ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ร้อยเล่ห์ ซาตาน

    ลำดับตอนที่ #28 : ไม่รักจริง ๆ หรือปากแข็ง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.7K
      18
      23 ก.ค. 54

          นราวดีนั่งเงียบมาตลอดทางหลังจากออกมาจากบ้านของเขา  ปล่อยให้วิไลวรรณเป็นคนขับรถพาเธอมายัง

    จุดหมายปลายทางคือเซ็นทรัลเวิลด์  ที่สองสาวรับงานเดินแบบไว้คืนนี้ 

               ''  แกแน่ใจเหรอแก้ม.... ว่าแกทำงานไหว  ฉันบอกพี่เหมียวให้ก็ได้ว่าแกท้องเสีย   ''  วิไลวรรณถามเมื่อ

    เห็นนราวดีนั่งเงียบตั้งแต่ได้ยินคำตอบจากชายหนุ่ม 

               ''  แกไม่ต้องห่วงวิ  ฉันทำงานได้  ฉันรู้คำตอบมานานแล้ว  แกก็รู้นิ  ไม่ว่ายังไง  เขาก็ไม่เคยรักฉัน  ไม่เคย

    มองฉัน   ''  

              ''  แกจะหย่าจริงเหรอ  ''  วิไลวรรณถามเพราะนราวดีพูดกับคุณเจนนิเฟอร์ว่าบางทีเธอจะหย่าให้เขา

             ''   จริง ....   เขาจะได้ไม่ต้องทรมานที่เห็นฉันทุกวัน  เราเลิกพูดเถอะ  ไปทำงานกันดีกว่า '' 

        หลังจากนั้นสองสาวก็ลงจากรถเดินเข้าไปในห้างที่วันนี้มีงานเดินแบบของห้องเสื้อที่ทั้งสองคนรับงานไว้ 

          นาฬิกาบอกเวลาสี่ทุ่มแล้ว  แต่นราวดียังไม่กลับบ้านคริสโตเฟอร์ที่นอนเล่นอยู่บนเตียงนอนในห้องนอนของ

    เธอนอนรอต่อไปไม่ไหว จึงกดโทรศัพท์หาเธออีกครั้ง  หลังจากกดมาแล้วหลายครั้งแต่เธอไม่รับ  กลับมาเมื่อไหร่

    จะลงโทษให้เข็ดเลย  โทษฐานที่ไม่รับโทรศัพท์เขา  ทำให้เขาเป็นห่วงจนนอนไม่หลับ  เพราะเธอออกจากบ้าน

    ไปตั้งแต่เช้า  และยังไม่กลับเข้ามาเลย   แล้วเขาก็นึกไปถึงการสนทนาระหว่างเขาและมารดาเมื่อตอนทาน

    อาหาร 

             ''  ตาคริส  แกไม่ต้องไปเกาหลีแล้วนะพรุ่งนี้  ''  มารดาเอ่ยขึ้น

             ''  ผมไม่ต้องไป  แล้วแก้มหล่ะครับ  ''  เขาถามด้วยความสงสัย

             ''  หนูแก้มก็ไม่ไปเหมือนกัน  พอดีคุณคิมโทรมาเลื่อน  ''  นางบอกทั้ง ๆที่จริง ๆ แล้วเป็นนางเองที่โทรไป

    เลื่อนทางโน้น  

              ''  ทางโน้นเลื่อนเป็นวันไหนครับ  ''

              ''  ยังไม่รู้  เลขา ฯ คุณคิมบอกว่าจะติดต่อมาอีกที่  ''  

              ''  คุณพ่อรู้มั้ยครับ  ว่าทางโน้นมีปัญหาอะไร  ''  หันไปถามคุณดิลก

              ''  พ่อก็เพิ่งรู้พร้อมแกนี่แหละตาคริส  ''

              ''  ทำไมแก้มยังไม่กลับครับคุณแม่  ''

              ''  หนูแก้มมีงานคืนนี้จ๊ะ  อาจจะกลับดึก  '' นางเน้นคำว่าอาจจะ ทั้ง ๆ ที่นางรู้ว่านราวดีจะไม่กลับมานอนที่

    นี่คืนนี้ และอาจจะไม่กลับมานอนที่นี่ตลอดไป    ''  เฮ้อ... ช่วยไม่ได้  เรื่องความรักไม่อาจมีใครฝืนใจได้  ไม่รักก็

    คือไม่รัก  ''   นางอาจจะผิดที่บังคับให้คริสโตเฟอร์ต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก  ดีเหมือนกันถ้าหย่ากันไปนราวดี

    อาจจะไม่ต้องเจ็บปวดอยู่กับการรักสามีข้างเดียว  ''    ยอมจ็บแต่วันนี้  ดีกว่าต้องรอคอยคำตอบที่ไม่รู้ว่าจะสมหวัง

    หรือไม่  ''  คำพูดของนราวดีที่นางได้ยินเมื่อตอนบ่ายกระทบเข้ามาในความคิดของนางอีกครั้ง
      
               ''  เราทานข้าวกันต่อเถอะ  เดี๋ยวคืนนี้หนูแก้มก็กลับมาเองแหละ  ''  คุณดิลกพูด  แล้วทุกคนก็นั่งทานข้าว

    กันโดยที่ไม่มีใครได้พูดอีก  

         นราวดีกำลังอาบน้ำอยู่ที่ห้องของวิไลวรรณ  ขณะที่วิไลวรรณกำลังคุยโทรศัพท์กับภวัส  

               ''  วันนี้เหนื่อยไหมจ๊ะ  ''  ภวัสถามแฟนสาว

               ''   ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ  วิชินแล้ว  พี่วัสยุ่งไหมคะวันนี้  ''

               ''  ก็ยุ่งนิดหน่อยจ๊ะ  ''

               ''  พรุ่งนี้พี่วัสไปกี่โมงคะ วิจะไปส่งพี่ที่สนามบิน  เราไม่เจอกันมาหลายวันแล้ว ได้แต่คุยโทรศัพท์  ''   เธอ

    ถามเขาเพราะรู้ว่าเขาต้องบินไปทำงานที่ญี่ปุ่นสองอาทิตย์

                ''  พรุ่งนี้วิไปหาพี่ที่บ้านตอนเย็น  แล้วเราทานข้าวด้วยกันที่บ้านพี่แล้วค่อยไปสนามบินกัน  ดีมั้ยจ๊ะ  ''

                ''  ดีค่ะ ... พรุ่งนี้เจอกันค่ะ good night  '' 

                ''  good night ja bye ''

                ''  bye ka  ''  แล้วทั้งสองคนก็วางหู 

      พอนราวดีเดินออกมาจากห้องน้ำ  วิไลวรรณจึงเข้าไปอาบน้ำต่อ ผ่านไปครึ่งชั่วโมง  วิไลวรรณจึงเดินเข้ามาใน

    ห้องนอนที่เพื่อนสาวนั่งอยู่บนเตียง  

               ''  แก้ม  พรุ่งนี้แกจะไปทำงานที่บริษัทมั้ย  ''

               ''  ไม่ไป  บริษัทมันเป็นของครอบครัวเขา  แกคิดว่าฉันจะไปทำในตำแหน่งอะไร ''

               ''   แต่คุณแม่ก็ให้แกทำงานได้เหมือนเดิมนะ  ''

               ''  ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเจอหน้าเขา  ''

               ''  แล้วแกจะกลับบ้านมั้ย  ''

               ''  ยังไม่กลับ  ฉันคงรบกวนแกอีกสอง - สามวัน  ฉันจะออกไปเช่าคอนโด  ''

               ''  แกจะออกไปเช่าคอนโดทำไมวะ... อยู่กับฉันที่นี่ก็ได้  ''

               ''  ฉันไม่อยากให้พี่วัสรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ ฉันไม่อยากให้แกกับพี่วัสทะเลาะกัน เพราะฉันกับเขาเป็นต้นเหตุอีก  ''
               
               ''  แกสบายใจได้แก้ม  พี่วัสจะไปญี่ปุ่นสองอาทิตย์  พรุ่งนี้ฉันจะไปส่งเขาตอนเย็น  ''

               ''  ดีเลย... ฉันมีเวลาหาคอนโดสองอาทิตย์ก่อนพี่วัสกลับมา  ฉันรู้ว่าถ้าเขากลับมา  เขามาหาแกที่นี่แน่ ''
               
               ''  แกไม่อยากให้พี่วัสรู้เรื่องแกเหรอ  ''

               ''  ฉันไม่อยากให้ทุกคนที่สนิทกับเขา  รู้ว่าฉันอยู่ไหน  ทำอะไร  ''

               ''  ทำไมแกไม่กลับบ้านวะ  ''

               ''  บ้านฉันกับเขาอยู่ใกล้กัน  ถ้าฉันแอบเห็นเขาบ่อย ๆ ฉันอาจลืมเขาไม่ได้  ''

               ''  แกคิดว่าแกจะลืมเขาได้เหรอ ... ขนาดแกหนีไปอังกฤษตั้งสามปี  แกยังทำไม่ได้เลย  ''

               ''  นั่นซินะ... สามปีที่อังกฤษ  ฉันยังทำไม่ได้  แล้วนี่ในเมืองไทย  ประเทศเดียวกัน  ฉันจะทำได้ไหม  ''

               ''  อย่าเพิ่งคิดมากเลยเพื่อน  นอนกันดีกว่า  เที่ยงคืนแล้ว  ''  ว่าแล้ววิไลวรรณก็ปิดไฟและหลับลงในเวลา

    ไม่ถึงสิบนาที  แต่อีกคนยังนอนตาแข็งเพราะสมองคิดแต่ประโยคที่ได้ยินเมื่อตอนบ่าย


         หลังจากได้ยินสัญญาณตอบรับ  ''  หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้  ''  เป็นครั้งที่สิบภาย

    ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง  คริสโตเฟอร์ก็ยิ่งหงุดหงิด  จากไม่ยอมรับโทรศัพท์ตอนนี้ก็ปิดเครื่องหนีเขาแล้ว  แต่ไน่แน่

    แบตฯ อาจจะหมดก็ได้  ''  เราก็ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันนี่หนา  แก้มอาจจะยุ่งทั้งวัน  จนไม่ได้รับโทรศัพท์  หรือไม่ก็

    ลืมโทรศัพท์ไว้ในรถ  จนสุดท้ายแบต ฯ หมด  ''  พอคิดได้ดังนั้นก็เผลอหลับไป  


           คริสโตเฟอร์ตื่นนอนตอนหกโมงครึ่ง  ในห้องนอนของนราวดี  หลังจากมองไปรอบห้องแล้วมองไม่เห็นเธอจึง

    นั่งคิด   ''    เมื่อคืนนี้เธอไม่ได้กลับบ้านหรือว่าตอนนี้เธอตื่นไปทำอาหารเช้า  เมื่อคืนถ้าเธอกลับมาทำไมเขาไม่

    ได้ยินเสียงเธอเลย   ''   คิดยังไงก็คิดไม่ออก ชายหนุ่มจึงเดินไปอาบน้ำ แต่งตัวที่ห้องตัวเอง  

               ''  คุณแม่ครับ .... แก้มออกไปไหนแต่เช้าครับ  '' ชายหนุ่มแกล้งถาม

               ''  ทำไมลูกคิดว่า  แก้มออกไปแต่เช้าหล่ะ  ''  คุณเจนนิเฟอร์ย้อนถาม

               ''  ก็ผมไม่เห็นเธอลงมาทานอาหารเช้านี่ครับ  นี่ก็ได้เวลาทานอาหารแล้ว  แต่ยังไม่เห็น ''  เขาตอบ

               ''  แก้มไม่ได้กลับเมื่อคืนนี้จ๊ะ  ''  นางตอบ

               ''  แล้วแก้มไปนอนที่ไหนครับ  ''

               ''  ไม่รู้เหมือนกัน  แม่ไม่ได้ถาม  ''  

               ''  แก้มโทรมาบอกคุณแม่เหรอครับ  ''

               ''  อืม ...  ''  นางตอบ

               ''  เมื่อไหร่ครับ  ทำไมแก้มไม่โทรมาบอกผมเอง  ยังไงผมก็เป็นสามีเขา  ''  เริ่มโมโหคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย 

               ''  เมื่อคืนจ๊ะ  ''  นางจงใจตอบแค่นี้  แต่คำตอบของคุณเจนนิเฟอร์ทำให้คุณดิลกสงสัย  ''  เมื่อคืนนี้เขาไม่

    เห็นคุณเจนนิเฟอร์รับโทรศัพท์ใครเลย  แล้วนราวดีโทรมาตอนไหน  ยิ่งคิด ยิ่งสงสัย  ''


         ณ ร้านกาแฟมุมสบาย  นราวดีที่เอาแต่นั่งเงียบมาเกือบสามชั่วโมงก็ยังเงียบอยู่เหมือนเดิม จนณรงค์เดชเป็น

    ฝ่ายทนดูไม่ไหวต้องเดินเข้ามาหาเธอ  

                ''  แก้ม... มัปัญหาอะไรหรือเปล่า  ''

                ''  มีค่ะ... แต่แก้มคิดว่าแก้มจัดการได้ ''

                ''  อยากเล่าให้พี่ฟังมั้ย ... พี่เป็นผู้ฟังที่ดีได้นะ  ''  

                ''  แก้มอยากให้พี่เดชพาไปดูคอนโดค่ะ  แก้มจะเช่าคอนโด  ''  

                ''  เกิดอะไรขึ้น... ทำไมต้องไปเช่าห้องอยู่  ''  หลังจากนั้นนราวดีก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง

                ''  พี่เดชอย่าเพิ่งถามอะไรแก้มเลยนะคะ  แก้มยังไม่อยากตอบคำถามของพี่  ''

                ''  ได้จ๊ะ  แก้มอยากทำอะไรพี่ไม่ขัด  ถ้าแก้มคิดว่าดี  ทำแล้วมีความสุขพี่ก็เห็นด้วยกับแก้ม  ''  

                ''  เราจะไปดูห้องกันตอนไหนดีคะ  ''

                ''  ไปตอนนี้เลยก็ได้จ๊ะ  ''

                ''   แล้วลูกค้าหล่ะคะ  ''

                ''  ไม่ต้องห่วงจ๊ะ  เด็กที่ร้านไว้ใจได้หมด  ไม่มีปัญหา  ''  

                ''  งั้นเราออกไปกันเลยนะคะ  ''  หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ไปตระเวนหาคอนโดว่างให้เช่า  


      ห้องทำงานประธานบริษัทในเครือธนากรสกุล   วันนี้วุ่นวายตั้งแต่เช้า ตั้งแต่เจ้านายหนุ่มมาถึงบริษัทด้วยใบหน้า

    หงิกงอ  ผู้จัดการแต่ละแผนกที่ถูกเรียกตัวเข้ามาพบในห้องทำงานไม่มีใครยิ้มออกมาจากห้องสักคน  หลังจากหาย

    เข้าห้องไปคนละ สิบถึงยี่สิบนาที   แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังเข้าหน้าเจ้านายหนุ่มไม่ติด  หลังจากที่วารีเลขา ฯ ของ

    นราวดีแจ้งมาว่านราวดีจะไม่เข้าบริษัทหนึ่งอาทิตย์  แต่ไม่ให้เหตุผลว่าทำไม  เลขาฯสาวบอกว่าถ้าอยากรู้ให้ถาม

    คุณเจนนิเฟอร์  หลังจากเขารายงานให้เจ้านายทราบ  ระเบิดลูกใหญ่กว่าตอนเช้าและตามมาอีกหลายลูกก็มาลงที่

    เลขา ฯ  หนุ่มและหัวหน้าแผนกที่ถูกเรียกพบ  จนตอนนี้ใกล้เวลาเลิกงานแล้ว  ยังไม่มีวี่แววว่าจะสงบเลย  อำนาจ

    กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ  ก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง เมื่อเจ้านายหนุ่มเดินออกมาเรียกหน้าห้อง ว่าพร้อมจะไปพบลูกค้าแล้ว 

    และเดินนำออกไปก่อนจนถึงรถที่มีคนขับรถของบริษัทรออยู่หน้าบริษัท  


              ณ บ้านของภวัส  วิไลวรรณกำลังช่วยภวัสทำอาหารอยู่ในห้องครัว  เธอมาหาภวัสตั้งแต่สี่โมงเย็น  ซึ่ง

    ตอนนี้นาฬิกาที่ข้อมือของเธอบอกเวลาห้าโมงครึ่งแล้ว  แต่ทั้งสองคนยังช่วยกันทำอาหารอยู่ในครัวโดยยังไม่มี

    วี่แววว่าจะเสร็จ  เพราะภวัสเอาแต่ขยันส่งยิ้มให้เธอ  มองเธอด้วยสายตาหวานซึ้ง  จนเธอเขินไม่กล้ามองหน้าเขา

    ตรง ๆ ได้แต่แอบมองเวลาชายหนุ่มหันไปทำอาหาร  แน่นอนเธอทำอาหารไม่เป็นได้แต่เป็นลูกมือเขา  คอยหยิบ

    เครื่องปรุงเมื่อเขาต้องการและร้องเรียกเธอ
              

            ''  วิจ๊ะ... หยิบหมูบดที่หมักแล้วให้พี่หน่อย  ''  ภวัสตะโกนบอก

            ''  นี่ค่ะ... ได้แล้ว  ''  เธอหยิบชาบหมูบดส่งให้เขา 

            ''  วิ... พี่ขอเต้าหู้ไข่ที่หั่นแล้ว  ไม่ถึงห้านาที  วิ .... หยิบ  ต้นหอมผักชีด้วย  ''  และอีกหลาย ๆ อย่างที่เรียก

    ให้เธอหยิบ

            ''  พี่วัสคะ  ทุกอย่างที่พี่เรียกให้วิหยิบ  มันอยู่ใกล้มือพี่ทั้งนั้นเลยนะคะ  พี่หยิบเองก็ได้  ทำไมต้องเรียกวิ

    ด้วย  ''  เธอแกล้งว่าเขา

             ''  วิจะได้พูดได้เต็มปากนิจ๊ะ  ว่าช่วยพี่ทำอาหาร  และอีกอย่างนะ  อยากรู้มั้ยทำไม  ''

             ''  ทำไมคะ  ''

             ''  ก็พี่ไม่อยู่ตั้งสองอาทิตย์   พี่จะได้จำชื่อวิให้ขึ้นใจไงจ๊ะ  ''  ภวัสออดอ้อน

             ''  บ้า ... พี่วัสเนี๊ยะ  ''  วิไลวรรณแกล้งว่าเขาเพราะเขิน  ''   หลังจากทั้งสองคนช่วยกันทำอาหารจน

    เสร็จ จึงช่วยกันยกออกมาที่โต๊ะอาหาร   

              ''  วิทานได้มั้ย  อาหารง่าย ๆ สามอย่างนี่  ''  

              ''  วิ ..  ทานได้ค่ะ  พ่ภัสก็รู้ว่าวิไม่ใช่คนเรื่องมาก  ''

              ''  พี่รู้จ๊ะ  แต่วันนี้พี่อยากอยู่กับวิสองคนก่อนพี่ไป  พี่เลยอยากทานที่บ้าน  ''

              ''  วิเข้าใจค่ะ  วิก็อยากอยู่กับพี่วัสค่ะ  ''  วิไลวรรณพูดพร้อมตักผัดกระเพรากุ้งซึ่งไม่เผ็ดมากใส่ในจานข้าว

    ของเขา

              ''  ทานเยอะ ๆ นะ ไม่ต้องกลัวอ้วนหรอก  ''  ภวัสพูดพร้อมตักเต้าหู้ไข่ให้แฟนสาว  

              ''  วิครับ  ตักไข่เจียวให้พี่หน่อย  ''  ภวัสอ้อนให้เธอตักไข่เจียวปูให้  และทุกครั้งเขาจะให้เธอตักอาหารให้ 

    จนทั้งสองอิ่มทั้งอาหาร และความสุข   หลังจากนั้นอีกชั่วโมงภวัสจึงขึ้นไปอาบน้ำและเตรียมตัวออกจากบ้าน 

    ปลอยให้วิไลวรรณนั่งดูทีวีที่ห้องนั่งเล่น   สามทุ่มทั้งสองคนก็พร้อมออกจากบ้าน   หลังจากเอากระเป๋าเก็บที่

    หลังรถของวิไลวรรณแล้ว  ภวัสก็อาสาขับรถให้เธอ  เขาบอกเธอว่าเดี๋ยวพอขึ้นเครื่องเขาสามารถนอนได้  แต่เธอ

    ต้องขับรถกลับคนเดียว  ดังนั้นตอนนี้เธอนั่งสบายๆ เป็นคุณนายดีกว่า  เธอจึงยอมให้เขาขับรถให้

     
        ฝ่ายคริสโตเฟอร์หลังจากออกไปพบลูกค้ามา   กลับมาถึงบ้านก็รีบเข้าห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า  แล้วรีบออก

    จากห้องนอนตัวเอง  เดินไปห้องนอนของภรรยาสาว  แต่พอเปิดประตูไปก็พบแต่ความมืดเพราะนราวดียังไม่กลับ 

    จนนาฬิกาตีบอกเวลาตีหนึ่งก็ยังไม่เห็นเธอกลับมา  ด้วยความโมโหจึงเดินกลับห้องตัวเอง  ''  ไปไหนของเค้านะ 

    ป่านนี้ยังไม่กลับบ้าน  โทร ฯ ไปก็ปิดเครื่อง  ถ้าทะเลาะกันจะคิดว่าเธองอน  แต่นี่เขาไม่ได้ทะเลาะกับเธอ  ''  คิด

    ไปคิดมาจนเผลอหลับ  มารู้สึกตัวอีกทีก็เกือบเจ็ดโมงเช้า  

     
        ณ ห้องอาหารคุณดิลกและคุณเจนนิเฟอร์กำลังนั่งรอบุตรชายที่โต๊ะอาหาร 

            ''  ขอโทษครับ  คุณพ่อคุณแม่วันนี้ผมตื่นสายไปหน่อยครับ  ''

            ''  ไม่เป็นไรลูก  นอนไม่หลับเหรอ  ตาคล้ำ ๆ  ''  คุณเจนนิเฟอร์ทัก 

            ''   ครับนอนไม่ค่อยหลับ  ช่วงนี้งานยุ่ง ๆ ครับ  ''  

            ''  อ๋อเหรอ ... งานยุ่งอย่างเดียว  ''  นางแกล้งถามอีก

            ''  ครับ  ''  รับคำสั้น ๆ 

            ''  ไม่ต้องห่วงหรอกลูก   ตั้งแต่วันนี้แม่จะไปทำงานแทนหนูแก้มก่อน  คริสจะได้นอนหลับสบายไม่ต้องห่วง

    เรื่องงานอีก  ''  ได้ยินคำตอบมารดาว่าจะไปทำงานแทนนราวดี  ทำให้คริสโตเฟอร์ได้แต่อึ้งพูดไม่ออก  ได้แต่หัน

    ไปมองหน้าบิดาแต่ท่านก็ส่ายหน้าว่าท่านก็ไม่รู้เรื่อง 

              ''  แม่อิ่มแล้ว  แม่ไปทำงานก่อนนะ  ''  พูดจบก็เดินออกไปขึ้นรถ  คริสโตเฟอร์เพิ่งเห็นตอนนี้เองว่ามารดา

    แต่ตัวเรียบร้อยพร้อมออกจากบ้านแล้ว

               ''  หนูแก้มหล่ะลูก  พอไม่เห็นหน้ามาสองวันแล้ว  '' 

               ''  ไม่รู้เหมือนกันครับ  ผมก็ไม่เจอโทร ฯไปก็ปิดเครื่อง ''

               ''  ทะเลาะกันหรือเปล่า  ''

               ''  เปล่าครับพ่อ  ''

               ''  คริสไม่ได้โกหกพ่อนะ  ''

               ''  ครับ ... เราไม่ได้ทะเลาะกัน  '' 

               ''  แปลกนะ  แล้วหนูแก้มไปไหน  ''  

               ''  ผมไปทำงานก่อนนะครับคุณพ่อ  ''  หลังจากนั้นก็เดินออกไปขึ้นรถ  ปล่อยให้คุณดิลกนั่งคิดอยู่คนเดียว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×