ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (EXO) ' ค ลั ง ฟิ ค แ ป ล เ ด็ ก ด า ว '

    ลำดับตอนที่ #14 : (KAISOO) Maybe in Hell, There is a Heaven [II/II] ;

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ย. 58


    MAYBE IN HELL, THERE IS A HEAVEN 
    original story: http://coppertears.livejournal.com/7748.html
    written by: coppertears
    pairing: kaisoo




    PART II.



    มันเป็นอีกหนึ่งวันที่ร้อนระอุ ความรุนแรงของแสงอาทิตย์พลอยทำให้ก้อนเมฆกลายเป็นสีส้มเจือจางไปด้วย แต่สิ่งที่จงอินสงสัยตอนนี้คือทำไมพวกเขาถึงหยุดเดิน แบคฮยอนพักศีรษะลงบนแผ่นหลังของจงอินเพียงครู่หนึ่งก่อนจะรีบผละออกเมื่อผู้คุมหันมา





    “เกิดอะไรขึ้นน่ะ?” จงอินกระซิบถามจงแด สายตาก็กวาดมองไปรอบๆ





    “คริสกำลังจะมาน่ะ” จงแดตอบ สายตามองตรงไปข้างหน้า





    จงอินได้ยินชื่อคริสสองสามครั้งในบทสนทนาระหว่างชานยอล อี้ชิง และคยองซู เขารู้แค่ว่าคริสคือหัวหน้าและเป็นคนที่ดูแลเรื่องการเคลื่อนย้ายเชลยศึกไปยังจุดหมาย การที่เขาต้องมาหยุดยืนรอคริสแบบนี้ทำให้เขาทั้งสงสัยและหวาดกลัว





    “แถวตรง!” เทาตะโกนก่อนจะยืนตรงส่งผลให้ทุกคนในที่นั้นทำตาม





    จงอินเองก็ทำตามคำสั่งในฐานะที่เคยเป็นนายทหารดีเด่นคนหนึ่ง เขาได้ยินเสียงซุบซิบพึมพำจากรอบด้านก่อนจะเห็นชายร่างสูงคนหนึ่งที่มีเรือนผมสีบลอนด์เดินมาทางนี้ เหรียญมากมายประดับอยู่บนชุดเครื่องแบบจนสะท้อนแสงอาทิตย์ระยิบระยับ





    “ทำไมพวกมันถึงผอมโซแบบนี้?” คริสเอ่ยถามเสียงเรียบ เสียงของนายทหารคนนี้คล้ายคลึงกับชานยอลมากเพียงแต่น้ำเสียงดูห้วนและหยาบกร้านกว่า





    “อาหารของเราก็มีเพียงพอไม่ใช่หรือไง?”





    “ครับผม แต่มีเชลยศึกบางคนขโมยอาหารของเราและหลบหนีไปครับ” เทาตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย จงอินที่ได้ยินคำตอบถึงกับกำมือแน่น ทุกคนในที่นี้ยกเว้นคริสรู้ดีว่าสิ่งที่เทาพูดออกมาไม่เป็นความจริง





    “จริงเหรอ?” คริสเลิกคิ้วก่อนจะมองหน้าเทาพักใหญ่ เทาเองก็สามารถรักษาสีหน้าเรียบเฉยเอาไว้อยู่อย่างนั้นจนคริสละสายตาออกไป





    “มึงไม่เห็นบอกกูเลยว่ามีทหารหน้าสวยๆเยอะขนาดนี้ เทาจื่อ” คริสเอ่ยเสียงเรียบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ในขณะที่เทาชะงักไปสักพักเมื่อได้ยินชื่อเล่นของตัวเองออกมาจากปากของคริส





    จงอินเบิกตากว้างเมื่อจู่ๆคริสก็กระชากลู่หานออกมาจากแถว ผ่านมาเพียงไม่กี่วันแต่ลู่หานดูซูบลงไปมากจนจงอินอดเป็นห่วงไม่ได้ แต่ลู่หานเองกลับไม่มีสีหน้าหวาดกลัวใดๆเลย ร่างบางยืนกำมืออยู่อย่างนั้น แม้ร่างบางจะไม่มีบาดแผลอะไรแต่จงอินรู้ จงอินรู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นตั้งแต่เทาชมลู่หานว่าสวยในวันนั้น





    จงอินเหลือบตามองเทาก่อนจะเห็นว่าเทามีสีหน้าโกรธเกรี้ยวแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ คริสเดินวนรอบตัวลู่หาน สายตากระหายมองเชลยศึกร่างบางตั้งแต่หัวจรดเท้า





    “สวยนี่ ดูเหมือนจะ-”





    “ท่านไม่อยากได้มันหรอกครับ มันเป็นแค่เศษขยะ” เทาเอ่ยเสียงเย็น





    “อา...แสดงว่ามึงยังไม่เสร็จกิจกับมันสินะ?” คริสเอ่ยถามอย่างเข้าใจ





    เทาได้แต่ยืนกำหมัดระงับความโกรธในขณะที่คริสหัวเราะร่าก่อนจะสั่งให้ลู่หานกลับไปยืนที่เดิม จากนั้นก็เดินมาเพ่งพินิจเชลยศึกทีละคนด้วยดวงตาพราวระยับ





    “อย่ากังวลไปเลยเทาจื่อ กูไม่เลือกมันหรอก แต่อาจจะเลือก…” จงอินกลั้นหายใจเมื่อจู่ๆคริสก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา เขาได้แต่ภาวนาขอให้คริสเดินต่อไปแต่คริสกลับหยุดอยู่อย่างนั้น





    “บางทีกูอาจจะเลือกมึง” คริสเอ่ยก่อนจะเชยคางจงอินขึ้น





    “สกปรกนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร..ไม่เป็นปัญหา หึ” ลมหายใจร้อนๆเป่ารดลงมาบนใบหน้าของจงอิน





    “ท่าน” จงอินรู้ได้ทันทีว่ามันคือเสียงของคยองซู คยองซูเดินตรงเข้ามาก่อนจะดึงจงอินมายืนข้างตน มือเล็กๆกำรอบแขนจงอินแน่น คริสเองก็ยอมปล่อยมือออกจากจงอินง่ายๆ ดวงตาฉายแววขบขัน





    “อา...คนนี้มึงจองแล้วเหรอ คยองซู? น่าตกใจจริงๆ” คริสกระตุกยิ้ม





    คยองซูไม่ตอบในขณะที่จงอินก็ได้แต่มองตรงไปข้างหน้า





    “โอเค กูจะปล่อยคนนี้ไปก็ได้ เห็นว่ามึงยังไม่เคยจองใครมาก่อน งั้นกูเอาคนนี้ก็ได้” คริสยักไหล่ก่อนจะชี้ไปที่แบคฮยอน จากตรงนี้..จงอินเห็นว่าตัวของแบคฮยอนสั่นเทาแม้คริสจะยังไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวร่างเล็กเลยแม้แต่น้อย ชานยอลเองก้าวเข้ามายืนขวางหน้าแบคฮยอนก่อนจะกำมือแน่น





    “คนนี้มีคนจองแล้วครับท่าน” ชานยอลกัดฟันพูด





    “หึ เห็นแล้วล่ะ...เอาไปเถอะ” คริสเอ่ยก่อนจะเดินสำรวจเชลยศึกไปเรื่อยๆจนสุดแถว แต่ก็ไม่มีเชลยศึกคนไหนที่เข้าตา จนถึงตอนนี้คยองซูยังคงไม่ปล่อยมือจากจงอิน และแม้ทุกคนจะเริ่มเดินกันต่อ..คยองซูก็เลือกที่จะเดินอยู่ข้างๆจงอินไม่ไปไหน ชานยอลเองก็ทำเช่นเดียวกันกับแบคฮยอน





    “เมื่อกี้มันอะไรกันเหรอครับ?” จงอินถามคยองซูเมื่อได้พัก





    “แล้วคิดว่าคริสกำลังทำอะไรล่ะ!” คยองซูหันมากระแทกเสียงใส่และมันทำให้จงอินสะดุ้ง





    แม้คยองซูจะไม่ได้พูดจากทุ้มนุ่มกับเขาตลอดเวลาแต่คยองซูก็ไม่เคยใช้น้ำเสียงแบบนี้กับเขา มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินและมันทำให้เขาตกใจ คยองซูเองก็เหมือนจะรู้ตัว ร่างเล็กยกมือขึ้นมากุมขมับ





    “จงอิน...นายเป็นเชลยศึกที่หน้าตาดี และคริสกำลังมองหาคนที่จะร่วมเตียงด้วยในคืนนี้” คยองซูอธิบายด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ





    “แล้วมันหมายความว่ายังไงที่บอกว่าคุณจองผมแล้ว?” จงอินเอ่ยถามต่อ เขาแค่ต้องการให้คยองซูตอบในสิ่งที่เขาอยากได้ยิน เขาอยากจะเข้าใจคยองซูมากขึ้น





    “ฉันจองนาย” คยองซูเอ่ยก่อนจะยื่นขนมปังชิ้นหนึ่งให้จงอิน





    “คำว่า ฉันจองนาย มันยังไม่ชัดเจนพออีกเหรอจงอิน? นายคิดว่ามันหมายความว่ายังไงล่ะ?” คยองซูสบตาจงอินอยู่อย่างนั้นจนจงอินต้องเสมองไปทางอื่น





    เขาก้มลงมองขนมปังในมือ คยองซูถอนหายใจเบาๆก่อนจะวางมือลงบนมือของเขา ผิวขาวผ่องตัดกับผิวกร้านแดดของเขาเป็นอย่างดี





    “อย่าคิดมากเลย ฉันจำเป็นต้องพูดแบบนี้”





    “แต่ถ้าคริสเลือกผม ผมไม่ปลอดภัยกว่าเหรอครับ?” จงอินเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง เขาอยากได้ยินคำตอบบางอย่างจากคยองซูที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร





    ความรู้สึกบางอย่างฉายชัดขึ้นบนใบหน้าของคยองซู ร่างเล็กยื่นหน้ามาใกล้เขาจนใบหน้าของทั้งคู่แทบจะชิดกัน จงอินหลุบตามองริมฝีปากอวบอิ่มของคยองซูก่อนจะกรอกตาขึ้นมามองดวงตาโตของคยองซูอีกครั้ง





    “นายอยากเป็นของเล่นของคริสงั้นเหรอ?” คยองซูกัดฟันถาม





    “นายอยากจะเป็นทาสของเขา คอยทำความสะอาดห้องให้เขา คอยปรนเปรอเขา ยอมให้เขาเอาจนนายเดินไม่ได้งั้นเหรอ? แล้วหลังจากนั้นเมื่อเขาเบื่อ เขาก็จะทิ้งนาย ปล่อยให้นายตายอยู่อย่างนั้น นายต้องการแบบนั้นใช่ไหมจงอิน?”





    ความเงียบก่อตัวขึ้นระหว่างคนทั้งคู่ จงอินรู้สึกได้ถึงสายตาของใครหลายคนที่มองมาแต่เขากลับไม่รู้สึกกลัว คยองซูทำให้เขารู้สึกเหมือนพวกเขาอยู่กันสองต่อสอง





    “ไม่ครับ” จงอินตอบ “แต่นั่นหมายความว่าคริสคิดว่าคุณจะทำแบบนั้นกับผมใช่ไหม?”





    คยองซูผละใบหน้าออกมาก่อนจะเอ่ยตอบเสียงเบา





    “ใช่..” คยองซูยืนขึ้นก่อนจะปล่อยมือที่จับจงอินไว้และลุกขึ้นยืน





    “กินให้เสร็จเร็วๆเข้า”





    มันยังมีอีกหนึ่งคำถามที่จงอินอยากเอ่ยถามแต่ไม่มีโอกาส คำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบ: แล้วคุณจะทำไหมครับ?





    แต่บางอย่างบอกกับเขาว่าคยองซูจะตอบว่า ไม่





    ***





    ตลอดหลายวันที่ผ่านมา คยองซูและจงอินแทบจะกลายเป็นคนๆเดียวกัน คยองซูวนเวียนอยู่รอบตัวของจงอินตลอดและมันทำให้ผู้คุมคนอื่นไม่กล้าเข้ามายุ่งกับจงอิน คริสเองก็หัวเราะชอบใจเมื่อเห็นอย่างนั้น มีวันหนึ่งที่คริสเดินเข้ามาใกล้เขาด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มในขณะที่คยองซูได้แต่ส่งสายตาแสดงความเป็นเจ้าของจงอินอย่างชัดเจน เหตุการณ์นั้นมันทำให้คริสรู้สึกขบขันมาก ร่างสูงก้มลงกระซิบบางอย่างให้คยองซูได้ยิน บางอย่างที่ทำให้แก้มขาวกลายเป็นสีชมพูระเรื่อ





    “คริสพูดว่าอะไรเหรอครับ?” จงอินเอ่ยถามเมื่อคริสเดินออกไป





    “ไม่มีอะไรหรอก กลับไปเข้าแถวซะ” คยองซูเอ่ยปัด





    เวลาที่ผ่านไปทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นเมื่ออยู่กับคยองซู จงอินเข้าใจแล้วว่าคยองซูไม่เคยมีเจตนาร้าย คยองซู ชานยอล และอี้ชิงเป็นผู้คุมสามคนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเทา ผู้คุมทั้งสามคนจะเข้ามาขวางหากบางบทลงโทษที่เทาสั่งมันมากเกินไป แต่ก็ไม่ได้สำเร็จทุกครั้ง บางทีเมื่อบทลงโทษมันมากเกินไป..คยองซูก็เลือกที่จะดึงจงอินออกมา อย่างน้อยมันก็เป็นสิ่งที่คยองซูสามารถทำได้ถึงแม้มันจะทำให้เทามองมาที่เขาด้วยสายตาเกลียดชังก็ตาม





    บางทีเวลาที่คยองซูทำแผลให้จงอิน จงอินจะเห็นตัวตนที่แท้จริงของร่างเล็ก คนที่ไม่ชอบทำร้ายใคร คนที่ต่อสู้ในสงครามนี้ทั้งๆที่จริงๆแล้วเป็นคนรักสงบ คนที่แอบเอาอาหารเหลือไปให้เชลยศึกอยู่เสมอๆ เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงกลายมาเป็นคนของคยองซูได้ เขาไม่รู้ว่าทำไมคยองซูถึงเลือกเขา เขารู้เพียงแต่ว่าเขาเชื่อใจคยองซู





    บางทีมันอาจจะเป็นเพราะใบหน้าไร้เดียงสาเวลาที่ร่างเล็กพูดถึงสิ่งที่เทาทำ บางทีมันอาจจะเป็นเพราะมือเล็กที่คอยปฐมพยาบาลให้จงอินอย่างบรรจง บางทีมันอาจจะเป็นเพราะความดีของคยองซูทั้งๆที่ตำแหน่งของคยองซูเองสามารถจะทรมานเชลยศึกกี่คนก็ได้ บางทีมันอาจจะเป็นเพราะคยองซูเลือกเขา เลือกนายทหารผู้แตกหักคนหนึ่งและช่วยเหลือเขาจนกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง





    จงอินชอบถามว่า ทำไม? แต่ไม่เคยได้รับคำตอบเลย แต่ตอนนี้เขาคิดว่าเขาเข้าใจแล้ว..เขาเข้าใจคยองซูมาตลอด





    แต่มันไม่ได้ทำให้อะไรๆง่ายขึ้นเลย





    ***





    ที่พักสุดท้ายก่อนที่พวกเขาจะถึงจุดหมายดีกว่าที่อื่นที่จงอินผ่านมา ในค่ายมีตึกใหญ่และเตียงเดี่ยวสำหรับเหล่าเชลยศึก ขนมปังถูกอบสดๆร้อนๆและน้ำซุปที่รสชาติดีกว่าเคย แต่แม้ทุกคนจะรู้สึกดีและผ่อนคลายขึ้นกับสถานที่ใหม่ ความหวาดกลัวก็ยังคงไม่หายไปไหนเพราะพวกเขารู้...ว่านี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น นรกที่แท้จริงกำลังตามมาเมื่อพวกเขาไปถึงจุดหมาย





    หลังมื้อเย็น..คริสดึงจงอินออกมาจากเหล่าเชลย จงอินพยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมด เขารู้ว่าคยองซูไม่อยู่ปกป้องเขาได้ในเวลานี้ คริสพยายามจะชวนเขาคุยในขณะที่เขาได้แต่ตอบสั้นๆ เขาไม่มีวันเชื่อใจคริสได้





    คริสลากเขามาที่ตึกที่ผู้คุมพักพิงอยู่ก่อนจะหันมาเห็นใบหน้าหวาดกลัวของจงอิน





    “ไม่ต้องกังวลหรอกน่า กูแค่พามึงมาส่งให้เจ้าของเท่านั้น” คริสเอ่ยก่อนจะหัวเราะเบาๆ จงอินรู้ทันทีว่าคริสหมายถึงใคร ร่างผอมพยายามจะเถียงแต่คริสก็เคาะประตูซะก่อน





    คยองซูเปิดประตูออกมาโดนส่วมใส่เสื้อยืดสีขาวและกางเกงผ้าฝ้าย ใบหน้าเต็มไปด้วยความง่วงงุน





    “อะไรเหรอครับ?” คยองซูถามคริส คิ้วขมวดมุ่น





    “กูมีของขวัญมาให้” คริสเอ่ยก่อนจะผลักจงอินเข้าไปในห้อง คยองซูได้แต่ถอยหลังและอ้าแขนรับร่างของจงอินด้วยความตกใจ ทันทีที่ทั้งสองถูกคริสผลักให้เข้าไปในห้อง คริสก็ปิดประตูและล็อกทันที





    คยองซูผละออกมาจากจงอินก่อนจะพยายามเปิดประตูแต่ก็ไม่สามารถทำได้ ประตูถูกลงกลอนจากข้างนอก





    “ท่าน!” คยองซูตะโกน





    “ขอให้สนุกนะ!” คริสตะโกนกลับก่อนจะหัวเราะร่าจนเสียงค่อยๆจางหายไป





    คยองซูหันไปมองจงอินก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน





    “ขอโทษนะ…” คยองซูเอ่ยก่อนจะถอนหายใจ ใบหน้าดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด





    จงอินขมวดคิ้วมุ่น คยองซูในสายตาของเขาสงบและสุขุมมาตลอด พอมาเห็นคยองซูในมุมเปราะบางแบบนี้แล้วก็อดใจหายไม่ได้ มันเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาย่อตัวลงจนใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกับคยองซู เขาตัดสินใจเอื้อมมือออกไปลูบแก้มใสอย่างแผ่วเบา ในขณะที่คยองซูได้แต่มองเขาด้วยความแปลกใจ





    “คุณดูเหนื่อย คุณควรพัก” จงอินเอ่ย ในสมองคิดถึงแต่ผิวของคยองซูที่ดูนุ่มกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก





    “ฉัน...เอ่อ ม..มันเป็นเพราะเราเดินทั้งวันน่ะ” คยองซูเอ่ยตะกุกตะกักก่อนจะเสมองไปทางอื่น





    “นายเองก็เหนื่อย เราก็เหนื่อยกันหมดนั่นแหละ”





    “คยองซู”





    “อะไร?” คยองซูถามเสียงเบา





    “คุณอยากให้ผมทำอะไร?”





    “ไม่ต้องทำอะไรเลยจงอิน ไปนอนเถอะ” คยองซูเอ่ยก่อนจะขบกรามแน่น มือเล็กยกขึ้นมาปัดมือจงอินออกจากใบหน้าของตัวเอง ร่างเล็กสั่นเทิ้มเล็กน้อยจนจงอินสังเกตเห็น





    “เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”





    “เปล่า..ให้ตายเถอะจงอิน ไปนอนซะ” คยองซูเอ่ยอย่างหงุดหงิด





    “แล้วคุณล่ะครับ?”





    “ไม่ต้องห่วงฉัน ห่วงตัวเองเถอะ” คยองซูตอบ





    “คุณเป็นแบบนี้จะไม่ให้ผมห่วงได้ยังไง?” จงอินโพล่งออกไปโดยไม่รู้ตัว ประโยคที่แสดงความเป็นห่วงมากกว่าที่ควร ประโยคที่ทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบอันน่าอึดอัด





    คยองซูได้แต่มองมาที่จงอิน ทั้งสองมองหน้ากันอยู่อย่างนั้น จดจำใบหน้าของกันและกันอยู่อย่างนั้น คยองซูเป็นฝ่ายหลบตาออกไปก่อน มือเล็กทั้งสองข้างกุมกันแน่นอย่างประหม่า





    “นายอาจจะพักผ่อนไม่เพียงพอ คืนนี้นายนอนบนเตียงได้เลยนะจงอิน”





    จงอินเหนื่อย เขารู้ว่าเขาเหนื่อยแค่ไหน แต่สิ่งที่เขาพูดออกไปเป็นความจริง





    “ผมยังสติครบถ้วนดีครับ และผมหมายความตามที่พูด”





    “จงอิน...ได้โปรด อย่าทำให้มันยากไปกว่านี้เลยนะ ไปนอนซะ” คยองซูเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน





    “งั้นนอนกับผมสิ” จงอินเอ่ยออกมาอย่างไม่ลังเลก่อนจะดึงมือคยองซูไปที่เตียงแต่ร่างเล็กขืนตัวไว้





    “นาย..นายพูดอะไรของนาย? ปล่อยฉันนะจงอิน ฉันไม่-”





    จงอินเบื่อกับคำโกหกของคยองซู จงอินเบื่อกับการเสแสร้งและความรู้สึกของคยองซูที่ถูกปกปิดไว้ไม่ให้เขารู้ เขาผลักคยองซูเขากับผนังห้องก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนปลายจมูกของทั้งคู่ชิดกัน นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่เขารู้สึกมีพลังขนาดนี้





    “ทำไมล่ะครับ? คุณกลัวอะไรเหรอ?” จงอินกระซิบถาม





    “เปล่า” คยองซูหลับตาลง





    “งั้นก็พิสูจน์สิครับ” จงอินเอ่ย ใบหน้ายังคงคลอเคลียอยู่แถวร่างเล็กไม่ห่าง “นอนกับผม...นะครับ”





    “ฉันทำไม่ได้” คยองซูปฏิเสธด้วยน้ำเสียงแหบพร่า





    “ทำไมครับ?” จงอินเอ่ยถามขณะพยายามอ่านสีหน้าของคยองซู





    “มันยังไม่ชัดเจนอีกเหรอจงอิน? ทุกอย่างที่ฉันทำไป มันยังชัดเจนไม่พออีกเหรอไง?” คยองซูเอ่ย น้ำเสียงแสดงถึงความรู้สึกเจ็บปวด





    จงอินไม่เข้าใจ เขาไม่เข้าใจที่คยองซูพูด เพราะคำตอบของคยองซูมันคลุมเครือเกินไป มัน--





    แต่เขาไม่มีโอกาสจะได้คิดต่อเมื่อจู่ๆคยองซูก็รั้งคอเขาลงมาก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากของเขาอย่างรวดเร็ว มือเล็กล้วงเขาไปใต้สาบเสื้อของเขาจนทำให้เขารู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว





    คยองซูจูบเขาอย่างช้าๆและอ่อนหวานราวกับว่ามันเป็นค่ำคืนแรกและค่ำคืนสุดท้ายของพวกเขาทั้งคู่ เหมือนกับว่าพวกเขารอเวลานี้มานานแสนนาน เหมือนกับว่าสิ่งนี้มันถูกลิขิตมาให้เกิดขึ้นตั้งแต่พวกเขาเจอกันครั้งแรก จงอินเองก็ปฏิเสธความรู้สึกนี้มาได้สักพักแล้ว แต่ตอนนี้..ตอนนี้เขารู้สึกต้องการคนตรงหน้าเหลือเกิน





    นี่คือเหตุผลไงจงอิน..นายยังอยากให้ฉันอธิบายให้ชัดเจนกว่านี้อีกไหม” คยองซูเอ่ยก่อนจะไล่จูบลงมาจนถึงลำคอของอีกคน จงอินครางเสียงต่ำในลำคอก่อนจะแหงนหน้าขึ้นให้อีกคนได้ทำตามใจ





    “ครับ” จงอินตอบ ริมฝีปากวุ่นอยู่กับแก้มใสของอีกฝ่าย “แต่ช่วยมาอธิบายบนเตียงได้ไหมครับ..”





    คยองซูชะงัก ร่างเล็กมองจงอินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมาย เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆในสายตาของจงอิน





    “นี่นาย…” คยองซูเอ่ยเสียงเบา





    “คุณอยากให้ผมอธิบายให้ชัดเจนกว่านี้ไหมครับ?” จงอินเลิกคิ้วถามในขณะที่รอยยิ้มเริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคยองซู ร่างเล็กรั้งคอเขาลงมาประกบจูบอีกครั้งก่อนจะผลักจงอินลงกับเตียง





    พวกเขาทั้งคู่ต่างก็ถูกทำร้ายเพราะสงคราม จงอินเป็นเชลยศึกส่วนคยองซูเป็นผู้คุมที่จับเขามาแต่เขารู้ว่าคยองซูไม่เคยต้องการให้เป็นแบบนี้ รู้ว่าคยองซูพยายามจะเจรจากับทหารของฝั่งเขาแล้ว แต่เมื่อมันไม่ได้ผล คยองซูก็พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจะรักษาชีวิตของเชลยศึกอย่างพวกเขาไว้ และแม้มือของเขาทั้งคู่จะเปื้อนไปด้วยเลือด และแม้เรื่องนี้มันจะไม่จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง แต่จงอินก็จะจำค่ำคืนนี้ไว้ และจะจดจำทุกช่วงเวลาที่พวกเขาใช้ร่วมกัน





    และจงอินรู้..จงอินรู้ว่าคยองซูก็คงคิดเหมือนกัน





    ***





    เขาตื่นขึ้นมาเพราะริมฝีปากที่พรมจูบใบทั่วลำตัวของเขา เพราะกลิ่นของคยองซูที่วนเวียนอยู่รอบตัวเขา จงอินตวัดเอวของคยองซูเข้ามาใกล้จนร่างของทั้งสองแนบชิดกัน ไม่มีเส้นคั่นหรือกำแพงระหว่างพวกเขาอีกต่อไป มีแค่หัวใจสองดวงที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกันเท่านั้น





    “นี่มัน…” คยองซูเริ่ม มือเล็กลูบไล้เบาๆบริเวณแผลเป็นที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วแผ่นหลังของจงอิน แผลเป็นที่ทำให้จงอินฝันร้ายอยู่ทุกคืน แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกปลอดภัยและมีความสุขอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับคยองซู





    “ครับ..” จงอินยิ้มรับก่อนจะประทับริมฝีปากลงบนเปลือกตาบาง “แผลนี้ผมได้มันมาตอนมีคนพยายามหลบหนีออกจากค่ายครั้งแรก”





    คยองซูนิ่วหน้า





    “นอนคว่ำซิ” คยองซูเอ่ยสั่ง





    “ทำไมเหรอครับ?”





    “ฉันอยากเห็น” คยองซูเอ่ยก่อนจะสบตาเขาเล็กน้อย ความรู้สึกที่เอ่อล้นในดวงตาของร่างเล็กทำให้จงอินยอมนอนคว่ำแต่โดยดี





    จงอินกลั้นหายใจเมื่อริมฝีปากของร่างเล็กพรมจูบลงทั่วแผ่นหลังของเขา ลิ้นร้อนขยับไปทั่วทุกรอยแผลเป็นเล็กใหญ่ มือเล็กวางแปะลงบนไหล่





    คยองซูพึมพำอะไรบางอย่างก่อนที่จงอินจะรู้สึกถึงความเปียกชื้นบนแผ่นหลัง เขาตระหนักได้ทันทีว่าคยองซูกำลังร้องไห้ คยองซูกำลังร้องไห้ให้เขา และนั่นทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น





    “คยองซู?” จงอินเรียกเสียงสั่น “คุณ..คุณรู้จักชื่อของผมได้ยังไง? ทำไมถึงเป็นผม?”





    “แล้วทำไมถึงจะเป็นนายไม่ได้ล่ะ?” คยองซูเอ่ยถามก่อนจะประทับจูบเบาๆที่ต้นคอ





    “บอกผมมาเถอะ” 




    คยองซูยิ้มเมื่อได้ยินอย่างนั้น





    “ฉันรู้จักนายตั้งแต่นายยังไม่แพ้สงครามเสียอีก” คยองซูสารภาพ มือเล็กวางแหมะลงบนแผ่นหลังของเขา





    “ใครจะไม่รู้จักนายกันล่ะ? นายเป็นหนึ่งในนายทหารที่อายุน้อยที่สุดแต่กลับเก่งที่สุด ทุกครั้งที่ฉันเจรจากับจุนมยอน ฉันจะเห็นนายยืนอยู่ข้างหลังเขา คอยปกป้องเขาอยู่ตลอดเวลา”





    “ทำไมผมถึงจำคุณไม่ได้ล่ะ?” จงอินถาม เขาจำได้ว่าเขาเป็นคนคุ้มกันจุนมยอน คอยยืนอยู่ข้างหลังและคอยมองว่าศัตรูจะโจมตีหรือไม่ สถานการณ์ช่วงนั้นมันก็ตึงเครียดเสียเหลือเกิน





    “เพราะนายมุ่งมั่นเกินไปล่ะมั้ง นายเอาแต่จ้องผู้คุ้มกันของฉันจนนายไม่ได้มองหรอกว่าคนที่คุยอยู่กับจุนมยอนคือใคร” คยองซูหัวเราะเบาๆ





    “ก็จริงของคุณ” จงอินพลิกตัวกลับมานอนหงายก่อนจะมองไปที่คยองซู น้ำตาได้เหือดแห้งไปแล้วเหลือเพียงความสดใสในแววตาของคนที่เป็นที่รัก





    “นายเคยคิดจะหนีไหม?” คยองซูถาม มือเล็กเล่นผมของอีกฝ่ายอย่างเพลิดเพลิน





    “...อะไรนะครับ?” จงอินชะงักกึก





    “เพราะฉันคิด” คยองซูขบริมฝีปากแน่น





    “ฉันคิดมาตลอด ตั้งแต่คริสปล่อยให้เทาคุมที่นี่ ฉันได้แต่สงสัยว่าทำไมฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ แต่มีบางคนที่ทำให้ฉันเลือกที่จะอยู่ต่อ…” คนนั้นๆคือนาย แม้คยองซูจะไม่ได้พูดแต่จงอินรู้ รับรู้ได้ถึงความหมายที่คยองซูพยายามจะสื่อ





    “แต่มันคือหน้าที่ของคุณ ผมไม่ได้บอกว่ามันถูก..แต่--” จงอินแย้ง





    “ฉันรู้ๆ..ฉันเป็นผู้คุม ฉันไม่ควรคิดแบบนี้” คยองซูหันหน้ามองไปทางอื่น “นายเป็นทหารที่ดีกว่าฉันมากนะจงอิน นายทำตามหน้าที่ได้ดีกว่าฉันมากนัก”





    “อย่าคิดถึงมันมากเลยครับ..เข้าใจมั้ย?” จงอินกระซิบ มือใหญ่เอื้อมไปปัดผมที่ปรกหน้าของร่างเล็กอย่างทะนุถนอม





    คยองซูรับคำในลำคอแต่กลับเสมองไปทางอื่น





    ในความมืดนี้..จงอินเองก็คิดที่จะหนี แต่แล้วเขาก็คิดถึงผลที่จะตามมา คิดถึงทิฐิมานะของตัวเองที่ไม่เคยยอมแพ้ใคร เขาไม่อยากให้คยองซูหนีและเขาก็ไม่อยากจะหนีเช่นกัน





    จงอินหลับตาลงก่อนจะปล่อยให้ตัวเองจมลงสู่ห้วงนิทรา





    ***





    จงอินเดินออกมาจากห้องของคยองซูเพื่อจะกลับไปรวมกับเชลยคนอื่นๆแต่เทาก็เดินเข้ามาหาเขาเสียก่อน ก่อนที่เขาจะได้ทำความเคารพหรือก้มหัวให้เทา ร่างของเขาก็ถูกผลักเข้ากับกำแพงอย่างแรง เทามีใบหน้าเกรี้ยวโกรธอย่างเห็นได้ชัด จงอินเองก็ได้แต่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อหมัดหนักๆถูกซัดเข้าใส่ช่องท้อง





    “พวกมันไปไหน?!” เทาตะคอก “บอกกูมาเดี๋ยวนี้ ก่อนที่กูจะตัดหัวมึง”





    “ปล่อยมือเดี๋ยวนี้”





    จงอินไม่สามารถหันไปมองได้เพราะมีดของเทาที่จ่ออยู่ที่คอหอย แต่เขาอยากจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินเสียงของคยองซู กี่ครั้งแล้วที่คยองซูโผล่มาได้ทันท่วงทีเพื่อช่วยเขาไว้ เขารู้สึกขอบคุณคยองซูมากจริงๆ





    เทาปล่อยตัวจงอินก่อนที่จงอินจะถอยหลังตรงเข้าสู่อ้อมแขนของคยองซู ร่างเล็กลูบแผลที่คอของเขาเบาๆ แผลที่เกิดจากใบมีดคมของเทาเมื่อครู่





    “คยองซู...มึงก็โดนล้างสมองเหมือนกันเหรอ?”





    “กูไม่รู้ว่ามึงพูดเรื่องอะไร...จงอินเองก็คงไม่รู้เหมือนกัน” คยองซูเอ่ยเรียบๆ





    เทากระตุกยิ้ม ดวงตายังคงคุกรุ่นไปด้วยความโกรธ





    “ชานยอลหนีไปแล้ว..และมันยังเอาเชลยศึกไปด้วยอีกหนึ่งคน” เทาเฉลยและนั่นทำให้จงอินและคยองซูนิ่งไป





    จงอินไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไง เขารู้ว่าชานยอลกับแบคฮยอนปลอดภัย น้ำเสียงของเทาบ่งบอกว่าทั้งคู่ยังไม่ถูกเจอ เพียงแต่เขาไม่เข้าใจว่าชานยอลทิ้งกองทัพของตัวเองไปอย่างง่ายดายได้ยังไง มันทำให้เขานึกถึงบทสนทนาของเมื่อคืนที่เขามีกับคยองซู





    “เราไม่รู้เรื่องจริงๆ คริสเป็นพยานได้ว่าเมื่อคืนกูกับจงอินอยู่ที่ห้อง ไม่ได้ออกไปไหนเลย” คยองซูเอ่ยเสียงเรียบ





    “กูไม่ได้มาเพราะเรื่องนี้” เทากดเสียงต่ำ “มึงอ่อนแอเกินไปแล้วนะคยองซู ก่อนที่มึงจะรู้ตัว..ไอ้เศษสวะนี่คงปั่นหัวมึงให้หลงมันหัวปักหัวปำ ทำให้มึงหนีไปด้วยอีกคน”





    คยองซูโอบเอวจงอินแน่น





    “มึงไม่มีสิทธิ์เรียกจงอินแบบนั้น”





    “เรียกว่าอะไร? เศษสวะ? แล้วมึงอยากให้กูเรียกมันว่าอะไรดีล่ะ ไอ้ขี้แพ้? สารเลว? ไอ้ตุ๊ด? ไอ้หน้าห-”





    ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก มือที่เอวของจงอินผละออกไปก่อนที่คยองซูจะพุ่งตัวเข้าใส่เทาจนร่างใหญ่ล้มลงกับพื้น รู้ตัวอีกทีเทาก็ต้องยกมือขึ้นเช็ดเลือดบริเวณมุมปากเสียแล้ว มือของคยองซูจับอยู่ที่ปืนที่คาดอยู่บริเวณเอว ร่างเล็กคงจะชักปืนออกมาแล้วถ้าจงอินไม่ดึงไว้





    “มึงเรียกลู่หานด้วยถ้อยคำสกปรกแบบนั้นใช่ไหม? มิน่าล่ะ ลู่หานถึงรังเกียจมึงขนาดนั้น” คยองซูเอ่ยเสียงเย็น





    “กูคิดบัญชีแน่คยองซู” เทาเอ่ยก่อนเช็ดเลือดบริเวณคาง ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง





    ทั้งสองคนยืนจ้องตากันอยู่อย่างนั้นอย่างไม่มีใครยอมใครจนคยองซูต้องพูดออกมาในที่สุด





    “มึงอย่าลืมนะว่ามึงได้ตำแหน่งนี้เพราะใคร..”





    เพราะประโยคนี้ เทาจึงจำใจเดินออกไปอย่างหัวเสีย





    “ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?” จงอินถาม มือใหญ่จับใบหน้าของอีกคนพลิกไปมาเพื่อหาบาดแผล แม้คยองซูจะไม่ได้บาดเจ็บอะไรแต่เหตุการณ์เมื่อกี้ทำให้จงอินตกใจอยู่ไม่น้อย





    “ฉันไม่เป็นไร…” คยองซูตอบ “แสดงว่าแบคฮยอนกับชานยอลทำตามแผนที่วางไว้จริงๆ”





    “คุณรู้อย่างนั้นสินะครับ?” จงอินเลิกคิ้วถาม





    “ไม่รู้รายละเอียดหรอก แค่รู้ว่าพวกเขาจะไป ฉันเองก็ไม่ได้ห้าม” คยองซูแย้มยิ้มบาง





    “แต่มันไม่ถูก-” จงอินเถียง





    “มันเป็นทางเลือกเดียว” คยองซูเอ่ยออกมาอย่างเหลืออด “ฟังนะจงอิน..ฉันรู้ว่านายไม่อยากหนี นายเป็นทหารที่ซื่อสัตย์ แต่จงอิน...เราเองก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกัน”





    “เรามีทางเลือกนะคยองซู..เรา…” จงอินรีบตอบ ความหวาดกลัวเริ่มเข้ามาแทนที่





    “เทาหมายหัวนายเอาไว้แล้ว! นายเป็นคนต่อไป มันจะทรมานนายทันทีที่ฉันละสายตาจากนาย..นายเข้าใจมั้ย?!” คยองซูตะคอก





    งั้นก็อย่าละสายตาจากผมสิ เป็นสิ่งที่จงอินอยากจะพูดออกไปแต่ก็ตัดสินใจเก็บไว้ เขาไม่สามารถโยนภาระทั้งหมดไปที่คยองซูได้ เขารู้ว่านี่มันเพื่อความปลอดภัยของตัวเขาเอง เขาจึงพยักหน้ารับเบาๆ แม้จะไม่อยากหนีแต่เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมมันถึงเป็นทางเลือกเดียว





    “โอเคครับ...ผมเข้าใจแล้ว” จงอินถอนหายใจเบาๆ





    “เราจะยังไม่ไปตอนนี้เพราะพวกเขาน่าจะคุมเข้มหลังจากที่แบคฮยอนกับชานยอลหนีไปได้ แต่เร็วๆนี้แหละ ฉันจะวางแผนเอง นายแค่ต้องทำตัวปกติ”





    จงอินพยักหน้ารับด้วยความรู้สึกไม่มั่นใจ เขามองรอยยิ้มของคยองซูก่อนจะสงสัยว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นหรือจุดจบกัน





    แต่ที่เขาทำได้ตอนนี้ คือเชื่อใจคยองซูเท่านั้น




    ***





    มันยากที่จะทำตัวปกติเมื่อมีความลับมากมายสุมอยู่ในอก เมื่อจงแดมาบอกเขาเรื่องชานยอลกับแบคฮยอนด้วยใบหน้าซีดขาว จงอินก็เลือกที่จะไม่บอกจงแดว่าคนทั้งคู่ปลอดภัย เทาเองก็เลือกที่จะโกหกทุกคนว่าสองคนนั้นถูกยิงตายคาที่





    เขาไม่รู้ว่าเขาจะบอกลาจงแดยังไง จนถึงตอนนี้..แค่เพียงคิดว่าเขาจะต้องทิ้งเพื่อนคนนี้ไปก็ทำให้เขารู้สึกไม่ดีขึ้นมาแล้ว แต่จงอินก็พยายามที่จะคุยกับจงแดทุกคืน ใช้เวลาที่เหลืออยู่ร่วมกันให้คุ้มค่าที่สุด เขาไม่กล้าถามอี้ชิงว่าอี้ชิงคิดจะหนีเหมือนกันรึเปล่า มันเป็นหัวข้อที่ค่อนข้างอ่อนไหวและมันคงจะดีที่สุดถ้าจะให้พวกเขาตัดสินใจเอง





    คยองซูยังคงวนเวียนอยู่รอบๆตัวเขาเหมือนเคย ดวงตาคมกริบคอยตวัดมองเทาทุกครั้งที่เทาเยื้องกรายเข้ามาใกล้จงอิน ร่างเล็กไม่ยอมบอกจงอินถึงแผนการหลบหนี และแม้ว่าคยองซูจะเรียกเขาไปที่ห้องบ่อยๆแต่ก็ไม่เคยพูดถึงแผนเลย แต่จงอินรู้สึกได้ถึงความเร่งรีบในการกระทำของคยองซู เห็นได้ชัดว่าคยองซูมักจะยุ่งอยู่กับอะไรบางอย่างอยู่เสมอและรีบร้อนตลอดเวลา จงอินอยากจะช่วยแต่เขาก็รู้ดีว่าเขาไม่มีอะไรที่จะหยิบยื่นให้คยองซูได้เลยนอกจากตัวของเขาเอง





    วันเวลาผ่านไป รถทหารหลายคันขับเข้าออกค่ายทุกวันในขณะที่ทุกๆคนก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมตัวเดินไปจนถึงจุดหมายสุดท้าย จงแดบอกเขาว่าที่ๆพวกเขาจะไปมีคุกและห้องทรมานแต่จงอินพยายามที่จะไม่นึกถึงมัน เขากำลังรอ รอให้คยองซูส่งสัญญาณ รอให้คยองซูบอกเขาถึงแผนการที่วางไว้





    หลังมื้อเย็น ทันทีที่จงอินก้าวเท้าเข้ามาในห้องของคยองซู มือเล็กก็ปิดปากเขาไว้ จงอินเข้าใจในทันที คืนนี้แหละที่ทุกอย่างจะเกิดขึ้น คยองซูกำลังหยิบอาวุธใส่เข้าไปในชุดเครื่องแบบ ของทุกอย่างถูกใส่ไว้ในเป้ใบเล็กที่ทำให้ง่ายต่อการหลบหนี





    “คุณแน่ใจนะ?” จงอินถามย้ำเมื่อคยองซูยื่นปืนพกมาให้เขาหนึ่งกระบอก เขาไม่ได้จับมันมานานมาแล้ว มันทำให้เขาแปลกใจที่คยองซูเชื่อใจเขามากขนาดนี้





    “แน่ใจสิ” คยองซูตอบอย่างไม่ลังเล





    และแล้ว ราวกับว่าทนไม่ได้..ร่างเล็กรั้งคอจงอินลงมาประทับจูบร้อนแรง เหมือนกับพยายามจะสื่อทุกความรู้สึกที่พูดออกมาไม่ได้ จงอินรับรู้ถึงมัน จงอินรับรู้ถึงความรู้สึกทุกอย่าง เขาได้ยินทุกคำพูดที่คยองซูอยากบอกแต่ไม่สามารถพูดออกมาได้ เขารับรู้ทุกสิ่งเพียงเพราะจูบๆนี้





    “จงอิน..ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น” คยองซูเอ่ยเสียงเบาปนหอบ





    “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น รู้ไว้นะว่าฉันจะไม่มีวันเลิกแคร์นายเลย” มือเล็กโอบเอวจงอินแน่น





    “ถ้า...ถ้าเกิดเราโดนจับได้ ถ้าพวกนั้นบอกนายว่าทุกสิ่งที่ฉันพูดเป็นเรื่องโกหก นายห้ามเชื่อพวกนั้นเด็ดขาดนะ เชื่อใจฉันนะจงอิน ไม่ว่าพวกนั้นจะพูดอะไร เชื่อฉัน เชื่อว่าฉันไม่เคยโกหกนายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เคยเลย”





    “ผมเชื่อคุณ” จงอินเอ่ย เขาเองก็กลัว กลัวว่าเหตุการณ์ทุกอย่างจะไม่เป็นไปอย่างราบรื่น “ผมเชื่อคุณเสมอ”





    พวกเขายืนค้างอยู่ในท่านั้นสักพัก หน้าผากของทั้งสองชิดกัน ดวงตากวาดมองใบหน้าของกันและกัน พยายามจะจดจำทุกรายละเอียดไว้ให้แม่นยำที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแก้ม ริมฝีปาก เปลือกตา ผิว...ผมรักคุณ เป็นคำที่ไม่ได้ถูกเอ่ยออกไป แต่ความรู้สึกรักกลับแผ่กระจายไปทั่วห้องเล็กๆโดยไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใด





    “ไปกันเถอะ” คยองซูสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยออกมา





    พวกเขาทั้งสองสามารถหลบผู้คุมคนอื่นๆออกไปได้อย่างง่ายดาย ทั้งสองวิ่งเข้าป่ามาได้สำเร็จ จงอินรู้ว่าพวกเขายังไม่ปลอดภัย มือใหญ่ดึงมือเล็กให้เร่งฝีเท้าก่อนจะวิ่งแบบไม่คิดชีวิต ระยะห่างระหว่างพวกเขาและค่ายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่พวกเขายังไม่ถึงครึ่งทางด้วยซ้ำ..เสียงฝีเท้าก็ไล่ตามมาติดๆ มีเสียงตะโกนแล้วก็เสียงรองเท้าบูทมากมายไล่ตามหลังมา ตามมาด้วยแสงจากไฟฉาย





    จงอินพยายามข่มความกลัวที่เพิ่มมากขึ้นทุกที เขาและคยองซูยังคงวิ่งต่อไป เท้าเหยียบย่ำลงบนพื้นป่าอย่างไม่ลดละเพื่อที่จะไปถึงอิสระที่รอพวกเขาอยู่ที่อีกฝั่งของป่า พวกเขาใกล้เต็มที..เขาแค่ต้องข้ามฝั่งออกไปเพื่อจะขึ้นรถที่คยองซูเตรียมไว้





    ทันใดนั้นเขาก็เห็นคยองซูร่วงลงไปกับพื้น เห็นกระสุนที่พุ่งใส่ร่างเล็กก่อนที่จะได้ยินเสียงเสียอีก จงอินหยุดก่อนจะวิ่งกลับไปหาร่างเล็กที่ล้มลง เขาพยายามจะกลั้นน้ำตาเมื่อเห็นเลือดสีแดงฉานที่หยดลงเต็มมือ





    “จงอิน ไปซะ..ไป!” คยองซูพยายามใช้แรงที่เหลืออยู่ผลักจงอินออกไป





    “ผมจะไม่ทิ้งคุณ..ผมจะไม่มีวันทิ้งคุณ” จงอินตะโกน





    “ไหนนายบอกนายจะเชื่อทุกคำที่ฉันพูดไง เชื่อฉันสิ...ฉันบอกให้นายไป ไปเถอะนะ ได้โปรด” คยองซูเอ่ยขอร้อง ดวงตาโตมองเขาด้วยความรู้สึกมากมาย





    จงอินทำไม่ได้. เขาทำไม่ได้. และเขารู้ว่าคยองซูเองก็รู้ดีเพราะร่างเล็กเสมองไปทางอื่นด้วยความผิดหวัง





    “ผมขอโทษ” จงอินกระซิบ





    ผู้คุมหลายคนเข้ามาล้อมรอบคนทั้งคู่ไว้ ด้ามกระบอกปืนไรเฟิลถูกฟาดเข้ามาที่ร่างของจงอินซ้ำๆ จงอินไม่ละสายตาจากใบหน้าของคยองซูเลยแม้แต่น้อย คยองซูเองก็เช่นกัน เขารู้ว่ามันอาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้เห็นหน้าคยองซูชัดๆแบบนี้ เขามองเห็นความทรงจำที่มีร่วมกันฉายซ้ำๆอยู่ในดวงตาของร่างเล็ก ทุกอย่าง..ทุกอย่างที่ทั้งสองมีร่วมกัน





    เหรียญบนเครื่องแบบของคยองซูสะท้อนสีอ่อนภายใต้แสงจันทร์ ผ้าหยาบบนเครื่องแบบของจงอินเสียดสีกับผิวกาย





    บางที..ในอีกชาติหนึ่ง มันอาจจะไม่เป็นแบบนี้ บางทีชาติหน้าพวกเขาอาจจะไม่ถูกกักขังอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ จงอินคิดอย่างนั้นในขณะที่สติเริ่มค่อยๆดับวูบลง ใบหน้าของคยองซูเริ่มไม่ชัดเจนเท่าเดิม คยองซูกำลังจะหลุดมือไปโดยมีเสียงหัวเราะสะใจของเทาดังแว่วเข้ามาเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนที่ความมืดจะเข้าครอบงำโดยสมบูรณ์





    มือของคนทั้งสองยังจับกันแน่นไม่ปล่อย แม้จะถูกนำตัวกลับมาที่ค่ายอย่างไร้สติ..แต่มือของคนทั้งสองยังคงจับกันไว้อย่างนั้น





    ***





    เขารู้อยู่แล้ว





    เขารู้อยู่แล้วว่าเขาจะโดนอะไรหลังจากที่เขาและคยองซูถูกจับได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะเจ็บน้อยลงเลย และมันไม่ได้หมายความว่าเขาจะทนกับความเจ็บปวดแบบนี้ได้ เขาเลิกตั้งคำถามว่าทำไมเทาเลือกที่จะทรมานเขาแทนที่จะฆ่าเขา เหตุผลมันก็ชัดอยู่แล้ว เทาทำแบบนี้เพื่อจะแก้แค้นคยองซู





    เชือกเส้นหนามัดรอบข้อมือและข้อเท้าของเขาแน่นจนเลือดซิบ จงอินถูกขึงไว้กลางอากาศในสภาพร่างกายเปลือยเปล่า เขาขบฟันแน่นเมื่อหยาดเหงื่อใหลโดนแผลจนแสบไปหมด เลือดบางส่วนหยดลงไปบนพื้นจนกลายเป็นสีแดง เทากำลังเดินวนรอบตัวเขา ในมือมีแส้ แส้ที่ปกคลุมไปด้วยเลือดแห้งกรังของจงอิน





    “ร่างกายมึงดูดีนี่” เทาเอ่ยเสียงพร่า “ไม่น่าล่ะคยองซูมันถึงถูกใจมึงขนาดนี้ น่าเสียดายที่คยองซูจะไม่ได้สัมผัสมึงอีกแล้ว หึ” เทาหัวเราะลั่นก่อนที่แส้จะฟาดลงมากลางหลังของจงอิน





    จงอินขมริมฝีปากแน่น ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วจนเขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงเศษเนื้อ แส้ยังลงฟาดลงมาซ้ำๆจนจงอินเลิกนับ เขาไม่ได้ยินเสียงร้องของตัวเองด้วยซ้ำ





    “คยองซูของมึงไปไหนซะล่ะ? ทำไมไม่มาช่วยมึงเหมือนครั้งก่อนกันนะ?” เทากระชากผมจงอินให้เงยหน้าขึ้นก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปพูดใกล้ๆ





    จงอินหลับตาลง นี่แหละคือสิ่งที่กำลังฆ่าเขาอย่างช้าๆ..ความไม่แน่ใจ เขาไม่รู้ว่าคยองซูยังมีชีวิตอยู่รึเปล่า สิ่งสุดท้ายที่เขาจำได้คือพวกมันกระชากคยองซูออกไปจากเขา และนั่นเป็นความรู้สึกที่เจ็บกว่าการถูกฟาดเป็นพันเท่า





    แต่แล้ว..จงอินก็ไม่รู้ว่าเขาอยากให้คยองซูมีชีวิตอยู่รึเปล่าถ้าคยองซูจะต้องพบเจอกับความเจ็บปวดแบบที่เขาเจอ เขาไม่อยากนึกภาพคยองซูที่ถูกทรมาน เขาไม่อยากจะนึกถึงภาพที่คยองซูโดนแส้ฟาดจนเลือดใหลซิบๆ เขาไม่อยากจะนึกถึงมันเลย





    แต่นายทหารที่ละทิ้งหน้าที่ของตัวเองมีความผิดมากกว่าเชลยศึกอย่างพวกเขาเสียอีก





    สติของจงอินดับวูบไปอีกครั้ง เขาล่องลอยไปในมหาสมุทรแห่งความทรงจำ--ภาพของเซฮุนที่กำลังหัวเราะ แม่ของเขาที่กำลังซักผ้า พ่อของเขาที่ส่งยิ้มมา จงแดที่เปล่งเสียงร้องเพลงในคืนที่ไร้ดาว แบคฮยอนที่มองมาที่เขาด้วยความชื่นชม





    คยองซูที่พันผ้ารอบข้อเท้าของเขา คยองซูที่แอบเอาขนมปังมาให้เขา คยองซูที่เอื้อมมือมาจับแขนเขา คยองซูที่ร้องเรียกชื่อเขา คยองซู คยองซู คยองซู





    จงอินสะดุ้งตื่นเพราะความเย็นที่แผ่ซ่านทั่วร่างกาย ร่างสูงถูกบังคับให้นอนบนก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ทั้งๆที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลสด มันมากกว่าที่เขาจะรับได้ จงอินกรีดร้องทุกครั้งที่แผลถูกับความเย็นของน้ำแข็ง เขาหายใจไม่ออก เขาคิดอะไรไม่ออก ร่างกายของเขามันพังจนเกินเยียวยา หัวใจของเขาก็เช่นกัน





    จงอินได้แต่นอนขดตัวอยู่อย่างนั้นเมื่อถูกโยนกลับเข้ามาในห้องขัง ร่างผอมหลับๆตื่นๆเพราะฝันร้าย





    สัมผัสอ่อนโยนบนตัวเขาทำให้จงอินลืมตาตื่นขึ้นอย่างยากลำบาก ใบหน้าของอี้ชิงโผล่เข้ามาในรัศมีสายตา เมื่อเห็นอย่างนั้น..จงอินแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความโล่งอก ร่างผอมร้องเสียงเบาเมื่ออี้ชิงทายาลงบนแผลของเขาก่อนจะพันแผลให้เสร็จสรรพ





    “จงแดเป็นยังไงบ้าง?” เป็นคำถามแรกที่ออกมาจากปากของจงอิน





    “ตายเมื่อสองวันที่แล้ว” อี้ชิงเอ่ยเสียงเบา ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าที่อธิบายไม่ได้ “เขาป่วยมานานแล้ว แต่เขาไม่ยอมบอกฉัน”





    จงอินไม่รู้ว่าเขาควรพูดว่าอะไร จงแดตายแล้ว เสียงทรงพลังของจงแดจะไม่มีอีกแล้ว จงแดจะไม่มีวันได้เป็นนักร้องเหมือนที่วาดฝันไว้ จงอินรู้สึกเหมือนโลกเริ่มหม่นลงทุกที ความเศร้าและการสูญเสียมันกำลังกลืนกินเขาเข้าไป เพราะจงแดเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่เขาเหลืออยู่





    ในขณะที่อี้ชิงลุกขึ้นยืน จงอินก็เอ่ยถามคำถามสุดท้าย





    “คยองซูล่ะ? เป็นยังไงบ้าง?”





    ใบหน้าของอี้ชิงสลดลง และนั่นเป็นสิ่งที่จงอินไม่อยากเห็น





    “นายไม่อยากรู้หรอก จงอิน”





    ***





    จงอินถูกลากออกมาจากห้องขัง ไม่มีแรงหลงเหลือที่จะก้าวเท้าเดินอีกต่อไป…





    ทันทีที่ถูกลากออกมาข้างนอก จงอินก็เข้าใจในทันที เขามองเห็นคริสและเทายืนอยู่อีกสิบฟุตข้างหน้าพร้อมกับผู้คุมอีกหลายคน พวกนั้นกำลังยืนรอเขา





    นี่แหละที่ๆเขาจะตาย ต่อหน้าทุกๆคน





    เขาถูกโยนลงบนพื้นตรงหน้าเทาพร้อมกับรองเท้าที่เตะเข้ามาไม่ยั้ง จากนั้นมือหยาบก็กระชากเขาขึ้นมาจากพื้นก่อนจะกระตุกยิ้ม ไม่ฟังเสียงห้ามของคริสเลยแม้แต่น้อย





    “กูมีเซอร์ไพรซ์ให้มึง มึงน่าจะชอบ” เทาเอ่ยเสียงเหี้ยม





    จงอินใช้ความกล้าเฮือกสุดท้ายถ่มน้ำลายใส่ใบหน้าของเทา เทาทำท่าจะต่อยเขาแต่คริสกลับเข้ามาห้ามไว้เสียก่อน





    “พอแล้วเทา แค่ที่ทำอยู่ก็มากเกินไปแล้ว” คริสออกคำสั่ง





    “งั้นเอาเซอร์ไพรซ์ออกมา” เทาตะโกน และก่อนที่จงอินจะได้จินตนาการ..เขาก็ถูกจับให้หันไปอีกทาง และมันเป็นสาเหตุให้เขาสะอื้นออกมาอย่างห้ามไม่อยู่





    คยองซูเงยหน้าขึ้นมามองเขาเล็กน้อย ใบหน้าขาวกลายเป็นสีเขียวและสีม่วงคล้ำ ร่างเล็กพยายามฝืนยิ้มเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือจงอิน ดวงตาโตทอประกายระยิบระยับ มือเล็กเอื้อมออกมาเพื่อจะสัมผัสเขาก่อนจะต้องร้องเสียงดังเมื่อถูกเทาฟาดอย่างแรง จงอินเองก็ร้องห้ามออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่าจนคริสต้องเดินเข้ามาปรามเทา





    “คู่รักต้องห้าม หึ..เหมาะสมกันเสียจริง น่ารังเกียจ” เทาเอ่ย





    “เงียบได้แล้วเทา” คริสเอ่ยเสียงเรียบ





    “ฉันไม่น่ายอมให้นายทำแบบนี้เลย” คริสพึมพำ





    “ท่านสัญญาแล้ว” เทาตอบกลับอย่างรวดเร็ว





    คริสไม่ตอบอะไรเพียงแต่สั่งให้จงอินและคยองซูยืนขึ้น ทั้งสองทำตามคำสั่งด้วยความยากลำบาก





    คริสยัดกระบอกปืนใส่มือของคยองซูในขณะที่คยองซูได้แต่จ้องมองมันด้วยความงุนงง แต่จงอินเข้าใจ..เขารู้ทันทีว่ามันจะจบยังไงเมื่อกระบอกปืนถูกดึงมาจ่ออยู่ที่หน้าอกข้างซ้ายของเขา คยองซูเองก็เข้าใจในทันที มือเล็กสั่นน้อยๆ





    “จงอิน” คยองซูเอ่ย น้ำสีใสใหลลงมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ริมฝีปากอวบอิ่มสั่นเทา มันทำให้จงอินอยากเข้าไปกอดอีกคนไว้ อยากจะดึงอีกคนเข้ามากอดจนจมลงไปในอ้อมแขนของเขา





    จงอิน”





    “พลทหารโด ฟังคำสั่งด้วย” เทากระตุกยิ้ม “พร้อม..เล็ง”





    “ไม่…” คยองซูส่ายหน้ารัว “ไม่นะ..ไม่..ไม่ใช่แบบนี้..ไม่”





    “จงอิน ฉันรักนาย” คยองซูเอ่ยเสียงเบา ร่างเล็กดูเปราะบางมากในตอนนี้





    พวกเขาจะไม่มีวันหนีมันพ้น จงอินรู้..เขารู้ว่าคยองซูจะโดนอะไรถ้าไม่ทำตามคำสั่ง และถ้าการตายของจงอินมันจะทำให้คยองซูปลอดภัยล่ะก็...นี่เป็นสิ่งเดียวที่จงอินจะทำได้ มันจะเป็นสิ่งเดียวและสิ่งสุดท้ายที่เขาจะทำให้คยองซู และคยองซูคนเดียวเท่านั้น





    “ลืมผมซะ” จงอินจับปลายกระบอกปืนที่จ่ออยู่ที่อกเขาแน่น





    “ลืมให้หมดทุกอย่าง ลืมว่าเคยรักผม คยองซู..ลืมซะ” จงอินเอ่ยเสียงเรียบในขณะที่คยองซูได้แต่ร้องไห้หนักขึ้น





    “ฉันทำไม่ได้” คยองซูสะอื้น





    ปืนที่อยู่ในมือเทาจ่อเข้าที่ขมับของคยองซูทันที และมันทำให้จงอินกลัว





    “เทา..วางปืนลง” คริสเอ่ยแต่ครั้งนี้เทากลับไม่ฟัง





    “มันมีปืนนะครับท่าน ถ้ามันขยับนิดเดียว ผมยิงมันสมองใหลแน่”





    “คยองซู..” จงอินเอ่ยขึ้นมาอย่างรีบร้อน “คยองซู ผมไม่ได้รักคุณ ผมไม่รักคุณเลย ลืมผมซะ!”





    “...ไม่จริง” ดวงตาโตสั่นระริก





    “ผมไม่รักคุณ...ผมไม่เคยรักคุณเลย” จงอินเอ่ยต่อ





    คยองซูขบริมฝีปากแน่น และแม้ใบหน้าจะเปรอะไปด้วยคราบน้ำตา แต่จงอินเห็นความเปลี่ยนแปลงของคยองซู ร่างเล็กกำลังเชื่อ..ร่างเล็กเริ่มเชื่อคำโกหกของเขาและนั่นทำให้จงอินเจ็บปวด เพราะมันไม่ควรจะง่ายขนาดนี้





    “พลทหารโด” เทาเอ่ยเรียก “พลทหารโด..ยิง





    คยองซูหลับตาแน่น นิ้วเรียวสั่นระริกเตรียมลั่นไก จงอินมองใบหน้าเล็กเป็นครั้งสุดท้าย พยายามจะมองให้นานที่สุดแต่ก็รู้ว่าไร้ประโยชน์ จงอินยิ้มบางๆ เขากำลังจะตาย





    นี่สินะลมหายใจสุดท้าย..เขาคิดถึงเซฮุน จงแด แบคฮยอน พ่อกับแม่ และสุดท้าย เขาคิดถึงคยองซู





    เสียงปืนลั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาได้ยิน.





    ...finale...












    ทอล์คกับไรท์
    โอ้ยหายไปจะครบปี ได้ฤกษ์กลับมาแล้ว5555555
    ใช้เวลาแปลเรื่องนี้นานมากๆเพราะแปลๆหยุดๆ แต่ก็เป็นรูปเป็นร่างจนได้ล่ะนะ ;_;
    ขอบคุณคนพิเศษที่มาช่วยproofreadให้ ไม่งั้นคงคำผิดบานนนน
    เรื่องนี้เป็นอะไรที่ดาร์คและแปลลำบากมากๆ ตอนอ่านต้นฉบับแอบน้ำตาซึม
    ไม่รู้ว่าคุณคนอ่านของเราจะน้ำตาซึมกันบ้างรึเปล่านะ?

    ไม่รู้ว่าเรื่องต่อไปจะมาอีกเมื่อไหร่ ไม่รู้ว่าจะมีเวลาแปลบ่อยแค่ไหน
    ตอนนี้เรื่องหน้าที่คิดจะแปลอยู่คือฮุนแบค ถ้าใครชอบก็ติดตามด้วยนา!
    ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถ้าชอบเรื่องนี้ก็เม้นกันเยอะๆนะฮะ

    สกรีมโปรดติดแท็ก
    #คลังฟิคดด
    B A B Y ♥ T H E M E
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×