คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : เพื่อนรัก... : ตอนที่7 คราวนี้แกไม่รอดแน่...ไอ้จีซอก!!! 100%
คราวนี้แกไม่รอดแน่...ไอ้จีซอก!?!
“บ้านหลังนี้ใช่มั้ย”
“อืม ไม่ผิดแน่นอน ฉันยังจำได้แม่นเลยล่ะ ตอนที่พวกมันถีบฉันออกมาจากตรงนี้น่ะ” ผมชี้ไปยังจุดที่เมื่อเช้าไอ้พวกหน้าสับประหลาดนั่นเตะผมออกมา
“มันทำแบบนั้นกับนายจริงๆเหรอ”
“อืม ตอนนั้นฉันกลัวมากเลยล่ะยูชอน ฉันกลัว~” ว่าเสร็จผมก็อิงแอบลงกับบ่าเท่ๆของยูชอน
เวลานี้ผมขออิงแอบยูชอนก่อน
ไม่มีใครว่าอะไรหรอกเนอะ
“ไม่ต้องกลัวนะจุนซู ฉันจะไปช่วยแจจุงให้ได้” คราวนี้ไม่ใช่ยูชอนที่พูด
แต่กลับเป็นยุนโฮ
ดูสีหน้าเขาเคร่งเครียดมากเลยล่ะ
ยุนโฮ...อาจจะเป็นห่วงแจจุงอยู่ก็เป็นได้นะ
“ช่วยเพื่อนฉันให้ได้นะยุนโฮ...ฉันเชื่อในตัวนาย” แจจุงจะต้องดีใจแน่ๆ
ที่ได้ยินคำพูดเมื่อกี้ของยุนโฮ
...
ตอนนี้ผมกับยูชอน(สุดที่รักในอนาคต)และยุนโฮ(สามีในนามของแจจุง)กำลังเข้ามาในบ้านหลังนี้
หลังที่พวกมันจับผมมาและถีบผมออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
(พูดแล้วก็แอบแค้นในใจไม่ได้)
“นายแยกไปทางประตูครัว ส่วนฉันจะล่อพวกมันไว้เอง”
“แต่...”
“ฉันไหวน่า” ผมกับยูชอนหันมามองกันเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเชิงอนุญาตให้ยุนโฮ
“ถ้ามีอะไรก็เรียกพวกเราได้เสมอ ฉันพร้อมลุยอยู่แล้ว” ยูชอนตบบ่ายุนโฮดังแปะสองครั้ง ยุนโฮหันมายิ้มให้ผมกับยูชอนสลับกันก่อนจะมุ่งหน้าเข้าไปในบ้าน
“มากันแค่สามคน นายแน่ใจเหรอว่าจะไหวน่ะ” ที่ผมถามไม่ใช่เพราะกลัวตายหรือเกิดป๊อดขึ้นมาแต่อย่างใด
แต่ผมเป็นห่วงความปลอดภัยของแจจุงต่างหาก
“เห็นไอ้ยุนมันยิ้มๆให้แบบนี้นะ...เวลาเอาจริงมันก็ไม่ปล่อยใครง่ายๆเหมือนกัน” ยูชอนกระซิบชิดหูผมทำเอาผมอดจะสยิวไส้เสียไม่ได้
นายพูดเบาๆก็ได้ ไม่ต้องกระซิบหรอก
ภูมิต้านทานฉันมันต่ำนะ
“แล้วเราจะรอตรงนี้ไปถึงเมื่อไหร่กันล่ะ”
“อีกสักพัก ถ้าไอ้ยุนเงียบไปเมื่อไหร่ล่ะก็...เราก็ค่อยบุก”
“อืม แล้วแต่นายเลยแล้วกัน ฉันขอให้แจจุงปลอดภัยก็พอ” พูดจบผมก็หันไปให้ความสนใจกับในบ้านต่อ
...
ทำไมในบ้านมันถึงได้เงียบขนาดนี้
ไอ้พวกเดนนรกนั่นมันหายหัวไปไหนหมด!!!
ไม่ต้องรอให้เสียเวลา ผมรีบเปิดประตูทีละห้องตั้งแต่ชั้นหนึ่งยันชั้นสอง (บ้านหลังนี้มีสองชั้น) เป็นบ้านที่ไม่ใหญ่และก็ไม่เล็กจนเกินไป
แต่แปลก...
ที่ผมกลับไม่เจอสิ่งมีชีวิตตัวใดหลงเหลืออยู่เลย
“เฮ้ ยู~” รู้สึกตัวอีกทีก็ราวกับมีอะไรสักอย่างจ่ออยู่บริเวณด้านหลังผมเสียแล้ว
ผมหันไปมองไอ้หน้าอมหิตที่กำลังใช้มืออีกข้างเคะขี้ฟันอย่างไม่เกรงใจผม ผมมองไปทางมือของมันก็พบว่าสิ่งที่จ่อหลังผมอยู่นั่นก็คือ
ปืน...
“รนหาที่ตายนักนะแก...”
“ฉันแค่จะมาช่วยเพื่อนฉัน”
“อ๋อ ที่แท้ก็เป็นพวกเดียวกับเมียไอ้จีซอกนั่นเอง ถึงว่า...” ไอ้หน้าอมหิตมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพยักหน้าให้กับตนเองราวกับกำลังพิจารณาอะไรสักอย่างในตัวผม
“หุบปากเน่าๆของนายไปซะ!”
“จุ๊ๆ~อย่าเอาชีวิตมาเสี่ยงกับไอ้แค่เพื่อนคนเดียวเลยดีกว่านะจะบอกให้”
“ทำไมฉันจะต้องเชื่อแก”
“อ้าว คนอุตส่าห์หวังดี...” ไอ้หน้าอมหิตพูดเสียงเศร้าผิดกับหน้าตาที่ยังคงยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผมอยู่
“ฉันว่าแกมาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเสียจะดีกว่านะ...ฉันไม่อยากใช้กำลัง” ไอ้หน้าอมหิตมองหน้าผมนิ่งก่อนจะลดปืนลง
“แต่ฉันอยากใช้!!!”
อึก อัก ผลั๊วะ พล๊ะ!!!
ผมเตะไปที่ไอ้หน้าอมหิตที่กำลังนอนแดดิ้นใกล้เดี้ยงอยู่ตรงพื้นด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะย่อตัวลงถาม
“แจจุงอยู่ไหน”
“ฉันไม่รู้”
“อา~ฉันกะว่าจะไม่ใช่เจ้านี่แล้วนะเนี่ย แต่นายกลับต้องทำให้ฉันทำแบบนี้เองนะ...” ผมพูดเสียงทุ้มต่ำก่อนจะชักมีดพกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ตัวเก่งออกมาโชว์ให้เป็นขวัญตาไอ้หน้าอมหิต
“ฮะ...เฮ้ยๆ! มะ...มีอะไร ก็พูดกันดีๆ ก็ได้นะ...นี่” ไอ้หน้าอมหิตพูดเสียงสั่นพร้อมกับพนมมือขึ้นไหว้ขอชีวิตผม
“แค่แกบอกมาว่าเพื่อนฉันอยู่ไหน...แล้วแกจะปลอดภัย”
“ประ...ประมาณบ่ายสอง อะ...ไอ้จีซอก มะ...มันจะพา พะ...เพื่อนแก มาที่นี่...”
“อืม ถ้าแผนนี้ล่ม...นายก็อดได้เงินจากไอ้จีซอกงั้นสิ” ไอ้หน้าอมหิตพยักหน้ารัว
“ชะ...ใช่ ไอ้จีซอกมันจ้างฉันมา แล้วก็เพื่อนอีกสองคน”
“แล้วเพื่อนนายไปไหน”
“มะ...มันออกไปรับเพื่อนนายนั่นแหล่ะ แต่ไม่เกินบ่ายสอง...คงมา”
“อืม นายสนใจจะช่วยงานเล็กๆน้อยๆฉันไหมล่ะ...รับรองว่าเงินงาม” ไอ้หน้าอมหิตหันมามองผมด้วยสีหน้างงๆก่อนจะพยักหน้ารับ
“นายจะให้พวกฉันคนล่ะเท่าไหร่ล่ะ”
“เท่านี้พอไหม” ผมหยิบกระเป๋าสตางค์ของตนเองขึ้นมาก่อนจะหยิบแบงค์พันนับสิบใบออกมาให้ไอ้หน้าอมหิตดู
“อะ...โอเค จะให้เริ่มแผนตอนไหน ยังไงล่ะ”
“ตอนนี้เลย โทรนัดเพื่อนแกทั้งสองภายในสิบนาทีด้วย บอกตามที่ฉันบอก เข้าใจใช่ไหม” ไอ้หน้าอมหิตพยักหน้ารับผมรัวก่อนจะต่อปลายสายไปที่เพื่อนทั้งสามของมัน
คราวนี้แกไม่รอดแน่
ไอ้จีซอก!!!
...
“ตามเข้ามา ไม่ต้องพูดมาก และก็ไม่ต้องถามอะไรฉันด้วย” ร่างสูงพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะพาร่างบางเข้าไปในบ้านโดยไม่ยอมให้ร่างบางได้คิดหรือแม้แต่จะออกปากปฏิเสธแต่อย่างใด
“จะ...แจจุง! อะ...อู้ๆ...”
“อย่าเสียงดังไปสิ เดี๋ยวแผนก็ล่มกันพอดี” มือสากของยูชอนรีบคว้าหมับปิดปากจุนซูทันทีก่อนใช้มืออีกข้างยกขึ้นจ่อปากของตน
ว้าว ปากยูชอนน่าจูบจัง
คิดแล้วก็แอบเคลิ้มเลยเรา
“อือๆ” ผมพยักหน้ารัวให้ยูชอน ยูชอนจึงยอมปล่อยมือจากปากของผม
อันที่จริงปิดไว้นานๆก็ได้
มือนายหอมดีนะยูชอน
“แล้วไอ้สามตัวนั่นหายไปไหนแล้วล่ะ” ยูชอนหันไปถามยุนโฮ
“มันกำลังวางแผนกันอยู่ที่ชั้นล่าง อีกไม่นานคงขึ้นมา” พวกผมทั้งสามพยักหน้าให้กันก่อนจะนั่งสังเกตการณ์กันต่อไป
“นายพาฉันมาที่นี่ทำไม”
“ถามได้ ฉันก็จะพานาย...มาสานต่อความสัมพันธ์ของเรายังไงล่ะ” ร่างสูงยิ้มกรุ่มกริ่มให้ร่างบางพลางลูบไล้ไปที่เสื้อสีขาวตัวบางของร่างบางที่หมายจะจับจองเป็นเจ้าของ
“ไอ้สารเลว!” ผมทำได้เพียงสบถด้วยความโกรธ
“ชวู่…อย่าเสียงดังไปดิ เดี๋ยวไอ้จีซอกก็รู้กันพอดี” ยูชอนเตือนผม
“สานต่อความสัมพันธ์อะไรของนาย ในเมื่อตอนนี้เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว” แจจุงยังคงพยายามปฏิเสธออกไป
“ถ้าวันนั้นไอ้ยุนโฮมันไม่มาช่วยนาย นายก็ตกเป็นเมียของฉันไปแล้ว!!!” จีซอกตะคอกใส่แจจุงลั่น ก่อนจะจับหน้าของแจจุงไว้แน่นแล้วบรรจงจูบไปทั่วใบหน้า
ก๊อกๆ!
จีซอกถอนหายใจด้วยความเสียดายก่อนจะผละแจจุงออกแล้วเดินไปประตูให้ผู้มาใหม่
“ทำไมตั้งนานไม่มาวะ ดันมาตอนที่กูกำลังจะมีความสุขกับแจจุงอยู่” จีซอกสบถใส่บุคคลที่มาใหม่ทั้งสาม
“ฉันไม่ได้ตรัสรู้ได้นี่ ว่าแกอยากจะปล้ำแจจุงตอนไหน”
“ไอ้บ้านี่!!!” จีซอกยกมือขึ้นมาไว้เหนือศีรษะหวังว่าจะตบคนทั้งสอง แต่ก็ต้องยอมลดมือลงแต่โดยดีเมื่อเห็นสีหน้าของไอ้หน้าอมหิตดูจริงจังมากจนน่ากลัว
โยนแบงค์พันให้หลายปึก
คงจะทำงานได้ดีนะ
“เอาสิ ถ้าแกกล้าตบฉัน ฉันก็กล้าฟ้องตำรวจ...ว่าแกจับตัวแจจุงมาขังไว้” แหม ทำเป็นเก่ง
ไอ้หน้าอมหิตริดสีดวงทวาร
“หึ! เอาเถอะ ฉันไม่อยากจะมาทะเลาะกับพวกนายให้เสียเวลา จะไปไหนก็ไปซะ ฉันจะทำธุระกับแจจุง...สองต่อสอง”
ไอ้หน้าอมหิตหันมาขยิบตาให้ทางพวกผมก่อนจะเดินจากไป
“ฉันว่าเราบุกเลยดีไหม”
“อย่าพึ่งสิจุนซู นายลืมไปเหรอ ว่าข้างหลังมันมีอะไร” จุนซูหันไปมองตามสายตาผมแล้วก็ต้องถึงกับสะอึก
“ปะ...ปืน ปืนนี่!?!”
“ใช่แล้ว ไว้รอให้มันเผลอก่อน แล้วเราค่อยบุกไปช่วยแจจุง มันไม่คุ้มกว่าหรือไง”
“แต่ว่า...”
“ฉันเชื่อ...ว่าแจจุงจะปลอดภัย”
“กะ...ก็ได้”
…
“นะ...นายอย่าทำอะไรบ้าๆแบบนั้นนะจีซอก!” ดูเหมือนแจจุงจะตกใจมากที่อยู่ดีๆจีซอกก็ขึ้นคร่อมร่างของเขา
“ทำอะไรบ้าๆงั้นเหรอ? นี่นายกำลังดูถูกความรักที่ฉันมีให้กับนายอยู่นะแจจุง” จีซอกจับมือของแจจุงขึ้นมาก่อนจะจุมพิตลงไปอย่างแผ่วใบ
“จะ...จีซอก แต่ฉัน...”
“นายอย่าปฏิเสธฉันอีกเลยนะแจจุง นายให้โอกาสฉัน สักครั้งนะ”
“จะ...จีซอก...”
“แจจุง ฉันรักนาย…” ว่าเสร็จมือของจีซอกก็เริ่มปลดกระดุมบนเสื้อของแจจุงอย่างช้าๆก่อนจะลูบไล้ไปบนแผ่นอกเปล่า
“จะ...จีซอก อ้า...”
“แจจุง ฉันรักนายจริงๆ ฉันรักนาย...” จีซอกยิ้มให้กับแจจุงก่อนจะวางปืนของตนลงไว้ที่ด้านหลัง
คราวนี้แหล่ะ!
“จะ..จีซอก...ระวัง!”
ผลั๊วะ!!!
ร่างสูงที่กำลังขึ้นคร่อมร่างบางอยู่ถึงกับต้องหงายหลังสลบไปเมื่อโดนปืนที่เจ้าตัววางไว้อยู่ด้านหลังตบเอาเสียได้
“ยะ...ยุนโฮ!!!” ร่างบางโผเข้ากอดกับร่างสูงที่เข้ามาช่วยผมไว้ทัน ก่อนที่บุคคลอีกสองบุคคลจะออกมาตาม
“ยูชอน จุนซู!!!” ผมผละจากยุนโฮก่อนจะวิ่งไปกอดยูชอนกับจุนซูที่กำลังทำสีหน้าจะฆ่าจีซอกอยู่
อั้ก!!!
“แจจุงฉันอึดอัด ไปกอดจุนซูนู่น!” ยูชอนตะคอกใส่ผม
ทำไมเขาถึงชอบพูดเสียงดังใส่คนอื่นอยู่เรื่อยนะ!
“ก็ได้ ฉันไม่กอดนายแล้ว!” ผมพูดด้วยสีหน้างอนๆก่อนจะหันไปกอดจุนซูแทน
“ฉันคิดถึงพวกนายมากเลยนะ” ผมหันไปบอกจุนซู ยูชอน และยุนโฮ
“ฉันว่าเวลานี้พวกเราควรจะออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดนะ ส่วนไอ้จีซอกฉันโทรเรียก191แล้ว คาดว่าไม่ถึงห้านาทีมันคงจะได้ไปเที่ยวรับวันตายที่ฮ่องกง” ถึงหน้าเขาจะจริงจังขนาดไหน
แต่เขาก็ยังสามารถเรียกเสียงหัวเราะเพื่อให้สถานการณ์หายตึงเครียดได้เช่นเดิม
…
เป็นตามดังผมคาดเป้ะๆ ผมต้องนั่งซ้อนท้ายเป็นเด็กสก๊อยยุนโฮอีกจนได้ ดูสีหน้ายุนโฮสิ เขายังคงความนิ่ง เรียบ และหล่อไว้ได้ทุกนาทีจริงๆ
“ขอบใจมากนะที่มาช่วยฉัน”
“มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไรนี่” ยุนโฮพูดด้วยน้ำเสียงชิลๆ
ยิ่งเขาทำตัวแบบนี้
ผมก็ยิ่งหลงรักเขาขึ้นทุกวันแล้วสิ
“นายมักจะมาช่วยฉันตลอดในตอนที่ฉันมีอันตราย แต่ฉันกลับไม่เคยตอบแทนอะไรนายเลย...อา ฉันนี่มันแย่จริงๆ” ผมพูดกับตนเองด้วยความน้อยใจปนเสียใจก่อนจะเขกหัวตัวเองดังโป้กไปทีนึง
แต่หมวกกันน็อครูปโดเรมี่(ของยุนโฮ)
ก็กลับช่วยผมไว้ด้วยเสียอีก
“นายไม่ต้องตอบแทนอะไรฉันหรอก แค่นี้ฉันก็พอใจแล้วล่ะ”
“พอใจ? นายพอใจอะไร”
“พอใจที่ได้ช่วยนายไง” เขาพอใจ ที่ได้ช่วยผมเหรอ
ทำไมกันล่ะ?
“ไม่รู้แหล่ะ ยังไงสักวันหนึ่งฉันก็ต้องตอบแทนนายให้ได้” ผมยื่นคำสัตย์ให้ยุนโฮ
“หึหึ อืม แล้วฉันจะรอวันนั้น” ยุนโฮเค่นเสียงหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเร่งคันรถให้ผมได้ตกใจเลย
“เฮ้! นายจะบ้าเหรอ ทำไมถึงขี่ไวขนาดนี้ล่ะ ฉันตกใจนะ” ถ้าผมเป็นผู้หญิงผมคงต้องกรี๊ดลั่นถนนแตกไปแล้วแน่ๆ
“ก็ฉันหมั่นไส้นายนี่”
“นายมาหมั่นไส้อะไรฉันเล่า!” คนอย่างผมมันน่าหมั่นไส้ตรงกันไหน
“เอาไว้สักวันฉันต้องตอบแทนนายให้ได้!” ยุนโฮทำเสียงเลียนแบบผมพร้อมกับแลบลิ้นผ่านกระจกหน้ารถส่งมาให้ผม
“ยุนโฮ!” ผมตีไปที่ต้นแขนเขาอย่างแรงโทษฐานที่ล้อเลียนผม
แต่ถึงนายจะล้อเลียน แกล้ง หรือว่าอะไรฉัน
ฉันก็ยังรักนายเสมอนะ ชอง ยุนโฮ ที่รัก
...
ความคิดเห็น