คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : เพื่อนรัก...♥ : ตอนที่9 Pooh Or Yunho !?! 100%
Pooh Or Yunho!?!
ผมตะโกนด่าร่างสูงที่กำลังเดินจากไปด้วยความเดือด แต่ก็ยังไม่ลืมบอกเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง…
“รถนายจอดอยู่ที่ตลาด ไปเอาเองด้วย!” ยุนโฮหยุดชะงักก่อนจะเดินต่อไป
นิ่งให้ได้ตลอดแล้วกัน
พ่อคนอยากขึ้นคาน!!!
…
ผมก้มลงเก็บข้าวของที่ถูกผมปาใส่ยุนโฮขึ้นด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะหายหงุดหงิดบ้างแล้วนิดหน่อย
มีทั้งช้อน ซ้อม แจกันพลาสติก กรอบรูป รองเท้า บลาๆ
และเขาก็เดินเข้ามาใกล้ผม
เพื่อจะบอกว่า
เจ็บ...
เจ็บ...แบบหน้าตายเนี่ยนะ!!!
ให้ตายสิ...
เขาไม่เหมือนผู้ชายทั่วไปเลยจริงๆ ไม่ว่าเขาจะอยู่ในอิริยาบถ ท่าทาง ความรู้สึก หรืออารมณ์ไหน ก็มักจะหนีไม่พ้นหน้าหล่อๆที่ทำหน้าบูดไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมาอยู่ตลอด
(One look from your girl It is too hard to get by…)
“โทรมาทำไมอีกล่ะ”
‘นายต้องรับผิดชอบ...’
“จะให้ฉันรับผิดชอบอะไรล่ะ ในเมื่อเมื่อคืนนายเมา ฉันเลยพามาส่งบ้าน...”
‘พาฉันไปส่งที่เมียงดง...’
“ฮะ!?!”
‘ถ้านายไม่ออกมาภายในห้านาทีนี้ ฉันจะขายเจ้าบ้านี่ให้ลุงขายของเก่าที่กำลังปั่นสามล้ออยู่หน้าปากซอย...’ เจ้าบ้าที่ว่า...
คงจะหนีไม่พ้นฟีโน่สุดรักของผมอีกสินะ
“โอเคๆ รออยู่หน้าบ้านนั่นแหล่ะ ฉันล่ะกลัวนายขายเพื่อนรักฉันจริงๆ” ผมพูดประชดยุนโฮก่อนจะวางสายไป
ใช้แต่คำขู่ประเภทเดิมๆ
นี่แหล่ะเขาเลย...
...
ผมรับอาสาขับเจ้าฟีโน่มาส่งยุนโฮที่เมียงดง (อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก) ที่ผมทำไม่ใช่เพราะกลัวเขาจะขายเจ้าฟีโน่เพื่อนยากผมไปนะครับ
แต่เป็นเพราะผมอยากมาสูดอากาศที่เมียงดงในยามเช้าก็เท่านั้นเอง
“ถึงแล้วก็ลงซะสิ” ผมสั่งเขาเสียงแข็ง
ยุนโฮมองหน้าผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่งตามแบบฉบับดั้งเดิมของพี่แกเขา ก่อนจะลงจากรถแล้วโยนหมวกกันน็อกลายหมีพูให้ผม
“วันหลังหัดซื้อหมวกกันน็อกลายดีๆหน่อยได้ป่ะ...ใส่แล้วรู้สึกแปลกๆ”
“แต่ฉันว่ามันเหมาะกับนายมากเลยนะ ดูสิตัวอวบเหมือนกันเลย” ผมมองยุนโฮสลับกันเจ้าหมีพูที่กำลังส่งยิ้มกว้างที่อยู่ตรงหมวกกันน็อกให้
“ฉันออกจะหล่อกว่าเจ้านี้ตั้งเยอะ” ยุนโฮผลักหมวกกันน็อกหมีพูใส่ผมอย่างจัง
เชอะ ล้อเล่นแค่หน่อยเดียวก็ไม่ได้!
“ครับๆ ทราบแล้วครับคุณชาย ว่าหล่อจริงๆ” ผมพูดล้อเลียนพร้อมกับแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขา
ยุนโฮกับหมีพู...
มันก็เหมือนแฝดพี่ แฝดน้องนั่นแหล่ะน่า...
…
“กลับบ้านดีๆล่ะ...แจจุงหน้าหมวย”
“นายนั่นแหล่ะ ขอให้จีซอกตามไปจับปล้ำถึงบ้านเลย!” ผมตะโกนตามหลังเจ้าเวสป้าที่ขี่ไปไกลได้พอสมควรแล้ว
อา วันนี้หน้าที่ของผมมันก็จบลงแค่นี้แล้วสินะ
งั้นก็ขอกลับไปนอนต่อสักหน่อยแล้วกัน
...40%
หลังจากที่เมื่อคืนไปค้างที่บ้านของแจจุงมาพอเป็นพิธีแล้ว พอกลับมาถึงบ้านก็โดนคุณปู่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เกรงกลัวของทุกคนในบ้านถามถึงการไม่ยอมกลับบ้านข้ามวันทันที...
“เมื่อคืนไปไหนมา”
“ไปค้างบ้านแจจุงมาครับ” ผมตอบด้วยเสียงเรียบกลับ ก่อนจะถอดเสื้อกันหนาวออกแล้วแขวนไว้ตรงราวตากผ้าอย่างไม่ได้สนใจบุคคลที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าเลยสักนิด
“ใครคือแจจุง”
“รับรองว่าไม่ใช่สาวๆแน่นอนครับ”
“ฉันรู้ แต่แจจุงน่ะคือใคร” คุณปู่วางหนังสือพิมพ์ลง ก่อนจะจ้องหน้าผมนิ่ง
“เพื่อนสนิทคนใหม่รองลงมาจากยูชอนครับ”
“ไปค้างบ้านคนอื่นเขา ทำความเดือดร้อนให้เขาอีกสิท่า”
“ไม่มากนักหรอกครับ แค่กวนประสาทตอนเช้านิดๆหน่อยๆให้พอหายง่วงบ้าง…ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ” ผมบอกตัดบทคำถามที่กำลังจะถาโถมเข้ามาในอีกไม่ช้านี้ไป ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวเดินจากเข้าไปในห้องน้ำ
ปัง!
ผู้เป็นคุณปู่ที่ทรงอายุที่สุดในบ้านหลังนี้ถึงกับส่ายหัวด้วยความระอาให้กับพฤติกรรมของหลานชายคนเดียวของตน
‘ไม่ไหวจริงๆ...หลานชายคนนี้’
…
หลังอาบน้ำเสร็จ...
“คุณชายคะ มีแขกมาพบค่ะ”
“ใคร”
“คุณฮวัง มิยองค่ะ”
“ให้เธอเข้ามา”
“ค่ะ” หญิงสาวยิ้มให้ผม ก่อนจะเชิญ ฮวัง มิยอง หรือทิฟฟานี่ น้องสาวทางญาติเข้ามา
“ลมพัดอะไรเธอมาที่นี่ล่ะ” ผมแขวะ
“หืม พี่ยุนก็...มิยองแค่คิดถึงพี่เองนี่คะ ไม่เห็นจะต้องมีลมอะไรพัดมาเลย” มิยองขยับมานั่งใกล้ผมก่อนจะโผเข้ากอดผมเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา อาจจะเป็นเพราะเรามีปัญหาทางครอบครัวเหมือนกัน
เราสองคนเลยย่อมรู้ใจกันมากที่สุด…
“ที่บ้านไม่มีใครอยู่เหรอ” มิยองส่ายหน้าให้ผม
“มีแค่แม่บ้านเองค่ะ” มิยองตอบเสียงเศร้า ผมลูบหลังเธอเบาๆอย่างไม่ต้องคิดมาก
ผมเข้าใจความรู้สึกเธอดี…
“อืม ไม่เป็นไร...วันนี้เราจะมาค้างที่นี่เลยไหมล่ะ พี่จะได้โทรให้คนบ้านนั้นเก็บกระเป๋ามาให้เลย”
“ไม่ดีกว่าค่ะ มิยองไม่อยากรบกวนพี่” มิยองส่งยิ้มตาหยีให้ผมแบบเช่นเคย
นี่ก็คือหนึ่งเอกลักษณ์ของเธอ ไม่ว่าชายใดที่ได้เผลอสบตากับเธอเข้าแล้วล่ะก็
ย่อมละลายกันเป็นแถว…
“งั้นก็ตามใจ ว่าแต่กินอะไรมาหรือยังล่ะ” มิยองส่ายหน้าให้ผมรัวพร้อมกับยิ้มแหยๆให้
อีกหนึ่งเหตุผลที่เธอมาบ้านผม คงจะหนีไม่พ้น
มาให้ผมเลี้ยงข้าวมื้อเที่ยงให้อีกเหมือนเดิม...
“พี่ยุนต้องเลี้ยงมิยองนะคะ นะๆ” มิยองขยับมาชิดผมก่อนจะออดอ้อนราวกับเด็กกำลังอ้อนให้ซื้ออมยิ้มให้
ถ้าผมไม่เลี้ยงข้าวเธอ
คอมพิวเตอร์ผมมันจะดับไหมนะ?
“เอาอย่างนั้นก็ได้ งั้นเธอออกไปรอพี่ข้างนอกก่อนเลย เดี๋ยววันนี้พี่จะอาสาพาขี่เวสป้าพาเที่ยวเอง”
“จะ...จริงเหรอคะ!?!” มิยองทำตาโตพร้อมกับเขย่ามือผมรัว
“จริงสิ อยากนั่งไหมล่ะ” มิยองพยักหน้ารัวให้ผม
นี่อาจจะเป็นครั้งแรกก็ได้...
ที่เธอได้มีโอกาสนั่งเจ้าเวสป้าเพื่อนซี้ เพื่อนรักของผม
...60%
12.30น.
วันนี้ผมตัดสินใจโทรนัดจุนซูออกมาทานอาหารรับแดดจัดในยามเที่ยงครึ่งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวถนนสุขุมวิท
ถนนที่ขึ้นชื่อเรื่องร้านอาหารสำหรับผม
“ขอโทษนะครับ ผมขอนั่งด้วยคน ได้ไหมครับ?” เสียงหวานที่คุ้นเคยแม้ไม่ต้องมองหน้าก็รู้ว่าเป็นใคร
“มามุกไหนอีกล่ะ” ผมพูดอย่างรู้ทัน
“แหม ก็แค่จะทำเสียงเข้มๆคล้ายจีซอกให้นายกลัวซะหน่อย” จุนซูพูดอย่างหมดอารมณ์ก่อนจะลากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามผมแล้วนั่งลง
“ได้ข่าวว่าจีซอกติดคุกไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
“อืม คิดไปคิดมาก็น่าสงสารนะ แต่มันก็สมควรแล้วล่ะ” นั่นสิ ทั้งน่าสงสาร
แต่มันก็สมควรแล้ว...
“ฉันว่าเราอย่าคุยเรื่องนี้เลยนะ...แจจุง ฉันสั่งได้ยัง หิวแล้วนะ” จุนซูทำปากยู่ยับก่อนจะลูบท้องตัวเองปอยๆแสดงให้เห็นว่าตนหิวได้เต็มที่แล้ว
นายก็แบบนี้ทุกทีสิน่า...
“ฉันไปห้ามนายตอนไหนล่ะ” ผมพูดอย่างตัดพ้อ จุนซูยิ้มกว้างให้ผมก่อนจะปรบมือสองสามครั้งเพื่อเรียกพนักงานเสิร์ฟ
“รับอะไรดีคะ”
“ผมขอ กุ้งสามรส เกี๊ยวกุ้งต้มยำ ยำวุ้นเส้น ปลากระพงเผาเกลือ ครับ”
“ส่วนผมขอของหวานเป็น ไอศกรีมยัดไส้ อย่างละสองครับ”
“รอสักครู่นะคะ” หญิงสาวพนักงานเสิร์ฟยิ้มให้ผมสลับกับจุนซูแล้วเดินจากไป
หวังว่าที่เธอยิ้มให้พวกผม
ไม่ใช่เพราะเธอแอบพิศวาสพวกผมอยู่หรอกนะ
ในระหว่างที่ผมคุยกับจุนซูรออาหารที่สั่งนั้น พลันสายตาของผมก็เผลอไปเห็นชายหนุ่มกับหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังเดินเข้ามานั่งในร้าน ชายหนุ่มกับหญิงสาวคู่นั้นเลือกโต๊ะที่ไม่ห่างจากจุดที่ผมกับจุนซูนั่งมากนะ
ถึงแม้เขาจะเคยบอกว่าเธอเป็นน้องสาวห่างๆของเขา
แต่ทำไมหัวใจผมมันดันเจ็บขึ้นมาแปลกๆนะ
“มีอะไรหรือปล่าวแจจุง...นายดูเหม่อนะ” จุนซูโบกมือรัวอยู่ตรงหน้าผมพร้อมกับหันไปตามทิศทางที่ผมมองคู่หนุ่มสาวเมื่อกี้
“ไม่มีอะไรหรอก...แดดร้อนเลยเพลียน่ะ” ผมแก้ตัวไป ถึงมันจะดูฟังไม่ขึ้นสำหรับจุนซูก็เหอะ
“ทั้งที่นั่งลมพัดไหวๆอยู่เนี่ยนะ” แน่ล่ะ ก็ผมเล่นมานั่งร้านอาหารที่ติดกับแม่น้ำนี่
จะให้มันร้อนจัดเหมือนอยู่กลางแดด ก็คงเป็นไปได้ยาก
“อืม สงสัยจะเมาแดด ยังไงฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” จุนซูพยักหน้าเชิงอนุญาตให้
…
ผมหอบสังขารที่ดูเหมือนจะเมาแดดบวกกับหมั่นไส้คู่พี่น้องนั้นตงิดๆ มายืนอยู่ตรงกระจกบานใหญ่ในห้องน้ำ ก่อนจะจ้องมองกระจกบานนี้ราวกับเป็นหน้าของคนที่ทำให้ผมมีสภาพแบบนี้
“แน่ใจหรือไงว่านั่นน้องสาว น้องสาวบ้านนายสิ ถึงได้มีนั่งกระหนุง กระหนิง ยิ้มกันไป ส่งสายตาหวานกันมา หมั่นไส้จริงๆ” ผมหยิบยาดมออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วโยนใส่กระจกนั่นราวกับว่ากระจกนี้คือบุคคลที่ทำให้ผมโกรธ
“พอโกรธแล้วกันมาลงกับกระจก...ปัญญาอ่อน” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยของใครสักคนดังออกมาจากหลังห้องน้ำ ก่อนที่ร่างของผู้พูดจะเผชิญหน้ากับผมเข้าอย่างจังผ่านกระจก
“ยะ...ยุนโฮ!?!”
“ถ้าอยากจะระบายมากนักก็ไประบายกับเจ้าตัวเขาสิ จะมาระบายกับสิ่งที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวทำไม”
ก็ไอ้คนที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้
ก็คือนายยังไงล่ะ!!!
“ฉัน...”
“แล้วอย่ามาหาว่าฉันแอบฟังล่ะ ฉันก็แค่มาเข้าห้องน้ำ แล้วเผลอได้ยิน...สิ่งที่นายพูดออกมา” ยุนโฮยักไหล่ให้ผมก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป
หึ้ย! ยุนโฮบ้า!
ฉันเกลียดนายที่สุดเลย!!!
...70%
หลังจากทำใจอยู่นานผมก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าแบบปกติพร้อมกับส่งยิ้มให้เพื่อนสนิทที่กำลังกินเมนูต่างๆที่ตนสั่งไว้อยู่
“ทำไมมาช้าจังล่ะ...เห็นไหมฉันกินเกือบจะหมดแล้ว”
“ขอโทษทีที่ต้องให้รอนาน” ผมยิ้มให้จุนซู ก่อนจะยกน้ำเปล่ามาดื่มให้หายเพลีย(ใจ)สักหน่อย
“เมื่อกี้ฉันเห็นยุนโฮควงยัย...”
“อืม ฉันรู้แล้วล่ะ” ผมเลี่ยงที่จะไม่สบตากับจุนซู ถึงยุนโฮจะบอกว่าเป็นแค่น้องสาวก็เถอะ
แต่นั่นก็ไม่ใช่น้องสาวแท้ๆนี่ นามสกุลก็คนละนามสกุล แถมยังสวยอีกต่างหาก
ผู้ชายคนไหนจะอดใจไหวกันล่ะ
“นี่จุนซู...ฉันถามอะไรนายหน่อยสิ” จุนซูละสายตาจากเมนูข้างหน้า ก่อนจะหยิบทิชชู่มาเช็ดปากพอเป็นพิธีแล้วหันหน้ามามองผมด้วยสายตาสงสัย
“นายชอบผู้หญิงสวยหรือเปล่า” ดูเหมือนจุนซูจะเอนหัวลงเล็กน้อยก่อนจะชักสีหน้าสงสัยขึ้นมา
ถึงผมจะเป็นผู้ชาย
แต่ผมก็เผลอชอบผู้ชายด้วยกันเข้าไปแล้วนี่
ต่อมรับรส(ผู้หญิง)เลยตายด้านไปโดยปริยาย...
“แน่นอนอยู่แล้ว นายไม่ชอบเหรอ?”
“ชะ...ชอบ ชอบสิ ผู้หญิงสวยนี่เนอะ”
ผู้หญิงสวย...
ย่อมคู่ควรกับผู้ชายหล่อ
คนหน้าตาธรรมดาอย่างผม
ไม่มีสิทธิเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้เลย...
ความคิดเห็น