ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fake Mask] หน้ากากซาตาน (Yonghwa/Seohyun-YongSeo)

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 7 : เกินเลย

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 58




              การถ่ายแบบน้ำหอมแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Kalvin Klein ในตีมแบดบอยเป็นไปอย่างราบรื่น แม้ในตอนแรกยงฮวาจะทำทีมล่าช้าไปบ้างแต่พวกเขาทุกคนก็มีความเป็นมืออาชีพอยู่ในตัว ทุกคนนั้นสามารถถ่ายทอดอารมณ์ความหรูหราและดิบเถื่อนออกมาได้เป็นอย่างดี แม้กระทั่งมินฮยอกที่ดูเหมือนจะเป็นผู้ชายขี้เล่นซุกซน ก็ยังพรีเซ้นท์ออกมาได้อย่างดีไม่มีที่ติ

     

              ‘’เสร็จแล้วครับ ขอบคุณที่ทำงานกันอย่างดีนะครับ’’ 

              

              ตากล้องอาวุโสมากความสามารถลุกขึ้นกล่าวกับทีมงานและสมาชิกซีเอ็นบลู ซึ่งทุกคนโค้งขอบคุณให้ตากล้องและกล่าวขอบคุณทุกคนกลับ เมื่อพวกเขาเลิกถ่ายแล้วจึงพากันไปยังห้องแต่งตัวเพื่อจะเตรียมตัวไปทำธุระของตัวเองกันต่อ เนื่องจากวันนี้มีแค่ตารางงานถ่ายแบบแล้วพรุ่งนี้ถึงจะลุยซ้อมดนตรีกันอย่างหนักเพื่อทัวร์คอนเสิร์ตที่จะถึงนี้

     

              สมาชิกทั้งสี่คนเดินตรงมายังห้องซ้อมโดยไม่ลืมที่จะเดินผ่านซอฮยอนที่นั่งอยู่ตรงแสงไฟสลัวๆมืดๆ เธอนั้นนั่งกดโทรศัพท์อย่างขะมักเขม้นจนกระทั่งสังเกตได้ว่ามีคนยืนจ้องอยู่เหนือหัว เธอจึงเงยหน้าขึ้น

     

              ‘’มีไร’’ ซอฮยอนมองพวกเขาอย่างไม่ไว้ใจ

              ‘’เปล่า แค่จะมาขอบคุณที่ช่วยจัดชุดให้’’ จองชินที่เดินนำหน้ามาพูดขอบคุณเธอ ‘’แล้วยัยปาร์คนั่นก็ตกส้วมตายไปแล้วมั้ง’’

              ‘’รีบเปลี่ยนเสื้อเถอะ จะกลับบ้าน’’ ซอฮยอนปัดมือเร็วๆสองสามทีอย่างรำคาญและเขินหน่อยๆที่เขาพูดขอบคุณเธอ

              ‘’เออ รอแปป’’ จองชินพูดอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะนำทีมไปเปลี่ยนเสื้อผ้า มินฮยอกที่ยิ้มกรุ้มกริ่มให้ซอฮยอนแถมด้วยจงฮยอนที่กระตุกยิ้มเล็กๆอย่างรู้อะไร นั่นทำให้ซอฮยอนหัวเสียมากในความกวนของพวกเขา เธอก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์อย่างเดิมอย่างไม่สนใจสมาชิกคนสุดท้ายที่เดินตามหลังมา

             

              ยงฮวาที่รู้ถึงอาการเขินปนอายของซอฮยอนจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ เขานั้นเดินช้าๆแล้วใช้ขายาวข้างที่ใกล้ที่สุดเตะเก้าอี้ของเธอเบาๆเพื่อจะให้เธอหันหน้ามามองเขา ซอฮยอนที่ลนๆแกล้งเล่นโทรศัพท์หันหน้าขึ้นมามองเขา ใบหน้ายู่ยี่ของเธอที่บ่งบอกได้ว่ายงฮวาแหย่ประสาทเธอสำเร็จแล้ว แต่แล้วซอฮยอนก็ไม่พูดอะไร

     

              รถตู้คันหรูราคาหลายล้านของบริษัทน้ำหอม Kalvin Klein ขับมาจอดยังหน้าสตูดิโอถ่ายแบบ สมาชิกในวงและซอฮยอนก้าวขาขึ้นไปบนรถอย่างเหน็ดเหนื่อย ซอฮยอนนั้นจำเป็นต้องนั่งที่นั่งข้างหน้ากับยงฮวาอย่างจำใจ และเธอก็รู้ด้วยว่าสมาชิกอีกสามคนที่เหลือวางแผนเรื่องทั้งหมด พวกเขาไม่ยอมปล่อยให้ซอฮยอนได้นั่งคนเดียวแบบสงบๆและดูเหมือนจะชอบใจเหลือเกินที่เธอต้องยุ่งเกี่ยวกับยงฮวาอยู่บ่อยๆในทุกๆสถานการณ์

     

              อากาศยามค่ำคืนเริ่มเย็นสบายมากขึ้นต่างจากตอนกลางวัน บ่งบอกได้ว่าฤดูร้อนกำลังจะผ่านพ้นไปและฤดูใบไม้ร่วงกำลังจะมา ใบไม้แห้งร่วงหล่นจากต้นไม้ตามทางต่างๆอย่างเต็มพื้น ซึ่งนั่นออกจะเป็นสีสันยามค่ำคืนเลยทีเดียว ไฟประดับที่แขวนอยู่ตามต้นไม้ข้างทางนั้นบ่งบอกได้ว่างานรื่นเริงกำลังจะเริ่มขึ้น

     

              ตื๊ด..ตื๊ด..

     

              โทรศัพท์เครื่องแพงของซอฮยอนสั่นไม่มีเสียงอยู่ในกระเป๋าแบรนด์เนมใบสวย  เธอมองคนรอบข้างอย่างกังวล ยงฮวาที่นั่งข้างเธอกำลังเหม่อมองออกไปข้างนอกอย่างไร้จุดหมาย และสมาชิกอีกสามคนก็กำลังเคลิ้มในเงียบของตัวรถ เธอจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ออกมา และเมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นใคร เธอจึงกดรับทันที

     

              ‘’ว่าไงคะออนนี่’’ ซอฮยอนพูดเสียงเบา แต่เสียงเบาที่ว่านั้นก็ปลุกทุกคนบนรถได้เป็นอย่างดี สายตาทุกคู่จ้องมองมาที่เธออย่างอยากรู้อยากเห็น ซอฮยอนนั้นเหล่ตามองพวกเขาอยู่แปปหนึ่งก่อนจะกลับมาคุยต่อ

              ‘’ย่าส์ ฉันไม่ได้คุยกับเธอมานานเธอพูดแบบนี้กับฉันเนี่ยนะยัยซอฮยอน!’’ 

               ปลายสายพูดเสียงดังตอบกลับมาอย่างหมั่นไส้ ซึ่งนั่นช่วยไม่ได้เลยที่เธอเลือกโทรมาผิดเวลาแบบนี้

              ‘’ยูริออนนี่ใจเย็นก่อนสิคะ ซอทำงานอยู่’’ ซอฮยอนพูดเสียงเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ในเมื่อทั้งรถไม่มีเสียงอะไรเลยจึงทำให้เสียงเธอเป็นจุดสนใจ

              ‘’อ้าว ฉันไม่รู้ ขอโทษ ฉันจะถามว่าวันนี้จะมามั้ย จองโต๊ะไว้แล้ว ยัยซึงยอนก็มา’’ ยูริถามซอฮยอนอย่างรู้กัน เหลือก็แต่คนข้างๆซอฮยอนนี่แหละที่ไม่รู้ว่าพวกเขาจะไปไหนกัน ยงฮวาพยายามเงี่ยหูฟังอย่างแนบเนียนโดยที่ซอฮยอนไม่ได้สนใจ

              ‘’ขอเวลาอีกชั่วโมงได้มั้ยคะ ซอจะไปถึงบริษัทแล้ว แต่เดี๋ยวจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในรถแทน’’

              ‘’รีบมานะยัยตัวแสบ เอ้อ จะบอกว่าวันนี้พี่ๆของพวกเธอไม่มานะ แทยอนไปเที่ยวกับฟานี่ที่อเมริกา ไม่รู้จะไปไหนด้วยกันบ่อยๆก็ไม่รู้ -- ส่วนยัยซันนี่กับฮโยก็ไปดริ๊งค์ที่อื่น ยุนอาไปม่อน้องๆเรดเบล ส่วนยัยซูยองกับเจสสิก้าไปนู่นแล้ว ฮ่องกง’’ 

              ยูริอธิบายยาวเหยียด เห็นได้ชัดว่าซอฮยอนมีเพื่อนเยอะแยะกว่าที่เห็นมาก เธอมีพี่ๆแปดคนที่คอยดูแลเธอมาตลอด ไม่ต้องสงสัยว่าทั้งหมดไปเจอกันที่ไหน ก็ที่อเมริกาตอนเธอไปเรียนที่นั่นนั่นแหละ ทิฟฟานี่กับเจสสิก้าเป็นคนก่อตั้งโคเรียแก๊งขึ้นมา และในที่สุดทั้งหมดก็ได้ฤกษ์กลับมาใช้ชีวิตที่เกาหลี

              ‘’พี่แทกับพี่ฟานี่ไปเมกาอีกแล้วเหรอคะ!?’’ ซอฮยอนตกใจเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าทั้งคู่จะหายตัวไปเป็นนินจาแบบนี้ เธอได้ข่าวว่าสองวันก่อนพวกเธอเพิ่งจะกลับมาจากฮ่องกง

              ‘’ก็อย่างว่าแหละ ฉันว่าสองคนนี้มีท่าทางแปลกๆ ถ้าอย่างที่คิดล่ะนะ เบี้ยนชัวร์ เชื่อยูริออนนี่คนนี้ดิ ไม่พลาดหรอก’’ ยูริเริ่มเม้าท์ แต่เห็นทีซอฮยอนต้องลดระดับเสียงความดังการโทรลง เธอสังเกตได้ว่าสมาชิกซีเอ็นบลูทั้งสี่คนกำลังฟังเธออยู่

              ‘’ออนนี่คะ ไว้ค่อยคุยได้มั้ยคะ เดี๋ยวซอจะถึงบริษัทแล้วค่ะ’’ 

              ซอฮยอนพูดอย่างรวดเร็ว ยูรินั้นตะโกนมาว่าให้เธอรีบมาก่อนที่เธอจะกดตัดสายไป

     

              บัดนี้ทั้งรถเงียบกริบ มินฮยอก จองชิน และจงฮยอนกำลังมองมาที่ซอฮยอนอย่างใคร่รู้ ยงฮวาก็เช่นกัน เพียงแต่เขาไม่ได้จ้องเธอตรง

     

              ‘’ย่าส์ ยัยตัวแสบ!’’ 

              มินฮยอกตะโกนล้อเลียนซอฮยอน เขาไม่รู้ว่าปลายสายเป็นใครแต่ก็ยังเสียมารยาทพูดเลียนเสียงตามยูริ ซึ่งเธออยากจะยกอะไรก็ได้ที่หนักๆทุ่มเขาให้รู้แล้วรู้รอด

              ‘’ไหนคุณเมเนเจอร์บอกว่าจะกลับบ้านไงครับ แล้วนี่จะไปไหนอีกเนี่ย’’ จองชินที่จำได้ว่าซอฮยอนเอ็ดเขาว่าให้รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะเธอจะกลับบ้าน แต่แล้วก็ได้ยินเธอคุยโทรศัพท์ว่าจะออกไปไหนสักที่

              ‘’เมเนเจอร์อะไรทำตัวแซ่บชะมัดเลย กินเมเนเจอร์ได้มั้ยเนี่ย’’ จงฮยอนยิ้มตาหวานก่อนจะหุบยิ้มลงทันทีเนื่องจากโดนรัศมีอำมหิตที่แผ่มาจากยงฮวา

     

              เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงกว่า ทั้งหมดลงจากรถหน้าบริษัท S Entertainment ซึ่งก็ดึกมากแล้วจึงไม่มีแฟนคลับมารออย่างเช่นตอนเช้า จะมีก็ประปรายแต่ก็ไม่ได้มาก่อความวุ่นวายอะไร เพียงแค่มารอดูศิลปินที่ชอบก็เท่านั้น บ้างก็ตะโกนเรียกชื่อเมนที่ชอบ ซึ่งสมาชิกทุกคนโบกไม้โบกมือให้พวกเขาอย่างอารมณ์ดี แม้จะมีสีหน้าเหน็ดเหนื่อยจากการถ่ายแบบบ้างก็ตาม แต่รวมๆแล้วพวกเขาก็ดูแลแฟนคลับทุกคนดี(ซึ่งไม่มีซาแซงแฟนแบบเมื่อเช้าเลย) ยงฮวานั้นบอกให้ทุกคนกลับบ้าน เพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว พวกเขาคุยกับแฟนคลับอยู่แปปหนึ่งก่อนจะขอตัวกลับบ้าน ซึ่งแฟนคลับก็ไม่โวยวายและบอกลาพวกเขาแต่โดยดี

     

              ซอฮยอนที่เห็นว่าสมาชิกทุกคนเตรียมตัวจะกลับบ้านแล้ว เธอรีบชิงตัดหน้าไปที่ลานจอดรถก่อนเลยอันดับแรก ในใจนึกกลัวว่ายงฮวาจะเกิดบ้าบอชวนเธอไปทานต๊อกบกกีรอบดึกอีก เห็นอย่างนั้นไม่รอช้าจึงรีบกดเปิดประตูรถแล้วขับออกไปทันที

     

              สมาชิกทั้งหมดที่ดูเหมือนจะมองหาซอฮยอนเนื่องจากเธอหายตัวไปไหนก็ไม่รู้ ยงฮวาก็เช่นกัน เขามองหาเธอและรถของเธอก่อนจะพบว่ามันไม่ได้อยู่ที่นี่ สงสัยเธอจะรีบไปธุระกับรุ่นพี่ของเธอมั้ง พวกเขานั้นถามเรื่องเธอกันอยู่ไม่กี่ประโยคก่อนจะเลิกใส่ใจและพูดเรื่องคืนนี้ว่าพวกเขาจะไปแฮงเอ้าท์ที่ไหนดี

     

              ‘’ฮยอง ที่เดิมป่ะ Octagon’’ จงฮยอนถาม ซึ่งเขาพยักหน้า และแล้วหนุ่มๆทั้งสี่คนก็พากันขึ้นรถคันเดิมที่ตอนเช้ายงฮวาเป็นคนขับมาส่งพวกเขา

              ‘’อย่าดึกมากนะเว้ยฮยอง พรุ่งนี้มีซ้อมแต่เช้า’’ จองชินเตือนเพื่อนร่วมวงทุกคน ‘’เสร็จแล้วฮยองไปส่งพวกผมด้วย ไม่มีรถว่ะ’’

              ‘’เออน่า เงียบปากเหอะ’’ 

              ยงฮวาตัดบทอย่างรำคาญ ก่อนที่เขาจะเคลื่อนตัวรถออกไปอย่างรวดเร็ว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              ‘’รู้แล้วค่าออนนี่ ซอถึงแล้วค่ะ’’ 

              ซอฮยอนตะโกนบอกปลายสาย น้ำเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อคุยโทรศัพท์บ่งบอกเป็นอย่างดีว่าเธออยู่ในผับที่เปิดเพลงอัดบีตหนักๆ ซอฮยอนเดินไปยังโต๊ะวีไอพีโต๊ะหนึ่งที่ชั้นสองของผับ Octagon ในย่านกังนัม ซอฮยอนเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเดรสสั้นสีดำที่ความยาวเหนือเข่ามาหลายนิ้ว เปิดเผยอกอวบอิ่มที่ใครเห็นเป็นต้องกลืนน้ำลาย ทรวดทรงองเอวที่บ่งบอกว่าเธอเป็นสเป็คของหนุ่มๆหลายคน ไม่แปลกใจที่ระหว่างทางเดินจะมีหนุ่มๆให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ

     

              ‘’แต่งตัวแซ่บเหมือนเดิมเลยนะยัยซอ’’ ซึงยอนทักขึ้นอย่างร่าเริง รู้สึกเหมือนหลายวันแล้วที่ซอฮยอนหมกมุ่นอยู่กับการทำงานเป็นเมเนเจอร์แล้วไม่มีเวลามาปาร์ตี้กับเธอ ซึ่งลำพังเวลาจะนอนเธอยังไม่ค่อยจะมีเลย ข้อนี้ซอฮยอนบ่นให้ซึงยอนฟังบ่อยๆทางโทรศัพท์

              ‘’เธอก็ไม่ต่างอะไรกับฉันนักหรอกยัยซึงยอน เล่นเว้าหลังแหวกลงไปซะขนาดนั้น ฉันเห็นนะยะ’’ ซอฮยอนแซวซึงยอนกลับ ซึ่งเธอโบกมืออย่างไม่ใส่ใจก่อนจะชวนซอฮยอนนั่งลง ยูริที่นั่งอยู่ก่อนแล้วนั้นเธอดูเซ็กซี่มากทีเดียววันนี้ แม้เธอจะอายุมากกว่าซอฮยอนสองปี แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะปล่อยปะละเลยตัวเอง ยูรินั้นมีหุ่นเอสไลน์ที่สาวๆเห็นเป็นต้องอิจฉา แม้แต่เธอเองก็ยังแอบอิจฉาอยู่บ่อยๆเช่นกัน

              ‘’ไงยะยัยซอ ทำงานทำการจนลืมเพื่อนฝูงไปแล้วหรือยัง’’ 

              ยูริเปิดบททักทายขึ้น ไม่น่าแปลกที่เธอจะเลือกทักทายซอฮยอนด้วยประโยคจิกกัดแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าช่วงนี้ซอฮยอนไม่ค่อยไปปาร์ตี้กับเพื่อนฝูง เรียกได้ว่าตัดขาดเลยก็ว่าได้ ‘’เห็นโทรคุยแต่กับซึงยอน ลืมออนนี่ไปแล้วสิมั้งเนี่ย’’

              ‘’ออนนี่อย่าเว่อร์น่า ซองานเยอะมากจริงๆค่ะ ไม่โกรธกันนะ’’ ซอฮยอนพูดด้วยเหตุผล เธอพยายามโน้มน้าวยูริอย่างไม่เก็บไปคิดมาก ซึ่งยูริก็ไม่ได้ติดใจอะไรข้อนี้อยู่แล้ว

              ‘’ฉันแค่ล้อเล่นเฉยๆน่า มาๆ ชนแก้ว ยัยซึงยอนมาสิ’’ 

             ยูริยกแก้วขึ้นสูงประมาณหนึ่งก่อนที่ทั้งซึงยอนและซอฮยอนจะยกแก้วขึ้นชนกันเบาๆอย่างฉลองที่ได้มาปาร์ตี้ด้วยกันอีกครั้ง

     

              ซอฮยอนเริ่มมึนหัวเล็กน้อย วันนี้เหมือนเธอจะเก็บกดเลยซัดแอลกอฮอร์แบบแรงๆไปซะหลายแก้ว เธอเริ่มรู้สึกคึกปนมึนหัว แต่รวมๆแล้วก็ยังรู้สึกสนุกอยู่ ยูริที่เป็นสาวประเภทคอแข็งอยู่แล้วไม่ได้รู้สึกอะไรไปมากกว่าคึกขึ้น ซึงยอนก็อารมณ์ประมาณซอฮยอนแต่จะซอฟต์ลงมาหน่อย ซอฮยอนที่เริ่มรู้สึกคึกและเหมือนฤทธิ์แอลกอฮอร์ไปกระตุ้นอะไรบางอย่าง เธอเริ่มยืนจับระเบียงพร้อมกับโยกตัวน้อยๆ โดยที่ในมือยังมีแก้วเหล้าอยู่

     

              ‘’เมาแล้วขี้อ่อยจังเลยนะเธอน่ะ!’’ ซึงยอนที่รู้นิสัยเพื่อนสาวของเธอดีตะโกนขึ้นแข่งกับเสียงเพลงที่ตอนนี้เปิดดังมากจนใจแทบทะลักออกมานอกอก

              ‘’ปกติไม่เมาก็อ่อยย่ะ!!’’ ซอฮยอนตะโกนกลับไปพลางยิ้มตาหยีอย่างอารมณ์ดี ซึ่งเดาได้ไม่ยากเลยว่าเธอเริ่มเมาเสียแล้ว

     

              ยูรินั่งกดโทรศัพท์พลางจิบแอลกอฮอร์ ซึงยอนที่นั่งมองซอฮยอนราวกับเธอเป็นรายการโทรทัศน์ที่น่าสนใจ เธอหัวเราะเล็กน้อยเมื่อซอฮยอนเริ่มออกลวดลายความร้อนแรงมากขึ้น ซึ่งเธอรู้ว่าซอฮยอนกำลังเมาได้ที่

     

              สี่หนุ่มสมาชิกวงซีเอ็นบลูย่างท้าวเข้ามายังผับหรูย่านกังนัมอย่าง Octagon ที่พวกเขาชอบมาประจำ ทันทีที่พวกเขาย่างเท้าเข้ามานั้นก็มีหลายสายตาจับจ้องมา แต่ก็ไม่มีใครทำท่าแตกตื่นอะไรเพราะที่นี่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นผับของลูกคนมีตังค์และพวกเซเล็บกระเป๋าหนัก แถมยังขึ้นชื่อได้ว่าเป็นแหล่งซ่องสุมของพวกคนรวยที่อยากจะทำอะไรก็ได้โดยที่ไม่ตกเป็นข่าว

     

              ‘’จองโต๊ะไว้ยัง’’ ยงฮวาถามจองชิน ซึ่งเขาพยักหน้าตอบ ไม่รอช้าทั้งหมดจึงเดินขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางขึ้นนั้นยงฮวาสังเกตได้ว่ามีหญิงสาวที่ดูเหมือนจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขาเป็นพิเศษ อ๋อ รู้จักสิคะ เธอน่ะมาที่นี่ทุกวันเลยได้มั้ง เสียงสาวบริการในผับดังขึ้น และเหมือนกับว่ามีคนมาติดสวิฟต์ไฟในสมองของเขา ที่นี่นี่เอง ที่ประจำที่ซอฮยอนชอบมาบ่อยๆ และที่เธอคุยโทรศัพท์ว่าที่เดิม ก็คงเป็นที่นี่สินะ

     

              ‘’ซึงยอน ยูริออนนี่ เดี๋ยวซอไปเข้าห้องน้ำแปปนึงนะคะ จะอ้วกแล้วอ้า’’ ซอฮยอนพูดลากเสียงยาว เธอกำลังจะไม่มีสติในอีกไม่ช้านี้ ทุกคนคอนเฟิร์ม

              ‘’เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน’’ ซึงยอนเสนอขึ้น แต่แล้วเธอก็ถูกขัดด้วยคำพูดของซอฮยอน

              ‘’ไม่ต้องหรอกซึงยอนอาฉันโตแล้วนะ เก่งมากด้วย ไปเองได้น่า’’ ซอฮยอนลากเสียงยาวกว่าเดิม เธอหัวเราะคิกคักอย่างหมดสภาพความเป็นสาวมั่น

     

              ชายหนุ่มทั้งสี่คนนั่งลงบนโต๊ะหรูวีไอพี สายตายงฮวาก็พลันจับจ้องไปทางซอฮยอนอย่างเปิดเผย เพื่อนร่วมวงของเขาก็เช่นกัน ทุกคนดูตกใจที่เจอซอฮยอนที่นี่ แต่แล้วพวกเขาก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอน่ะเมาเต็มที่ได้แล้ว เพราะเธอเริ่มหัวเราะคิกคักเหมือนเด็กที่เพิ่งเข้าสู่วัยรุ่นพร้อมกับชอบทำท่าที่เรียกได้ว่า อ่อยแบบไม่ตั้งใจนิดๆ

     

              ‘’เดี๋ยวมา’’ ยงฮวาบอกเพื่อนร่วมวง

              ‘’ให้เสร็จคืนนี้นะเว้ย’’ จงฮยอนตะโกนไล่หลังมา ยงฮวาไม่สนใจ เขาเดินตามซอฮยอนไปอย่างรวดเร็ว ในใจก็สงสัยว่าทำไมเขาจะต้องเดินตามเธอไปด้วย ข้อนี้เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

     

              ซอฮยอนเดินตามทางมา เธอตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่ทางด้านหลังของผับ ซึ่งค่อนข้างลึกพอสมควร แถมเปลี่ยวอีกด้วย ผู้คนส่วนมากไม่ค่อยอยากจะเข้าห้องน้ำที่นี่เพราะดูเหมือนพวกเขาจะไม่มั่นใจในความสะอาด แหงล่ะ พวกลูกคนรวยอะไรก็ต้องเป๊ะทั้งนั้น ห้องน้ำที่นอกเหนือจากบ้านไม่มีทางที่พวกเขาอยากจะเข้าใช้บริการนักหรอก แต่ซอฮยอนที่รู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอหอย เธออยากจะอาเจียนเต็มทน

     

              ซอฮยอนเลี้ยวเข้าห้องน้ำหญิงที่ดูเหมือนจะไม่มีใครอยู่เลย เสียงเพลงที่ดังแว่วมาจากตัวผับดังแว่วมาอยู่บ้าง เธอเลือกห้องน้ำห้องแรก จากนั้นก็เริ่มทำธุระส่วนตัวของตัวเอง ซอฮยอนน้ำตาไหล เธอมีสติขึ้นมาบ้างแล้วแต่ก็ยังไม่สร่างเมาซะทีเดียว เธอเดินมายังก๊อกน้ำก่อนจะหยิบน้ำยาบ้วนปากในกระเป๋าแบรนด์ใบใหม่ที่เธอพกมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เธอบ้วนปากอยู่นานนับหนึ่งนาทีก่อนจะหยิบน้ำเปล่าขวดเล็กในกระเป๋าขึ้นมาดื่มเพื่อไม่ให้คอแห้งหลังจากอาเจียนออกมาเกือบหมด

     

              ‘’ไงยัยตัวแสบ ไหนบอกว่าจะกลับบ้าน’’ เสียงชายปริศนาดังขึ้น หลังจากที่ซอฮยอนทำธุระเสร็จเตรียมจะออกจากข้างนอกเพื่อกลับไปหายูริและซึงยอน

              ‘’นี่นาย ออกไปนะ!’’ ซอฮยอนตะโกนใส่ยงฮวาอย่างตกใจที่เขามาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเธอ ก่อนจะพยายามเดินออกจากห้องน้ำ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่คิดแบบนั้น ยงฮวายกแขนขึ้นขวางประตูหรูก่อนจะจ้องซอฮยอนอย่างหยาบคายตั้งแต่ใบหน้าลามลงมายังขาอ่อน

              ‘’ดูแต่งตัวสิ จะไปยั่วใครเหรอซอฮยอน’’ ยงฮวากระตุกยิ้มอย่างมาดร้ายก่อนจ้องไปที่เสื้อผ้าเธออีกครั้ง เธอไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเขาจะมาสนใจอะไรกับเสื้อผ้าของเธอ เธอก็แต่งตัวของเธอแบบนี้มานานแล้ว


              ‘’ฉันจะยั่วใครแล้วเกี่ยวกับนาย ที่รู้ๆ ไม่ได้ยั่วนายแล้วกัน’’ ซอฮยอนเน้นประโยคหลัง เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบและสีหน้าอวดดีใส่เขา ซึ่งเขาเกลียดผู้หญิงที่ชอบพยศแบบเธอที่สุด

     

              เนิ่นนานหลังจากซอฮยอนพูดจบ ยงฮวาเดินตรงเข้ามาหาเธอโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูและล็อคกลอนด้วย ซอฮยอนเบิกตาโพลงอย่างตกใจ แต่ก็สายไปเสียแล้วก่อนที่เธอจะคิดอะไรได้ทัน ยงฮวาประชิดตัวเข้าหาซอฮยอนพร้อมกับยกตัวเธอขึ้นบนพื้นอ่างก๊อกน้ำ เขามอบจูบที่แสนจะดิบเถื่อนให้ซอฮยอน ซึ่งเธอพยายามจะผลักเขาให้ออกห่างจากตัว แต่ดูเหมือนยงฮวาจะชำนาญเรื่องนี้เป็นพิเศษ เขาไม่ปล่อยช่องว่างให้ซอฮยอนได้ขัดขืน ตรงกันข้าม เขากลับทำให้ซอฮยอนเริ่มอ่อนลงและต้องการเขามากขึ้น เวลาผ่านไปเนิ่นนาน..ซอฮยอนที่รู้ตัวว่าสู้เขาไม่ได้จูบตอบยงฮวาอย่างชำนาญเช่นกัน จริงอยู่ที่เธอยังบริสุทธิ์ แต่ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยมีจูบแรก ทุกคนต้องเคยมีกันทั้งนั้น ซอฮยอนขยำผมยงฮวาอย่างระบายอารมณ์ ขาเรียวสวยขยับขึ้นเล็กน้อย ปากของทั้งคู่ผนึกกันแน่นจนเหมือนกาวที่แกะไม่ออก ซอฮยอนเริ่มปลดกระดุมยงฮวาทีเล็ดเม็ดอย่างลนๆ ถ้าถามว่าทำไมเธอถึงทำเช่นนั้น แน่นอนว่าซอฮยอนยังไม่สร่างเมาฤทธิ์แอลกอฮอร์ซะทีเดียว เธอยังคงไม่ค่อยมีสติ และแน่นอนว่าเธอก็ควบคุมความต้องการของตัวเองไม่ได้เช่นกันเมื่อถูกเขาจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว

     

              ซอฮยอนพยายามปลดกระดุมของยงฮวาออกทีละเม็ด เธอแกะมันอยากลวกๆลนๆ ยงฮวาที่เป็นฝ่ายชำนาญเรื่องนี้ละจุมพิตจากริมฝีปากบางของซอฮยอนก่อนจะเคลื่อนใบหน้ามายังซอกคอของเธอ เขาทำอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกจี๊ดขึ้นมาอย่างทนไม่ได้ แต่แล้วมือหนาของเขาก็ปัดป่ายไปทั่วตัวของเธออย่างอดไม่ได้ ซอฮยอนครางออกมาเบาๆอย่างระบายอารมณ์ เธอพยายามรูดซิบเดรสตัวสั้นของเธอออกอย่างลนๆเช่นกัน

     

              ยงฮวาที่เริ่มมีสติว่าซอฮยอนกำลังทำอะไรอยู่ เหมือนกับว่าสติทุกอย่างหลั่งไหลกลับเข้ามาในหัวของเขา ยงฮวาตัดสินใจอย่างเด็ดขาด  เขากอดซอฮยอนอย่างหลวมๆพลางรูดซิบขึ้นกลับให้เธอเหมือนเดิม ซอฮยอนเป็นลูกของท่านประธาน เธอไม่มีสติอยู่ในตอนนี้ และข้อสุดท้าย เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องหยุดการกระทำทุกอย่าง ซอฮยอนนั้นมีสีหน้างุนงงและสับสนเมื่อเขาเลือกที่จะหยุดทุกอย่าง 

     

              ‘’ฉันไม่อยากให้เธอแปดเปื้อนเพราะฉัน และฉันไม่ใช่ผู้ชายที่แสนดีเหมือนที่เธออาจจะเคยวาดฝันไว้’’ ยงฮวาพูดกระซิบ ซึ่งเธอเข้าใจหมดทุกอย่างแล้วในตอนนี้ เขาเลือกที่จะหยุดเพราะเธอไม่ได้อยู่ในอาการครบสามสิบสองประการ เธอกำลังเมาฤทธิ์แอลกอฮอร์

     

              ‘’ขอโทษนะครับ คนดี’’

     

              หลังจากที่ซอฮยอนเงียบอยู่นาน เขาจึงพูดประโยคนี้ขึ้น ประโยคที่ทำให้เธอทั้งอายในความใจง่ายของเธอและเขินไปพร้อมๆกัน เธอหลับตาพลางพยักหน้าเบาๆอย่างอายๆ

     

              ยงฮวาเมื่อรู้ถึงอาการของซอฮยอน เขาก้มจูบริมฝีปากบางสวยอยู่หนึ่งทีก่อนจะละออกมา เขานั้นมองหน้าเธออยู่นานก่อนจะพูดประโยคหนึ่งขึ้น

     

              ‘’แล้วพรุ่งนี้เธอก็จะลืมทุกอย่าง เธอจะจำไม่ได้ว่าเธอทำอะไรไว้วันนี้ เพราะเธอกำลังเมาและไม่รู้เรื่อง แล้วพรุ่งนี้เธอก็จะกลับมาเป็นซอฮยอนคนเดิม’’

     

     

     

     ------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ตอนนี้มีเรทนะคะ พยายามแต่งให้มันออกมาลื่นไหลและกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองคนมากขึ้น ตอนนี้ทั้งคู่ยังไม่รู้ความรู้สึกตัวเองหรอกค่ะ ต่างคนต่างปิดกั้นเอาไว้ แต่เรื่องเข้มข้นขึ้นแล้วล่ะค่ะ อย่าลืมเม้นต์นะคะ เม้นต์น้อยไม่แต่งต่อน้าไม่มีอารมณ์แต่ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×