ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สงครามแห่งจันทรา

    ลำดับตอนที่ #5 : รอบแรก

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ค. 49


    บทที่ 4  รอบแรก

     

    ----------------------------------------------------------------------------

     

    " 0!!!! "

     

        แล้วการต่อสู้ที่ดุเดือดหาดูได้ยากยิ่งก็เริ่มต้นขึ้น  ผู้เข้าแข่งบางคนแทบพุ่งตัวทันทีเมื่อสิ้นเสียงสัญญาณเพียงแค่เสี้ยววินาที ไม่นานก็มีผู้บาดเจ็บและล้มลงบนลานประลองมากขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว ผู้ชมส่วนใหญ่แทบจะตาลายไม่รู้จะเริ่มต้นส่งเสียงเชียร์ใครดี นักดาบที่ถนัดใช้ความเร็ว นักเวทย์ผู้เก่งกาจด้านการร่ายคาถา หรือ นักสู้มือเปล่า  หรือแม้แต่...

     

    ตูม !

     

    ระเบิดขนาดย่อมดังขึ้นพร้อมกับ หลุมขนาดใหญ่กลางลานประลอง พร้อมกับ...

     

    ร่างของผู้เข้าแข่ง 4 - 5 คน นอนจมกองเลือด ขาและแขนบิดเบี้ยวเพราะ ถูกแรงระเบิดกระเด็น กระจายหายไปคนละทิศละทาง

     

    " และ...และตอนนี้ มีผู้เข้าแข่งขันตกรอบไปแล้ว 45 คน ครับ เสียชีวิตอีก 5 คน บาดเจ็บ 31 คน และออกนอกสนามประลอง 9 คน เหลือผุ้เข้าแข่งขันอีก 144 คนครับ !!! " โรอัลล์ที่พอได้สติก็เริ่มประกาศจำนวนผู้ตกรอบ ทั้งๆที่ผู้ชมแต่ละคนยัง คงช็อกไม่ได้สติ

     

    ฆ่ากันจริงๆเลยเหรอนี่ ?!!

     

    บริเวณลานประลองยังคงต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียงดาบที่กระทบกันกลางอากาศและมีสะเก็ดไฟออกจากปลายดาบ เสียงร้องของผู้พ่ายแพ้ และเสียงร่างผู้เข้าแข่งที่โชคร้ายลอยหวือแหวกอากาศ ก่อนจะหล่นลงมาจมกองเลือดบนพื้น.. เสียงแรงอัดกระแทกหมัดของผู้เข้าแข่งบางคนที่ทำเอาหลายคนกระเด็นออกนอกเวที เสียงนักเวทย์ที่กำลังร่ายเวทย์ถูกเล่นงานทีเผลอทางด้านหลังและตกรอบไปหลายคน สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นบนลานประลองที่ผู้ชมรอบๆทิศ เกิดอ้าปากค้างและจับจองภาพการประลองเหล่านั้น อย่างไม่เชื่อสายตา...

     

    " ครับ ...เร็วมากครับ ไม่นานผู้เข้าแข่งหลายคนก็สามารถจัดการ ไปได้มากมายทีเดียว เหลือผู้เข้าแข่งทั้งหมดในลานประลอง 93 คนครับ !! "

     

    บนลานประลองดูจะกว้างขึ้นถนัดตา เว้นเสียแต่มีรอยเลือด เศษเนื้อ และร่างไร้วิญญาณของใครหลายๆ นอนเรี่ยราดอยู่เต็มพื้นคอนกรีตสีเทา...

     

    เอาชีวิตมาทิ้งแท้ๆ..

     

            การชมการแข่งขันที่เรียกว่าฆาตกรรมกันต่อหน้าต่อตา เริ่มมีบรรยากาศหดหู่ใจ กลิ่นเลือดและ ภาพศพเหล่านั้นทำให้ใครหลายๆคนปิดปาก ด้วยความหวาดกลัวและตกใจ  พลางจ้องมอง ผู้เข้าแข่งขันที่เหลือรอดอยู่บนเวทีและกำลังต่อสู้บนสนามประลอง ที่ไม่รู้ตัวเลยว่า.. เขาเหล่านั้นเป็นฆาตกรที่คร่าชีวิตมนุษย์ด้วยกัน ราวกับเป็นแค่เกมการเล่นธรมดา...

    บัดนี้เวทีคอนกรีตสีเทา ถูกละเลงด้วยของเหลวสีแดงฉาน ราวกับเป็นภาพเขียนประติมากรรมขนาดใหญ่ยักษ์อันลำเลิศของจิตกร  ผู้สร้างสรรค์งานศิลปะที่สวยงามบนความตายและการต่อสู้โหดอันร้ายป่าเถื่อน ... ท่ามกลางเสียงร้องระงม กรีดร้อง โอดครวญด้วยความเจ็บปวดและอีกไม่นานก็จะเจ็บปวดจนสิ้นใจตาย

     

    " เหลือผู้เข้าแข่งขัน 66 คนครับ !! "

     

               คราวนี้ไม่มีเสียงปรบมือ หรือเสียงโห่เชียร์เหมือนเดิม แต่กลับกลายเป็น เสียงร้องไห้ และเสียงป่นด่าว่าต่างๆนานา และต่อมาก็มีเสียงโห่ร้องและปาข้างของลงมาบนเวที จนการแข่งขันไม่สามารถดำเนินต่อได้ ...ผู้เข้าแข่งขันในลานประลองที่ยังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายจนร่างกายบาดเจ็บ และสะบักสะบอม ต่างก็หยุดชะงัก

    ผู้ดำเนินงานพยายามหยุดเสียงก่นด่าว่าเหล่านั้นแต่ก็ไม่สำเร็จ และยิ่งทำให้เสียงด่าเหล่านั้นวีความรุนแรงเข้าไปอีก

     

    " ไอ้การแข่งบ้าบอ ! นี่มันฆ่ากันตายชัดๆ !! "

    " ใช่ เจ้าภาพเฮงซวย !! แกเอาคนมาสังเวย บนเปลือกนอกที่พร่ำบอกว่าเป็นการแข่งขัน ! "

    " นี่มันฆาตกร ชัดๆ ไอ้ฆาตกร !! "

     

    ฉึก !

     

    วัตถุสีเงิน ลอยหวือข้ามหัวโรอัลล์ มาปักลงบนพื้นกลางวงผู้ชมที่ก่อกวนการแข่งขัน ผู้หญิงหลายคนหวีดร้อง และผู้ชมที่ร้องประท้วงเหล่านั้นก็รีบกระโดดหลบ มีดเล่มสีเงินที่เกือบจะปักลงกลางศีรษะพวกเข้าอย่างหวุดหวิด... และผู้ชมทั้งหลายก็แทบช็อกอีกรอบ เมื่อคนที่ปามีดลงมากลางวงประท้วงนั้นคือ  เทพธิดาผู้มีใบหน้าไร้ความรู้สึก...

     

    ฟีเนียร์ ลีโอเพียร์ ....

     

    " พวกเราไม่ใช่ฆาตกร... " เธอคว้าไมค์จากโรอัลล์ และพูดด้วยเสียงเฉียบขาด น้ำเสียงแฝงความน่ากลัวและเย็นเยือกจนรู้สึกได้ " ผู้เข้าแข่งเหล่านั้นก็ไม่ใช่ ร่างที่นอนจมกองเลือดบนลานประลองนั่นต่างหากที่เป็นฆาตกร ...พวกนั้นปลิดชีวิตตัวเอง ไม่มีใครขอร้องให้เขาเหล่านั้นมายืนบนเวที พวกเขาตัดสินใจมาเอง...และเมื่อมาตายที่นี่ก็เป็นเพราะเขาเหล่านั้นยอมตายเอง  ผู้เข้าแข่งที่เหลือรอดอยู่ก็ต้องฆ่าโดยไม่มีทางเลือก นั่นเป็นชะตาชีวิตที่พวกเขาเลือก ... และเป็นเส้นทางที่พระเจ้าเลือกหนทางแห่งความตายเหล่านั้นให้เช่นกัน..."

     

    เสียงเธอเงียบหายไป หลังจากพูดโดยแทบไม่เปิดช่องว่างให้ผู้ชมที่เหลือได้โต้แย้งเลย... เสียงประท้วงเงียบหายไป กลายเป็นเสียงพึมพำเบาๆ ฟีเนียร์นั่งลง  โรอัลล์กลับมาถือไมค์อีกครั้ง พร้อมๆกับที่ผู้เข้าแข่งขันที่เหลือ กลับมาสู้กันอีกครั้ง...

     

    เส้นทางที่พระเจ้าเลือกมอบความตายให้แก่คนเหล่านั้นงั้นเหรอ ?!

     

    ปิศาจในคราบเทพธิดา...

     

    นี่ล่ะมั้งตัวตนที่แท้จริงของหญิงสาวที่ชื่อ

    ฟีเนียร์..

     

    " เออ ... เอาล่ะครับกลับเข้าสู่การแข่งขันต่อ " โรอัลล์กระชากความนึกคิดของใครหลายๆคน ออกมาสู่ห้วงแห่งความเป็นจริงบนสนามประลองสีเลือด

    " เหลือผู้เข้าแข่งขัน 48 คน ครับ .. " โรอัลล์บอก แล้วเขาก็ชะงักไปพักใหญ่ด้วยความตกใจ " โอ้ ! น่าตกใจจริงๆ เด็ก ครับ ! ท่านทั้งหลาย เด็ก.. เด็กบนสนามประลองครับ ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่แค่คนเดียว มีถึง 7 คนครับ เด็ก เจ็ดคน ! พวกเขายังไม่ตาย !! ยังยืนอยู่ และ...ปราศจากรอยแผลจากการต่อสู้แม้แต่น้อยนั่น...พวกเขา...เป็น...เป็นเด็กจริงๆเหรอนี่...?!!! "

     

                   เสียงฮือฮาปรากฎขึ้นในเสียงของผู้ชมหลายๆคนที่ต่างจ้องมองไปที่เด็กกลุ่มหนึ่งในสนามประลอง ทุกคนแทบลืมเรื่องการต่อสู้นองเลือดไปจนหมด โรอัลล์ชี้ไปที่เด็กกลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่บนลานประลองในสภาพที่ยังปราศจากร่องรอยแผลหรือบาดเจ็บแม้แต่น้อย ... การต่อสู้ของจำนวนคนมากๆ ทำให้ ไม่มีใครสังเกตเห็นพวกเขา แต่ตอนนี้ บนสนามประลองโล่งขึ้นทำให้มองเห็นพวกเขาเต็มตา ... ขนาดที่ราเมียร์ และ หญิงสาวที่ชื่อฟีเนียร์ยังจ้องมอง เด็กเหล่านั้น ด้วยท่าทางสนใจ หรืออาจจะรวมถึง นักฆ่าหมายเลขสิบสามนั่นด้วย

                       กลุ่มเด็กเหล่านั้นดูเหมือนจะไม่รู้จักกันมาก่อน มีเด็กหนุ่มสามคนที่ยืนห่างออกจากเด็กอีกสี่คนที่เหลือ  หนึ่งในนั้นก้มหน้าอ่านหนังสืออย่างตั้งใจราวกับคิดว่าสนามประลองเป็นห้องสมุดและดูจะมีอายุมากที่สุดในบรรดาเด็กในกลุ่มนั้น  ส่วนอีกสองคนที่เหลือ กำลังพูดคุยกันเบาๆ และ เด็กผู้หญิงสองสามคนที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล ..สองในสามกำลังนอนหลับหลังพิงกันโดยไม่รู้ว่า มีหยดเลือดหลายหยด และร่างไร้วิญญาณของผู้เข้าแข่งขันหลายคน กองเรียงรายอยู่นับไม่ถ้วน  และมีเด็กหนุ่มอีกคนที่ปลีกตัวออกห่างจากกลุ่มเด็กเหล่านั้นไปนั่งหลับตานิ่งอยู่ในมุมมืดของสนามแข่ง

     

     

     

    " เอาล่ะครับ...ตอนนี้ เราก็คงยังสรุปอะไรไม่ได้ว่าใครจะชนะ แต่รู้สึกว่า ...อา...เมื่อครู่ผมพึ่งถามกรรมการมาครับ มีตัวเก็งของงานอยู่ทั้งหมด 3 ท่าน ที่น่าสนใจในสายตาของกรรมการเราเป็นพิเศษ ...ได้แก่ นักเวทผู้มาจากหุบเขาสายลม เกรย์  ครับ ! "

     

       เจ้าของนามเกรย์ที่กำลังต่อสู้กับนักเวทย์ด้วยกันอีกสามถึงสี่คน กำลังถูกจับตามองโดยสายตาผู้คนรอบลานประลองแต่เขาไม่ได้หันไปมอง หรือ แสดงท่าทางสนใจออกมามากนัก เขาใส่เสื้อคลุมเก่าๆ และขาดวิ่นสีคล้ำ ดวงหน้าซูบผอมและดูเหน้ดเหนื่อย แม้ว่าอายุยังไม่ชรานัก ดวงตาสีชาหม่น กับผมสีดำแซมขาวประปราย  และที่เป็นจุดสนใจมากกว่านั้นคือ ไม้เท้าของนักเวทย์แห่งหุบเขาสายลม  ...

     

    " ครับ ท่านผู้ชม..." โรอัลล์ยิ้มน้อยๆด้วยความทึ่ง " มันทำจากเลือดของนางเงือกไซปร้า...นางเงือกในตำนานครับ ! "

     

    คำพูดของเขาจบลงตามด้วยเสียงฮือฮา  นางเงือกไซปร้า นางเงือกในตำนาน เจ้าของบทเพลงแห่งความตายที่แฝงไปด้วยความน่ากลัว หากผู้ใดที่ฟังแล้ว จะเกิดอาการทุรนทุรายทรมานจนขาดใจตายในที่สุด แต่ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะจัดการปราบนางเงือกตนนั้น แต่ว่า ..เมื่อ สิบห้าปีก่อน..บุรุษหนุ่ม คนหนึ่งเดินทางข้ามมหาสมุทรเรดไคส์ และกลับมาอีกครั้งพร้อมเกล็ดนางเงือกไซปร้า ที่ปัจจุบัน จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ ของหายากในเมือง เซอร์ไรค์

     

    หรือว่าบุรุษผู้นั้น ...

     

    " คนที่สอง  สาวน้อยผู้ถนัดในการใช้ดาบ แห่งเมือง ของช่างตีเหล็กกล้า อย่าง เรเคว็นตีร์  เอมิเลีย ครับ ! "

     

    เสียงดาบฟันร่างหนึ่ง ลอยกลางอากาศ  กับเจ้าของดาบเป็นหญิงสาว ที่กวัดแกว่งดาบกลางอากาศด้วยท่าทางคล่องแคล่ว บริเวณหลัง มีมีดสั้นและดาบขนาดต่างๆ พกติดไว้เป็นจำนวนมาก นั่นไม่รวมถึง ที่เก็บมีดใต้ขาและ ไหล่ที่พร้อมจะปลิดชีพได้ทุกเมื่อ

     

    " สาวสวยผ่านไปแล้ว ... มาถึงคนที่สามที่น่าจับตามอง คือ เด็กหนุ่ม ที่เป็นหนึ่งในเด็กเจ็ดคนผู้ที่เหลือรอดและยังอยู่ในสนามประลองมาจนถึงเวลานี้...ผู้ได้รับสมญานามว่า เด็กหนุ่มอัจฉริยะ เทียร์ ครับ ! "

     

    ไม่มีเสียงปรบมือดังเล็ดลอดออกมาจากผู้ชมเลยแม้แต่คนเดียว ทุกคนเงียบกริบ  ... ได้แต่จ้องมองมองดูเด็กหนุ่มท่าทางเย่อหยิ่งในเสื้อคลุมสีฟ้าอ่อน ผิวสีขาวซีด ราวกับกระดาษ ดวงตาสีดำสนิท และผมสีเงินปลิวไสวยาวระบ่า แววตาที่เขาจ้องกลับมาอย่างท้าทายและอวดดีเกินตัว  เขาไม่ได้มีท่าทางเหมือน ตัวเก็งอีกสองคนที่ทั้งดูเก่งและมีความสามารถเพียงแค่เห็นแวบแรก แต่นี่

     

    ดูยังไงก็เป็นแค่เด็กธรรมดา...

     

    " แต่ก็ใช่ว่าทั้งสามคนจะมีโอกาสชนะ เสมอไปหรอกนะครับ ! " โรอัลล์ ให้ความเห็นคลุมเคลือกับผู้ชม " เอาล่ะครับตอนนี้...ก็ใกล้ที่จะรู้ผลรอบแรกแล้วนะครับ...เหลือผู้เข้าแข่ง 36 คนครับ ! "

     

             เด็กสาวสองสามคนที่นิ่งอยู่นานเริ่มขยับตัวราวกับ ว่ากำลังรอคอยสิ่งนี้มานานแสนนาน ระหว่างที่เผชิญกับเวลาและเหตุการณ์ที่น่าเบื่อเต็มทน .... เช่นเดียวกับเด็กหนุ่ม สามคนที่มีปฏิกิริยา เดียวกัน เด็กหนุ่มที่โตที่สุดในกลุ่มนั้น ปิดหนังสือที่อ่านอยู่นานเล่มนั้นเข้ากระเป๋าเสื้อด้านใน  เทียร์ขยับตัวลุกขึ้นและมองกลุ่มเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเขา ด้วยสายตาดูถูก

     

    กองร่างที่บาดเจ็บและเสียชิวิตของผู้เข้าแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ  จนแทบไม่มีทีให้เดิน นักเวทย์แห่งหุบเขาสายลม จัดการนักเวทย์ที่เหลือทั้งสามคน โดยใช้เวลาสั้นกว่า เอมิเลียที่ปามีดสั้นบนหลังเธอโดยใช้การโจมตีระยะไกลจัดการผู้เข้าแข่งขันอีก สามคนที่พุ่งตัวเข้ามาจัดการเธอในทีเดียว

     

    ปรี๊ดดดดดดด !!

     

    โรอัลล์เป่านกหวีดก้อง เสียงแหลมสูง จนผู้ชมหลายคนปิดหู มีดสั้นของฟีเนียร์อีกเล่มถูกโยนลงมาปักบนใจกลางสนามประลอง พร้อมกับเสียง โรอัลล์ที่กล่าวอย่างตื่นเต้น

     

    " สิ้นสุดการแข่งขัน รอบแรก !! เหลือผู้เข้าแข่งขัน 30 คน "

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×