คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : * chapter9 ;
“ชานยอลอยู่ที่โรงพยาบาล..เป็นแค่ไข้หวัดน่ะ” แบคฮยอนเอ่ยในขณะที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่บริเวณล็อคเกอร์
“...หมอบอกว่าพรุ่งนี้ก็น่าจะดีขึ้นแล้ว” แบคฮยอนอธิบายต่อ เขาไม่อยากอธิบายให้มากความ..ไม่อยากให้ใครเอาเรื่องของชานยอลไปพูดในทางที่ไม่ดีอีก
เชื่อเลยว่าพวกเพื่อนๆเขาก็คงใส่สีตีไข่ว่าชานยอลเข้าโรงพยาบาลเพราะสติแตกหรืออะไรทำนองนั้นเป็นแน่
แบคฮยอนโยนรองเท้าบอลใส่ถุงก่อนจะสะพายกระเป๋าเตรียมเดินออกจากห้องแต่ก็ยังไม่วายทิ้งท้ายว่า..
“อย่าไปปล่อยข่าวลือพล่อยๆล่ะ ให้ชานยอลได้พักบ้างเถอะ” แบคฮยอนเอ่ยเตือนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องทันที
แบคฮยอนตรงไปที่โรงพยาบาลทันทีตามที่ได้สัญญากับชานยอลไว้ ก่อนจะใช้เวลาไปกับการช่วยชานยอลอ่านและเขียนหนังสือ กว่าจะรู้ตัวอีกที..มันก็ดึกแล้ว แบคฮยอนจึงตัดสินใจนอนค้างที่โรงพยาบาลซะเลย โซฟาข้างเตียงของโรงพยาบาลไม่สะดวกสบายเท่าไหร่นัก..แบคฮยอนจึงตื่นมาพร้อมกับอาการปวดหลัง เขาตื่นมาฉีดสเปรย์แก้ปวดก่อนจะตรงไปโรงเรียนทันที
อาการปวดหลังของแบคฮยอนทวีความเจ็บปวดขึ้นและมันทำให้เขาซ้อมบอลได้ไม่ดีเท่าที่เคย หลังจากซ้อมเสร็จ..อาการปวดก็แย่ลงจนเขาแทบจะเดินกะเผลกออกจากโรงเรียนเลยทีเดียว
แต่เพราะเขาสัญญากับชานยอลว่าจะไปหาที่โรงพยาบาล เขาจึงกัดฟันเดินต่อ...ในเมื่อเขามีเงินไม่มากพอที่จะขึ้นรถเมล์หรือนั่งแท็กซี่ไป
แบคฮยอนใช้เส้นทางลัดเพื่อจะไปถึงโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด แต่แล้วเขาก็ต้องมารู้ตัวว่ามันไม่ใช่การตัดสินใจที่ฉลาดเท่าไหร่นัก ซอยนี้เป็นซอยแคบๆเต็มไปด้วยบ้านร้างที่เหมาะสำหรับพวกแก๊งค้ายาหรืออะไรทำนองนั้น มันไม่ใช่ซอยที่คนแบบแบคฮยอนจะมาเดินเตร่คนเดียวแต่ก็ไม่ทันแล้ว..ในเมื่อเขาเดินมาเกินครึ่งทางแล้ว จะให้เขาถอยกลับก็ยังไงอยู่
พูดยังไม่ทันขาดคำ..เขาก็สังเกตเห็นคนกลุ่มนึงยืนอยู่บริเวณเสาไฟฟ้าริมทาง คนกลุ่มนี้ใส่ชุดนักเรียนที่แตกต่างออกไปจากชุดนักเรียนของแบคฮยอน เขาไม่เคยเห็นชุดนักเรียนสีเหลืองมัสตาร์ดแบบนี้มาก่อน..คาดว่าคงมาจากอีกละแวกหนึ่งเป็นแน่
ในกลุ่มมีประมาณสี่ถึงห้าคน..ทุกคนกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่อย่างไม่สนใจใคร แบคฮยอนทำท่าจะหันหลังกลับ..เขาไม่อยากเสี่ยงเดินผ่านคนกลุ่มนี้สักเท่าไหร่นัก แต่หันหลังได้ไม่ถึงสามวิ..หนึ่งคนในกลุ่มนั้นก็เรียกเขาไว้ซะก่อน
“เห้ย..มึงน่ะ”
แบคฮยอนหลับตาลงก่อนจะค่อยๆหันไปทางต้นเสียง ณ จุดนี้..เขารู้สึกหงุดหงิดมากกว่าหวาดกลัวเสียอีก เขาน่ะเติบโตมาในละแวกที่เลวร้ายกว่านี้หลายเท่า..แม้ว่าทุกคนในกลุ่มจะสูงกว่าเขาก็เถอะนะ แก๊งดังกล่าวเดินมาล้อมแบคฮยอนไว้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
“เพิ่งซ้อมบอลเสร็จเหรอ? โอ๊ะ..ชุดยูนิฟอร์มสีน้ำเงิน นี่มันคู่แข่งเรานี่หว่า” คนที่สูงที่สุดเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าหาเรื่อง
แบคฮยอนปัดมือของอีกคนซึ่งทำท่าจะเอื้อมมาจับตราโรงเรียนบนยูนิฟอร์มของเขา
“ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น...พวกมึงมาจากมัธยมจอนอิลสินะ” แบคฮยอนถามกลับอย่างไม่เกรงกลัว
พ่อของแบคฮยอนสอนไว้เสมอว่าห้ามทำท่าทางหวาดกลัวเวลาโดนหาเรื่อง และยังสอนไว้อีกว่าคนเราไม่ควรใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา แม้ว่าพ่อของเขาจะทำร้ายแม่ของเขาหลายต่อหลายครั้ง แบคฮยอนก็ยังคงเชื่อแบบนั้นเสมอ เขาจะไม่ใช้ความรุนแรง..เขาจะไม่กลายเป็นคนขี้ขลาดเหมือนที่พ่อของเขาเป็น ความรุนแรงน่ะ..เป็นทางออกของคนขี้ขลาดเท่านั้น
“กูไม่คิดเลยนะว่ามัธยมฮเยซองจะเอาคนแคระมาเล่นบอลด้วยว่ะ” ไอ้หัวหน้ากลุ่มเอ่ยก่อนจะหัวเราะเสียงดัง
แบคฮยอนแค่นหัวเราะ
มันก็จริงอยู่ที่ว่านักบอลของจอนอิลแข็งแรงกว่าและสูงกว่าพวกเขาหลายเท่านัก แต่แบคฮยอนไม่ได้กลัวพวกมันเลยแม้แต่น้อย ความสามารถกับความสูงเป็นอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกัน และสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเล่นบอลคือทีมเวิร์คต่างหาก ไม่ใช่พละกำลัง
“แล้วแทนที่พวกมึงจะเอาเวลาไปซ้อม..กลับเอามารังแกคนอื่นแบบนี้เนี่ยนะ?” แบคฮยอนเลิกคิ้วถาม
แบคฮยอนเอ่ยยังไม่ทันจบประโยคดี..พวกมันก็กระชากคอเสื้อเขาอย่างแรงจนปลายเท้าแทบลอยขึ้นจากพื้น
“เฮ้”
แบคฮยอนหันไปตามต้นเสียงก็เห็นร่างของคนๆหนึ่งเดินออกมาจากเงามืด คนๆนั้นใส่ชุดนักเรียนแบบเดียวกันกับแบคฮยอน เมื่อเพ่งมองดีๆแบคฮยอนจึงเห็นว่าคนๆนี้คือจื่อเทา..นักเรียนที่เพิ่งเข้ามาใหม่
“มึงคิดว่ามึงเป็นใครวะ?” หนึ่งในแก๊งมัธยมจอนอิลถามก่อนจะปล่อยแบคฮยอนและเดินเข้าไปผลักจื่อเทาอย่างแรง จื่อเทาไม่รอช้า..ร่างสูงดึงแขนฝ่ายตรงข้ามก่อนจะศอกเข้าไปที่ซี่โครงของอีกฝ่ายทันที
จื่อเทาพึมพำเบาๆเป็นภาษาจีนอย่างหัวเสีย
แบคฮยอนเองได้แต่ยืนมอง..แผ่นหลังแนบไปกับกำแพงราวกับจะกลอมรวมกันเป็นหนึ่ง แก๊งมัธยมจอนอิลพุ่งตรงเข้าไปทางจื่อเทาอย่างมุ่งร้าย แต่จื่อเทาเองไม่มีทีท่าหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย ร่างสูงบิดแขนของฝ่ายตรงข้ามก่อนจะถีบแรงๆจนอีกฝ่ายล้มลงไปกองกับพื้น
จื่อเทาพึมพำเป็นภาษาจีนอีกครั้ง..ก่อนจะปัดมือเป็นเชิงไล่ให้พวกนั้นไสหัวไปซะ
พวกนั้นจึงวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
แบคฮยอนได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความมึนงง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมจื่อเทาถึงเลือกที่จะช่วยเขาไว้ เขาจึงก้มหัวลงน้อยๆเป็นเชิงขอบคุณ ในขณะที่จื่อเทาเองก็พยักหน้ารับเบาๆเช่นกัน
ก่อนที่แบคฮยอนจะได้เอ่ยคำขอบคุณ จื่อเทาก็ไขกุญแจรั้วก่อนจะเดินหายเข้าไปในตึกทันที...
แสดงว่าจื่อเทาอาศัยอยู่ในละแวกนี้งั้นสินะ....
แบคฮยอนถอนหายใจอย่างโล่งอก..ก่อนจะออกเดินต่อทันที
--
แบคฮยอนเดินผ่านร้านดอกไม้ของตัวเองในระหว่างทางที่เดินไปโรงพยาบาลก่อนจะสัญญากับตัวเองว่าเขาจะมาเปิดร้านพรุ่งนี้ เขาเองก็ยุ่งๆกับทั้งเรื่องชานยอลและเรื่องเรียนจนไม่ได้นึกถึงร้านเลยแม้แต่น้อย
เขาตัดสินใจเดินเข้าไปดู..ก่อนจะพบว่าดอกไม้บางส่วนกำลังเหี่ยวเฉาเพราะขาดการดูแล
“ไม่ต้องห่วงนะ..เดี๋ยวพรุ่งนี้ชานยอลก็จะมาแล้ว” แบคฮยอนเอ่ยพูดกับดอกไม้ก่อนจะส่ายหัวเบาๆ นี่เขาจะบ้าตามชานยอลแล้วใช่ไหมเนี่ย..ถึงมาพูดกับดอกไม้แบบนี้
เขาเดินไปรอบร้านก่อนจะหยิบดอกไม้ที่ตายแล้วไปทิ้ง ก่อนออกมาจากร้าน..เขาไม่ลืมที่จะหยิบกระถางดอกไม้กระถางหนึ่งออกมาด้วย
มันคือดอกยิปโซกระถางสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่...
--
ชานยอลกำลังนั่งดูทีวีพร้อมกับเขียนคำว่า “บยอนแบคฮยอน” ลงในสมุดตอนที่แบคฮยอนไปถึง
“ว่าไง ยอลกง~” แบคฮยอนเอ่ยเรียก
ยอลกง เป็นชื่อที่แบคฮยอนตั้งให้ชานยอลเมื่อคืนก่อน...ยอลกง เป็นศัพท์ที่วัยรุ่นใช้ มีความหมายประมาณว่า “ตั้งใจเรียนนะ” และแบคฮยอนเองก็คิดว่ามันเหมาะกับชานยอลดี ชานยอลเองก็ดูจะชอบชื่อใหม่ไม่ใช่น้อย
แบคฮยอนวางกระถางยิปโซลงบนโต๊ะหัวเตียงก่อนจะวางกระเป๋าลงกับพื้น
“กำลังเตรียมตัวไปเรียนพรุ่งนี้อยู่เหรอ?” แบคฮยอนถาม
“ยอล..ยอลไม่อยากไป..โรงเรียน..” ชานยอลส่ายหน้าเบาๆ
“เอ้า..ทำไมล่ะ? ฉันนึกว่านายชอบโรงเรียนซะอีก” แบคฮยอนถามอย่างแปลกใจ
“ก็..ก็ยอลไม่ฉลาด..เหมือนคนอื่น...” ชานยอลยิ้มเศร้าๆ
“ยอลรู้..ว่าแบคฮยอน..แบคฮยอนก็คิดว่ายอลโง่ใช่ไหมล่ะ? เพราะยอลเขียนชื่อตัวเองไม่ได้..ล..แล้วคนอื่นๆก็ว่ายอลโง่..มันเจ็บ..” ชานยอลเอ่ยพร้อมน้ำตาที่ใหลออกมาเงียบๆ
“ยอล..อยากเป็นเหมือนคนอื่นๆน่ะ ยอลอยากจะเป็นเหมือนแบคฮยอน”
“ชานยอล..” แบคฮยอนเอ่ยเสียงเบา มือทั้งสองข้างสั่นน้อยๆ เขาอยากจะเอื้อมมือออกไปกอดชานยอลพร้อมกับบอกน้องว่าน้องจะหายเป็นปกติ แต่เขาไม่รู้..ไม่รู้ว่าชานยอลจะหายเป็นปกติหรือไม่
แบคฮยอนรู้สึกเกลียดตัวเองเมื่อเขาตัดสินใจวิ่งออกมาจากห้องโดยไม่พูดอะไร...จากอีกฟากฝั่งของประตู แบคฮยอนยังคงได้ยินเสียงร้องไห้ของชานยอล แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้เพราะมันสูงเกินไป..
กำแพงระหว่างคนทั้งสอง..มันสูงเกินไป
--
“ยอล..อยากเป็นเหมือนคนอื่นๆน่ะ ยอลอยากจะเป็นเหมือนแบคฮยอน”
ฉันต่างหากที่อยากจะเป็นเหมือนนาย...ปาร์คชานยอล
[TBC].
--
A/N: ผ่านไปแล้วอีกหนึ่งตอน!
ตอนที่แล้วเม้นน้อยมากเลอ หรือว่าหลายคนเลิกรอไรท์แล้ว? ._.
ไรท์ขอโทษ ไรท์จะพยายามอัพให้บ่อยขึ้นหนา..
ตอนนี้หน่วงมากเลยสินะ..ตอนหน้า..จะหน่วงกว่านี้ 5555555
ติดตามรอกันได้เลย!
อย่าลืมนะค้าบ สกรีมโปรดติดแท็ก
#ฟิคบบบ
✱ Bachelor
ความคิดเห็น