์มือถือที่ใส่ไว้ในกระเป๋าถือใบเล็กสั่นเตือนว่ามือข้อความเข้า ปาร์คบมรีบหยิบขึ้นมาเพื่อเปิดระบบปิดการแจ้งเตือน แต่ตัวหนังสือเล็กๆ ที่หน้าจอทำให้ก้อนเนื้อในอกเต้นโครมครามอย่างคุมไม่ได้

     

     

              วันนี้มีนักข่าวไปทำข่าวเยอะเลย สู้ๆ นะครับ ผมติดอบรม ไปไม่ได้ ขอโทษนะครับ

     

     

              ปาร์คบมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะกดพิมพ์ข้อความตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว และเก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋า จังหวะเดียวกับที่ทีมงานมาตามไปขึ้นเวทีเพื่อสัมภาษณ์พอดี

     

     

              งานวันนี้มีนักข่าวมากันเยอะกว่าที่บมคิดไว้ ด้วยเส้นสายของพี่ฮงุจนและกระแสจากหนังสือเล่มที่แล้วของเธอด้วย บมส่งยิ้มสดใสให้พี่ฮงจุนและดาร่าที่นั่งโบกมือให้จากแถวหน้าของคนที่มาร่วมงานแถลงข่าวในวันนี้

     

     

              พิธีกรสาวในวันนี้เป็นพิธีกรคนเดิมที่เคยทำงานกับบมมาก่อน ทำให้ความประหม่าของเธอลดลงไปกว่าครึ่ง นักเขียนสาวนั่งลงข้างๆ พิธีกรและเริ่มต้นให้สัมภาษณ์อย่างสดใส

     

     

              “ได้ยินมาว่าคุณปาร์คบมเขียนหนังสือเรื่องโมรันมา 8 ปีเต็มเลยเหรอคะ”

     

              “ใช่แล้วค่ะ เขียนไปเรื่อยๆ แก้ไปบ้าง เขียนเพิ่มไปบ้างน่ะค่ะ”

     

              “ใช้เวลานานขนาดนี้ แสดงว่าต้องเป็นผลงานที่เยี่ยมยอดมากๆ แน่นอนเลยนะคะ”

     

              “เรื่องนี้คงต้องให้ผู้อ่านเป็นคนตัดสินนะคะ” ปาร์คบมพูดอย่างเขินๆ และส่งยิ้มให้แฟนหนังสือหลายคนที่เธอคุ้นหน้าคุ้นตา “แต่ฉันหวังว่าผู้อ่านจะสนุกสนานไปกับหนังสือเล่มนี้กันนะคะ”

     

              “แน่นอนอยู่แล้วค่ะ” พิธีกรสาวตอบรับพร้อมรอยยิ้ม “เรามาพูดถึงเนื้อหาของ โมรัน กันหน่อยดีกว่านะคะ เรื่องนี้เป็นแบบสืบสวนสอบสวนเรื่องแรกของคุณปาร์คบม ไม่ทราบว่าได้แรงบันดาลใจมาจากอะไรคะ”

     

              “อืม ... ตอนที่ฉันเรียนมัธยมน่ะค่ะ ฉันชอบไปเดินเล่นคนเดียวบ่อยๆ จนวันหนึ่งไปเดินเล่นที่หมู่บ้านบุกชอนแล้วเจอคุณยายสวมชุดฮันบก ถือดอกโมรันมาช่อใหญ่เลยค่ะ ที่จริงมันดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษนะคะ แต่ฉันรู้สึกประทับใจดอกไม้ชนิดนี้มากๆ จนอยากจะเขียนอะไรบางอย่าง และในที่สุดมันก็กลายมาเป็นนวนิยายเรื่องนี้ค่ะ”

     

              “อา ... ได้ยินแบบนี้แล้วตื่นเต้นเลยนะคะ”

     

     

              ช่วงสัมภาษณ์ผ่านพ้นไปอย่างเรียบร้อยจนกระทั่งทีมงานเริ่มจัดแถวให้แฟนๆ ที่มารอรับหนังสือพร้อมลายเซ็น ปาร์คบมยิ้มสดใสและเซ็นหนังสือให้แฟนๆ อย่างไม่เคาะเขิน จนกระทั่งถึงคิวของแฟนหนังสือคนหนึ่งที่สวมชุดพนักงานส่งของ ชายหนุ่มยื่นกุหลาบสีขาวช่อโตส่งกลิ่นหอมรวยรินมาให้

     

     

              “เอ่อ ... ขอบคุณนะคะ” ปาร์คบมยิ้มสดใสและแอบเหลือบมองการ์ดเล็กๆ ที่ติดมากับช่อดอกไม้ ก่อนจะหยิบหนังสือมาเตรียมเซ็นให้ “ให้เซ็นชื่อคุณอะไรคะ”

     

              “คนที่ฝากมา ขอให้เซ็นชื่อ ชเวซึงฮยอนครับ”

     

              “อ่า ได้ค่ะ”

     

     

              ปาร์คบมตอบรับอย่างสดใสก่อนจะเซ็นชื่อลงไปที่หน้าแรกของหนังสือ และเขียนข้อความสั้นๆ ว่า ขอบคุณ พร้อมกับวาดหัวใจดวงเล็กๆ ไปที่ข้างลายเซ็นตัวเองด้วย มือบางเลื่อนช่อดอกไม้ช่อใหญ่ไปวางไว้ใกล้ตัวจะได้ไม่เกะกะบนโต๊ะที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก

     

     

              นักเขียนสาวยิ้มสดใสให้กับแฟนหนังสือคนต่อไป เด็กหนุ่มมัธยมดูเขินอายตอนที่บอกชื่อให้บมเซ็นให้ และยิ่งหน้าแดงกว่าเก่าเมื่อเธอบอกว่าให้ตั้งใจเรียน มือขาวเรียวยื่นหนังสือส่งให้ เด็กหนุ่มรับไป แต่เอ่ยถามเสียงค่อยๆ

     

     

              “ดอกไม้จากแฟนหนังสือเหรอครับนูน่า สวยจัง”

     

              “อืม ... จาก บ.ก. น่ะค่ะ”

     

     

              บมพูดพร้อมรอยยิ้มสดใส ทำให้เด็กหนุ่มยิ้มอายๆ ก่อนจะเดินออกไปและให้แฟนหนังสือที่ต่อแถวอยู่ข้างหลังเข้ามาแทน นักเขียนสาวยิ้มต้อนรับทุกคนอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเหลือบมองออกไปด้านนอกร้านเมื่อจำนวนคนที่รออยู่ในแถวมีไม่มากแล้ว

     

     

              ร่างสูงของชายหนุ่มที่บมจำได้ขึ้นใจยืนเด่นอยู่ด้านนอกร้าน ชเวซึงฮยอนส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้และถือไอแพดที่หน้ามีข้อความสั้นๆ ว่า

     

     

              ผมรอคำตอบอยู่นะครับ

     

     

              ปาร์คบมแทบกลั้นยิ้มไม่อยู่เพราะข้อความนั้น เรื่องหนึ่งที่เธอไม่ได้เล่าให้ซานดาร่าฟังก็คือเธอตกลงกับซึงฮยอนว่าจะให้คำตอบเขาในวันนี้ว่าจะลองคบกันดูไหม นักเขียนสาวทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และเซ็นชื่อในหนังสือให้กับคนที่มารอคนสุดท้ายจนเสร็จแล้วก็ลุกเตรียมตัวกลับ

     

     

              ชเวซึงฮยอนที่ยืนรออยู่ด้านนอกโบกไม้โบกมือและเปิดข้อความเดิมขึ้นบนจอไอแพดอีกครั้ง บมประคองดอกไม้ช่อสวยที่อีกฝ่ายส่งมาให้ในอ้อมแขนก่อนจะพยักหน้าให้ซึงฮยอนช้าๆ

     

     

              ตอนนั้นเองที่บมรู้ว่าจะตัวเองกำลังส่งยิ้มให้คนที่ยืนยิ้มกว้างอยู่นอกร้าน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    TBC

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Talk .... มาแล้วค่า เรื่องนี้เหลือไม่กี่ตอนจะจบแล้ว ยังไงก็ฝากติดตาม และฝากเพจ Ployniez’s Fiction ด้วยนะคะ ^^ ขอบคุณค่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×