ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Testing
ชายหนุ่มหยุดมือจากการเชื่อมอุปกรณ์บางอย่างเข้าด้วยกันบนโต๊ะเมื่อสัญญาณเรียกดังขึ้นจากปลอกโลหะบนข้อมือ  ฝ่ามือใหญ่วางเครื่องเชื่อมที่มีรูปร่างเหมือนปากกาแท่งอ้วน ๆ ลงก่อนเลื่อนแว่นกระจกกันแสงขึ้นบนศีรษะแล้วจึงกดปุ่มบนปลอกโลหะเพื่อต่อสัญญาณสื่อสาร
‘ ขออนุญาติครับ  ท่านรองผู้บัญชาการ ‘
“มีเรื่องอะไรรึ ? “  เขาถามกลับเรียบ ๆ ขณะกวาดตามองชิ้นงานประดิษฐ์ที่มีความยาวเท่ากับโต๊ะทำงานของตนตรงหน้า
‘  พลเมืองชายหญิง 2 คนอ้างชื่อท่านขอเข้าอาคารครับ  ไม่ทราบว่าท่านรู้จักทั้ง 2 คนตรงนี้หรือไม่ ? ‘
ชายหนุ่มเบิกดวงตาขึ้นเมื่อมองภาพในมอนิเตอร์ลอยเหนือปลอกข้อมือเปลี่ยนจากเจ้าหน้าที่เฝ้าประตูไปเป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่ง  “ฉันรอทั้งคู่อยู่  ให้พวกเขาเข้ามาที่ล็อบบี้เดี๋ยวฉันจะลงไปรับเอง”  อาร์คเปลี่ยนคลื่นสัญญาณรวดเร็วโดยไม่รอคำตอบรับ  ภาพในมอนิเตอร์ดับวูบกลายเป็นสีเขียวที่สามารถมองทะลุผ่านไปได้  ครู่หนึ่งจึงมีภาพของหญิงสาวผมดำเจ้าของตำแหน่งเลขานุการประจำกองพลขึ้นแทน
‘ มีธุระอะไรเรียกใช้ดิฉันหรือคะ ?  ท่านรองผู้บัญชาการ ‘
“มีแน่  2 คนนั้นมาแล้ว”  เขาตอบกลับขณะหยิบเสื้อกั๊กสีดำสั้นพอดีตัวขึ้นสวมและก้าวออกจากห้องพักของตนรวดเร็ว  “เตรียมห้องพักให้เด็กใหม่ 2 คนแล้วตามไปเจอกันที่ล็อบบี้อาคาร A ด้วยกัน  ฉันให้คนพามารอแล้ว”
ทริเซียหรี่ดวงตาลงเล็กน้อย  ‘ ทราบแล้วค่ะ  เอาเป็นห้องพักข้าง ๆ ท่านเลยก็แล้วกันนะคะ  เพราะท่านต้องเป็นคนดูแลรับผิดชอบ 2 คนนั้นโดยตรงตามที่ได้รับปากท่านเฟิร์ส  ยังไงก็เป็นห้องว่างอยู่แล้ว ‘
“ทริเซีย !  “  เอ่ยเรียกเสียงดังด้วยความลืมตัวเพราะอีกฝ่ายทำท่าจะตัดการติดต่อ  “ช่วยเตรียมบททดสอบวัดความรู้ไว้ด้วย  ฉันอยากรู้ข้อมูลความสามารถของทั้งคู่ภายในวันนี้”
‘ อยากให้ทั้ง 2 คนเข้าบรรจุภายในวันนี้เลยสินะคะ  เพราะอีกไม่กี่วันการแข่งขันแกรนด์ทัวร์นาเม้นท์ประจำปีก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว  ดิฉันจะจัดการทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อยภายในวันนี้ค่ะ ‘  ริมฝีปากเรียวคลี่ยิ้มบางให้
เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนเปล่งเสียงหัวเราะแผ่วเบา  “ขอบใจมากนะ  ทริเซีย  จริง ๆ นะถ้าไม่มีเธอฉันจะทำยังไงดี  คงทำหน้าที่เป็นรองให้ท่านเฟิร์สไม่ได้แน่ ๆ “
‘ ชมเกินไปแล้วค่ะ ท่านอาร์ค  นี่เป็นหน้าที่ของดิฉัน  ขอตัวไปจัดเตรียมทุกอย่างก่อนนะคะแล้วดิฉันจะตามไปพบท่านภายหลัง ‘  กล่าวจบจึงตัดการติดต่อไปทันทีทำให้หน้าจอมอนิเตอร์ลอยกลับเป็นสีเขียวเปล่า ๆ ที่สามารถมองทะลุผ่านไปได้
ชายหนุ่มเก็บหน้าจอให้หายวับไปแล้วจึงลดแขนลง  ขณะก้าวไปยืนบนแท่นโลหะกลมแล้วปล่อยให้แท่นนั้นลอยผ่านตามรางแคบ ๆ เข้าไปในอุโมงค์กระจกขนาดใหญ่  ซึ่งเป็นทางเชื่อมระหว่างอาคารหอพักและอาคารบัญชาการ  มีรางสำหรับพาหนะแบบเดียวกันโดยเฉพาะสวนกันไปมา  ซึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วมากกว่าการวิ่งเต็มฝีเท้าเล็กน้อยสำหรับผู้ที่กำลังรีบ  ด้านข้างของรางพาหนะทั้ง 6 รางซึ่งอยู่ตรงกลางเป็นทางเดินที่มีความกว้างให้คนเดินเรียงหน้ากระดานได้ 6 คนสบาย ๆ ประกบอยู่ทั้งสองฝั่งของรางพาหนะเคลื่อนที่ได้นั่น
---------------------------------------------------------------
“มาเร็วกว่าที่คิดไว้นะ”  อาร์คเอ่ยปากทักก่อนจะก้าวมาถึงจุดที่ทั้ง 2 คนยืนอยู่โดยมีเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบสีขาวคนหนึ่งยืนอยู่ด้วย  “ขอบใจที่พามา  นายไปได้แล้ว”  หันไปกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตรงนั้นก่อนอีกฝ่ายจะทำความเคารพแล้วก้าวผละไป
หญิงสาวผมแดงขยับตัวยืนกอดอกพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง  “ใครจะไปนึกว่าคุณชายที่ดูนิสัยชอบออกแนวหน้าแบบนั้นจะเป็นถึงรองผู้บัญชาการ 1 ใน 3 กองพล  ตำแหน่งใหญ่น่าดูนี่”
ชายหนุ่มยิ้มกว้างตอบ  “ก็ไม่เท่าไหร่หรอก  บางทีมันก็น่ารำคาญเพราะมีคนคอยตามอยู่ตลอด  จะว่าไปฉันก็ไม่ได้ทำงานตามหน้าที่นักหรอก  มีคนทำแทนซะกว่าครึ่ง”  หันไปหาโนอาห์ที่พาดผ้าคลุมผืนเก่าไว้กับท่อนแขนและยื่นกลัดทองคำส่งคืนให้  ซึ่งก็รับมาติดกลับไปบนอกเสื้อและกล่าวขอบคุณตามมารยาท 
“แล้วยังไงดีล่ะ  เอาเป็นว่าวันนี้ฉันจะพาชมสถานที่และการสอนของเราที่นี่ก่อน  วันนี้ก็ค้างที่นี่สักคืนก่อนแล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ  เพราะกว่าจะเห็นหลักสูตรการเรียนการฝึกของเราหมดก็คงจะเสียเวลาไปทั้งวันเต็ม ๆ ล่ะนะ  วันนี้ฉันไม่มีเรียนจะพาชมเองก็แล้วกัน  ตามมาสิ”
“ไม่จำเป็น”  เจ้าของเรือนผมสีน้ำเงินเข้มเอ่ยขึ้นเรียบ ๆ  ก่อนที่อีกฝ่ายจะเริ่มก้าวเท้า  “มาที่นี่ก็เพื่อตอบรับการเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ของนายอยู่แล้ว  ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากมากไปกว่านี้”
หญิงสาวหยักรอยยิ้มนิด ๆ ที่มุมปากก่อนจะพาร่างเพรียวของตัวเองเข้ามาใกล้  “เรื่องก็เป็นแบบนี้ล่ะนะ  ท่านรองผู้บัญชาการ”  แขนที่ยกขึ้นกอดอกเลื่อนกลับลงข้างตัวเหลืออีกข้างหนึ่งที่ท้าวสะเอวอย่างไว้ท่า
ดวงตาสีเขียวเข้มหรี่ลงสบสายตาคนทั้งสองตรงหน้า  รอยยิ้มบาง ๆ บนริมฝีปากเหยียดออกกว้างขึ้น  “คิดไว้แล้วว่าจะต้องพูดแบบนี้”  ชายหนุ่มตวัดดวงตาเหลือบมองไปยังลิฟท์ที่ตนลงมาซึ่งอยู่ด้านหลังคนทั้งสอง  พอดีกับที่เลขาฯสาวผมดำก้าวพ้นประตูลิฟท์ออกมา 
“ที่จริงฉันให้คนเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้วล่ะ  พวกนายต้องเข้าทดสอบวัดระดับความรู้ก่อน  คงยังหาคลาสเข้าเรียนวันนี้ไม่ทันแต่ตอนบ่ายมีคลาสฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ใหม่  พวกนายจะต้องอยู่ในกลุ่มนั้นและตลอด 1 ปีนี้มีฉันเป็นผู้ดูแลพอดี  ก่อนอื่นขอแนะนำนะ  นี่คือเลขานุการประจำกองพล White Wolf ที่พวกนายจะเข้าร่วม”  ว่าพร้อมกับขยับตัวเปิดให้หญิงสาวผมดำเข้ามารวมกลุ่มด้วย
“สวัสดี  ฉันชื่อทริเซีย เดนเบิร์ก  ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน  ฉันชื่อไลอาส่วนนี้น้องชายชื่อโนอาห์”  สาวผมแดงเอ่ยตอบรวดเร็ว
“ห้องพักของพวกเธอถูกจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว  ก่อนอื่นพวกเธอต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียก่อนจากนั้นเราจึงจะทดสอบวัดระดับความรู้กัน  ฉันจะนำทางไปห้องพักให้ส่วนท่านรองดิฉันเชิญท่านไปรอที่ห้องทดสอบที่ 14 ก่อนได้เลยค่ะ  แล้วดิฉันจะพาทั้งสองคนไปหลังจากจัดการเรื่องเสื้อผ้าและเครื่องใช้ส่วนตัวภายในห้องเรียบร้อย”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับ  “ขอบใจมากนะ ทริเซีย  เอาล่ะเดี๋ยวเราค่อยเจอกันนะ  ไลอา  โนอาห์”  เขาโบกมือลาอีกฝ่ายที่เดินผละจากไปด้านหนึ่งก่อนหันหลังไปขึ้นลิฟท์อีกด้านที่จะพาไปถึงชั้นทดสอบโดยตรง
---------------------------------------------------------------
ชายผมสีน้ำตาลอ่อนยืนมองกลุ่มเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังถอดประกอบปืนที่ใช้สำหรับฝึกอย่างขมักเขม้น  ก่อนไล่สายตาไปยังเจ้าหน้าที่ใหม่ล่าสุดทั้งสองคน  ที่หยิบปืนขึ้นมามองสำรวจอย่างละเอียดโดยยังไม่ลงมือแกะอะไรออกมาสักชิ้น  “การทดสอบของสองคนนั้นเป็นยังไงบ้าง ?  ทริเซีย”  เอ่ยถามเสียงแผ่วเป็นกระซิบกับหญิงสาวผมดำที่ยืนสงบนิ่งอยู่ข้าง ๆ
บอร์ดอิเล็กทรอนิกส์ในมือถูกยกขึ้นเพื่อเรียกดูข้อมูล  นิ้วเรียวกดลงบนแผ่นกระจกของบอร์ดที่เป็นระบบสัมผัสพร้อมกับกวาดตามองข้อมูลที่ปรากฏขึ้น  “ . . ความรู้พื้นฐานอยู่ในระดับพอ ๆ กับพวกเราหรืออาจมากกว่าก็ได้ค่ะ  แต่ในส่วนของความรู้เกี่ยวกับอาวุธและการพัฒนาต่าง ๆ กลับต่ำเสียยิ่งกว่าพวกพลเมืองปกติเสียอีก  ข้อมูลที่พวกเขามีและรู้เกี่ยวกับของพวกนี้ล้วนเป็นแบบเก่าที่หมดความนิยมอีกทั้งไม่มีการใช้กันแล้วในปัจจุบันทั้งสิ้นค่ะ  แต่ที่น่าสนใจคือทั้งคู่มีระดับความรู้ทุกอย่างเท่ากันหมดเลยค่ะ  ท่านรอง”
“เท่ากันก็ไม่เห็นแปลกตรงไหนไม่ใช่รึ ? “  อาร์คถามกลับขณะตวัดสายตาขึ้นมอง
“แปลกค่ะ  เพราะในแบบทดสอบข้อเขียน  พวกเขาทั้งคู่ตอบเหมือนกันทุกข้อไม่มีผิดพลาดแม้แต่ข้อเดียว”  คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย  “ทดสอบกัน 3 ครั้งได้ผลออกมาเหมือนกันทุกครั้ง  ข้อมูลยืนยันแล้วไม่มีข้อบกพร่องด้วยค่ะ”  หันกลับมาสบสายตาชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ของชุดโต๊ะอาจารย์ผู้ฝึกสอนของห้องด้วยสายตาบ่งบอกความข้องใจเช่นเดียวกัน
เขาเลิกคิ้วทั้งสองข้างขึ้นบ่งบอกความประหลาดใจ  ก่อนตวัดกลับไปยังคนทั้งสองซึ่งเป็นหัวข้อสนทนาแล้วยิ่งต้องเบิกตากว้าง  เมื่อปืนสีขาวนั่นกำลังถูกประกอบเข้าด้วยกันด้วยความเร็วและความคล่องที่เหนือกว่าเจ้าหน้าที่คนอื่นหลายเท่าตัว 
“ดูท่าความเร็วในการเรียนรู้ของทั้งสองคนจะเหนือกว่าคนปกติมากอยู่นะ”  กระแสเสียงเอ่ยกลั้วหัวเราะแผ่วก่อนขยับตัวลุกขึ้นพร้อมกับกดปุ่มเลื่อนกำแพงด้านหลังเปิดสนามสำหรับฝึกซ้อมออกมา  “ไลอา !  โนอาห์ !  ประกอบเสร็จแล้วก็มาลองทดสอบกันหน่อย”
หญิงสาวผมแดงลุกขึ้นพร้อมฉวยปืนสีขาวในมือขึ้นควงเล่นพร้อมกับก้าวลงจากอัฒจันทน์  โดยมีชายผมสีน้ำเงินเข้มก้าวตามมาติด ๆ เบื้องหลัง  “จะให้ลองยิงอะไรรึ ? “
ชายหนุ่มยิ้มบางก่อนชี้ตรงไปยังห้องฝึก  ซึ่งมีสองห้องปรับเข้าสู่โปรแกรมเตรียมพร้อมรออยู่ก่อนแล้ว  กระจกด้านในจึงกลายเป็นสีดำสนิท  “ไฟเขียว 10 แดง 30 สีขาวติดลบ  ลองดูว่าพวกนายจะทำได้ถึงระดับไหน”
โนอาห์มองปืนในมือก่อนยกขึ้นเล็ง  ขณะผู้เป็นพี่สาวที่อยู่ถัดออกไปอีกห้องเปล่งเสียงตอบรับออกมาดังให้ได้ยิน  “พร้อมแล้ว ! “  ขาดคำดวงไฟ 3 สีก็ปรากฏขึ้นในความมืดของห้องฝึก  เกือบพร้อมกับที่เสียงปืนสองนัดจากห้องฝึกทั้งสองห้องดังขึ้นใกล้ ๆ กัน
‘ เลเวล 1 เคลียร์ ‘
. . . . . . .
‘ เลเวล 10 เคลียร์ ‘
. . . . . . .
‘ เลเวล 15 เคลียร์ ‘
เสียงบอกระดับความยากดังขึ้นถี่ยิบ  เช่นเดียวกับตัวเลขคะแนนบนมอนิเตอร์เหนือศีรษะในห้องฝึกปรับตัวเลขตามเร็วจนอ่านคะแนนไม่ทัน  จนกระทั่งตัวเลขของห้องฝั่งสาวผมแดงลด ๆ เพิ่ม ๆ เป็นระยะจนจากตัวเลขสีเขียวกลายเป็นสีแดงและเหลือศูนย์ในที่สุด
‘ ห้อง T 501  เลเวล 52  เกมโอเวอร์ ‘
“บ้าจริง ! “  เสียงบ่นดัง ๆ หลุดออกจากริมฝีปากก่อนร่างโปร่งเพรียวจะก้าวออกมาจากห้องฝึกพร้อมปืนที่โยนเล่นไปมาในมืออย่างไม่ใส่ใจนัก  “ฉันไม่ถนัดการโจมตีเท่าไหร่จริง ๆ นั่นล่ะ  น่าเบื่อจริง ! “  ลมหายใจถูกระบายออกมาแรงก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น  เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ทั้งหมดยืนมองมอนิเตอร์อยู่นอกห้องด้วยดวงตาที่เบิกกว้างกันแทบทุกคน
‘ ห้อง T 503  เลเวล 74  เกมโอเวอร์ ‘
เสียงฮือฮาจากกลุ่มเจ้าหน้าที่ใหม่ดังขึ้นทันทีที่ชายผมสีน้ำเงินเข้มเจ้าของสถิติก้าวออกจากห้องฝึกตามมา  ริมฝีปากเรียวที่มักเป็นเส้นตรงเสมอคลี่ยิ้มบางชั่วพริบตา  “ของเล่นพวกนี้สนุกดีเหมือนกันนะ  ไลอา”
“ของเล่นงั้นรึ ?  ก็จริงอยู่สำหรับพวกเจ้าหน้าที่ประจำการปืนนี้กับสนามฝึกเป็นแค่ของเด็กเล่น  แต่อย่างน้อยมันก็เป็นการฝึกขั้นพื้นฐานสำหรับฝึกความแม่นยำและสมาธิพวกเธออย่าดูถูกมันได้มั้ย ? “  สาวผมดำเอ่ยเรียบ ๆ ขณะจ้องหน้าชายหนุ่มเจ้าของประโยคเมื่อครู่เขม็ง  ซึ่งอีกฝ่ายก็มองกลับมานิ่ง ๆ ครู่หนึ่งก่อนก้มศีรษะลงเล็กน้อยเป็นเชิงขออภัย
อาร์คที่ยืนพิงขอบโต๊ะมองมาตั้งแต่ต้นเปล่งเสียงหัวเราะแผ่ว  “อย่าโมโหไปเลย  ทริเซีย  เพราะฉันเองก็เห็นด้วยกับคำพูดของโนอาห์นะ  สนามฝึกนี่กับปืนเล็ก ๆ กระบอกนี้มันของเล่นสำหรับพวกเราจริง ๆ  ว่าแต่โนอาห์”  ชายหนุ่มตวัดสายตาไปยังเจ้าของชื่อที่เดินผละจากห้องฝึกเข้ามา  “ถ้านายสนใจอะไรที่ไม่ใช่ของเล่นแบบนี้ล่ะก็ . . . ลองสมัครลงแข่งขันแกรนด์ทัวร์นาเม้นท์ที่กำลังจะเริ่มในอีก 4 วันข้างหน้าดูสิ”
“การแข่งขันแกรนด์ทัวร์นาเม้นท์อะไรงั้นเหรอ ? “  สาวผมแดงกลับเป็นฝ่ายถามแทรกเสียงรื่นเริงขึ้นแทน
“เป็นประเพณีของเราที่จัดขึ้นปีละครั้งเพื่อทดสอบความสามารถปัจจุบันของบรรดาเจ้าหน้าที่  อีกนัยหนึ่งก็เป็นการกระตุ้นให้หมั่นฝึกฝนตนเองอยู่เสมอนั่นล่ะ  สนใจงั้นสิ ?  ไลอา”  ริมฝีปากเรียวคลี่ยิ้มกว้างเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าตอบรับรวดเร็ว 
“งั้นเย็นนี้ทั้งสองคนมาหาฉันที่ห้องสิแล้วจะเล่ารายละเอียดให้ฟัง  พวกนายมัวยืนเหม่ออะไรอยู่ ?!  ประกอบเสร็จแล้วก็เข้าไปฝึกกันอย่างที่เคยสอนเลยสิ !  ผลัดกันฝึกห้องละ 2 3 คนนะอย่ายึดไว้คนเดียว !! “  หันกลับไปเปล่งเสียงดังใส่บรรดาเจ้าหน้าที่ที่ยังยืนตะลึงตัวแข็งไม่เลิกให้รู้สึกตัว  และรีบก้าวเข้าห้องฝึกซ้อมอย่างรีบเร่งแทบจะแย่งกันเป็นคนแรกจนชายหนุ่มเปล่งเสียงหัวเราะระรื่นด้วยความขบขัน
---------------------------------------------------------------
ดวงตาสองคู่จ้องมองนิ่งยังเครื่องจักรอะไรบางอย่างที่ดูยังจะสร้างไม่เสร็จดีซึ่งวางเต็มโต๊ะทำงานของเจ้าของห้อง 
“นี่มันอะไรน่ะ ?  นายประกอบเองงั้นเหรอ ? “  ไลอาเอ่ยถามขึ้นเป็นคนแรกเมื่อชายผมสีน้ำตาลอ่อนก้าวมานั่งลงยังเก้าอี้ชุดรับแขกฝั่งตรงข้าม
“อ๋อ . . นั่นน่ะรึ  ก็แค่งานอดิเรกค้นคว้ายามว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ น่ะไม่มีอะไรมาก”  อาร์คตอบกลับด้วยเสียงระรื่นสดใส 
“มาพูดถึงเรื่องการแข่งขันที่ว่าดีกว่า  มันเป็นการแข่งขันแบบทัวร์นาเม้นท์ที่จัดขึ้นปีละครั้งในกองบัญชาการ  ผู้สมัครจะเป็นใครก็ได้ยกเว้นพวกที่มีตำแหน่งสูงกว่าหัวหน้าหน่วย  ง่าย ๆ ก็คือบรรดาผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการและเลขานุการทั้ง 3 กองพลไม่มีสิทธิ์ลงแข่งเพราะอยู่ในฐานะกรรมการผู้จัดงาน  การแข่งขันไม่จำกัดจำนวนผู้สมัคร  แต่ละปีรอบคัดเลือกก็ไม่เคยเหมือนกันเลยจนกระทั่งถึงรอบจริงซึ่งเป็นการแข่งการต่อสู้มือเปล่าแบบตัวต่อตัว  ใช้พลังแฝงและฝีมือล้วน ๆ หาผู้ชนะเลิศเพียงคนเดียว”
“แล้วผู้ชนะจะได้อะไรล่ะ ? “  สาวผมแดงถามด้วยสีหน้าบ่งชัดว่าเริ่มให้ความสนใจมากขึ้นทุกที
ริมฝีปากเรียวแย้มรอยยิ้มนิด ๆ  “ก็มีหลายอย่าง  หลัก ๆ คือเงินรางวัล 3,000 พลัส  เทียบกับค่าสมัคร 100 ไมนัสแล้วก็ถือว่าคุ้มต่อการเสี่ยงบาดเจ็บสาหัสเอาการล่ะ  แถมถ้าทำได้เข้าตากรรมการก็มีสิทธิ์เลื่อนขั้นจากเจ้าหน้าที่แนวหน้ามาเป็นหัวหน้าฝ่ายหรือผู้ช่วยได้  บางทีอาจก้าวกระโดดมาเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการก็ได้นะ”
ดวงตาสีเทาเรียบเย็นเหลือบมองชายที่นั่งอยู่ด้านตรงข้ามเล็กน้อย  “เลื่อนขั้นพรวดเดียวเหมือนนายงั้นสิ ? “
ชายหนุ่มเบิกดวงตากว้างขึ้น  “เอ . . จะตอบยังไงดีล่ะ”  เปล่งเสียงหัวเราะแผ่ว ๆ ก่อนเงียบลงเมื่อคนทั้งสองจ้องมองตรงมานิ่ง 
“ก็ได้ ๆ  ฉันก็ไม่รู้ตอบแบบนี้โอเคมั้ย ?  ฉันประสบอุบัติเหตุระหว่างการปฏิบัติงานเมื่อ 2 ปีก่อนจนความจำเสื่อม  พอรู้สึกตัวขึ้นมาฉันก็อยู่ในตำแหน่งรองผู้บัญชาการอยู่แล้ว  จนป่านนี้ฉันยังจำเรื่องก่อนประสบอุบติเหตุทั้งหมดไม่ได้เลย  ที่เหลืออยู่ในสมองก็มีแต่เรื่องความรู้ทั่วไปและการใช้ชีวิตประจำวันเท่านั้นเอง”  ชายหนุ่มระบายลมหายใจออกแผ่วก่อนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้สบาย ๆ 
“มาว่าเรื่องการแข่งขันต่อ  ของรางวัลไม่แน่ว่าเป็นเงินเสมอไป  บางครั้งก็มีคนปฏิเสธรับเงินแต่ขอเป็นอย่างอื่น  เช่นการขอย้ายไปอยู่หน่วยพัฒนาอาวุธหรือขอเข้าไปทำงานเป็นนักวิจัยให้ NEL  ก็เคยมีมาแล้วเหมือนกัน”
“ขออย่างนั้นได้ด้วยเหรอ ?! ”
อาร์คหันมองสาวผมแดงที่จู่ ๆ ก็เปล่งเสียงถามอย่างออกอาการตื่นเต้น  แล้วยิ่งต้องแปลกใจมากขึ้นเมื่อหางตาเหลือบเห็นโนอาห์เงยหน้ามองมาเหมือนจะถามคำถามเดียวกัน  “ก็แล้วแต่ว่าจะอยู่ในขอบเขตที่สามารถทำให้ได้หรือไม่  มีบางคนที่ขอกลับออกไปใช้ชีวิตภายนอกเหมือนกันแต่ก็มีข้อแม้ว่าห้ามแสดงพลังและติดต่อกับคนภายในอีกตลอดไป  ทางเราก็จะไม่ติดต่อหรือสนใจคน ๆ นั้นอีกต่อไปเช่นกัน”  ริมฝีปากเรียวคลี่ยิ้มบางขณะหรี่ดวงตาลงมองคนทั้งสองตรงหน้า  “อยากสมัครรึยัง ? ”
“อืม . . . ฉันตกลงเอาด้วย”  หญิงสาวตอบเสียงใสชัดเจนก่อนหันไปสบสายตาชายหนุ่มข้างกายและพยักหน้ารับกับใบหน้านิ่งสนิทของอีกฝ่าย  “เราสองคนจะลงแข่งทัวร์นาเม้นท์นั่น”  ริมฝีปากเรียวหยักรอยยิ้มนิด ๆ อย่างมั่นใจเต็มที่
“อีก 4 วันจะเริ่มแข่งรอบคัดเลือกรอบแรก  รายชื่อและนัดหมายจะถูกแจ้งให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคน 1 วันก่อนเริ่มแข่งขัน  ที่บอกได้ตอนนี้ก็มีเท่านี้ล่ะ”  ชายหนุ่มยิ้มกว้างขณะลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมคนทั้งสองตรงหน้า  “แสดงฝีมือให้เต็มที่นะ  แล้วฉันจะคอยดู”  โบกมือลาให้กับร่างที่เดินตรงไปยังประตูและก้าวออกจากห้องของตนไปก่อนกลับไปให้ความสนใจกับอุปกรณ์ที่ยังไม่เสร็จบนโต๊ะทำงานพร้อมกับฮัมเพลงไปด้วยอย่างอารมณ์ดี
---------------------------------------------------------------
เฟิร์สเอนหลังพิงพนักเก้าอี้นวม  มือข้างหนึ่งวางค้างอยู่บนคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ที่อยู่บนโต๊ะทำงานขณะมืออีกข้างหนึ่งวางนิ่งอยู่บนที่ท้าวแขน  ดวงตาเหลือบมองรายชื่อยาวเหยียดที่ปรากฏบนมอนิเตอร์ใหญ่ซึ่งสามารถมองทะลุผ่านไปอีกด้านหนึ่งได้ลอยอยู่เหนือผิวโต๊ะ
บานประตูห้องเลื่อนเปิดออกก่อนเซคันด์ซึ่งอยู่ในชุดเครื่องแบบสีแดงสดรุ่มร่ามไม่เรียบร้อยนักจะก้าวเข้ามาอย่างถือวิสาสะ  โดยมีชายร่างเพรียวสวมเครื่องแบบสีเดียวกันแต่เรียบร้อยกว่ามากก้าวตามมาติด ๆ พร้อมด้วยบอร์ดอิเล็กทรอนิกส์ในมือ
“ขอรบกวนเวลาว่างหน่อยนะ  เฟิร์ส”  เขาเอ่ยขึ้นเสียงดังขณะก้าวมานั่งลงยังเก้าอี้นวมใหญ่ฝั่งตรงข้าม  “สรุปวิธีการแข่งขันครั้งนี้ได้แล้ว  เธิร์ดกำลังยุ่งกับการเตรียมสถานที่ฉันเลยต้องเอาแผนงานมาให้เธอลงนามอนุมัติ”  ว่าพร้อมกับวางบอร์ดที่ชายร่างเพรียวข้างตัวส่งมาให้ลงบนโต๊ะแล้วผลักส่งไปให้อีกฝ่ายแรง
หญิงสาวหยิบบอร์ดขึ้นเปิดและกวาดสายตาดูคร่าว ๆ  “อืม . . . จำนวนคนปีนี้เยอะกว่าปกติน่าดูทีเดียว  จะแข่งอยู่วันมะรืนอยู่แล้วเตรียมสถานที่ทันรึไง ? “
ชายหนุ่มยักไหล่ขณะริมฝีปากเรียวหยักรอยยิ้มบาง  “คนอย่างเธิร์ด  กำหนดวันไปแล้วก็ต้องให้ได้ตามนั้นฉันไม่คิดห่วงหมอนั่นหรอก  ปีนี้ผู้ลงชื่อเข้าแข่งขันจนถึงตอนนี้ก็เกือบ 200 คน  คิดว่าคงเห็นรายชื่อนั่นแล้วใช่มั้ยเปิดค้างอยู่เลยนี่  พวกฝีมือดี ๆ เราเสียไปหลายคนคงมีพวกอยากเลื่อนขั้นเร็ว ๆ กับพวกอยากพิสูจน์ฝีมือตัวเองอยู่เพียบล่ะนะ  ปีนี้อาจจะสนุกกว่าที่คิดก็ได้”
ดวงตาสีฟ้าจางของหญิงสาวหรี่ลงเล็กน้อย  “เสียดายล่ะสิที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน  เซคันด์  เธอด้วยสินะ  ราซาร์ล”  เหลือบดวงตาขึ้นเล็กน้อยมองไปยังชายร่างสูงเพรียวผมสีเทาอมน้ำเงินที่ยืนนิ่งอยู่ใกล้ตัวคู่สนทนา 
“น่าเสียดายที่เธอเป็นรองของเซคันด์  เขาชมเธอให้ฉันฟังบ่อย ๆ ว่าท่วงท่าการโจมตีของเธอสวยงามมาก  ฉันเองไม่มีโอกาสได้เห็นการปฏิบัติงานนอกสถานที่นับว่าน่าเสียดายจริง ๆ “  ริมฝีปากเรียวเคลือบสีแดงระเรื่อกรีดรอยยิ้มหวานขึ้นบาง ๆ
“ชมเกินไปแล้วครับ  ท่านเฟิร์ส  ฝีมือของผมก็แค่ธรรมดาเท่านั้นไม่มีอะไรโดดเด่น  ท่านฮีทพูดเกินจริงไปแล้วครับ”  ร่างสูงก้มศีรษะลงเล็กน้อยรับคำชมอย่างเกรงใจ
คิ้วเรียวเลิกขึ้นก่อนตวัดดวงตามองชายผมดำอีกครั้ง  “ฮีทงั้นรึ ?  ไม่คิดว่าเธอจะอนุญาตให้เขาเรียกชื่อนี้ ? “
“ชื่อเซคันด์ไม่ใช่ความสมัครใจและยิ่งไม่ชอบสำหรับฉันเธอก็รู้ดี  สำหรับเธิร์ดอาจจะเฉย ๆ แต่ฉันเชื่อว่าเธอเองก็คงไม่ชอบชื่อเฟิร์สเหมือนกัน”  มุมปากหยักรอยยิ้มนิด ๆ  “ชื่อฮีทตั้งมาจากตาสีแดงของฉัน  แถมคนที่ตั้งให้ก็คือหมอนั่น . . ดังนั้นแน่นอนว่ามันเป็นสิ่งสำคัญและฉันจะให้แต่คนที่ฉันเห็นว่าสำคัญกับตัวเองเท่านั้นเรียกชื่อนี้”
สาวผมทองพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มนิด ๆ  “ราซาร์ลเป็นคนสำคัญสินะ”  มือเรียวขยับบอร์ดขึ้นแล้วกดนิ้วลงบนหน้าจอระบบสัมผัสบนแผ่นบอร์ดสีเขียวกึ่งโปร่งใส  “เป็นอันว่าฉันลงชื่ออนุมัติให้เรียบร้อยแล้วฝากกลับไปส่งให้เธิร์ดด้วยก็แล้วกัน  อีกอย่างช่วยเตือนเขาด้วยว่าอย่าเร่งทำงานเกินกำลังให้มากนัก”  ผลักบอร์ดในมือส่งกับไปให้อีกฝ่ายด้วยความแรงเท่า ๆ กับที่ได้รับมา
ชายหนุ่มขัยบลุกจากเก้าอี้นวมแล้วหยิบบอร์ดส่งให้ร่างสูงเพรียวอีกทอดหนึ่ง  “เห็นหน้านิ่ง ๆ อย่างนั้นจริง ๆ แล้วเธิร์ดเป็นพวกรักสนุกเอาการเลยนะ  ว่ามั้ย ? “
“นั่นสินะ”  เฟิร์สตอบรับกลั้วเสียงหัวเราะกังวาน  โบกมือตอบอีกฝ่ายก่อนประตูโลหะจะเลื่อนปิดลง  “ใช่  เธิร์ดมักคิดวิธีการแข่งขันได้สนุกไม่ซ้ำแบบในแต่ละครั้ง  แต่บางทีครั้งนี้อาจสนุกกว่าที่คาดก็ได้นะ  เซคันด์”  มือเรียวกลับไปวางลงบนคีย์บอร์ดที่โต๊ะอีกครั้ง  เลื่อนรายชื่อลงมาจนถึง 2 ชื่อสุดท้ายซึ่งเพิ่งจะลงทะเบียนเข้ามาใหม่
‘ No. 0193    Lia        . . . . .    White Wolf    O ID. No. 986743 ‘
‘ No. 0194    Noah    . . . . .    White Wolf    O ID. No. 986744 ‘
ริมฝีปากเรียวระบายยิ้มบางเฉียบ  “นี่สินะ . . . เด็กใหม่สองคนที่ว่า  ต้องขอพิสูจน์กันเสียหน่อยแล้ว”
---------------------------------------------------------------
‘ ขออนุญาติครับ  ท่านรองผู้บัญชาการ ‘
“มีเรื่องอะไรรึ ? “  เขาถามกลับเรียบ ๆ ขณะกวาดตามองชิ้นงานประดิษฐ์ที่มีความยาวเท่ากับโต๊ะทำงานของตนตรงหน้า
‘  พลเมืองชายหญิง 2 คนอ้างชื่อท่านขอเข้าอาคารครับ  ไม่ทราบว่าท่านรู้จักทั้ง 2 คนตรงนี้หรือไม่ ? ‘
ชายหนุ่มเบิกดวงตาขึ้นเมื่อมองภาพในมอนิเตอร์ลอยเหนือปลอกข้อมือเปลี่ยนจากเจ้าหน้าที่เฝ้าประตูไปเป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่ง  “ฉันรอทั้งคู่อยู่  ให้พวกเขาเข้ามาที่ล็อบบี้เดี๋ยวฉันจะลงไปรับเอง”  อาร์คเปลี่ยนคลื่นสัญญาณรวดเร็วโดยไม่รอคำตอบรับ  ภาพในมอนิเตอร์ดับวูบกลายเป็นสีเขียวที่สามารถมองทะลุผ่านไปได้  ครู่หนึ่งจึงมีภาพของหญิงสาวผมดำเจ้าของตำแหน่งเลขานุการประจำกองพลขึ้นแทน
‘ มีธุระอะไรเรียกใช้ดิฉันหรือคะ ?  ท่านรองผู้บัญชาการ ‘
“มีแน่  2 คนนั้นมาแล้ว”  เขาตอบกลับขณะหยิบเสื้อกั๊กสีดำสั้นพอดีตัวขึ้นสวมและก้าวออกจากห้องพักของตนรวดเร็ว  “เตรียมห้องพักให้เด็กใหม่ 2 คนแล้วตามไปเจอกันที่ล็อบบี้อาคาร A ด้วยกัน  ฉันให้คนพามารอแล้ว”
ทริเซียหรี่ดวงตาลงเล็กน้อย  ‘ ทราบแล้วค่ะ  เอาเป็นห้องพักข้าง ๆ ท่านเลยก็แล้วกันนะคะ  เพราะท่านต้องเป็นคนดูแลรับผิดชอบ 2 คนนั้นโดยตรงตามที่ได้รับปากท่านเฟิร์ส  ยังไงก็เป็นห้องว่างอยู่แล้ว ‘
“ทริเซีย !  “  เอ่ยเรียกเสียงดังด้วยความลืมตัวเพราะอีกฝ่ายทำท่าจะตัดการติดต่อ  “ช่วยเตรียมบททดสอบวัดความรู้ไว้ด้วย  ฉันอยากรู้ข้อมูลความสามารถของทั้งคู่ภายในวันนี้”
‘ อยากให้ทั้ง 2 คนเข้าบรรจุภายในวันนี้เลยสินะคะ  เพราะอีกไม่กี่วันการแข่งขันแกรนด์ทัวร์นาเม้นท์ประจำปีก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว  ดิฉันจะจัดการทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อยภายในวันนี้ค่ะ ‘  ริมฝีปากเรียวคลี่ยิ้มบางให้
เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนเปล่งเสียงหัวเราะแผ่วเบา  “ขอบใจมากนะ  ทริเซีย  จริง ๆ นะถ้าไม่มีเธอฉันจะทำยังไงดี  คงทำหน้าที่เป็นรองให้ท่านเฟิร์สไม่ได้แน่ ๆ “
‘ ชมเกินไปแล้วค่ะ ท่านอาร์ค  นี่เป็นหน้าที่ของดิฉัน  ขอตัวไปจัดเตรียมทุกอย่างก่อนนะคะแล้วดิฉันจะตามไปพบท่านภายหลัง ‘  กล่าวจบจึงตัดการติดต่อไปทันทีทำให้หน้าจอมอนิเตอร์ลอยกลับเป็นสีเขียวเปล่า ๆ ที่สามารถมองทะลุผ่านไปได้
ชายหนุ่มเก็บหน้าจอให้หายวับไปแล้วจึงลดแขนลง  ขณะก้าวไปยืนบนแท่นโลหะกลมแล้วปล่อยให้แท่นนั้นลอยผ่านตามรางแคบ ๆ เข้าไปในอุโมงค์กระจกขนาดใหญ่  ซึ่งเป็นทางเชื่อมระหว่างอาคารหอพักและอาคารบัญชาการ  มีรางสำหรับพาหนะแบบเดียวกันโดยเฉพาะสวนกันไปมา  ซึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วมากกว่าการวิ่งเต็มฝีเท้าเล็กน้อยสำหรับผู้ที่กำลังรีบ  ด้านข้างของรางพาหนะทั้ง 6 รางซึ่งอยู่ตรงกลางเป็นทางเดินที่มีความกว้างให้คนเดินเรียงหน้ากระดานได้ 6 คนสบาย ๆ ประกบอยู่ทั้งสองฝั่งของรางพาหนะเคลื่อนที่ได้นั่น
---------------------------------------------------------------
“มาเร็วกว่าที่คิดไว้นะ”  อาร์คเอ่ยปากทักก่อนจะก้าวมาถึงจุดที่ทั้ง 2 คนยืนอยู่โดยมีเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบสีขาวคนหนึ่งยืนอยู่ด้วย  “ขอบใจที่พามา  นายไปได้แล้ว”  หันไปกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตรงนั้นก่อนอีกฝ่ายจะทำความเคารพแล้วก้าวผละไป
หญิงสาวผมแดงขยับตัวยืนกอดอกพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง  “ใครจะไปนึกว่าคุณชายที่ดูนิสัยชอบออกแนวหน้าแบบนั้นจะเป็นถึงรองผู้บัญชาการ 1 ใน 3 กองพล  ตำแหน่งใหญ่น่าดูนี่”
ชายหนุ่มยิ้มกว้างตอบ  “ก็ไม่เท่าไหร่หรอก  บางทีมันก็น่ารำคาญเพราะมีคนคอยตามอยู่ตลอด  จะว่าไปฉันก็ไม่ได้ทำงานตามหน้าที่นักหรอก  มีคนทำแทนซะกว่าครึ่ง”  หันไปหาโนอาห์ที่พาดผ้าคลุมผืนเก่าไว้กับท่อนแขนและยื่นกลัดทองคำส่งคืนให้  ซึ่งก็รับมาติดกลับไปบนอกเสื้อและกล่าวขอบคุณตามมารยาท 
“แล้วยังไงดีล่ะ  เอาเป็นว่าวันนี้ฉันจะพาชมสถานที่และการสอนของเราที่นี่ก่อน  วันนี้ก็ค้างที่นี่สักคืนก่อนแล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ  เพราะกว่าจะเห็นหลักสูตรการเรียนการฝึกของเราหมดก็คงจะเสียเวลาไปทั้งวันเต็ม ๆ ล่ะนะ  วันนี้ฉันไม่มีเรียนจะพาชมเองก็แล้วกัน  ตามมาสิ”
“ไม่จำเป็น”  เจ้าของเรือนผมสีน้ำเงินเข้มเอ่ยขึ้นเรียบ ๆ  ก่อนที่อีกฝ่ายจะเริ่มก้าวเท้า  “มาที่นี่ก็เพื่อตอบรับการเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ของนายอยู่แล้ว  ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากมากไปกว่านี้”
หญิงสาวหยักรอยยิ้มนิด ๆ ที่มุมปากก่อนจะพาร่างเพรียวของตัวเองเข้ามาใกล้  “เรื่องก็เป็นแบบนี้ล่ะนะ  ท่านรองผู้บัญชาการ”  แขนที่ยกขึ้นกอดอกเลื่อนกลับลงข้างตัวเหลืออีกข้างหนึ่งที่ท้าวสะเอวอย่างไว้ท่า
ดวงตาสีเขียวเข้มหรี่ลงสบสายตาคนทั้งสองตรงหน้า  รอยยิ้มบาง ๆ บนริมฝีปากเหยียดออกกว้างขึ้น  “คิดไว้แล้วว่าจะต้องพูดแบบนี้”  ชายหนุ่มตวัดดวงตาเหลือบมองไปยังลิฟท์ที่ตนลงมาซึ่งอยู่ด้านหลังคนทั้งสอง  พอดีกับที่เลขาฯสาวผมดำก้าวพ้นประตูลิฟท์ออกมา 
“ที่จริงฉันให้คนเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้วล่ะ  พวกนายต้องเข้าทดสอบวัดระดับความรู้ก่อน  คงยังหาคลาสเข้าเรียนวันนี้ไม่ทันแต่ตอนบ่ายมีคลาสฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ใหม่  พวกนายจะต้องอยู่ในกลุ่มนั้นและตลอด 1 ปีนี้มีฉันเป็นผู้ดูแลพอดี  ก่อนอื่นขอแนะนำนะ  นี่คือเลขานุการประจำกองพล White Wolf ที่พวกนายจะเข้าร่วม”  ว่าพร้อมกับขยับตัวเปิดให้หญิงสาวผมดำเข้ามารวมกลุ่มด้วย
“สวัสดี  ฉันชื่อทริเซีย เดนเบิร์ก  ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน  ฉันชื่อไลอาส่วนนี้น้องชายชื่อโนอาห์”  สาวผมแดงเอ่ยตอบรวดเร็ว
“ห้องพักของพวกเธอถูกจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว  ก่อนอื่นพวกเธอต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียก่อนจากนั้นเราจึงจะทดสอบวัดระดับความรู้กัน  ฉันจะนำทางไปห้องพักให้ส่วนท่านรองดิฉันเชิญท่านไปรอที่ห้องทดสอบที่ 14 ก่อนได้เลยค่ะ  แล้วดิฉันจะพาทั้งสองคนไปหลังจากจัดการเรื่องเสื้อผ้าและเครื่องใช้ส่วนตัวภายในห้องเรียบร้อย”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับ  “ขอบใจมากนะ ทริเซีย  เอาล่ะเดี๋ยวเราค่อยเจอกันนะ  ไลอา  โนอาห์”  เขาโบกมือลาอีกฝ่ายที่เดินผละจากไปด้านหนึ่งก่อนหันหลังไปขึ้นลิฟท์อีกด้านที่จะพาไปถึงชั้นทดสอบโดยตรง
---------------------------------------------------------------
ชายผมสีน้ำตาลอ่อนยืนมองกลุ่มเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังถอดประกอบปืนที่ใช้สำหรับฝึกอย่างขมักเขม้น  ก่อนไล่สายตาไปยังเจ้าหน้าที่ใหม่ล่าสุดทั้งสองคน  ที่หยิบปืนขึ้นมามองสำรวจอย่างละเอียดโดยยังไม่ลงมือแกะอะไรออกมาสักชิ้น  “การทดสอบของสองคนนั้นเป็นยังไงบ้าง ?  ทริเซีย”  เอ่ยถามเสียงแผ่วเป็นกระซิบกับหญิงสาวผมดำที่ยืนสงบนิ่งอยู่ข้าง ๆ
บอร์ดอิเล็กทรอนิกส์ในมือถูกยกขึ้นเพื่อเรียกดูข้อมูล  นิ้วเรียวกดลงบนแผ่นกระจกของบอร์ดที่เป็นระบบสัมผัสพร้อมกับกวาดตามองข้อมูลที่ปรากฏขึ้น  “ . . ความรู้พื้นฐานอยู่ในระดับพอ ๆ กับพวกเราหรืออาจมากกว่าก็ได้ค่ะ  แต่ในส่วนของความรู้เกี่ยวกับอาวุธและการพัฒนาต่าง ๆ กลับต่ำเสียยิ่งกว่าพวกพลเมืองปกติเสียอีก  ข้อมูลที่พวกเขามีและรู้เกี่ยวกับของพวกนี้ล้วนเป็นแบบเก่าที่หมดความนิยมอีกทั้งไม่มีการใช้กันแล้วในปัจจุบันทั้งสิ้นค่ะ  แต่ที่น่าสนใจคือทั้งคู่มีระดับความรู้ทุกอย่างเท่ากันหมดเลยค่ะ  ท่านรอง”
“เท่ากันก็ไม่เห็นแปลกตรงไหนไม่ใช่รึ ? “  อาร์คถามกลับขณะตวัดสายตาขึ้นมอง
“แปลกค่ะ  เพราะในแบบทดสอบข้อเขียน  พวกเขาทั้งคู่ตอบเหมือนกันทุกข้อไม่มีผิดพลาดแม้แต่ข้อเดียว”  คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย  “ทดสอบกัน 3 ครั้งได้ผลออกมาเหมือนกันทุกครั้ง  ข้อมูลยืนยันแล้วไม่มีข้อบกพร่องด้วยค่ะ”  หันกลับมาสบสายตาชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ของชุดโต๊ะอาจารย์ผู้ฝึกสอนของห้องด้วยสายตาบ่งบอกความข้องใจเช่นเดียวกัน
เขาเลิกคิ้วทั้งสองข้างขึ้นบ่งบอกความประหลาดใจ  ก่อนตวัดกลับไปยังคนทั้งสองซึ่งเป็นหัวข้อสนทนาแล้วยิ่งต้องเบิกตากว้าง  เมื่อปืนสีขาวนั่นกำลังถูกประกอบเข้าด้วยกันด้วยความเร็วและความคล่องที่เหนือกว่าเจ้าหน้าที่คนอื่นหลายเท่าตัว 
“ดูท่าความเร็วในการเรียนรู้ของทั้งสองคนจะเหนือกว่าคนปกติมากอยู่นะ”  กระแสเสียงเอ่ยกลั้วหัวเราะแผ่วก่อนขยับตัวลุกขึ้นพร้อมกับกดปุ่มเลื่อนกำแพงด้านหลังเปิดสนามสำหรับฝึกซ้อมออกมา  “ไลอา !  โนอาห์ !  ประกอบเสร็จแล้วก็มาลองทดสอบกันหน่อย”
หญิงสาวผมแดงลุกขึ้นพร้อมฉวยปืนสีขาวในมือขึ้นควงเล่นพร้อมกับก้าวลงจากอัฒจันทน์  โดยมีชายผมสีน้ำเงินเข้มก้าวตามมาติด ๆ เบื้องหลัง  “จะให้ลองยิงอะไรรึ ? “
ชายหนุ่มยิ้มบางก่อนชี้ตรงไปยังห้องฝึก  ซึ่งมีสองห้องปรับเข้าสู่โปรแกรมเตรียมพร้อมรออยู่ก่อนแล้ว  กระจกด้านในจึงกลายเป็นสีดำสนิท  “ไฟเขียว 10 แดง 30 สีขาวติดลบ  ลองดูว่าพวกนายจะทำได้ถึงระดับไหน”
โนอาห์มองปืนในมือก่อนยกขึ้นเล็ง  ขณะผู้เป็นพี่สาวที่อยู่ถัดออกไปอีกห้องเปล่งเสียงตอบรับออกมาดังให้ได้ยิน  “พร้อมแล้ว ! “  ขาดคำดวงไฟ 3 สีก็ปรากฏขึ้นในความมืดของห้องฝึก  เกือบพร้อมกับที่เสียงปืนสองนัดจากห้องฝึกทั้งสองห้องดังขึ้นใกล้ ๆ กัน
‘ เลเวล 1 เคลียร์ ‘
. . . . . . .
‘ เลเวล 10 เคลียร์ ‘
. . . . . . .
‘ เลเวล 15 เคลียร์ ‘
เสียงบอกระดับความยากดังขึ้นถี่ยิบ  เช่นเดียวกับตัวเลขคะแนนบนมอนิเตอร์เหนือศีรษะในห้องฝึกปรับตัวเลขตามเร็วจนอ่านคะแนนไม่ทัน  จนกระทั่งตัวเลขของห้องฝั่งสาวผมแดงลด ๆ เพิ่ม ๆ เป็นระยะจนจากตัวเลขสีเขียวกลายเป็นสีแดงและเหลือศูนย์ในที่สุด
‘ ห้อง T 501  เลเวล 52  เกมโอเวอร์ ‘
“บ้าจริง ! “  เสียงบ่นดัง ๆ หลุดออกจากริมฝีปากก่อนร่างโปร่งเพรียวจะก้าวออกมาจากห้องฝึกพร้อมปืนที่โยนเล่นไปมาในมืออย่างไม่ใส่ใจนัก  “ฉันไม่ถนัดการโจมตีเท่าไหร่จริง ๆ นั่นล่ะ  น่าเบื่อจริง ! “  ลมหายใจถูกระบายออกมาแรงก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น  เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ทั้งหมดยืนมองมอนิเตอร์อยู่นอกห้องด้วยดวงตาที่เบิกกว้างกันแทบทุกคน
‘ ห้อง T 503  เลเวล 74  เกมโอเวอร์ ‘
เสียงฮือฮาจากกลุ่มเจ้าหน้าที่ใหม่ดังขึ้นทันทีที่ชายผมสีน้ำเงินเข้มเจ้าของสถิติก้าวออกจากห้องฝึกตามมา  ริมฝีปากเรียวที่มักเป็นเส้นตรงเสมอคลี่ยิ้มบางชั่วพริบตา  “ของเล่นพวกนี้สนุกดีเหมือนกันนะ  ไลอา”
“ของเล่นงั้นรึ ?  ก็จริงอยู่สำหรับพวกเจ้าหน้าที่ประจำการปืนนี้กับสนามฝึกเป็นแค่ของเด็กเล่น  แต่อย่างน้อยมันก็เป็นการฝึกขั้นพื้นฐานสำหรับฝึกความแม่นยำและสมาธิพวกเธออย่าดูถูกมันได้มั้ย ? “  สาวผมดำเอ่ยเรียบ ๆ ขณะจ้องหน้าชายหนุ่มเจ้าของประโยคเมื่อครู่เขม็ง  ซึ่งอีกฝ่ายก็มองกลับมานิ่ง ๆ ครู่หนึ่งก่อนก้มศีรษะลงเล็กน้อยเป็นเชิงขออภัย
อาร์คที่ยืนพิงขอบโต๊ะมองมาตั้งแต่ต้นเปล่งเสียงหัวเราะแผ่ว  “อย่าโมโหไปเลย  ทริเซีย  เพราะฉันเองก็เห็นด้วยกับคำพูดของโนอาห์นะ  สนามฝึกนี่กับปืนเล็ก ๆ กระบอกนี้มันของเล่นสำหรับพวกเราจริง ๆ  ว่าแต่โนอาห์”  ชายหนุ่มตวัดสายตาไปยังเจ้าของชื่อที่เดินผละจากห้องฝึกเข้ามา  “ถ้านายสนใจอะไรที่ไม่ใช่ของเล่นแบบนี้ล่ะก็ . . . ลองสมัครลงแข่งขันแกรนด์ทัวร์นาเม้นท์ที่กำลังจะเริ่มในอีก 4 วันข้างหน้าดูสิ”
“การแข่งขันแกรนด์ทัวร์นาเม้นท์อะไรงั้นเหรอ ? “  สาวผมแดงกลับเป็นฝ่ายถามแทรกเสียงรื่นเริงขึ้นแทน
“เป็นประเพณีของเราที่จัดขึ้นปีละครั้งเพื่อทดสอบความสามารถปัจจุบันของบรรดาเจ้าหน้าที่  อีกนัยหนึ่งก็เป็นการกระตุ้นให้หมั่นฝึกฝนตนเองอยู่เสมอนั่นล่ะ  สนใจงั้นสิ ?  ไลอา”  ริมฝีปากเรียวคลี่ยิ้มกว้างเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าตอบรับรวดเร็ว 
“งั้นเย็นนี้ทั้งสองคนมาหาฉันที่ห้องสิแล้วจะเล่ารายละเอียดให้ฟัง  พวกนายมัวยืนเหม่ออะไรอยู่ ?!  ประกอบเสร็จแล้วก็เข้าไปฝึกกันอย่างที่เคยสอนเลยสิ !  ผลัดกันฝึกห้องละ 2 3 คนนะอย่ายึดไว้คนเดียว !! “  หันกลับไปเปล่งเสียงดังใส่บรรดาเจ้าหน้าที่ที่ยังยืนตะลึงตัวแข็งไม่เลิกให้รู้สึกตัว  และรีบก้าวเข้าห้องฝึกซ้อมอย่างรีบเร่งแทบจะแย่งกันเป็นคนแรกจนชายหนุ่มเปล่งเสียงหัวเราะระรื่นด้วยความขบขัน
---------------------------------------------------------------
ดวงตาสองคู่จ้องมองนิ่งยังเครื่องจักรอะไรบางอย่างที่ดูยังจะสร้างไม่เสร็จดีซึ่งวางเต็มโต๊ะทำงานของเจ้าของห้อง 
“นี่มันอะไรน่ะ ?  นายประกอบเองงั้นเหรอ ? “  ไลอาเอ่ยถามขึ้นเป็นคนแรกเมื่อชายผมสีน้ำตาลอ่อนก้าวมานั่งลงยังเก้าอี้ชุดรับแขกฝั่งตรงข้าม
“อ๋อ . . นั่นน่ะรึ  ก็แค่งานอดิเรกค้นคว้ายามว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ น่ะไม่มีอะไรมาก”  อาร์คตอบกลับด้วยเสียงระรื่นสดใส 
“มาพูดถึงเรื่องการแข่งขันที่ว่าดีกว่า  มันเป็นการแข่งขันแบบทัวร์นาเม้นท์ที่จัดขึ้นปีละครั้งในกองบัญชาการ  ผู้สมัครจะเป็นใครก็ได้ยกเว้นพวกที่มีตำแหน่งสูงกว่าหัวหน้าหน่วย  ง่าย ๆ ก็คือบรรดาผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการและเลขานุการทั้ง 3 กองพลไม่มีสิทธิ์ลงแข่งเพราะอยู่ในฐานะกรรมการผู้จัดงาน  การแข่งขันไม่จำกัดจำนวนผู้สมัคร  แต่ละปีรอบคัดเลือกก็ไม่เคยเหมือนกันเลยจนกระทั่งถึงรอบจริงซึ่งเป็นการแข่งการต่อสู้มือเปล่าแบบตัวต่อตัว  ใช้พลังแฝงและฝีมือล้วน ๆ หาผู้ชนะเลิศเพียงคนเดียว”
“แล้วผู้ชนะจะได้อะไรล่ะ ? “  สาวผมแดงถามด้วยสีหน้าบ่งชัดว่าเริ่มให้ความสนใจมากขึ้นทุกที
ริมฝีปากเรียวแย้มรอยยิ้มนิด ๆ  “ก็มีหลายอย่าง  หลัก ๆ คือเงินรางวัล 3,000 พลัส  เทียบกับค่าสมัคร 100 ไมนัสแล้วก็ถือว่าคุ้มต่อการเสี่ยงบาดเจ็บสาหัสเอาการล่ะ  แถมถ้าทำได้เข้าตากรรมการก็มีสิทธิ์เลื่อนขั้นจากเจ้าหน้าที่แนวหน้ามาเป็นหัวหน้าฝ่ายหรือผู้ช่วยได้  บางทีอาจก้าวกระโดดมาเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการก็ได้นะ”
ดวงตาสีเทาเรียบเย็นเหลือบมองชายที่นั่งอยู่ด้านตรงข้ามเล็กน้อย  “เลื่อนขั้นพรวดเดียวเหมือนนายงั้นสิ ? “
ชายหนุ่มเบิกดวงตากว้างขึ้น  “เอ . . จะตอบยังไงดีล่ะ”  เปล่งเสียงหัวเราะแผ่ว ๆ ก่อนเงียบลงเมื่อคนทั้งสองจ้องมองตรงมานิ่ง 
“ก็ได้ ๆ  ฉันก็ไม่รู้ตอบแบบนี้โอเคมั้ย ?  ฉันประสบอุบัติเหตุระหว่างการปฏิบัติงานเมื่อ 2 ปีก่อนจนความจำเสื่อม  พอรู้สึกตัวขึ้นมาฉันก็อยู่ในตำแหน่งรองผู้บัญชาการอยู่แล้ว  จนป่านนี้ฉันยังจำเรื่องก่อนประสบอุบติเหตุทั้งหมดไม่ได้เลย  ที่เหลืออยู่ในสมองก็มีแต่เรื่องความรู้ทั่วไปและการใช้ชีวิตประจำวันเท่านั้นเอง”  ชายหนุ่มระบายลมหายใจออกแผ่วก่อนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้สบาย ๆ 
“มาว่าเรื่องการแข่งขันต่อ  ของรางวัลไม่แน่ว่าเป็นเงินเสมอไป  บางครั้งก็มีคนปฏิเสธรับเงินแต่ขอเป็นอย่างอื่น  เช่นการขอย้ายไปอยู่หน่วยพัฒนาอาวุธหรือขอเข้าไปทำงานเป็นนักวิจัยให้ NEL  ก็เคยมีมาแล้วเหมือนกัน”
“ขออย่างนั้นได้ด้วยเหรอ ?! ”
อาร์คหันมองสาวผมแดงที่จู่ ๆ ก็เปล่งเสียงถามอย่างออกอาการตื่นเต้น  แล้วยิ่งต้องแปลกใจมากขึ้นเมื่อหางตาเหลือบเห็นโนอาห์เงยหน้ามองมาเหมือนจะถามคำถามเดียวกัน  “ก็แล้วแต่ว่าจะอยู่ในขอบเขตที่สามารถทำให้ได้หรือไม่  มีบางคนที่ขอกลับออกไปใช้ชีวิตภายนอกเหมือนกันแต่ก็มีข้อแม้ว่าห้ามแสดงพลังและติดต่อกับคนภายในอีกตลอดไป  ทางเราก็จะไม่ติดต่อหรือสนใจคน ๆ นั้นอีกต่อไปเช่นกัน”  ริมฝีปากเรียวคลี่ยิ้มบางขณะหรี่ดวงตาลงมองคนทั้งสองตรงหน้า  “อยากสมัครรึยัง ? ”
“อืม . . . ฉันตกลงเอาด้วย”  หญิงสาวตอบเสียงใสชัดเจนก่อนหันไปสบสายตาชายหนุ่มข้างกายและพยักหน้ารับกับใบหน้านิ่งสนิทของอีกฝ่าย  “เราสองคนจะลงแข่งทัวร์นาเม้นท์นั่น”  ริมฝีปากเรียวหยักรอยยิ้มนิด ๆ อย่างมั่นใจเต็มที่
“อีก 4 วันจะเริ่มแข่งรอบคัดเลือกรอบแรก  รายชื่อและนัดหมายจะถูกแจ้งให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคน 1 วันก่อนเริ่มแข่งขัน  ที่บอกได้ตอนนี้ก็มีเท่านี้ล่ะ”  ชายหนุ่มยิ้มกว้างขณะลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมคนทั้งสองตรงหน้า  “แสดงฝีมือให้เต็มที่นะ  แล้วฉันจะคอยดู”  โบกมือลาให้กับร่างที่เดินตรงไปยังประตูและก้าวออกจากห้องของตนไปก่อนกลับไปให้ความสนใจกับอุปกรณ์ที่ยังไม่เสร็จบนโต๊ะทำงานพร้อมกับฮัมเพลงไปด้วยอย่างอารมณ์ดี
---------------------------------------------------------------
เฟิร์สเอนหลังพิงพนักเก้าอี้นวม  มือข้างหนึ่งวางค้างอยู่บนคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ที่อยู่บนโต๊ะทำงานขณะมืออีกข้างหนึ่งวางนิ่งอยู่บนที่ท้าวแขน  ดวงตาเหลือบมองรายชื่อยาวเหยียดที่ปรากฏบนมอนิเตอร์ใหญ่ซึ่งสามารถมองทะลุผ่านไปอีกด้านหนึ่งได้ลอยอยู่เหนือผิวโต๊ะ
บานประตูห้องเลื่อนเปิดออกก่อนเซคันด์ซึ่งอยู่ในชุดเครื่องแบบสีแดงสดรุ่มร่ามไม่เรียบร้อยนักจะก้าวเข้ามาอย่างถือวิสาสะ  โดยมีชายร่างเพรียวสวมเครื่องแบบสีเดียวกันแต่เรียบร้อยกว่ามากก้าวตามมาติด ๆ พร้อมด้วยบอร์ดอิเล็กทรอนิกส์ในมือ
“ขอรบกวนเวลาว่างหน่อยนะ  เฟิร์ส”  เขาเอ่ยขึ้นเสียงดังขณะก้าวมานั่งลงยังเก้าอี้นวมใหญ่ฝั่งตรงข้าม  “สรุปวิธีการแข่งขันครั้งนี้ได้แล้ว  เธิร์ดกำลังยุ่งกับการเตรียมสถานที่ฉันเลยต้องเอาแผนงานมาให้เธอลงนามอนุมัติ”  ว่าพร้อมกับวางบอร์ดที่ชายร่างเพรียวข้างตัวส่งมาให้ลงบนโต๊ะแล้วผลักส่งไปให้อีกฝ่ายแรง
หญิงสาวหยิบบอร์ดขึ้นเปิดและกวาดสายตาดูคร่าว ๆ  “อืม . . . จำนวนคนปีนี้เยอะกว่าปกติน่าดูทีเดียว  จะแข่งอยู่วันมะรืนอยู่แล้วเตรียมสถานที่ทันรึไง ? “
ชายหนุ่มยักไหล่ขณะริมฝีปากเรียวหยักรอยยิ้มบาง  “คนอย่างเธิร์ด  กำหนดวันไปแล้วก็ต้องให้ได้ตามนั้นฉันไม่คิดห่วงหมอนั่นหรอก  ปีนี้ผู้ลงชื่อเข้าแข่งขันจนถึงตอนนี้ก็เกือบ 200 คน  คิดว่าคงเห็นรายชื่อนั่นแล้วใช่มั้ยเปิดค้างอยู่เลยนี่  พวกฝีมือดี ๆ เราเสียไปหลายคนคงมีพวกอยากเลื่อนขั้นเร็ว ๆ กับพวกอยากพิสูจน์ฝีมือตัวเองอยู่เพียบล่ะนะ  ปีนี้อาจจะสนุกกว่าที่คิดก็ได้”
ดวงตาสีฟ้าจางของหญิงสาวหรี่ลงเล็กน้อย  “เสียดายล่ะสิที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน  เซคันด์  เธอด้วยสินะ  ราซาร์ล”  เหลือบดวงตาขึ้นเล็กน้อยมองไปยังชายร่างสูงเพรียวผมสีเทาอมน้ำเงินที่ยืนนิ่งอยู่ใกล้ตัวคู่สนทนา 
“น่าเสียดายที่เธอเป็นรองของเซคันด์  เขาชมเธอให้ฉันฟังบ่อย ๆ ว่าท่วงท่าการโจมตีของเธอสวยงามมาก  ฉันเองไม่มีโอกาสได้เห็นการปฏิบัติงานนอกสถานที่นับว่าน่าเสียดายจริง ๆ “  ริมฝีปากเรียวเคลือบสีแดงระเรื่อกรีดรอยยิ้มหวานขึ้นบาง ๆ
“ชมเกินไปแล้วครับ  ท่านเฟิร์ส  ฝีมือของผมก็แค่ธรรมดาเท่านั้นไม่มีอะไรโดดเด่น  ท่านฮีทพูดเกินจริงไปแล้วครับ”  ร่างสูงก้มศีรษะลงเล็กน้อยรับคำชมอย่างเกรงใจ
คิ้วเรียวเลิกขึ้นก่อนตวัดดวงตามองชายผมดำอีกครั้ง  “ฮีทงั้นรึ ?  ไม่คิดว่าเธอจะอนุญาตให้เขาเรียกชื่อนี้ ? “
“ชื่อเซคันด์ไม่ใช่ความสมัครใจและยิ่งไม่ชอบสำหรับฉันเธอก็รู้ดี  สำหรับเธิร์ดอาจจะเฉย ๆ แต่ฉันเชื่อว่าเธอเองก็คงไม่ชอบชื่อเฟิร์สเหมือนกัน”  มุมปากหยักรอยยิ้มนิด ๆ  “ชื่อฮีทตั้งมาจากตาสีแดงของฉัน  แถมคนที่ตั้งให้ก็คือหมอนั่น . . ดังนั้นแน่นอนว่ามันเป็นสิ่งสำคัญและฉันจะให้แต่คนที่ฉันเห็นว่าสำคัญกับตัวเองเท่านั้นเรียกชื่อนี้”
สาวผมทองพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มนิด ๆ  “ราซาร์ลเป็นคนสำคัญสินะ”  มือเรียวขยับบอร์ดขึ้นแล้วกดนิ้วลงบนหน้าจอระบบสัมผัสบนแผ่นบอร์ดสีเขียวกึ่งโปร่งใส  “เป็นอันว่าฉันลงชื่ออนุมัติให้เรียบร้อยแล้วฝากกลับไปส่งให้เธิร์ดด้วยก็แล้วกัน  อีกอย่างช่วยเตือนเขาด้วยว่าอย่าเร่งทำงานเกินกำลังให้มากนัก”  ผลักบอร์ดในมือส่งกับไปให้อีกฝ่ายด้วยความแรงเท่า ๆ กับที่ได้รับมา
ชายหนุ่มขัยบลุกจากเก้าอี้นวมแล้วหยิบบอร์ดส่งให้ร่างสูงเพรียวอีกทอดหนึ่ง  “เห็นหน้านิ่ง ๆ อย่างนั้นจริง ๆ แล้วเธิร์ดเป็นพวกรักสนุกเอาการเลยนะ  ว่ามั้ย ? “
“นั่นสินะ”  เฟิร์สตอบรับกลั้วเสียงหัวเราะกังวาน  โบกมือตอบอีกฝ่ายก่อนประตูโลหะจะเลื่อนปิดลง  “ใช่  เธิร์ดมักคิดวิธีการแข่งขันได้สนุกไม่ซ้ำแบบในแต่ละครั้ง  แต่บางทีครั้งนี้อาจสนุกกว่าที่คาดก็ได้นะ  เซคันด์”  มือเรียวกลับไปวางลงบนคีย์บอร์ดที่โต๊ะอีกครั้ง  เลื่อนรายชื่อลงมาจนถึง 2 ชื่อสุดท้ายซึ่งเพิ่งจะลงทะเบียนเข้ามาใหม่
‘ No. 0193    Lia        . . . . .    White Wolf    O ID. No. 986743 ‘
‘ No. 0194    Noah    . . . . .    White Wolf    O ID. No. 986744 ‘
ริมฝีปากเรียวระบายยิ้มบางเฉียบ  “นี่สินะ . . . เด็กใหม่สองคนที่ว่า  ต้องขอพิสูจน์กันเสียหน่อยแล้ว”
---------------------------------------------------------------
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น