คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : * chapter7 ;
“มึงรู้เรื่องยัง? ปาร์คชานยอล..เป็นน้องชายของบยอนแบคฮยอนว่ะ”
“ไอ้เด็กปัญญาอ่อนที่อยู่ห้องพิเศษอ่ะนะ?”
“ไอ้นั่นแหละ แต่ถ้าสองคนนั้นเป็นพี่น้องกัน ก็แสดงว่าแบคฮยอนก็ต้องไม่ปกติอ่ะดิ”
“เห้ย พวกมึงจะบ้าเหรอ? สองคนนั้นจะสายเลือดเดียวกันได้ไง? แบคฮยอนเรียนติดท็อปห้าในขณะที่ชานยอลแม่งยังนับถึงห้าไม่ได้อ่ะนะ?” จงอินเอ่ยก่อนจะหัวเราะ
แบคฮยอนทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเพื่อนๆเขาคุยกัน ก่อนจะหลับตาลงทั้งๆที่ใบหน้ายังคงฟุบลงกับโต๊ะ ถึงแม้เขาจะโกรธและขัดใจอยู่ไม่น้อยที่เพื่อนๆของเขาเองเป็นคนแพร่ข่าวลือเหล่านี้ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้...
หรือบางที..เขาเลือกที่จะไม่ทำอะไรมากกว่า ยังไงชานยอลก็คงไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเพื่อนๆเขาคุยกันอยู่แล้วล่ะมั้ง
ทันทีที่แบคฮยอนบิดขี้เกียจและเงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะแสร้งทำเป็นตื่นนอน เพื่อนๆของเขาก็เงียบลงและเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นเรื่องอื่นแทน วันนี้ก็เหมือนวันอื่นๆ..จะต่างก็ตรงที่มีน้องชายตัวสูงของเขานั่งถัดไปข้างหน้าอีกสองโต๊ะ
ด้วยความสงสัยว่าชานยอลกำลังทำอะไร..แบคฮยอนจึงมองข้ามไหล่ของชานยอลไปก่อนจะเห็นว่าชานยอลกำลังฝึกแต่งประโยคในสมุดเหมือนทุกๆวัน ข้างสมุดของชานยอลมีดินสอที่ถูกเหลาจนแหลมวางเรียงกันอย่างสวยงามอยู่สามแท่ง และทุกครั้งที่เพื่อนร่วมห้องของเขาแกล้งชนโต๊ะจนดินสอตกลงมา ชานยอลจะก้มลงไปเก็บดินสอเงียบๆก่อนจะวางมันกลับเข้าที่
“ชานยอล ฉันขอยืมดินสอหน่อยสิ” เพื่อนร่วมห้องผู้หญิงคนหนึ่งแสร้งเอ่ยเสียงหวาน ในขณะที่ชานยอลก็ยื่นดินสอให้ก่อนจะยิ้มกว้าง
“ชานยอล ฉันขอแท่งนึงด้วยคนสิ” เพื่อนร่วมห้องผู้หญิงอีกคนเอ่ย ในขณะที่เพื่อนร่วมห้องคนอื่นหัวเราะเสียงดัง
แบคฮยอนเลิกคิ้วขึ้นอย่างขัดใจเมื่อเห็นว่าชานยอลยื่นดินสอแท่งที่สองของตัวเองให้
“เห้ยพอดีลืมดินสอไว้ที่บ้านว่ะ ขอยืมด้วยคนดิชานยอล” ครั้งนี้จงแดเป็นคนถามก่อนจะหยิบดินสอสำรองแท่งสุดท้ายของชานยอลไป
“เห้ยชานยอล เราเป็นเพื่อนกันใช่ป้ะ? ขอยืมด้วยคนดิ แกคงไม่ว่าอะไรใช่ป้ะ?” จงอินหัวเราะก่อนจะดึงดินสอแท่งสุดท้ายที่ชานยอลใช้เขียนอยู่ไป
ชานยอลพยักหน้าเบาๆก่อนจะยิ้มด้วยความประหม่า
“อ..โอเค” ชานยอลยิ้มก่อนจะถูมือทั้งสองข้าง
“พวก..พวกนายเป็นเพื่อนของชานยอล..ชานยอลให้ยืม..ด..ได้” แม้ว่าชานยอลจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสดใส แต่แบคฮยอนรู้...แบคฮยอนรู้ว่าชานยอลกำลังประหม่ามากแค่ไหน ตาขวาของชานยอลกระตุกทุกๆสองวิขนาดนั้น..
แบคฮยอนไม่อยากจะเชื่อว่าชานยอลให้ดินสอทั้งหมดไปทั้งๆที่ก็เห็นชัดอยู่แล้วว่าคนอื่นๆก็มีกล่องดินสอเป็นของตัวเอง
แบคฮยอนลุกขึ้นยืนเงียบๆก่อนจะเดินผ่านโต๊ะชานยอลโดยไม่ลืมที่จะยื่นดินสอของตัวเองให้..
“ฉันไปเข้าห้องน้ำนะ” แบคฮยอนเอ่ยเสียงเบาก่อนจะเดินชนไหล่จงอินอย่างแรงออกจากห้องไป
--
หลังออดที่สองดังขึ้น เพื่อนๆของเขาก็คุยกันเรื่องฤดูกาลแข่งบอลกับทีมคู่แข่งกยองกีโดกันอย่างตื่นเต้น ดูเหมือนว่าทุกคนจะไม่พลาดการแข่งขันนัดนี้อย่างแน่นอน ทำไมน่ะเหรอ? เพราะสำหรับเมืองเล็กๆแห่งนี้ การแข่งบอลก็เหมือนการแข่งขันโอลิมปิกนั่นแหละ อีกอย่างดูการแข่งบอลก็คงสนุกกว่าการนั่งทำการบ้านอยู่บ้านแหละ จริงไหม?
ทุกคนดูตื่นเต้นดีใจ...ยกเว้นแบคฮยอน
ช่วงนี้เขาไม่ตั้งใจซ้อมเท่าไหร่นัก อีกอย่างเขาได้รับความกดดันมากกว่าคนอื่นๆเพราะเขาเป็นผู้เล่นหลักของการแข่งขันนี้ การแข่งขันที่จะมาถึงนี่เลยเหมือนฝันร้ายของแบคฮยอนเลยทีเดียว เขาไม่ได้เล่นบอลแบบสนุกๆมานานเท่าไหร่แล้ว ทุกวันนี้เขาเล่นเพราะ “ความจำเป็น”.. เล่นเพราะ “ชัยชนะ” เท่านั้น...
แบคฮยอนถอนหายใจก่อนเอาหัวพิงกำแพงข้างๆอย่างเหนื่อยอ่อน เสียงออดบอกเวลาเริ่มคาบต่อไปดังขึ้น ครูประจำชั้นเดินเข้ามาพร้อมกับเด็กใหม่สองคน...ทั้งห้องเงียบลงถนัดตา
เด็กใหม่ทั้งสองคนดูน่าเกรงขามในสายตาของแบคฮยอน คนหนึ่งตัวสูงใหญ่พอๆกับชานยอล ใบหน้าดูไม่เป็นมิตร ดวงตาหรี่ลงเหมือนคนไม่พอใจ ส่วนอีกคนแม้จะตัวไม่สูงเท่าแต่ก็ดูน่ากลัวพอๆกัน ดวงตาคมกริบที่กวาดไปทั่วนั่นทำให้แบคฮยอนรู้สึกไม่ไว้วางใจ
“เอาล่ะ ห้อง3/1.. สองคนนี้จะมาเป็นเพื่อนร่วมห้องของพวกเธอเป็นเวลาหนึ่งเดือน ทั้งสองคนมาจากปักกิ่งเพราะฉะนั้นช่วยดูแลพวกเขาดีๆด้วยล่ะ” อาจารย์เอ่ย
“ความจริงผมมาจากแวนคูเวอร์ครับ” คนที่ตัวสูงกว่าเอ่ยแก้
“อา ใช่ แวนคูเวอร์..ขอโทษด้วยนะ เอาล่ะ..คนนี้ชื่อหวงจื่อเทา ส่วนเพื่อนที่มาจากแวนคูเวอร์ชื่ออู๋อี้ฟาน”
“คริสครับ” อี้ฟานเอ่ยแก้อีกครั้ง
จื่อเทาหันไปมองเด็กใหม่อีกคนก่อนจะส่ายหัวเบาๆ
ไม่ว่าจะแวนคูเวอร์หรือจีน แบคฮยอนก็ไม่สนทั้งนั้นล่ะ...เขารู้แต่ว่าสองคนนี้ไม่น่ายุ่งด้วยสักนิด
สุดท้ายแล้วหวงจื่อเทาก็ได้ระเห็จตัวมานั่งหลังแบคฮยอน ส่วนอู๋อี้ฟานก็ได้นั่งระหว่างจงอินกับเซฮุน เมื่อเปรียบเทียบกับไอ้คนตัวสูงที่มาจากแวนคูเวอร์อะไรนั่น เซฮุนกับจงอินก็ดูเหมือนจะตัวเล็กขึ้นมาถนัดตา...
แบคฮยอนเท้าคางบนโต๊ะอย่างเบื่อหน่าย แต่ครั้งนี้เขากลับนอนไม่หลับ..ก็เขาจะหลับได้ยังไง เมื่อไอ้เด็กใหม่ที่นั่งข้างหลังเล่นจ้องเขาซะขนาดนั้น?
--
แบคฮยอนไม่เจอชานยอลหลังคาบโฮมรูมเลยแม้แต่น้อย มันก็ไม่แปลกหรอกแต่แบคฮยอนก็หวังว่าจะได้เห็นชานยอลตรงทางเดินบ้างหรือที่โรงอาหารบ้างแต่ก็ไม่มีเลย เขารู้สึกแปลกๆนิดหน่อยเมื่อไม่มีชานยอลคอยเดินตามตลอดเวลา
แบคฮยอนสะบัดหัวไล่ความคิดดังกล่าวก่อนจะตรงไปซ้อมบอลทันที
หลังจากซ้อมเสร็จครึ่งแรก จงอินก็เดินเข้ามาก่อนจะวางมือลงบนไหล่เขาเบาๆ แบคฮยอนรู้ทันทีว่าจงอินจะพูดเรื่องอะไร
“ขอโทษนะสำหรับเรื่องเมื่อเช้าน่ะ” จงอินเอ่ยในขณะที่แบคฮยอนได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่ต้องขอโทษกูหรอก ขอโทษชานยอลเหอะ” แบคฮยอนเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะเดินออกมาทันที
น่าแปลก...ที่วันนี้ชานยอลไม่ได้มาดูเขาซ้อมบอลเหมือนทุกที
--
แต่สิ่งที่แปลกไปกว่านั้นคือ..ชานยอลไม่เอ่ยปากพูดอะไรสักคำในขณะที่เดินกลับบ้านหรือแม้แต่เวลาอาหารเย็น แบคฮยอนแอบรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยเพราะปกติชานยอลจะเป็นคนเริ่มพูดตลอดแต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไร เพียงแต่เก็บจานไปล้างเงียบๆเท่านั้น
แบคฮยอนกระโดดขึ้นเตียงก่อนจะเขยิบจนตัวติดกับกำแพงบางๆที่กั้นระหว่างห้องเขากับห้องของชานยอล เขาตัดสินใจเคาะกำแพงเบาๆ
“ชานยอล..นอนยัง?” แบคฮยอนเอ่ยถามในขณะที่ได้ยินเสียงอู้อี้ของอีกฝ่ายเป็นคำตอบ
“นี่รู้อะไรไหม..ถ้านายตั้งใจเรียนมากๆล่ะก็ นายก็จะได้อยู่ที่โรงเรียนต่อไปนะ นายชอบไปโรงเรียนใช่ไหมล่ะ?” แบคฮยอนเอ่ยโกหกออกไปเบาๆเผื่อว่าชานยอลจะรู้สึกดีขึ้น เขาดึงผ้าห่มขึ้นมาจนมิดคางก่อนจะถอนหายใจ แบคฮยอนมองขึ้นไปบนเพดานก่อนจะมองไปที่สติกเกอร์ดาวเรืองแสงที่เขาซื้อมาเมื่อนานมาแล้ว
เขามองดาวเหล่านั้น บ้างก็เล็กบ้างก็ใหญ่ ส่วนดวงที่ใหญ่ที่สุดแบคฮยอนก็เลือกที่จะแปะมันไว้ในที่ๆเขาเห็นมันชัดที่สุด ทันใดนั้นแบคฮยอนก็เหลือบไปเห็นดาวดวงเล็กๆที่สว่างที่สุดอยู่ตรงมุมห้อง แม้แบคฮยอนจะต้องเบนหน้าเล็กน้อยเพื่อจะมองเห็นมันชัดขึ้น แต่มันก็อยู่ตรงนั้น..สว่างที่สุดทั้งๆที่อยู่ในมุมที่มืดที่สุด
ดาวดวงนั้นก็เหมือนชานยอลนั่นแหละ..ถูกโยนออกไปนอกจักรวาลที่เต็มไปด้วยดาวดวงอื่นที่ใหญ่กว่าแต่สว่างไม่เท่า
ดาวดวงอื่นก็สว่างนะ...แต่ชานยอลสว่างก็ดวงดาวเหล่านั้นเยอะเลย
“นายรู้ไหม....” แบคฮยอนเอ่ย ดวงตายังคงจับจ้องไปที่ดวงดาวมากมายบนเพดาน
“พวกเพื่อนๆที่แกล้งนายน่ะ..เขาไม่เรียกว่าเพื่อนหรอกนะชานยอล นายต้องหัดปฏิเสธบ้าง ถ้านายทำตัวดีๆกับพวกเขา พวกเขาก็ไม่เลิกแกล้งนายหรอกนะ” แบคฮยอนรู้ว่าตัวเขาเองก็ไม่มีความกล้าพอที่จะปกป้องชานยอลต่อหน้าทุกๆคน แต่อย่างน้อยเขาก็อยากจะให้ชานยอลรับรู้ว่าเขาอยู่ข้างชานยอลและไม่ได้อยู่ข้างพวกนั้น
แบคฮยอนหยุดพูดเมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝั่งเลยแม้แต่น้อย เขาตัดสินใจเคาะกำแพงอีกครั้งเผื่อว่าชานยอลอาจจะเผลอหลับไป
“อื้ออ..”
“ชานยอล..เป็นอะไรรึเปล่า?”
“..อ่ะ...”
แบคฮยอนกระชากผ้าห่มออกจากตัวก่อนจะพุ่งไปห้องข้างๆทันที แบคฮยอนเปิดประตูก่อนจะพบว่าชานยอลกำลังนอนขดอยู่ใต้ผ้าห่ม ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กๆ สีหน้าของชานยอลดูซีดเซียวไร้สีเลือด
แบคฮยอนเอาหลังมือแตะที่หน้าผากของอีกคนก่อนจะพบว่ามันร้อนจัด
เสียงร้องเบาๆของชานยอลก็ไม่ได้ช่วยให้แบคฮยอนหายเครียดเลยแม้แต่น้อย มือบางหยิบโทรศัพท์ก่อนจะโทรออกทันที
“ฮัลโหล? ผมต้องการรถพยาบาลด่วนเลยครับ มาเร็วๆนะครับ..เร็วๆเลยครับ”
แบคฮยอนเอื้อมไปจับมือชานยอลไว้แน่น
“อดทนไว้นะชานยอล..อีกนิดเดียว..”
[TBC].
--
A/N: เกร้ดดดดดดดด ;_;
ไม่ได้มาอัพนานคิดถึงทุกคนมาก จิ้บิจ้วบม้วฟ
คือจะบอกว่ายุ่งๆเรื่องมหาลัยและเรื่องอื่นๆมากมาย
แต่กลับมาแล้ว และจะพยายามอัพบ่อยๆนะเคอะ
มีใครยังรอฟิคเรื่องนี้อยู่ม้อย..
ถ้ามีก็ช่วยเม้นช่วยสกรีมกันนิดนึงเด้อ <3
#ฟิคบบบ
✱ Bachelor
ความคิดเห็น