ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ยาพิษ (วอน-ซิน) 1
ยาพิษ(วอน-ซิน)
ความรักนั้นก็เหมือนกับน้ำตาล
ขาดไปก็ไม่ตาย เพียงแต่ทำให้ทานเค้กได้ไม่อร่อยนัก
ทว่าสำหรับคนที่ได้ชิมน้ำตาลที่ชื่อว่าความรักนั้น
มันก็เป็นเหมือนยา ถ้าทานในปริมาณที่เหมาะสม มันก็คือยาวิเศษ
แต่รสชาติที่หอมหวานน่าลิ้มลองนั้น มันทำให้ใครหลายคนลุ่มหลง
ปารถนา ครอบครอง หวงแหน จนความหวานกลายเป็นยาพิษ
ถึงอย่างนั้น ยาพิษก็ยังหวานอยู่ดี
เสียงเพลงที่ถูกบรรเลงอย่างช้าๆ จากเครื่องดนตรียาวประมาณห้าสิบเซนติเมตรที่ชื่อวิโอล่า ในร้านอาหารที่ตกแตงสไตล์ยุโรปในยุคกลาง แสงไฟสีส้มจากเชิงเทียนขนาดใหญ่ กับโครงสร้างอาคารที่ทำจากอิฐ ให้ความรู้สึกว่ากำลังหวนคำนึงถึงความหลัง ราวกับเหตุการณ์ขณะนี้เป็นอดีตที่สวยงามมากกว่าปัจจุบันอันแสนเศร้า
ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนโรแมนติก มีคนสองคนนั่งอยู่คนละฝากของโต๊ะตัวเล็ก คนหนึ่งเป็นชายหนุ่มผู้มีใบหน้ามนได้รูป ผมสีดำยาวถูกรวบไว้อย่างสวยงาม รับกับใบหน้าและรูปร่างที่ดูบอบบาง ส่วนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเป็นชายหน้าตาหล่อเหลา รูปร่างสมส่วน และแต่งกายเหมือนเพลย์บอยนิดๆ ทั้งๆที่มีอาหารเลิศรสวางอยู่ตรงหน้า แต่ทั้งคู่แค่นั่งก้มหน้าเฉยๆไม่ได้มีทีท่าว่าจะรับประทานเลย
ส่วนต้นเหตุก็คือโทรศัพท์เจ้าปัญหาที่อยู่ตรงหน้าเขาทั้งสอง
มือถือราคาแพงสั่นไหวเมื่อมีสายเรียกเข้า พร้อมกับท่าทางลนลานของชายคนหนึ่ง
“มีโทรฯมาก็รับสิ ซีวอน”
คำพูดเย็นชาที่ชายรูปร่างบอบบางเอ่ยบอก ทำให้เจ้าของชื่อสะดุ้งเล็กน้อย
“งั้นเดี๋ยววอนมานะ ซินจะกินข้าวไปก่อนก็ได้”
เจ้าของชื่อซินเพียงแต่พยักหน้าเล็กน้อยเท่านั้น
พอซีวอนเดินออกไป เสียงถอนหายใจหนักๆก็ถูกระบายออกมาจากร่างเล็ก
ทั้งๆที่คิดว่าวันนี้จะมีแต่เรื่องดีๆ
ดวงตากลมโตทอดมองไปยังจานอาหารเบื้องหน้า อย่างรอคอยให้คนที่เดินออกไปเมื่อครู่กลับมาทานอาหารด้วยกัน
เวลา...ล่วงเลยผ่านไป
จากครั้งที่ดนตรียังคงบรรเลง แสงไฟยังคงสว่างไสว และผู้คนยังนั่งอยู่แน่นร้าน จนตอนนี้เหลืองเพียงร่างเล็กนั่งอยู่คนเดียวท่างกลางแสงไฟเพียงไม่กี่ดวง
แต่กระนั้น..ซีวอนก็ยังไม่กลับมา
ขาเพรียวพาร่างตัวเองออกจากร้าน โดยที่ยังไม่ได้แตะอาหารสักนิด
ลมในฤดูหนาวที่พัดเอาหิมะมานั้น ไม่ได้ทำให้ร่างบางเหน็บหนาวแต่อย่างใด เพราะภาพที่ได้เห็นเต็มสองตานั้น มันบาดลึกลงไปในหัวใจจนเจ็บและเหน็บหนาวกว่าหลายเท่า
ภาพที่ซีวอนกำลังจูบกับ...เจสสิก้า
เสียงหนักๆที่กระแทกลงกับพื้นทำให้ร่างทั้งสองต้องหันมามอง
ซีวอนวิ่งเข้าไปหาอย่างตกตะลึง เมื่อพบว่าเป็นคนรักของตนที่ทรุดตัวลงไปพร้อมกับน้ำตานองหน้า หากแต่หญิงสาวนามเจสสิก้ากลับมีเพียงแค่รอยยิ้มเย้ยหยันเท่านั้น
“ซินๆ นายเป็นอะไรไปน่ะ เฮ้ ฮีซอลมองฉันสิ พูดกับฉัน”
ซีวอนเรียกชื่อคนรักอย่างตกตะลึง เมื่ออีกฝ่ายยังคงเบิ่งตาค้างและมีน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด
“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!”
************************************
มืดไปหมด
ที่นี่ที่ไหน?
ทำไมมีฉันอยู่คนเดียว?
ทุกคนหายไปไหนหมด?
“สวัสดีครับ ผมชื่อซีวอน”
เสียงใคร?
“ฉันชอบคนที่น่ารัก อ่อนโยน แล้วนายล่ะชอบคนแบบไหน?”
น้ำเสียงที่อบอุ่น ฉันรู้จักคนคนนี้ด้วยหรอ?
“ถ้านายชอบแบบนั้น ฉันก็จะเป็นในแบบที่นายชอบ”
ฉันเคยพูดแบบนั้นด้วยหรอ?
“ตั้งแต่วันนี้ไปนายเป็นภรรยาของฉันนะ”
อะไร? เขากำลังพูดเรื่องอะไร?
“ซินๆ”
ใคร?
“ซินๆ”
นั่นเขาเรียกชื่อใคร?
ทรมาณ หยุดสักที
“ซินๆ”
ทำไม? ทั้งๆที่เป็นเสียงเดียวกัน แต่ทำไมมันถึงได้ทรมาณอย่างนี้?
ทำไม?
เปลือกตาบางค่อยๆเปิดขึ้นอย่างช้าๆ ภาพแรกที่ได้เห็นคือห้องสีขาวกับผู้ชายคนหนึ่งกำลังกุมมือเขาอยู่
ทำไมต้องกุมมือ?
มือเล็กที่พยายามสะบัดให้หลุดจากการเกาะกุมของมือใหญ่ ทำให้ใบหน้าของชายคนนั้นดูซีดลงไปเล็กน้อย
“ซิน..”
เขากำลังเรียกใครอยู่?
“นายอย่าแกล้งฉันแบบนี้นะ พูดกับฉันหน่อยเถอะ จะตบตีฉันก็ได้”
ทำไมฉันต้องตบตีนายด้วยล่ะ?
“ได้โปรดซิน พูดกับฉัน อย่ามองฉันด้วยสายตาเย็นชาอย่างนั้น”
หากแต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่ ก็ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา
*********************************
“เป็นใบ้ ความจำเสื่อม”
“ถ้าจะเรียงลำดับความสำคัญให้ถูกคือ เจ๊แกช๊อคจนความจำเสื่อมขั้นรุนแรง ถึงขนาดจำวิธีการพูดไม่ได้ แต่จากการที่ฉันตรวจดูอย่างละเอียด พวกทักษะการเดิน ยืน นั่ง ยังคงอยู่ไม่ได้สูญหายไป เพราะฉะนั้นการใช้ชีวิตประจำวันจึงไม่ค่อยมีปัญหามากนัก”
“คิบอม แล้วซินจะมีโอกาศหายมั้ย?”
“อันนี้มันตอบยากนะ เพราะเจ๊แกก็ไม่ค่อยจะแข็งแรงตั้งแต่แรกแล้ว ถึงโรคไมเกรนกับโรคกระเพาะจะรักษาจนหายแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะกลับมาเป็นอีกไม่ได้ แล้วยังมีโรคหัวใจที่เป็นอยู่ขณะนี้อีก ที่เจ๊แกไม่ช๊อกตายก็ปาฎิหาร์แล้ว ถามจริงๆเหอะเจ๊แกไปเจออะไรมาถึงได้ช๊อคขนาดนี้”
“พอดีซินมาเห็นตอนที่ฉันจูบกับเจสสิก้าน่ะ”
ปัง!!!
“..ชอย ซีวอน นี่นายตั้งใจจะฆ่าพี่ฉันทางอ้อมหรือไง ถึงเจ๊แกจะไม่ใช่พี่แท้ๆ แต่ฉันก็นับถือเค้าเหมือนพี่ ฉันไม่ได้ให้เจ๊ไปอยู่กับนายเพื่อให้นายทำร้ายเค้า จนกลายเป็น..คนพิการนะ ขอร้องล่ะ เจ๊ซินน่ะ..รักนายมากนะ อย่าทำร้ายเค้าอีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน สัญญาสิ”
“ฉัน...”
“สัญญามา”
“ฉันไม่มั่นใจ...”
“ไม่ว่ายังไง นายก็ต้องสัญญามา!!!”
“ฉะ..ฉันสัญญา”
“ขอบใจนายมาก”
หลังจากนั้นหมอคิมได้บอกถึงวิธีการดูแลร่างบางหลังออกจากโรงพยาบาลให้ซีวอนฟัง เสร็จแล้วจึงได้ส่งร่างสูงออกจากห้องตรวจ
คิบอมรอจนกระทั่งเพื่อนของเขาเดินออกไปได้สักครู่ จึงระบายลมหายใจหนักๆออกมา เขาก้มลงหยิบเอกสารบางอย่างในลิ้นชัก กระดาษแต่ละหน้าที่ถูกเปิดอ่าน ยิ่งทำให้สีหน้าของคุณหมอดูหนักใจมากขึ้น
“พี่ฮีซอล”
คุณหมอหนุ่มซบหน้าลงกับฝ่ามือ พร้อมๆกับที่มีหยาดน้ำใสๆเอ่อล้นดวงตา
ผลการตรวจ
.
.
นาย คิม ฮีซอล
.
.
ป่วยเป็นโรค ..หัวใจ...
.
.
อาการ ..............
.
.
.
หมายเหตุ ......5เดือน
ข้อความบางตอนที่ขาดหายไปจากการโดนน้ำก่อนหน้านี้ ไม่ได้ทำให้ผู้ที่รู้ผลอยู่แล้ว จะรู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด
“ขอร้องล่ะซีวอน นายอย่าทำร้ายพี่ฮีซอลเค้าอีกเลย”
****************************************
“ซิน ถึงบ้านแล้วนะ”
น่าเบื่อ...
“ถึงแล้วนะนี่เป็นห้องของซินนะ”
นะ..นี่มัน
ดวงตากลมโตกวาดมองไปทั่วห้องที่บอกว่าเป็นของเขา สายตานั้นบอกได้คำเดียวว่าไม่อยากเชื่อ เพราะทั้งห้องตกแต่งด้วยสีชมพูดูอบอุ่นและน่ารัก
โครม
“ซินทำอะไรน่ะ”
นี่ไม่ใช่ชั้น! ชั้นไม่มีทางชอบของแบบนี้เด็ดขาด!!
“ซินทำอะไรน่ะ! โยนทิ้งทำไม? ของพวกนี้ซินเป็นคนเลือกเองเลยนะ”
เป็นไปได้ยังไง ฉันไม่เคยคิดจะจับของพวกนี้เลยด้วยซ้ำ!!!
ไม่ใช่ตัวชั้นเลยสักนิด!!!
นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!
ท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ข้าวของถูกขว้างทิ้งระเนระนาด ร่างบางที่กำลังอาละวาดอยู่ก็ได้ผลักร่างสูงล้มลงไป!!
.
.
.
ช่วงเวลาที่เหมือนหยุดหมุน ไม่มีแม้แต่น้ำเสียงต่อว่ากลับมา มีเพียงแต่ความเงียบอันน่าอึดอัดรายล้อมอยู่รอบกาย
“ฉันออกไปก่อนนะ นายคงอยากอยู่คนเดียว”
เสียงประตูที่ถูกปิดลงอย่างแผ่วเบา บอกให้รู้ว่าร่างสูงได้ออกจากห้องไปแล้ว
ร่างบางหันมาดูสภาพห้องที่ตัวเองเป็นผู้ทำลาย ข้าวของล้มระเนระนาด บางอย่างก็แตกเสียหาย เขาค่อยๆทรุดตัวลง ความรู้สึกที่เหมือนโดนพรากเอาวิญญาณและความรู้สึกออกไป เหมือนกับเจ็บจนชา และชาจนด้านไร้ความรู้สึก ทั้งๆที่ของพวกนี้มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเท่าไหร่
...แต่เพียงครั้งแรกเห็น เขากลับรู้สึกอยากทำลายทิ้ง อยากโยนออกไป ไม่อยากเห็น
...รังเกียจ ..ทรมาณ
ความรู้สึกต่างๆตีกันวุ่นวายอยู่ภายใน
สายน้ำอุ่นๆไหลออกจากดวงตา
รังเกียจ....ตัวเอง
ความรู้สึกคลื่นเหียนที่จุกอยู่ในลำคอ ทำให้ฮีซอลต้องรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำ
หลังจากที่อาเจียนออกมาจนรู้สึกว่าไม่เหลืออะไรอยู่ในร่างกายแล้ว ฮีชอลก็รู้สึกเวียนหัวอยากจะเป็นลมคาห้องน้ำให้ได้ แต่ก็ยังฝืนเดินออกมานอนบนเตียง
ทั้งที่คิดว่าถ้านอนลงแล้วคงจะหาย แต่กลายเป็นว่าเขากลับรู้สึกเวียนหัวมากขึ้นกว่าเดิม รู้สึกเหมือนกับโลกมันแกว่งๆ แล้วตัวเขากำลังจะจมลงไป มันเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด
มันเกิดอะไรขึ้น
ฉันเป็นอะไร
ฉันเป็นใคร!!
The End Of Part One
-----------------------------------------------
เอามาปล่อยไว้ก่อนดูว่ามีคอมเม้นว่าไง ถึงค่อยอัพ อิอิ(แอบชั่ว)
ไปแระ อย่าลืมเม้นน้าถ้าอยากอ่านต่อ
-----------------------------------------------
เอามาปล่อยไว้ก่อนดูว่ามีคอมเม้นว่าไง ถึงค่อยอัพ อิอิ(แอบชั่ว)
ไปแระ อย่าลืมเม้นน้าถ้าอยากอ่านต่อ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น