ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สงครามแห่งจันทรา

    ลำดับตอนที่ #4 : นักฆ่าเงาจันทรา

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ค. 49


    บทที่ 3   นักฆ่าเงาจันทรา

     

    ----------------------------------------------------------------------------

     

              เพียงชั่วข้ามวัน ก็มีผู้คนมากมายหลั่งไหลเข้ามาในเมืองหลวงจนที่ที่พักในโรงแรมต่างๆ  รวมถึงโรงแรมเล็กๆของนายเทเวอรัส  หรือแม้แต่โรงแรมระดับห้าดาว  ล้วนถูกจับจองจนไม่เหลือห้องว่างแทบทั้งสิ้น...

                ตลาดยามเช้าของวันเสาร์ที่ปกติก็มีคนมาจับจ่ายซื้อของมากอยู่แล้วก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเข้าไปอีก ซึ่งไม่เพียงลูกค้าประจำในเมืองนี้ ยังมีลูกค้าแปลกหน้ามากหน้าหลายตาจากเมืองต่างๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพวกที่เข้ามาร่วมแข่งขันเท่านั้น ยังมีกลุ่มคนบางประเภทที่เข้ามาเพื่อหารายได้เสริมจากงานประลอง และพวกที่เข้ามาชมการแข่งขัน พวกเมืองแถบทะเลทรายที่มีผ้าโพกหัว และจูงอูฐิทะเลทรายตัวใหญ่เข้ามาในตลาดจนเกะกะขวางทาง หรือแม่มดแก่ๆ กับลูกแก้วพยากรณ์ของหมอดูมาขอซื้อ เครื่องรางนำโชค นอกจากนี้ยังมีพวกที่แปลกประหลาดพิศดาร กว่านี้อีกมาก อย่างเช่น ชายร่างยักษ์ที่ร่างกายทั้งหมดพันด้วยผ้าคลุมเหมือนมัมมี่  หญิงสาวที่พกมีดเต็มหลัง หรือ ประเภทที่ ' ไม่ใช่มนุษย์ '  เช่นพวกแฟรี่ตัวสีฟ้า ที่บินว่อนทั่วตลาด เอลฟ์  รูปปั้นหินที่พูดได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ตลาดยามเช้าของ อา-เบลลาชล์ ในวันนี้คึกคักสนุกสนานเป็นพิเศษ  จนกระทั่ง...

     

                    จู่ๆ ผู้คนที่กำลังซื้อของอยู่ก็วิ่งหนี  พ่อค้าที่เปิดแผงลอยขายอัญมณีอยู่ พากันเก็บของและหลีกทางให้แก่บุคคลกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินผ่านมา บรรยากาศภายในตลาดเงียบขึ้นมาทันใด เงียบราวกับตลาดร้าง พ่อค้าและผู้คนที่กำลังเดินจับจ่ายซื้อของในถนนจนสุดทางเดินต่างพากันชะงักและหันมามอง แต่ก็ไม่มีใครกล้าพอจะเงยหน้าขึ้นสบตา.. แม้แต่เหล่าผู้คนที่มาจากต่างเมืองยังเมืองยังมองกลุ่มคนเหล่านั้นด้วยท่าทางหวาดกลัว...

     

                      กลุ่มคนสิบกว่าในชุดเสื้อคลุมสีดำกับหน้ากากปิดหน้าสีขาว มีลวดลายสลักที่แปลกประหลาดและปราณีตประทับบนหน้ากากของทุกๆคน     ฝีเท้าของคนเหล่านั้นที่ก้าวเดินผ่านถนน อาเบลลาชล์ นั้นเงียบกริบ ราวกับเคลื่อนที่โดยลอยตัวผ่านอากาศ  แหวกผ่านความเงียบที่เข้ามาปกคลุมทุกรูขุมขน และร่างกายของหนึ่งในกลุ่มคนสวมหน้ากากคนหนึ่ง มีเสียงเพลงหวีดหวิวชวนน่าขนลุกออกมาจากตัว ... เสียงของมันราวกับเสียงโหยหวนของสัตว์ที่กำลังจะตาย...  ทำให้ผู้คนในตลาดเกิดอาการสันหลังวาบขึ้นมาตามๆกัน

     

    นักฆ่าเงาจันทรา ?!!..

     

                        เป็นกลุ่มนักฆ่าที่มีความโด่งดังในเรื่องความน่าสะพรึงกลัวและการฆ่าจนเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดของกลุ่มนักฆ่าต่างๆ ในลาเพียน่า และอาณาจักรอื่นๆ  สมาชิกในกลุ่ม 13 คน แต่ละคนล้วนมีความสามารถพิเศษ แตกต่างๆกันและมีความเก่งกาจเฉพาะตัว แทบชนิดที่ว่า เป็นความสามารถที่หายากยิ่งในโลก แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าความสามารถของกลุ่มนักฆ่าเหล่านั้นคืออะไร...

     

    ยกเว้นแสียแต่ว่า...ต่อเมื่อ เขาหรือเธอคนนั้นถูกสั่งฆ่า !!

     

    เหยื่อทุกรายที่ผ่านน้ำมือของเหล่านักฆ่าเงาจันทรา ล้วนแต่รู้ฝีมือและความสามารถของคนกลุ่มนั้น แต่ถึงกระนั้น

     

    ก็คงไม่มีโอกาสแม้แต่จะพูด !!

     

    ฉะนั้นจึงเป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่า เมื่อใดที่ เงาจันทราคนใดคนหนึ่งปรากฎตัวขึ้นเมื่อใด ก็ล้วนแต่มีเรื่อง การสูญเสีย และ การนองเลือดเกิดขึ้น...

     

    แต่นี่ตั้ง 13 คน มาปรากฎตัวขึ้นในคราเดียว ...?!!!

    คงไม่ใช่มาเพื่อ เข้าแข่งขันตามหาเมือง ลูน่าลาปิสด้วยหรอกนะ !

     

    " หรือนี่มาข่มขู่เพื่อตัดกำลังคู่แข่งจากอาณาจักรอื่น  " เสียงกระซิบของพ่อค้าขายผัก กับ พ่อค้าขายปลา ที่ดังขึ้นพร้อมๆกับ เสียงกระซิบกระซาบและพึมพำเบาๆ ของผู้คนทั่วทั้งตลาด ส่งเสียงวิพากย์วิจารณ์ดังขึ้นหึ่งๆ ราวผึ้งแตกรัง เมื่อ กลุ่มนักฆ่าเงาจันทราเหล่านั้นเคลื่อนตัวผ่านออกไปไกลจนไม่เห็นเงาแล้ว

    " ไม่รู้สิ .. " พ่อค้าขายปลาตอบ และหันมาสนใจกับปลาตัวโตในมือ  ก่อนที่ ความกลัวนักฆ่าเหล่านั้นจะเข้ามาเกาะกุมจิตใจ " บางทีพวกนี้อาจมาควบคุมการแข่ง..."

     

    " ควบคุมการแข่ง !! ... ให้นักฆ่ามาควบคุมการแข่งเนี่ยนะ บ้ารึป่าว !! " พ่อค้าขายผักเถียงเสียงหลง

     

    " ...หึหึ มันก็ไม่แน่..." พ่อค้าคู่สนธนาตอบ " นักฆ่ามากันทั้ง สิบสามคน เช่นนี้ ... มันเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่งอยู่แล้ว "

    " แต่ว่า...อย่าบอกนะว่า พวกนั้นจะมาแข่งด้วย..!!! " พ่อค้าขายผักตาเบิกกว้าง

     

    " ไม่น่าใช่...นักฆ่าเหล่านี้ถูกจ้างมาเท่านั้นถึงจะทำงาน ถ้าไม่ได้ถูกจ้างวานคงไม่ทำให้เสียเวลาหรอก แล้วอีกอย่างถึงแข่งไปคงไม่ได้อะไร เพราะเงินกับชื่อเสียงของพวกนั้น ก็ดังคับ ลาเพียน่าอยู่แล้ว..." พ่อค้าขายปลาที่กำลังเริ่มต้นขอดเกล็ดปลาที่กำลังดิ้นอยู่ในมือ พูดแย้งอย่างรู้ดี

    " อืมใช่...เจ้าพูดมีเหตุผล..." พ่อค้าขายผักวัยกลางคนกล่าวลอยๆ ก่อนเริ่มต้น พรมน้ำผักในตะกร้าแทนที่จะมาสนใจเรื่องนักฆ่าเงาจันทราที่ปรากฎตัวพร้อมกันถึง สิบสามคน เหมือนเมื่อครู่

     

           ....ยามกลางวันของวันเสาร์ที่คึกคักและคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับจงใจ ... บรรยากาศยามเย็นก็เข้ามาแทนที่ พ่อค้า ในตลาดต่างก็เก็บข้าวของและแยกย้ายกลับบ้าน ตลาดที่เคยมีผู้คนพลุกพล่านในช่วงยามเช้า ก็หายเงียบไป จนกลายเป็นตลาดร้างไร้ผู้คน แสงตะวันยามเย็นเคลื่อนคล้อยตามลงไปทางขอบฟ้าทิศตะวันตก ฝูงนกบินเกาะกลุ่มกันกลับรังหลังจากที่ออกหากินกันจนเต็มที่ บรรยากาศเช่นนี้คงชวนให้เหงาวังเวงใจ แต่หากเป็นวันนี้ เวลาเช่นนี้คงเหมาะสมสำหรับการเตรียมตัวเพื่อตั้งหน้าตั้งตาคอยสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อยามรัตติกาลมาเยือน

     

    การแข่งขันคัดเลือกผู้กล้า กับ ลูน่าลาปิส !

     

        เสียงพลุ ซึ่งจุดขึ้นกลางอากาศส่งเสียงดังกึกก้อง ทันทีที่ตะวันลับขอบฟ้าได้เพียงไม่นาน ความมืดยามราตรีก็เคลื่อนกายเข้ามาบดบัง แสงสีทองแห่งทิวากาล บอกสัญญาณให้รู้ว่า การแข่งขันจะมีขึ้นในไม่ช้าหลังจากนี้  ผู้คนจากเมืองอาเบลลาชล์และเมืองต่างๆทยอยมารวมกันที่ลานประลองหน้าเวที เก่าแก่ที่ตั้งอยู่กลางเมือง มันไม่เคยถูกใช้มาแล้วอย่างน้อย สิบปี  แต่บัดนี้ถูกเนรมิตให้กลายเป็นเวทีใหญ่โตประดับด้วยแสงเทียนสีทองนับพันเล่มรายล้อมรอบๆ การประลอง  ซึ่งถูกยกให้สูงขึ้นจากพื้นและมีพื้นที่กว้างเท่ากับบ้านสิบหลังรวมถึงมีเขตกั้นคนภายนอก ทำให้รู้กันว่า คงถูกจัดไว้เป็นลานประลองเพื่อคัดเลือกผู้เข้าแข่งขัน ไม่นาน ก็มีคนมามุงดูรอบลานประลองทั้งสี่ด้าน จำนวนมากมาย  ทั้ง เด็กเล็กไปจนถึงคนชรา ทั้งพ่อค้า นักเวท นักดาบ ชาวเมืองจากอาณาจักรอื่นๆ ตลอดจนขอทานหรือชนชั้นวรรณะระดับสูง อย่างพวกขุนนาง ต่างก็มาชมการแข่งขันโดยรอบเวที

     

    พรึ่บ !!

     

            จู่ๆ แสงสว่างจากเทียนนับสิบเล่ม ก็ดับลง และพร้อมๆกับที่คบไฟบนเวทีก็ถูกจุดขึ้น เสียงปรบมือต้อนรับดังกึกก้อง ชายคนหนึ่งปรากฎขึ้นบนเวทีก่อนจะโค้งคำนับให้เสียงปรบมือ แสงเทียนที่ดับไปแล้วถูกจุดสว่างขึ้นมาอีกครั้ง

     

    " ยินดีต้อนรับทุกๆท่านสู่ค่ำคืนอันแสนยาวนาน ..." ชายคนนั้นพูดด้วยเสียงอันดังก้อง เขาใส่ชุดสูทสีดำ ในมือของหนึ่งถือกระดาษแผ่นบาง เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง ตามด้วยเสียงโห่ร้อง

     

    " ผมชื่อ  โรอัลล์ คาเซเลีย ทำหน้าที่ผู้ดำเนินงานครั้งนี้ครับ ! และก่อนที่ทุกท่านจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการประลองบนเวที ผมขอแนะนำกรรมการและ ผู้ควบคุมการแข่ง รวมถึงกติกาต่างๆและกติกา ในรอบสองที่ทุกๆท่านคงจะยังไม่ทราบกันนะคร้าบ !!! "

     

     และทันทีที่โรอัลล์พูดจบ บรรยากาศที่เคยคึกคักตื่นเต้นก็หยุดชะงักลงกลายเป็นความเงียบ จบแทบได้ยินเสียงลมหายใจของทุกคน ผู้ดำเนินการแข่งขัน ยกกระดาษแผ่นน้อยขึ้นมาดูรายชื่อ

     

    " คนแรกที่ขาดไม่ได้สำหรับค่ำคืนนี้ เจ้าภาพงานการแข่งขันที่ ทุ่มเงินถึง หนึ่งพันล้านเซล เป็นรางวัล ....ท่านราเมียร์ ครับ !!! "

     

     เสียงปรบมือของผู้คนทั่วลานประลอง ดังขึ้นพร้อมกับหยุดลงแทบจะในทันทีเมื่อบุรุษ นาม ' ราเมียร์ ' ปรากฎตัวขึ้นบนเวที  ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นและที่ใบหน้าซีกซ้ายมีรอยดาบฟันเป็นทางยาวจนตาซ้ายมองไม่เห็นและบอดสนิทผิวสีคล้ำนั้นมีรอยแผลและร่องรอยการต่อสู้ที่ผ่านมาอย่างโชกโชน  เสื้อผ้าของเขาเป็นชุดเสื้อคลุมดำสนิทตั้งแต่หัวจรดเท้า ช่างเป็นบุคคลที่ใครหลายๆคน รู้สึกผิดหวังกันไปตามๆกันเมื่อรู้ว่า เจ้าภาพงานนี้ไม่ได้แต่งตัวดีและเป็นมหาเศรษฐีอย่างที่คิด

     

    " ครับ และนี่คือเจ้าภาพงานนี้ของเรา .... " โรอัลล์ เอ่ยขึ้น ทำลายเสียงพึมพำที่ดังขึ้นไม่หยุดทั่วลานประลอง ผู้คนเริ่มเบนสายตาจากราเมียร์ กลับมาสนใจผู้ดำเนินงานแข่งขัน อีกครั้ง

     

    " ท่านกรรมการคนที่สอง... สาวสวยหนึ่งเดียว ผู้มากด้วยความสามารถ ...คุณ ฟีเนียร์  ลีโอเพีย ครับ !! "

     

            แล้วหัวใจทุกคนก็แทบจะหยุดเต้น ... หญิงสาวอายุประมาณ 18 - 19 ปี  ดวงหน้าที่เข้ารูปสวย พวงแก้มเป็นสีชมพูเรื่อ ริมฝีปากบางเป็นเส้นตรง ผิวสีขาวอมชมพูโดยธรรมชาติ เส้นผมสีดำยาวสลวยปลิวไสวในยามรัตติกาลอันมืดมิด  กับนัยน์ตาสีม่วงอะทีมิสต์เป็นประกายคมเข้ม ท่ามกลางความงามของแสงเทียนนับพันเล่มที่ต่างก็พ่ายให้กับความงามของเธอ หญิงสาวค่อยๆก้าวขึ้นเวที และ หยุดอยู่ข้างๆ ผู้ชายที่ชื่อราเมียร์ เธอดูราวกับภาพวาดเทพธิดาของ ศิลปิน ชื่อดังแห่ง เมือง คาเทียร์อา หากแต่เทพธิดาที่กำลังยืนอยู่ข้างบุรุษผู้เต็มไปด้วยรอยแผลนางนี้ มีใบหน้าเฉยชาและปราศจากรอยยิ้ม

     

             อึ้งไปชั่วขณะ โรอัลล์มองผู้ชมด้วยท่าทางตื่นๆ ก่อนจะกระแอมดังๆ ทำให้หลายคนสะดุ้งและ ก็ตามด้วยเสียงปรบมือ ดังสนั่นกว่าเจ้าภาพงาน ชายหนุ่มหลายคนมองเธอด้วยแววตาเหม่อลอยเพ้อฝัน และหญิงสาวกลุ่มหนึ่ง มองดูเธอด้วยสีหน้าชิงชัง ดูเหมือน ว่า ฟีเนียร์  ลีโอเพีย หญิงสาวที่ปรากฎตัวในฐานะผู้เป็นกรรมการการแข่งขันผู้นี้จะคว้าหัวใจชายหนุ่มในงานไปได้กว่าครึ่งในเวลาอันรวดเร็ว !

     

    " ทุกท่านคงได้เห็นความงามของเธอไปแล้ว..." โรอัลล์พูดและส่งรอยยิ้มน้อยๆ " สำหรับท่านต่อไป ทุกๆท่านคงอาจจะประหลาดใจสักนิด..." เขาเว้นวรรคข้อความต่อไป ก่อนสูดหายใจลึก

     

    " ท่านหัวหน้ากลุ่มเงาจันทรา... จันทราหมายเลขที่สิบสาม  ?!! "

     

            ราวกับอารมณ์ชื่นชมในตัว ฟีเนียร์ของผู้ชมหมดไปอย่างรวดเร็ว เมื่อ บุคคลที่ก้าวขึ้นบนเวทีเงียบๆ เสื้อคลุมสีดำสนิทกับหน้ากากสีขาวสลักรูปประหลาดยังคงเป็นเอกลักษณ์ในตัวของนักฆ่ากลุ่มนี้รวมถึง หัวหน้า กลุ่มเงาจันทรา ที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวเงียบๆไปยืนข้างๆฟีเนียร์ หญิงสาวยังคงมีสีหน้าเฉยชาไร้อารมณ์ ไม่แสดงถึงความหวาดกลัวแม้แต่น้อย

               ตรงกันข้ามกับผู้คนที่ยืนอยู่บริเวณรอบๆงาน เริ่มถอยห่างจากเวทีอย่างรวดเร็วราวกับนัดแนะ เด็กเล็กๆ เริ่มร้องไห้จ้า และ ผู้ใหญ่บางคนถึงกับหน้าถอดสี นักฆ่าหมายเลขสิบสาม...คือชื่อเรียกบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้ากลุ่มนักฆ่าเงาจันทรา และเป็นบุคคลที่เก่งที่สุดในบรรดาเหล่านักฆ่าทั้งหมดในกลุ่มเงาจันทรา

     

    " เออ... แต่ทุกๆท่านอย่าได้กังวลไปเลยนะครับ เพราะในคืนนี้...นักฆ่าผู้นี้ได้ละตำแหน่งนักฆ่าอันดับหนึ่งมาเป็นกรรมการตัดสินแทนจริงไหมครับ ..." โรอัลล์เหลือบไปถามหัวหน้านักฆ่าที่ยังคงนิ่งเงียบภายใต้หน้ากากประหลาด และเขาก็ไม่คิดจะถามต่อไป และหันมาหาผู้ชมแทน

     

    " และมาฟังกติกาการแข่งขันกันนะครับ..." ผู้ดำเนินงานยิ้มร่า ผู้ชมจำนวนมากเริ่มใจชื้นขึ้นมาเมื่อ กรรมการทั้งสามคน เดินลงไปพักหลังเวทีเรียบร้อยแล้ว เมื่อโรอัลล์เริ่มเกริ่นถึงกติกาการแข่ง

     

    " สำหรับกติกาการแข่งขันแบบรอบธรรมดานะครับ...คืดการแข่งแบบ Battle Royale ซึ่งผู้เข้าแข่งทั้งหมดจะต้องขึ้นมาบนสนามประลองเบื้องล่างหมดตรงนี้และสู้กัน ด้วยกติกาเเสนง่ายครับ นั่นคือ สามารถใช้อาวุธได้ทุกชนิด เวทย์มนตร์ รวมถึงมือเปล่าได้ทั้งสิ้นครับ ! แต่ถ้าหากผู้เข้าแข่งขันคนใดอยู่ในสภาพที่หมดสติไม่สามารถสู้ต่อได้ ออกนอกเวที และเสียชีวิต ! ถือว่าตกรอบ ...!! "

     

    สิ้นเสียงประกาศกติกา มีเสียงพึมพำเบาๆ ตามด้วยเสียงโห่ร้องและปรบมือ แต่ผู้คนจำนวนไม่น้อย พูดคุยกันด้วยสีหน้าเป็นวิตกกังวล

     

    ตายงั้นเหรอ ?!

     

    " และกติกาในรอบสอง.... " โรอัลล์เกริ่นทำลายเสียงเหล่านั้น และเริ่มอธิบายต่อ " เมื่อคัดเลือกรอบแรกเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว การแข่งขันรอบสองคือ...การแข่งขันรอบสอง เราจึงมีกติกาพิเศษที่ว่า ผู้เข้าแข่งขันที่เหลือจะต้องสู้ตัวต่อตัวกับนักฆ่าเงาจันทราทั้ง สิบสองคน...โดย...   "

     

              คราวนี้เสียงพึมดำดังขึ้นกว่าเดิมจนกลบเสียงของโรอัลล์ สาเหตุที่นักฆ่าพวกนั้นมารวมตัวกันทั้งสิบสามคนเป็นที่กระจ่างแล้ว ... และคงไม่มีใครโง่พอสู้กับ นักฆ่าฝีมือเก่งกาจขนาดนั้นได้ ...บางทีที่มีกติกาพิเศษขึ้นคงเพื่อให้ตำแหน่งของกลุ่มนักฆ่าเหล่านั้นได้เปลี่ยนมือกระมัง

     

              ตำแหน่งทั้งสิบสาม ตำแหน่ง แห่งเงาจันทรา จะถูกเปลี่ยนทันทีเมื่อมีผู้เอาชนะนักฆ่าคนใดคนหนึ่งในกลุ่มสิบสามนักฆ่าได้ และ  เข้ามาดำรงตำแหน่งแทนที่นักฆ่าที่คนนั้น ส่วนนักฆ่าที่พ่ายแพ้หากไม่ถูกผู้ที่เอาชนะตนเอาชีวิต ก็จะต้องถูกฆ่าตายโดยสมาชิกคนอื่น เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นล่วงรู้ความลับและความสามารถ.. ตำแหน่งของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป ตำแหน่งอันดับที่ สิบสาม หรือ จันทราหมายเลขสิบสาม เป็นตำแหน่งของหัวหน้าเหล่าเงาจันทรา และเป็นตำแหน่งที่เก่งที่สุด รองลงมาคืด ตำแหน่งที่ สิบสอง สิบเอ็ด สิบ ตามลำดับ ไปจนถึง ตำแหน่งสุดท้ายคือตำแหน่งจันทราหมายเลขหนึ่งซึ่งเพิ่งเปลี่ยนมือมาสดๆร้อนๆเมื่ออาทิตย์ก่อน  แต่นักฆ่าที่ตำแหน่งน้อยกว่า สามารถท้าสู้กับนักฆ่าที่ตำแหน่งสูงกว่าในกลุ่มเดียวกันได้   และหากชนะก็เลื่อนชึ้นตำแหน่งนักฆ่าที่เอาชนะได้ และนักฆ่าที่แพ้ก็จะต้องลดไปอยู่ตำแหน่งของนักฆ่าที่ท้าสู้ด้วยเป็นเช่นนี้เรื่อยไป.... แต่มีเพียงตำแหน่งเดียวที่ไม่เคยถูกท้าสู้เพื่อยึดตำแหน่งคือ ตำแหน่งนักฆ่าที่สิบสาม...หรือหัวหน้าเงาจันทรานั่นเอง

     

       " โดยที่ ... นักฆ่าทั้งสิบสองคน [ ไม่รวมหัวหน้าเงาจันทราที่เป็นกรรมการการแข่งขัน ] จะไม่ใช้ความสามารถพิเศษเพื่อตัดรอนกำลังผู้เข้าแข่งขัน ... และจะไม่มีการชิงตำแหน่งนักฆ่าเงาจันทราด้วยครับ และบัดนี้ขอเชิญ ท่านราเมียร์มากล่าวเปิดงาน..."

     

    เสียงปรบมือด้วยความโล่งใจของบรรดาผู้ชมดังกึกก้อง โชคดีที่เงาจันทราไม่ใช้ความสามารถพิเศษ ... ตอนนี้พวกนั้นก็เป็นเพียง เสือที่ไร้เขี้ยวเล็บ

     

    แต่ก็ยังเป็นเสือที่น่ากลัวอยู่ดี...

     

    ราเมียร์เดินออกมาจากหลังเวทีและรับไมค์จาก โรอัลล์ ที่ยื่นให้ด้วยท่าทางเงอะงะ แล้วเขาก็ปิดสวิตซ์ไมค์ตัวนั้นลง บรรยากาศกลับมาเงียบกริบอีกครั้งก่อนที่ ชายผู้มีใบหน้ามีแผลเป็นจะดีดนิ้ว..

     

              คบไฟหน้าเวทีลุกพรึ่บขึ้นฉับพลัน พร้อมกับเสียงกลองดังรัวเป็นชุดติดต่อกันด้วยจังหวะที่เสียงดังน่ากลัว เสียงผู้ชมโห่ร้อง และปรบมือ ดังสนั่นทั่วลานประลอง ที่บัดนี้มีคนจำนวนหลายสิบคน   เดินขึ้นบนลานประลองกลางเวที  กรรมการทั้งสาม ยืนอยู่ชิดติดขอบสนาม ผู้ดำเนินงาน รับไมค์คืนจากเจ้าภาพ พร้อมกับ กล่าวบรรยายต่อ

     

    " มีผู้ลงแข่งขันทั้งหมด 189 คน ทั้งนี้เราไม่ได้กำหนด อายุ เพศ และอาชีพ นะครับ ! ทุกๆท่านคงจะเห็นว่ามีทั้ง ชายชรา เด็ก และ ผู้หญิง .. แหม...ไม่รู้ว่างานนี้จะมีการออมมือกันอยู่หรือเปล่านะครับ" โรอัลล์กล่าวต่อไป เมื่อผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดอยู่บนลานประลองเรียบร้อยแล้ว  จริงดังที่โรอัลล์พูดไว้  มีทั้ง บุคคลในเสื้อคลุมสีดำคลุมหน้า นักเวทพเนจร นักรบ นักดาบ หรือแม้แต่เด็ก  น่าแปลกที่ผู้คนมีไม่มากอย่างที่คิดซึ่งสาเหตุหลักๆ คงมาจาก เหล่านักฆ่าที่ปรากฎตัวเมื่อตอนเช้าเล่นเอาใครหลายๆคนสละสิทธิ์ตามๆกันเป็นแถว

     

    " รอบ Battle Royale เราจะคัดเลือกจากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดเหลือเพียง 30 คน ครับ ซึ่งนับว่าน้อยมากเลยทีเดียว ...เอาล่ะครับต่อจากนี้เราจะให้สัญญาณเริ่มต้นการแข่งขัน ...."

     

    โรอัลล์หลับตานิ่ง ก่อนจะนับถอยหลัง

     

    " 3....2....1...."

     

    " 0 !!! "

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×