ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (EXO) ' ค ลั ง ฟิ ค แ ป ล เ ด็ ก ด า ว '

    ลำดับตอนที่ #11 : (OT12) Murder in a House of Angels [I/I] ;

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 57


    MURDER IN A HOUSE OF ANGELS 
    original story: http://19-blue-roses.livejournal.com/54854.html
    written by: lunathunderhead
    pairing: none




     





    มีสำนวนหนึ่งที่พูดกันว่า “คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย”





    แต่ไม่ว่าคุณจะเชื่อมั่นในมิตรภาพแค่ไหน..ทันทีที่เลือดของเพื่อนคุณใหลเจิ่งนองมาโดนปลายเท้า คุณจะก้าวถอยออกมา..






    ***





    เลือดสีแดงฉานสะท้อนแสงแดดที่สาดส่องลงมา..สีมันเหมือนอัญมณีแพรวพราวเมื่ออยู่บนฝ่ามือขาวๆของลู่หาน ร่างเล็กนั่งแกว่งเท้าบนกิ่งไม้ใหญ่โดยมีขวานด้ามโตวางอยู่บนตัก ดวงตาโตจ้องมองมือที่เปื้อนไปด้วยเลือด





    แสงแดดสีทองอร่ามยามเช้าส่องแสงผ่านต้นไม้ใหญ่ส่งสัญญาณว่ารุ่งอรุณได้มาถึงแล้ว จากตรงนี้..ลู่หานได้ยินเสียงโกรธเกรี้ยวของใครบางคนดังแว่วมา ร่างเล็กก้มลงมองแผลขนาดใหญ่บริเวณต้นขาของตัวเองด้วยใบหน้าเรียบเฉย แผลที่ลึกลงไปจนเห็นกระดูกด้วยฝีมือมีดของโอเซฮุน





    เสียงดังกรอบแกรบของใบไม้ดังขึ้นเบื้องล่างจนทำให้ลู่หานต้องชะเง้อหน้าลงไปมองด้วยความสงสัย ร่างเล็กสะพายขวานของตนเองขึ้นไหล่ก่อนจะกระโดดลงมาจากต้นไม้อย่างเงียบเชียบส่งผลให้จุนมยอนที่ยืนอยู่ข้างล่างร้องออกมาด้วยความตกใจ





    “ลู่หาน..ฉัน-” จุนมยอนยื่นมีดพกขนาดเล็กออกมาด้วยมือที่สั่นเทา “ลู่หาน..”





    “สวัสดี จุนมยอน” ลู่หานเอ่ยเสียงหวาน “ยินดีที่ได้เจอกันนะ..”





    “เกิดอะไรขึ้นกับขาของนาย?” จุนมยอนเอ่ยถามด้วยความตกใจ





    “หื้มม..เซฮุนน่ะ ไม่คิดไม่ฝันเลยเนอะ ว่ามั้ย?” ลู่หานหยิบอมยิ้มเข้าปากในขณะที่มืออีกข้างก็หยิบขวานของตนเองออกมาควงเล่น “เด็กน้อยน่ารักอย่างเซฮุน เจ้าเด็กนั่นน่ะ..โยนมีดแม่นมากเลยนะ ฉันแค่อยากเตือนไว้”





    “นายไปเอาอมยิ้ม-” จุนมยอนตั้งคำถามก่อนจะเปลี่ยนใจถามคำถามอื่นแทน “นายเป็นอะไรมากรึเปล่า?”





    “ถามทำไม? อยากให้ฉันเจ็บปวดตอนนายใช้มีดเล่มเล็กนั่นฉีกเนื้อฉันเป็นชิ้นๆน่ะเหรอ?”





    “ลู่หาน..ได้โปรด..” จุนมยอนเอ่ยเสียงสั่น ใบหน้าแสดงความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดจนทำให้ลู่หานรู้สึกสงสารจุนมยอนขึ้นมานิดหนึ่ง. แค่นิดเดียวเท่านั้นนะ.





    “ช่างเหอะ จะไปไหนก็ไป..ฉันจะใจดีปล่อยนายไปละกัน ออกวิ่งซะ”





    จุนมยอนมองหน้าลู่หานด้วยความลังเล เหมือนลู่หานจะเห็นน้ำตาคลอเบ้าของจุนมยอน หรือบางทีเขาอาจจะแค่ตาฝาด...ไม่บ่อยนักหรอกที่ลู่หานจะผิดพลาด ไม่เหมือนจุนมยอนที่พลาดอย่างใหญ่หลวงโดยการหันหลังให้เขาแทนที่จะค่อยๆถอยออกไปช้าๆอย่างที่คนฉลาดควรทำ





    เสียงของขวานเฉาะเข้ากับกะโหลกดังก้องไปทั่วหุบเขา…






    ***





    ลู่หานถือว่าจุนมยอนโชคดีมากที่ได้เจอกับเขาเมื่อได้เจอเซฮุนไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เพราะเซฮุนทั้งป่าเถื่อนและไร้ความปรานี เซฮุนเจ้าของสายตาเย็นชาที่มีจุดมุ่งหมายอย่างเดียวคือการฆ่าฟัน





    ลู่หานอำพรางตัวเองก่อนจะหลบหลังพุ่มไม้ สายตามองตามทุกการกระทำของเซฮุน มองตามร่างสูงโปร่งที่ลากอี้ชิงไปตามทางอย่างไร้ความปรานี เชือกเส้นหนาพันอยู่บริเวณข้อเท้าของอี้ชิงจนเลือดใหลซิบๆ จากตรงนี้..ลู่หานสามารถมองเห็นของเหลวสีแดงที่ใหลออกมาจากศีรษะของอี้ชิงได้อย่างชัดเจน





    เซฮุนเป็นคนแข็งแรง. ลู่หานได้ข้อสรุปนี้ทันทีที่เห็นเซฮุนผูกเชือกที่พันข้อเท้าของอี้ชิงไว้กับกิ่งไม้ใหญ่จนร่างบางห้อยกลับหัวลงมา





    ขนาดคนเลือดเย็นอย่างลู่หานยังต้องกลืนน้ำลายลงคอกับภาพที่เห็น ภาพที่เซฮุนหยิบไม้เบสบอลออกมาจากเป้ก่อนจะฟาดลงบนศีรษะของอี้ชิงอย่างแรง ลู่หานเบือนหน้าหนีภาพตรงหน้า จากหางตา..เขายังสามารถมองเห็นเลือดที่สาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ





    ปั้ก ปั้ก ปั้ก เสียงฟาดไม้เบสบอลกับเสียงร้องโอดโอยของอี้ชิงที่แผ่วเบาลงเรื่อยๆจนเงียบลงในที่สุด เหลือเพียงแต่เสียงฝีเท้าแฉะๆที่เหยียบลงบนกองเลือดเท่านั้น





    พวกแร้งมาเร็วกว่าที่คิด..มาพร้อมกับกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งไปทั่ว...






    ***





    จงอินคิดไว้ว่าตัวเองจะตายบนเตียงที่บ้านอย่างสงบ รายล้อมไปด้วยลูกๆหลานๆที่เข้ามาดูใจเขาก่อนตาย บางทีเขาอาจจะตายเพราะหัวใจล้มเหลว หรือบางทีเขาอาจจะตายเพราะวัยชรา บางทีเขาอาจจะตายอย่างเงียบๆ เพียงแค่หลับไปแล้วไม่ตื่นมาอีกเลย





    นึกไม่ถึงจริงๆว่าจะต้องมาตายแบบนี้.





    ลู่หานกำลังยืนอยู่บนกองฟางที่จงอินใช้ซ่อนตัวอยู่ ร่างเล็กกำลังถืออะไรบางอย่างในมือ..ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดจนแทบจำไม่ได้ ลู่หานกระโดดลงมาจากกองฟางอย่างง่ายดาย แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาฉายลงบนใบหน้าหวานและมันทำให้จงอินเห็นว่าสิ่งที่อยู่ในมือของลู่หานนั้น...คือศีรษะของโอเซฮุน





    ลู่หานควงขวานในมือเล่นก่อนจะหัวเราะเบาๆ ใบมีดขวานปกคลุมไปด้วยเลือด…





    “คิดว่าการแอบอยู่ในความมืดจะช่วยนายได้งั้นเหรอ? ขี้ขลาดจังนะ คิมจงอิน” ลู่หานเอ่ยเสียงนุ่ม นุ่มเกินไปจนจงอินรู้สึกอยากจะวิ่งหนีออกไปจากบริเวณนี้ แต่ร่างสูงรู้ว่าถ้าเขาหันหลังหนีไปตอนนี้...ขวานในมือของลู่หานคงมาปักอยู่บนต้นคอของเขาแน่





    “ลู่หาน” จงอินเอ่ยเสียงนิ่ง “ลู่หาน..อย่าทำแบบนี้เลยนะ เราเป็นเพื่อนกันนะ”





    “เพื่อน” ลู่หานเอ่ยก่อนจะปล่อยให้หัวของเซฮุนเด้งลงบนพื้น “นั่นคือสิ่งที่เราเป็นเหรอ?”





    “ใช่”





    “เพื่อน” ลู่หานย้ำอีกครั้งก่อนจะยกขวานขึ้นจ่อหน้าจงอิน “แต่นายกำลังเล็งปืนอาร์15มาที่ฉันนะ เพื่อน





    ***





    คยองซูเป็นคนที่จงอินคาดไม่ถึงที่สุดเลยก็ว่าได้ ทันทีที่จงอินไปถึงที่เกิดเหตุ..เขาก็พบร่างของมินซอกที่ถูกสับเป็นชิ้นเล็กๆ และมันคงจะถูกสับไปเรื่อยๆถ้าจงอินไม่ห้ามคยองซูไว้เสียก่อน





    “อ้อ...นายเองเหรอ”





    คยองซูเอ่ยเสียงเรียบเมื่อเห็นจงอินถือปืนอาร์15ที่เปื้อนไปด้วยเลือดของลู่หาน ระเบิดมือหลายลูกที่ห้อยอยู่บริเวณเข็มขัดของจงอินกระทบกันจนเกิดเสียง คยองซูที่เห็นดังนั้นจึงยืดตัวยืนขึ้นเต็มความสูง จงอินเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นมีดพกเล่มยาวที่ปักคาอยู่บริเวณหน้าท้องของร่างเล็ก ท่อนล่างชุ่มไปด้วยเลือด





    “จะมาฆ่าฉันให้มันจบๆไปเหรอ?” คยองซูถาม





    “เกิดอะไรขึ้นกับนายน่ะ?”





    “แบคฮยอนน่ะ..คิดไม่ถึงเลยว่าตุ๊ดๆแบบมันจะกล้าทำถึงขนาดนี้” คยองซูเปิดปากเล่า





    “ฉันคิดว่านายชอบแบคฮยอนซะอีก”





    “นั่นสิ ฉันก็เคยคิดแบบนั้นนะ..” คยองซูเอ่ย ใบหน้าซีดเซียวเนื่องจากเสียเลือดมาก “ฉันก็คิดนะว่าฉันอาจจะหลงรักนาย..”





    “คยองซู..อย่า..ได้โปรด”





    “อย่าอะไร? ฆ่านายน่ะเหรอ? อ้อ ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ฆ่านายหรอก ยังไงนายคงฆ่าฉันก่อนอยู่แล้วนี่เนอะ ฉันไม่ติดใจอะไรหรอก เอาเลย”





    ทันใดนั้นคยองซูก็ชักปืนออกมาอย่างรวดเร็วจนจงอินไม่ทันได้ตั้งตัว เสียงปืนดังลั่นอยู่ในหูของคิมจงอิน แต่เขากลับพบว่า..ตัวเองไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อย





    จงอินหันหลังก่อนจะเห็นชานยอลล้มลง กระสุนฝังลงตรงกลางหน้าผากอย่างพอดิบพอดี..





    จงอินหันกลับมาอีกครั้งเพื่อจะขอบคุณคยองซูแต่ก็ต้องเจอกับภาพที่ร่างเล็กนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ดวงตายังคงลืมค้างไว้อย่างนั้นทั้งๆที่ลมหายใจได้สิ้นสุดลงแล้ว มือเล็กยังคงกำปืนพกไว้แน่น..






    ***





    การตามหาตัวอู๋ฟานไม่ใช่เรื่องที่ยากเลย ร่างสูงขยับไปมาภายใต้แสงจันทร์ด้วยฝีเท้าหนักหน่วง ในขณะที่จื่อเทาใช้เงามืดในยามค่ำคืนเป็นเกราะกำบัง ส่วนแบคฮยอนก็ใช้ความว่องไวในการขยับตัวดูลาดเลาและสำรวจทุกซอกทุกมุมของเกาะแห่งนี้ เมื่อพวกเขาทั้งสามอยู่ด้วยกัน...ทีมสังหารที่โหดเหี้ยมที่สุดก็ได้บังเกิดขึ้น





    ไม่มีใครเป็นนักแม่นปืน..โดยเฉพาะแบคฮยอน แต่ร่างเล็กมีความสามารถที่จะได้ยินเสียงรอบข้างมากกว่าคนอื่นๆ เขาสามารถได้ยินเสียงฝีเท้าที่ไกลออกไปเป็นร้อยฟุต ทั้งเขาและจื่อเทาต่างก็ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำเหมือนแมงป่องที่รอขย้ำเหยื่อ ความอึดอัดได้ก่อตัวขึ้นระหว่างคนทั้งสอง..แต่ทั้งคู่ต่างก็ได้ตกลงกันแล้วว่าจะไม่ทรยศฆ่ากันเองจนกว่าคนอื่นๆจะตายจนหมด แบคฮยอนรู้ว่าถ้าจื่อเทาคิดจะฆ่าเขา..เขาคงตายไปนานแล้ว





    “นายคิดว่าใครจะชนะ?” จื่อเทาเอ่ยถามเสียงเบา





    แบคฮยอนเหลือบมองจื่อเทาแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับไปมองบ่อน้ำตรงหน้าอีกครั้ง





    “ไม่รู้สิ” แบคฮยอนตอบ





    นั่นเป็นคำตอบที่จริงใจที่สุดแล้ว.





    “เราเคยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากเลยนะ” จื่อเทาเอ่ยก่อนจะเคาะปืนกับก้อนหินเบาๆเป็นจังหวะเพื่อฆ่าเวลา “เกิดอะไรขึ้นกับพวกเรากันนะ?”





    “ความกลัวไง” แบคฮยอนเอ่ยเสียงเรียบ “เมื่อความกลัวบังเกิด..คนเราก็ต้องเอาตัวเองให้รอดทั้งนั้นแหละ”





    “แต่-”





    แบคฮยอนคว้าแขนจื่อเทาก่อนจะบีบแน่นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ





    “ฉันจะนับหนึ่งถึงสามนะ” แบคฮยอนเอ่ย “หนึ่ง...สอง…”





    ทันทีที่นับสาม..บ่อน้ำก็กลายเป็นสีแดงฉาน และนั่นเป็นภาพสุดท้ายที่แบคฮยอนเห็น






    ***





    จื่อเทาฟื้นขึ้นมาในสภาพถูกมัดมือไว้ เสียงคลื่นทะเลที่ซัดเข้าใส่หน้าผาและโขดหินดังก้องอยู่ในหู ร่างสูงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก นี่สินะนาทีสุดท้ายของชีวิต...แบคฮยอนจะฆ่าเขาด้วยวิธีนี้สินะ





    จื่อเทามองไปรอบๆก่อนจะพบว่าแบคฮยอนไม่ได้อยู่แถวนี้...เขากำลังอยู่คนเดียว





    แต่เมื่อมองเข้าไปในป่าชัดๆเขากลับไม่ได้เห็นเพียงต้นไม้แต่เห็นร่าง...ร่างของคนที่เขาเรียกว่าเพื่อน





    ***





    จงอินคิดไว้ว่าตัวเองจะตายบนเตียงที่บ้านอย่างสงบ รายล้อมไปด้วยลูกๆหลานๆที่เข้ามาดูใจเขาก่อนตาย บางทีเขาอาจจะตายเพราะหัวใจล้มเหลว หรือบางทีเขาอาจจะตายเพราะวัยชรา บางทีเขาอาจจะตายอย่างเงียบๆ เพียงแค่หลับไปแล้วไม่ตื่นมาอีกเลย





    นึกไม่ถึงจริงๆว่าจะต้องมาตายแบบนี้.





    เมื่อจงอินมาถึง..เขาก็เห็นแบคฮยอนที่ห้อยลงมาจากต้นไม้และถูกลมพัดจนร่างเล็กปลิวไสว ลำคอบางหักและร่างกายเป็นสีม่วงคล้ำ เสียงกรีดร้องของจื่อเทาเป็นอีกสิ่งที่ดังก้องมากับสายลม





    จงอินรู้..ว่านี่คือความรู้สึกของผู้รอดชีวิต อีกเพียงก้าวเดียวเขาก็จะได้เป็นผู้ชนะ





    หรือไม่..ก็เป็นผู้แพ้





    “นายสามารถเป็นผู้ชนะได้นะ” จื่อเทาเอ่ย ดวงตาไม่แสดงความรู้สึกใดๆ “นายจะได้กลับบ้าน”





    ใช่..จงอินสามารถกลับบ้านและเป็นผู้ชนะ เขาจะสามารถออกจากเกาะนี้และถูกยกย่องโดยประเทศของตัวเอง แม้จะถูกอีกสิบเอ็ดครอบครัวเกลียดก็ตาม เขาสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้…





    แต่เขากลับเลือกที่จะแก้มัดข้อมือของจื่อเทา...เขาได้เรียนรู้แล้วว่าการมีชีวิตอยู่ที่แท้จริงคือความตายต่างหาก





    “ฉันสามารถเป็นผู้ชนะ...ฉันสามารถกลับบ้านได้..” จงอินเอ่ยเสียงเบาก่อนจะลูบข้อมือช้ำๆของจื่อเทาเบาๆ





    “นายอยากกลับบ้านกับฉันไหม?” จงอินคว้ามือจื่อเทามาจับก่อนจะบีบเบาๆ





    จื่อเทาแย้มยิ้มบาง.





    นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาตัดสินใจทำ. ร่างของคนทั้งสองภายใต้ดวงอาทิตย์ยามเย็น มือทั้งสองข้างที่จับกันไว้ไม่ปล่อย เด็กหนุ่มทั้งสองที่ออกวิ่งก่อนจะกระโดดลงมาจากหน้าผาชันพร้อมกับเสียงหัวเราะ...





    พวกเขาไม่ได้กำลังจะตาย.





    พวกเขากำลังกลับบ้านต่างหาก.

     





    ...Finale...










    ทอล์คกับไรท์แอน.
    เห่นโล้ววววว 0/ กลับมาอีกแล้วอย่างรวดเร็ว..
    ทำไมถึงกลับมาเร็วนักน่ะเหรอ?
    เพราะไรท์เครียดกับสอบมิดเทอมมากเลยหนีมาแปลฟิค..
    เพราะแบกคอมไปเรียนตลอด พอเรียนไม่รู้เรื่องก็จัดซะเลย-..-

    คิดถึงไรท์พลอยโนะ ไม่รู้ว่านางจะกลับมาแปลอีกมั้ย555555

    จบไปแล้วอีกหนึ่งเรื่อง..เรื่องนี้ดาร์คเลือดสาดมาก
    ยังไงถ้าชอบแนวนี้หรือติชมอะไรยังไงก็บอกได้เสมอ
    เข้ามาทักทายกันในทวิตบ้างก็ได้หนา ไรท์สิงทวิตตลอด @annannes

    สุดท้ายนี้..สกรีมโปรดติดแท็ก

    #คลังฟิคดด



     
    ⓒ:baby
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×