คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : วัชพืช
วัชพืช
ชีวิตคนเราเปรียบดังต้นไม้ต้นหนึ่งที่เกิดจากการเพาะปลูกจากเมล็ดพืชหลายชนิด แต่ละคนก็แตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือช่วงเวลาของการเจริญเติบโต
เมื่อเราเกิดมาแล้ว ทุกคนล้วนแต่เจริญงอกงามไปคนละแบบ บ้างก็ยืดกิ่งก้านสาขาแผ่ขยายรับแสงแดดกันถ้วนหน้า บางต้นเกิดมาไม่ทันไรก็ถูกทอดถอดทำลายทิ้งราวกับไม่มีใครต้องการให้เกิด
ส่วนหนึ่งของประชากรต้นไม้ถูกมนุษย์ตั้งฉายาว่าให้คุณมากกว่าโทษ หมุนเวียนก๊าซคาบอนไดออกไซด์เป็นอากาศบริสุทธิ์
และ อีกจำพวกหนึ่งก็ถูกเรียกว่าวัชพืช ทั้งๆ ที่ต่างก็เกิดมาขวนขวายหาสิ่งที่ต้องการเหมือนกันนั่นคือแสงอาทิตย์
แต่พวกเขากลับถูกมองว่ารกครึ้มไม่น่าเกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้น
เพราะความมีประโยชน์น้อยกว่า
ไม่สามารถสนองกิเลสตัณหาของความเป็นพืชให้แก่เหล่ามนุษย์ได้เต็มที่
วัชพืชหลายจำพวกถูกมองว่าเกิดมาสูบเลือดสูบเนื้อของต้นไม้ หรือเหล่าพืชสวนที่มนุษย์เพาะปลูก ทั้งๆ ที่พวกมันเองก็เลือกเกิดไม่ได้ เลือกสภาวะแวดล้อมไม่ได้ แต่ก็ไม่มีใครเข้าใจในความเป็นตัวตนของมัน
และไม่นานพวกมันก็ถูกกำจัดทิ้ง ราวกับซากเศษขยะมูลฝอย ไร้ชีวิต ไร้หัวใจ
ต้นไม้หนึ่งต้นสามารถเปรียบเทียบกับมนุษย์ปกติหนึ่งคนได้เป็นอย่างดี ประการแรกคือเกิดมาเท่าเทียมกัน รวมถึงด้านการเจริญเติบโตของสมอง แต่การบริโภคความรู้ และการหาปุ๋ยมาเติมเต็มบำรุงลำต้นนั้นแตกต่างกัน
ตรงข้ามกับวัชพืช โดยเราสามารถเปรียบเทียบวัชพืชได้กับบุคคลผู้พิกลพิการในด้านใดด้านหนึ่ง หรือบุคคลผู้ที่ไม่มีโอกาสทางสังคมเหล่านั้นเป็นวัชพืชที่ไร้ค่าเสมอมา
แต่ในบางครั้งวัชพืชก็ต้องการปณิธาน และต่างมีจุดมุ่งหมายอย่างแจ่มแจ้งเหมือนกัน ทั้งๆ ที่วัชพืชไม่มีโอกาส และ อวัยวะ ชาติกำเนิดที่ครบพร้อม
แม้จะโดนเหยียบย่ำดูแคลนโดยฝีมือมนุษย์สักเท่าไหร่
พวกเขาเหล่านั้นก็สามารถยืนหยัดลำต้นเพื่อสู้กับมรสุมที่รุมเร้า ไม่ว่ามนุษย์จะถอดจะถอน หรือกำจัดทิ้งสักเท่าไหร่ พวกเขาก็สามารถแพร่ขยายพันธุ์อยู่รอดได้อีกต่อไปด้วยความอดทนทั้งหมดเท่าที่มี
ผิดกับต้นไม้ใหญ่บางต้น ซึ่งแค่ลมแรงพัดก็หักโค่น เพราะยืนจังกล้าท้าลมไม่กลัวเกรง เข้าใจหาว่าตัวเองมีชาติกำเนิดที่ดี แต่บางครั้งการไม่มีปุ๋ย หรือการไม่อ่อนลู่ตามลมก็สามารถหักโค่นลงมาได้เหมือนกัน
แต่วัชพืชรู้จักลู่ตามลม เพราะเจียมในตัวเอง ทำให้พวกเขาไม่มีวันล้มลงมาบาดเจ็บสักเท่าไหร่ ไม่ก้าวเหยียบบนหนทางของใคร เพราะเข้าใจในหัวอกคนที่ต่ำต้อยกว่า
เพราะพวกเขารักที่จะสู้ชีวิตต่อไป ไม่ว่าใครจะมองว่าอย่างไรก็ตาม
ดังนั้น พวกเราเองก็ควรมองโลกให้กว้าง คิดให้เยอะ นำใจเขามาใส่ใจเรา
อย่าให้เหมือนต้นไม้ใหญ่บางต้น ที่มีร่มเงาแผ่กว้าง แต่บดบังแสงแดดจากต้นไม้ต้นอื่น
ถ้าไม่อยากบดบังใคร ก็จงรู้จักเผื่อแผ่ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นด้วยความรัก
และความสุขจะกลับมาสู่ทุกมุมของโลกใบนี้
เปรียบได้ดังวัชพืชบางพันธุ์ ที่เมื่อรวมตัวกันแล้วก็สามารถเขียวขจีได้
และ เป็นทุ่งสนามที่มนุษย์หลายๆ คนอยากใช้ชีวิตร่วมด้วย แม้ตัวของมันจะเป็นวัชพืชที่ไม่น่าอภิรมย์ก็ตาม
วันนี้ โดนใช้ให้ถอดหญ้า พี่สาวเลยเก็บกด เลยนำมาเขียนเรื่องสั้นเรื่องนี้ ในเชิงปรัชญาบ้าง ^^
ไม่สำคัญที่ตัวเราจะเกิดมาในฐานะอะไร ตระกูลใด แต่ถ้าเราไม่เบียดเบียนใคร เราก็อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้มีความสุข เป็นนักเขียนซะที ต้องมองให้กว้างกันนะเจ้าคะ
ความคิดเห็น