คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 7 : เกินเลย
การถ่ายแบบน้ำหอมแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Kalvin Klein ในตีมแบดบอยเป็นไปอย่างราบรื่น แม้ในตอนแรกยงฮวาจะทำทีมล่าช้าไปบ้างแต่พวกเขาทุกคนก็มีความเป็นมืออาชีพอยู่ในตัว ทุกคนนั้นสามารถถ่ายทอดอารมณ์ความหรูหราและดิบเถื่อนออกมาได้เป็นอย่างดี แม้กระทั่งมินฮยอกที่ดูเหมือนจะเป็นผู้ชายขี้เล่นซุกซน ก็ยังพรีเซ้นท์ออกมาได้อย่างดีไม่มีที่ติ
‘’เสร็จแล้วครับ ขอบคุณที่ทำงานกันอย่างดีนะครับ’’
ตากล้องอาวุโสมากความสามารถลุกขึ้นกล่าวกับทีมงานและสมาชิกซีเอ็นบลู
ซึ่งทุกคนโค้งขอบคุณให้ตากล้องและกล่าวขอบคุณทุกคนกลับ
เมื่อพวกเขาเลิกถ่ายแล้วจึงพากันไปยังห้องแต่งตัวเพื่อจะเตรียมตัวไปทำธุระของตัวเองกันต่อ
เนื่องจากวันนี้มีแค่ตารางงานถ่ายแบบแล้วพรุ่งนี้ถึงจะลุยซ้อมดนตรีกันอย่างหนักเพื่อทัวร์คอนเสิร์ตที่จะถึงนี้
สมาชิกทั้งสี่คนเดินตรงมายังห้องซ้อมโดยไม่ลืมที่จะเดินผ่านซอฮยอนที่นั่งอยู่ตรงแสงไฟสลัวๆมืดๆ
เธอนั้นนั่งกดโทรศัพท์อย่างขะมักเขม้นจนกระทั่งสังเกตได้ว่ามีคนยืนจ้องอยู่เหนือหัว
เธอจึงเงยหน้าขึ้น
‘’มีไร’’ ซอฮยอนมองพวกเขาอย่างไม่ไว้ใจ
‘’เปล่า แค่จะมาขอบคุณที่ช่วยจัดชุดให้’’ จองชินที่เดินนำหน้ามาพูดขอบคุณเธอ
‘’แล้วยัยปาร์คนั่นก็ตกส้วมตายไปแล้วมั้ง’’
‘’รีบเปลี่ยนเสื้อเถอะ จะกลับบ้าน’’ ซอฮยอนปัดมือเร็วๆสองสามทีอย่างรำคาญและเขินหน่อยๆที่เขาพูดขอบคุณเธอ
‘’เออ รอแปป’’ จองชินพูดอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะนำทีมไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
มินฮยอกที่ยิ้มกรุ้มกริ่มให้ซอฮยอนแถมด้วยจงฮยอนที่กระตุกยิ้มเล็กๆอย่างรู้อะไร
นั่นทำให้ซอฮยอนหัวเสียมากในความกวนของพวกเขา
เธอก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์อย่างเดิมอย่างไม่สนใจสมาชิกคนสุดท้ายที่เดินตามหลังมา
ยงฮวาที่รู้ถึงอาการเขินปนอายของซอฮยอนจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ
เขานั้นเดินช้าๆแล้วใช้ขายาวข้างที่ใกล้ที่สุดเตะเก้าอี้ของเธอเบาๆเพื่อจะให้เธอหันหน้ามามองเขา
ซอฮยอนที่ลนๆแกล้งเล่นโทรศัพท์หันหน้าขึ้นมามองเขา
ใบหน้ายู่ยี่ของเธอที่บ่งบอกได้ว่ายงฮวาแหย่ประสาทเธอสำเร็จแล้ว
แต่แล้วซอฮยอนก็ไม่พูดอะไร
รถตู้คันหรูราคาหลายล้านของบริษัทน้ำหอม Kalvin Klein ขับมาจอดยังหน้าสตูดิโอถ่ายแบบ
สมาชิกในวงและซอฮยอนก้าวขาขึ้นไปบนรถอย่างเหน็ดเหนื่อย
ซอฮยอนนั้นจำเป็นต้องนั่งที่นั่งข้างหน้ากับยงฮวาอย่างจำใจ
และเธอก็รู้ด้วยว่าสมาชิกอีกสามคนที่เหลือวางแผนเรื่องทั้งหมด
พวกเขาไม่ยอมปล่อยให้ซอฮยอนได้นั่งคนเดียวแบบสงบๆและดูเหมือนจะชอบใจเหลือเกินที่เธอต้องยุ่งเกี่ยวกับยงฮวาอยู่บ่อยๆในทุกๆสถานการณ์
อากาศยามค่ำคืนเริ่มเย็นสบายมากขึ้นต่างจากตอนกลางวัน
บ่งบอกได้ว่าฤดูร้อนกำลังจะผ่านพ้นไปและฤดูใบไม้ร่วงกำลังจะมา
ใบไม้แห้งร่วงหล่นจากต้นไม้ตามทางต่างๆอย่างเต็มพื้น
ซึ่งนั่นออกจะเป็นสีสันยามค่ำคืนเลยทีเดียว
ไฟประดับที่แขวนอยู่ตามต้นไม้ข้างทางนั้นบ่งบอกได้ว่างานรื่นเริงกำลังจะเริ่มขึ้น
ตื๊ด..ตื๊ด..
โทรศัพท์เครื่องแพงของซอฮยอนสั่นไม่มีเสียงอยู่ในกระเป๋าแบรนด์เนมใบสวย เธอมองคนรอบข้างอย่างกังวล
ยงฮวาที่นั่งข้างเธอกำลังเหม่อมองออกไปข้างนอกอย่างไร้จุดหมาย
และสมาชิกอีกสามคนก็กำลังเคลิ้มในเงียบของตัวรถ เธอจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ออกมา
และเมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นใคร เธอจึงกดรับทันที
‘’ว่าไงคะออนนี่’’ ซอฮยอนพูดเสียงเบา
แต่เสียงเบาที่ว่านั้นก็ปลุกทุกคนบนรถได้เป็นอย่างดี
สายตาทุกคู่จ้องมองมาที่เธออย่างอยากรู้อยากเห็น
ซอฮยอนนั้นเหล่ตามองพวกเขาอยู่แปปหนึ่งก่อนจะกลับมาคุยต่อ
‘’ย่าส์ ฉันไม่ได้คุยกับเธอมานานเธอพูดแบบนี้กับฉันเนี่ยนะยัยซอฮยอน!’’
ปลายสายพูดเสียงดังตอบกลับมาอย่างหมั่นไส้
ซึ่งนั่นช่วยไม่ได้เลยที่เธอเลือกโทรมาผิดเวลาแบบนี้
‘’ยูริออนนี่ใจเย็นก่อนสิคะ ซอทำงานอยู่’’
ซอฮยอนพูดเสียงเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ในเมื่อทั้งรถไม่มีเสียงอะไรเลยจึงทำให้เสียงเธอเป็นจุดสนใจ
‘’อ้าว ฉันไม่รู้ ขอโทษ – ฉันจะถามว่าวันนี้จะมามั้ย จองโต๊ะไว้แล้ว ยัยซึงยอนก็มา’’ ยูริถามซอฮยอนอย่างรู้กัน เหลือก็แต่คนข้างๆซอฮยอนนี่แหละที่ไม่รู้ว่าพวกเขาจะไปไหนกัน ยงฮวาพยายามเงี่ยหูฟังอย่างแนบเนียนโดยที่ซอฮยอนไม่ได้สนใจ
‘’ขอเวลาอีกชั่วโมงได้มั้ยคะ ซอจะไปถึงบริษัทแล้ว
แต่เดี๋ยวจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในรถแทน’’
‘’รีบมานะยัยตัวแสบ เอ้อ จะบอกว่าวันนี้พี่ๆของพวกเธอไม่มานะ แทยอนไปเที่ยวกับฟานี่ที่อเมริกา ไม่รู้จะไปไหนด้วยกันบ่อยๆก็ไม่รู้ -- ส่วนยัยซันนี่กับฮโยก็ไปดริ๊งค์ที่อื่น ยุนอาไปม่อน้องๆเรดเบล ส่วนยัยซูยองกับเจสสิก้าไปนู่นแล้ว ฮ่องกง’’
ยูริอธิบายยาวเหยียด เห็นได้ชัดว่าซอฮยอนมีเพื่อนเยอะแยะกว่าที่เห็นมาก
เธอมีพี่ๆแปดคนที่คอยดูแลเธอมาตลอด ไม่ต้องสงสัยว่าทั้งหมดไปเจอกันที่ไหน
ก็ที่อเมริกาตอนเธอไปเรียนที่นั่นนั่นแหละ ทิฟฟานี่กับเจสสิก้าเป็นคนก่อตั้งโคเรียแก๊งขึ้นมา
และในที่สุดทั้งหมดก็ได้ฤกษ์กลับมาใช้ชีวิตที่เกาหลี
‘’พี่แทกับพี่ฟานี่ไปเมกาอีกแล้วเหรอคะ!?’’ ซอฮยอนตกใจเล็กน้อย
เธอไม่คิดว่าทั้งคู่จะหายตัวไปเป็นนินจาแบบนี้
เธอได้ข่าวว่าสองวันก่อนพวกเธอเพิ่งจะกลับมาจากฮ่องกง
‘’ก็อย่างว่าแหละ
ฉันว่าสองคนนี้มีท่าทางแปลกๆ ถ้าอย่างที่คิดล่ะนะ เบี้ยนชัวร์
เชื่อยูริออนนี่คนนี้ดิ ไม่พลาดหรอก’’ ยูริเริ่มเม้าท์
แต่เห็นทีซอฮยอนต้องลดระดับเสียงความดังการโทรลง
เธอสังเกตได้ว่าสมาชิกซีเอ็นบลูทั้งสี่คนกำลังฟังเธออยู่
‘’ออนนี่คะ ไว้ค่อยคุยได้มั้ยคะ เดี๋ยวซอจะถึงบริษัทแล้วค่ะ’’
ซอฮยอนพูดอย่างรวดเร็ว ยูรินั้นตะโกนมาว่าให้เธอรีบมาก่อนที่เธอจะกดตัดสายไป
บัดนี้ทั้งรถเงียบกริบ มินฮยอก จองชิน
และจงฮยอนกำลังมองมาที่ซอฮยอนอย่างใคร่รู้ ยงฮวาก็เช่นกัน
เพียงแต่เขาไม่ได้จ้องเธอตรง
‘’ย่าส์ ยัยตัวแสบ!’’
มินฮยอกตะโกนล้อเลียนซอฮยอน
เขาไม่รู้ว่าปลายสายเป็นใครแต่ก็ยังเสียมารยาทพูดเลียนเสียงตามยูริ
ซึ่งเธออยากจะยกอะไรก็ได้ที่หนักๆทุ่มเขาให้รู้แล้วรู้รอด
‘’ไหนคุณเมเนเจอร์บอกว่าจะกลับบ้านไงครับ แล้วนี่จะไปไหนอีกเนี่ย’’ จองชินที่จำได้ว่าซอฮยอนเอ็ดเขาว่าให้รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
เพราะเธอจะกลับบ้าน แต่แล้วก็ได้ยินเธอคุยโทรศัพท์ว่าจะออกไปไหนสักที่
‘’เมเนเจอร์อะไรทำตัวแซ่บชะมัดเลย กินเมเนเจอร์ได้มั้ยเนี่ย’’ จงฮยอนยิ้มตาหวานก่อนจะหุบยิ้มลงทันทีเนื่องจากโดนรัศมีอำมหิตที่แผ่มาจากยงฮวา
เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงกว่า ทั้งหมดลงจากรถหน้าบริษัท S
Entertainment ซึ่งก็ดึกมากแล้วจึงไม่มีแฟนคลับมารออย่างเช่นตอนเช้า
จะมีก็ประปรายแต่ก็ไม่ได้มาก่อความวุ่นวายอะไร
เพียงแค่มารอดูศิลปินที่ชอบก็เท่านั้น บ้างก็ตะโกนเรียกชื่อเมนที่ชอบ
ซึ่งสมาชิกทุกคนโบกไม้โบกมือให้พวกเขาอย่างอารมณ์ดี
แม้จะมีสีหน้าเหน็ดเหนื่อยจากการถ่ายแบบบ้างก็ตาม
แต่รวมๆแล้วพวกเขาก็ดูแลแฟนคลับทุกคนดี(ซึ่งไม่มีซาแซงแฟนแบบเมื่อเช้าเลย)
ยงฮวานั้นบอกให้ทุกคนกลับบ้าน เพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว พวกเขาคุยกับแฟนคลับอยู่แปปหนึ่งก่อนจะขอตัวกลับบ้าน
ซึ่งแฟนคลับก็ไม่โวยวายและบอกลาพวกเขาแต่โดยดี
ซอฮยอนที่เห็นว่าสมาชิกทุกคนเตรียมตัวจะกลับบ้านแล้ว
เธอรีบชิงตัดหน้าไปที่ลานจอดรถก่อนเลยอันดับแรก
ในใจนึกกลัวว่ายงฮวาจะเกิดบ้าบอชวนเธอไปทานต๊อกบกกีรอบดึกอีก เห็นอย่างนั้นไม่รอช้าจึงรีบกดเปิดประตูรถแล้วขับออกไปทันที
สมาชิกทั้งหมดที่ดูเหมือนจะมองหาซอฮยอนเนื่องจากเธอหายตัวไปไหนก็ไม่รู้
ยงฮวาก็เช่นกัน เขามองหาเธอและรถของเธอก่อนจะพบว่ามันไม่ได้อยู่ที่นี่
สงสัยเธอจะรีบไปธุระกับรุ่นพี่ของเธอมั้ง พวกเขานั้นถามเรื่องเธอกันอยู่ไม่กี่ประโยคก่อนจะเลิกใส่ใจและพูดเรื่องคืนนี้ว่าพวกเขาจะไปแฮงเอ้าท์ที่ไหนดี
‘’ฮยอง ที่เดิมป่ะ Octagon’’ จงฮยอนถาม
ซึ่งเขาพยักหน้า
และแล้วหนุ่มๆทั้งสี่คนก็พากันขึ้นรถคันเดิมที่ตอนเช้ายงฮวาเป็นคนขับมาส่งพวกเขา
‘’อย่าดึกมากนะเว้ยฮยอง พรุ่งนี้มีซ้อมแต่เช้า’’
จองชินเตือนเพื่อนร่วมวงทุกคน ‘’เสร็จแล้วฮยองไปส่งพวกผมด้วย
ไม่มีรถว่ะ’’
‘’เออน่า เงียบปากเหอะ’’
ยงฮวาตัดบทอย่างรำคาญ
ก่อนที่เขาจะเคลื่อนตัวรถออกไปอย่างรวดเร็ว
‘’รู้แล้วค่าออนนี่ ซอถึงแล้วค่ะ’’
ซอฮยอนตะโกนบอกปลายสาย
น้ำเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อคุยโทรศัพท์บ่งบอกเป็นอย่างดีว่าเธออยู่ในผับที่เปิดเพลงอัดบีตหนักๆ
ซอฮยอนเดินไปยังโต๊ะวีไอพีโต๊ะหนึ่งที่ชั้นสองของผับ Octagon ในย่านกังนัม
ซอฮยอนเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเดรสสั้นสีดำที่ความยาวเหนือเข่ามาหลายนิ้ว
เปิดเผยอกอวบอิ่มที่ใครเห็นเป็นต้องกลืนน้ำลาย ทรวดทรงองเอวที่บ่งบอกว่าเธอเป็นสเป็คของหนุ่มๆหลายคน
ไม่แปลกใจที่ระหว่างทางเดินจะมีหนุ่มๆให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ
‘’แต่งตัวแซ่บเหมือนเดิมเลยนะยัยซอ’’
ซึงยอนทักขึ้นอย่างร่าเริง
รู้สึกเหมือนหลายวันแล้วที่ซอฮยอนหมกมุ่นอยู่กับการทำงานเป็นเมเนเจอร์แล้วไม่มีเวลามาปาร์ตี้กับเธอ
ซึ่งลำพังเวลาจะนอนเธอยังไม่ค่อยจะมีเลย
ข้อนี้ซอฮยอนบ่นให้ซึงยอนฟังบ่อยๆทางโทรศัพท์
‘’เธอก็ไม่ต่างอะไรกับฉันนักหรอกยัยซึงยอน เล่นเว้าหลังแหวกลงไปซะขนาดนั้น
ฉันเห็นนะยะ’’ ซอฮยอนแซวซึงยอนกลับ
ซึ่งเธอโบกมืออย่างไม่ใส่ใจก่อนจะชวนซอฮยอนนั่งลง ยูริที่นั่งอยู่ก่อนแล้วนั้นเธอดูเซ็กซี่มากทีเดียววันนี้
แม้เธอจะอายุมากกว่าซอฮยอนสองปี แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะปล่อยปะละเลยตัวเอง
ยูรินั้นมีหุ่นเอสไลน์ที่สาวๆเห็นเป็นต้องอิจฉา
แม้แต่เธอเองก็ยังแอบอิจฉาอยู่บ่อยๆเช่นกัน
‘’ไงยะยัยซอ ทำงานทำการจนลืมเพื่อนฝูงไปแล้วหรือยัง’’
ยูริเปิดบททักทายขึ้น
ไม่น่าแปลกที่เธอจะเลือกทักทายซอฮยอนด้วยประโยคจิกกัดแบบนี้
เห็นได้ชัดว่าช่วงนี้ซอฮยอนไม่ค่อยไปปาร์ตี้กับเพื่อนฝูง
เรียกได้ว่าตัดขาดเลยก็ว่าได้ ‘’เห็นโทรคุยแต่กับซึงยอน
ลืมออนนี่ไปแล้วสิมั้งเนี่ย’’
‘’ออนนี่อย่าเว่อร์น่า ซองานเยอะมากจริงๆค่ะ ไม่โกรธกันนะ’’ ซอฮยอนพูดด้วยเหตุผล เธอพยายามโน้มน้าวยูริอย่างไม่เก็บไปคิดมาก
ซึ่งยูริก็ไม่ได้ติดใจอะไรข้อนี้อยู่แล้ว
‘’ฉันแค่ล้อเล่นเฉยๆน่า มาๆ ชนแก้ว – ยัยซึงยอนมาสิ’’
ยูริยกแก้วขึ้นสูงประมาณหนึ่งก่อนที่ทั้งซึงยอนและซอฮยอนจะยกแก้วขึ้นชนกันเบาๆอย่างฉลองที่ได้มาปาร์ตี้ด้วยกันอีกครั้ง
ซอฮยอนเริ่มมึนหัวเล็กน้อย
วันนี้เหมือนเธอจะเก็บกดเลยซัดแอลกอฮอร์แบบแรงๆไปซะหลายแก้ว
เธอเริ่มรู้สึกคึกปนมึนหัว แต่รวมๆแล้วก็ยังรู้สึกสนุกอยู่
ยูริที่เป็นสาวประเภทคอแข็งอยู่แล้วไม่ได้รู้สึกอะไรไปมากกว่าคึกขึ้น
ซึงยอนก็อารมณ์ประมาณซอฮยอนแต่จะซอฟต์ลงมาหน่อย
ซอฮยอนที่เริ่มรู้สึกคึกและเหมือนฤทธิ์แอลกอฮอร์ไปกระตุ้นอะไรบางอย่าง เธอเริ่มยืนจับระเบียงพร้อมกับโยกตัวน้อยๆ
โดยที่ในมือยังมีแก้วเหล้าอยู่
‘’เมาแล้วขี้อ่อยจังเลยนะเธอน่ะ!’’ ซึงยอนที่รู้นิสัยเพื่อนสาวของเธอดีตะโกนขึ้นแข่งกับเสียงเพลงที่ตอนนี้เปิดดังมากจนใจแทบทะลักออกมานอกอก
‘’ปกติไม่เมาก็อ่อยย่ะ!!’’ ซอฮยอนตะโกนกลับไปพลางยิ้มตาหยีอย่างอารมณ์ดี
ซึ่งเดาได้ไม่ยากเลยว่าเธอเริ่มเมาเสียแล้ว
ยูรินั่งกดโทรศัพท์พลางจิบแอลกอฮอร์
ซึงยอนที่นั่งมองซอฮยอนราวกับเธอเป็นรายการโทรทัศน์ที่น่าสนใจ เธอหัวเราะเล็กน้อยเมื่อซอฮยอนเริ่มออกลวดลายความร้อนแรงมากขึ้น
ซึ่งเธอรู้ว่าซอฮยอนกำลังเมาได้ที่
สี่หนุ่มสมาชิกวงซีเอ็นบลูย่างท้าวเข้ามายังผับหรูย่านกังนัมอย่าง Octagon ที่พวกเขาชอบมาประจำ
ทันทีที่พวกเขาย่างเท้าเข้ามานั้นก็มีหลายสายตาจับจ้องมา แต่ก็ไม่มีใครทำท่าแตกตื่นอะไรเพราะที่นี่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นผับของลูกคนมีตังค์และพวกเซเล็บกระเป๋าหนัก
แถมยังขึ้นชื่อได้ว่าเป็นแหล่งซ่องสุมของพวกคนรวยที่อยากจะทำอะไรก็ได้โดยที่ไม่ตกเป็นข่าว
‘’จองโต๊ะไว้ยัง’’ ยงฮวาถามจองชิน ซึ่งเขาพยักหน้าตอบ
ไม่รอช้าทั้งหมดจึงเดินขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทางขึ้นนั้นยงฮวาสังเกตได้ว่ามีหญิงสาวที่ดูเหมือนจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขาเป็นพิเศษ
‘อ๋อ รู้จักสิคะ เธอน่ะมาที่นี่ทุกวันเลยได้มั้ง’
เสียงสาวบริการในผับดังขึ้น
และเหมือนกับว่ามีคนมาติดสวิฟต์ไฟในสมองของเขา ที่นี่นี่เอง
ที่ประจำที่ซอฮยอนชอบมาบ่อยๆ และที่เธอคุยโทรศัพท์ว่าที่เดิม ก็คงเป็นที่นี่สินะ
‘’ซึงยอน ยูริออนนี่ เดี๋ยวซอไปเข้าห้องน้ำแปปนึงนะคะ จะอ้วกแล้วอ้า’’
ซอฮยอนพูดลากเสียงยาว เธอกำลังจะไม่มีสติในอีกไม่ช้านี้
ทุกคนคอนเฟิร์ม
‘’เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน’’ ซึงยอนเสนอขึ้น
แต่แล้วเธอก็ถูกขัดด้วยคำพูดของซอฮยอน
‘’ไม่ต้องหรอกซึงยอนอา—ฉันโตแล้วนะ เก่งมากด้วย
ไปเองได้น่า’’ ซอฮยอนลากเสียงยาวกว่าเดิม
เธอหัวเราะคิกคักอย่างหมดสภาพความเป็นสาวมั่น
ชายหนุ่มทั้งสี่คนนั่งลงบนโต๊ะหรูวีไอพี
สายตายงฮวาก็พลันจับจ้องไปทางซอฮยอนอย่างเปิดเผย เพื่อนร่วมวงของเขาก็เช่นกัน
ทุกคนดูตกใจที่เจอซอฮยอนที่นี่ แต่แล้วพวกเขาก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอน่ะเมาเต็มที่ได้แล้ว
เพราะเธอเริ่มหัวเราะคิกคักเหมือนเด็กที่เพิ่งเข้าสู่วัยรุ่นพร้อมกับชอบทำท่าที่เรียกได้ว่า
‘อ่อยแบบไม่ตั้งใจ’ นิดๆ
‘’เดี๋ยวมา’’ ยงฮวาบอกเพื่อนร่วมวง
‘’ให้เสร็จคืนนี้นะเว้ย’’ จงฮยอนตะโกนไล่หลังมา
ยงฮวาไม่สนใจ เขาเดินตามซอฮยอนไปอย่างรวดเร็ว ในใจก็สงสัยว่าทำไมเขาจะต้องเดินตามเธอไปด้วย
ข้อนี้เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
ซอฮยอนเดินตามทางมา เธอตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่ทางด้านหลังของผับ
ซึ่งค่อนข้างลึกพอสมควร แถมเปลี่ยวอีกด้วย
ผู้คนส่วนมากไม่ค่อยอยากจะเข้าห้องน้ำที่นี่เพราะดูเหมือนพวกเขาจะไม่มั่นใจในความสะอาด
แหงล่ะ พวกลูกคนรวยอะไรก็ต้องเป๊ะทั้งนั้น ห้องน้ำที่นอกเหนือจากบ้านไม่มีทางที่พวกเขาอยากจะเข้าใช้บริการนักหรอก
แต่ซอฮยอนที่รู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอหอย เธออยากจะอาเจียนเต็มทน
ซอฮยอนเลี้ยวเข้าห้องน้ำหญิงที่ดูเหมือนจะไม่มีใครอยู่เลย
เสียงเพลงที่ดังแว่วมาจากตัวผับดังแว่วมาอยู่บ้าง เธอเลือกห้องน้ำห้องแรก
จากนั้นก็เริ่มทำธุระส่วนตัวของตัวเอง ซอฮยอนน้ำตาไหล
เธอมีสติขึ้นมาบ้างแล้วแต่ก็ยังไม่สร่างเมาซะทีเดียว
เธอเดินมายังก๊อกน้ำก่อนจะหยิบน้ำยาบ้วนปากในกระเป๋าแบรนด์ใบใหม่ที่เธอพกมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
เธอบ้วนปากอยู่นานนับหนึ่งนาทีก่อนจะหยิบน้ำเปล่าขวดเล็กในกระเป๋าขึ้นมาดื่มเพื่อไม่ให้คอแห้งหลังจากอาเจียนออกมาเกือบหมด
‘’ไงยัยตัวแสบ ไหนบอกว่าจะกลับบ้าน’’ เสียงชายปริศนาดังขึ้น
หลังจากที่ซอฮยอนทำธุระเสร็จเตรียมจะออกจากข้างนอกเพื่อกลับไปหายูริและซึงยอน
‘’นี่นาย ออกไปนะ!’’ ซอฮยอนตะโกนใส่ยงฮวาอย่างตกใจที่เขามาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเธอ
ก่อนจะพยายามเดินออกจากห้องน้ำ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่คิดแบบนั้น
ยงฮวายกแขนขึ้นขวางประตูหรูก่อนจะจ้องซอฮยอนอย่างหยาบคายตั้งแต่ใบหน้าลามลงมายังขาอ่อน
‘’ดูแต่งตัวสิ จะไปยั่วใครเหรอซอฮยอน’’ ยงฮวากระตุกยิ้มอย่างมาดร้ายก่อนจ้องไปที่เสื้อผ้าเธออีกครั้ง
เธอไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเขาจะมาสนใจอะไรกับเสื้อผ้าของเธอ
เธอก็แต่งตัวของเธอแบบนี้มานานแล้ว
‘’ฉันจะยั่วใครแล้วเกี่ยวกับนาย ที่รู้ๆ – ไม่ได้ยั่วนายแล้วกัน’’
ซอฮยอนเน้นประโยคหลัง เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบและสีหน้าอวดดีใส่เขา
ซึ่งเขาเกลียดผู้หญิงที่ชอบพยศแบบเธอที่สุด
เนิ่นนานหลังจากซอฮยอนพูดจบ
ยงฮวาเดินตรงเข้ามาหาเธอโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูและล็อคกลอนด้วย
ซอฮยอนเบิกตาโพลงอย่างตกใจ แต่ก็สายไปเสียแล้วก่อนที่เธอจะคิดอะไรได้ทัน
ยงฮวาประชิดตัวเข้าหาซอฮยอนพร้อมกับยกตัวเธอขึ้นบนพื้นอ่างก๊อกน้ำ
เขามอบจูบที่แสนจะดิบเถื่อนให้ซอฮยอน ซึ่งเธอพยายามจะผลักเขาให้ออกห่างจากตัว แต่ดูเหมือนยงฮวาจะชำนาญเรื่องนี้เป็นพิเศษ
เขาไม่ปล่อยช่องว่างให้ซอฮยอนได้ขัดขืน ตรงกันข้าม
เขากลับทำให้ซอฮยอนเริ่มอ่อนลงและต้องการเขามากขึ้น เวลาผ่านไปเนิ่นนาน..ซอฮยอนที่รู้ตัวว่าสู้เขาไม่ได้จูบตอบยงฮวาอย่างชำนาญเช่นกัน
จริงอยู่ที่เธอยังบริสุทธิ์ แต่ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยมีจูบแรก
ทุกคนต้องเคยมีกันทั้งนั้น ซอฮยอนขยำผมยงฮวาอย่างระบายอารมณ์
ขาเรียวสวยขยับขึ้นเล็กน้อย ปากของทั้งคู่ผนึกกันแน่นจนเหมือนกาวที่แกะไม่ออก
ซอฮยอนเริ่มปลดกระดุมยงฮวาทีเล็ดเม็ดอย่างลนๆ ถ้าถามว่าทำไมเธอถึงทำเช่นนั้น
แน่นอนว่าซอฮยอนยังไม่สร่างเมาฤทธิ์แอลกอฮอร์ซะทีเดียว เธอยังคงไม่ค่อยมีสติ
และแน่นอนว่าเธอก็ควบคุมความต้องการของตัวเองไม่ได้เช่นกันเมื่อถูกเขาจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว
ซอฮยอนพยายามปลดกระดุมของยงฮวาออกทีละเม็ด เธอแกะมันอยากลวกๆลนๆ
ยงฮวาที่เป็นฝ่ายชำนาญเรื่องนี้ละจุมพิตจากริมฝีปากบางของซอฮยอนก่อนจะเคลื่อนใบหน้ามายังซอกคอของเธอ
เขาทำอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกจี๊ดขึ้นมาอย่างทนไม่ได้ แต่แล้วมือหนาของเขาก็ปัดป่ายไปทั่วตัวของเธออย่างอดไม่ได้
ซอฮยอนครางออกมาเบาๆอย่างระบายอารมณ์
เธอพยายามรูดซิบเดรสตัวสั้นของเธอออกอย่างลนๆเช่นกัน
ยงฮวาที่เริ่มมีสติว่าซอฮยอนกำลังทำอะไรอยู่ เหมือนกับว่าสติทุกอย่างหลั่งไหลกลับเข้ามาในหัวของเขา ยงฮวาตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เขากอดซอฮยอนอย่างหลวมๆพลางรูดซิบขึ้นกลับให้เธอเหมือนเดิม ซอฮยอนเป็นลูกของท่านประธาน เธอไม่มีสติอยู่ในตอนนี้ และข้อสุดท้าย เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องหยุดการกระทำทุกอย่าง ซอฮยอนนั้นมีสีหน้างุนงงและสับสนเมื่อเขาเลือกที่จะหยุดทุกอย่าง
‘’ฉันไม่อยากให้เธอแปดเปื้อนเพราะฉัน
และฉันไม่ใช่ผู้ชายที่แสนดีเหมือนที่เธออาจจะเคยวาดฝันไว้’’
ยงฮวาพูดกระซิบ ซึ่งเธอเข้าใจหมดทุกอย่างแล้วในตอนนี้
เขาเลือกที่จะหยุดเพราะเธอไม่ได้อยู่ในอาการครบสามสิบสองประการ
เธอกำลังเมาฤทธิ์แอลกอฮอร์
‘’ขอโทษนะครับ คนดี’’
หลังจากที่ซอฮยอนเงียบอยู่นาน เขาจึงพูดประโยคนี้ขึ้น
ประโยคที่ทำให้เธอทั้งอายในความใจง่ายของเธอและเขินไปพร้อมๆกัน เธอหลับตาพลางพยักหน้าเบาๆอย่างอายๆ
ยงฮวาเมื่อรู้ถึงอาการของซอฮยอน
เขาก้มจูบริมฝีปากบางสวยอยู่หนึ่งทีก่อนจะละออกมา
เขานั้นมองหน้าเธออยู่นานก่อนจะพูดประโยคหนึ่งขึ้น
‘’แล้วพรุ่งนี้เธอก็จะลืมทุกอย่าง
เธอจะจำไม่ได้ว่าเธอทำอะไรไว้วันนี้ เพราะเธอกำลังเมาและไม่รู้เรื่อง
แล้วพรุ่งนี้เธอก็จะกลับมาเป็นซอฮยอนคนเดิม’’
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนนี้มีเรทนะคะ พยายามแต่งให้มันออกมาลื่นไหลและกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองคนมากขึ้น ตอนนี้ทั้งคู่ยังไม่รู้ความรู้สึกตัวเองหรอกค่ะ ต่างคนต่างปิดกั้นเอาไว้ แต่เรื่องเข้มข้นขึ้นแล้วล่ะค่ะ อย่าลืมเม้นต์นะคะ เม้นต์น้อยไม่แต่งต่อน้าไม่มีอารมณ์แต่ง
ความคิดเห็น