คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ' C H A P T E R 5 '
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนลู่หานตั้งตัวไม่ทัน...
จู่ๆซูโฮก็เข้ามาและพาตัวเด็กหนุ่มคนนั้นออกไป...ส่วนคริสก็กำลังพร่ำคำพูดชื่นชมเขาสำหรับผลลัพธ์ที่น่าพอใจในขณะที่เลย์และซิ่วหมินมองมาที่เขาอย่างเห็นใจ
ลู่หานไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น
เขารู้สึกอ่อนแรง...ดวงตาพร่ามัวจากความเหนื่อยล้า เสียงหอบหายใจแรงๆของเขาเป็นเสียงเดียวที่ดังอยู่ในห้องเงียบๆแห่งนี้ ผู้ช่วยของคริสพาเขาออกไปจากห้องและเขาก็ยินยอมแต่โดยดี ตอนนี้เขาแค่อยากอยู่คนเดียว...อยากหลับไปจนกว่าความเหนื่อยล้าจะหายไป
ผู้ช่วยของคริสพาเขาเข้ามาในห้องที่เขาไม่คุ้นก่อนจะจับเขานั่งลงบนเก้าอี้แข็งๆ... ลู่หานกุมหัวตัวเองเบาๆ อาการปวดหัวเริ่มแล่นริ้วขึ้นมาอีกครั้ง
“อ้ะ นี่...” ลู่หานเงยหน้าขึ้นก่อนจะพบกับซูโฮที่ยื่นน้ำพร้อมยามาให้
“ดื่มสิ...มันช่วยให้อาการปวดหัวทุเลาลง”
ลู่หานจ้องมันแต่ไม่ได้ทำตามแต่อย่างใด ซูโฮจึงเดินอ้อมมาหยิบยาใส่ปากลู่หานก่อนจะบังคับให้ลู่หานดื่มน้ำตามลงไป...มันทำให้เขาสำลักเล็กน้อย
คริสและซูโฮนั่งอยู่ตรงข้ามเขาพร้อมกับเอกสารบางอย่างในมือ
“ฉันอยากจะแสดงความยินดีกับนายที่นายแสดงพัฒนาการได้ยอดเยี่ยมที่สุด” คริสเอ่ยขึ้น
“หมายความว่าไง?” ลู่หานถามอย่างง่วงงุน
“อ่อ จริงสินะ...เราต้องตอบคำถามนายนี่นา”
ลู่หานส่งยิ้มอ่อนแรงไปให้คริส...ตอนนี้เขาแทบจะไม่มีแรงฟังคำตอบอะไรทั้งนั้น
“คำตอบ?...เอาจริงๆ ตั้งแต่ฉันมาอยู่ที่นี่ คำตอบที่ฉันได้มันไม่เห็นน่าพอใจสักนิด...ฉันเลยไม่อยากจะฟังคำตอบจากปากของนายอีกแล้ว” ลู่หานพูดขึ้น
“ถามมาสิ...เดี๋ยวฉันเป็นคนตอบเอง” ซูโฮถอนหายใจเบาๆ
คริสกรอกตาไปมา...ลู่หานไม่รู้ว่าคำตอบของซูโฮจะดีกว่าของคริสไหม ลู่หานเลยตัดสินใจลองถามดู...
“ทำไมฉันต้องมาอยู่ที่นี่? ที่นี่มันอะไรกัน?”
“นายมาอยู่ที่นี่เพราะเหตุผลมากมาย...แต่ที่สำคัญที่สุดคือโลกต้องการนาย”
แม้จะเหนื่อยสักเพียงไหนแต่ลู่หานหมดความอดทนแล้ว...เขายืนขึ้นก่อนจะตบโต๊ะอย่างแรง
“เหอะ! ไม่เห็นจะดีกว่าคำตอบของคริสตรงไหน!” ลู่หานตวาดเสียงดังอย่างเหลืออด
ซูโฮมองลู่หานเงียบๆในขณะที่ลู่หานมองซูโฮด้วยใบหน้าโกรธจัด
คำตอบอะไรนี่มันไม่ได้ทำให้ลู่หานหายข้องใจได้เลย...ซ้ำอาการปวดหัวยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
“ฉันบอกแล้วไงว่านายควรให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน...พวกเขาจะได้เข้าใจอะไรๆมากขึ้น” ซูโฮหันไปพูดกับคริสก่อนจะถอนหายใจ
อะไรกัน...ลู่หานคิด
“ได้โปรด...ทำไมพวกนายถึงไม่บอกอะไรเลย...?” ลู่หานถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง เขาเหนื่อยเต็มทีแล้ว
“ฉันบอกนายไม่ได้หรอก...พวกเราไม่ได้รับอนุญาตให้บอกนายได้...” ซูโฮแย้มยิ้มเศร้า
พวกเรา?...
“เราให้ได้แต่คำตอบบางอย่างเท่านั้น...”
“ใครเป็นคนห้ามล่ะ?” ลู่หานถาม
“ใครบางคนที่คุมทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่...ขอโทษนะ” ซูโฮอธิบาย
“...” ลู่หานเงียบ
“นายยังถามได้อีกคำถามหนึ่งนะ..” ซูโฮเอ่ยขึ้น
“ไม่...หนึ่งผลลัพธ์ หนึ่งคำถาม เราตกลงกันแล้วไง” คริสแย้งขึ้น
“เอาน่าคริส...ลู่หานปลดกุญแจมือนั่นด้วยตัวเองเลยนะ สงสารลู่หานบ้างเถอะ” ซูโฮเถียง
คริสมองซูโฮด้วยสายตาไม่พอใจแต่ซูโฮเลือกที่จะไม่สนใจ
“ถามมาอีกข้อเลย...ฉันตอบเอง” ซูโฮเอ่ย
ลู่หานคิดสักพักว่าเขาควรถามอะไร...มีหลายอย่างที่เขาอยากรู้ มีหลายอย่างที่เขาอยากได้ยินจากซูโฮ
แต่ตอนนี้มีเพียงคำถามเดียวที่เขาคิดออก...
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?” ลู่หานถาม...ซูโฮยิ้มบางๆ ซูโฮเข้าใจดีว่าลู่หานหมายถึงใคร
“เขาเป็นคู่ของนาย”
หลังจากนั้นลู่หานก็จำอะไรไม่ได้อีก...เขาจำได้เพียงว่าผู้ช่วยของคริสฉีดอะไรบางอย่างเข้าไปในแขนของเขาและเขาก็ผล็อยหลับไป...
--
ลู่หานรู้สึกตัวพร้อมกับอะไรบางอย่างที่กำลังเคาะหัวเขาเบาๆ...สิ่งนั้นทั้งเย็นทั้งแข็งและมันกำลังรบกวนการนอนของเขา เขาอยากนอนและหัวของเขายังปวดอยู่หน่อยๆจากการใช้พลังไปเมื่อวาน แต่เจ้าสิ่งนั้นก็ไม่เลิกรบกวนเขา
ลู่หานลุกขึ้นนั่งตัวตรงก่อนจะใช้พลังเหวี่ยงไอ้เจ้าสิ่งดังกล่าวเข้ากำแพงจนมันแตกกระจาย
“เฮ้...นายไม่เห็นต้องรุนแรงเลย” ซิ่วหมินเอ่ยขึ้นก่อนจะเบะปาก
ลู่หานแปลกใจเมื่อได้ยินซิ่วหมินคุยกับเขาด้วยน้ำเสียงปกติเป็นครั้งแรก และยิ่งแปลกใจขึ้นไปอีกเมื่อเห็นซิ่วหมินเล่นกับลูกแก้วของเขา ปกคลุมมันด้วยน้ำแข็งก่อนจะใช้มันเคาะหัวเขาในขณะที่เขากำลังหลับ
“ก็..นายไปรบกวนลู่หานเองนะซิ่วหมิน” เลย์พูดขึ้นในขณะที่มือก็กำลังสำรวจลูกแก้วอยู่เช่นกัน
“ก็มันสนุกนี่” ซิ่วหมินฉีกยิ้ม เลย์จึงยีหัวอีกคนอย่างหมั่นเขี้ยว...ลู่หานมองภาพนั้นยิ้มๆ
พวกเขาสามคนนั่งกินอาหารเช้ากันที่โต๊ะตัวหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในห้อง...เด็กหนุ่มพลังไฟที่นั่งอยู่อีกห้องไม่อยู่ คงจะออกไปทำการทดสอบล่ะมั้ง
อาหารที่นี่ไม่อร่อยเอาซะเลย...รสชาติแหยะๆเหมือนที่ลู่หานเคยกินตอนมาอยู่ที่นี่แรกๆ ลู่หานจึงนั่งเขี่ยอาหารไปมาพร้อมกับนั่งฟังเลย์และซิ่วหมินคุยกันเรื่องพลังไฟของเด็กหนุ่มคนนั้น...เด็กหนุ่มที่ลู่หานมารู้ว่าชื่อ ชานยอล
“นายสบายดีรึเปล่า?” เลย์ถามลู่หานหลังจากที่ทั้งสามกินอาหารเช้าเสร็จ
“อื้อ..ฉันสบายดี” ลู่หานยิ้มบางๆ
“เมื่อคืนคริสไม่ได้พานายออกไปทดสอบเพิ่มใช่ไหม?” เลย์ถามอย่างเป็นห่วง ลู่หานส่ายหน้า
“ไม่หรอก...พวกเขาคงรู้ว่าฉันเหนื่อยเกินไปที่จะทำการทดสอบน่ะ”
“ดีแล้ว...พวกฉันคิดว่านายจะไม่รอดซะแล้ว พวกเราคงเศร้ามากถ้านายเป็นอะไรไป” เลย์ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“จริงเหรอ?” ลู่หานถามอย่างแปลกใจ
“จริงสิ...ฉันกับซิ่วหมินชอบนายนะ”
ลู่หานหันไปมองซิ่วหมินก่อนจะได้รับการพยักหน้าเบาๆจากอีกฝ่าย...ลู่หานยิ้ม เขาไม่คิดว่าจะมีคนที่แคร์เขาขนาดนี้
“ขอบคุณนะ...” ลู่หานพูดขึ้น เลย์ยิ้มตอบน้อยๆ
“เด็กหนุ่มคนเมื่อคืน...เขาเป็นคู่เติมเต็มของนายเหรอ?” ซิ่วหมินถามอย่างอยากรู้จึงโดนเลย์ศอกเข้าเบาๆ
เขาเป็นคู่ของนาย คำพูดของซูโฮแล่นเข้ามาในหัวของลู่หานทันที
“คู่เติมเต็ม? คู่เติมเต็มคืออะไร?” ลู่หานถาม
เลย์ถอนหายใจส่วนซิ่วหมินก็ได้แต่ยิ้มอย่างมีเลศนัย
ลู่หานตั้งท่าจะถามอีกครั้งแต่ผู้ช่วยของคริสก็เข้ามาเสียก่อน...
“นายต้องออกไปทดสอบแล้วล่ะ..” เลย์พูดกับซิ่วหมินก่อนจะบีบมืออีกคนเบาๆอย่างให้กำลังใจ ซิ่วหมินพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะเดินออกไปเงียบๆ
“คู่เติมเต็มคืออะไรเหรอ?” ลู่หานถามขึ้นอีกครั้งหลังจากซิ่วหมินออกไปได้สักพัก
“เขาคือใครบางคนที่เรามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย...” เลย์อธิบาย...ใบหน้าของลู่หานขึ้นสีเล็กน้อยเมื่อนึกไปถึงสิ่งที่เขาและเด็กหนุ่มทำด้วยกัน...คู่เติมเต็มอย่างงั้นเหรอ?
แต่แล้วลู่หานก็มานึกขึ้นได้ว่ามันมีอีกคน...ผู้ชายที่ใส่หน้ากากในคืนนั้น
ไม่...ลู่หานไม่อยากได้คนๆนั้นเป็นคู่ของเขา
“แล้วสรุป..ใช่ไหม?” เลย์ถาม
“อะไรเหรอ?”
“คู่เติมเต็มไง...เด็กคนเมื่อคืนน่ะ ใช่ไหม?” เลย์ยิ้ม
“...”
“ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องของฉันแต่ใบหน้าแดงๆของนายทำให้ฉันสงสัยน่ะ”
“อื้อ...ใช่ล่ะมั้ง” ลู่หานหัวเราะเบาๆ
แต่ลู่หานก็ยังสับสนอยู่ดีว่า “คู่เติมเต็ม” คืออะไร...
“คู่เติมเต็มเขาทำอะไรกันเหรอ?” ลู่หานถาม
“ฝ่ายหนึ่งจะทำให้อีกฝ่ายแข็งแกร่งขึ้น..” เลย์อธิบาย
“...”
“คู่เติมเต็มมีสายใยบางๆที่เชื่อมระหว่างกัน...ถ้าไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เราก็จะทนได้ไม่นาน..”
ลู่หานเบิกตากว้างอย่างตกใจ
“ไม่ได้หมายความว่าเราจะตายหรืออะไรหรอก...แต่แค่จะอ่อนแรงน่ะ เพราะคู่เติมเต็มจะต้องทำหน้าที่เติมพลังให้กันอยู่ตลอดเวลา” เลย์อธิบายอย่างละเอียด
“ทำไมนายถึงรู้เยอะจังล่ะ?” ลู่หานถาม
“เพราะซิ่วหมินเป็นคู่เติมเต็มของฉัน...และฉันอยู่ที่นี่มานานพอจะรู้อะไรหลายๆอย่าง” เลย์ตอบยิ้มๆ
ลู่หานไม่แปลกใจเลย...เวลาทั้งสองอยู่ด้วยกัน ทุกอย่างมันดูสมบูรณ์แบบไปหมด เลย์คอยดูแลซิ่วหมินอยู่ตลอดและซิ่วหมินก็คอยปกป้องเลย์อยู่เสมอ ลู่หานรู้สึกอิจฉาความรักระหว่างคนทั้งคู่
“บอกฉันหน่อยสิ...ตอนนี้นายรู้สึกยังไงเหรอ?”
ลู่หานคิดสักพักก่อนจะตอบออกไปตามตรง
“เหงาน่ะ..”
“นี่แหละที่ทำให้ฉันสงสัย...” เลย์เอ่ยอย่างครุ่นคิด
“อะไรเหรอ?”
“ฉันสงสัยว่าทำไมพวกนายถึงต้องแยกกัน...คู่เติมเต็มควรจะอยู่ใกล้กันตลอดถึงจะถูก” เลย์ตอบ
“เดี๋ยวก่อนนะ...แล้วพวกเขารู้ได้ไงว่าเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นคู่เติมเต็มของฉัน? เขาจับคู่กันยังไง? อยู่ดีๆ..ก็เลือกใครสักคนมาให้ฉันอย่างนั้นเหรอ? หรือว่าเลือกคู่จากการนอนด้วยกัน?...แล้วถ้า...”
ลู่หานคิดไปถึงผู้ชายที่ใส่หน้ากากก่อนจะส่ายหัวเบาๆ...เขาไม่อยากคิดต่อแล้ว
“ทั้งสองจะถูกทดสอบให้แน่ใจว่าจะเข้ากันได้...พวกเขาจะตรวจเลือดและทำการทดสอบมากมายก่อนจะเลือกคู่ให้ใครสักคน...บางทีมันอาจจะไม่ได้ผลด้วยซ้ำ”
ลู่หานรับฟังเลย์ก่อนจะพยายามทำความเข้าใจช้าๆ
“บางที...คนหนึ่งอาจจะเป็นคู่เติมเต็มของมากกว่าหนึ่งคน” เลย์พูดต่อ และมันทำให้ลู่หานรู้สึกกลัวขึ้นมา
“ล..แล้ว..นายเคยคู่กับใครได้อีกไหม? นอกจากซิ่วหมิน...?” ลู่หานถาม เลย์พยักหน้าเบาๆเป็นคำตอบ
“ใครน่ะ?” ลู่หานถามต่ออย่างแปลกใจ
“คริส...” เลย์พูดขึ้นเบาๆ
“...”
“แต่สายใยระหว่างเรามันไม่แข็งแรงเท่าของฉันกับซิ่วหมินหรอก...ฉันรู้สึกดึงดูดกับซิ่วหมินตั้งแต่ก่อนที่เราจะ..มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันด้วยซ้ำ” เลย์พูดต่อ
“...นั่นเป็นสาเหตุที่ซิ่วหมินเกลียดคริสใช่รึเปล่า?” ลู่หานถามขึ้นอย่างสนใจ
“คงงั้นล่ะมั้ง...คู่เติมเต็มเขาไม่พอใจหรอกนะถ้าอีกฝ่ายจะไปมีคู่เป็นคนอื่น...” เลย์หัวเราะเบาๆ
ลู่หานพยักหน้ารับ เขานึกไปถึงเวลาที่ซูโฮจับใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้นอย่างหวงแหน...ซูโฮ
ซูโฮเป็นคู่ของเด็กหนุ่มคนนั้นเหมือนที่ลู่หานเป็นรึเปล่านะ...แค่คิดก็ไม่ชอบใจแล้ว
“เขาชื่อเซฮุนนะ..ลืมบอกไป”
“เซฮุน?” ลู่หานถามงงๆ
“คู่เติมเต็มของนายน่ะ...”
ในที่สุด...ชื่อเซฮุนสินะ
ลู่หานชอบชื่อนี้...และเขาจะจำมันไปอีกนานเลย
--
ลู่หานนึกถึงเซฮุนตลอดเวลา..ไม่ว่าจะหลับหรือตื่น หัวของเขาก็จะเต็มไปด้วยภาพของเซฮุน แม้แต่ความฝันของเขาก็เต็มไปด้วยเซฮุน ในฝัน...เซฮุนเอาแต่เดินไปข้างหน้า และไม่ว่าลู่หานจะวิ่งเร็วแค่ไหน ก็ไม่สามารถรั้งเซฮุนเอาไว้ได้
ลู่หานมักจะตื่นขึ้นมาและคิดมากเรื่องนี้เสมอ...
เขารู้มาว่าเซฮุนอยู่ที่นี่มาได้สักพักแล้ว..เหมือนเลย์นั่นแหละ และเขาก็รู้มาอีกด้วยว่าซูโฮและคริสจะแบ่งพวกเขาออกเป็นสองกลุ่ม ห้องที่พวกเขาอยู่ก็บอกให้เห็นชัดเจนอยู่แล้ว...ห้องที่เลย์ ซิ่วหมินและลู่หานอยู่คือทีมของคริส ส่วนห้องที่ชานยอลและเซฮุนอยู่คือทีมของซูโฮ
บางทีเลย์ก็มักจะถามเขาว่าทำไมคู่เติมเต็มของเขาคือเซฮุน? ทั้งๆที่เซฮุนไม่ได้อยู่ในทีมของคริส?...ลู่หานไม่รู้หรอก และเขาก็ไม่กล้าถามคริสด้วย เพราะเขารู้ว่าคริสคงไม่ตอบง่ายๆแน่
วันหนึ่ง..ใครบางคนก็เดินเข้ามาในห้องของกลุ่มซูโฮ
เลย์ ซิ่วหมิน และลู่หานทำได้แค่มองในขณะที่ชานยอลดึงคนที่มาใหม่เข้าไปกอดพร้อมกับเรียกคนๆนั้นว่า “แบคฮยอน”...ลู่หานคิดว่าแบคฮยอนน่าจะเป็นคู่ของชานยอล ทันใดนั้น...เซฮุนก็เดินตามแบคฮยอนเข้ามา
ลู่หานมองภาพนั้นอย่างเชื่องช้า เซฮุนเดินผ่านชานยอลและแบคฮยอนเข้ามา...ใบหน้าก้มลงมองพื้น ผมปรกหน้าจนมองไม่เห็น...ลู่หานทำได้แค่มองเท่านั้น
เซฮุนเดินไปนั่งมุมหนึ่งของห้อง..โดยที่ไม่มองขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย
ลู่หานอยากคุยกับเขามาก...เขาอยากรู้ว่าเซฮุนเป็นยังไงบ้าง และเขาอยากขอโทษที่ทำให้เซฮุนต้องมาทรมานเพราะเขาในตอนนั้น
แต่เซฮุนดูเหมือนไม่อยากจะคุยกับใคร...ลู่หานจึงได้แต่นั่งมองเซฮุนเงียบๆ ดีใจที่อย่างน้อยเขาก็ได้รู้ว่าเซฮุนยังอยู่ดี
วันต่อๆไปผ่านไปอย่างง่ายๆ...ลู่หานสามารถแสดงผลลัพธ์ที่น่าพอใจให้คริสเห็นได้ และเขาก็ยังสนิทกับชานยอลและแบคฮยอนมากขึ้นอีกด้วย มีแต่เซฮุน...ที่ไม่ยอมคุยกับใครทั้งสิ้น แม้แต่กับเลย์ที่อยู่มานานพอๆกัน...เซฮุนก็หลีกเลี่ยงที่จะคุย
วันๆหนึ่งอาจจะผ่านไปอย่างง่ายๆ..แต่การทดสอบที่พวกเขาถูกสั่งให้ทำมันไม่ใช่ง่ายๆเลย จริงอยู่ที่พวกเขาสามารถแสดงผลลัพธ์ที่น่าพอใจได้ แต่การทดสอบก็เริ่มจะยากขึ้นทุกวันๆ ผลักดันพวกเขาจนร่างกายเหนื่อยล้ากันถ้วนหน้า
ลู่หานสงสัยเสมอว่าคนอื่นๆเขาทำอะไรกันเวลาทดสอบ และเขาก็สงสัยว่าทำไมชานยอลกับเลย์ถึงดูเหนื่อยกว่าคนอื่นๆ...
ลู่หานกำลังจะเดินไปนั่งคุยกับชานยอลและเลย์เกี่ยวกับการทดสอบแต่อยู่ๆผู้ช่วยของคริสก็เข้ามาและเรียกเขาและซิ่วหมินออกไปทดสอบพร้อมกัน...
ลู่หานเดินเคียงคู่ซิ่วหมินไปตามทางเดินที่ไม่คุ้นเคย ดูเหมือนการทดสอบครั้งนี้จะแปลกใหม่กว่าครั้งอื่นๆ...ลู่หานหันไปสบตากับซิ่วหมินแล้วก็ค้นพบว่าซิ่วหมินก็ยังไม่เคยเดินมาทางนี้เช่นกัน
ในที่สุดผู้ช่วยของคริสก็ดันพวกเขาทั้งสองคนผ่านประตูบานใหญ่บานหนึ่ง...ประตูถูกปิดลงทันทีที่ลู่หานและซิ่วหมินเข้ามาเป็นที่เรียบร้อย และแล้วพวกเขาทั้งสองก็ค้นพบว่าพวกเขาถูกพาเข้ามาในห้องๆหนึ่งที่ดูเหมือนสนามประลองขนาดใหญ่
“ทำไมถึงพาเรามาที่นี่นะ?” ซิ่วหมินถาม...ลู่หานเองก็ไม่รู้เช่นกัน
“ไหนบอกว่าพามาทดสอบไง?” ลู่หานถามยังไม่ทันจบ..ประตูอีกฟากก็เปิดขึ้นก่อนที่อสูรกายตัวยักษ์จะเดินเข้ามาในสนามประลอง ดวงตาของมันแดงก่ำกระหายเลือด และทันทีที่มันหันมาเห็นลู่หานและซิ่วหมิน...ลู่หานก็รับรู้ได้ทันทีว่า นี่แหละคือการทดสอบที่แท้จริง
[TBC].
--
A/N: อัพเร็วมาก ปกติไม่อัพเร็วแบบนี้ 5555
คือจะบอกว่า..ตอนนี้เป็นอะไรที่แปลยาก
กลัวรีดเดอร์จะงงเพราะข้อมูลใหม่ค่อนข้างเยอะเลย
ตอนนี้ก็รู้กันไปแล้วด้วยว่าเด็กหนุ่มคนนั้นของลูลู่เป็นใคร..
แต่รีดเดอร์ส่วนใหญ่ก็เดาออกมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วละเนอะ
แบคกี้ก็ออกมาแล้วด้วย หุหุ.. เหลืออีกไม่กี่คนเท่านั้น :D
ตอนนี้มาลุ้นกันดีกว่าว่าลู่กับซิ่วหมินจะสู้ปีศาจยังไง
และชายใส่หน้ากากที่ขืนใจลู่เป็นใครกัน? โฮก ;_;
นโยบายเดิม...ไม่เม้น ไม่อัพนะจ๊ะ นักอ่านเงาอ่านไว้และเม้นซะ.
ความคิดเห็น