ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (EXO) ' ค ลั ง ฟิ ค แ ป ล เ ด็ ก ด า ว '

    ลำดับตอนที่ #5 : (CHANSOO) For the Love of Trees [II/II] ;

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ค. 57


    For the Love of Trees

    Original story: http://19-blue-roses.livejournal.com/45467.html

    written by: drainbamage954

    pairing: chansoo



     

    PART II.





    อยู่มาวันหนึ่ง จงอินเดินแหวกป่าเข้ามาคนเดียว เขามองไปมาอย่างระแวงราวกับกลัวโดนใครจับได้ เขาย่างกายเข้าหาชานยอลอย่างเงียบๆ ขณะที่เซฮุนที่นั่งอยู่บนกิ่งไม้ของชานยอลจ้องมองจงอินตาไม่กระพริบ




     

    “นายไม่ชอบเจ้าตัวนี้สินะ” เซฮุนหันไปถามกับชานยอลพลางขยับหางไปมา




     

    “ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบเขาหรอก..” ชานยอลเอ่ยตอบ “แต่แค่- โอ๊ย!!! โอ๊ยเจ็บชิบหาย!”




     

    เซฮุนถลึงตาตกใจและมองลงกลับไปที่เจ้ามนุษย์ผิวแทนที่ขณะนี้ยืนก้มชิดกับลำต้นของชานยอล ชานยอลรู้สึกไม่อยากเป็นต้นไม้และอยากเป็นลู่หานหรือเจ้ากระต่ายจงแดที่สามารถกระโดดหนีจากอันตรายนี้ได้




     

    “มันทำบ้าอะไรวะเนี่ย?” เซฮุนขึ้นเสียงขณะกระเด้งตัวขึ้นยืนและมองลงมายังเจ้ามนุษย์อย่างตื่นตกใจ “เห้ย นั่นมันมีดนี่?!”




     

    จงอินก้มตัวหาชานยอล มือข้างหนึ่งวางยันกับลำต้น อีกข้างกำลังแทงของแหลมและร้ายกาจเข้าหาตัวชานยอล เขาขยับลากสิ่งนั้นขึ้นลงบนลำต้นของชานยอล ทำให้ผิวของชานยอลหลุดออกมาเป็นชิ้นเล็กๆ จงอินแลบลิ้นออกมาเล็กน้อยขณะที่เขาขมักเขม้นกับสิ่งที่เขากำลังทำ..ชานยอลรู้สึกอยากเป็นมนุษย์ขึ้นมาอีกครั้งเพราะเขาอยากจะโอดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด




     

    “เฮ้ จงอิน นายทำอะ-” ชานยอลไม่รู้ว่าคยองซูมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอรู้ตัวอีกทีเขาก็มายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว ตัวแข็งทื่อพลางจ้องจงอินเขม็ง จงอินสะดุ้งหันกลับไปหาต้นเสียงและหยุดการกระทำเมื่อเห็นคนตัวเล็กกว่า ของแหลมยังคงปักคาอยู่บนตัวชานยอล “นายทำบ้าอะไรน่ะ?” คยองซูสูดหายใจเข้า เสียงของเขาไม่เหลือความสดใสเลย




     

    “เฮ้” จงอินเอ่ยพลางยิ้มเขินๆ เขายืนตัวตรงและเอาของแหลมร้ายกาจออกจากตัวชานยอลในที่สุด “ฉันแค่..เอ่อ นายมาเร็วจังแฮะ..ฉันก็แค่อยากจะเซอร์ไพรซ์นายน่ะ”




     

    “นายกำลังแกะสลักบนต้นไม้ฉันอย่างนั้นเหรอ?” เสียงของคยองซูแหลมขึ้นขณะที่เขาพยายามจะเค้นคำตอบจากอีกฝ่าย และนั่นทำให้รอยยิ้มของจงอินหายไป “จงอิน นายเป็นบ้าอะไรของนายน่ะ?!”




     

    ถึงแม้ชานยอลจะยังรู้สึกเจ็บจากของแหลมนั่น เขาแอบรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคยองซูเรียกเขาว่า ‘ต้นไม้ของเขา’ แต่แล้วก็ต้องหลุดออกจากห้วงความสุขอีกครั้งเมื่อจงอินปักของแหลมนั่นลงตัวชานยอลอย่างแรง..แรงจนทำให้ชานยอลสั่นด้วยความเจ็บปวด




     

    “จงอิน หยุดนะ!” คยองซูตะคอกขณะที่วิ่งเข้ามาหาและพลักคนผิวแทนออก เขาดึง ‘สิ่งที่แหลมคมและชั่วร้าย’ ออกจากชานยอขณะที่หายใจอย่างหอบถี่ ก่อนที่จะหันไปต่อว่าจงอินอีกครั้ง “นายคิดว่านายกำลังทำบ้าอะไรอยู่ฮะ?”




     

    จงอินทำหน้าตกใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นหงุดหงิด “ฉันก็กำลังแกะสลักชื่อเราลงบนต้นไม้ยังไงล่ะ!” เขาตอบอย่างฉุนเฉียวพลางมองไปยังรอยแผลของชานยอล เซฮุนมองสลับไปมาระหว่างชานยอลกับมนุษย์สองคนอย่างตกใจไม่หาย ชานยอลเริ่มโวยวายเพราะเขามั่นใจว่าเขาต้องเลือดไหลแน่ๆ “มันโรแมนติกจะตายไป!”




     

    “มันแย่มากเลยต่างหาก!” คยองซูตอบกลับอย่างโมโห เขาโยนเจ้าสิ่งแหลมและชั่วร้ายนั่นทิ้งและหันกลับมามองส่วนลำต้นของชานยอลที่โดนทำร้าย “การทำร้ายต้นไม้มันโรแมนติกตรงไหนฮะ?”




     

    “นี่ฟังนะ มันเป็นเรื่องที่คนปก-” จงอินพยายามอธิบาย แต่คยองซูไม่ฟังและพูดขัด




     

    “แต่ฉันไม่ใช่คนปกติยังไงล่ะ!” คยองซูแทรกขึ้นมาอย่างหัวเสีย มือข้างหนึ่งลูบตรงลำต้นของชานยอลอย่างเบามือ




     

    จงอินรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก “เออใช่” เขากระแทกเสียง “นายมันไม่ปกติ” เขาไม่พูดอะไรต่อและกระแทกเท้าเดินแหวกพุ่มไม้ออกไปอย่างหงุดหงิด ชานยอลได้ยินจงฮยอนทำเสียงจิ๊จ๊ะไม่ชอบใจคนที่เพิ่งจากไปก่อนที่จะมองลงมายังคนที่ยังอยู่ คยองซูยังคงหอบหายใจด้วยความโกรธ




     

    หลังจากนั้นไม่นาน คยองซูถอนหายใจและหมุนตัวกลับมามองชานยอลตรงที่จงอินได้ทำรอยน่าเกลียดไว้ เขามุ่ยหน้า..และนั่นทำให้ชานยอลอยากจะลูกหัวปลอกประโลมเขาให้เขาเลิกมุ่ยหน้า




     

    แต่เขาไม่สามารถทำอย่างนั้นได้...เพราะเขาเป็นต้นไม้




     

    “เราขอโทษนะ” คยองซูเอ่ยพลางไล่นิ้วตามรอยแผลบนลำต้นชานยอลอย่างอ่อนโยน ชานยอลสั่นเบาๆรับสัมผัสนั้น “จงอินไม่น่าทำแบบนั้นเลย..มันแย่มากเลยเนอะ นายมีค่าเกินกว่าที่จะถูกทำร้ายแบบนี้นะ” เขายิ้มบางๆ ทำให้ใจของชานยอลพองโต “นายเป็นต้นไม้ที่สำคัญกับเรามากนะ”





    คยองซูยืนอ้อยอิ่งอยู่อีกสักพัก ก่อนที่จะถอนหายใจและเดินไปตรงปากทางระหว่างพุ่มไม้ที่เขาผ่านเข้ามาและก้มหยิบบางอย่างที่เขาปล่อยทิ้งไว้ก่อนหน้านี้ “สงสัยฉันคงต้องกินมันคนเดียวแล้วละสิ” เขาเอ่ยเซ็งๆก่อนจะมองลงมายังของสีสดสวยบางอย่างในมือของและยิ้มเศร้า “เห้อ เรานึกว่าวันครบรอบของเราจะโรแมนติกซะอีก” เขาแหงนมองขึ้นหาชานยอลและยิ้มยิงฟัน “แต่อย่างน้อยเราก็มีนายเนอะ”





    คยองซูนั่งพิงชานยอลต่ออีกสามชั่วโมงกินอะไรสักอย่างจากกล่องสีสดและเล่าเรื่องต่างๆนาๆให้ชานยอลฟังไปเรื่อยเปื่อย





    “มันคงจะดีถ้าเราให้นายกินได้ด้วยเนอะ” เขาพึมพำพร้อมกับยื่นอะไรสักอย่างที่มีกลิ่นแปลกๆให้ชานยอล..พอทำอย่างนั้นเขาก็ชะงักและขมวดคิ้วมุ้ยหน้า “นี่เรากำลังคุยกับต้นไม้อยู่หรือนี่” เขาเอียงคอเล็กน้อยอย่างน่ารัก “ถึงแม้ว่าตามหลักการแล้ว สัญญาณแรกของคนที่จะเป็นบ้าจะชอบพูดคุยกับตัวเองก็เถอะ..ไม่ใช่คุยกับต้นไม้..”





    คยองซูยิ้มแฉ่งโชว์ฟันให้กับชานยอลอีกครั้งก่อนที่จะยัดไอ้ของกลิ่นแปลกๆเข้าปากและเอนหลังพิงกับชานยอลต่อ..ทำให้ชานยอลปรารถนาอยากจะเป็นมนุษย์เหลือเกิน..เขาอยากจะเป็นเหมือนจงอินที่สามารถเอา ‘ขาหน้า’ ของเขาโอบรอบคยองซูและกอดเขาตลอดไป…





    ***





    “ฉันอยากเป็นมนุษย์” ชานยอลโพล่งขึ้นมาขณะที่เซฮุนกำลังทำความสะอาดตัวเอง





    “ฉันไม่เข้าใจทำไมนายถึงอยากจะเป็นมนุษย์นักหนา” เซฮุนถามพลางทำความสะอาดหลังหูของตัวเอง





    “ฉันก็แค่อยากเป็นมนุษย์” ชานยอลบุ้ยปากงอแงจนเซฮุนหรี่ตามองเขาพลางเลียอุ้งเท้านิ่มอย่างเบื่อๆ





    “นายเป็นมนุษย์ได้นะ” อิ้ชิงพูดขึ้นมาจากมุมมืด โยกกิ่งไม้ก้านยาวของเขาให้ชานยอลอย่างเอื่อยๆ





    “จริงเหรอ?” ชานยอลถามอย่างตื่นเต้น “ยังไงเหรอ? ฉันต้องทำยังไงถึงจะกลายเป็นมนุษย์เหรอ?”





    อิ้ชิงยืนเรียกความทรงจำอยู่สักพัก กิ่งไม้ของเขาไหวไปมา เจ้ากวางลู่หานมองเขาอย่างใคร่รู้ และทันใดนั้นอิ้ชิงก็โยกกิ่งของเขาและหัวเราะร่า “ฉันลืมไปแล้ว!”




     

    “ทำไมนายถึงไร้ประโยชน์อย่างนี้นะ” ลู่หานแหย่พลางส่ายหัวไปมา




     

    “นี่! ฉันบังแดดกับฝนให้นายนะ นายไม่มีสิทธ์มาว่าฉัน” อี้ชิงว่าลู่หานก่อนที่จะตีก้นเขาด้วยกิ่งไม้อ่อน ลู่หานบ่นงึมงำก่อนที่จะมองไปหาเซฮุนที่นั่งอยู่บนกิ่งไม้ของชานยอล




     

    “เทพแห่งป่าอาจจะช่วยนายได้นะ” ลู่หานบอกชานยอล




     

    “เทพแห่งป่า?” ชานยอลย้ำอย่าตื่นเต้น “เขาคือใครงั้นเหรอ?”





    “ไม่มีหรอก” แบคฮยอนตอบเนือยๆ พลางสลัดใบไม้ออกจากตัวเขา “เขาไม่มีตัวตนหรอก”





    “นายโกหกฉัน!” ชานยอลขึ้นเสียงใส่ลู่หานอย่างหัวเสีย กวางน้อยที่โดนว่ากลับแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เขา





    “นายมันซื่อบื้อเอง~” ลู่หานล้อเขาอย่างสนุกปาก แต่แล้วเขาเล็กๆของเขาพันกับกิ่งก้านที่ห้อยลู่ลงมาของอี้ชิงจนทำให้ทั้งสองโวยวายเสียงดัง ทำให้เซฮุนหยุดมองอยู่สักครู่ ก่อนที่จะกลับไปทำความสะอาดหูตัวเองอีกครั้ง





    “สรุปนายรู้วิธีทำให้ฉันกลายเป็นมนุษย์รึเปล่า?” เขามองลงมายังเพื่อนจิ้งจอกของเขา ความหวังค่อยๆหายไป





    แบคฮยอนขมวดคิ้วพลางยกขาเกาหลังหู “อืม..มันก็มีแหละ ถึงจะยุ่งยากนิดหน่อย..แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมนายอยากจะเป็นมนุษย์ แต่ก็-”





    “บอกฉันมาเถอะน่าาาาา!” ชานยอลร้องงอแงจนทำให้ต้นไม้และสัตว์ตัวในบริเวณไกล้เคียงหยุดการกระทำของตนเองและหันมาจ้องมองเจ้าของเสียงร้อง





    “โอเคๆ” แบคฮยอนพูดอย่างเหนื่อยอ่อน “นายก็แค่..ต้องให้เขากอดนาย”





    ชานยอลมุ่ยหน้า “แต่เขาทำแล้วนี่นา”





    แบคฮยอนพ่นลมหายใจอย่างรำคาญ “ไม่ใช่แค่กอดธรรมดาหรอกนะ..ต้องเป็นในคืนพิเศษ..คืนในช่วงครีษมายันเท่านั้น”





    “แค่นั้นเองเหรอ?” ชานยอลถามเมื่อรู้สึกว่ามันง่ายจะเกินไป





    “โอ๊ะ ใช่แล้ว!” จู่ๆ อี้ชิงก็ตะโกนขึ้นมาพลางแกว่งกิ่งก้านของเขาไปมาอย่างมีความสุข “เขาต้องมากอดนายหรืออะไรเนี่ยแหละ!”





    “นายนี่มันโง่กว่าพื้นดินที่นายยืนอยู่อีกนะเนี่ย” ลู่หานเอ่ยลอยๆ แต่นั่นทำให้อี้ชิงถมใบไม้แห้งมิดหัวเขาเพื่อเป็นการทำให้เขาหุบปากกวนๆของเขาสักที





    “แล้วฉันจะทำให้เขามากอดฉันอีกได้ยังไงละเนี่ย?” ชานยอลถามพลางมองแบคฮยอนสลับกับเซฮุนที่เพิ่งโดดลงจากกิ่งไม้เขาเพื่อไปช่วยปัดใบไม้ออกจากหัวของลู่หาน





    “ไว้เป็นหน้าที่ฉันเถอะน่า” แบคฮยอนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะกระโดดมุดผ่านพุ่มไม้หายไป





    ***





    ไม่กี่คืนต่อมาก็ถึงศรีษมายัน ชานยอลรอคยองซูมาอย่างตื่นเต้นและจะรอดูว่าแบคฮยอนมีแผนอะไรที่จะช่วยเขาได้





    “เอ่อ..มันคงจะดีกว่านี้ถ้านายบอกฉันบ้าง ว่ามีแผนอะไรน่ะ” ชานยอลบอกแบคฮยอนขณะที่เจ้าจิ้งจอกมุดหลบอยู่ใต้พุ่มของซองมิน





    “เงียบน่า ให้ฉันได้สนุกกับมันบ้างเถอะ” แบคฮยอนเอ่ยพลางมองไปตรงปากทางที่คยองซูกับจงอินจะเดินผ่านเข้ามาทุกครั้ง





    ชานยอลทำได้แต่พ่นลมหายใจฮึดฮัดอย่างขัดใจเล็กน้อย..





    “เห้ยๆๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย!” เสียงร้องที่ดังก้องไปทั่วป่า ตามมาด้วยเสียงโครมครามและเสียงร้องตกใจโวยวาย วินาทีต่อมา คยองซูก็พุ่งเข้าจากปากทาง ใบไม้และกิ่งก้านเล็กๆติดตามผมบนหัวเขา เจ้ามนุษย์ตัวเล็กทำตาโตตกใจขณะที่เขาและคนผิวแทนที่ตามมาในไม่ช้าพยายามถอยหนีคริสและสัตว์ป่าทั้งหลายที่ชานยอลเรียกพวกเขาว่าครอบครัว ทันใดนั้น แบคฮยอนกระโดดออกมาจากซองมินและไปยืนระหว่างมนุษย์สองคน เขาหันไปแยกเขี้ยวใส่จงอิน ซึ่งทำให้คนผิวแทนถอยกรูดพร้อมส่งเสียงประหลาด





    “นี่พวกเราโดนแก๊งแบมบี้โจมตีเหรอวะเนี่ย?!” จงอินตะโกนโหวกเหวกขณะที่เขาก้าวถอยหลังเมื่อคริสและแบคฮยอนร้องขู่คำราม สองคนถูกแยกออกจากกันช้าๆ ใบหน้าของคยองซูเริ่มซีดลงเรื่อยๆ





    “มะ..ไม่รู้!” คยองซูตะโกนตอบและถอยหนีจากเทา ขณะที่เจ้าสกั๊งค์กระโดดก้าวเล็กๆ หาเขาและพยายามจะตบเบาๆที่ขาให้เขาใจเย็นลง..แต่คยองซูไม่เข้าใจเจ้าสัตว์ตัวน้อย เลยพยายามถอยกรูดมากกว่าเดิม “จะ..จงอิน!”





    “นี่มันความผิดนายแท้ๆเลยนะ!” จงอินขึ้นเสียงพลางกระเด้งตัวหนีเมื่อเห็นลู่หานที่เพิ่งเดินเข้ามาเสริมทัพ “นายและไอ้ความรักธรรมชาติบ้าๆของนายนั่นแหละ! ถ้านายเชื่อฉันและอยู่บ้านเล่นเกมกัน เราคง-”





    “จงอิน! นี่ไม่ใช่เวลามาบ่นเรื่องที่เราไม่ได้เล่น ‘เฮโล’ เหมือนทุกครั้งที่เราไปบ้านนายนะ!” คยองซูขัดอย่างเสียไม่ได้ขณะที่หลบเจ้ากระต่ายเฉินจนยืนชิดกับชานยอล “เรากำลังเจอกับปัญหาอยู่นะ! ฉันกำลังเจอกับปัญหาอยู่นะ!” เขาทำตาโตขอร้องเจ้ามนุษย์ผิวแทน หลังของเขาแนบสนิทกับลำต้นของชานยอลขณะที่คริสหันมาหาเขาและจ้องเขาตาเป็นมัน คยองซูทำหน้าเหมือนจะร้องให้ในไม่ช้า “จะ..จงอิน! ระ..เราว่ามันจะกินเราอ่ะ!”





    จงอินสูดหายใจเข้าลึกก่อนที่จะมองสลับไปมาระหว่างคยองซู เจ้าหมาป่าที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา และป่าแห่งนี้ “จงอิน!” คยองซูตะโกนเรียกหาอีกครั้ง เขารู้สึกตื่นกลัวมากและพยายามจะไต่หลังขึ้นต้นชานยอล จงอินทำได้แต่มองเขา..คยองซูไม่รอช้าและหันไปปีนขึ้นไปนั่งบนกิ่งไม้ที่เตี้ยสุดของชานยอล “นายทิ้งเราไว้ตรงนี้ไม่ได้นะ!”





    จงอินยืนทำหน้าเลิ่กลั่กอยู่สักพักก่อนที่จะยืนนิ่งแข็งทื่อเมื่อคริสหันมาล็อคสายตากับเจ้าคนผิวแทน “ขะ..ขอโทษนะ!” เขาตะโกนบอกก่อนที่จะมุดตัวผ่านพุ่มไม้หายไปในทันทีโดยมีเซฮุนและลู่หานตามก้นไปติดๆ คยองซูร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวพลางมองลงมายังสัตว์ทั้งหลายที่อยู่ข้างล่างเขา เขาสะอื้นก่อนที่น้ำจะพรั่งพรูออกมาจากดวงตาโต





    “โห..มันหนีไปซะอย่างนั้นเลยเหรอเนี่ย!” ชานยอลพูดอย่างไม่เชื่อพลางมองไปยังมนุษย์ที่เกาะกิ่งไม้ของเขาอย่างสุดชีวิต





    “เฮอะ ป๊อดชะมัด” คริสแค่นหัวเราะก่อนที่จะมองขึ้นมาหาเจ้ามนุษย์ที่ยังอยู่และเลียริมฝีปากช้าๆ เขาเบนสายตาไปมองเฉินกับเทาที่ยืนอยู่ข้างๆเขา ทั้งสองกำลังมองคยองซูอย่างสนใจ





    “เฮ้ๆ ห้ามกินเพื่อนนะ” ชานยอลตำหนิเมื่ออ่านสายตากระหายของคริสออก





    “รู้น่า” คริสคำราม สายตาเต็มไปด้วยความหิวโหยเมื่อเขามองกลับมาที่คยองซู “ฉันก็แค่เช็คดูอะไรนิดหน่อย”





    คยองซูร้องคร่ำครวญพลางแนบตัวเขากับลำต้นของชานยอลและกอดแน่น ตาของเขาปิดสนิทเพราะกลัวสุดขีด





    “ตอนนี้ล่ะ!” แบคฮยอนตะโกนให้สัญญาณก่อนที่จะมีสายฝ้าฟาดลงมาที่ชานยอล  สัตว์ทุกตัวที่อยู่รอบๆชานยอลกระโดดถอยห่างด้วยความตื่นตระหนก ชานยอลรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งวิ่งผ่านตัวเขาไปจากกิ่งก้านลงไปถึงรากของเขา คยองซูร้องออกมาอย่างตกใจ..และในวินาทีต่อมา ชานยอลมีความรู้สึกพรั่งพรูเข้าหาตัวเขามากกว่าที่มีมาตลอดชีวิตที่ผ่านมา กิ่งก้านของเขาเริ่มหดหายไปเหลือเพียงสองคู่..และเขาไม่รู้วิธียืนเหมือนเดิมอีกต่อไป





    เขาหล่นตุ้บกับพื้นดิน..และก็แปลกใจที่เขายังไม่ตาย..เพราะปกติแล้วถ้าต้นไม้ล้มลงก็จะแปลว่าต้นนั้นได้ตายแล้วหรือกำลังจะตายนั่นเอง..





    แต่ชานยอลไม่ได้ตายหรือกำลังจะตาย..เขานอนแผ่บนพื้น เขารู้สึกถึงลำต้นของเขาที่กำลังขยับขึ้นลงขณะที่เขาสูดอากาศเข้าออก เขารู้สึกหนักเพราะมีอะไรบางอย่างอยู่บนตัวเขา





    ชานยอลเปิดตามองและพยายามขยับตัวของเขาที่ผอมบางลงจากเมื่อก่อน เขาลูบหัวตัวเองที่ไม่มีใชไม้อีกต่อไป แต่กลับแทนที่ด้วยขนบนหัว เขามองตัวเองอีกครั้งก่อนที่จะตระหนักได้ว่าเขาไม่ใช่ต้นไม้อีกต่อไป





    ชานยอลได้กลายเป็นมนุษย์แล้ว...





    คยองซูที่ยังนอนทับเขาอยู่ตัวแข็งทื่อ พอเขาสามารถรวบรวมสติที่กระเจิงหายไปได้ คนตัวเล็กก็เงยหัวขึ้นมามองหน้าชานยอล อีกฝ่ายยิ้มกว้างโชว์ฟันเรียงสวยและเบิกตากว้างสุดเท่าที่เขาทำได้..คยองซูก็เบิกตากว้างเช่นกันและทำเสียงโหวกเหวกโวยวายพร้อมกระเด้งตัวออกจากชานยอลอย่างตกใจ





    “เห้ย อะไรเนี่ย!?” คยองซูแหกปากเสียงดังก้องพลางถดถอยตัวเองไปกับพื้น “นะ..นายเป็นใครน่ะ!?”





    “ชานยอล!” ชานยอลแนะนำตัวเองเสียงใส เขาดีใจทีได้ยินเสียงตัวเองเป็นครั้งแรก เสียงของเขาต่ำกว่าคยองซู..และเขารู้สึกว่ามันเหมาะกับเขามาก “หวัดดี!”





    “ละ..แล้วต้นไม้ของฉันล่ะ?” คยองซูยังคงไม่ลดเสียงและมองมาที่ชานยอลอย่างงงงวยพร้อมหายใจถี่ๆ เขาร้องเสียงหลงเมื่อเห็นชานยอลพยายามใช้แขนขายันตัวเองขึ้น..แต่ก็ล้มลงมา..





    การยืนนี่มันยากจริงๆ





    “ทำไมนายถึงโป๊ล่ะเนี่ย! แล้วต้นไม้ล่ะ? โอ้ พระเจ้า! เราต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!” เขาฝังหน้าตัวเองกับมือสองข้างและเริ่มทำเสียงครวญครางแปลกๆ





    “ฉันนี่แหละต้นไม้!” ชานยอลเอ่ยอย่างร่าเริง เขาล้มเลิกในการยืนขึ้นแล้ว..เขานอนลงบนพื้นและกลิ้งตัวไปหาคยองซูแทน..





    แบบนี้ง่ายกว่ากันเยอะ..





    “นายกอดฉัน และตอนนี้ฉันก็เป็นมนุษย์เหมือนนายแล้ว!”





    คยองซูมองชานยอลผ่านร่องนิ้วก่อนที่จะร้องและปิดหน้าอีกครั้ง “เรากำลังฝันไปอยู่แน่ๆ..นะ..นี่เป็นเป็นแค่ฝันร้าย..เรากำลังฝันว่าตัวเองโดนวิ่งไล่และกำลังจะโดนหมาป่ากับสุนัขจิ้งจอกและแรคคูนกิน..มันไม่ใช่เรื่องจริง”





    “ฉันของจริงนะ” ชานยอลเอ่ยพลางบังคับแขนตัวเองไปจับคยองซูเหมือนที่จงอินทำทุกๆครั้ง “เห็นป่ะ”





    “ทะ..ทำไมนายถึงโป๊ล่ะ! อย่ามาจับนะ! ไม่ๆๆ” คยองซูอยากจะละลายหายไปกับอากาศธาตุเลยจริงๆ





    “โป๊ คืออะไรเหรอ?”





    คยองซูเปิดตามองชานยอลอย่างงงๆ เขาเริ่มจะใจเย็นลงหน่อยแล้ว





    “โป๊ก็คือโป๊สิ” เขาเอ่ยตอบมึนๆ





    “ฉันไม่เข้าใจ” ชานยอลมุ่ยหน้า





    “แปลว่านายไม่ใส่เสื้อผ้าปกปิดตัวเองน่ะสิ” แบคฮยอนพูดพลางตบตรงพื้นโล่งและยิ้มอย่างภูมิใจ “ยินดีด้วยนะ นายได้กลายเป็นพังพอนไร้ขนละ”





    “นายเลิกสบประมาทพวกฉันสักทีเถอะ!” ซูโฮโผล่หัวออกมาจากรากของอี้ชิงและเหวี่ยงใส่แบคฮยอน





    “เฮ้ๆ อย่าทะเลาะกันสิ!” ชานยอลปรามเพื่อนของเขา “พวกเราต้องฉลองกันต่างหากล่ะ!”





    “ฉลองที่นายเป็นสัตว์มนุษย์ไร้ขนน่ารำคาญเนี่ยนะ?” แบคฮยอนหรี่ตามอง “ยินดีด้วยนะ ตอนนี้นายมีเสียงน่ารำคาญเหมือนพวกเขาละ”





    “เสียงฉันเจ๋งจะตาย” ชานยอลเอ่ยพลางยิ้มแฉ่ง “นายอิจฉาฉันล่ะสิ โถๆ”





    “นาย..” เสียงเบาเอ่ยแทรกระหว่างบทสนทนาทำให้ชานยอลสะดุ้งและหันไปหาต้นเสียง คยองซูกระแอมเบาๆก่อนที่จะถามต่อ “นายคุยกับพวกเขาอยู่เหรอ?”





    ชานยอลเอียงคอมองอย่างงงๆ “อ่าฮะ” เขามองคนตัวเล็กกว่าอย่างสนใจ “นายเข้าใจพวกเขารึเปล่า?”





    คยองซูทำตาโตพลางมองชานยอลด้วยความสนใจ “ไม่นี่..เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขากำลังพูดน่ะ”





    “จริงเหรอ?” ชานยอลทำหน้าตกใจ “พวกมันไม่เคยหยุดพูดเลย! โดยเฉพาะเจ้าเซฮุนถ้ามันเจอเรื่องคุยถูกคอ มันกับอี้ชิงนี่เม้าท์เรื่องทุกคนในป่านี้ตลอดเลย”





    “เฮอะ นายก็พอกันแหละ” ซูโฮพูดขัดขณะที่เขานั่งลงมองชานยอลอย่างสนใจ “นายก็ยังเป็นนายเหมือนเดิม..ต่างกันแค่ตรงที่นายน่าเกลียดขึ้น”





    “ฉันว่าฉันต้องดูดีมากแน่ๆ” ชานยอลตอบกลับทันควัน เขาหันไปหาคยองซู “ฉันยังเจ๋งเหมือนตอนที่ฉันเป็นต้นไม้ใช่ม๊า”





    “ระ-” คยองซูทั้งสับสนและกลัว “เรา-นาย-อะ..อะไรนะ? นายกำลังจะบอกว่านายพูดจริงเรื่องที่นายเป็นต้นไม้น่ะเหรอ?”





    “แล้วฉันจะเป็นอะไรได้ล่ะ?” ชานยอลถามกลับพลางหัวเราะร่า “ฉันคงไม่ได้เป็นก้อนหินมาก่อนหรอก มันไม่มีชีวิตนะ ตลกนะนายน่ะ”





    “แล้วเอ่อ..จิ้งจอกตัวนี้เป็นเพื่อนสนิทนายงั้นสิ?” คยองซูเอ่ยพลางมองเพื่อนของชานยอล..คนที่ถูกพูดถึงมองเขากลับอย่างสนุกชอบใจ





    ชานยอลทำตาโต “ไหนนายบอกว่านายไม่เข้าใจไง!”





    “โอ้มายก็อด” คยองซูเล่นมือตัวเองอย่างทำอะไรไม่ถูก “นายไม่ใช่ต้นไม้เราหรอก”





    “ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ?” ชานยอลถามงงๆ





    คยองซูไม่ตอบแต่เอาอุ้งมือของเขาฟาดหน้าตัวเองอย่างจัง “โอ้ย!” เขาร้องเสียงหลง ตาเบิกกว้างเพราะความเจ็บปวด ชานยอลเอื้อมไปจับแก้มของคยองซูที่ตอนนี้แดงเถือกเป็นลายมือ





    “นายทำอะไรเนี่ย?!” ชานยอลถาม เขารู้สึกกลัวที่คยองซูเริ่มตีตัวเอง..มีแต่สัตว์ที่เป็นพิษสุนัขบ้าเท่านั้นแหละที่จะตีตัวเอง..ชานยอลหวังว่าคยองซูจะไม่ได้เป็นพิษสุนัขบ้านะ..





    “โอ้วไม่” คยองซูทำถ้าจะตีตัวเองอีกครั้ง แต่ก็โดนชานยอลดึงแขนไว้ไม่ให้ทำอีก “ไม่ๆๆๆๆ เรากำลังฝันอยู่ชัวร์ ฝันอยู่สิ..เราไม่ได้กำลังจะเป็นบ้านะ! ฉันยังต้องส่งรายงานวิชาประวัติศาสตร์วันพฤหัสนี้อยู่นะ!”





    “ประวัติศาสตร์คืออะไรเหรอ?” ชานยอลถามอย่างตื่นเต้นอยากรู้ “แล้วอะไรคือวันพฤหัสเหรอ?”





    คยองซูทำหน้าหมดอาลัยตายอยากและพยายามจะดึงตัวออกห่างชานยอล





    “เฮ้! ฉันนึกออกละ!” ชานยอลโพล่งขึ้นมาก่อนที่จะกลิ้งหงายตัวเองขึ้นมาเพื่อโชว์ด้านหน้าของตัวเขา คยองซูทำเสียงแปลกๆก่อนที่จะใช้มือปิดหน้าอีกครั้ง “นี่! ดูสิ!” คนตัวใหญ่เอ่ยอย่างสดใสพลางชี้ไปตรงที่เป็นรอยแผลเป็นจากฝีมือของจงอินเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน “เจ้าคนผิวแทนคนนั้น..เอ่อ..อ๋อ จงอินไงล่ะ! จงอินเป็นคนทำอันนี้แหละ! จำได้ป่ะ?” เขาเอื้อมไปดึงมือของคยองซูที่ปิดหน้าเขาอยู่ออก





    คยองซูเงียบค้างไป..





    คยองซูค่อยๆเอามืออีกข้างลงก่อนจะเปิดตาทั้งสองข้างและยื่นหน้ามามองที่รอยแดงบนลำตัวของชานยอล “โอ้มายก็อด” เขาพ่นลมหายใจและหันควับไปมองหน้าชานยอล “นายน่าจะเป็นต้นไม้ของเราจริงๆด้วย..”





    “ก็ฉันเป็นต้นไม้ของนายยังไงล่ะ” ชานยอลหัวเราะ เขารู้สึกมีชีวิตชีวามากกว่าตอนเป็นต้นไม้มาก





    “แต่ทำไมนายไม่ใช่ต้นไม้แล้วล่ะ?”





    ชานยอลยิ้มยิงฟันก่อนที่จะยื่นแขนออกมาข้างหน้าและแบมือออก “เพราะว่าฉันอยากจะกอดนายและบอกนายว่าอย่าเศร้าไปเลยนะ” เขาเอ่ยและมองตาที่เบิกกว้างของคยองซู “และตอนนี้ฉันก็จะอยู่กับนายเสมอเวลานายต้องการใคร ตอนนี้ฉันสามารถกอดนายกลับเวลานายกอดฉันอีกด้วย”





    เขายิ้มออกมาอย่างมีความสุขเมื่อเห็นแก้มของอีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นสีชมพูจางๆ





    “ตอนนี้ฉันก็เป็นคนของนายแทนยังไงล่ะ!”





    คยองซูมองแขนที่ยื่นออกมาหาเขาสลับกับรอยแผลเป็นที่เขียนไม่เสร็จว่า ‘คยองซู + จง’ ที่เหมือนกับรอยที่อยู่บนต้นไม้ของเขาเปี๊ยบ





    รอยที่จงอินทำไว้เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน..





    ก่อนที่คยองซูกับจงอินจะเริ่มห่างเหินจากกัน..





    ก่อนที่คยองซูจะเริ่มคิดสงสัยว่าจงอินเคยแคร์เขาจริงๆบ้างรึเปล่า..





    คยองซูกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น





    ผู้ชายคนตรงหน้าเขา..คนที่กำลังนอนเปลือยอยู่ตรงที่เคยมีต้นไม้ของเขาตั้งอยู่..ดูดีมากๆอย่างไม่ปฏิเสธไม่ได้..ถึงแม้ว่าเขาจะเสียงดังไปหน่อยและยิ้มกว้างจนเกินไป..แต่เขาดูอบอุ่นและทำให้อุ่นใจเหมือนต้นไม้ที่เขาเรียกว่าเป็นของเขา..





    “นาย..นายจะกลับเป็นต้นไม้อีกรึเปล่า?”





    ชานยอลขมวดคิ้วก่อนที่จะหันไปหาเพื่อนจิ้งจอกของเขาที่นั่งมองสองคนนี้อย่างสนใจ





    “ฉันจะกลับไปเป็นต้นไม้อีกป่ะ?” เขาถาม





    แบคฮยอนไม่ตอบ แต่กลับมองชานยอลอย่างเบื่อๆ ชานยอลหันควับกลับมาหาคยองซูทันที





    “ไม่แล้วล่ะ!” ชานยอลพูดอย่างร่าเริ่ง..และนั่นก็ทำให้คยองซูอดยิ้มไม่ได้





    ชานยอลไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นและมีชีวิตชีวาแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต เขามองคยองซูอย่างตื่นเต้นขณะที่อีกฝ่ายยิ้มอย่างจำนน “โอเค..นายมาเป็นคนของเราก็ได้” เขาพูดในที่สุด “แต่แค่แป้ปเดียวนะ” ชานยอลทำเสียงงงๆ “อย่างน้อย..ก็จนกว่าเราจะนึกออกว่าจะทำยังไงกับนายดี”





    ชานยอลแสดงให้คยองซูเห็นว่าเขาตื่นเต้นและมีความสุขสุดๆด้วยการกระโจนใส่คนตัวเล็กกว่าและกอดเขาแน่นจนอีกฝ่ายหายใจแทบไม่ออก





    “แต่ก่อนอื่นนายต้องหาเสื้อผ้าใส่ก่อนนะ!” คยองซูตะโกนอย่างร้อนรน และนั่นทำให้ชานยอลหัวเราะออกมาอีกครั้ง





    “ฉันรักการเป็นมนุษย์จัง!” ชานยอลเอ่ยเสียงดังก่อนที่จะหัวเราะร่าอย่างมีความสุข..และไม่นานก็มีเสียงของคยองซูมาร่วมหัวเราะด้วยอีกเช่นกัน…





    ...finale...



     

    เอ็กโซเป็นตัวอะไรกันบ้าง:

    ชานยอล: ต้นโอ๊ค
    เลย์: ต้นวิลโลว์
    แบคฮยอน: สุนัขจิ้งจอก
    เซฮุน: แมว
    คริส: หมาป่า
    ลู่หาน: กวาง
    ซิ่วหมิน: แรคคูน
    ซูโฮ: มิงค์
    เฉิน: กระต่าย
    เทา: สกั๊งค์
    ไคและดีโอ: มนุษย์


    ตัวละครอื่นๆ:
    ซองมิน: พุ่มไม้หนาม
    จงฮยอน: กระรอก














    ทอล์คกับไรท์พลอย.
    จบแล้วเรื่องที่สอง ฮี่ๆ
    นี่เป็นฟิคแปลเรื่องแรกในชีวิตของไรต์พลอยเลย ปริ่มมาก ;-;
    ภาษาอาจจะสู้ของเจ๊แอนไม่ได้น๊า (นางสั่งสมชั่วโมงบินมากนาน -.,-)
    แต่เราก็หวังว่าทุกคนจะสนุกกับมันน๊า

    ขอให้ติดตามผมงานของพวกเราต่อไปด้วยน๊า
    และจะดีมว๊ากเลยถ้ารีดเม้นให้กำลังใจกันหน่อย
    คือเราอยากอ่านฟีดแบค ว่าแปลโอเคมั้ย ชอบเรื่
    องแนวนี้มั้ย
    ถือว่าช่วยให้ไรต์ทั้งสองมีกำลังใจแปลหน่อยเนอะ -V-

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะ รักรีดทุกคนเลอ จุ๊บ

    สกรีมโปรดติดแท็ก
    #คลังฟิคดด


     
    (c):baby
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×