ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชิดกลางใจ

    ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่ 17

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 322
      4
      18 เม.ย. 52

            
                 
    ตั้งแต่ก่อนจะเข้ากรุงเทพฯ นฌิชร์ตัดสินใจอะไรบางอย่างไปแล้ว  ดังนั้นวันนี้หล่อนจึงขับรถออกมาจากบ้านของคุณตาคุณยาย โดยมีจุดหมายที่บริษัทที่ธีมปทินท์ทำงานอยู่       

                     มาพบคุณธีมปทินท์ ที่เป็นภูมิสถาปนิกน่ะคะ หล่อนบอกกับร.ป.ภ. ที่นั่งเฝ้าทางเข้าอยู่ ก่อนจะแลกบัตร และเดินขึ้นบันไดไปชั้น 2 ตามที่ ร.ป.ภ. บอก  นัยน์ตาคู่สวยกวาดตามองไปทั่ว ทั้งสำรวจสำนักงานและเผื่อจะบังเอิญเห็นมุรี  เสียงจ้อกแจ้กและเสียงกดแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ ดังอยู่รอบตัวเมื่อหล่อนมายืนตัวอวบอยู่ที่ชั้น 2  ขณะที่กำลังยืนเพ่งสายตามองหาธีมปทินท์ก็มีพนักงานมีน้ำใจเดินเข้ามาถามและช่วยเหลือนำทาง  ดังนั้นร่างเล็กจึงมายืนยิ้มเผลอยู่หน้าโต๊ะของเป้าหมาย

                          คุณลูกชิด มาถึงที่นี่ มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ ธีมปทินท์ค่อนข้างประหลาดใจที่ผู้ว่าจ้างมาหาถึงที่ทำงานทั้งที่เพิ่งเจอกันไปเมื่อเกือบ 2 อาทิตย์ที่แล้ว เขาคิดว่าอาจเป็นเรื่องงาน ซึ่งสามารถโทรศัพท์มาก็ได้ หากอยากแก้ไขตรงจุดไหนหรือกลัวเขาจะไม่เข้าใจ      

                           ริมฝีปากบางยิ้มน้อยๆอย่างเจ้าเล่ห์ อยากให้ช่วยเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ทราบว่าคุณธีมจะเต็มใจมั้ย แล้วทรุดตัวลงนั่ง ก่อนจะจ้องใบหน้าคมเกลี้ยง คุณธีมสะดวกคุยมั้ยล่ะคะ

                           ได้ครับ           

                            คุณธีมมีใครใกล้ชิดสนิทสนม เสียงใสออกเสียงคำว่า ใกล้ชิดสนิทสนมชัด อยู่แถวๆบางแคบ้างมั้ยคะ

                             คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน แต่ก็นึกเพื่อให้คำตอบอีกฝ่าย มีครับ

                            คุณมุรีหรือเปล่าคะ นฌิชร์ถามตรงๆ

                             ชายหนุ่มมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจและสงสัย พลางพยักหน้ารับ ครับ  เขาเคยไปส่งมุรีที่บ้าน เพื่อนที่เขาสนิทด้วยก็มีมุรีที่อยู่เขตนั้น แต่พนักงานที่นี่อยู่บ้านใกล้ๆกันก็มี  แต่ก็มีคนอื่นเหมือนกันนะครับ คุณลูกชิดอยากได้อะไรแถวนั้นเหรอครับ

                         คำตอบของชายหนุ่มทำให้หล่อนมั่นใจว่าไม่มีทางผิดคน และมีโอกาสพูดเข้าเรื่องได้ไวกว่าที่คิด  อยากได้คนหน้าตาดีแต่ไม่มีหัวคิดค่ะ คำพูดที่ค่อนข้างแรงสำหรับคนที่ไม่ได้รู้จักมักคุ้นทำให้อีกฝ่ายมีสีหน้าอย่างที่หล่อนคาดไว้ เสียงใสพูดต่อ พวกที่บอกว่าหวังดี แต่ประสงค์ร้าย ต่อหน้าทำเป็นยิ้ม ลับหลังแยกเขี้ยวกัดน่ะคะ ลูกชิดว่ามีแน่นอน แถมมีรหัสประจำตัวให้ด้วยนะคะ คุณธีมหาให้ได้มั้ยล่ะคะพูดพร้อมกับวางกระดาษที่มีตัวเลขขึ้นต้นด้วย 08 ลงบนโต๊ะ ก่อนเลื่อนไปตรงหน้าชายหนุ่ม ถ้าอยากทราบว่าลูกชิดเอาตัวเลขลับสุดยอดพวกนี้มาจากไหน ทั้งที่ไม่น่าจะมี คุณธีมลองถามเจ้าของตัวเลขพวกนี้ดูนะคะ ว่าไปทำอะไรร้ายๆไว้กับใครนัยน์ตาคู่สวยจ้องชายหนุ่มเขม็ง เมื่อพยายามจับพิรุธหรืออาการผิดปกติของวัวสันหลังหวะ  หล่อนคิดแล้วถ้ามัวแต่รอให้เจอกับมุรีอีกหนคงนานเกินไป บุกเข้าไปตรงคนที่อยู่ตรงกลาง คนที่ทำให้มีศึกชิงชาย เกิดนังมารร้ายเหมือนในละครนี่แหละ ไม่ว่าผลลัพท์จะเป็นยังไง หล่อนก็คิดหาทางรอดและข้อแก้ต่างไว้หลายวิธี                         

                     

                       มาถึงสำนักงานใหญ่เลยหรือครับคุณนฌิชร์

                              เสียงทุ้มเรียบๆที่อยู่นอกเหนือแผนทั้งหลายดังขึ้น ทำให้ ศีรษะเล็กได้รูปหันขวับไปมองตาค้าง   

                        สวัสดีครับ ศิศิลป์เอ่ยสวัสดีด้วยน้ำเสียงปกติให้กับหญิงสาวที่มีสีหน้าตกใจ มาศึกษาวิธีการทำงานหรือว่ามาปรึกษาเรื่องก่อสร้าง แต่ถ้าจะคุยเรื่องก่อสร้าง น่าจะคุยกันที่ตราดสะดวกกว่านะครับ

                          นฌิชร์เริ่มรู้สึกว่าตัวเองต้องรีบหายใจเข้า ก่อนจะไม่มีออกซิเจนไปเลี้ยงสมองที่กำลังยืดตัวเรียบตึง ร่างสูงตรงหน้ามาได้ยังไง เขาต้องอยู่ที่รีสอร์ทไม่ใช่เหรอ หล่อนคิดว่าวันนี้ไม่มีปัญหา แค่ธีมปทินท์กับผู้หญิงร้ายๆคนนึงหล่อนจัดการได้ แต่ปัญหาตัวเบ่อเร่อที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่มักจะโผล่มาเสมอดันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง คุณศิลป์กลับมาจากตราดแล้วหรือคะ

                          ครับ ผมกลับมาเมื่อวาน มาเรื่องงานที่นี่ แล้วก็จะกลับไปใหม่ 

                          พอดีลูกชิดก็เข้ากรุงเทพฯมาเหมือนกัน เลยแวะมาทักคุณธีม

                          นัยน์ตาคมของคนช่างสังเกต เหล่มองเพื่อนที่มีสีหน้าไม่สู้ดี ก่อนจะกลับไปเหล่มองใบหน้าใสอย่างรู้ทันว่าหญิงสาวคงไม่ได้แค่แวะมาคุยเล่น ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน คุณนฌิชร์มาถึงสำนักงานแล้ว ขอเวลาสักครู่  สัมภาษณ์เลยนะครับ ก่อนจะดักคอหญิงสาว ว่างแวะมาทักธีมถึงนี่ได้คงไม่ได้รีบไปที่ไหนต่อสินะครับ

                        เมื่อต้องคุยกันอยู่แล้วก็คุยเสียเลย ไม่เห็นต้องกลัว นฌิชร์จึงตอบรับ ค่ะ

                        ศิศิลป์ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู ก่อนนัดเวลา อีก 15 นาที ขอเชิญที่ห้องผมทางด้านนั้นนะครับ พูดกับหญิงสาวเสร็จก็หันไปมองเพื่อนที่ยังมีสีหน้าเครียดไม่หาย ธีม

                      ชายหนุ่มที่มือยังคงถือกระดาษค้าง เงยหน้ามองคนที่เรียกชื่อเขา  

                   งานเรียบร้อยดีมั้ย มีอะไรหรือเปล่า

                        ไม่มีอะไร 

                       ศิศิลป์พยักหน้า ก่อนจะเดินห่างไป กำลังมีเรื่องอะไรกันเขาไม่รู้ แต่ที่สังเกตดูนฌิชร์คงไม่ได้แค่แวะมาทักเฉยๆ  เรื่องส่วนตัวของเพื่อนเขาไม่ยุ่งหากเจ้าตัวไม่ปรึกษาขอความเห็น

                     
                       
    ธีมปทินท์มองศิศิลป์เดินห่างออกไปแล้วหันกลับมามองตัวเลขในมือที่ดูยังไงก็เป็นเบอร์โทรศัพท์  จะว่าไป เวลากดโทรศัพท์ เขามักไม่จำตัวเลขเพราะสมัยนี้แค่มีชื่อเท่านั้น จำได้แต่เบอร์ของพนิตา และศิศิลป์ แล้วเบอร์นี้คือเบอร์ของใคร หญิงสาวเอามาให้เขาทำไม        

                         คิ้วเรียวของนฌิชร์ยกสูงขึ้นเมื่ออีกฝ่ายเงยหน้ามามองด้วยสายตาข้องใจ เบอร์โทรศัพท์ค่ะ หล่อนพูดลอยๆคิดว่าอีกฝ่ายคงรู้ คุณธีมลองโทรดูเลยมั้ยคะ หรือว่า..  หล่อนเว้นระยะ รู้อยู่แล้วว่าของใคร เพราะรู้อยู่แก่ใจ

                    คุณลูกชิด ผมไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่พอรู้ว่าคุณลูกชิดกำลังกล่าวหาอะไรผมสักอย่าง น้ำเสียงเครียดหากแต่เอ่ยอย่างสุภาพ พูดตรงๆเลยเถอะครับ

                        นัยน์ตาโตกวาดตาดูทั่วใบหน้าคมเกลี้ยงของชายหนุ่ม เบอร์โทรศัพท์นี้ ลูกชิดเอามาจากเครื่องของพี่ฟาง ในวันที่มีผู้หญิงคนนึงโทรมาหาพี่ฟาง และเธอคนนั้นเป็นคนเดียวกับที่บอกว่าเป็นแฟนของคุณธีม นฌิชร์พูดพลางมองจ้องอีกฝ่ายพลาง ลูกชิดขออนุญาตโทรศัพท์สักครู่นะคะ แล้วคุณธีมลองฟังเสียงดูจะรู้ว่าเป็นใคร  มือบางหยิบโทรศัพท์แล้วกดโทรออก พร้อมกับเปิดลำโพงเพื่อให้ชายหนุ่มได้ยินด้วย

                         
                   “ฮัลโหล  เสียงตอบรับจากปลายสายดังขึ้น

                       สวัสดีค่ะ  นฌิชร์พูดตอบพร้อมกับชำเลืองมองใบหน้างงๆของธีมปทินท์

                       ขอโทษนะคะ จากไหนคะ          

                        ลูกชิดเองค่ะ คุณมุรี ขอโทษทีที่ไม่ได้แนะนำตัวก่อน

                      คุณลูกชิด สวัสดีค่ะ

                    พอดีคิดถึง อยากคุย คุณมุรียุ่งอยู่หรือเปล่าคะ

                       ไม่ค่ะ งานมุรีไม่มีงานด่วน คุยได้เรื่อยๆค่ะ

                       วันนั้นลูกชิดน่าจะขอเบอร์จากคุณมุรีเองมากกว่า แบบนี้เสียมารยาทไปหน่อยที่ขอเบอร์คุณมุรีจากคุณธีม คุณมุรีไม่ว่าอะไรนะคะนฌิชร์พูด แล้วต้องขมวดคิ้วเมื่อชายหนุ่มไม่สนใจฟัง

                            ไม่หรอกค่ะคุณลูกชิด มุรีดีใจด้วยซ้ำที่คุณลูกชิดคิดถึงมุรี

                       ตอนนี้ลูกชิดอยู่กรุงเทพฯ  ไว้นัดเจอกันมั้ยคะ

                       “ได้ค่ะ คุณลูกชิดมาเที่ยวกรุงเทพเหรอคะ

                             “ลูกชิดกะมาอยู่กรุงเทพสักอาทิตย์นึง มาเที่ยวแล้วก็มาธุระที่ต้องจัดการให้เสร็จด้วยน่ะคะ  วันนี้ลูกชิดไม่กวนเวลางานของคุณมุรีแล้ว  แล้วคุยกันใหม่นะคะ

     

                 

                    หญิงสาวให้เขาฟังการสนทนานี้ เพราะต้องการจะให้เขารู้อะไร 'เสียงมุรี'  ชายหนุ่มเริ่มหวนคิดตั้งแต่หญิงสาวพูดกระทบเรื่องอยากได้คนหน้าตาดีแต่ไม่มีหัวคิด เอาเบอร์โทรศัพท์ให้เขาดู  แล้วโทรศัพท์... รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเบอร์ที่หญิงสาวให้มา  พอกดเรียบร้อยชื่อเจ้าของเบอร์ก็โชว์ขึ้นที่หน้าจอมือถือ  เสียงสนทนาหยุดลงพร้อมๆกับที่เขาปะติดปะต่อเรื่องได้ หัวใจเต้นแรง มือที่ถือกระดาษอยู่เมื่อครู่ไม่มีแรงขนาดที่กระดาษหล่นออกจากมือ

                นัยน์ตาคู่สวยมองใบหน้าคมที่เห็นชัดว่ากำลังตกใจเขม็ง ก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เหลือเวลาอีกประมาณ 5 นาที ลูกชิดต้องไปพบคุณศิลป์ คุณธีมมีอะไรอยากถามหรืออยากสารภาพมั้ยคะ

               ผมไม่เคยคิดเลยว่า...ธีมปทินท์เริ่มต้นพูดไม่ถูก  กระพริบตาถี่เมื่อยังไม่อยากเชื่อสิ่งที่เพิ่งรู้ 

              พี่ฟางยังไม่ทราบอะไรทั้งนั้น  ลูกชิดไม่ได้เล่าให้ฟัง  ลูกชิดทำเองทั้งเอาเบอร์มาลองโทร ทั้งเรื่องวันนี้ ลูกชิดคิดเองทำเอง พี่ฟางไม่ทราบด้วยซ้ำว่า เบอร์โทรที่พี่ฟางคิดว่าไม่มีคนรับ ไม่มีทางโทรติดนั้น ใช้ได้ เพราะอีกฝ่ายที่โทรมาเปลี่ยนเบอร์บ่อยๆ ครั้งสุดท้ายคงใช้โทรสาธารณะจากแถวบางแค  พี่ฟางไม่รู้ด้วยว่าเป็นคนใกล้ตัวคุณธีม และไม่รู้ด้วยว่า คุณธีมสมคบคิดหรือเปล่า

               ผมไม่...

                 ที่มาพบคุณธีมครั้งนี้ ลูกชิดก็กลัวข้อหาใส่ร้ายป้ายสี  แต่คุณธีมต้องรู้ว่าลูกชิดไม่เคยมีเบอร์คุณมุรีมาก่อน ลูกชิดไม่อยากให้พี่ฟางเสียใจ หรือโดนคนขี้อิจฉาตามรังควาญ เพราะจิตใจดีๆของพี่ฟางที่มักมองโลกในแง่ดีและไม่เคยคิดร้ายกับใคร ถ้าคุณธีมสมคบคิดด้วยก็บอกมาตอนนี้เลย อย่าให้พี่ฟางเสียใจทีหลัง ลูกชิดไม่ใช่คนใจดี มีความคิดรอบคอบสักเท่าไหร่ อาจทำอะไรตามอารมณ์ที่คงไม่เป็นผลดีกับคุณธีม

               ผมรักพนิตาคนเดียว เสียงทุ้มหนักแน่นที่เอ่ยออกไปตามที่คิด เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ทำให้ หญิงสาวตรงหน้าชะงักไป

               นฌิชร์แปลกใจที่อีกฝ่ายพูดอย่างชัดเจน พูดเหมือนจริงใจเลย  บอกลูกชิดได้ อย่าลืมบอกคุณมุรีด้วยนะคะร่างเล็กลุกขึ้นยืน ลูกชิดขอตัวไปพบคุณศิลป์ก่อนนะคะ

     

               ธีมปทินท์มองตามร่างเล็กๆที่เดินไป ก่อนจะยกมือขึ้นลูบใบหน้าตนเอง ปัญหาที่เขาไม่ได้เป็นคนก่อ ตอนนี้รู้ต้นเหตุแล้ว แต่สาเหตุเขาไม่แน่ใจ เคยมีเพื่อนแซวๆว่า มุรีและเขาสนิทกันอย่างกับแฟน บางครั้งเพื่อนผู้ชายก็แซวว่าเขาเสน่ห์แรง แต่เขาก็ไม่เคยเอามาคิดมากหรือเอามาคิดเข้าข้างตัวเอง มุรีมาหาเขาเสมอ ชวนไปทานข้าว แต่ก็เพราะเป็นเพื่อนที่ทำงานร่วมกัน

           ธีม เป็นอะไรนั่งกุมขมับหน้าเครียดเชียว

           มุรี

           งานเยอะเหรอ หรือไม่สบาย มุรีถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล เมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย หล่อนเอารายงานการติดต่อมาให้ชายหนุ่มดู แต่พอเดินมาก็เห็นชายหนุ่มกำลังทำท่าเหมือนปวดศีรษะ ปวดหัวเหรอ

           มุรีเคยให้เบอร์ของมุรีกับคุณลูกชิดมั้ย

           หือ  ทำไมถามเรื่องนี้ล่ะ  ไม่เคยหรอก แต่เมื่อครู่คุณลูกชิดโทรมาหามุรี บอกว่า ขอเบอร์มาจากธีม มุรีก็งงอยู่เหมือนกันที่คุณลูกชิดโทรหา ทำไมมีอะไรหรือเปล่า

           เปล่า ไม่มีอะไร มุรีไม่ได้ให้เบอร์โทรศัพท์กับคุณลูกชิดจริงๆสินะ ...ไม่ว่าอะไรใช่มั้ยที่เราให้เบอร์มุรีกับคุณลูกชิด

            ไม่ว่าหรอก จะว่าทำไม มุรียิ้มอ่อนโยนให้ชายหนุ่ม เมื่อรู้สึกว่าชายหนุ่มพูดวกไปวนมาแปลกๆ ไม่สบายอยู่หรือเปล่า

             เปล่า   เออ มุรีเอาอะไรมาให้

             เอาใบตอบรับมาให้ดู ไม่มีอะไรด่วน  พักก่อนดีมั้ย

            ชายหนุ่มสั่นหน้า แล้วเอื้อมมือไปหยิบแฟ้ม ขอบคุณนะ ก่อนจะเปิดดู

              ท่าทางธีมเหนื่อยมากเลยนะ ดูเพลียๆยังไงไม่รู้

              มุรีกลับไปทำงานเถอะ ไม่เป็นอะไร ก่อนจะก้มหน้าดูงาน

               มุรีมองชายหนุ่มที่ไม่พูดอะไรกับหล่อนอีก จึงตัดสินใจเดินกลับ

              ธีมปทินท์วางมือจากงาน เมื่ออีกฝ่ายเดินลับตาไป ถอนหายใจยาว  เขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาจริงๆ เมื่อคิดว่าเขาควรทำอย่างไรต่อดี  คุณลูกชิดคงไม่ได้สร้างเรื่องเพื่อใส่ร้ายมุรี เพราะไม่มีเหตุผลอะไรเลย  พนิตาก็เคยบอกเขาว่า หล่อนกับนฌิชร์รักกันเหมือนพี่น้อง  ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆเมื่อหวนนึกถึงเรื่องที่เป็นปัญหาระหว่างเขากับพนิตา เขาไม่เคยเฉลียวใจเลยว่าเป็นเพื่อนของตัวเอง   

     

    นกอ้วน           นานๆโผล่มาอัพที เดือนละหนได้มั๊งนะเรานี่  ตอนนี้ห่างจากตอนที่แล้วเยอะ ถือว่า ติดสงกรานต์ละกันนะ

    มิยา              ตอนแรกก็คิดแล้วมันน่าแหวะ แต่ต้องคิดเพราะสมองนางเอกนี่นะ

    นภัสวริน          แหมไรกัน heydon  ไม่คิดว่า ท่านป้าจะสนใจหนังสือด้วยนี่หน่า  คนอ่านของ heydon คุยไปคุยมา 40 อัพ เยอะจัง แต่ heydon ไม่รู้จักมีสัมมาคารวะ  อายุ 40 ก็วัยรุ่นกันนะ  แต่ละคนที่โผล่มาคุย สำนวนวัยรุ่นกันทั้งนั้น ไม่เผยไต๋ว่า ฉันสายตายาวเอียง แถมฝ้าฟางก็นึกว่า 20 30 กัน คราวนี้ห่างแต่ก่อนสงกรานต์ก็ไม่ไหว หลังสงกรานต์ละดีแล้ว heydon ไม่เขียนยืดยาดละ รวบๆเลย อ่านแล้วงงมะเจ้าคะ   ...ขอบคุณที่แวะเข้ามาคุยกันอีกรอบนะ  ช่วงนี้เบื่อจังเลย  ป้าสบายดีมั้ย
    Oss-spy               สำเร็จดิ ขืนไม่สำเร็จไม่ใช่มุข heydon      นางเอกผ่านฉลุยทุกสถานการณ์ แต่คงมีมุขแป้กบ้างแหละ 555+

    ปุ้ม              ไม่อยากบอก ไอ้แบบนี้ heydon เคยทำ  ขนาดคิดจะไปจ่ายเงินค่าโทรศัพท์ 081 xxx    ให้รู้เจ้าของเบอร์เลย แต่แหม เสียดายเงินมากกว่าอยากรู้  ก็ดันเจอโทรศัพท์โรคจิตสุ่มโทรน่ะสิ  เสียงเราคงตรงข้ามกับตัว มันเลยคุย   ยังจำได้ มันขึ้นต้นว่า แหมเสียงหวานจัง... (เราเริ่มรู้ละ ว่าพวกสมองด้านดีไม่มีการเติบโตโทรมา) พอวางมันก็โทรใหม่ เราเลยกดรับแล้ววางไว้ห่างๆไม่ได้ฟัง แต่ก็เจอหนเดียวแหละ  

    สายลับประจำบอร์ด               ชื่อเก๋จัง      เล่ห์บุพเพ เฮฮา แถมเขียนเอาแต่ใจคนเขียนมากกว่าเรื่องนี้  แต่ดีใจจังชอบเล่ห์บุพเพ  

    Peem's sister      อ๊ะ อย่ามา thanks heydon เลยรู้หรอก แอบทวงนิดๆแทรกในข้อความ xxxxxx 555+  สงกรานต์ได้พักเปล่า 

    Lala  เรานึกว่า วัย20 30 ต้นๆรุ่นๆ แหม สายตายาว โอ้ แต่ heydon ไม่แปลกใจเท่าไหร่อีกแล้ว เพราะคนอ่านของ heydon ทำ heydon แปลกใจมาหลายท่าน นึกว่า วัยอ่อนๆ ที่ไหนได้ เริ่มต้นชราอ่อนๆกันทั้งนั้น คุยกันแบบรุ่นละอ่อนกันเถอะ  โหย อ่าน ว.วินิฉัยกุล สุดยอด...    เราไม่ค่อยได้อ่านนิยายของคนอื่นเลย เคยอ่านของวลัย อยุ่เล่ม 2 เล่ม แล้วก็เรื่อง มนต์จันทรา ของใคร อ๊าก. ลืม  ไม่ค่อยอ่านเพราะว่าพออ่านแล้วมันจะมาเปรียบเทียบกับภาษาที่เราเขียน แล้วเหี่ยวมากๆ หดหู่ไปเกือบอาทิตย์ เสร็จแล้วก็ไร้การพัฒนายังเขียนตามใจตัวเองเช่นเดิม (นิสัยเสีย)
     ต้นหอม  คราวนี้เอาวันไหนดีหว่า .......    อยากให้นัดสัก 2 เดือนหน้า แต่กลัวคนอ่านจะตายาวจนอ่านกันไม่ไหว หายหมด
     

                 วันไหนๆๆๆๆๆๆๆๆๆขอดูแป๊ปๆๆ     โอเค ขอมาวันที่  10 พ.ค.ละกันค่ะ    ไม่มีหวยแล้ว เย้ๆ


             

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×