คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : * chapter12 ;
แบคฮยอนรู้สึกขอบคุณที่วันนี้คือวันเสาร์และไม่ใช่วันศุกร์
เขาคาดว่าป่านนี้ทุกคนคงจะรู้เรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และคงเอาชานยอลไปพูดแบบเสียๆหายๆแน่ ข่าวดีก็คือ..การแข่งขันฟุตบอลถูกเลื่อนออกไปเนื่องมาจากเด็กจอนอิลหลายคนถูกเรียกตัวไปสอบสวน และผู้เล่นมัธยมฮเยซองสองคนได้รับบาดเจ็บ
แบคฮยอนเองก็ไปคลินิคเพื่อไปรักษาอาการบาดเจ็บมาแล้วเรียบร้อย หมอบอกว่าโชคดีที่กระดูกไม่ได้หักหรือร้าวแต่อย่างใด แม้บริเวณเข่าจะมีแผลฟกช้ำสีม่วงคล้ำเสียจนน่ากลัวแต่โดยรวมแล้ว กระดูกไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย เขาเชื่อว่าถ้าชานยอลไม่มาช่วยไว้..เขาคงเป็นหนักกว่านี้แน่
ถ้าชานยอลไม่ช่วยเขาไว้..แบคฮยอนคงต้องล้มเลิกความฝันที่อยากจะเป็นนักฟุตบอล ซึ่งไม่ยุติธรรมเลยแม้แต่น้อย เขาไม่สมควรได้รับปาฏิหารย์นี้ เขาไม่สมควรจะเดินได้หลังจากที่ชานยอลได้เสียสละไปมากมาย ชานยอลเดือดร้อนและต้นเหตุก็มาจากเขาอีกแล้ว
--
หลังจากที่แม่ของแบคฮยอนพาแบคฮยอนไปคลินิค คนเป็นแม่ก็ออกจากบ้านไปทำงานอย่างเร่งรีบ ทิ้งให้แบคฮยอนกับชานยอลอยู่บ้านกันสองคน แบคฮยอนเองไม่ได้เอ่ยปากคุยกับชานยอลตั้งแต่เหตุการณ์ทีเกิดขึ้น เขาจึงตัดสินใจเดินไปหาชานยอลที่ห้อง
เขาเข้ามาในห้องนี้นับครั้งไม่ถ้วนแต่เขาไม่เคยสังเกตเห็นอะไรเลย ก่อนที่ชานยอลจะย้ายเข้ามาอยู่กับเขา ห้องๆนี้เคยเป็นห้องเก็บของ จนถึงตอนนี้ห้องนี้ยังคงมีลังกระดาษวางอยู่ระเกะระกะ ห้องนี้ไม่มีโต๊ะและไม่ได้มีพื้นที่มากพอสำหรับเดินไปเดินมาได้ มีเพียงฟูกเก่าๆที่ชานยอลปูไว้เท่านั้น
แต่แม้ห้องจะทรุดโทรมขนาดไหน..ชานยอลเองก็ไม่เคยบ่น ร่างสูงนำลังกระดาษมาทำเป็นโต๊ะเขียนหนังสือและปูหนังสือพิมพ์ไว้บนพื้นห้องกันเวลาฝนรั่ว
ตอนที่แบคฮยอนเดินกระเผลกเข้าไปในห้อง..ชานยอลเองก็กำลังนั่งอยู่ใกล้ๆลังกระดาษที่เจ้าตัวนำมากองทับๆกันไว้
แบคฮยอนเดินไปทรุดตัวนั่งข้างๆอีกคนอย่างลังเล
“ขา..ขาของแบคฮยอนเป็นอะไรไหม?” ชานยอลเอ่ยถาม
ถึงตอนนี้แล้ว..ชานยอลยังเป็นห่วงแบคฮยอนมากกว่าตัวเองเสียอีก
“ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ เดี๋ยวอีกอาทิตย์นึงก็หายแล้ว..” แบคฮยอนเอ่ยก่อนจะโชว์ขาที่พันผาพันแผลให้ชานยอลดู
“...”
“ขอบคุณนะชานยอล นายน่ะ..กล้าหาญมากเลยนะ” แบคฮยอนพูดขึ้น
ชานยอลยิ้มกว้างก่อนจะพยักหน้ารับอายๆ
“แบคฮยอน..ก็คงทำแบบเดียวกันให้ยอลน่ะแหละ..”
“...”
“เพราะแบคฮยอน..เป็นพี่ชายของยอลนี่นา” ชานยอลยิ้มอีกครั้ง
แบคฮยอนเองไม่กล้าถามตัวเองเลยว่าถ้าชานยอลตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน..เขาจะช่วยชานยอลหรือไม่
สิ่งที่ทำให้เขาเจ็บปวดที่สุดคือ..ชานยอลไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าจะถูกนำตัวไปที่โรงพยาบาลหนึ่งอาทิตย์หลังจากนี้
เขาไม่สามารถเลิกโทษตัวเองได้ เขาไม่รู้จะบอกความจริงกับชานยอลยังไง เพราะขนาดตอนนี้..ชานยอลยังไม่รู้เลยว่าพ่อของตัวเองได้เสียชีวิตลงแล้ว ชานยอลยังคงคิดว่าพ่อของเขาเดินทางไปต่างประเทศเพื่อทำงาน
แบคฮยอนถอนหายใจเบาๆก่อนจะเหลือบไปมองสมุดโน้ตของชานยอลที่เปิดค้างไว้อยู่ ลายมือของชานยอลดีขึ้นมาก..ถึงแม้ว่าจะยังสะกดผิดอยู่บ้าง
“คำนี้..ชุกกู แปลว่าฟุตบอล นายสะกดผิดน่ะ..” แบคฮยอนชี้ไปที่คำๆหนึ่งบนหน้ากระดาษ
“แบคฮยอนชอบฟุตบอล..” แบคฮยอนอ่านประโยคที่ชานยอลพยายามจะสะกดด้วยหัวใจที่เจ็บปวด
“ชานยอล..นายต้องแสดงให้ทุกคนเห็นนะว่านายฉลาดพอ ฉันรู้ว่านายทำได้ ถ้านายแสดงให้พวกเขาเห็นว่านายสามารถอ่านเขียนได้เหมือนคนอื่นๆ ทุกคนอาจจะมองนายเปลี่ยนไป”
“เหมือน..คนอื่นๆงั้นเหรอ?” ชานยอลถามเสียงสั่น ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด..มือใหญ่กำดินสอแน่นขึ้นก่อนจะมองไปทางสมุดโน้ตอย่างหมดหวัง
“ฉันหมายถึง..ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะชานยอล” แบคฮยอนเอ่ยเบาๆ
“แล้วแบคฮยอนหมายความว่าไง? หมายความว่าไงเหรอ..” ชานยอลเอ่ยเสียงเศร้า
“ฉันหมายความว่า...ฉันเชื่อในตัวนายนะ”
--
แบคฮยอนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่จนกระทั่งเขาเหลือบมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่ในห้องของชานยอล ตอนนี้ก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว..แบคฮยอนเองก็คงไม่สนใจเวลาเท่าไหร่นักถ้ากริ่งหน้าประตูไม่ดังขึ้น
“ใครครับ?” แบคฮยอนตะโกนถาม
เขานึกว่าจะเป็นบุรุษไปรษณีย์หรือไม่ก็พนักงานขายของแต่เขาไม่คิดเลยว่าเมื่อเปิดประตูออกมาจะเจอกับ...ลู่หาน
ลู่หานมาทำอะไรที่บ้านของเขากัน?!
“ชานยอลอยู่บ้านรึเปล่า?” ลู่หานเอ่ยถามทันทีที่เห็นหน้าเขา
“อ่า..เอ่อ..อยู่ๆ นาย..รู้จักที่อยู่ของฉัน-“
“เซฮุนบอกน่ะ..”
“อ๋อ” ไอ้บ้าเซฮุนเอ้ย..ทำไมถึงเอาที่อยู่ของเขาไปแจกคนสุ่มสี่สุ่มห้านะ?
“เผื่อนายสงสัย..ฉันมาที่นี่เพื่อมาติวให้ชานยอลน่ะ” ร่างบางหน้าหวานเอ่ยเรียบๆ
“...”
“ฉันเป็นห่วงชานยอลมากเลยหลังจากเรื่องที่เกิดขึ้น..ฉันขอคุยกับเขาได้ไหม?” ลู่หานเอ่ยถามนิ่งๆอย่างตรงไปตรงมา
“ฮึ..แหมขอบคุณนะที่อุตส่าห์เป็นห่วงน่ะ” แบคฮยอนเอ่ยประชดก่อนจะเถิบให้ลู่หานเข้ามาในบ้าน
“ฉันไม่ได้เป็นห่วงนาย”
ถ้าให้พูดกันตามจริง..แบคฮยอนรู้สึกอิจฉาเล็กๆที่เห็นลู่หานกับชานยอลอยู่ด้วยกัน ชานยอลดูมีความสุขมากเมื่อลู่หานมาหา แต่เขาเองพยายามจะไม่คิดมาก แม้จะแอบสงสัยไม่ได้ว่าทำไมชานยอลถึงไม่บอกเขาว่าลู่หานจะมาติวหนังสือให้
--
“โค้ชบอกว่าเขาจะตัดมึงออกจากทีมถ้ามึงหายไม่ทันการนะ” จงอินเอ่ยในขณะที่เคี้ยวราเมนเต็มปาก
แบคฮยอนมองในขณะที่จงอินนั่งสวาปามมื้ออาหารที่อยู่ตรงหน้า เขารู้สึกสบายใจที่ได้ออกมาคุยกับจงอินแบบนี้ในร้านอาหารประจำที่เขาชอบมากินกับกลุ่มเพื่อน อีกอย่าง..ทิ้งชานยอลไว้ที่บ้านกับลู่หานคงไม่เป็นไรหรอก
“ถ้าโค้ชจะตัด..ก็ให้เขาตัด” แบคฮยอนพูดอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะคีบปลาหมึกใส่ปาก
“อะไรนะ?” จงอินแทบสำลักราเมนเมื่อได้ยินดังนั้น
“...”
“แบคก้ารัมบ้า มึงหมายความว่ายังไงวะ? ให้ตัดมึงออก? หมอบอกว่ามึงจะหายภายในหนึ่งอาทิตย์ไม่ใช่เหรอ? มึงยังเล่นได้นี่!”
“ชานยอล..กำลังจะถูกส่งไปที่อื่นแล้ว”
“ที่ไหนวะ..?” จงอินเอ่ยถามอย่างตกใจ
“โรงพยาบาลบำบัดจิตน่ะสิ..ตำรวจคิดว่าชานยอลเป็นคนผิด”
“งั้นก็จริงน่ะสิที่เขาลืมกันว่าปาร์คชานยอลทุบหัวไอ้เด็กจอนอิลจนหัวแบะสมองไหลน่ะ?”
แบคฮยอนมองจงอินด้วยสายตาไม่พอใจ
“กูหมายความว่า..แสดงว่ามันจริงน่ะสิ ที่ชานยอลใช้อิฐทุบหัวไอ้เด็กจอนอิลน่ะ?”
แบคฮยอนปิดปากเงียบจนจงอินต้องเอ่ยขอโทษ
“แต่ยังไงซะนะ..แบคกาจู มึงต้องรีบหายให้ทันการแข่งนะเว้ย ไม่งั้นเราแพ้แน่..นี่กูจริงจังนะ” จงอินเอ่ยปิดท้าย
“มึงจริงจังเป็นด้วยเหรอวะ?”
“หุบปากน่า”
และแล้ว..อีกหนึ่งวันก็ได้ผ่านไป พร้อมกับการจากลาที่กำลังใกล้เข้ามา
[TBC].
--
A/N: ตอนนี้สั้นจุ๊ดจู๋เลย ._.
คือมันเหมือนเป็นแชปคั่นเฉยๆง่ะ
แต่รับรองว่าแชปหน้ายาวกว่านี้แน่นอนค้าบ
อย่าลืมเม้นกันล่ะ กำลังเข้มข้นเบยบอกแล้ว -..-
สกรีมอย่าลืมติดแท็ก
#ฟิคบบบ
✱ Bachelor
ความคิดเห็น