ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชิดกลางใจ

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 15

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 358
      6
      1 มี.ค. 52



                   

                   หลังจากการปรับปรุงรีสอร์ทผ่านมาได้ 3 วัน วันนี้เป็นวันที่นฌิชร์เตรียมตัวเรียกวิญญาณคินดะอิจิเข้าร่าง นับตั้งแต่เห็นหญิงสาวที่หล่อนไม่เคยรู้จักมาพร้อมกับธีมปทินท์ เพราะคิดว่าสิ่งที่หล่อนเคยพูดไว้กับสลิสาอาจจะเป็นจริง ผู้หญิงที่คอยหวังดีประสงค์ร้ายกับพี่ฟางต้องตามธีมปทินท์มาสักวัน อาจใช่คนนี้ก็ได้ ผู้หญิงที่ธีมปทินท์แนะนำว่าชื่อ มุรี 

                 ลูกชิดจะไปเดินเล่นที่ไหนก็ไปเถอะ ย่าอยู่คนเดียวได้ คุณเกษราบอกหลานสาว  เมื่อเห็นหลานสาวมองตามคนที่แวะมาสวัสดีเมื่อครู่

                 เย็นนี้ลูกชิดก็กลับพร้อมพ่อแล้ว  อยู่เป็นเพื่อนย่าเกดดีกว่าค่ะ เย็นนี้บิดามารดาจะมาหาปู่ดิศและย่าเกด รวมถึงมาดูการก่อสร้างด้วย

                 พ่อเขามารับกลับไปทำงานนะสิคุณเกษราพูดแซวหลานสาว ซึ่งนางรู้ว่า หากหลานสาวอยู่ทางโน้น บิดาของนฌิชร์จะให้ไปทำงานตามแผนกต่างๆ   

                  พ่อให้ลูกชิดทำงานเสียจนลูกชิดรู้งานแทบทุกแผนกเลยค่ะ นฌิชร์ถือโอกาสบ่น บอกลูกชิดว่า คนนั้นลาหยุดคนนี้ลาคลอด แล้วก็ให้ลูกชิดไปทำแทนเพราะมีงานด่วน  ด่วนทุกวันเลย สนุกก็สนุกหรอก แต่เหมือนโดนหลอกยังไงก็ไม่รู้

                 คุณเกษราหัวเราะ ตามใจพ่อวัตน์เขาไป แล้วคิดถึงเรื่องงานที่นางให้นฌิชร์ไปสมัคร ตกลงทางนั้นเขาตอบรับมาหรือเปล่า ตอนมาที่นี่พร้อมสามีก็ยังไม่ได้เจอกับผู้รับเหมาเพราะคงเข้าไปอยู่ในรีสอร์ทก่อนแล้ว  นางไม่อยากเดินเข้าไปไกลเพราะขาไม่ค่อยดี ปล่อยให้สามีเดินไปดูคนเดียว  เดี๋ยวตอนทานข้าวกลางวันด้วยกันจะลองถามดู  

     

                  มุรีเดินเข้าไปในรีสอร์ทหลังจากธีมปทินท์พาไปแนะนำให้รู้จักกับภรรยาและหลานสาวของผู้ว่าจ้าง  เสียงโครมครามของเศษอิฐเศษปูนที่โดนโยนและร่วงลงพื้น และเสียงทุบปูนดังสะท้อนอยู่ทั่วบริเวณ ครั้งที่แล้วหล่อนไม่ได้เข้ามาด้วย จึงไม่ได้เห็นสภาพบ้านพักก่อนโดนทุบทำลาย ตอนนี้เห็นเพียงผนังที่โดนทุบจนเกือบถึงฐาน และโครงสร้างของเสาเท่านั้น ส่วนหลังคาโดนรื้อทิ้งไปหมดแทบทุกหลัง เร็วเหมือนกันนะ

                       ตอนนี้ก็เร็ว แต่อาจจะไปช้าตอนก่อสร้าง ...คุณศักดิ์อยู่ตรงนั้นกับคุณดิศ จ้าของรีสอร์ท ธีมปทินท์บอกมุรี  แต่เราเดินไปหาศิลป์กันเลยดีกว่า เมื่อกี้โทรถามบอกว่าอยู่ด้านหลัง

        

                      ที่พักของวิศวกรและคนคุมงาน สร้างง่ายๆโดยใช้ไม้แผ่นและมุงหลังคาสังกะสี  ด้านหน้าเปิดโล่งไม่มีผนังหรือประตู  ส่วนอีก 3 ด้านเป็นผนัง มีหน้าต่างระบายลมทุกด้าน        

                       มาแล้วเหรอศิศิลป์ทักเพื่อนแล้วเหลือบตามองมุรีแว่บหนึ่ง เดินดูหรือยัง ต้นไม้รอบๆบ้าน ที่เก็บไว้ได้ ก็เก็บไว้ให้แล้ว  ต้องเก็บอะไรไว้อีกก็รีบๆบอก ไม่งั้นต้องไปหาซื้อไม่รู้ด้วยนะเดี๋ยวไม่ถูกใจคุณหนูเข้า จะแย่เอา

                     ต้นใหญ่ไม่กระทบ ไม่มีอะไรหรอก ธีมปทินท์ตอบพลางมองดูสภาพโดยรวมรอบๆ  คุณลูกชิดเจาะจงแต่ต้นใหญ่เขารู้ว่าที่เพื่อนเรียกคุณหนูหมายถึงใคร

                       แล้วเจอกับคุณลูกชิดรึยังวันนั้นคุณหนูตัวแสบบอกว่าจะคุยกับเพื่อนเขาเอง

                     เจอแล้ว พามุรีไปสวัสดีคุณเกษรามา คุณลูกชิดก็อยู่ด้วย

                    ศิศิลป์พยักหน้ารับรู้  ธีม กลางวันนี้ทานกลางวันด้วยกันนะ มุรีด้วย คุณดิศชวนทานอาหารพร้อมกัน

                      มุรียิ้มเมื่อสายตาคมของศิศิลป์หันมามอง มุรีขอตัวดีกว่าค่ะ เพราะมุรีไม่ได้มาทำงานอะไร แค่ตามมา

                     เราเองมาแป๊ปเดียว ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ทำงานด้วยธีมปทินท์ปฏิเสธ  ไม่ดีกว่า เกรงใจเขา

      

                     แต่พอถึงเวลากลางวันจริงๆ ธีมปทินท์และมุรีไม่ได้แยกตัวไปตามที่คิดไว้ เพราะตอนที่กำลังดูงานอยู่ คุณกษิดิศเดินมาพบและเอ่ยชวนด้วยตนเองเสียก่อน ธีมปทินท์จึงต้องตอบรับคำชวน 

                     ศิศิลป์เห็นเพื่อนเกรงใจจึงพูดเบาๆขณะที่กำลังเดินไปด้วยกัน พอมาทำงานที่นี่ก็สั่งอาหารจากร้านเขากินทุกวันสิ ตอบแทนน้ำใจไง

                    คนโดนแนะนำอมยิ้มขำๆ ก่อนเดินตามกันไปที่ร้านอาหาร

      

                        ช่วงอาหารกลางวัน นฌิชร์นั่งอยู่กับปู่ดิศและย่าเกด พร้อมด้วยคนที่หล่อนรู้จักอยู่แล้ว ทั้งคุณสิทธิศักดิ์ นายแสนรู้ นายธีมและผู้หญิงที่ยังไม่ได้พูดคุยด้วย นัยน์ตาโตสวยกำลังแอบชำเลืองมองหญิงสาวที่ชื่อ มุรี  มากกว่าที่จะสนใจธีมปทินท์จำเลยเก่า  เสียงคุยกันของคนที่นั่งร่วมโต๊ะดังเป็นระยะ  เมื่อมุรีไม่ได้คุยกับใครอยู่ นฌิชร์จึงถือโอกาสชวนคุย  คุณมุรีคะ ชอบที่นี่มั๊ยคะ คำถามมาตราฐานสำหรับการทักทายตามบรรยายกาศเริ่มต้นขึ้น  

                    ชอบค่ะ อากาศดี น่าอิจฉาคนที่นี่ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ทุกวัน

                     มาทำงานข้างนอกแบบนี้ เหนื่อยมั๊ยคะ

                          คนโดนถามยิ้มแล้วตอบอย่างเกรงใจ มุรีขอตามมาเที่ยวค่ะ ก่อนจะรีบอธิบายต่อเพราะกลัวอีกฝ่ายเข้าใจผิด มุรีขอตามมาเองนะคะ ทางบริษัทไม่ได้ให้พนักงานเที่ยวตามไซด์งานหรอกค่ะ พอดีไม่ค่อยได้มาทะเล เลยขอตามธีมมาค่ะ หล่อนแวะคุยกับธีมปทินท์หลังจากไปยื่นใบสมัครขอย้าย จึงได้รู้ว่าชายหนุ่มจะต้องมาตราดวันอาทิตย์ หล่อนจึงขอตามมา

                ได้ข่าวว่าทางบริษัทมาเปิดสาขาที่นี่ คุณมุรีย้ายมาทำงานที่นี่ด้วยหรือเปล่าคะ

               มุรียื่นใบขอย้ายไปแล้วค่ะ  อยากอยู่ต่างจังหวัด เบื่อกรุงเทพฯเต็มที อยากมาทำงานที่ตราดมากเลยค่ะ 

                  ถ้ามาอยู่ที่นี่ ลูกชิดจะพาเที่ยวให้ทุกเกาะเลยค่ะ

              ขอบคุณมากค่ะ

               นฌิชร์ยิ้มแล้วเลิกชวนคุย เพราะไม่รู้จะชวนคุยอะไรต่อ เลยคอยใช้วิธีสังเกตว่า ธีมปทินท์และมุรีสนิทกันแค่ไหน แล้วก็นึกออกว่าจะมัวนั่งสงสัยไปทำไม ในเมื่อหล่อนมีสิ่งซึ่งสามารถจะพิสูจน์ข้อสงสัยได้อยู่ในกระเป๋า  นฌิชร์ค่อยๆล้วงมือควานหาโทรศัพท์มือถือออกมา โดยพยายามไม่ให้คนรอบข้างผิดสังเกตว่าหล่อนทำอะไร

                 

                 มุรีนั่งทานอาหารเรื่อยๆ  แรกทีเดียวหล่อนไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาที่นี่กับธีมปทินท์ แค่ลองขอตามมา แล้วธีมปทินท์ก็ตอบรับ ทำให้หล่อนแอบดีใจที่ไม่ต้องอ้างเหตุผลเพื่อตามชายหนุ่ม ขณะที่กำลังคิดอยู่ ก็มีเสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้น จึงเอ่ยขอโทษเบาๆ แล้วลุกขึ้นไปกดรับ แต่ก็ไม่มีเสียงจากปลายสายกลับวางไปเฉยๆ มุรีขมวดคิ้วมองเบอร์ที่โทรเข้า หล่อนรู้สึกคุ้นตากับเบอร์ที่โชว์ แล้วตัดสินใจกดโทรกลับ

            

                  ทางด้านคนที่เพิ่งกดวางโทรศัพท์ก็รีบกดปิดโทรศัพท์มือถือของตนเองเมื่อมีเสียงโทรเข้าจากเบอร์ที่เพิ่งวางสายไป แล้วรีบชำเลืองมองไปทางย่าเกดว่าได้ยินเสียงโทรศัพท์มั๊ย เมื่อย่าเกดไม่มีทีท่าสนใจหรือได้ยิน จึงหันไปจับจ้องมองตามร่างบอบบางของหญิงสาวที่ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ เมื่อครู่หล่อนลองกดโทรศัพท์เพื่อตัดความสงสัย ทีนี้มั่นใจได้ว่าใช่แน่!’  คงไม่บังเอิญขนาดพอหล่อนโทรออก โทรศัพท์อีกฝ่ายก็มีคนโทรเข้า พอหล่อนวางอีกฝ่ายก็วางพอดี แถมยังโทรกลับมาเสียอีก นฌิชร์กำลังดีใจที่จับคนที่คอยโทรแกล้งพี่ฟางได้ และหมายมาดว่าจะเปิดโปง เปิดศึก เปิดหน้ากาก อีกฝ่ายให้ดังเป็นอเมริกาประกาศบุกอิรักขณะมองอีกฝ่ายกลับมานั่งที่เดิม เลยไม่ได้สังเกตว่ามีสายตาคมมองอยู่  

     

                ใบหน้าน่ารักที่จ้องเป๋งไปที่ลูกน้องของเขาอีกคนแล้วเปลี่ยนสีหน้าเป็นไม่รู้ไม่ชี้หันไปฟังบิดาเขาพูดคุย ทำให้เขาติดใจสงสัยในท่าทางและสีหน้าของหญิงสาวเมื่อครู่  คิดทำอะไรอีก คุณหนูตัวแสบ

             

                  นฌิชร์กำลังคิดหาวิธีที่จะจับผิดมุรี หลังจากลองคิดมาหลายวีธี ทั้งพูดถามตรงๆ  หลอกถามทั้งธีมปทินท์และมุรี  หรือพูดต่อว่าไปเลยรู้ความจริงทั้งหมด  แต่ถ้าอีกฝ่ายตั้งหน้ายืนหยัดปฏิเสธอย่างมั่นคง หล่อนก็ทำอะไรไม่ได้  ไปๆมาๆ หล่อนนั่นแหละจะเป็นคนร้ายใส่ร้ายคนอื่น  หล่อนต้องจับให้มั่นคั้นให้แห้ง หรือไม่ก็ต้องมีหลักฐานมากกว่าเบอร์โทรศัพท์  ต้องให้พี่ฟางอัดเสียงไว้ หรือไม่ก็ต้องอยู่กับพี่ฟางตอนที่ยัยมุรีโทรแกล้ง ...แล้วเราจะไปอยู่ตอนนั้นได้ยังไงนฌิชร์คิดหงุดหงิด วุ่นวายอยู่คนเดียว หรือว่าใช้วิธีโทรก่อกวนบ้าง ... ไม่ได้ เดี๋ยวก็คิดว่าพี่ฟางแกล้ง โอ๊ย พยายามทำตัวปกติ หันไปฟังคนนั้นพูดคนนี้พูด แล้วย่าเกดก็พูดขึ้น จากที่ฟังผ่านๆหูไม่สนใจ ต้องหยุดตั้งใจฟัง

          

                     ขอโทษนะคะ คุณศักดิ์ที่ไม่ได้บอกก่อนว่าจะให้หลานไปสมัคร คุณเกษราพูดเรื่อยๆ เพราะคิดรับหรือไม่รับก็แล้วแต่ทางคุณเห็นสมควร เออ..ไม่ทราบว่าผลการคัดเลือกพนักงานออกหรือยังคะ

                  คุณสิทธิศักดิ์กำลังนึกว่าจะตอบอย่างไรไม่ให้เสียน้ำใจ เพราะเป็นการตัดสินใจของบุตรชายไม่ใช่เขา อีกอย่างวันนั้นบุตรชายบอกว่าคุยกับนฌิชร์ไปแล้วว่าไม่รับ แล้วบุตรชายก็ตอบขึ้นมาแทน

                   พอดีวันนั้นผมคุยกับคุณลูกชิดแล้วครับ..ชายหนุ่มคิดจะบอกกับคุณเกษราว่าคุยกันแล้ว และจะส่งต่อให้หญิงสาวเป็นคนอธิบายรายละเอียดเอง แต่เหมือนหญิงสาวจะรู้ว่าเขาจะโยนให้ เพราะชิงแทรกขึ้น

                  ค่ะ ใช่วันนั้นคุยกัน ลูกชิดลืมบอกย่าเกดเลย คุณศิลป์รับลูกชิดค่ะเสียงใสๆดังขึ้นมา แล้วมองไปทางศิศิลป์ด้วยสีหน้าบ้องแบ้วและซื่อสนิท

                   คนฟังที่รู้คำตอบจริงๆ 2 คนต่างอึ้งพูดไม่ออก คุณสิทธิศักดิ์คิดว่าตัวเองฟังบุตรชายผิดหรืออย่างไรในวันนั้น  ส่วนคนที่พูดคุยกับหญิงสาวจริงๆกำลังมองใบหน้าน่ารักอย่างกับกำลังมีเครนลอยได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีฐานตั้งอยู่ตรงหน้า (รู้จักเครนก่อสร้างกันมั๊ย)

                  นฌิชร์พยายามส่งรอยยิ้มน่ารักอย่างสุดชีวิตให้ชายหนุ่มที่กำลังมองหล่อนด้วยดวงตาเบิกกว้าง ลูกชิดจะพยายามทำงานให้ดีค่ะ” ‘เอาละ ลองเสี่ยงดู  ปฏิเสธก็แค่หน้าแตก ทำเป็นจำผิด ไม่ปฏิเสธค่อยว่ากันทีหลัง ไงๆก็หาทางเข้าใกล้ยัยมุรีกับตาธีมให้ได้ ...รับฉันเถอะนะนายแสนรู้แล้วหันไปหาย่าเกด ตอนที่คุณศิศิลป์บอกลูกชิดตกใจเลยค่ะย่าเกด ไม่คิดว่าคุณศิลป์จะรับนฌิชร์รอลุ้นคำตอบหัวใจแทบวาย อยากให้อีกฝ่ายตอบเร็วๆ จะเป็นยังไงก็เป็นกัน  

                 "ครับ"  คนที่กำอนาคตของหญิงสาวเอาไว้ ตอบออกมาหลังจากทำใจและตั้งสติที่มึนโดยไม่ต้องพึ่งแอลกอฮอร์ได้แล้ว ก่อนจะหันไปสบตานัยน์ตาโตสวยที่มองอยู่   คุณหนูนิสัยเสีย ไม่รู้คิดอะไร โดนตามใจจนเคยตัว อยากทำอะไรก็ทำอยากได้อะไรต้องได้หรือไง เขารับดัดนิสัยให้ก็ได้

               หญิงสาวโล่งใจที่อีกฝ่ายตอบรับ แต่พอเห็นสายตาถมึงทึงที่มองมาแล้วใจแป้ว หากแต่ตอนนี้อยู่ในอาณาบริเวณที่มีแต่คนปกป้องล้อมรอบจึงไม่สนใจ โดยไม่ได้คิดว่าถ้าไปอยู่เป็นลูกน้องของเขา หล่อนก็คงทำอะไรตามใจและอ้อนใครไม่ได้

            


           นิยายที่ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นน่าอ่าน แต่มีคนมาอ่าน ยังไงก็ขอบอกซ้ำซากเหมือนคนแก่ จริงๆก็แก่หงำ (หน้าไปไกลแล้ว แงๆ)   ขอบคุณมากๆ และดีใจจริงๆ

     

    นภัสวริน   ท่านป้าเจ้าขา  มาไวจริงๆ หวยออกเสร็จ 4 โมง ถ้าจำไม่ผิด แล้ววันอาทิตย์นี่งดออกหรือเปล่าเจ้าคะ จำไม่ได้      อ่านนิยายของ heydon  เหนียงยาน (รอนาน 555+) เอามือดันไว้ดีๆ  

     

     เสี่ยวหลงเปา   ไม่รู้จะเอาไง ตัดไปดื้อๆ หรือจะเอาให้ไหมแก้วมีคู่    heydon ขี้เกียจเสียด้วย เขียนก็ช้า   ตอนหลังให้คนอ่านไปจินตนาการเองต่อน่าจะดีเนอะ 

     

    oss-spy   ยังจำทางมาหาเราได้ด้วย ดีใจจัง   เจ้าคิดเจ้าแค้น แค้นฝังลึก เหมือนคนแต่งนะสิ เหอๆๆ heydon ชั่วร้าย

     

    จ๋อม           คนแก่ๆนี่ จำเรื่องหวยแม่นเนอะ  มีเวลาอ่านนิยายเหรอ หรือมาเยี่ยม (heydonโผเข้าซบ อก ร่ำไห้ด้วยความปลาบปลื้ม เพื่อนหน้าเกือบแก่)  

     

     ต้นหอม     เขียนชื่อเราผิด เราไม่ว่า มาอ่านนิยายก็พอ จะเรียกคนแต่งว่าไร คนแต่งยอมหมด ใจง่ายมากๆ     ...555+ ถูกหวยก็ดีดิ  แต่บังเอิญเป็นพวกไม่ค่อยมีลาภ เฮ่อ !    

    อุ้ย  เกือบลืม  ตอนต่อไป........ ไม่อยากบอกเลย เพราะพอบอกมันต้องทำ ปกติไม่เคยบอก จะหายหัวหายตัวพร้อมพยุงไขมันไปด้วย   เดี๋ยวนะขอดูเวลาแป๊ปๆ  

                  คนอ่านมีเวลาพอที่จะเจอ heydon กวนประสาทมั้ย    เจอกันวันที่  (3567 หาร  4   ทอน 75 สตางค์   ที่เหลือ  คูณ 9 ลบ 8000   แถมอีก 1  นะคะ)   ของเดือนมีนาคม 52        จะได้วันตรงกันมั้ยนะ เหอๆๆ     เล่นครั้งนี้ ครั้งเดียวไม่เล่นละ ก็อยากเล่นนะสิ        

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×