ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fake Mask] หน้ากากซาตาน (Yonghwa/Seohyun-YongSeo)

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8 : คิสมาร์ก

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 58


                

              ทางด้านอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะที่เมื่อไม่นานมานี้ซอฮยอนเคยยืนอยู่ หญิงสาวกำลังจิบแอลกอฮอร์อย่างอารมณ์ดี ท่าทางไร้เดียงสาของเธอดึงดูดผู้ชายอีกฟากหนึ่งของโต๊ะเป็นอย่างมาก ผิวขาวเนียนสวมชุดเดรสของห้องเสื้อดังแบรนด์หนึ่ง เดรสแหวกเว้าลึกลงกลางหลัง เผยให้เห็นหลังขาวเนียนของหญิงสาว ใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ตกแต่งด้วยการแต่งหน้าอ่อนๆนั้นช่วยส่งให้เธอดูเจิดจรัสราวกับนางฟ้าเหลือเกินในคืนนี้
     
              ‘’คืนนี้จะออกล่าเหยื่อเหรอฮยอง’’ มินฮยอกแซวขึ้นอย่างรู้ทัน

              ‘’ไม่แน่ว่ะ ยัยนั่นน่ากินชิบ’’ 
              จงฮยอนตอบตามความเป็นจริง ซึ่งเสือผู้หญิงอย่างเขามีเหรอที่จะไม่รู้สึกอะไรกับสาวสวยตรงหน้า นั่นเป็นความจริงที่ว่าหนุ่มๆวง CNBLUE ออกจะโชกโชนเรื่องสาวสต็อคไปซะหน่อย แต่ถ้าเขายังคงผลิตเพลงคุณภาพออกมาดีๆก็คงไม่มีใครว่าอะไรพวกเขาหรอกนะ แต่แน่นอนว่าสำนักข่าวในเกาหลีชอบเหลือเกินที่จะนำเสนอข่าวด้านลบของพวกเขา

             ‘’น่ากินก็จัดสิครับ รอไร’’ มินฮยอกพูดเป่าหูจงฮยอนอย่างนึกสนุก จงฮยอนที่ครุ่นคิดอยู่สักพักก็รินค็อกเทลใส่ลงในแก้วเปล่า หลังจากนั้นเขาจึงหยิบซองเล็กๆที่บรรจุไปด้วยผงเล็กๆสีขาวขึ้นมาเปิดแล้วเทลงในแก้ว

     

          จงฮยอนเมื่อหยิบแก้วแล้วจึงลุกขึ้นตรงไปยังอีกฟากของโต๊ะ ซึงยอนที่ยังคงไม่รู้เรื่องรู้ราวจิบแก้วเหล้าที่ถืออยู่อย่างต่อเนื่อง

     

              ‘’ขอโทษนะครับ สนใจออกไปสูดอากาศข้างนอกด้วยกันมั้ย’’ 

             จงฮยอนส่งยิ้มกระชากใจให้ซึงยอน ซึ่งเธอมีสีหน้าตกใจสุดขีด สีหน้าของเธอบ่งบอกได้เลยว่าเธอช็อคมากจริงๆที่เห็นชายร่างสูงมายืนอยู่ตรงหน้า

            ‘’ละ ละ ลี จะ จงฮยอน!?’’ ซึงยอนพูดออกมาอย่างยากลำบาก เธอตกใจเกินกว่าจะพูดแบบปกติออกมาได้ ยูริที่นั่งกดโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นมองชายปริศนาที่ยืนเหนือหัวซึงยอนอยู่ เธอเบิกตานิดๆ สายตาคำนวณชายตรงหน้าก่อนจะเริ่มขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่ายูริรู้อะไร

            ‘’รู้จักผมแล้วสินะครับ แล้วจะไปด้วยกันมั้ย’’ จงฮยอนฉีกยิ้มน้อยๆโชว์ลักยิ้มบุ๋ม ซึ่งภาพนี้ทำให้ซึงยอนอยู่ไม่เป็นสุข ใครก็ได้บอกทีว่าแฟนคลับซีเอ็นบลูอย่างเธอจะมาเจอศิลปินในฝัน แถมเขายังชวนเธอออกไปสูดอากาศ ให้ตายเถอะ ใครก็ได้หยิกซึงยอนให้ตื่นที!

              ‘’เธอคงไม่อยากไปหรอกค่ะคุณจงฮยอน บางทีตอนเธอไปแล้วเนี่ย อาจจะกลับมาแบบกระเซอะกระเซิงก็ได้’’  

              ยูริขัดขึ้น ซึงยอนหันไปมองทางยูริอย่างหน้าเสียทั้งๆที่เธอก็ยังไม่รู้ว่ายูริพูดถึงอะไร จงฮยอนเช่นกัน เขามองเธอด้วยสายตาเรียบๆอย่างเดาไม่ถูกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่แล้วจงฮยอนก็ยิ้มน้อยๆ

            ''อันที่จริงเรื่องนี้ต้องถามเจ้าตัวนะครับ เพราะผมไม่ได้ชวนคุณ''  

            หลังจงฮยอนพูดจบยูริทำท่าจะลุกขึ้นมาข่วนหน้าจงฮยอนอย่างทนไม่ได้กับความปากไม่ดีของเขา แต่ซึงยอนช่วยห้ามสถานการณ์ไว้

              ‘’ ไม่เป็นไรหรอกค่ะยูริออนนี่ -- คุณจงฮยอนไม่ทำอะไรซึงยอนหรอกค่ะ อีกอย่างออนนี่ก็รู้ว่าซึงยอนเป็นแฟนเพลงของ เอ่อ ของเค้าน่ะค่ะ’’  

              ซึงยอนดื้อดึงจะขัดยูริ นี่มันเป็นโอกาสทองของเธอเชียวนะที่จะได้ใกล้ชิดกับศิลปินที่ตัวเองรัก และแฟนคลับที่ติดตามข่าววงนี้อย่างเธอรู้ดีว่าหนุ่มๆวงนี้น่ะนิสัยดีกันทุกคนและก็เทคแคร์แฟนคลับด้วย ‘’นะคะออนนี่’’

               ‘’ตามใจเธอเถอะ อยากโดนคาบไปกินตั้งแต่ยังไม่แต่งงานก็ตามใจ’’  ยูริเหน็บซึงยอนแรงๆหนึ่งทีเพื่อจะให้เธอคิดได้ แต่เห็นได้ว่าซึงยอนคิดว่าคำพูดนี้เป็นคำพูดตอบตกลงที่อนุญาตให้เธอออกไปเดินเล่นกับจงฮยอน เธอพยักหน้าเบาๆให้จงฮยอนอย่างเขินๆหนึ่งทีอย่างเขินๆก่อนจงฮยอนจะผายมือเชิญเธอไป ยูริที่โดนเด็กน้อยไร้เดียงสาอย่างซึงยอนขัดใจถึงกับสบถคำด่าสองสามคำออกมาอย่างหัวเสีย จงฮยอนหันหลังกลับมาเลิกคิ้วข้างหนึ่งใส่เธอก่อนจะค่อยๆเดินพาซึงยอนออกไปข้างนอก

              ‘’แรดจริงๆยัยเด็กบ้า ไม่รู้รึไงว่าประวัติวงนี้มันพวกเสือผู้หญิง!’’ 

              ยูริพึมพำพร้อมขมวดคิ้วก่อนจะหยิบแก้วทรงสวยขึ้นกระดกแอลกอฮอร์จนหมดแก้วภายในเวลาไม่กี่วินาที เวลาเดียวกันกับที่เธอวางแก้วลง สายตาก็ไปปะทะกับเขา

     

    ‘’คัง มินฮยอก’’

     

              ยูริมองบุคคลตรงหน้าที่กำลังมองมาทางเธออย่างไม่เลื่อมใส เธอเบะปากให้เขาอย่างพาลๆที่ซึงยอนเดินออกไปกับจงฮยอนผู้ซึ่งที่อยู่วงซีเอ็นบลู เห็นได้ชัดว่าผู้ชายวงนี้ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นผู้ชายที่เจ้าชู้ที่สุด แม้เขาจะดีกับแฟนคลับก็จริง แต่เรื่องนี้มันก็คนละเรื่อง พวกสวมหน้ากาก สร้างภาพ ยูริคิด

     

              ขณะเดียวกัน ฮอร์โมนในตัวของมินฮยอกเกิดพลุ่งพล่านขึ้นเมื่อกระดกแอลกอฮอร์รวดเดียวหมด เขาจ้องมองหญิงสาวที่อยู่โต๊ะเดียวกับซอฮยอนที่ป่านนี้ก็ไม่รู้หายหัวไปไหน ซึ่งยงฮวาก็หายไปเช่นกัน  บางอย่างในตัวผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาไม่สามารถละสายตาจากเธอได้ เหมือนกับเขาเคยเจอเธอที่ผับนี้มาก่อน แถมตอนนั้น เธอไม่คิดจะเล่นกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว!

     

     

     

     

     

     

     

              ยงฮวาจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อยอีกทีก่อนจะพาซอฮยอนออกมายังห้องน้ำของตัวผับ เขาประคองตัวเธออย่างอ่อนโยนก่อนจะค่อยๆพาเดินไปตามทาง ซอฮยอนที่อยู่ภายใต้อ้อมกอดหลวมๆของเขาหน้าร้อนขึ้น  แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

     

              ‘’ กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวไปส่ง’’ ยงฮวากำลังอารมณ์เสีย ระหว่างทางขณะที่เขาพาซอฮยอนเดินออกไปก็มีสายตาของผู้ชายตามทางมองซอฮยอนด้วยท่าทีกระลิ้มกระเหรี่ย ซึ่งสร้างความรำคาญปนเพิ่มอารมณ์ให้ยงฮวาเป็นอย่างมาก ผู้ชายข้างทางพวกนั้นกำลังทำให้ซอฮยอนตกที่นั่งลำบาก เพราะยงฮวาโอบเธอแน่นขึ้นอย่างแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ

              ‘’ ปล่อยเถอะ เจ็บ’’ ซอฮยอนครางอย่างอึดอัดเล็กน้อย ยงฮวาที่ได้ยินทุกคำที่เธอพูดกำลังเพิ่มแรงโอบรอบเอวเธอเข้าไปอีก

              ‘’ รำคาญว่ะ มองอะไรนักหนา’’  ยงฮวาพูดเสียงดังอย่างอารมณ์เสียก่อนจะอุ้มซอฮยอนขึ้นมาในเกือบจะทันที เธอกรี๊ดออกมาอย่างตกใจ แต่แล้วเมื่อสายตาคนรอบข้างเริ่มมองมายงฮวาจึงรีบเดินออกไปทันที

     

              ยงฮวาอุ้มซอฮยอนออกมาจนถึงลานจอดรถที่ตนจอดไว้ก่อนเข้ามาที่นี่ เขายัดซอฮยอนลงไปบนเบาะโดยที่มีซอฮยอนดิ้นเบาๆอย่างต่อต้านที่จะกลับเข้าไปหาเพื่อนๆ แต่ก็โดนยงฮวาดุจนได้

     

              ‘’ เริ่มสร่างเมาแล้วสิ ดื้อใหญ่แล้วนะซอฮยอน’’  ยงฮวาก้าวขาขึ้นนั่งฝั่งคนขับก่อนจะปิดประตูรถให้เรียบร้อย ซอฮยอนค้อนยงฮวาอยู่หนึ่งทีก่อนจะพบว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะทำการต่อล้อต่อเถียงกับเขา เธอจึงเลือกเก็บอารมณ์ไว้ในใจ

               ‘’บ้านอยู่ไหน’’  ยงฮวาถาม ซึ่งซอฮยอนไม่ตอบ

              ‘’ ซอฮยอน อย่าดื้อกับฉันนะ’’  ยงฮวาพูดเสียงเย็น ซึ่งเธอหันมองเขาแปปหนึ่งก่อนจะบอกรายละเอียดไป

              ‘’ แล้วรถฉันล่ะ จะไปเอาจากที่ผับมายังไงถ้านายมาส่งฉันแบบนี้’’  ซอฮยอนถามเสียงแข็ง ‘’เพื่อนๆอีก ฉันจะกลับออกมาก่อนได้ไงเล่า’’

              ‘’ เอากุญแจรถมาดิ เดี๋ยวส่งเธอเสร็จจะขับไปเอามาให้’’ 

              ‘’ แล้วจะไปส่งพวกเมมเบอร์ยังไงล่ะ วนตั้งหลายเที่ยว’’

              ‘’ กี่เที่ยวก็วนได้ แล้วเดี๋ยวขากลับจะไปบอกให้เอง อย่าถามมาก รำคาญ’’

     

              หลังจบประโยคซอฮยอนหันหน้ามองตรงอย่างเดิมก่อนจะนั่งเงียบๆ นานอยู่หลายนาที.. เธอเคลิ้มกับความเงียบภายในตัวรถมากจนเผลอหลับไป ยงฮวามองทางสลับผู้ร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาลอบยิ้มออกมาโดยที่เธอไม่เห็น ยงฮวาขับรถมาถึงหน้าบ้านของซอฮยอน ซอฮยอนที่นอนหลับตาพริ้มภายใต้ขนหน้างอนทำให้เธอดูไม่มีพิษภัย ไม่เหมือนซอฮยอนที่ตื่นมาแล้วเอาเสียเลย บางอย่างในตัวเธอดึงดูดให้เขาขยับหน้าเข้าไปใกล้ -- ยงฮวาแตะริมฝีบางลงบนปากบางของเธอ เขาแช่จูบอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะพอใจ ซอฮยอนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องแต่เธอดันขยับริมฝีปากเล็กน้อยเหมือนเคลิบเคลิ้มกับจูบของเขาทั้งๆที่เธอยังไม่ลืมตา เนิ่นนานอารมณ์ของเขาก็พุ่งสูงขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ นั่นจึงทำให้เขาถอนริมฝีปากออกมาอย่างเสียดาย ซอฮยอนขยับตัวเล็กน้อย ก่อนยงฮวาจะตัดสินบีบแตรรถให้สัญญาณคนด้านในบ้าน แม่บ้านคนหนึ่งเดินออกมาเปิดประตูให้เขาหลังจากเห็นว่ายงฮวาลดกระจกรถลงและเห็นซอฮยอนนอนอยู่ เขาขับรถเข้าไปยังบ้านหลังงามที่ตกแต่งสไตล์ยุโรป

     

              ‘’ ซอฮยอน!’’  เสียงชายวัยกลางคนตะโกนเรียกชื่อเธอเสียงดัง ซึ่งเธอไม่รู้สึกตัวอีกแล้วเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอร์ ยงฮวาเปิดประตูก่อนจะไปอุ้มซอฮยอนที่นอนไม่รู้สติ เขาอุ้มเธอพลางเดินไปหาท่านประธานซอ

              ‘’ อะไรกันเนี่ยยงฮวา แล้วเสื้อผ้านี่อะไรกัน ยัยลูกคนนี้’’ ท่านประธานซอถามอย่างสงสัยอย่างเป็นห่วงซอฮยอน

              ‘’ เปล่าหรอกครับ เธอเมามากผมเลยอาสามาส่งที่บ้าน’’  ยงฮวาตอบท่านประธานอย่างไม่ให้รายละเอียดอะไรมากนัก ซึ่งเห็นทีประธานซอจะไม่ได้สงสัยอะไรต่อ เพียงแต่ให้ยงฮวาช่วยเหลือด้วยการอุ้มเธอต่อไปยังห้องนอนด้านบน เขาวางเธอลงบนเตียงนุ่มก่อนจะหยิบผ้าห่มขึ้นคลุมตัวซอฮยอนโดยที่มีท่านประธานมองดูอยู่

              ‘’ เมาอะไรขนาดนั้นเนี่ยยัยซอ แล้วพรุ่งนี้ก็มีซ้อมใหญ่ไม่ใช่เหรอยงฮวา ดึกมากแล้วนะ’’

              ‘’ ครับ แต่คอนโดผมอยู่ใกล้เลยตื่นสายได้หน่อยน่ะครับ’’

              ‘’ เหลือก็แต่ยัยซอฮยอนนั่นแหละ ว่าแต่ฉันก็ยังไม่ได้ซื้อคอนโดให้ซอฮยอนอยู่เลย จะไปดูงานที่ญี่ปุ่นแล้วด้วย’’

     

              ท่านประธานซอมีแพลนว่าจะไปดูแลบ่อนที่ญี่ปุ่นประมาณอาทิตย์หน้า เขายังไม่ได้บอกซอฮยอน และเขาจะต้องรีบจัดการซื้อคอนโดให้เธออยู่ได้แล้ว ซอฮยอนกลายเป็นรองเมเนเจอร์เต็มตัว แถมบ้านหลังนี้ยังไกลจากบริษัทอยู่มากด้วย ถ้าเธอเกิดไปทำงานสายหรืออะไรขึ้นมานั่นก็เพราะความไม่เตรียมตัว

     

              ‘’ ถ้าฉันไม่อยู่ฝากดูแลซอฮยอนด้วยนะยงฮวา’’ ท่านประธานฝากซอฮยอนกับยงฮวา ซึ่งเขาโค้งน้อยๆอย่างตอบรับ

              ‘’ ผมไปก่อนนะครับ เดี๋ยวต้องไปเอารถให้ซอฮยอนด้วย’’  ยงฮวาโค้งอีกครั้งทำความเคารพท่านประธาน

              ‘’ ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันให้คนขับรถไปเอาให้แทน’’  หลังจากประธานซอพูดจบยงฮวาก็หยิบกุญแจรถของซอฮยอนส่งคืนให้ประธานซอ เขาพูดบอกลากันอยู่พักหนึ่งก่อนจะขอตัวกลับไปรับเมมเบอร์

     

             

     

     

              ซอฮยอนรู้สึกตัวตื่นขึ้นอีกทีเมื่อแสงเล็กๆลอดผ่านผ้าม่านลายสวยผ่านเข้ามายังเตียงหรูขนาดคิงส์ไซต์ เธอยกมือขึ้นนวดขมับอยู่สองสามทีเพื่อคลายอาการปวดหัวที่เกิดขึ้น ซอฮยอนค่อยๆกระพริบตาเพื่อปรับสภาพ

     

               เธอเงยหน้ามองนาฬิกาเรือนสวยที่ติดอยู่บนผนังเหนือทีวีขึ้นไป แล้วเธอก็พบว่าเธอควรจะต้องตื่นไปทำงานได้แล้ว แต่อาการปวดหัวอยู่เป็นพักๆนี้ทำให้ซอฮยอนจะขอลางาน เธอลุกขึ้นนั่งบนเตียงก่อนจะเดินไปหน้าโต๊ะเครื่องแป้งสำรวจใบหน้าตัวเองหลังจากที่เมื่อวานเธอจำได้ว่าเธอเมามาก และจำไม่ได้ด้วยว่ามานอนอยู่บนเตียงได้ยังไง

     

              รอยแดงรอยหนึ่งเด่นชัดอยู่บนซอกคอขาว เธอขมวดคิ้วหนักๆก่อนจะค่อยๆเอียงคอที่มีรอยแดงเข้าใกล้กระจกโต๊ะเครื่องแป้งขึ้นอีก ซอฮยอนตกใจมากเพราะรอยที่ว่าเป็นรอบ kiss mask แล้วมันมาอยู่บนตัวเธอได้ยังไงกัน

     

              ซอฮยอนคิดทบทวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอย่างหนักหัวสมอง เธอพยายามคิดเรื่องที่เกิดขึ้น และแล้วก็เหมือนมีคนมาจุดไฟในสมองในเธอ หัวสมองของซอฮยอนพากันหลั่งไหลเรื่องราวตั้งแต่เมื่อคืนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ทุกเรื่องดูจะเป็นฉากเป็นตอนแบบไม่ประติดประต่อกัน แต่เห็นได้ชัดว่าคนฉลาดแบบเธอคงไม่โง่ถึงขนาดไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น  ใบหน้าสวยขึ้นสีอย่างเด่นชัด หน้าร้อนผ่าวของซอฮยอนเผยให้เห็นว่าเธอจำเรื่องที่เกิดขึ้นได้แล้ว เธอเองเนี่ยแหละที่เป็นคนรุกเขา แถมเธอยังจำได้ด้วยว่าเขาเป็นคนหยุดทุกการกระทำขึ้นมาเสียดื้อๆ นี่เธอเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมา แล้วรอย kiss mask ก็ไม่สามารถลบออกไปได้ภายในสองสามวันด้วย

     

              ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เธอถอดเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้เปลี่ยนตั้งแต่เมื่อคืนตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง คล้ายกับว่าซอฮยอนกำลังพิสูจน์อะไรบางอย่าง เดรสตัวสวยเคลื่อนลงไปจนถึงหน้าท้องบาง บราสีดำโชว์เด่นสะท้อนอยู่กับกระจกโต๊ะเครื่องแป้ง รอยคิสมาร์กปรากฏอยู่สามสี่จุดบริเวณเนินอก เมื่อเห็นดังนั้น ซอฮยอนสีหน้าเห่อขึ้นพร้อมกับอารมณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่าโกรธหรืออาย หรือแม้กระทั่ง เธอไม่สามรถบอกได้ว่าเธอเกิดรู้สึกอะไรขึ้นมาอย่างรุนแรงกับยงฮวาหรือเปล่า..

     

              ‘’ ซอฮยอน ตื่นหรือยังลูก’’  เสียงเคาะประตูขัดอารมณ์ของซอฮยอน เธอรีบหยิบเสื้อผ้าขึ้นแต่ง แต่ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดประตูให้ท่านประธาน

              ‘’ ตื่นแล้วค่ะพ่อ’’ 

              ‘’ วันนี้ไหวไปทำงานไหมลูก’’ 

              ‘’ ไม่ไปค่ะ!’’ 

     

              ซอฮยอนรีบโพล่ง เธอยังไม่พร้อมเจอหน้ายงฮวาตอนนี้ ตอนที่เธอมีรอยบ้าอะไรก็ไม่รู้เต็มตัวไปหมด กว่ารอยจะหายไม่ปาไปอาทิตย์กว่าเหรอ แถมสีของมันยังเด่นชัดจนมากจนเธอนึกไม่ออกมารองพื้นดีๆยี่ห้อไหนจะปกปิดรอยบ้าๆพวกนี้ได้ นี่เธอหลงกับดักไอหัวหน้าวงนั่นไปแล้วหรือ แม้จะยังไม่เสียความบริสุทธิ์ แต่เกิดเรื่องขึ้นแบบนี้เธอก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน!





    -------------------------------------------------------------------------------------------------------

    แต่งตอนนี้จบไรเตอร์อาจจะหายหน้าไปเลยนะคะ เพราะสายโน๊ตบุ๊คพังค่ะ อันนี้ยืมของเพื่อน ยังไงก็อย่าลืมเม้นต์ให้กำลังใจกันด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ปล.บรรทัดไม่ค่อยตรงนะคะ ไม่รู้เป็นอะไร จะแก้ไขให้เร็วที่สุดค่ะ 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×