ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (EXO-CHANBAEK) Baby's Breath. -ฟิคแปล-

    ลำดับตอนที่ #12 : * chapter11 ;

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 57


    Chapter 11 ;




    แบคฮยอนรู้ว่าชานยอลคงไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนและแบคฮยอนไม่อยากให้ชานยอลเอะอะโวยวาย เขาผลักชานยอลไปข้างหลังในขณะที่สายตาก็ยังคงมองไปทางกลุ่มอันธพาลที่อยู่ตรงหน้า

     




    “วิ่งสิ ชานยอล” แบคฮยอนกัดฟันพูด ขัดใจที่อีกคนไม่มีทีท่าวาจะขยับเลยแม้แต่น้อย

     




    “วิ่ง!!” แบคฮยอนตะโกนเสียงดังก่อนจะโยนกระเป๋าใส่ไอ้อันธพาลที่ย่างก้าวเข้ามาใกล้ โชคดีที่ชานยอลออกวิ่งทันทีที่แบคฮยอนตะโกน แต่เขาไม่โชคดีเท่าไหร่นักเมื่อวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกพวกมันดึงคอเสื้อไว้ก่อนจะถูกผลักลงกับพื้นอย่างแรง

     




    เขาอยากจะตะโกนบอกให้ชานยอลวิ่งต่อแต่ยังจะไม่ทันได้พูดอะไรก็ถูกเตะเข้าที่ท้องน้อยอย่างแรงจนจุก หลังจากนั้นไม่นานฝีเท้านับสิบก็ร่วมกันประทุษร้ายร่างกายเขา

     




    เจ็บ...เจ็บเสียจนพูดไม่ออก

     




    ชานยอลหยุดวิ่งเมื่อวิ่งมาจนเกือบจะสุดซอยก่อนจะหันไปมองเหตุการณ์ตะลุมบอลด้วยดวงตาเบิกกว้าง สมองบอกให้เขาวิ่งต่อไปและขอความช่วยเหลือ แต่สมองอีกส่วนกลับบอกให้เขาหันกลับไปเพราะแบคฮยอนกำลังตกอยู่ในอันตราย ชานยอลมองไปรอบๆเพื่อหาอาวุธที่พอจะใช้ได้...เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ รู้เพียงแต่ว่าเขาจะต้องช่วยแบคฮยอนให้ได้




     

    “หักขามันเลยดีไหม?” หนึ่งในแก๊งนักเรียนจอนอิลเอ่ยก่อนจะหัวเราะเบาๆโดยมีแบคฮยอนนอนกุมท้องอยู่ที่พื้น มันดึงขาของเขาก่อนจะส่งสัญญาณให้หัวหน้าแก๊งจัดการได้ตามใจชอบ

     




    แบคฮยอนกรีดร้องทันทีที่ไอ้หัวหน้ากลุ่มฟาดไม้หนาสามลงบริเวณเข่าของเขา แม้กระดูกจะไม่ได้หักแต่เขารู้สึกได้ว่าเขาไม่มีทางเล่นบอลต่อได้หลังจากนี้แน่ แบคฮยอนได้แต่กัดฟันรับความเจ็บปวดเมื่อมันฟาดไม้ลงมาอีกครั้ง เขาหลับตาปี๋เมื่อเห็นมันเงื้อไม้ขึ้นเตรียมจะฟาดลงมาครั้งที่สาม




     

    ตุบ!

     




    แบคฮยอนลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของแข็งกระแทกกับอะไรสักอย่างแต่กลับไม่รู้สึกเจ็บ ภาพที่เขาเห็นคือพวกอันธพาลที่วิ่งหนีไป ชานยอลที่ยืนถือก้อนอิฐเปื้อนเลือด กับไอ้คนที่ฟาดเขานอนฟุบอยู่บนพื้นพร้อมเลือดที่ไหลอาบใบหน้าและศีรษะ

     




    ชานยอลทิ้งก้อนอิฐลงกับพื้นทันทีเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองได้ทำอะไรลงไป..

     




    แบคฮยอนมองไปรอบๆก่อนจะเห็นหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งโผล่หัวออกมาจากหน้าต่างชั้นบนก่อนจะโทรแจ้งตำรวจ

     




    แบคฮยอนพยายามลุกขึ้นนั่งก่อนจะมองไปทางชานยอลที่ยืนตัวสั่นอยู่ใกล้ๆ

     




    “ช..ชานยอล” แบคฮยอนพูดเสียงสั่น

     




    “..นายต้องออกไปจากตรงนี้นะ ตำรวจกำลังจะมา..หนีไปซะ” แบคฮยอนพยายามจะพูดด้วยเสียงที่นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้คนที่ฟาดเขามันตายรึเปล่า..

     




    ทุกอย่างสายเกินไปเมื่อผ่านไปเพียงไม่กี่นาที เสียงหวอและไฟวิบวับของรถตำรวจใกล้เข้ามา...รถตำรวจสามคันเคลื่อนเข้ามาใกล้ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายจะวิ่งเข้ามาในจุดเกิดเหตุ ไอ้คนที่ฟาดเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ในขณะที่เขาถูกนำตัวไปไว้หลังรถเพราะขาที่บาดเจ็บ ส่วนชานยอล..ชานยอลโดนใส่กุญแจมืออย่างไร้ความปรานี

     




    “อย่าทำเขานะ!” แบคฮยอนตะโกนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังผลักชานยอลเข้าไปในรถ




    แบคฮยอนได้แต่มองในขณะที่ชานยอลถูกค้นตัวและผลักเข้าไปในรถอย่างรุนแรง...

     




    --

     




    “นายกำลังจะบอกว่าพวกนักเรียนจอนอิลทำร้ายนาย และเพื่อนนายคนนี้ก็มาช่วยนายไว้งั้นเหรอ?”

     




    “น้องชายไม่แท้ครับ” แบคฮยอนเอ่ยแก้เบาๆในห้องสอบสวน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องมาอยู่ในห้องนี้...ขาข้างขวาถูกปฐมพยาบาลเบื้องต้นและพันไว้ลวกๆ

     




    “นักเรียนจอนอิลที่โดนทำร้ายคนนั้นอยู่ในอาการโคม่า กะโหลกร้าวจนต้องเย็บหลายเข็ม พ่อแม่ของเขาจะฟ้องร้องน้องของนาย และฉันไม่สามารถช่วยอะไรนายได้หรอกนะ” เจ้าหน้าที่ตำรวจร่างท้วมเอ่ยขึ้น

     




    “อีกอย่าง...น้องนายเคยมีประวัติขโมยของนี่..”

     




    “แต่เขาเข้ามอบตัวเองนะครับ! เขาแค่พยายามจะช่วยผมนะ คุณตำรวจ..เขาไม่ได้เป็นคนหัวรุนแรงนะครับ ชานยอลไม่มีวันทำร้ายใครได้หรอก” แบคฮยอนเอ่ยอย่างร้อนรน

     




    “แล้วถ้าครั้งหน้ามันเกิดขึ้นอีกล่ะ? ถ้าครั้งหน้าน้องของนายพยายามจะช่วยนายแล้วเกิดฆ่าคนขึ้นมาล่ะ?”

     




    แบคฮยอนได้แต่ปิดปากเงียบ เขารู้ว่าไม่ว่าเขาจะพยายามปกป้องชานยอลเท่าไหร่..ยังไงคนก็จะโทษชานยอลเพราะชานยอลสมองไม่ปกติ สำหรับพวกเขา..ชานยอลเป็นคนสติไม่ดีที่เป็นอันตรายต่อสังคมทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย แบคฮยอนเข้าใจเพราะแบคฮยอนก็เคยดูถูกชานยอลมาก่อน...เคย...

     




    “ไม่มีใครพูดอะไรเพราะพวกจอนอิลบ้านรวยแล้วก็เกรดดีงั้นสินะครับ...เพราะพวกเขาเป็นที่ยอมรับของสังคมอย่างนั้นสินะ ไม่มีใครสนใจว่าชานยอลเป็นคนที่ถูกกระทำเพราะคนแบบคุณมองว่าชานยอลสมองไม่ปกติ คุณไม่ให้โอกาสชานยอลได้แก้ตัวด้วยซ้ำ...” แบคฮยอนเอ่ยเสียงสั่นพร้อมกับน้ำตาที่ใหลลงมาเงียบๆ

     




    “ผมเข้าใจแล้วคุณตำรวจ...แบบนี้สินะที่คุณเรียกว่าความยุติธรรม..” แบคฮยอนเอ่ยก่อนจะแค่นยิ้ม

     




    --

     




    “นี่คือเบอร์ของพ่อแม่ผู้เสียหายนะครับคุณนายบยอน.. เดี๋ยวเราจะดูแลเรื่องที่เหลือเอง”

     




    “ขอบคุณค่ะ” แม่ของแบคฮยอนเอ่ยก่อนจะถอนหายใจ

     




    ทันทีที่แบคฮยอนออกมาจากห้องสอบสวน..คนเป็นแม่ก็วิ่งเข้าไปกอดลูกชายทันทีด้วยความเป็นห่วง ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ

     




    “เป็นอะไรมากไหมลูก..” คนเป็นแม่กอดแบคฮยอนแน่น

     




    “แล้วชานยอลล่ะแม่?”

     




    แม่ของแบคฮยอนเงียบไปสักพักก่อนจะฝืนยิ้มทั้งๆที่น้ำสีใสคลอเต็มเบ้าตาทั้งสองข้าง

     




    “ชานยอลจะไม่เป็นไรนะลูก..แต่ชานยอลยังออกมาไม่ได้ คุณตำรวจต้องคุมตัวชานยอลไว้อีกสักพัก..”

     




    “ทำไมล่ะครับ? ชานยอลไม่ได้ทำอะไรผิดนะ!” แบคฮยอนตะโกนเสียงดัง

     




    “ไอ้พวกตำรวจงี่เง่าต้องสอบสวนไอ้พวกจอนอิลสิ พวกมันถือไม้หน้าสามเดินไปมาแล้วตำรวจก็ปล่อยพวกมันอย่างนั้นเหรอ? พวกมันควรต้องถูกสอบสวนสิ เหตุผลที่นัมอูฮยอนบาดเจ็บก็เพราะพวกมันไม่ใช่เหรอ? ทำไมล่ะ? เพราะชานยอลสติไม่ปกติอย่างนั้นเหรอ? แล้วไงล่ะ? ชานยอลผิดปกติแล้วมันผิดมากเหรอไง? มันผิดกฏหมายหรือไง?” แบคฮยอนขึ้นเสียงก่อนจะหอบเบาๆ ตำรวจนายหนึ่งพยายามจะเดินมาบอกให้แบคฮยอนนั่งลงแต่ร่างเล็กก็ผลักออกด้วยความโมโห

     




    ทั้งสถานีตำรวจเงียบสนิท..ในขณะที่แบคฮยอนรอให้ชานยอลออกมาจากห้องสอบสวน

     




    สองชั่วโมงต่อมา..แบคฮยอนก็ได้เจอชานยอลอีกครั้ง แต่ชานยอลกลับก้มหน้าก้มตาไม่เหมือนชานยอลคนเดิม แบคฮยอนจึงเดินออกมาจากสถานีตำรวจเงียบๆ ทั้งสามคนนั่งแท็กซี่กลับบ้านโดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกไปแม้แต่น้อย

     




    แบคฮยอนได้พูดสิ่งที่เขาอยากจะพูดไปหมดแล้ว..

     




    --

     




    “เราไม่มีเงินจ้างทนายหรอกนะ แบคฮยอน”

     




    แบคฮยอนและคนเป็นแม่ออกมานั่งคุยกันข้างนอกหลังจากส่งชานยอลเข้านอนแล้ว

     




    “ถึงเราจะจ้างทนายได้แต่เราก็ไม่ชนะคดีหรอก เราอาจจะโดนฟ้องร้องเป็นหนี้มากมายนะลูก” คนเป็นแม่ถอนหายใจก่อนจะหยิบบุหรี่ออกมาจุด แบคฮยอนหยิบบุหรี่ก่อนจะปาลงพื้นอย่างโมโห

     




    ครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นแม่สูบบุหรี่คือตอนที่แม่สารภาพว่าพ่อซ้อมแม่..เขาจะไม่ยอมให้แม่สูบบุหรี่อีก

     




    “แล้วให้ชานยอลทำอย่างอื่นทดแทนไม่ได้เหรอครับ?”

     




    “เขาไม่ได้กังวลเรื่องที่ชานยอลทำร้ายร่างกายคนอื่นนะลูก แต่เขากลัวว่าชานยอลอาจจะทำร้ายคนอื่นอีกในอนาคต..พวกเขาคิดว่า..คิดว่าชานยอลอาจจะป่วยเกินไปที่เราจะดูแลไหว”

     




    “หมายความว่าไงครับแม่..”

     




    คนเป็นแม่ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาตรงหน้าเขาก่อนจะเอ่ยเบาๆ

     




    “พวกเขาให้เวลาเราตัดสินใจอาทิตย์นึง”

     




    ศูนย์บำบัดผู้ป่วยทางจิต “โซล”

    โรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยมี่จิตไม่ปกติ

    (040-820-1192)

     




    --

     




    ยิ่งแบคฮยอนพยายามจะเถียงไม่ให้คนเหล่านั้นเอาชานยอลไปมากเท่าไหร่..เขาก็ยิ่งลังเลมากขึ้นเท่านั้น เขารู้สึกว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ข้างชานยอล เขารู้สึกเหนื่อยกับการพยายามจะทำให้คนอื่นเชื่อว่าชานยอลไม่ผิด

     




    แบคฮยอนเดินกระเผลกไปที่ห้องชานยอลก่อนจะเห็นร่างสูงของคนเป็นน้องนอนขดตัวอยู่บนพื้นโดยมีผ้าห่มผืนบางกองอยู่ตรงปลายเท้า

     




    ชานยอลยังคงใส่ชุดนักเรียน แขนทั้งสองข้างกอดตัวเองเนื่องจากอากาศข้างนอกเริ่มหนาวเย็นลง

     




    แบคฮยอนล้มตัวลงนอนข้างๆชานยอลก่อนจะดึงผ้าห่มคลุมตัวคนเป็นน้อง นี่เป็นครั้งแรกที่เขานอนข้างชานยอลแบบนี้ เสียดายที่ชานยอลไม่ได้ตื่นขึ้นมาเห็นมัน น้องต้องดีใจมากแน่ๆ

     




    ร่างเล็กหลับตาลงก่อนจะเลื่อนหน้าเข้าไปประทับริมฝีปากลงบนแผลเป็นบริเวณหลังหูของอีกคนเบาๆ ในใจก็ได้แต่อธิษฐานต่อพระเจ้าว่าอย่าใจร้ายจนเกินไป

     




    “ได้โปรด...อย่าให้คนไม่ดีเอาน้องชายผมไปเลยนะครับ”







    [TBC].






    --
    A/N: ช่วงนี้ขยันอัพมาก555555
    หวังว่ารีดเดอร์จะขยันเม้นเช่นกัน-..-

    ตอนนี้ก็แปลไปหน่วงไป คือสงสารทั้งคู่..
    แต่รับรองเลยตอนต่อๆไปได้เสียน้ำตาแน่ค้าบ
    คือแค่นี้ยังเด็กๆ..มันจะหน่วงกว่านี้ จะดราม่ากว่านี้!
    ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า *สะใจไป*

    ยังไงก็ไปสกรีมกันได้เด้อ อยากอ่านๆ
    #ฟิคบบบ



    Bachelor
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×