คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : Chapter 16 : เป็นห่วง
[เหตุการณ์ตอนเช้าหลังเกิดเรื่องจนจบวัน ย้อนเรื่องของด้านอีกฝ่าย]
ขณะนั่งอยู่บนรถยนต์ส่วนตัวของมินโฮหัวสมองของซอฮยอนก็คิดอะไรไปเรื่อย
เธอย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เพิ่งผ่านมาสดๆร้อนๆเห็นจะได้
แต่เมื่อนึกย้อนดูดีๆเธอก็ต้องชะงักกับชื่อบุคคลปริศนาที่หลุดออกมาจากปากร่างสูงข้างๆตัว
เธอคือใครกันนะ ‘พี่ยงของน้องไอรีน’
...เขามีความสำคัญกับยงฮวายังไง แล้วมินโฮรู้จักยงฮวาได้ยังไง…
‘’มินโฮ’’
ซอฮยอนที่นั่งเงียบมาตลอดทางเรียกมินโฮเสียงเบาแต่แฝงไปด้วยพลังที่ทำให้คนข้างๆที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่หันมาหาเธอ
เขามีสีหน้าสงสัย แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของร่างบางก็ทำให้ตัดสินใจเข้าเลนส์ซ้ายแล้วหยุดรถทันที
‘’มีอะไรหรือเปล่าจูฮยอน’’ หลังจากหยุดรถเรียบร้อยแล้ว
มินโฮหันมาหาซอฮยอนในท่าที่ตั้งใจฟัง เธอจ้องหน้าเขาอยู่พักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจถามคำถามออกมา
เธอไม่แน่ใจว่าเขาจะกล้าตอบเธอมาตามตรงหรือเปล่า
‘’ไอรีนคือใครเหรอ’’ ซอฮยอนกลั้นหายใจ
เธอรู้นิสัยของผู้ชายตรงหน้าดี ถ้าเธอเกิดเลือกถามคำถามไม่เข้าหูเขาขึ้นมา
อาจจะเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ที่เธอต้องเจอกับรังศีแปลกๆแผ่ซ่านเข้ามากระทบเธอ ‘’แล้วนายรู้จักเขาได้ยังไง’’
เขาที่ว่าก็คือยงฮวายังไงล่ะไม่เห็นต้องเดากันให้มากความเลย
ซอฮยอนเลือกที่จะแทนสรรพนามยงฮวาว่าเขา
แต่นั่นไม่สำคัญหรอกเมื่อเทียบกับผู้ชายร่างสูงข้างกาย มินโฮเงียบไปพักใหญ่จนทำให้ซอฮยอนเสียวสันหลัง
แต่ในที่สุด เขาเลือกที่จะละสายตาจากซอฮยอนแล้วก็จับพวงมาลัยหมุนเริ่มเคลื่อนตัวรถ
เขาไม่ตอบคำถามเธอ!
นิสัยของมินโฮเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น
ถ้าเขาคิดว่าเรื่องไหนสำคัญจนบอกใครไม่ได้เขาก็เลือกที่จะเงียบ
หรือแม้แต่ตัวเธอเองเขาก็เลือกที่จะเงียบใส่ อะไรที่มันสำคัญขนาดนั้นจนบอกใครไม่ได้นะ
และเธอต้องรู้ให้ได้!
ซอฮยอนนั่งนิ่งราวกับรูปปั้นไม่ไหวติงหลังจากนั้น เธอไม่ปริปาก ไม่ขยับตัว
หรือแม้กระทั่งตอนหายใจเธอยังต้องหายใจให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะเธอทำลายฐานป้องกันตัวของตัวเองไปแล้วยังไงล่ะ
นานนับสิบนาทีกว่ามินโฮจะเริ่มรู้สึกว่าการกระทำของเขาเองทำให้คนตรงเบาะฝั่งตรงข้ามนิ่งงันไม่ไหวติง
เธอเหมือนคนใบ้ไปเลยหลังจากที่โดนมินโฮตัดหน้าไม่ตอบคำถามไป
อีกอย่างยัยนี่เพิ่งโดนหักอกมาด้วยก็คงจะฟุ้งซ่านแหง
‘’จูฮยอนอยากไปไหนหรือเปล่า’’
คำแรกที่มินโฮนึกออก จูฮยอนของเขาเวลาอกหักชอบไปที่ไกลๆเสมอ ซอฮยอนเองที่นั่งนิ่งมาก็ตั้งนานสะดุ้งเล็กน้อย
เธอหันไปหาเขาอย่างระวัง
‘’ไปไหนก็ได้ แล้วแต่นาย’’ เธอเลือกตอบคำถามง่ายๆ
มินโฮจ้องเธอครู่หนึ่งก่อนจะละสายตาออกมา เขาทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรออกมา
‘’ขอโทษนะ’’ และในที่สุดเขาก็พูดออกมา
อย่างน้อยเขาก็มีความรู้สึก
‘’เรื่อง?’’ ซอฮยอนแกล้งไม่รู้เรื่อง
เธอแค่อยากกระตุ้นเขา
เพราะคนอย่างมินโฮพูดคำว่าขอโทษไม่เกินสิบครั้งในชีวิตได้มั้ง
‘’ก็ – คือฉันบอกไม่ได้เรื่องที่เธอถาม ขอโทษละกัน’’ มินโฮถอนหายใจออกมาดังๆหนึ่งทีก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง ‘’เราไปทะเลกันมั้ย’’
‘’ทะเลที่ไหน’’ ซอฮยอนก็ร่วมมือเปลี่ยนเรื่องเช่นกัน
‘’ครั้งแรกที่กลับมาเกาหลี’’
อะไรกันครั้งแรกที่กลับมาเกาหลี ซอฮยอนขมวดคิ้วสงสัย มินโฮที่นั่งอยู่ข้างๆลุ้นจนสีหน้าเผยอารมณ์ออกมาอย่างน่ารัก
เขาอารมณ์ดีขึ้นมาแล้วสินะ
‘’หรือว่า…เดทครั้งแรกในเกาหลีของเราเหรอ’’ ซอฮยอนพูดเบาๆอย่างไม่แน่ใจ แต่มันต้องใช่อยู่แล้วสิ
ไม่มีเหตุผลอะไรที่มันจะไม่ถูก
‘’อืม จำได้ด้วยเหรอ’’
ที่เธออคิดไว้ถูกแล้วสินะ…
‘’แล้วทำไมต้องจำไม่ได้ล่ะ’’
‘’ก็นึกว่าลืมไปแล้ว’’ มินโฮพูดเสียงเบา
‘’ลืมได้ด้วยเหรอ’’ ซอฮยอนมองทางตรงแกล้งไม่ใส่ใจ ‘’ไปสิ อยากไปเหมือนกัน อยากรู้ว่าอะไรๆมันจะเหมือนเดิมมั้ย’’
มินโฮเหล่ตามองคนข้างๆแล้วจึงกลับมาโฟกัสกับการขับรถต่อ
‘’ไม่เหมือนเดิมหรอก’’ จู่ๆเขาก็พูดขึ้น
ซอฮยอนหันหน้าไปมองเขา มินโฮยังคงทำหน้าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ‘’ขนาดเราสองคน – ยังไม่เหมือนเดิมเลย’’
จุก ประโยคเดียวทำเอาเธอไปไหนไม่ได้
ซอฮยอนได้แต่มองหน้าเขานิ่ง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ความผิดของเธอเลยแม้แต่น้อย
เป็นเพราะเขาเองที่ไม่ยอมหยุด และเธอก็เลือกแล้วเหมือนกัน
แต่…ถ้าเธอเลือกที่จะเลิกกับเขาแล้ว ทำไมเขายังมีส่วนในชีวิตของเธออยู่นะ
เป็นเรื่องเดียวจริงๆที่เธอไม่อยากยอมรับ
เวลาเกือบสองทุ่มตรงซึงยอนกำโทรศัพท์แน่นเดินไปมาอยู่ตรงห้องนั่งเล่น
เธอนึกห่วงซอฮยอนแทบตายเมื่อรู้ว่าเธอพุ่งพรวดออกไปกับมินโฮ แต่ตอนนี้ในใจเธอที่ว้าวุ่นกว่าก็คือเรื่องของจงฮยอนนั่นเอง
แม้จะพยายามทำใจให้ชินแต่ก็ปลงไม่ได้เสียทีเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังใช้ผู้ชายร่วมกับคนอื่น
เธอไม่ได้ห่วงมากมายขนาดนั้นหรอกที่ซอฮยอนไปกับมินโฮ เธอเป็นแบบนี้บ่อย
ถึงมินโฮจะไม่ใช่คนดีหรือเรียกได้ว่าเลวเลยก็ได้ แต่เขาก็คงไม่ได้ทำอะไรซอฮยอนหรอก
อีกอย่างทั้งคู่ก็คงเข้าใจกันดีเพราะเคยรักกันมาก่อน แต่ที่ห่วงก็คือผู้ชายในวงปีศาจคนหนึ่งกำลังหักอกเธออยู่ต่างหาก
และเดาได้ไม่ยากเลยว่าใคร
แต่ตอนนี้ขอห่วงเรื่องของตัวเองก่อนเถอะ
จงฮยอนนิสัยแบบนี้ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
ที่เห็นเขาออดอ้อนนั่นก็มารยาความแรดของผู้ชายอย่างเขาทั้งนั้น
ทำไมเธอถึงเป็นแฟนคลับคนอย่างเขาได้นะ
แถมตอนนี้ยังเลื่อนขั้นจะเป็นแฟนเขาอยู่มะรอมมะร่อ
มันก็เกือบจะฟินอยู่แล้วนะถ้าเขาไม่เผยธาตุแท้ออกมาก่อน!
ซึงยอนตัดสินใจกดโทรศัพท์โทรหาใครบางคนทันที
‘’ออนนี่คะ ว่างไหมคะ’’
ซึงยอนกรอกเสียงลงไปยังปลายสายที่ดูเหมือนจะอยู่ไหนสักที่ที่เปิดเพลงดังมากจนเธอทนฟังแทบไม่ได้
‘’ซึงยอนเหรอ ออนนี่อยู่ Octagon’’ ยูริตะโกนแข่งกับเสียงเพลงอัดบีต
‘’ออนนี่ ซึงยอนมีเรื่องจะเล่าให้ฟังค่ะ’’ ซึงยอนพูด ‘’แต่คุยทางโทรศัพท์คงไม่สะดวก เจอกันนะคะ’’
‘’รีบมาล่ะยัยหมี’’
พูดจบซึงยอนก็รีบวางสายทันที
เธอวางโทรศัพท์พลางวิ่งไปเปลี่ยนชุดอย่างรวดเร็ว เธอเลือกชุดเดรสสั้นสีดำเผยอกอิ่มและเรียวขาสวย
ซึงยอนเลือกระบายเปลือกตาแบบสโม้คกี้อายและเลือกทาสีปากด้วยสีแดงจัดจ้าน
มีคนบอกว่าอะไรนะ ถ้ากำลังโดนนอกใจก็ให้นอกใจชิงตัดหน้าเหรอ… แต่ไม่หรอก เธอจะไม่นอกใจจงฮยอนหรอก เชื่อสิ
และซึงยอนคนใสซื่อที่ใครๆก็ชอบพูดแบบนี้นี่แหละจะฉีกลุคส์ตัวเอง ผู้หญิงซื่อก็แซ่บ
ได้เหมือนกันนะคะ
ซึงยอนก้าวเท้ามายังผับชื่อดังขนาดใหญ่พิเศษย่านกังนัมที่ชื่อว่า Octogon
บรรดาลูกคนรวยคนมีตังค์ เซเล็บ
หรือผู้มีอำนาจเท่านั้นที่เข้าได้โดยไม่ต้องเสี่ยงตกเป็นข่าว
และซึงยอนเองก็เป็นลูกของคุณกง เจ้าของบ่อนพนันรายใหญ่ที่ประเทศญี่ปุ่น
ที่มีอำนาจแผ่ขยายทำให้เป็นที่รู้จักของคนเกาหลี
เป็นเรื่องถูกทีเดียวที่ว่าประเทศเกาหลีไม่ขึ้นชื่อและไม่ยอมรับ แต่ใครสนกันล่ะ
ในเมื่อเธอเป็นลูกสาวเจ้าของบ่อนรายใหญ่ในญี่ปุ่น
เธอกวาดตามองโต๊ะวีไอพีที่อยู่ทางด้านบน
และแล้วสายตาก็ไปปะทะกับบุคคลที่กำลังหาตัวอยู่พอดี ยูริ
ออนนี่และนูน่าสุดเปรี้ยวของใครหลายคน เธอไม่ค่อยมีเรื่องเครียดมากเท่าไรหรอกในชีวิตนี้
แต่ถึงมียูริก็จะเป็นประเภทไม่แคร์โลก เรียกว่าปลงดีมั้ยนะ
แต่เธอสลัดทุกเรื่องออกไปได้รวดเร็วมากจริงๆ
‘’ออนนี่คะ!’’
ซึงยอนตะโกนเรียกเมื่อเดินเกือบถึงโต๊ะที่ยูริจองไว้
‘’ยัยหมี ใครเข้าฝันเธอหรือเปล่าเนี่ย!?’’ ยูริเบิกตาโพลงท่าทางตกใจ
ซึงยอนขมวดคิ้วอยู่พักหนึ่งก่อนจะเข้าใจว่ายูริจะสื่อถึงอะไร
‘’ก็อยากเปลี่ยนลุคส์บ้างนี่คะ’’ ซึงยอนยิ้ม
จริงๆแล้วเธอมาเพื่อเริ่มแผนต่างหาก แผนฆ่าจงฮยอนทางอ้อมไงล่ะ
‘’ทะเลาะกับคุณสามีมากกว่ามั้ง’’
ยูริเรียกสามีแทนว่าจงฮยอนจนซึงยอนย่นหน้าเล็กน้อยอย่างเอือมๆ
‘’อย่ามารู้ดีไปหน่อยเลยค่ะออนนี่’’ ซึงยอนตอกกลับ ‘’แล้วมินฮยอกไปไหนล่ะคะ’’
โดนเล่นแล้วไงยูริ
ซึงยอนนี่ดูท่าจะอยากเอาคืนจงฮยอนมากจริงๆนะถึงได้พาลมาหาเธอขนาดนี้ ไม่ได้สิ
ทุกคนจะต้องไม่รู้ว่าเรากำลังคุยใครอยู่
‘’มินฮยอกไหนเหรอ งง’’ ยูริพูดหน้าตาย
ซึงยอนเบะปากใส่เธอเล็กๆ
‘’ก็มินฮยอกคนที่ชอบเรียกยูรินูน่าไงคะ
แถมตามจีบด้วยนี่’’
ซึงยอนสะกดช้าๆชัดๆจนออนนี่ตรงหน้าเม้มปากเป็นเส้นตรง
‘’ช่างมันเถอะน่า ใส่ใจอะไรกันล่ะ’’
ยูริรู้สึกเสียหน้าที่เธอรู้ดีเกินไปแล้ว
บอกตามตรงก็ได้ว่าเธอค่อนข้างเกลียดวง CNBLUE เนื่องมาจากข่าวเสียหายเรื่องผู้หญิง
แต่หลังจากวันที่นัดซอฮยอนและซึงยอนมาวันนั้นมินฮยอกก็ดันตามตื๊อขอช่องทางการติดต่อจนเธอรำคาญต้องให้ไป
หลังจากนั้นเขาก็ตื๊อเธอตลอด ชวนไปนู่นมานี่
แต่สิ่งสำคัญเลยก็คือเธอคือนูน่าของมินฮยอก เธอรู้สึกแก่มาก!
‘’ค่ะ ช่างมันก็ช่างมัน แต่ซึงยอนมีเรื่องจะมาบอกค่ะ’’ ซึงยอนเริ่มเข้าเรื่องสำคัญที่เธอมาเพื่อจะเล่าให้ยูริฟังในวันนี้
ต้องยอมรับว่าเธอเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและให้คำปรึกษาที่ดี
และคนที่รู้สึกเหมือนตัวเองโดดเดี่ยวอย่างซอฮยอนก็ควรต้องการความรักจากเพื่อน พี่
หรือใครบ้าง ไม่ใช่คิดว่าตัวเองควรจะทำอะไรเองทั้งหมด
ซึงยอนเริ่มต้นเล่าเรื่องทั้งหมดที่จงฮยอนเล่าให้เธอฟังเมื่อเย็นนี้
เมื่อฟังไปยูริก็อดแสดงสีหน้าหงุดหงิดปนเป็นห่วงน้องสาวตัวดีอย่างซอฮยอนไม่ได้
เธอเองแม้จะไม่ห่วงมากมายที่ซอฮยอนเล่นวิ่งแจ้นออกจากที่ทำงานออกไปกับมินโฮ
แต่เธอรู้สึกถึงความไม่ปกติของซอฮยอน ปกติเธอไม่ใช่คนอ่อนแอที่แสดงออกมาได้โจ่งแจ้งแบบนี้
จะมีบ้างก็เมื่อนานมาแล้ว และทุกคนก็ต่างชินแล้วด้วยที่เธอชอบโทรหามินโฮอยู่บ่อยๆ
ก็อย่างว่า คนเคยรักกันมาก่อนนี่นะ จะแก้ไขยังไงได้
ขณะที่ซึงยอนก็เล่าไปตามเนื้อเรื่องและอดที่จะเป็นห่วงเพื่อนสาวตัวดีของตัวเองไม่ได้จึงขอคำปรึกษาจากยูริ
ซึ่งทั้งสองก็นั่งคิดกันอยู่พักหนึ่งว่าจะทำยังไงดีถึงจะได้ข่าวของซอฮยอนและมินโฮ
เห็นว่าซอฮยอนปิดเครื่องไปเลย ทั้งยูริและซึงยอนจึงติดต่อเธอไม่ได้
แถมเบอร์มินโฮพวกเธอก็ไม่ได้เมมไว้อีก ไม่ได้เป็นอะไรกันนี่นะ แต่แล้ว
เมื่อคิดไปคิดมายูริก็เกิดไอเดียขึ้นมาอย่างหนึ่ง
‘’ซึงยอน
นี่เราลืมอะไรไปป่ะ’’
ยูริจิกปาก เธอทำหน้าราวกับตัวเองและซึงยอนเป็นคนโง่
‘’อะไรเหรอคะ’’ ซึงยอนเลิกคิ้วสงสัย
‘’โลกนี้ไม่ได้มีแค่เราสองคน โง่จริง’’
ยูริพูดจบจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์คนที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี
ระหว่างรอสายก็มีเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ
‘’ฮัลโหล’’
ยูริพูดขึ้นเมื่อปลายสายตอบรับการโทร
‘’ว่าไงคะคุณควอน โทรมาตอนนี้คงไม่ใช่เรื่องดีหรอกใช่มั้ย’’
ปลายสายเหน็บยูริจนเธอต้องเบ้ปากใส่กลับไป
‘’ก็ใช่สิ’’ ยูริใส่อารมณ์เข้าไป ‘’ซอฮยอนของแกอกหักแล้วก็วิ่งทะเล่อทะล่าออกไปจากบริษัทพร้อมกับมินโฮสุดหล่อของแกแล้วย่ะยัยหมู!’’
‘’เดี๋ยวนะ – โอ้ย เอาอีกแล้วนะยัยเด็กโง่คนนี้’’ ทิฟฟานี่บ่น
‘’ไม่ได้โทรให้แกมาด่ายัยซอ โทรมาให้โทรไปหามินโฮด่วนเลยตอนนี้
ติดต่อซอฮยอนไม่ได้เลยเนี่ย เบอร์มินโฮก็ไม่มี’’
‘’ฉันว่าฉันเพิ่งลบไปนะ – แทคะ แทมีเบอร์มินโฮมั้ยคะ’’
ยูรินั่งฟังความเคลื่อนไหว ในใจนึกอยากให้แทยอนพูดว่ามีออกมา
เธอได้ยินเสียงแทยอนเล็ดลอดเข้ามาว่าจะหาให้
‘’รอแปปนะ แทยอนกำลังหาให้’’ ทิฟฟานี่สั่งเพื่อน
‘’ได้ยินแล้วแหละ – ว่าแต่อยู่กันสองคนเหรอ’’
‘’ใช่ ทำไมเหรอ’’ ทิฟฟานี่ถาม
ยูรินิ่งไปพักหนึ่งก่อนพูดขึ้น
‘’พวกเรายอมรับพวกแกนะ เพราะมันก็น่ารักดี และมันก็ปกติ
แต่ถ้าอยู่ในเกาหลีพวกแกก็อย่าเปิดเผยมากละกัน ที่นี่เกาหลี มันคงอยู่ยาก’’
‘’เข้าใจแล้ว ฉันถึงไปๆกลับๆยังไงล่ะ’’ ทิฟฟานี่นึกขอบคุณที่เพื่อนของเธอเข้าใจและยอมรับ
‘’ยัยยูริ แทยอนบอกว่ามีล่ะ’’
‘’ดีเลย เธอโทรไปเลยสิ สนิทกับมินโฮนี่’’
ยูริโบ้ยให้ทิฟฟานี่
‘’แหม แต่ก็ดี อยากโทรหามินโฮพอดีเลย’’
ทิฟฟานี่ขำคิกคัก ‘’ย่าส์ แทงกูยา เจ็บนะ!’’
‘’ยังไงถ้าโทรแล้วโทรกลับมาด้วยนะ ฉันกับซึงยอนรออยู่’’
‘’ซึงยอนก็อยู่เหรอ – ฝากทักทายด้วยนะ แล้วเดี๋ยวจะรีบโทรกลับ’’
‘’รีบๆล่ะ’’
[Tiffany
– Taeyeon Special]
ทิฟฟานี่ยืมโทรศัพท์แทยอนที่ทำท่าจะไม่ยอมให้กดโทรหามินโฮ
แต่เมื่อเธอบอกจุดประสงค์ว่าจะโทรติดต่อใครและเหตุการณ์เป็นยังไงแทยอนก็ถึงกับเป็นคนกดเองทุกอย่าง
เป็นเรื่องจริงที่ว่าซอฮยอนเป็นน้องเล็กในกลุ่มที่เป็นที่รักของทุกคน
แม้เธอจะดูแรงหรือหยิ่งยโสโอหังมาจากไหน
แต่กับพี่ๆแล้วเธอเหมือนแมวน้อยเชื่องๆที่คอยเกาะแข้งเกาะขาพี่ๆในกลุ่มตลอด
ทั้งสองรอปลายสายรับอย่างใจจดใจจ่อ
‘’ว่าไงครับ’’
ปลายสายพูดขึ้น ทิฟฟานี่เปิดสปีคเกอร์โฟน แทยอนจ้องหน้าเธอตาเบิกโพลงเล็กน้อยก่อนทิฟฟานี่จะเริ่มมาจดจ่อที่ปลายสายอีกครั้ง
‘’มินโฮ – นี่ออนนี่เองนะ’’ ทิฟฟานี่พูดอย่างระมัดระวัง
แทยอนเขยิบตัวเข้าใกล้ทิฟฟานี่อีกนิดอย่างจดจ่อ
‘’ครับ’’ มินโฮพูดแค่นั้น ทิฟฟานี่หงุดหงิดเล็กน้อย
‘’เธอกับซอฮยอนอยู่ไหนกันตอนนี้’’ เธอเริ่มประเด็น ปลายสายเงียบไปก่อนพักหนึ่ง
ก่อนเสียงที่ดังขึ้นจะทำให้ทุกคนสบายใจ
‘’ออนนี่คะ ซออยู่กับมินโฮค่ะ’’
‘’ซอฮยอน! เป็นบ้าอะไรขึ้นมาถึงพรวดพราดออกจากบริษัทไปแบบนั้นห้ะ
ผีอะไรเข้าสิงเธอเนี่ย!’’ ทิฟฟานี่เหน็บเป็นการใหญ่ ซึ่งแทยอนไม่ได้ห้ามอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
เธอคิดว่าซอฮยอนสมควรถูกดุแล้ว
‘’ใจเย็นๆสิคะ ซอก็แค่มากับมินโฮเอง ไว้ใจเถอะค่ะ’’
‘’อ๋อ จริงสินะ หลายครั้งแล้วนี่ พวกฉันควรจะชินสินะ’’
ทิฟฟานี่เหน็บ
‘’อย่าเพิ่งด่ากันตอนนี้เลยค่ะ ซอเหนื่อยมากแล้ว’’
ซอฮยอนมีน้ำเสียงเหนื่อยล้า ‘’มาทะเลกับมินโฮค่ะ
เดี๋ยวก็กลับ ไม่กี่วันนี้หรอกค่ะ’’
‘’ฉันจะโทรหาเธอทุกวัน เปิดเครื่องด้วยล่ะยัยเด็กคนนี้’’
‘’ย่าส์ ระวังตัวด้วยนะอยู่กับมินโฮน่ะ!’’
แทยอนตะโกนเสริมเข้ามา
‘’ค่ะ ซอวางแล้วนะคะ คืนนี้ฝันดีค่ะ’’
ซอฮยอนพูดแค่นั้นก่อนที่จะวางสายไป ปล่อยให้ทิฟฟานี่ก้ำกึ่งในอารมณ์โล่งอกและเป็นห่วงไปพร้อมๆกัน
เธอวางใจแล้วที่ซอฮยอนยังอยู่ดี
แต่ก็ไม่สบายใจเรื่องสภาพจิตใจของซอฮยอนและการที่เธอต้องอยู่ร่วมกับมินโฮในตอนนี้อีก
ใครหักอกซอฮยอนแล้วทำให้เธอสติแตกกันนะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนนี้ไม่มียงฮวานะคะ จะเป็นตอนหน้าไปเลย ส่วนนักอ่านคนใดที่ไม่พอใจในผลงานของไรเตอร์ก็นี่ค่ะ ปิดสิคะรออะไร ไรเตอร์เป็นคนนิสัยไม่ดีค่ะ รับความเห็นเพื่อนำมาพัฒนาการแต่งไม่ได้ ยิ่งใครมาติมาด่าไรต์จะชอบเตลิดค่ะ ไม่อยากแต่งต่อ เข้าใจตามนี้นะคะ ไรต์เตอร์ฟิคนี้นิสัยไม่ค่อยดีหรอกค่ะ ใครดีมาไรต์จะรักมากเลยนะคะ ใครทำแย่กลับก็เชิญกลับหลุมตัวเองได้ รำคาญค่ะ สั้นๆ ไม่ต้องอ่านไม่ต้องเม้นต์ก็ได้ค่ะ นี่จะพยายามไม่สนใจแล้ว แต่งให้คนที่อยากอ่านพอ #ถ้าจะเม้นต์ชมแล้วแขวะไปในตัวก็เลิกเถอะค่ะนี่เบื่อมาก ส่วนใครที่รักกันก็วางใจได้เลยค่ะไรต์จำทุกคนได้หมดและขอขอบคุณทุกกำลังใจและความรักที่มีให้กันนะคะ ไรต์รักพวกคุณมากเลย ไม่ว่าไรต์จะชอบหายไปหรือยังไงทุกคนก็จะมาเม้นต์ตามไรต์กลับทุกที ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ไม่มีคอมเม้นต์ของพวกคุณก็ไม่มีฟิคที่อัพเดตทุกวันนี้ อยู่ด้วยกันไปจนจบเลยนะคะ รักทุกคนมากค่ะ
ความคิดเห็น