ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สวดมนต์ เจริญธรรม เจริญปัญญา

    ลำดับตอนที่ #7 : บทสวด มงคลสูตร พร้อมคำแปล

    • อัปเดตล่าสุด 17 มิ.ย. 55


     

    บทสวด มงคลสูตร(มงคลปริตร)

    เอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม ฯ อะถะโข อัญญะตะรา เทวะตา อะภิกกันตายะ รัตติยา อะภิกกันตะวัณณา เกวะละกัปปัง เชตะวะนัง โอภาเสตวา เยนะ ภะคะวา  เตนุปะสังกะมิ อุปะสังกะมิตวา ภะคะวันตัง อะภิวาเทตวา เอกะมันตัง อัฏฐาสิ ฯ เอกะมันตัง ฐิตา โข สา เทวะตา ภะคะวันตัง คาถายะ อัชฌะภาสิฯ 

    ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้เมืองสาวัตถี ครั้งนั้นแล ครั้นปฐมยามล่วงไปแล้ว เทวดาตนหนึ่งมีรัศมีงามยิ่งนัก ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างไสว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคาถาว่า

    พะหู เทวา มะนุสสา จะมังคะลานิ อะจินตะยุง อากังขะมานา โสตถานังพรูหิ มังคะละมุตตะมังฯ 

    หมู่เทวดาและมนุษย์เป็นอันมาก ผู้หวังความสวัสดี ได้คิดถึงเรื่องมงคลแล้ว ขอพระองค์ทรงตรัสบอกทางมงคลอันสูงสุดเถิด  พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า 

                    อะเสวะนา จะ พาลานัง           ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา 
    ปูชา จะ ปูชะนียานัง                                   เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ 
                   การไม่คบคนพาล                     การคบแต่บัณฑิต
    การบูชาบุคคลผู้ควรบูชา           ทั้ง ๓ ประการนี้ เป็นมงคลอันสูงสุด
                   ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ              ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา 
    อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ                                 เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
                   การอยู่ในสถานที่อันสมควร        ความเป็นผู้มีบุญอันได้กระทำไว้แต่กาลก่อน
    การตั้งตนไว้โดยชอบตามทำนองคลองธรรม       ทั้ง ๓ ประการนี้ ก็เป็นมงคลอันสูงสุด
                   พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ             วินะโย จะ สุสิกขิโต 
    สุภาสิตา จะ ยา วาจา                                     เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ 
                   ความเป็นผู้ได้ยินได้ฟังธรรมและปฎิบัติธรรมมาก    ความเป็นผู้มีศิลปวิทยา  ความเป็นผู้ได้ศึกษาเล่าเรียนและปฎิบัติในระเบียบวินัยเป็นอันดี  การกล่าววาจาที่เป็นธรรมและไพเราะ  แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด
                   มาตาปิตุอุปัฏฐานัง                   ปุตตะทารัสสะ สังคะโห
    อะนากุลา จะ กัมมันตา                              เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ 
                   การอุปัฎฐากบำรุงบิดามารดาให้เป็นสุข     การสงเคราะห์บุตรและภรรยาให้มีความสุข
    การทำการงานให้เสร็จเรียบร้อยไม่คั่งค้าง  ทั้ง ๓ ประการนี้ เป็นมงคลอันสูงสุด
                   ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ            ญาตะกานัญจะ สังคะโห 
    อะนะวัชชานิ กัมมานิ                                     เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
                   การให้ทาน การประพฤติธรรม การสงเคราะห์ญาติและคนใกล้ชิดทั้งหลาย
    การทำงานที่ไม่ประกอบด้วยโทษทั้งทางโลกและทางธรรม   แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด
                   อาระตี วิระตี ปาปา                    มัชชะปานา จะ สัญญะโม 
    อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ                                 เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ 
                   การงดเว้นจากการทำบาปทั้งหลาย   การงดเว้นจากการดื่มน้ำเมา
    ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย     ทั้ง ๓ ประการนี้ เป็นมงคลอันสูงสุด
                    คาระโว จะ นิวาโต จะ                สันตุฏฐี จะ กะตัญญุตา 
    กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง                               เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ 
                    การเคารพต่อบุคคลและสิ่งที่ควรเคารพ  ความไม่เย่อหยิ่งจองหอง  ความสันโดษยินดีในสิ่งที่ตนมีอยู่และสิ่งที่ตนพึงหาได้โดยชอบธรรม    ความเป็นผู้มีกตัญญญูรู้คุณที่ท่านได้ทำไว้แล้วแก่ตน   การได้ฟังธรรมคำสอนของสัตบุรุษตามกาลเวลาอันสมควร แม้ทั้ง ๕ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด
                  ขันตี จะ โสวะจัสสะตา                สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง 
    กาเลนะ ธัมมะสากัจฉา                                      เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ 
                    ความเป็นผู้มีขันติความอดทน   ความเป็นผู้ว่านอนสอนง่าย    การได้เห็นสมณพราหมณ์ผู้ทรงศีลทั้งหลาย การได้เจรจาสนทนาธรรมตามกาลเวลาอันสมควร    แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด
                   ตะโป จะ พรัหมะจะริยัญจะ            อะริยะสัจจานะ ทัสสะนัง 
    นิพพานะสัจฉิกิริยา จะ                      เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ 
                   การมีความเพียรเพื่อเผากิเลส   การประพฤติพรหมจรรย์คือปฎิบัติตนให้เป็นผู้ประเสริฐ  การมีปัญญาเห็นอริยสัจทั้งหลาย   การทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน   แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด
                    ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ                    จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ 
    อะโสกัง วิระชัง เขมัง                         เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
                   การทำจิตไม่ให้หวั่นไหวในโลกธรรมที่มากระทบ   การไม่ทำใจให้เศร้าโศก    การทำจิตให้ปราศจากธุลีคือกิเลสทั้งหลาย   การทำจิตให้ถึงพระนิพพาน   แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด
                    เอตาทิสานิ กัตวานะ                      สัพพัตถะมะปะราชิตา 
    สัพพัตถะ โสตถิง คัจฉันติ               ตันเตสัง มังคะละมุตตะมันติ ฯ 

                   อนึ่ง เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย  เมื่อได้กระทำมงคลทั้งหลายเช่นนี้แล้ว  ย่อมเป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ทั้งปวง  และย่อมถึงความสวัสดีในที่ทั้งปวง    ทั้งหมดนั้นเป็นมงคลอันสูงสุด ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเหล่านั้นแล ฯ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×