ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : จันทร์ลวง
ของที่ทรงอนุภาพสามสิ่งที่ท่านพ่อทิ้งไว้ก่อนจะตาย หนึ่งดาบเขี้ยวอสูรอยู่กับเจ้าครึ่งอสูรน้องชายที่ไม่อยากเอ่ยถึงอินุยาฉะ สองดาบเขี้ยวฟ้าฟื้น ที่ข้าสะพายไว้ข้างเอวเล่มนี้ และสาม อินุสึกิฮิเมะ มันคืออะไรข้าไม่เข้าใจ แล้วข้าจะหาได้ที่ไหน หรือว่ามันอาจอยู่ที่มัน......
เด็กหนุ่มในชุดสีแดงเพลิงกำลังวิ่งและกระโจนไปตามกิ่งไม้อย่างรีบร้อนเป็นที่แปลกใจแก่ผู้ร่วมทางโดยเฉพาะคาโกเมะ “อินุยาฉะเป็นอะไรไปวันนี้ไม่ใช่คืนเดือนมืดสักหน่อย” คาโกเมะถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้องตามมาคาโกเมะ เดี๋ยวข้าหายจะรีบกลับมา ซังโกะ มิโรคุฝากทางนี้ด้วย” เด็กหนุ่มทะยานหายไปในป่าแบบไม่เหลียวหลังกลับ
“อินุยาฉะเป็นอะไรไป” น้ำเสียงคาโกเมะแสดงถึงความรู้สึกห่วงอย่างเป็นที่สุด
“ไม่รู้เหมือนกัน เห็นบอกจะหาที่ซ่อน คืนนี้ไม่ใช่เดือนมืดสักหน่อย แค่มีจันทร์คราสเท่านั้น “ ซังโกะออกความคิดเห็น
“จันทร์คราสเหรอ ก็ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับอินุยาฉะเลยนี่นา”มิโรคุขมวดคิ้ว ทุกคนไม่สบายใจที่เห็นท่าทางร้อนรนของอินุยาฉะนัก
“ไม่ต้องห่วงคาโกเมะถ้าเจ้าบ้าอินุยาฉะกลับมาข้าจะคั้นจากปากมันเอง” ชิบโปบอก
.............................................................................................................
“แย่แล้วท่านเส็ตโชมารู ฝนตกซะได้อุตส่าห์จะได้ดูจันทร์คราสคืนนี้ ดีนะที่หาวัดร้างหลบฝนทัน เจ้ารินขยับไปอีกข้าเปียกหมดแล้ว”ปีศาจตัวเขียวกล่าวกับนายอสูรหนุ่มผู้องอาจท่าทางเย็นชาไปถึงกระดูกที่ยืนอยู่กลางสายฝนในขณะที่สายตาสีทองมองผ่านสายฝนไปยังอีกฟากของภูเขา
“ริน จาเค็น รออยู่ที่นี่” เส็ตโชมารูพ่ายแพ้ต่อความอยากรู้ของตัวเองที่มีต่ออีกฟากของภูเขา
“อา ท่านเส็ตโชมารูจะไปไหนละครับ” จาเค็นถาม แต่ไร้ซึ่งคำตอบ
......................................................................
ฝนตกอย่างไม่ลืมหูลืมตาเส็ตโชมารูจิ้งจอกหนุ่มเดินมาตามทิศทางที่ตนเองได้กลิ่น ใช่ กลิ่นบางอย่างที่ทำให้เขาสนใจเขาเดินข้ามเขามาอีกฟากจนพบบ้านร้างหลังใหญ่ เป็นเพราะฝนตกจึงทำให้กลิ่นนั้นเบาบางจนแทบไม่ได้กลิ่นแต่ออกมาจากที่นี้ไม่ผิดแน่ เส็ตโชมารูก้าวผ่านประตูเข้ามาแล้วสายตาก็สอดส่องตามมุมมืดเพื่อหาสิ่งที่เค้าสงสัย พลันเขาก็เห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวช้าๆหายใจกระชั้นถี่หลังฉากที่กั้นอยู่มุมห้อง
“ไม่ว่าจะแกเป็นตัวอะไร แต่กลิ่นแกรบกวนใจข้า ออกมาให้ข้าเห็นเดี๋ยวนี้” เส็ตโชมารูอยากรู้นักว่ากลิ่นนั้นเป็นอะไร ไม่ใช่เพราะกลิ่นนั้นมันเหม็นสาบจนสะอิดสะเอียนเหมือนที่เขาเคยได้กลิ่นมา หรือเป็นกลิ่นอาหารก็ไม่ถูก แต่กลิ่นนั้นแปลก มันหอมหวานอย่างประหลาดชวนให้ตกอยู่ในภวังค์ มันทำให้เลือดในตัวเส็ตโชมารูเดือดพล่าน หัวใจที่ด้านชากลับก็เต้นผิดจังหวะ แต่เมื่อสิ่งที่อยู่หลังฉากไม่ยอมสนองตอบเส็ตโชมารูถึงกลับเดือดดาล
“โอ๊ย”เสียงแห่งความเจ็บปวดลอดออกมาหลังฉากเมื่อตอนเส็ตโชมารูใช้กรงเล็บแหลมคว้าคอบอบบางแล้วลากออกมานอกฉากกั้น แสงฟ้าแล่บภายนอกเผยให้เห็นร่างหนึ่งที่อยู่ในกำมือของเส็ตโชมารู สาวน้อยร่างเล็กบอบบางผิวขาวสว่างแต่แก้มเป็นสีชมพูจมูกและปากสีกลีบซากุระได้รูป ผมยาวเปียกน้ำสีดำสนิทเป็นโทนเดียวกับสีตาที่จ้องมองเส็ตโชมารูอย่างโกธรเกรี้ยวชุดสีแดงเปียกน้ำรัดเข้ารูปเผยให้เห็นสัดส่วนชัดเจน เห็นเช่นนี้อสูรที่เย็นชาถึงกลับจ้องมองไม่วางตา
“แก เจ้าเส็ตโชมารูตามมาจนได้นะ ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้” เสียงแหลมเล็กแบบผู้หญิงปลุกภวังค์ของ เส็ตโชมารูคำพูดของสาวน้อยนั้นบวกกับชุดสีแดงที่สวมใส่มันทำให้เขานึกออก
“อินุยาฉะ” เขาเอ่ยออกมา แต่ด้วยรูปลักษ์ที่เขาไม่เคยเห็นมันทำให้เขาไม่แน่ใจ “แกเล่นกลอะไรอีกเจ้าครี่งอสูร”
“ไม่เกี่ยวกับแก เอาไว้ให้จันทร์คราสหมดก่อนเถอะ ข้าจะฟันแกให้เละทีเดียว”อินุยาฉะขู่ในขณะที่แขนขาก็ดิ้นรนให้หลุดจากข้อมือที่แข็งแรง จนสาบเสื้อที่เปียกน้ำที่มีขนาดที่ไม่พอดีกับตัวอินุยาฉะในตอนนี้ก็หลุดรุ่ยลงมาทำให้เห็นเนินอกขาวสว่าง อินุยาฉะมีหน้าอกเหมือนเด็กสาว เส็ตโซมารูตะลึงไปชั่วขณะ แต่แล้วเขาก็ยิ้มมุมปากเหมือนนึกอะไรออก
“จันทร์คราส ข้าเข้าใจแล้วช่างซ่อนของได้เก่งจริงๆท่านพ่อคราวที่แล้วก็ดาบ ให้ข้าดูหน่อยว่าร่างผู้หญิงเจ้าจะมีฤทธิ์เดชอะไรอินุสึกิฮิเมะ” พูดจบมือก็ดึงตัวของอินุยาฉะให้เชยหน้าเข้ามาใกล้ๆ เมื่อยิ่งเข้ามาใกล้กลิ่นหอมรัญจวนก็ยิ่งแผ่ซ่านทำให้เลือดในกายเส็ตโชมารูเดือดอีกครั้ง และยิ่งใช้ตาสีอำพันมองลึกเข้าไปในตาสีนิลมันทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะยิ่งขึ้นเสียงมันร่ำร้อง โซ่ตรวนที่จองจำความรู้สึกสั่นสะเทือน
“อย่ามาเรียกข้าด้วยชื่อนั้นนะ มีแต่ท่านแม่ข้าที่เรียกได้” อินุยาฉะหน้าแดงเพิ่มขึ้น กลับยิ่งทำให้น่ามองมากขึ้น
“อินุสึกิฮิเมะ นี้หรือของที่ทรงอนุภาพที่ท่านพ่อฝากไว้ให้ข้า ข้ายังไม่เห็นถึงความพิเศษในร่างมนุษย์ผู้หญิงของเจ้าเลยซักนิด” น้ำเสียงที่เย็นชากลับตรงข้ามกับความรู้สึกข้างใน
“เฮอะ และถ้าเจ้าหวังในสิ่งที่คิดก็ผิดถนัด วันนี้จันทร์คราสไม่เต็มดวงข้าไม่แสดงด้านอ่อนแอให้แกได้เห็นหรอก”
สิ้นเสียงอินุยาฉะ เส็ตโชมารูเหวี่ยงร่างบางลงกับพื้น ในยามปกติอินุยาฉะอาจสามารถม้วนตัวตั้งหลักได้อย่างสวยงาม แต่ยามนี้ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะประคองตัวถึงกลับนอนกองไปกับพื้น “ทำบ้าอะไรฟ่ะ เจ้าเซ็ตโซมารู อ๊ะ..” ไม่ทันที่อินุยาฉะได้พูดอะไรอีก เส็ตโซมามารูก็มานั่งคร่อมร่างแล้ว ร่างกายที่สูงใหญ่อยู่แล้ว ยามนี้อินุยาฉะไม่ต่างกับเด็กเล็ก มือข้างเดียวที่เหลือรื้อทึ้งชุดแดงที่สวมใส่ แม้สองมือของสาวน้อยจะปัดป้องแต่ก็ไม่อาจสู้แรงของชายหนุ่มได้ “หยุดนะ จะทำอะไร หยุดเดี๋ยวนี้เจ้าบ้า” สาวน้อยกรีดร้อง ในขณะนี้ท่อนบนได้เปลือยเปล่าอย่างง่ายดายเผยให้เห็นทรวงอกที่งดงามขาวสะอาดตาอย่างไม่น่าเชื่ออยู่ตรงหน้าอสูรหนุ่ม กลิ่นหอมจากร่างกายมากขึ้นยิ่งดมก็ยิ่งหวั่นไหว จนต้องก้มเอาจมูกที่คมสันแนบชิดติดกายของสาวน้อยเพื่อดอมดมกลิ่นให้ชื่นใจ สาวน้อยดิ้นรนอย่างไร้ผล “อย่า อย่า ไอ้บ้า ข้าจะฆ่าแก” แต่อสูรหนุ่มไม่ได้พูดอะไรเพื่อโต้ตอบ กลับมองเรือนร่างอย่างพิจารณาอีกครั้งเหมือนจะหาตำหนิบนเนื้อหยก แล้วมือก็ลดต่ำคลำหาอะไรสักอย่าง ท่ามกลางการดิ้นรนของขาสองข้าง “หยุดนะ อย่าจับตรงนั้นนะ” สาวน้อยทนความอับยศไม่ได้ ได้แต่เบือนหน้าหนีไปทางอื่น พลันมือนั้นก็มาสะดุดกับอะไรซักอย่างที่คุ้นเคย อสูรหนุ่มยิ้มเย้ยก่อนจะเอ๋ยพูด “ฮึ แกเป็นตัวประหลาดอะไรกันแน่ไหนละความวิเศษแกก็เป็นได้แค่ตัวประหลาดครึ่งๆกลางๆนอกจากเป็นครึ่งอสูร ตอนนี้เจ้ายังเป็นครึ่งชายครึ่งหญิงอีก น่าสมเพช”
ฝนซาไปแล้วแสงจันทร์ที่เว้าแหว่งจากจันทร์คราสออกมาจากกลีบเมฆ แสงสว่างเผยให้เห็นสิ่งต่างๆรอบตัวได้อย่างละเอียด แม้กระทั่งใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของสาวน้อยที่ค่อยๆหันกลับมาประจันสายตากับอสูร น้ำตาที่พรั่งพรูจากดวงตาสีดำขลับมันเป็นน้ำที่ละลายโซ่ตรวนแห่งความรู้สึกจนกร่อนขาด อสูรหนุ่มจ้องกลับด้วยความตื่นตะลึง “เออใช่สิข้ามันครึ่งๆกลางๆ จะไปเลิศหรูอะไรเท่าแกละ ไอ้เจ้าเส็ตโชมารู ข้าก็ไม่ได้พิศวาสไอ้ครึ่งๆกลางๆนักหรอกน๊า ถ้าพระจันทร์เฮงซวยไม่แหว่งเป็นเสี้ยว อย่างนี้ ไอ้เส็ตโชมารู แกเจ้าหมาสกปรก” มือชายหนุ่มกดต้นคอสาวน้อยให้เชยหน้ามาอีกครั้งด้วยความอยากจะทำอะไรซักอย่างเพื่อปิดปากที่ร้ายนั้น แต่ความรู้สึกปารถนาที่หลุดพ้นจากการจองจำ สั่งให้เค้าทำอะไรบางอย่าง แทนที่เค้าจะใช้กำลังตบตีหรือชกต่อยตามนิสัย ตอนนี้เค้ากลับก้มหน้าลงต่ำหมายจะใช้ปากตัวเองประกบปากที่วาจาเราะร้ายนั้น “อย่าน๊า ข้าเป็นผู้ชายนะเฟ้ย” แม้ปากนั้นยังคงปฏิเสธแต่ก็ไม่อาจขัดขืนได้ในตอนนี้ริมฝีปากอุ่นๆของชายหนุ่มได้สัมผัสอย่างแผ่วเบาบนริมฝีปากชมพู ความรู้สึกซ่าซ่านวิ่งเข้าสู่หัวใจสาวน้อยหลับตาสนิทไม่อยากจินตนาการอะไรออกไป พลันอสูรหนุ่มต้องชะงักเมื่อได้รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
“มีตัวยุ่งเข้ามาอีกแล้ว กลิ่นหมาสาบๆคงเป็นอสูรหมาป่าปลายแถว ฮึ คงตามกลิ่นกันมาละสิ” เส็ตโซมารูเหลือบมองอินุยาฉะอีกครั้ง นัยว่าเขาเป็นต้นเหตุ “จะไปรู้ได้ไงละ ตอนนี้ข้าไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้นละ” อินุยาฉะหน้าแดงผลักร่างชายหนุ่มออก คราวนี้ง่ายขึ้นเพียงเพราะร่างที่คร่อมอยู่ยอมลุกไปเอง เส็ตโซมารูย่างเท้าออกไปนอกตัวบ้านทันทีที่ได้เห็นลมหมุนมาไกลๆ อสูรหมาป่าร่างกำยำผมดำขลับปรากฏขึ้นมาหลังลมสงบ “อะไร แกเองเหรอ เส็ตโซมารู อย่าบอกนะว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นแก” โคงะหมาป่าหนุ่มทำหน้าไม่สบอารมณ์เมื่อได้เห็นบุคคลตรงหน้านัยว่าผิดหวังหลังจากที่วิ่งตามกลิ่นหอมรัญจวนเหมือนกลิ่นที่เส็ตโซมารูตามมาเช่นกัน “หึ มาเกะกะลูกตาข้าทำไมเจ้าหมาจรจัดที่นี้ไม่มีอะไรให้แกดมหรอก” เส็ตโซมารูพูดน้ำเสียงเยือกเย็นเช่นเดิม “เชอะ ในบ้านแกซ่อนอะไรไว้ข้าตามกลิ่นมา ตอนแรกมันจางมากเพราะฝน ตอนนี้ได้กลิ่นชัดเจน ข้าไม่รู้หรอกว่าเป็นอะไรแต่ตอนนี้ข้าอยากได้มัน” โคงะประกาศก้อง ไม่อาจทำให้เส็ตโซมารูหวั่นใจ แต่ทันทีที่มองบนฟ้าในอกของอสูรหนุ่มก็โหวงทันที เพราะตอนนี้พระจันทร์ไม่เว้าแหว่งอีกต่อไป คืนนี้จันทร์คราสสิ้นสุดลงแล้วภาพสวยงามเมื่อกี้ก็คงหายไปด้วยเช่นกัน
“ถ้าแกไม่หลีกก็คงต้องใช้กำลังซะแล้ว” โคงะหักนิ้วมือบ่งบอกว่าพร้อมสู้เพื่อแย่งชิงของในบ้านที่ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไรแต่มีความปรารถนาแรงกล้าที่ช่วงชิงมา แต่ไม่ทันจะได้มีอะไรเกิดขึ้น เด็กหนุ่มตาสีทองในชุดแดงเพลิงก้าวเท้าออกจากบ้าน เส็ตโชมารูเหลือบมองไปด้านหลังก็ได้พบกับครึ่งอสูรที่คุ้นเคย อินุยาฉะคนเดิมแต่อาจแปลกไปตรงที่ตอนนี้หน้าแดงกล่ำ น่าดูไปอีกแบบ “อะไร เจ้าหมาจรจัด ที่นี้ไม่มีอะไรให้แกหรอกไปซะก่อนที่ข้าจะฆ่าแก”อินุยาฉะคำราม “แกเหมือนกันเส็ตโซมารูจะรอหาสวรรค์อะไร” โคงะหัวเราะออกมา “ ฮะฮ่า นึกว่าอะไร ที่แท้ปาตี้พี่น้องนี้เอง เชอะ เสียเวลา ตอนแรกนึกว่ากลิ่นของกิน หรือว่าผู้หญิงข้าต้องรีบมาก่อนข้าเห็นหมาป่า กับปีศาจที่ได้กลิ่นกำลังตามมาอยู่ไกลๆแล้ว”
“แล้วไง” เส็ตโซมารูเอ๋ยถามตัดหน้าอินุยาฉะ
“หึ ถ้าของกินข้าจะกินให้เรียบ ถ้าผู้หญิงข้าก็เอามาเป็นเมียสิเฟ้ย ถามได้ เฮ้อ พรุ่งนี้ก็มีจันทร์คราสไม่รู้จะมีกลิ่นดีๆให้ดมอีกไหม ไปละไม่อยากยุ่ง” พูดจบหมาป่าหนุ่มก็กลายร่างเป็นลมหมุนหายไปอีกครั้ง
ในตอนนี้อินุยาฉะยืนตัวสั่นหน้าแดง เพียงเพราะชะตากรรมอัปยศยังไม่จบสิ้น นึกได้เพียงแต่ต้องรีบไปสมทบกับพวกคาโงเมะให้เร็วที่สุดแล้วเล่าความจริงบางทีมิโรคุกับซังโกะอาจจะคุ้มครองอันตรายเค้าได้ในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่จะได้ทะยานตัวออกไป มืออุ่นที่ใหญ่โตคว้าข้อมืออินุยาฉะไว้ได้
“อะไรอีกละเฟ้ย แค่นี้ยังไม่พอใจรึไง”อินุยาฉะไม่สบอารมณ์หันไปประจันหน้ากับเส็ตโซมารู แต่ตาที่มองมาคราวนี้มันแฝงนัยอะไรบางอย่าง
“คืนพรุ่งนี้เจ้าจงมาที่นี้ เจ้ามีอันตรายข้าจะรออยู่”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตลกนา จะมาทำตัวเป็นพี่ที่แสนดีอะไรตอนนี้”อินุยาฉะหัวเราะ
“อย่ามาสำคัญตัว ตราบใดที่ข้ายังไม่รู้ความลับในตัวแก ข้าก็ไม่อยากให้หมาป่าหรืออะไรก็ตามกินแกไปก่อนนะสิ”
“เชอะ จ้างให้ก็ไม่มาให้แกทำตามใจหรอกนา” พูดจบอินุยาฉะก็สะบัดมือพร้อมทะยานออกอย่างว่องไว เส็ตโซมารูได้แต่มองตามไปจนลับทิวไม้ก่อนที่จะทะยานไปเช่นกัน
..
“อ๊า ท่านเส็ตโซมารูกลับมาแล้วหรือครับ” อสูรร่างเขียวดีใจที่นายกลับมาอสูรหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรเช่นเคยอสูรหนุ่มเดินพ้นหัวจาเค็นไปก่อนที่จะชะงักแล้วถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “จาเค็น”
“คร๊าบ ๆเจ้านาย”
“จันทร์คราสจะมีไปถึงเมื่อไหร่” น้ำเสียงเรียบเฉย
“อ้อ..เห็นว่าปีนี้มี3วันครับท่านเส็ตโชมารู พรุ่งนี้วันจันทร์คราสเต็มดวงครับ ไม่ทราบมีอะไรคร๊าบท่าน”
“ไม่มีอะไร ข้าจะไปหาโทโตไซและจะไม่กลับมาสอง สามวัน ดูแลรินด้วย”
“ท่าน ท่าน จะไปไหนเหรอครับ”ไม่ทันที่จะได้คำตอบเช่นเคยอสูรหนุ่มก็ทะยานไป แต่สิ่งที่แปลกออกไปอาจเป็นที่จาเค็นเห็นรอยยิ้มบางๆของนายหนุ่มที่ไม่เคยเห็น
“เหมือนกับกำลังสนุกเลยนะค่ะ นั้นนะ” เสียงไร้เดียงสาของริน ทำเอาจาเค็นระอา
..............................................................................................................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น