ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fake Mask] หน้ากากซาตาน (Yonghwa/Seohyun-YongSeo)

    ลำดับตอนที่ #17 : Chapter 16 : เป็นห่วง

    • อัปเดตล่าสุด 15 ม.ค. 59


     

              [เหตุการณ์ตอนเช้าหลังเกิดเรื่องจนจบวัน ย้อนเรื่องของด้านอีกฝ่าย]

             

     

              ขณะนั่งอยู่บนรถยนต์ส่วนตัวของมินโฮหัวสมองของซอฮยอนก็คิดอะไรไปเรื่อย เธอย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เพิ่งผ่านมาสดๆร้อนๆเห็นจะได้  แต่เมื่อนึกย้อนดูดีๆเธอก็ต้องชะงักกับชื่อบุคคลปริศนาที่หลุดออกมาจากปากร่างสูงข้างๆตัว เธอคือใครกันนะ พี่ยงของน้องไอรีน 

     

              ...เขามีความสำคัญกับยงฮวายังไง แล้วมินโฮรู้จักยงฮวาได้ยังไง

     

              ‘’มินโฮ’’

              ซอฮยอนที่นั่งเงียบมาตลอดทางเรียกมินโฮเสียงเบาแต่แฝงไปด้วยพลังที่ทำให้คนข้างๆที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่หันมาหาเธอ เขามีสีหน้าสงสัย แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของร่างบางก็ทำให้ตัดสินใจเข้าเลนส์ซ้ายแล้วหยุดรถทันที

              ‘’มีอะไรหรือเปล่าจูฮยอน’’ หลังจากหยุดรถเรียบร้อยแล้ว มินโฮหันมาหาซอฮยอนในท่าที่ตั้งใจฟัง เธอจ้องหน้าเขาอยู่พักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจถามคำถามออกมา เธอไม่แน่ใจว่าเขาจะกล้าตอบเธอมาตามตรงหรือเปล่า

              ‘’ไอรีนคือใครเหรอ’’ ซอฮยอนกลั้นหายใจ เธอรู้นิสัยของผู้ชายตรงหน้าดี ถ้าเธอเกิดเลือกถามคำถามไม่เข้าหูเขาขึ้นมา อาจจะเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ที่เธอต้องเจอกับรังศีแปลกๆแผ่ซ่านเข้ามากระทบเธอ ‘’แล้วนายรู้จักเขาได้ยังไง’’

              เขาที่ว่าก็คือยงฮวายังไงล่ะไม่เห็นต้องเดากันให้มากความเลย ซอฮยอนเลือกที่จะแทนสรรพนามยงฮวาว่าเขา แต่นั่นไม่สำคัญหรอกเมื่อเทียบกับผู้ชายร่างสูงข้างกาย มินโฮเงียบไปพักใหญ่จนทำให้ซอฮยอนเสียวสันหลัง แต่ในที่สุด เขาเลือกที่จะละสายตาจากซอฮยอนแล้วก็จับพวงมาลัยหมุนเริ่มเคลื่อนตัวรถ

     

    เขาไม่ตอบคำถามเธอ!

     

              นิสัยของมินโฮเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น ถ้าเขาคิดว่าเรื่องไหนสำคัญจนบอกใครไม่ได้เขาก็เลือกที่จะเงียบ หรือแม้แต่ตัวเธอเองเขาก็เลือกที่จะเงียบใส่ อะไรที่มันสำคัญขนาดนั้นจนบอกใครไม่ได้นะ และเธอต้องรู้ให้ได้!

     

              ซอฮยอนนั่งนิ่งราวกับรูปปั้นไม่ไหวติงหลังจากนั้น เธอไม่ปริปาก ไม่ขยับตัว หรือแม้กระทั่งตอนหายใจเธอยังต้องหายใจให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเธอทำลายฐานป้องกันตัวของตัวเองไปแล้วยังไงล่ะ

     

              นานนับสิบนาทีกว่ามินโฮจะเริ่มรู้สึกว่าการกระทำของเขาเองทำให้คนตรงเบาะฝั่งตรงข้ามนิ่งงันไม่ไหวติง เธอเหมือนคนใบ้ไปเลยหลังจากที่โดนมินโฮตัดหน้าไม่ตอบคำถามไป อีกอย่างยัยนี่เพิ่งโดนหักอกมาด้วยก็คงจะฟุ้งซ่านแหง

     

              ‘’จูฮยอนอยากไปไหนหรือเปล่า’’

              คำแรกที่มินโฮนึกออก จูฮยอนของเขาเวลาอกหักชอบไปที่ไกลๆเสมอ ซอฮยอนเองที่นั่งนิ่งมาก็ตั้งนานสะดุ้งเล็กน้อย เธอหันไปหาเขาอย่างระวัง

              ‘’ไปไหนก็ได้ แล้วแต่นาย’’ เธอเลือกตอบคำถามง่ายๆ มินโฮจ้องเธอครู่หนึ่งก่อนจะละสายตาออกมา เขาทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรออกมา

              ‘’ขอโทษนะ’’ และในที่สุดเขาก็พูดออกมา อย่างน้อยเขาก็มีความรู้สึก

              ‘’เรื่อง?’’ ซอฮยอนแกล้งไม่รู้เรื่อง เธอแค่อยากกระตุ้นเขา เพราะคนอย่างมินโฮพูดคำว่าขอโทษไม่เกินสิบครั้งในชีวิตได้มั้ง

              ‘’ก็ คือฉันบอกไม่ได้เรื่องที่เธอถาม ขอโทษละกัน’’ มินโฮถอนหายใจออกมาดังๆหนึ่งทีก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง ‘’เราไปทะเลกันมั้ย’’

              ‘’ทะเลที่ไหน’’ ซอฮยอนก็ร่วมมือเปลี่ยนเรื่องเช่นกัน

              ‘’ครั้งแรกที่กลับมาเกาหลี’’

              อะไรกันครั้งแรกที่กลับมาเกาหลี ซอฮยอนขมวดคิ้วสงสัย มินโฮที่นั่งอยู่ข้างๆลุ้นจนสีหน้าเผยอารมณ์ออกมาอย่างน่ารัก เขาอารมณ์ดีขึ้นมาแล้วสินะ

              ‘’หรือว่าเดทครั้งแรกในเกาหลีของเราเหรอ’’ ซอฮยอนพูดเบาๆอย่างไม่แน่ใจ แต่มันต้องใช่อยู่แล้วสิ ไม่มีเหตุผลอะไรที่มันจะไม่ถูก

              ‘’อืม จำได้ด้วยเหรอ’’

              ที่เธออคิดไว้ถูกแล้วสินะ

              ‘’แล้วทำไมต้องจำไม่ได้ล่ะ’’

              ‘’ก็นึกว่าลืมไปแล้ว’’ มินโฮพูดเสียงเบา

              ‘’ลืมได้ด้วยเหรอ’’ ซอฮยอนมองทางตรงแกล้งไม่ใส่ใจ ‘’ไปสิ อยากไปเหมือนกัน อยากรู้ว่าอะไรๆมันจะเหมือนเดิมมั้ย’’

              มินโฮเหล่ตามองคนข้างๆแล้วจึงกลับมาโฟกัสกับการขับรถต่อ

              ‘’ไม่เหมือนเดิมหรอก’’ จู่ๆเขาก็พูดขึ้น ซอฮยอนหันหน้าไปมองเขา มินโฮยังคงทำหน้าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ‘’ขนาดเราสองคน ยังไม่เหมือนเดิมเลย’’

              จุก ประโยคเดียวทำเอาเธอไปไหนไม่ได้ ซอฮยอนได้แต่มองหน้าเขานิ่ง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ความผิดของเธอเลยแม้แต่น้อย เป็นเพราะเขาเองที่ไม่ยอมหยุด และเธอก็เลือกแล้วเหมือนกัน

     

    แต่ถ้าเธอเลือกที่จะเลิกกับเขาแล้ว ทำไมเขายังมีส่วนในชีวิตของเธออยู่นะ

    เป็นเรื่องเดียวจริงๆที่เธอไม่อยากยอมรับ

     

     

     

     

     

     

     

     

              เวลาเกือบสองทุ่มตรงซึงยอนกำโทรศัพท์แน่นเดินไปมาอยู่ตรงห้องนั่งเล่น เธอนึกห่วงซอฮยอนแทบตายเมื่อรู้ว่าเธอพุ่งพรวดออกไปกับมินโฮ แต่ตอนนี้ในใจเธอที่ว้าวุ่นกว่าก็คือเรื่องของจงฮยอนนั่นเอง แม้จะพยายามทำใจให้ชินแต่ก็ปลงไม่ได้เสียทีเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังใช้ผู้ชายร่วมกับคนอื่น

     

              เธอไม่ได้ห่วงมากมายขนาดนั้นหรอกที่ซอฮยอนไปกับมินโฮ เธอเป็นแบบนี้บ่อย ถึงมินโฮจะไม่ใช่คนดีหรือเรียกได้ว่าเลวเลยก็ได้ แต่เขาก็คงไม่ได้ทำอะไรซอฮยอนหรอก อีกอย่างทั้งคู่ก็คงเข้าใจกันดีเพราะเคยรักกันมาก่อน แต่ที่ห่วงก็คือผู้ชายในวงปีศาจคนหนึ่งกำลังหักอกเธออยู่ต่างหาก และเดาได้ไม่ยากเลยว่าใคร

     

              แต่ตอนนี้ขอห่วงเรื่องของตัวเองก่อนเถอะ จงฮยอนนิสัยแบบนี้ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ที่เห็นเขาออดอ้อนนั่นก็มารยาความแรดของผู้ชายอย่างเขาทั้งนั้น ทำไมเธอถึงเป็นแฟนคลับคนอย่างเขาได้นะ แถมตอนนี้ยังเลื่อนขั้นจะเป็นแฟนเขาอยู่มะรอมมะร่อ มันก็เกือบจะฟินอยู่แล้วนะถ้าเขาไม่เผยธาตุแท้ออกมาก่อน!

     

              ซึงยอนตัดสินใจกดโทรศัพท์โทรหาใครบางคนทันที

     

              ‘’ออนนี่คะ ว่างไหมคะ’’

              ซึงยอนกรอกเสียงลงไปยังปลายสายที่ดูเหมือนจะอยู่ไหนสักที่ที่เปิดเพลงดังมากจนเธอทนฟังแทบไม่ได้

              ‘’ซึงยอนเหรอ ออนนี่อยู่ Octagon’’ ยูริตะโกนแข่งกับเสียงเพลงอัดบีต

              ‘’ออนนี่ ซึงยอนมีเรื่องจะเล่าให้ฟังค่ะ’’ ซึงยอนพูด ‘’แต่คุยทางโทรศัพท์คงไม่สะดวก เจอกันนะคะ’’

              ‘’รีบมาล่ะยัยหมี’’

              พูดจบซึงยอนก็รีบวางสายทันที เธอวางโทรศัพท์พลางวิ่งไปเปลี่ยนชุดอย่างรวดเร็ว เธอเลือกชุดเดรสสั้นสีดำเผยอกอิ่มและเรียวขาสวย ซึงยอนเลือกระบายเปลือกตาแบบสโม้คกี้อายและเลือกทาสีปากด้วยสีแดงจัดจ้าน 

              มีคนบอกว่าอะไรนะ ถ้ากำลังโดนนอกใจก็ให้นอกใจชิงตัดหน้าเหรอ แต่ไม่หรอก เธอจะไม่นอกใจจงฮยอนหรอก เชื่อสิ และซึงยอนคนใสซื่อที่ใครๆก็ชอบพูดแบบนี้นี่แหละจะฉีกลุคส์ตัวเอง ผู้หญิงซื่อก็แซ่บ ได้เหมือนกันนะคะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              ซึงยอนก้าวเท้ามายังผับชื่อดังขนาดใหญ่พิเศษย่านกังนัมที่ชื่อว่า Octogon บรรดาลูกคนรวยคนมีตังค์ เซเล็บ หรือผู้มีอำนาจเท่านั้นที่เข้าได้โดยไม่ต้องเสี่ยงตกเป็นข่าว และซึงยอนเองก็เป็นลูกของคุณกง เจ้าของบ่อนพนันรายใหญ่ที่ประเทศญี่ปุ่น ที่มีอำนาจแผ่ขยายทำให้เป็นที่รู้จักของคนเกาหลี เป็นเรื่องถูกทีเดียวที่ว่าประเทศเกาหลีไม่ขึ้นชื่อและไม่ยอมรับ แต่ใครสนกันล่ะ ในเมื่อเธอเป็นลูกสาวเจ้าของบ่อนรายใหญ่ในญี่ปุ่น

     

              เธอกวาดตามองโต๊ะวีไอพีที่อยู่ทางด้านบน และแล้วสายตาก็ไปปะทะกับบุคคลที่กำลังหาตัวอยู่พอดี ยูริ ออนนี่และนูน่าสุดเปรี้ยวของใครหลายคน เธอไม่ค่อยมีเรื่องเครียดมากเท่าไรหรอกในชีวิตนี้ แต่ถึงมียูริก็จะเป็นประเภทไม่แคร์โลก เรียกว่าปลงดีมั้ยนะ แต่เธอสลัดทุกเรื่องออกไปได้รวดเร็วมากจริงๆ

     

              ‘’ออนนี่คะ!’’ ซึงยอนตะโกนเรียกเมื่อเดินเกือบถึงโต๊ะที่ยูริจองไว้

              ‘’ยัยหมี ใครเข้าฝันเธอหรือเปล่าเนี่ย!?’’ ยูริเบิกตาโพลงท่าทางตกใจ ซึงยอนขมวดคิ้วอยู่พักหนึ่งก่อนจะเข้าใจว่ายูริจะสื่อถึงอะไร

              ‘’ก็อยากเปลี่ยนลุคส์บ้างนี่คะ’’ ซึงยอนยิ้ม จริงๆแล้วเธอมาเพื่อเริ่มแผนต่างหาก แผนฆ่าจงฮยอนทางอ้อมไงล่ะ

              ‘’ทะเลาะกับคุณสามีมากกว่ามั้ง’’

              ยูริเรียกสามีแทนว่าจงฮยอนจนซึงยอนย่นหน้าเล็กน้อยอย่างเอือมๆ

              ‘’อย่ามารู้ดีไปหน่อยเลยค่ะออนนี่’’ ซึงยอนตอกกลับ ‘’แล้วมินฮยอกไปไหนล่ะคะ’’

              โดนเล่นแล้วไงยูริ ซึงยอนนี่ดูท่าจะอยากเอาคืนจงฮยอนมากจริงๆนะถึงได้พาลมาหาเธอขนาดนี้ ไม่ได้สิ ทุกคนจะต้องไม่รู้ว่าเรากำลังคุยใครอยู่

              ‘’มินฮยอกไหนเหรอ งง’’ ยูริพูดหน้าตาย ซึงยอนเบะปากใส่เธอเล็กๆ

              ‘’ก็มินฮยอกคนที่ชอบเรียกยูรินูน่าไงคะ แถมตามจีบด้วยนี่’’

              ซึงยอนสะกดช้าๆชัดๆจนออนนี่ตรงหน้าเม้มปากเป็นเส้นตรง

              ‘’ช่างมันเถอะน่า ใส่ใจอะไรกันล่ะ’’

              ยูริรู้สึกเสียหน้าที่เธอรู้ดีเกินไปแล้ว บอกตามตรงก็ได้ว่าเธอค่อนข้างเกลียดวง CNBLUE เนื่องมาจากข่าวเสียหายเรื่องผู้หญิง แต่หลังจากวันที่นัดซอฮยอนและซึงยอนมาวันนั้นมินฮยอกก็ดันตามตื๊อขอช่องทางการติดต่อจนเธอรำคาญต้องให้ไป หลังจากนั้นเขาก็ตื๊อเธอตลอด ชวนไปนู่นมานี่ แต่สิ่งสำคัญเลยก็คือเธอคือนูน่าของมินฮยอก เธอรู้สึกแก่มาก!

              ‘’ค่ะ ช่างมันก็ช่างมัน แต่ซึงยอนมีเรื่องจะมาบอกค่ะ’’ ซึงยอนเริ่มเข้าเรื่องสำคัญที่เธอมาเพื่อจะเล่าให้ยูริฟังในวันนี้ ต้องยอมรับว่าเธอเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและให้คำปรึกษาที่ดี และคนที่รู้สึกเหมือนตัวเองโดดเดี่ยวอย่างซอฮยอนก็ควรต้องการความรักจากเพื่อน พี่ หรือใครบ้าง ไม่ใช่คิดว่าตัวเองควรจะทำอะไรเองทั้งหมด

     

              ซึงยอนเริ่มต้นเล่าเรื่องทั้งหมดที่จงฮยอนเล่าให้เธอฟังเมื่อเย็นนี้ เมื่อฟังไปยูริก็อดแสดงสีหน้าหงุดหงิดปนเป็นห่วงน้องสาวตัวดีอย่างซอฮยอนไม่ได้ เธอเองแม้จะไม่ห่วงมากมายที่ซอฮยอนเล่นวิ่งแจ้นออกจากที่ทำงานออกไปกับมินโฮ แต่เธอรู้สึกถึงความไม่ปกติของซอฮยอน ปกติเธอไม่ใช่คนอ่อนแอที่แสดงออกมาได้โจ่งแจ้งแบบนี้ จะมีบ้างก็เมื่อนานมาแล้ว และทุกคนก็ต่างชินแล้วด้วยที่เธอชอบโทรหามินโฮอยู่บ่อยๆ ก็อย่างว่า คนเคยรักกันมาก่อนนี่นะ จะแก้ไขยังไงได้

     

              ขณะที่ซึงยอนก็เล่าไปตามเนื้อเรื่องและอดที่จะเป็นห่วงเพื่อนสาวตัวดีของตัวเองไม่ได้จึงขอคำปรึกษาจากยูริ ซึ่งทั้งสองก็นั่งคิดกันอยู่พักหนึ่งว่าจะทำยังไงดีถึงจะได้ข่าวของซอฮยอนและมินโฮ เห็นว่าซอฮยอนปิดเครื่องไปเลย ทั้งยูริและซึงยอนจึงติดต่อเธอไม่ได้ แถมเบอร์มินโฮพวกเธอก็ไม่ได้เมมไว้อีก ไม่ได้เป็นอะไรกันนี่นะ แต่แล้ว เมื่อคิดไปคิดมายูริก็เกิดไอเดียขึ้นมาอย่างหนึ่ง

     

              ‘’ซึงยอน นี่เราลืมอะไรไปป่ะ’’

              ยูริจิกปาก เธอทำหน้าราวกับตัวเองและซึงยอนเป็นคนโง่

              ‘’อะไรเหรอคะ’’ ซึงยอนเลิกคิ้วสงสัย

              ‘’โลกนี้ไม่ได้มีแค่เราสองคน โง่จริง’’ ยูริพูดจบจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์คนที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี ระหว่างรอสายก็มีเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ

              ‘’ฮัลโหล’’

              ยูริพูดขึ้นเมื่อปลายสายตอบรับการโทร

              ‘’ว่าไงคะคุณควอน โทรมาตอนนี้คงไม่ใช่เรื่องดีหรอกใช่มั้ย’’

              ปลายสายเหน็บยูริจนเธอต้องเบ้ปากใส่กลับไป

              ‘’ก็ใช่สิ’’ ยูริใส่อารมณ์เข้าไป ‘’ซอฮยอนของแกอกหักแล้วก็วิ่งทะเล่อทะล่าออกไปจากบริษัทพร้อมกับมินโฮสุดหล่อของแกแล้วย่ะยัยหมู!’’

              ‘’เดี๋ยวนะ โอ้ย เอาอีกแล้วนะยัยเด็กโง่คนนี้’’ ทิฟฟานี่บ่น

              ‘’ไม่ได้โทรให้แกมาด่ายัยซอ โทรมาให้โทรไปหามินโฮด่วนเลยตอนนี้ ติดต่อซอฮยอนไม่ได้เลยเนี่ย เบอร์มินโฮก็ไม่มี’’

              ‘’ฉันว่าฉันเพิ่งลบไปนะ แทคะ แทมีเบอร์มินโฮมั้ยคะ’’

              ยูรินั่งฟังความเคลื่อนไหว ในใจนึกอยากให้แทยอนพูดว่ามีออกมา เธอได้ยินเสียงแทยอนเล็ดลอดเข้ามาว่าจะหาให้

              ‘’รอแปปนะ แทยอนกำลังหาให้’’ ทิฟฟานี่สั่งเพื่อน

              ‘’ได้ยินแล้วแหละ ว่าแต่อยู่กันสองคนเหรอ’’

              ‘’ใช่ ทำไมเหรอ’’ ทิฟฟานี่ถาม ยูรินิ่งไปพักหนึ่งก่อนพูดขึ้น

              ‘’พวกเรายอมรับพวกแกนะ เพราะมันก็น่ารักดี และมันก็ปกติ แต่ถ้าอยู่ในเกาหลีพวกแกก็อย่าเปิดเผยมากละกัน ที่นี่เกาหลี มันคงอยู่ยาก’’

              ‘’เข้าใจแล้ว ฉันถึงไปๆกลับๆยังไงล่ะ’’ ทิฟฟานี่นึกขอบคุณที่เพื่อนของเธอเข้าใจและยอมรับ ‘’ยัยยูริ แทยอนบอกว่ามีล่ะ’’

              ‘’ดีเลย เธอโทรไปเลยสิ สนิทกับมินโฮนี่’’ ยูริโบ้ยให้ทิฟฟานี่

              ‘’แหม แต่ก็ดี อยากโทรหามินโฮพอดีเลย’’ ทิฟฟานี่ขำคิกคัก ‘’ย่าส์ แทงกูยา เจ็บนะ!’’

              ‘’ยังไงถ้าโทรแล้วโทรกลับมาด้วยนะ ฉันกับซึงยอนรออยู่’’

              ‘’ซึงยอนก็อยู่เหรอ ฝากทักทายด้วยนะ แล้วเดี๋ยวจะรีบโทรกลับ’’

              ‘’รีบๆล่ะ’’

     

     

     

     

     

              [Tiffany – Taeyeon Special]

     

              ทิฟฟานี่ยืมโทรศัพท์แทยอนที่ทำท่าจะไม่ยอมให้กดโทรหามินโฮ แต่เมื่อเธอบอกจุดประสงค์ว่าจะโทรติดต่อใครและเหตุการณ์เป็นยังไงแทยอนก็ถึงกับเป็นคนกดเองทุกอย่าง เป็นเรื่องจริงที่ว่าซอฮยอนเป็นน้องเล็กในกลุ่มที่เป็นที่รักของทุกคน แม้เธอจะดูแรงหรือหยิ่งยโสโอหังมาจากไหน แต่กับพี่ๆแล้วเธอเหมือนแมวน้อยเชื่องๆที่คอยเกาะแข้งเกาะขาพี่ๆในกลุ่มตลอด

     

              ทั้งสองรอปลายสายรับอย่างใจจดใจจ่อ

     

              ‘’ว่าไงครับ’’

              ปลายสายพูดขึ้น ทิฟฟานี่เปิดสปีคเกอร์โฟน แทยอนจ้องหน้าเธอตาเบิกโพลงเล็กน้อยก่อนทิฟฟานี่จะเริ่มมาจดจ่อที่ปลายสายอีกครั้ง

              ‘’มินโฮ นี่ออนนี่เองนะ’’ ทิฟฟานี่พูดอย่างระมัดระวัง แทยอนเขยิบตัวเข้าใกล้ทิฟฟานี่อีกนิดอย่างจดจ่อ

              ‘’ครับ’’ มินโฮพูดแค่นั้น ทิฟฟานี่หงุดหงิดเล็กน้อย

              ‘’เธอกับซอฮยอนอยู่ไหนกันตอนนี้’’ เธอเริ่มประเด็น ปลายสายเงียบไปก่อนพักหนึ่ง ก่อนเสียงที่ดังขึ้นจะทำให้ทุกคนสบายใจ

              ‘’ออนนี่คะ ซออยู่กับมินโฮค่ะ’’

              ‘’ซอฮยอน! เป็นบ้าอะไรขึ้นมาถึงพรวดพราดออกจากบริษัทไปแบบนั้นห้ะ ผีอะไรเข้าสิงเธอเนี่ย!’’ ทิฟฟานี่เหน็บเป็นการใหญ่ ซึ่งแทยอนไม่ได้ห้ามอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว เธอคิดว่าซอฮยอนสมควรถูกดุแล้ว

              ‘’ใจเย็นๆสิคะ ซอก็แค่มากับมินโฮเอง ไว้ใจเถอะค่ะ’’

              ‘’อ๋อ จริงสินะ หลายครั้งแล้วนี่ พวกฉันควรจะชินสินะ’’ ทิฟฟานี่เหน็บ

              ‘’อย่าเพิ่งด่ากันตอนนี้เลยค่ะ ซอเหนื่อยมากแล้ว’’ ซอฮยอนมีน้ำเสียงเหนื่อยล้า ‘’มาทะเลกับมินโฮค่ะ เดี๋ยวก็กลับ ไม่กี่วันนี้หรอกค่ะ’’

              ‘’ฉันจะโทรหาเธอทุกวัน เปิดเครื่องด้วยล่ะยัยเด็กคนนี้’’

              ‘’ย่าส์ ระวังตัวด้วยนะอยู่กับมินโฮน่ะ!’’ แทยอนตะโกนเสริมเข้ามา

              ‘’ค่ะ ซอวางแล้วนะคะ คืนนี้ฝันดีค่ะ’’ ซอฮยอนพูดแค่นั้นก่อนที่จะวางสายไป ปล่อยให้ทิฟฟานี่ก้ำกึ่งในอารมณ์โล่งอกและเป็นห่วงไปพร้อมๆกัน เธอวางใจแล้วที่ซอฮยอนยังอยู่ดี แต่ก็ไม่สบายใจเรื่องสภาพจิตใจของซอฮยอนและการที่เธอต้องอยู่ร่วมกับมินโฮในตอนนี้อีก

     

    ใครหักอกซอฮยอนแล้วทำให้เธอสติแตกกันนะ





    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ตอนนี้ไม่มียงฮวานะคะ จะเป็นตอนหน้าไปเลย ส่วนนักอ่านคนใดที่ไม่พอใจในผลงานของไรเตอร์ก็นี่ค่ะ ปิดสิคะรออะไร ไรเตอร์เป็นคนนิสัยไม่ดีค่ะ รับความเห็นเพื่อนำมาพัฒนาการแต่งไม่ได้ ยิ่งใครมาติมาด่าไรต์จะชอบเตลิดค่ะ ไม่อยากแต่งต่อ เข้าใจตามนี้นะคะ ไรต์เตอร์ฟิคนี้นิสัยไม่ค่อยดีหรอกค่ะ ใครดีมาไรต์จะรักมากเลยนะคะ ใครทำแย่กลับก็เชิญกลับหลุมตัวเองได้ รำคาญค่ะ สั้นๆ ไม่ต้องอ่านไม่ต้องเม้นต์ก็ได้ค่ะ นี่จะพยายามไม่สนใจแล้ว แต่งให้คนที่อยากอ่านพอ #ถ้าจะเม้นต์ชมแล้วแขวะไปในตัวก็เลิกเถอะค่ะนี่เบื่อมาก ส่วนใครที่รักกันก็วางใจได้เลยค่ะไรต์จำทุกคนได้หมดและขอขอบคุณทุกกำลังใจและความรักที่มีให้กันนะคะ ไรต์รักพวกคุณมากเลย ไม่ว่าไรต์จะชอบหายไปหรือยังไงทุกคนก็จะมาเม้นต์ตามไรต์กลับทุกที ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ไม่มีคอมเม้นต์ของพวกคุณก็ไม่มีฟิคที่อัพเดตทุกวันนี้ อยู่ด้วยกันไปจนจบเลยนะคะ รักทุกคนมากค่ะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×