ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สงครามแห่งจันทรา

    ลำดับตอนที่ #7 : รอบสอง(2)

    • อัปเดตล่าสุด 22 มิ.ย. 49


    บทที่ 6 รอบสอง ( 2 )

    ----------------------------------------------------------------------------

     

             เด็กหนุ่มพุ่งตัวเข้าใส่นักฆ่าหมายเลขสามที่แทบไม่ทันระวังตัว มือทั้งสองข้างเงื้อดาบใหญ่ ก่อนจะรวบรวมกำลังทั้งหมดฝากความหวังไว้ที่ดาบเล่มนี้และฟันฉับเข้าร่างเล็กๆ ซึ่งแทบจะกระเด็นตกขอบเวทีเนื่องจากใช้มือทั้งสองข้างยั้งแรงดาบที่เหลือเพียงไม่ถึงหนึ่งนิ้ว หน้าของเธอก็จะรับคมดาบนั้นเข้าไปเต็มๆ

              เจ้าของดาบบัดนี้กดแรงทั้งหมดในตัวไว้ที่ดาบจนเหนื่อยหอบเหงื่อโทรมกาย นักฆ่าที่ร่างเล็กกว่าก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน สองมือที่ต้านแรงดาบไว้นั้นทำให้ขาเล็กๆถูกแรงที่ดูจะมีมากกว่าดันถอยจนเกือบตกขอบสามประลอง ....

               ราวกับเทพเจ้าแห่งความเงียบเข้ามากลืนกินเสียงของผู้ชมทั่วทั้งลานประลอง ทุกอย่างเงียบสนิทและกดดันเกินกว่าแต่ละคนจะเปล่าเสียงเชียร์ที่แฝงไปด้วยความตื่นเต้นออกมาได้ มีเพียงเสียงเหนื่อยหอบอย่างรุนแรงของสองร่างบนเวทีที่ทำให้รู้ว่าการแข่งขันยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง

     

    " วางใจเถอะแค่ทำให้ตกเวทีไปเท่านั้นแหล่ะ "

     

              เด็กหนุ่มที่ตอนนี้แทบจะยืนไม่ไหว ยังมีแก่ใจเอ่ยบอกเด็กหญิงที่ซ่อนใบหน้าอยู่ใต้ผ้าคลุม เธอไม่ตอบ แต่มือที่ยื้อดาบไว้สั่นเล็กน้อย

     

    " อีกไม่นานหรอก...ก็เพราะว่า..." เขาพูดต่อ ใบหน้าที่ดูเหนื่อยและมีเหงื่อโทรม ยิ้มอย่างมีชัย

     

    " มือเธอ ชุ่มเหงื่อแล้วน่ะสิ "

     

              ร่างเล็กเริ่มโงนเงน ขาข้างซ้ายเกือบเหยียบเส้นสีแดงที่เป็นขอบเวทีอีกเพียงเสี้ยวเดียว...มือทั้งสองเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อและเริ่มต้านแรงดาบไม่ไหว !!

     

    ฟ้าว !

     

             เสียงดาบใหญ่แหวกอากาศก่อนจะตามด้วยเสียงตุบเบาๆ โชคดีที่จังหวะนั้น นักฆ่าที่เกือบจะตกเวทีตัดสินใจกระโดดขึ้นไปในวินาทีนั้นเอง ทำให้เธอสามารถหลบคมดาบพ้น แต่แรงที่เหลือน้อยเต็มที่คงไม่พอสำหรับจะใช้สู้ต่อ...ไม่มีแรงอีกแล้ว...ไม่เหลือแล้ว..

     

               ความเย็นเยียบของคมดาบจ่อเข้าที่คอเธอ เด็กหญิงเงยหน้าขึ้นจ้องมองแววตาและรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยน ซึ่งบัดนี้ดูเหมือนแรงก็เหลือน้อยเต็มที

     

    " ฆ่าฉันเลยสิ "

    " ทำไมฉันต้องฆ่าเธอด้วย "

    บัดนี้ใบหน้านั้นปราศจากรอยยิ้มแต่ก็ดูจริงจังขึ้นมาทันที เรสจ้องเขม็งราวกับมองเห็นใบหน้าและแววตาที่ซ่อนอยู่ใต้หน้ากากอย่างทะลุปรุโปร่ง

     

    " ยังไงก็ต้องฆ่าฉันซะ ! "

    " อะไรนะ !? "

     

    เรสมองเด็กหญิงด้วยใบหน้าแสดงความงุนงง

     

    " ทำไมต้องฆ่าเธอด้วย " เขาถามประโยคนี้เป็นครั้งที่สอง

    " ฉันแพ้แล้ว "

    " ไม่เห็นจำเป็นต้องฆ่าเลยซะหน่อยแค่ทำให้กระเด็นออกไปนอกสนามก็พอแล้ว "

    " บอกให้ฆ่าก็ฆ่าสิ !!! "

     

    เสียงเล็กๆตวาดตอบกลับมา เด็กหนุ่มชะงัก

     

    " ฉันไม่มีค่าพอจะเป็นนักฆ่าอีกแล้ว.... "

     

                      ความเร็วเท่าที่ระดับสายตาของคนทั่วไปมองไม่ทัน เมื่อวัตถุสีดำสนิทพุ่งทะลุผ่านร่างเล็กที่พูดประโยคสุดท้ายจบไปเพียงไม่ถึงหนึ่งวินาที  และจากนั้นก็ดูราวภาพช้าในภาพยนตร์ที่ภายทีละช็อตๆ...เลือดสีแดงข้นพุ่งกระฉูดออกจากร่างนักฆ่าหมายเลขสามเป็นทางยาวจนกระเด็นออกมานอกลานประลอง เสียงร้องอุทานด้วยคามตกใจและช็อกเมื่อเห็นภาพร่างของนักฆ่าที่บัดนี้ของเหลวอุ่นๆ สีแดงฉานเปื้อนผ้าคลุมสีดำสนิทและหยดลงพื้นกองเลือดขนาดย่อมๆ ดาบใหญ่สีเงินและมือของเด็กหนุ่มพลอยโดนเลือดสีแดงข้นกระเด็นโดนไปด้วย เลือดที่กระเด็นออกตามร่างกายไหลออกมามากมายราวกับสายน้ำ...ร่างเล็กๆในชุดเสื้อคลุมสีดำสนิทและหน้ากากประหลาดเซไปมาเล็กน้อยก่อนจะล้มลงไปจมกองเลือดและแน่นิ่งไปทันทีที่อาวุธสีดำสนิทนั้นจะถูกดึงออกจะร่างของเธอกลับเข้าสู่มือขวาของผู้เป็นเจ้าของซึ่งยืนอยู่ข้างลานประลอง

                         ร่างเด็กหนุ่มสั่นเทิ้ม ร่างทั้งร่างทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง ดาบใหญ่ที่ผู้เป็นเจ้าหมายจะจัดการร่างเล็กๆ ให้กระเด็นออกจากการประลอง ซึ่งบัดนี้คงไม่มีโอกาสได้ทำอีกครั้งแล้ว เรสค่อยๆพาร่างของเขานั้นเข้าไปใกล้ๆหน้ากากซึ่งมีรอยเลือดกระเด็นเป็นหยด มือทั้งสองข้างอันสั่นเทาสัมผัสเข้าที่หยดเลือดบนหน้ากากที่ยังรู้สึกได้ถึงความโศกเศร้าในใบหน้าที่ซ่อนอยู่ใต้หน้ากากอย่างแผ่วเบา...

     

    ตาย...ต่อหน้าต่อตาเขา...

    อีกทั้งยังช่วยอะไรไม่ได้เลย...

     

                           ร่างไร้วิญญาณของ ' อดีต ' นักฆ่าหมายเลขนอนนิ่งราวกับเป็นตุ๊กตาที่โชกไปด้วยเลือดที่ใส่เสื้อคลุมสีดำสนิท ใบหน้านั้นประดับด้วยหน้ากากลวดลายประหลาด ซึ่งบัดนี้เด็กหนุ่มที่อยู่ใกล้ๆได้จดจำลวดลายเหล่านั้นไว้ในความทรงจำแห่งรอยแค้นไปตลอดชั่วชีวิตแล้ว  เจ้าของอาวุธสังหารที่ฆ่าเธอคนนี้ได้อย่างเลือดเย็น สะบัดเสื้อคลุมสีดำสนิทและเดินตัดสนามประลองไปยังอีกฟากนึง ร่างสูงใหญ่น่ากลัวนั้นพึมพำเบาๆ เมื่อผ่านเด็กหนุ่มผู้ซึ่งกลายเป็นผู้ชนะการประลองนี้ไปโดยปริยาย เสียงที่แหบห้าวและทุ้มลึกดังออกมาภายใต้หน้ากากลวดลายประหลาดนั้น

     

    " ผู้ที่คิดว่าตัวเองไม่มีค่า ไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่ในฐานะนักฆ่า ' บนโลกใบนี้ '... "

     

    แก..!?

     

           เรสผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ราวกับอารมณ์โกรธของเขาพุ่งขึ้นถึงขีดสุดอย่างยับยั้งไม่ได้ แต่ร่างกายกับไม่เอื้ออำนวยพอที่จะคว้าดาบเล่มใหญ่ขึ้นมาฆ่า บุรุษ ผู้ลงมือสังหารคนที่อ่อนแอและไม่มีทางสู้ เพียงเพราะคำพูดสั้นเพียงประโยคเดียว...ราวกับว่า เขาคนนั้น

     

    เป็นผู้ที่เห็นชีวิตมนุษย์ด้วยกันเป็นเพียงของเล่น...

     

    คนแบบนี้ก็ไม่สมควรมีชีวิตอยู่เหมือนกัน...!!

     

    ผู้ชนะ...เรส ไอเทอร์ครับ !! “

     

     

    เสียงโรอัลล์ปลุกความคิดหวาดกลัวและสยดสยองจากการลงมือสังหารนักฆ่าด้วยกันของ หัวหน้านักฆ่าเงาจันทรา !!

     

         เรส...ที่บัดนี้กลับเข้าไปรวมกลุ่มกับเด็กหนุ่มอีกสองคนด้วยท่าทางโกรธจนตัวสั่นและนิ่งเงียบไม่พูดอะไรอีกเลย โรอัลล์ผู้ดำเนินงานกลับเข้ามายืนอยู่กลางเวทีที่ทั้งศพและเลือดหายไปแล้ว ...

     

    " เอาล่ะครับ..คู่ต่อสู้คนต่อไปนะครับ..."

               โรอัลล์ซึ่งมีใบหน้าซีดเผือดหันไปควานหากระดาษแผ่นเล็กๆในกระเป๋าเสื้อ เสียงพึมพำระหว่างการแข่งขันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและหวั่นใจดังไปทั่วทิศรอบๆสนาม เด็กเล็กๆบางคนร้องไห้ด้วยความกลัวแม้ผู้ปกครองจะบอกให้ปิดตาตลอดการแข่งขัน หรือแม้แต่ผู้ใหญ่บางคนก็ยังปากสั่นระริก หรือพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักด้วยความกลัว..ที่โชคร้ายที่สุดคงจะเป็นพวกที่ชมอยู่แถวหน้าเพราะบางคนก็ถึงกับโดนของเหลวสีแดงข้นสาดเข้าใส่เต็มหน้า และมีประมาณสองสามคนซึ่งอ้าปากค้างด้วยความตกใจและรับเอาเลือดสดๆจากสนามประลองพุ่งเข้าปากไปเต็มๆ.(  แหว่ะ  writer/ขอตัวไปอาเจียนในห้องน้ำ.. )

     

    " อา...คือสุภาพสตรีครับ..." เขายิ้มแห้งๆ " ฟีน่า จูเรเน่ !! "

     

           เด็กสาวหนึ่งในกลุ่มเด็กเจ็ดถึงแปดคนสะดุ้งสุดตัว ก่อนที่จะก้าวเดินออกมาข้างหน้าอย่างช้าๆ

           บัดนี้สายตาตาหลายคู่จับจ้องไปยังเธออย่างจงใจ ดูเธอก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรือแตกต่างจากเด็กทั่วๆไปเลยแม้แต่น้อย นัยน์ตาคู่โตสีน้ำตาลอ่อน  กับเส้นผมอันละเอียดอ่อนบางเบาสีเดียวกันยาวระบ่า ริมฝีปากและโครงหน้าเรียวเล็ก เหมาะเจาะกับร่างกายและวัยเพียงสิบห้าปีของเธอ จมูกโค้งเป็นสันโด่งเชิดขึ้นเล็กน้อย  และผิวขาวแบบเด็กสาวชาวบ้านธรรมดา มือทั้งสองข้างของเธอปราศจากอาวุธแม้แต่อย่างเดียว

     

             เธอค่อยๆยื่นมือเล็กเข้าไปในกล่อง และล้วงเข้าไปข้างในอยู่นาน ผู้ชมที่บัดนี้เริ่มที่อาการช็อกหายไปลุ้นระทึกตามเธอไปด้วย

     

    ลูกบอลสีขาวสะอาดตาประทับตัวอักษรที่เป็นหมายเลขสีแดงตัดกันซึ่งอ่านได้ว่า...

     

    ห้า !!...

      เสียงหัวเราะในลำคอของเธอบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ที่เบ่งบานเต็มที่ ราวกับเด็กเล็กๆที่ดีใจกับของเล่นชิ้นใหม่ที่อยู่ตรงหน้า

            ร่างนักฆ่าในชุดคลุมสีดำสนิทกับหน้ากากที่เป็นเอกลักษณ์ ก้าวเดินมายืนประจันหน้ากับเธอ  แม่ว่าจะไม่รู้หน้าคาดตา แต่ก็ทำให้เด็กสาวสามารถรู้ได้ว่า ร่างที่อยู่ใต้ห้าคลุมนั้น  สูงว่าเธอ และผอมลีบเหมือนพวกขาดสารอาหารอย่างเห็นได้ชัด  ฟีน่านึกภาพชายวัยกลางคน หัวล้าน  กับใบหน้าเหี่ยวย่น มีคางเรียวยาว และ ลูกตาโปนๆเหมือนตุ๊กตากระดูกเดินได้  แล้วเธอก็นึกหัวเราะคิกคักอยู่ในใจ     

     

    "    เริ่มการต่อสู้รอบที่สาม....!!! "

     

            สิ้นเสียงประกาศ  เด็กสาวทำในสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง เธอหลับตานิ่งและไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ซึ่งแตกต่างจากนักฆ่าหมายเลขห้าที่บัดนี้เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว..!!!

     

            ราวกับนักฆ่าหมายเลขห้าหายไปกลางอากาศอย่างรวดเร็ว ราวกับเวทมนตร์ ผู้ชมหน้าสนามส่วนใหญ่นิ่งอึ้งไปด้วยความตึกใจ  บ้างก็ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย

     

    "  ขี้โกงนี่นา !! "

    " ใช่ๆ เจ้านั่นใช้ความสามารถพิเศษ !! "

     

    " ไม่ใช่หรอกค่ะ !! " เสียงฟีน่าประกาศแย้งกร้าว กลบเสียงตะโกนเหล่านั้นจนหมดสิ้น แม้เธอยังคงหลับตาแต่ใบหน้าก็ยังมีรอยยิ้มไม่เปลี่ยนแปลง

    " เออ...ใช่ครับ ...กรรมการทั้งสามท่านของเราบอกว่านั่นเป็นเพียงการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงกลางอากาศจนทำให้มองด้วยสายตาระดับธรรมดาไม่ทันครับ !! " โรอัลล์อธิบายอย่างรวดเร็ว " เป็นเพียงความสามารถที่บุคคลธรรมดาสามารถฝึกให้เก่งขึ้นได้ นั่นถือว่าไม่ผิดกติกาครับ !! "

     

           ร่างของนักฆ่าเงาจันทรายังไม่ปรากฎขึ้น มีเพียงเด็กสาวที่ยังคงหลับตานิ่ง ... และนั่น..!!!

     

    ผัวะ!!!

     

            ฟีน่า ใช้เวลาเสี้ยววินาทีปล่อยขาเตะกลางอากาศเข้าเต็มแรง พลันสายตาของผู้ชมทั้งหลายก็ตกตะลึง ร่างสูงผอมของนักฆ่าถูกเตะเข้ากลางหลัง ...ก่อนที่จะล้มลงนอนด้วยความเจ็บปวด เด็กสาวลืมตาขึ้นแล้วยิ้มอีกครั้ง

     

    " เอาเป็นว่าฉันจะล้มคุณภายใน 5 นาทีนะคะ "

    ไม่ว่าเปล่า เด็กสาวดึงผ้าผืนสีขาวออกมาจากกระเป๋าเสื้อและนำมันผูกเข้ากับตาทั้งสองข้างทันที

     

    " ฉันจะต่อให้คุณก็แล้วกัน..."

     

    เสียงปรบมือดังสนั่นทั่วทั้งสนามประลอง เสียงเชียร์ และเสียงเพลงโห่ร้องจากทั้งเด็กและผู้ใหญ่ดังขึ้นทั่วทุกสารทิศ แม้แต่ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ก็จ้องมองเด็กสาวด้วยความทึ่ง

     

    " นังเด็กอวดดี ..." เสียงค่อนแคะ ของผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งดังขึ้น...ท่ามกลางเสียงปรบมือดังกึกก้อง แต่คำพูดนั้นทำให้เด็กสาวหนึ่งในสองคนที่เหลืออยู่ข้างหลังหัวเราะออกมาเบาๆ

     

    นักฆ่าหมายเลขห้าค่อยๆ พยุงร่างของตนลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก มือข้างหนึ่งชี้ไปที่ฟีน่าด้วยความเจ็บแค้น

     

    " แก..."

    เสียงแหบห้าวดังลอดมาจากใต้หน้ากาก ก่อนจะตามด้วยเสียงสบถเป็นชุดที่ฟังแล้วล้วนแต่หยาบคายระเคืองหู

     

            นักฆ่าเงาจันทราพุ่งตัวเข้าใส่เด็กสาวอย่างรวดเร็วเพียงชั่วพริบตา ร่างของเขาก็หายไปอีกครั้ง ฟีน่าถอนหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบหมัดที่พุ่งมาทางขวา และกระโดดหลบเท้าขวาที่หมายจะเตะใส้เท้าเล็กๆของเธอให้ล้มลง เป็นเช่นนี้เรื่อยไป จนผู้ชมส่งเสียงร้องด้วยความตื่นเต้นและหวาดกลัว เมื่อเด็กสาวหลบการโจมตีของร่างที่ล่องหนอยู่กลางอากาศได้อย่างเฉียดฉิว

     

    " โอ้...เธอหลบการโจมตีของนักฆ่าหมายเลขห้า ได้หมดทุกท่าเลยครับ...!!! "  โรอัลล์กล่าวอย่างตื่นเต้น  " หลบร่างที่ล่องหนกลางอากาศ ...ทั้งๆที่หลับตาอยู่ครับท่านผู้ชม !!! "

     

    " คิดว่าการโจมตีแบบนี้คุณจะทำได้คนเดียวเหรอคะ !! "

    ฟีน่าตะโกนแทรกเสียงหมัดที่รัวใส่เธอซ้ายขวาไม่หยุดหย่อน

     

           ฉับพลันสายตาทุกคู่ก็เบิกกว้าง ร่างทั้งร่างของเด็กสาวที่ชื่อ ฟีน่า จูเรเน่ ก็หายไปต่อหน้าต่อตา  แต่สิ่งที่บังเกิดขึ้นแทนคือ เสียงต่อสู้และรัวมัดใส่กันทั้งๆที่ร่างสองร่างล่องหนอยู่ในอากาศ ไม่มีผู้ใดสามารถเห็นการต่อสู้ของทั้งคู่ได้ แม้แต่โรอัลล์เองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเริ่มต้นพูดอย่างไรให้รู้ว่าฝ่ายไหนกำลังได้เปรียบเสียเปรียบ หากว่าสายตาของใครที่คิดว่าดีแล้ว..คงเห็นเป็นเพียงเงาของร่างทั้งสองเคลื่อนที่ด้วยความเร็วยิ่งกว่าแสงเสียอีก...

     

    เปรี้ยง...!!

     

    เสียงกระแทกที่รุนแรงราวกับระเบิดกัมปนาท ส่งผลให้เกิดร่างสองร่างปรากฎขึ้นสู่สายตาผู้ชมทั้งหลาย ท่ามกลางหมอกควันคละคลุ้ง  ร่างหนึ่งนอนแน่นิ่งไร้สติ  ส่วนอีกร่างหนึ่งยืนเหนื่อยหอบด้วยสภาพที่ยังมีรอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ...

     

    " ผู้ชนะ ...ฟีน่า จูเรเน่ ครับ !!!

     

                   เสียงปรบมือจากผู้คนรอบสนามดังขึ้นกึกก้อง แม้ว่าบางคนยังไม่เข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับร่างที่หมดสติของนักฆ่าเงาจันทรา  แต่อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่า เด็กสาวธรรมดาๆ คนนี้ชนะนักฆ่าหมายเลขห้าแห่งเงาจันทรา ได้อย่างขาวสะอาด...

     

    ว้า...ตั้ง 5 นาที 17 วินาที ...สงสัยคงจะต้องพยายามกันใหม่แล้วล่ะ ฟีน่าพึมพำกับตัวเองเบาๆ เมื่อจ้องมองเวลาจากนาฬิกาดิจิตอลที่เธอตั้งเอาไว้ก่อนการแข่งขันในข้อมือซ้าย  ก่อนจะกลับเข้าไปรวมกลุ่มกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ

     

    เอาล่ะครับ ... สำหรับคู่ต่อไปนั้น ... โรอัลล์หยิบกระดาษแผ่นเล็กๆขึ้นมาดูอีกครั้ง ... เอลิเวีย  ซันแอดเซอร์  !! “

     

      สิ้นเสียงประกาศเรียกของโรอัลล์  สุภาพสตรีวัย 25 ปี ก้าวเดินขึ้นมาข้างหน้า รูปร่างของเธอสูงโปร่ง และแต่งเครื่องหน้าค่อนข้างจัด จนทำให้ใบหน้าที่ดูเหมือนว่าเคยสวย ถูกบดบังเสียหมด ... เสียงปรบมือของฝูงชนดังขึ้นเกือบจะในทันทีที่หญิงสาวเดินขึ้นเวที ก่อนที่เจ้าหล่อนจะชูไม้เท้าเวทอันทรงพลังขึ้นข่มขวัญคู่ต่อสู้...

     

    โอ้...เธอเป็นนักเวทครับท่านผู้ชม  โรอัลล์บอกอย่างตื่นเต้น  เอาล่ะครับ.. มาดูกันซิว่าเธอจะได้หมายเลขที่เท่าไหร่? “

     

          เอลิเวียเชิดคางสูงระหง พลางจ้องมองกล่องในเล็กที่ด้านในบรรจุลูกบอลที่เขียนหมายเลขเหล่านักฆ่าเงาจันทราเอาไว้ ทางหางตาอย่างดูถูก แต่ก็หยิบลูกบอลจากหนึ่งในสิบเอ็ดลูกนั้นออกมาแต่โดยดี...

     

    แปด...

     

              หางตาตวัดชำเลืองมองนักฆ่าเบอร์แปดที่เดินเข้ามายืนตรงข้ามกับเธอ ร่างกลายที่สูงกำยำอย่างเหลือเชื่อนั้น ...เอลิเวียผงะเล็กน้อยเมื่อเจอกับคู่ต่อสู้ที่รูปร่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

     

    เริ่มได้ !!! “

     

    วูบ..!!

           แสงสีทองสว่างจ้าส่องแสงออกมาจากคทานั้น เมื่อหญิงสาวพึมพำคาถาออกมาเบาๆ ก่อนที่ลำแสงนั้นจะยิงเข้าใส่ตรงแผ่นอกที่แข็งแกร่งของนักฆ่าหมายเลขแปดทันที...

     

    เปรี้ยง!!

    ราวกับร่างกายที่แข็งแกร่งนั้นเป็นเกราะคุ้มกันที่แน่นหนา ...ลำแสงสีทองสะท้อนกลับเข้าใส่เอลิเวียที่กระโดดหลบแทบไม่ทัน !!  ...เสียงพึมพำจากนักฆ่าหมายเลขแปดดังขึ้น เมื่อหันใบหน้าไปทางโรอัลล์

     

    ผิวหนังของโทรลล์แบบนี้ไม่ถือว่าผิดกติกาใช่มั้ย...

     

      อา..อะไรนะครับ .. เสียงแผ่วๆที่ตอบกลับมาแสดงความหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย  ซึ่งสิ่งนี้เองที่สร้างความรำคาญให้กับ นักฆ่าเงาจันทราผู้นี้เป็นอย่างยิ่ง...

     

     

    ข้าถามว่ามันไม่ผิดกติกาใช่มั้ย !!! ”  เสียงคำรามจากผ้าคลุมดังก้องสนาม ทำให้ผู้ชมที่ยืนดูอยู่แถวหน้าตกใจกลัวแทบทั้งสิ้น

     

    อา..ครับ แม้ว่าจะไม่มีผู้ใดที่มีผิวหนัง...แบบ...นั้น..แต่การมีมาตั้งแต่กำเนิดถือว่าไม่ผิดกติกา ค..ครับ...ผู้ดำเนินงานอธิบายตะกุกตะกัก ด้วยความหวาดกลัว ชายร่างยักษ์ในคราบนักฆ่าใต้หน้ากาก หัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจ

     

     

    ส่วนแกก็ถอยไปได้แล้ว...!! “ เขาตะคอกใส่โรอัลล์ที่กระโดดหนีไปด้วยความหวาดกลัว...ก่อนที่นักฆ่าหมายเลขแปดจะหันมาให้ความสนใจกับคู่ต่อสู้ที่ยืนตัวแข็งด้วยความตกใจ

     

     

    หึหึ ...แค่ท่าเดียวก็เหลือแหล่แล้ว... เสียงเยาะเย้ยดังมาจากนักฆ่าเงาจันทรา ทำให้หญิงสาวที่ได้รับคำดูถูกปรามาส ฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง

     

    ฉันก็จะล้มแกในคาถาเดียวเหมือนกัน !! “ หญิงสาวประกาศกร้าว ก่อนจะร่ายเวทอีกครั้งแต่คราวนี้ พลังแสงสีทองที่พุ่งออกจากปลายไม้เท้า มีขนาดใหญ่และดูทรงพลังมากกว่าครั้งก่อน เสียงอุทานของผู้ชมทั่วสนามดังขึ้นเซ็งแซ่...เมื่อเพิ่งได้เห็นพลังเวทที่ยิ่งใหญ่ของนักเวทต่างเมืองเป็นครั้งแรก  แต่นักฆ่าหมายเลขแปดผู้กำลังจะถูกเล่นงาน กลับหัวเราะเบาๆในลำคอ

     

            พลังเวทมหาศาลถูกปล่อยออกมาจากปลายคทาราวกับกระสุน พุ่งตรงไปที่นักฆ่าเงาจันทราอย่างรวดเร็ว แต่ทว่า... ลำแสงกลับถูกหยุดยั้งเอาไว้ได้เพียงสองมือเปล่า ..!! ก่อนที่จะถูกปัดให้เบนออกไปทางอื่น .. ราวกับเป็นเพียงนกกระดาษที่ปลิวว่อนเข้ามาและถูกขยำทิ้ง

     

    เลิกเล่นของเล่น สั่วๆ ได้แล้ว !! ข้าไม่ได้มีเวลาเป็นหนูทดลองคาถามั่วของแก ตลอดทั้งคืนหรอกนะ !! ”เสียงเขาตวาดกลับมาด้วยความโมโห  เอลิเวียที่มีคทาในมือแต่กลับไร้ประโยชน์ ได้แต่ยืนสั่นกลัวเป็นลูกนกในกำมืออย่างไม่มีทางรอด...

     

    ข้าจะสอนให้เองว่า พลังที่แข็งแกร่ง แท้ที่จริงแล้วมันควรจะเป็นยังไง... ร่างกายที่แข็งแกร่งก้าวเข้ามาใกล้ หญิงสาวอย่างช้าๆ และ คว้าร่างของหล่อนลอยขึ้นสูงเหนือหัว ท่ามกลางเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดผวา..ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะถูกทุ่มลงบนพื้นคอนกรีตสีเทาสุดแรงจนแตกละเอียด ...! แรงกระแทกอันหนักหน่วงนั้น ส่งผลให้เกิดเขม่าควันคลุ้ง ไปทั่วจนดวงตาพร่าลาย  ... อึดใจหนึ่ง หลังจากที่กลุ่มควันเหล่านั้นจะหายไป ..ความตื่นตระหนกและเสียงหวีดร้องดังขึ้นไปทั่ว..

     

            ภาพอันโหดร้ายทารุณประจักษ์ขึ้นแก่สายตาทุกคน...ร่างของสตรีนามว่า เอลิเวีย ซันแอดเซอร์  ถูกจับเหวี่ยงลงอัดกระแทกกับพื้น  เลือดสีแดงข้นจำนวนมากไหลมาตามบาดแผลเป็นทางยาว ลมหายใจทีมีเหลือเพียงน้อยนิดอ่อนแอและระรวยริน  กระดูกท่อนล่างแตกละเอียด ..คทาคู่กายหักเป็นสองท่อนไม่มีชิ้นดี  ใบหน้าที่เคยสวยเละเทะจนดูไม่ได้ พลังมหาศาลของนักฆ่าร่างยักษ์เอาชนะนักเวทย์ผู้เก่งกาจได้อย่างไร้ข้อกังขา..

     

    ..เอ...เอลิเวีย ซันแอดเซอร์  ตกรอบครับ.. โรอัลล์ประกาศผลรอบที่สี่ด้วยเสียงอันแผ่วเบาและสั่นเครือ เสียงหัวเราะด้วยความพึงพอใจดังลอดออกมาจากใต้หน้ากากประหลาด  พนักงานทำความสะอาดในชุดเสื้อคลุมสีแดงสดก้าวขึ้นมาบนลานประลองและอุ้มร่างนักเวทย์ที่บาดเจ็บปางตายหายลับไปหลังเวที... โดยมีพนักงานส่วนหนึ่งทำหน้าที่ซ่อมแซมพื้นคอนกรีตที่เสียหายตามคำสั่งของราเมียร์...

     

     

    *************************************************

     

     

        ครึ่งชั่วโมงผ่านไปกับการซ่อมสนามประลอง พิธีกรดำเนินรายการยามราตรีปาดเหงื่อเย็นบนใบหน้าที่บัดนี้ซีดเผือดราวกับกระดาษแผ่นเล็กที่ตนถืออยู่ในมือ ...

     

    เอาล่ะครับ ตอนนี้ลานประลองพร้อมแล้วสำหรับการแข่งขันคู่สุดท้าย ...ซึ่งอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าก็จะถึงเช้าแล้ว เราคงจะรู้ผลกันแล้วนะครับว่า... สิบห้าคนสุดท้ายของการคัดเลือกผู้กล้าจะเป็นใคร !!? “

     

           เสียงปรบมือดังขึ้นบางเบา และไม่ฮือฮาเหมือนครั้งก่อนๆ ด้วยสาเหตุสืบเนื่องมาจาก ความตึงเครียดและเหนื่อยล้าที่เคลื่อนกายเข้ามาปกคลุม ฝูงชนทั้งหน้าเวทีไปจนปีกข้างและรอบๆด้าน  แม้แต่ผู้เข้าแข่งขันเอง ฟีน่าเป็นหนึ่งในนั้น เด็กสาวหาวหวอดอย่างไม่อายใคร ...เส้นขอบฟ้าสีทองตัดผืนฟ้าสีดำกว้างใหญ่จากที่ไกลแสนไกล ... ให้ความรู้สึกว่างเปล่า เปลี่ยวเหงา ...  และยังบ่งบอกให้รู้ว่า เวลาการแข่งขันใกล้สิ้นสุดลงแล้ว...

     

           โรอัลล์เพ่งมองกระดาษใบน้อยเป็นครั้งสุดท้าย ...ก่อนที่เจ้าตัวจะเปล่งเสียงอันดังก้องทำเอาใครหลายๆคนสะดุ้งตื่น...

     

      คู่สุดท้าย ...เกรย์ แมคแคนตันท์   !!! “

     

    สิ้นเสียงประกาศก้อง เจ้าของชื่อนาม เกรย์ แมคแคนตันท์ ...จอมเวทแห่งหุบเขาสายลมก้าวออกมายืนเบื้องหน้าอย่างเชื่องช้า ...ด้วยวัยเจ็ดสิบเศษๆ และก็ผ่านประสบการณ์การต่อสู้มาอย่างโชกโชน... นัยน์ตาสีชาหม่นที่เพียงแค่สบตาปราดเดียวก็รู้ถึงความน่าเคารพยำเกรง ..โดยเฉพาะไม้เท้าสีแดงฉานจากโลหิตของนางเงือกไซปร้าที่สะกดสายตาของทุกคนให้หยุดนิ่งงันไปชั่วขณะ...ราวกับว่าอาวุธในมือของชายชราส่งรังสีความน่ากลัวออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด...

     

            โรอัลล์ ...ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่รู้สึกถึงพลังเวทมหาศาลในไม้เท้านั้นยื่นกล่องสีน้ำตาลใบเดิมให้เกรย์  แมคแคนตันท์  ชายชราล้วงมือขึ้นไปหยิบ ลูกบอลกลมๆขึ้นมาส่งต่อให้โรอัลล์ ...หมายเลขที่ปรากฏอยู่บนวัตถุทรงกลมนั้นทำให้เขามีท่าทีประหลาดใจระคนตกใจอยู่ไม่น้อย...

     

    หนึ่ง..

     

              ราวกับก้อนเนื้อร้ายจากร่างกายของทุกคนถูกตัดทำลายออกจากร่างกายไปจนหมดสิ้น ..จากภาพความน่ากลัวของนักฆ่าเงาจันทราในรอบก่อนหน้านี้สร้างภาพน่าสยดสยองตราตรึงอยู่ในหัวของแต่ละคน ให้รับรู้ถึงความน่ากลัวของนักฆ่าเงาจันทรา ได้มากมายเหลือคณา  แต่บัดนี้..ความกลัวทั้งหลายได้หายไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อพบว่าคู่ต่อสู้ที่เป็นเพียงนักฆ่าหมายเลขหนึ่งซึ่งบัดนี้ได้ก้าวออกมาประจันหน้ากับบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นจอมเวทที่เก่งที่สุดคนหนึ่ง ในลาเพียน่า ...

     

    พระเจ้า...พระองค์จะทรงกลั่นแกล้งข้าไปถึงไหนกัน...

     

             เสียงพึมพำในใจของจอมเวทชรา ...ดังก้องอยู่ในหัว ความคิดที่จะได้ต่อสู้กับนักฆ่าฝีมือระดับต้นๆ ของเงาจันทรานั้นพังทลายลงไปต่อหน้าต่อตา ... แม้ผู้คนทั้งหายจะคิดว่านี่เป็นเรื่องที่โชคดีมากแค่ไหน แต่เขากลับคิดว่า.. มันเป็นเรื่องที่โชคร้ายที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ...

     

              ตั้งแต่วันที่เขากลับออกมาจากเรดไคส์  ประชาชนทั้งเมืองต่างโห่ร้องเซ็งแซ่และสรรเสริญ ในความสามารถที่เขาอุตส่าห์ฝึกฝนฝีมือเกือบห้าสิบปี ...สู้พยายามต่อสู้กับบุคคลเก่งๆมามากมายจนได้ชื่อว่าเป็นผู้มีความสามารถด้านพลังเวทย์ที่เก่งที่สุดในลาเพียน่า ...แต่ทว่า วันนั้นหลังจากไม้เท้าที่เกิดจากโลหิตของนางเงือกแห่งมหาสมุทรอันน่ากลัวและเต็มไปด้วยอันตรายต่างๆ ถือกำเนิดขึ้น ผู้ที่เคยท้าประลองฝีมือด้วยบ่อยครั้งต่างล่าถอยหนี ... บ้างก็ไม่กล้าที่จะสู้ บ้างก็อ้างว่าเขามีความสามารถมากเกินไปจนเทียบไม่ได้ ...ทำให้จนบัดนี้เขายังไม่เคยพ่ายแพ้ให้แก่ผู้ใดนับตั้งแต่วันนั้น ...หรือถ้าจะเรียกให้ถูกควรเรียกว่า ไม่มีใครกล้าเขามาท้าสู้ด้วยเสียมากกว่า ...

     

    อยากสู้...

     

    อยากต่อสู้กับคนเก่งๆเสียเหลือเกิน !

     

    รอบสุดท้ายของการแข่งขัน ..ในครั้งนี้ .. โรอัลล์กล่าว เริ่มได้ !! ”

     

           เพียงห้วงเวลาแค่เสี้ยววินาที.. ดาบสายลมขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยพลังเวทย์อัดกระแทกร่างนักฆ่าหมายเลขหนึ่งจนร่างทั้งร่างลอยหวือไปจนเกือบตกเวที ก่อนที่นักฆ่าผู้นั้นจะลุกขึ้นอย่างยากลำบาก...มือขวากุมท้องที่ถูกดาบสายลมอักกระแทกเข้าอย่างจัง จนเห็นรอยแผลเป็นทางยาว เลือดสีแดงข้นไหลออกมาตามรอยแผลนั้นไม่ขาดสาย ...ไม่ต้องบอกก็รู้ได้เลยว่า ใบหน้าภายใต้หน้ากากนั้นโกรธแค้นเพียงใด..

     

      แก..!! “

     

           สิ้นเสียงคำก่นด่าสาปแช่ง ร่างของนักฆ่าผู้ได้รอยแผลพุ่งเข้าใส่ชายชราด้วยความเร็วทั้งหมดที่ร่างกายพอจะทำได้ในเวลานี้ ... แต่เกรย์ยังคงทำสีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก เมื่อรู้ถึงฝีมือการต่อสู้ของบุคคลที่เป็นคู่ต่อสู้ของเขา...

     

    แม้จะเป็นนักฆ่า...

     

    แต่ก็ยังอ่อนหัดนัก..!!

     

    ซูม !!

     

            เสียงวัตถุขนาดใหญ่เคลื่อนผ่านร่างกายของจอมเวทชรา จนเกิดสายลมพัดวูบอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเกรย์จะหลับตาอย่างสงบนิ่งแต่ทว่าภายในใจเขากลับอ่านการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

     

    แกตาย ...!! “

     

             ราวกับสายลมทั้งมวลในสรรพสิ่งหยุดนิ่งงันไปชั่วขณะ ..!! นักฆ่าหมายเลขหนึ่งซึ่งบัดนี้พุ่งตัวเข้าหาเกรย์จนชนิดที่เรียกว่าเพียงตวัดมือเดียวก็สามารถล้มผู้ต่อสู้ข้างหน้าได้อย่างสบายๆ คุ่ต่อสู้ซึ่งบัดนี้ถือว่านได้เปรียบกว่า ตวัดเสื้อคลุมจนกลายเป็นผ้าคลุมผืนใหญ่คลุมร่างจอมเวทแห่งหุบเขาสายลมได้มิดตัว ก่อนที่เสียงหัวเราะในลำคอของใบหน้าภายใต้หน้ากากจะดังขึ้นเบาๆ

     

    พรึ่บ !!

     

     กองไฟขนาดใหญ่ลุกท่วมผ้าคลุมสีดำสนิทซึ่งบัดนี้คลอบคลุมร่างทั้งร่างของจอมเวทให้อยู่ภายใต้เปลวไฟที่ลุกโชนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด !!

     

    ร่างของจอมเวทชรากำลังจะมอดม้วยไปกับเปลวเพลิง !!

     

    เกิดอะไรขึ้น !? “

     

           เสียงผู้ชมหลายๆคนร้องถามแทรกเข้ามาในเสียงอื้ออึงของฝูงชนที่เต็มไปด้วยความหวาดผวา ...แม้แต่โรอัลล์เองก็ตาม..ทั้งๆที่เห็นว่ามันผิดกติกา แต่เขาก็ดูเหมือนจะไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปห้ามการแข่งขันระหว่างคนสองคน...

     

     

    ใครเล่าจะมองว่าการเข้าไปห้ามนักฆ่าที่กำลังสนุกกับการฆ่าคนนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ..

     

    หึหึหึ...ที่แท้แกก็เป็นแค่ตาแก่โกหกสอพลอจอมลวงโลก ...กับอีแค่การเล่นกลกระจอกๆ .. เสียงเย่อหยิ่งอวดดีดังขึ้นมาจากใต้หน้ากาก แต่แล้วความรู้สึกเหล่านั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว...

     

    สายลมระลอกหนึ่งพัดเข้ามาปะทะร่างนักฆ่าหมายเลขหนึ่งอย่างรวดเร็ว ... ก่อนที่ทั้งร่างกายจะชาวาบด้วยความตกตะลึง

     

    บุรุษนามเกรย์ แมคแคนตันต์ กำลังยืนยิ้มให้เขาท่ามกลางเปลวเพลิงที่ร้อนระอุ..!!

     

    ทำไม..!!?

     

    วูบ !

     

    สายลมระลอกที่สองพัดผ่านเอาเปลวเพลิงให้มอดดับไป...เหลือเพียงซากผ้าคลุมที่ขาดวิ่น และกลิ่นไหม้ของเศษธุลีดิน..

     

    หากเจ้ารู้ตัวก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งวินาที ข้าอาจจะกลายเป็นดั่งเศษผ้านี่ก็เป็นได้ เกรย์บอกพลางเหลือบมองเศษผ้าขาดวิ่นเหล่านั้น ..

     

    แค่เพียงความประมาทอันน้อยนิดของเจ้า... มันอาจจะเป็นหนทางสู่ความตายของเจ้าไปเลยก็ได้ ... เกรย์กล่าวเสียงเรียบ นี่กระมังที่ทำให้เจ้ายังคงเป็นเพียงนักฆ่าต่ำต้อยเช่นนี้อยู่เรื่อยไป..

     

    หุบปากซะ !! “ นักฆ่าคำรามกลับ เมื่อชายตรงหน้าแทงใจดำเข้าอย่างจัง ดวงไฟขนาดย่อมปรากฏขึ้นในมือขวาก่อนที่จะพุ่งตรงเข้าหาจอมเวทย์แห่งสายลมที่ยืนตั้งรับอย่างสงบนิ่ง

     

         จู่ๆเปลวเพลิงลูกนั้นก็หยุดกึกกลางอากาศ ท่ามกลางลมหายใจที่หยุดนิ่งของผู้ชมทั้งสนาม ... ก่อนที่เปลวเพลิงสีแดงอันร้อนระอุจะสลายหายกลายเป็นอากาศธาตุ..

     

    ผู้หยุดเปลวไฟนั้นคือ ...ราเมียร์...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×