ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TOPBOM] : The Novel

    ลำดับตอนที่ #1 : The Novel [1/...]

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 56







    [Fic] : The Novel [1/...]

    Paring : T.O.P - BIGBANG x Park Bom - 2NE1

    Genre : AU

    A/N : Fiction is fiction.

     

     

     

     

     

     

     

     

                    ซึงฮยอนยิ้มอ่อนโยนให้พนักงานที่ยกกาแฟวางให้ที่โต๊ะในร้านกาแฟที่นั่งอยู่ วันนี้เขานัดกับนักเขียนเจ้าของต้นฉบับในมือเอาไว้ตอนบ่ายโมงตรง ร่างสูงชะเง้อมองประตูร้านอย่างกระวนกระวาย เพราะนาฬิกาที่ข้อมือบอกว่าเลยเวลาที่นัดกับเจ้าของนามปากกาที่ชื่อ ปาร์คบม มาเกิน 10 นาทีแล้ว

     

                เขาไม่เคยเจอนักเขียนท่านนี้มาก่อน แต่กลับได้รับมอบหมายจากพี่ปาร์คฮงจุน บรรณาธิการบริหารของสำนักพิมพ์นาบิที่เขาทำงานอยู่ให้ถือร่างสัญญาขอซื้อ ลิขสิทธิ์หนังสือมาพบเธอ ซึงฮยอนเปิดอ่านต้นฉบับเรื่อง โมรัน (모란) นวนิยายแนวฆาตกรรมสืบสวนสอบสวนที่เขาอ่านมาแล้วรอบหนึ่งอีกครั้ง เขาไม่แปลกใจนักว่าทำไมพี่ฮงจุนถึงอยากจะได้ลิขสิทธ์นวนิยายเรื่องนี้มาตี พิมพ์ เพราะโครงเรื่องของต้นฉบับในมือชวนให้คนอ่านติดตามจนจบเรื่อง และตอนจบก็หักมุมเสียจนผิดคาด ตอนที่อ่านครั้งแรกซึงฮยอนแทบไม่เชื่อว่าคนเขียนเรื่องแบบนี้จะเป็นผู้หญิง ด้วยซ้ำ ตาคมกวาดมองตัวอักษรในย่อหน้าแรกอย่างสงบ



     

                   หยด เลือดข้นเหนียวสาดกระเซ็นลงบนกลีบดอกไม้บอบบางที่ถูกปลูกไว้เป็นพุ่มริม กำแพง หญิงสาวที่ถูกคมมีดกดลงตรงไหปลาร้ากัดผ้าดิบสีขาวผืนหน้าไว้แน่นด้วยความ เจ็บปวด โลหะเย็นเฉียบแทรกลึกลงในกล้ามเนื้อแต่ดวงตาของผู้ที่มอบความตายให้เธอนั้น กลับนิ่งสนิท รอยยิ้มอ่อนโยนจากมัจจุราชที่ซ่อนตัวในความมืดนั้นกระจ่างชัดในดวงตาของ เธอไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าของรอยยิ้มนั้นจะเป็นคนที่มอบความตายให้ เสียดายนักที่เธอไว้ใจจนพาตัวเองมาถึงลมหายใจสุดท้าย

                   มีดคมกริบที่กดลึกลงในร่างถูกดึงออกช้าๆ พร้อมกับเลือดอุ่นๆ ที่ทะลักออกมาที่ปากแผล สติของเธอเลือนรางเจียนจะดับแต่เหมือนโทษทัณฑ์ที่เธอได้รับจะยังไม่สาแก่ใจ เพชฌฆาต เพราะคมมีดนั้นจ้วงลึกลงมาที่กลางอกของเธอซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเลือดอุ่นๆ สาดอาบดอกโมรันสีแดงสดที่อยู่ใกล้ๆ จนเปรอะเปื้อน....



     

                   “ขอโทษนะคะ”
     

                   เสียงหวานอ่อนโยนเอ่ยทักทำให้ซึงฮยอนต้องละสายตาจากต้นฉบับในมือ หญิงสาวผมยาวสีดำสนิทถึงกลางหลังกำลังยิ้มสดใส ดวงตากลมโตมองมาหาเขา ซึงฮยอนเผลอขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่าตัวเองเคยพบผู้หญิงคนนี้ที่ไหน อีกฝ่ายจึงเอ่ยปากถามมาก่อน

     

                   “คุณชเวซึงฮยอนหรือเปล่าคะ ฉันชื่อ ปาร์คโกอึน ตัวแทนของคุณปาร์คบมที่คุณนัดเอาไว้ค่ะ”

     

                   “อา สวัสดีครับ” ซึงฮยอนรีบลุกขึ้นโค้งทักทายคุณโกอึนอย่างนอบน้อมก่อนจะเดินไปเลื่อนเก้าอี้ ให้หญิงสาว “เชิญนั่งก่อนนะครับ”

     

                   “ขอบคุณค่ะ”

     

                   ตัวแทนของนักเขียนสาวยิ้มหวานแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ที่ชายหนุ่มเลื่อนให้ เรียวขาเนียนขาวผ่องที่โผล่พ้นมินิเดรสสีมิดไนท์บลูของเธอรับแสงแดดจนดู เหมือนจะเรืองแสงได้ ซึงฮยอนพยายามระมัดระวังไม่ให้หญิงสาวตรงหน้าเข้าใจผิดว่าเขาจ้องมองเรือน ร่างของเธอ

     

                   “ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ให้รอ พอดีฉันไม่ค่อยได้มาแถวชองดัมดงเลยหลงไปอีกซอยหนึ่งน่ะค่ะ”

     

                   “ไม่เป็นไรครับ ผมก็เพิ่งมาถึง คุณโกอึนจะดื่มอะไรหน่อยไหมครับ”

     

                   “ขอชามินท์ร้อนสักถ้วยแล้วกันค่ะ”

     

                   “ครับ”

     

                   ซึงฮยอนเรียกพนักงานมาสั่งเครื่องดื่มให้ปาร์คโกอึน เขารออยู่ครู่หนึ่งจนพนักงานยกชามาเสิร์ฟและปล่อยให้โกอึนจิบชาได้สองสามอึก จึงเริ่มต้นพูดธุระที่เตรียมตัวมา

     

                   “คุณโกอึน ทราบเรื่องจากคุณปาร์คบมแล้วใช่ไหมครับ”

     

                   “ใช่ค่ะ ฉันทราบรายละเอียดคร่าวๆ แล้ว” หญิงสาวตอบพร้อมรอยยิ้มและประคองถ้วยชาไว้ในมือ รอยยิ้มของเธออ่อนโยนจนซึงฮยอนประทับใจ “บม น้องสาวของฉันเล่าให้ฟังแล้วว่าสำนักพิมพ์ของคุณสนใจจะขอซื้อต้นฉบับเรื่อง โมรัน ของบมไปพิมพ์”

     

                   “ครับ”

     

                   ซึงฮยอนพยักหน้าพลางนึกในใจ ถ้าปาร์คโกอึนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาบอกว่านักเขียนที่ชื่อ ปาร์คบม เป็นน้องสาวแล้วนักเขียนคนนั้นจะอายุเท่าไหร่ เพราะเท่าที่ดูแล้วปาร์คโกอึนน่าจะอายุไม่เกิน 29 ปีด้วยซ้ำ

     

                   “ฉันในฐานะที่เป็นคนดูแลประสานงานให้บมขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ” ปาร์คโกอึนวางถ้วยชาในมือลง เสียงถ้วยเซรามิกกระทบกับจานรองเบาๆ ดวงตากลมโตนั้นยังคงประกายสดใส “ทำไมสำนักพิมพ์ของคุณถึงอยากได้เรื่องนี้ของบมไปพิมพ์ล่ะคะ”

     

                   “อา เรื่องนี้..”

     

                   ซึงฮยอนนึกย้อนถึงเรื่องในห้องประชุมเมื่อสองเดือนก่อน พี่ฮงจุนส่งต้นฉบับนวนิยายของปาร์คบมให้บรรณาธิการที่รับผิดชอบคัดเลือกต้น ฉบับหนังสือนวนิยายไปอ่าน และหนึ่งในบรรณาธิการทั้งห้าคนที่รับผิดชอบแผนกนวนิยายนั่นคือเขาเอง หลังจากวันนั้นหนึ่งเดือนเต็มพี่ฮงจุนก็เรียกประชุมบรรณาธิการอีกครั้ง ทุกคนก็ลงความเห็นตรงกันว่า ต้นฉบับเล่มนี้สมควรที่จะได้รับการตีพิมพ์เพราะความน่าสนใจของเนื้อเรื่อง

     

                   “คุณซึงฮยอนคะ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”

     

                   เสียงหวานของโกอึนเอ่ยทักขึ้นอีกครั้งช่วยดึงให้ซึงฮยอนหลุดจากภวังค์ความ คิดของตัวเอง เขาพยายามตั้งสติเพื่อกลับเข้าสู่บทสนทนาอีกครั้ง

     

                   “ผมไม่ได้เป็นอะไรครับ ถ้าถามเหตุผลที่สำนักพิมพ์ของเราเลือกนวนิยายเรื่องนี้ของคุณปาร์คบมก็เพราะ โมรันเป็นนิยายที่คนอ่านน่าจะสนใจ แถมตอนนี้ในตลาดหนังสือไม่ค่อยมีนิยายฆาตกรรมเท่าไหร่”

     

                   “อ๋า...เพราะเรื่องการตลาดสินะคะ”

     

                   คำพูดของปาร์คโกอึนมาพร้อมกับรอยยิ้ม แต่ซึงฮยอนกลับรู้สึกเหมือนตัวเองโดนตบหน้าเสียจนชา ดวงตากลมของเธอจ้องมองมาอย่างสุภาพ แต่ซึงฮยอนเห็นประกายในดวงตาคู่นั้น แววตาที่ดูเหมือนความหงุดหงิด ไม่สบอารมณ์

     

                   “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ”
     

                   ซึงฮยอนพยายามตั้งสติ เพราะถ้าเขาชวดต้นฉบับเล่มนี้ไป หมายความว่าสำนักพิมพ์ของเขาอาจจะพลาดหนังสือที่สามารถทำเงินเข้าสำนักพิมพ์ และความหวังที่จะได้เป็นบรรณาธิการหนังสือเล่มแรกเต็มตัวนั้นก็ดับไปด้วย

     

                   “ผมเป็นหนึ่งใน บก. ที่หลายๆ คนที่ได้อ่านต้นฉบับเรื่อง โมรัน เราเห็นว่าภาษาของคุณปาร์คบมดีอยู่แล้ว อาจจะต้องปรับแก้นิดหน่อยเพื่อความสละสลวย แต่ที่ผมชอบต้นฉบับเรื่องนี้มากก็เพราะว่าตัวละครของคุณปาร์คบมเป็นตัว ละครกลม คนอ่านเดาไม่ได้เลยว่าใครคือคนร้ายเพราะทุกคนดูจะมีโอกาสที่จะใช่หรือไม่ใช่ ฆาตกรได้มากพอๆ กัน”

     

                   “จริงเหรอคะ” ปาร์คโกอึนถามกลับอย่างสนใจ ใบหน้างดงามนั้นแต้มด้วยรอยยิ้มน้อยๆ “แล้วความประทับใจอื่นๆ ในเรื่องละคะ”

     

                   “ผมชอบประโยคที่เธอเขียนว่า แม้แต่ดอกไม้ที่ใช้ประดับแจกันของจักรพรรดิก็งอกงามมาจากผืนดินสกปรก คนเราก็เหมือนดอกไม้ต่างมีความหลังที่แปดเปื้อนซุกซ่อนอยู่ใต้ภาพลักษณ์งด งามกันทั้งนั้น”

     

                   ปาร์คโกอึนมีท่าทีประหลาดใจไม่น้อยเลยเมื่อได้ยินเขาพูดประโยคที่อยู่ในต้น ฉบับออกมาโดยไม่ตกหล่น ซึงฮยอนมั่นใจว่าไม่มีทางพูดผิดไปแม้แต่คำเดียว เพราะเขาอ่านต้นฉบับเรื่องโมรันทุกวันจนจำได้ขึ้นใจ หญิงสาวตรงหน้าพยักหน้าช้าๆ พลางหรี่ตาเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

     

                   “คุณซึงฮยอนทำงานเป็น บก. นานแค่ไหนแล้วคะ”

     

                   “อะไรนะครับ”

     

                   “ขอโทษค่ะที่ถามละลาบละล้วง แต่คุณทำงานนานแค่ไหนแล้วคะ”

     

                   ปาร์คโกอึนก้มศีรษะเป็นเชิงขอโทษ แต่ยืนยันที่จะถามคำถามเดิมซ้ำ ซึงฮยอนนับเวลาที่เรียนจบมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันและเอ่ยตอบเบาๆ อย่างไม่มั่นใจ

     

                   “สามปีครับ”

     

                   “เคยเป็น บก. หนังสือเล่มไหนมาก่อนไหมคะ”

     

                   “ยังครับ เคยเป็นแค่ทีม บก. หนังสือแปลของสำนักพิมพ์ แต่ถ้าคุณปาร์คบมตกลงขายเรื่องโมรันให้กับเรา พี่ฮงจุน เอ่อ..บรรณาธิการบริหารของเราน่ะครับ เขาจะให้ผมเป็น บก. หนังสือเล่มนี้”

     

                   “เข้าใจแล้วค่ะ”

     

                   ปาร์คโกอึนพยักหน้าช้าๆ และรินน้ำชาจากกาเติมลงในถ้วย หญิงสาวยกถ้วยชาขึ้นและหลับตาพริ้มเหมือนจะซึมซาบไอหอมเย็นจากชาในถ้วยก่อน จิบเครื่องดื่มอุ่นๆ นั้นอีกครั้ง ความสงบของหญิงสาวตรงหน้าทำให้ซึงฮยอนรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี เขารู้สึกเหมือนหงายไพ่ในมือให้ปาร์คโกอึนดูจนหมด ถ้าหากผู้ประสานงานของปาร์คบมเลือกขายลิขสิทธิ์ต้นฉบับให้สำนักพิมพ์อื่น เขาจะทำอย่างไรดี

     

                   “คุณซึงฮยอนเคยเห็นดอกโมรันของจริงไหมคะ”

     

                   “อะ..อะไรนะครับ”

     

                   “ฉันถามว่าคุณเคยเห็นดอกโมรันของจริงไหมคะ”
     

                   “ไม่ครับ”

     

                   ซึงฮยอนส่ายหน้าช้าๆ แล้วนึกหงุดหงิดตัวเองในใจ เขาน่าจะลองไปเดินดูสวนพฤกษศาสตร์เพื่อศึกษาเรื่องดอกโมรันเพิ่มบ้าง เพราะนักเขียนมีนิสัยบางอย่างที่ไม่อาจคาดเดาได้ บางทีปาร์คบมอาจจะให้พี่สาวของเธอมาถามความรู้เรื่องดอกโมรันกับเขาเพื่อไป ใช้ประกอบการตัดสินใจว่าจะขายต้นฉบับให้ดีหรือไม่ก็ได้

     

                   “ดอกโมรันเป็นชื่อเรียกแบบเกาหลี ชาวจีนเรียกว่า หมู่ตัน และชาวญี่ปุ่นเรียกว่า โบะตัง ชาวจีนใช้ดอกโมรันในงานศิลปะมายาวนานหลายศตวรรษและยกย่องดอกโมรันจากเมือง ลั่วหยางว่าเป็นเมืองที่ดอกโมรันงดงามที่สุดในแผ่นดินจีนด้วย”

     

                   ปาร์คโกอึนพูดเบาๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนสม่ำเสมอ ซึงฮยอนรู้สึกว่าหญิงสาวตรงหน้าดูผูกพันกับดอกไม้ที่พูดถึง เพราะแววตาของปาร์คโกอึนเปล่งประกายหลงใหล เธอสูดหายใจลึกๆ และกระพริบตาถี่ๆ อีกครั้ง

     

                   “คุณซึงฮยอนเอาเอกสารสัญญามาหรือเปล่าคะ”

     

                   “เอามาครับ”

     

                   ซึงฮยอนส่งเอกสารในซองสีน้ำตาลให้หญิงสาวอย่างงุนงง เพราะปาร์คโกอึนเปลี่ยนเรื่องอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ตั้งแต่ตอนที่เขาเข้าไปทำงานใหม่ๆ บก. รุ่นพี่ที่ออกไปพบนักเขียนมักจะกลับมาเล่าเรื่องตลกๆ เกี่ยวกับนักเขียนให้ฟังว่า นักเขียนบางคนก็ทำตัวเข้าใจยาก แถมอารมณ์ไม่ค่อยคงที่ แต่เขาไม่นึกว่าพี่สาวนักเขียนจะเป็นแบบนั้นด้วย
     

                   “ฉันจะให้บมลองอ่านสัญญาดู แล้วจะติดต่อกลับไปนะคะ”
     

                   “ครับ” ซึงฮยอนรีบพยักหน้ารับแล้วหยิบนามบัตรตัวเองขึ้นมาส่งให้หญิงสาว “นี่นามบัตรผมครับ ถ้าเกิดในสัญญามีเรื่องไหนที่คุณหรือคุณบมสงสัยก็ติดต่อผมได้ตลอดนะครับ”

     

                   “ขอบคุณค่ะ” ปาร์คโกอึนรับนามบัตรมาใส่กระเป๋า “ฉันขออนุญาตเลี้ยงกาแฟคุณนะคะ”

     

                   ปาร์คโกอึนวางธนบัตรลงบนโต๊ะเพื่อไม่ให้ซึงฮยอนปฏิเสธก่อนจะลุกขึ้นยืนทำให้ ซึงฮยอนต้องรีบยืนตามไปด้วย หญิงสาวยิ้มหวานสดใสก่อนจะเอ่ยลา

     

                   “ขอตัวกลับก่อนนะคะ”

     

                   “ครับ เดินทางดีๆ นะครับ”

     

                   “ขอบคุณค่ะ”

     

                   หญิงสาวเดินออกจากร้านไปโดยไม่ลืมหันมาโค้งลาชายหนุ่มที่ยังยืนอยู่ในร้าน อีกรอบ มือถือในกระเป๋าถือสั่นเตือนว่ามีสายเข้า เธอยิ้มให้กับหน้าจอเมื่อเห็นว่าชื่อที่ขึ้นอยู่บนจอนั้นเขียนว่า พี่สาว

     

                   “ฮัลโหล พี่ขา” เธอกรอกเสียงหวานลงไปทักทายคนปลายสาย “คิดถึงจังเลยค่ะ”

     

                   “บมจ๋า น้องเจอคนจากที่สำนักพิมพ์เรียบร้อยหรือยังจ๊ะ”

     

                   “เรียบร้อยแล้วค่ะ แต่น้องแอบเอาชื่อพี่มาใช้นะคะ”

     

                   “อะไรนะ” พี่สาวปลายสายถามเสียงหลง “น้องเอาชื่อพี่ไปใช้ทำอะไร”

     

                   “เดี๋ยวเย็นนี้เจอกันที่บ้าน น้องจะเล่าให้ฟังนะคะ”

     

                   ปาร์คบมคุยอะไรกับพี่สาวอีกสองสามคำก่อนจะบอกลาเพราะกำลังจะเดินลงสถานีรถไฟ ใต้ดิน เธอหันไปมอง บก. หนุ่มที่เดินออกจากร้านกาแฟฝั่งตรงข้าม ชเวซึงฮยอนสวมเสื้อโค้ทผ้าวูลสีน้ำตาลตัวยาวและถือต้นฉบับของเธอไว้ในมือ ปาร์คบมยิ้มขำๆ ในใจคิดว่าถ้าเจอกันครั้งหน้า เธอคงต้องซื้อขนมมาไถ่โทษที่แกล้งหลอก บก. รุ่นน้องของพี่ฮงจุนคนนี้เสียหน่อย

     

     

    ------------------------

     

                “เป็นไงซึงฮยอน”

     

                ปาร์คฮงจุนเดินถือถ้วยกาแฟออกมาจากห้องทำงานตอนที่ซึงฮยอนกลับเข้ามาใน ออฟฟิศพอดี ซึงฮยอนโค้งทักทายแต่ยิ้มแหยๆ อย่างไม่ค่อยมั่นใจ

     

                “ผมเอาสัญญาให้คุณปาร์คโกอึนแล้วครับพี่”

     

                “ปาร์คโกอึนเหรอ” ฮงจุนขมวดคิ้วอย่างสงสัย “พี่สาวปาร์คบมน่ะเหรอ”

     

                “ใช่ครับ”

     

                “แปลกดี”
     

                ฮงจุนตอบกลับอย่างสงสัยเพราะปกติแล้วปาร์คโกอึนไม่เข้ามายุ่งเรื่องงานของบ มอยู่แล้ว แต่เพราะซึงฮยอนบอกแบบนั้นเขาถึงไม่ได้ถามอะไรต่อนอกจากปล่อยให้รุ่นน้องขอ ตัวกลับไปที่โต๊ะ

     

                   เขารู้ดีว่าซึงฮยอนคาดหวังกับงานนี้มาก เพราะถ้าบมตกลงหนังสือเล่มนี้จะเป็นหนังสือเล่มแรกที่ซึงฮยอนจะได้เป็น บก. เต็มตัว ส่วนเขาเองก็อยากจะได้นวนิยายเรื่องนี้ของบมมาตีพิมพ์ด้วยเหตุผลเดียวที่ว่า ต้นฉบับบางเรื่องก็น่าสนใจเกินกว่าจะปล่อยให้เป็นแค่กระดาษต้นฉบับไร้ค่าใน ตะกร้าขยะของคนที่ได้ชื่อว่าเป็น บก. ในตลาดหนังสือตอนนี้มีหนังสือที่ควรจะเป็นแค่เศษกระดาษหลายเล่มที่ได้รับการ คัดเลือกให้มาตีพิมพ์ เขาไม่อยากให้วงการหนังสือที่เขารักเต็มไปด้วยของแบบนั้น

     

                   และที่สำคัญเขาเชื่อมั่นในประสบการณ์กับสัญชาติญาณของตัวเองว่า โมรัน ของปาร์คบมจะต้องได้รับความนิยม

     

                   ฮงจุนมองซึงฮยอนที่เริ่มเปิดคอมพิวเตอร์และรื้อหาเอกสารบนโต๊ะทำงานอีกครั้ง ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องทำงานของตัวเอง เขากังวลอยู่ลึกๆ เมื่ออีกฝ่ายไม่รับสาย เพราะกลัวว่าสำนักพิมพ์อีกแห่งที่ยื่นข้อเสนอให้ปาร์คบมเหมือนกันจะคว้าต้น ฉบับที่เขาต้องการไป     

     

                   มือแข็งแรงกดโทรศัพท์ออกไปหานักเขียนสาวที่รู้จักกันมาตั้งแต่เขายังเป็นแค่ บรรณาธิการเล็กๆ เสียงสัญญาณรอสายจากหมายเลขของปาร์คบมเหมือนจะยาวนานกว่าปกติ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    - TBC -

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Talk .... สวัสดีค่ะ ^^ เพิ่งเคยเอาฟิคชั่นมาลงที่นี่ครั้งแรก

    ยังไงก็ติชมแนะนำกันได้เลยนะคะ ติดต่อพลอยได้ที่นี่และที่ทวิตเตอร์ @PIoyniez นะคะ


    ขอบคุณทุกๆ คนมากๆ ค่ะ (^/|\^)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×