คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ' C H A P T E R 1 '
ความเจ็บปวด.
นั่นคือสิ่งเดียวที่ลู่หานรู้สึกอยู่ตอนนี้...เหมือนหัวของเขากำลังจะระเบิด เหมือนกำลังถูกแยกชิ้นส่วน เปลือกตาบางปิดลง เขาเหนื่อยเกินจะลืมตา เขาไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนและเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงรู้สึกแบบนี้
เขาพยายามจะจำว่าเกิดอะไรขึ้น เขาพยายามรื้อฟื้นว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่...แต่สิ่งสุดท้ายที่เขาจำได้คือการเดินออกมาจากมหาวิทยาลัยหลังจากเรียนเสร็จคลาสเช้า เขาจำไม่ได้ว่าเขาทำอะไรต่อจากนั้น เขาได้กลับคอนโดหรือเปล่านะ? หรือว่าเขานัดเจอเพื่อนที่ไหน?
เขาจำไม่ได้...และเข้าสู่ห้วงนิทราด้วยความเจ็บปวด
พอลู่หานมีแรงจะลืมตาอีกครั้ง...เขาก็ตื่นขึ้นจากห้วงนิทราและได้เห็นห้องที่เขาอยู่เป็นครั้งแรก มันไม่ใช่ห้องนอนในคอนโดของเขา ไม่มีหนังสือที่เขาชอบอ่าน ไม่มีโต๊ะทำงาน ไม่มีคอม มีเพียงเตียงเล็กๆที่ตั้งตระหง่านอยู่ในห้องสลัว ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีเก้าอี้ ไม่มีเครื่องตกแต่งใดๆทั้งสิ้น มีเพียงเสี่ยวลู่หานและเตียงโล่งๆ
เขารู้สึกกลัว...และเขาก็กลับเข้าสู้ห้วงนิทราอีกครั้ง
ลู่หานพบว่าตัวเองตื่นขึ้นมาในห้องเดิมครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่มีใครมาเยี่ยมเขา ไม่มีใครคุยกับเขา เขากำลังรู้สึกต้องการแสงแดดและโลกภายนอก... เขาเดินได้แล้ว เขาจึงพยายามเดินรอบห้องเพื่อหาประตูทางออก แต่ก็ไม่เจอ
เสื้อและกางเกงที่เขาสวมใส่เป็นสีขาวล้วนและเขาเดินไปเดินมาเท้าเปล่า ทุกวันเขาจะตื่นขึ้นมาบนเตียงด้วยร่างกายที่สั่นเทา ไม่ใช่เพราะหนาวแต่เพราะความกลัวที่กัดกินหัวใจอยู่ทุกวัน พ่อแม่เขาจะรู้ไหมว่าเขาหายตัวไป? คงไม่...เพราะเขาเป็นนักเรียนจีนที่มาแลกเปลี่ยนที่เกาหลี และพ่อแม่ของเขาโทรมาเดือนละครั้งเท่านั้น
และนั่นทำให้ลู่หานนึกขึ้นได้ว่า...เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาถูกจับมานานเท่าไหร่แล้ว...
ลู่หานกลัวที่จะต้องกลับไปนอน เขากลัวที่จะต้องตื่นขึ้นมาในห้องๆเดิม เขาอยากให้ใครก็ได้ช่วยบอกเขาว่าที่นี่คือที่ไหน เขารู้ว่าใครบางคนกำลังดูแลเขาเพราะบนตัวเขาเต็มไปด้วยผ้าพันแผลที่แขน หน้าท้อง และหน้าอก...แผลที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปมีตอนไหน
เขาไม่รู้ว่าวันนี้คือวันอะไรและบางทีเขาจะตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดเมื่อยตามร่างกายและอาการเวียนหัว บางทีเขาก็ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย เขารู้ว่าบางอย่าง...ผิดปกติ
บางทีเขาก็นั่งคิดว่าเขาอาจจะโดนวางยา นั่นคงเป็นสาเหตุที่เขาจำอะไรไม่ได้เลยและสาเหตุที่เขามีรอยเข็มฉีดยาอยู่ตามแขน เหมือนใครบางคนกำลังใช้เขาเป็นสิ่งทดลอง ...แต่ที่เขาไม่เข้าใจคือ ทำไมเขาถึงไม่เคยเห็นใครเลย? ทำไมไม่มีใครมาคุยกับเขา?
ทันทีที่เขาคิดแบบนั้น... เขาก็ตกลงสู่ห้วงนิทราทันที
ลู่หานตื่นขึ้นมาอีกครั้งและเขารู้สึกได้ว่าครั้งนี้ห้องเขามืดลงกว่าครั้งไหนๆมันไม่มีแสงสว่างอีกต่อไปและมันทำให้ลู่หานรู้สึก...แปลกไป
เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อรู้ตัวว่าความรู้สึกนี้คืออะไร เขาเกลียดตัวเองที่มารู้สึกแบบนี้ในเวลาแบบนี้ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามารู้สึก...ร้อนและต้องการ ทั้งๆที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสาเหตุมันเกิดมาจากอะไร
ลู่หานกรีดร้องในหัวของตัวเองก่อนจะเดินเปะปะไปทั่วห้อง พยายามทำให้ตัวเองใจเย็นลง พยายามทำให้ความต้องการที่มีอยู่ลดลง...ลู่หานทรุดตัวลงกับกำแพงห้องก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง พยายามอย่างมากที่จะไม่แตะเข้าที่กลางลำตัวของตัวเอง
ลู่หานตื่นขึ้นมาอีกครั้งและพบว่าห้องยังคงมืดอยู่เหมือนเดิม มันทำให้เขารู้สึกกลัว...บางทีเขาอาจจะตาบอด? เขาอาจจะมองไม่เห็นอีกต่อไป? บางทียาที่คนพวกนี้ฉีดให้เขาอาจจะทำให้เขาสูญเสียการมองเห็น? ...แต่ทุกๆความรู้สึกก็จางหายไปเมื่อความต้องการของลู่หานปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
ลู่หานครางเบาๆ...เขาอยากปลดปล่อยจนแทบทนไม่ได้ เขาควรทำมันอย่างนั้นเหรอ? ช่วยตัวเอง? ตรงนี้? ...ร่างของเขาสั่นเทา เขาส่ายหัวเบาๆ...เขาจะไม่มีทางทำอะไรน่าเกลียดแบบนั้น
เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาหลับไปอีกครั้งตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เขาก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะริมฝีปากร้อนๆที่ประทับอยู่ที่ลำคอของเขาและมือใหญ่ของใครบางคนที่โลมเลียร่างกายของเขาอย่างไม่จบสิ้น ลู่หานครางเบาๆเมื่อมือปริศนาสัมผัสเข้าที่หน้าขา เขายื่นมือออกมาดึงกลุ่มผมนุ่มของอีกคนเรียกเสียงครางต่ำที่ดังขึ้นอย่างพึงพอใจ
คนๆนี้เป็นผู้ชาย...
ไม่ใช่ว่าลู่หานไม่เคยนอนกับผู้ชายหรอกนะ...แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป ตื่นเต้น เร่าร้อน
ลู่หานมองไม่เห็นอะไรเลยในความมืดแต่เขารู้สึกได้ถึงนิ้วเรียวที่สอดใส่เข้ามาในตัวเขา เขาพยายามจะไม่เกร็ง แปลก....ที่เขารู้สึกเชื่อใจคนๆนี้ทั้งๆที่ไม่เห็นหน้า ลู่หานชอบความรู้สึกนี้...ความรู้สึกในขณะที่มือเล็กไล้มือลงไปตามร่างกายของอีกคน
คนๆนี้สอดใส่เข้ามาในตัวลู่หานในขณะที่ร่างเล็กเกาะไหล่อีกคนไว้แน่น นานมากแล้วที่ลู่หานไม่ได้สัมผัสกับใครเลย มันทำให้เขารู้สึกต้องการมากขึ้น... เขาปล่อยให้คนๆนี้ควบคุมร่างกายของเขา คนๆนี้...ที่ช่างอ่อนโยนเหลือเกิน
ลู่หานปลดปล่อยออกมาพร้อมๆกับอีกคนในขณะที่ลู่หานกอดอีกคนไว้แน่น เขากลัวว่าคนๆนี้จะหายไปและเขาจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวอีก คนๆนี้เป็นคนแรกที่สัมผัสตัวของลู่หานตั้งแต่เขามาอยู่ที่นี่ เป็นคนๆเดียวที่ลู่หานมั่นใจว่ามีตัวตน ลู่หานกอดคนๆนี้ไว้แน่นจนกระทั่งเขาหลับไป...
ลู่หานตื่นขึ้นมาพร้อมร่างกายเปลือยเปล่าและข้างกายที่ว่างเปล่า....เขารู้ว่าเมื่อคืนไม่ใช่ความฝัน ทั้งตัวเขาเต็มไปด้วยรอยรักที่อีกคนสร้างไว้ เขาสั่นเทิ้มด้วยความหนาวและความทรงจำของเมื่อคืนที่ไหลวนกลับมาในหัว อย่างน้อยเขาก็รู้ว่า...เขาไม่ได้อยู่คนเดียว ข้างนอกนั่น...ยังมีใครอีกคน
ทันใดนั้นประตูก็เปิดขึ้นและลู่หานก็ได้เห็นคนเป็นครั้งแรกตั้งแต่มาอยู่ที่นี่...ทุกคนอยู่ในชุดสีขาวเหมือนชุดกาวน์ ใบหน้าของทุกๆคนปกคลุมไปด้วยหน้ากาก ลู่หานรู้ทันทีว่าคนพวกนี้ไม่ได้มาช่วยเขา เขานั่งมองคนเหล่านี้อยู่บนเตียงเงียบๆ เขาไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ร่างกายของเขายังคงเปลือยเปล่า เขานั่งมองในขณะที่คนเหล่านี้เดินเข้ามาทีละคนๆ
หนึ่งในคนเหล่านั้นจับแขนเขาแน่น เขาพยายามสะบัดออกแต่ก็มีอีกคนเข้ามารวบแขนเขาไว้...ลู่หานปล่อยให้คนเหล่านี้ทำตามใจ เขายอมแพ้แล้ว เขาเหนื่อยเกินไปที่จะสู้
สิ่งสุดท้ายที่เขาจำได้คือเข็มฉีดยาที่ถูกแทงลงมาที่แขนของเขาอีกครั้ง...
--
ลู่หานตื่นขึ้นมาในห้องๆเดิมพร้อมเสื้อผ้าเต็มยศ แต่วันนี้ห้องของเขาได้เปลี่ยนไป...มีโต๊ะตั้งอยู่กลางห้อง บนโต๊ะมีแก้วน้ำ อาหาร และมีใครบางคนกำลังนั่งอยู่
ผู้ชายคนนั้นยิ้มให้เขาแต่ลู่หานทำได้เพียงแค่จ้องกลับเท่านั้น
ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ใส่หน้ากาก ลู่หานเห็นใบหน้าของคนๆนี้อย่างชัดเจน...ผู้ชายคนนี้ใส่เสื้อกาวน์สีขาวแต่ลู่หานรู้สึกได้ว่าคนๆนี้นิสัยดี ไม่! คนพวกนี้ไม่มีใครนิสัยดีหรอก! จิตสำนึกของเขาดึงขึ้น...
“คุณเป็นใคร?” ลู่หานถามขึ้น เสียงแหบเล็กน้อยจากการที่ไม่ได้พูดเป็นเวลานาน
ผู้ชายคนนี้ไม่ตอบแต่ผายมือเป็นเชิงบอกให้เขานั่งลง
ลู่หานเดินช้าๆก่อนจะนั่งลงตรงกันข้ามตามคำสั่ง...เขาเพิ่งสังเกตว่าคนๆนี้ดูหนุ่มอยู่เลย
“กินสิ” ผู้ชายคนนี้พูดขึ้น ลู่หานชอบเสียงนุ่มๆของชายคนนี้...จึงยอมทำตามอย่างว่าง่าย
เขาทำช้อนตกอยู่หลายครั้ง...เกือบลืมไปแล้วว่าช้อนมันใช้งานอย่างไร เขากินช้าๆในขณะที่คนๆนี้จ้องมองเขาตาไม่กระพริบ มันทำให้เขารู้สึกอึดอัดนิดหน่อย
อาหารจานนี้เป็นอะไรที่ไม่คุ้นเคย...มันนิ่มๆแหยะๆและอุ่นๆ แม้จะไม่อร่อยในความคิดของเขาแต่เขาก็ลงมือกินมันช้าๆ เขาไม่อยากให้ผู้ชายคนนี้ไป เขาอยากให้ผู้ชายคนนี้อยู่กับเขานานๆ เขาอยากให้ใครสักคนอยู่กับเขาและบอกเขาว่าเขาไม่ได้บ้า
ลู่หานกินเสร็จอย่างรวดเร็วก่อนจะนึกขึ้นได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้กินอาหารตั้งแต่ถูกจับมา
“สบายดีไหม?” ผู้ชายคนนี้เอ่ยถามเขา
“ผมอยากกลับบ้าน” ลู่หานตอบตรงๆ ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่ามันไม่ง่ายแบบนั้น แต่เขาก็ยังอยากกลับบ้านอยู่ดี
ผู้ชายคนนี้พยักหน้าเบาๆ
“ฉันเข้าใจ...แต่ฉันยังให้นายกลับไปไม่ได้หรอก”
ลู่หานไม่แปลกใจเลย...
“ไม่จนกว่านายจะแสดงผลลัพธ์ที่น่าพอใจ”
“ผลลัพธ์? หมายความว่าไง? ผลลัพธ์อะไร?” ลู่หานถามอย่างไม่เข้าใจ
“นายควรจะรู้ได้แล้วนะ..” ผู้ชายคนนี้ตอบเศร้าๆ
ลู่หานเงียบ เขาไม่เข้าใจที่คนๆนี้พูด...เขากำลังสับสน
ผู้ชายคนนี้เอื้อมมือไปหยิบลูกแก้วสีใสลูกใหญ่ใต้โต๊ะก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะ
“ทำให้มันขยับ” ผู้ชายคนนี้สั่ง
ลู่หานมองคนๆนี้งงๆก่อนจะหันกลับมามองลูกแก้วที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ไม่เห็นต้องคิดนาน...ลู่หานเอื้อมมือออกไปหมายจะจับลูกแก้วแต่ก็ถูกคนๆนี้หยิบไปเสียก่อน
“ห้ามใช้มือ...”
ลู่หานมองไปที่ลูกแก้วอีกครั้ง เขาจะขยับลูกแก้วโดยที่ไม่ใช้มือได้ยังไง? บ้ารึเปล่า? ...ยังไม่ทันได้คิดนาน ประตูห้องก็เปิดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับร่างของใครอีกคนที่เดินเข้ามา
ผู้ชายคนนี้สูงมากๆ และมีใบหน้าที่ดูดุดัน...ผมสีน้ำตาลทองและดวงตาคู่คมทำให้ลู่หานมองอย่างสนใจในขณะที่คนๆนี้เดินเขามาจับไหล่ผู้ชายคนแรก
“นายใจดีเกินไปแล้วนะ” ชายคนที่สองพูดขึ้น
“งั้นนายจัดการเองละกัน” ผู้ชายคนแรกเอ่ยก่อนจะยืนขึ้น
ไม่เหมือนผู้ชายคนแรก คนๆนี้ทำให้ลู่หานรู้สึกประหม่า เขาไม่รู้ว่าทำไมแต่เขาไม่สามารถสบตาคนๆนี้ได้
“การทดลองหมายเลข 420” คนๆนี้พูดขึ้น ลู่หานสะดุ้ง...เขาเป็นแค่การทดลองสินะ
“ผมชื่อลู่หาน” ลู่หานเอ่ยขึ้น เขาไม่ชอบที่ถูกเรียกแบบนั้น
“ฉันไม่เรียกชื่อใคร..” คนๆนี้พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มมุมปาก
ลู่หานส่งสายตาไม่พอใจออกไป เขาไม่อยากได้คนๆนี้ เขาอยากได้ผู้ชายคนแรกคืนมา
“การทดลองหมายเลข 420 ...นายคงกำลังสับสนสินะ”
ลู่หานพยักหน้าพร้อมสายตาเว้าวอน
“คงทั้งสับสนและต้องการคำตอบ...เพราะฉะนั้นฉันมีข้อตกลงมาให้” คนๆนี้พูดขึ้น
ลู่หานรอฟังอย่างตั้งใจ
“ทำให้ลูกแก้วขยับโดยไม่ใช้มือ...แล้วฉันจะตอบคำถามข้อหนึ่ง”
ลู่หานมองลูกแก้วอย่างขัดใจก่อนจะคว่ำโต๊ะ พอกันที...ทำไมคนพวกนี้ต้องล้อเล่นกับเขาด้วย อยากให้เขาขยับมันใช่ไหม? เขาก็คว่ำโต๊ะแล้วนี่ไง ไม่ได้ใช้มือซะหน่อย
“ไม่ใช่แบบนั้น...แต่ใช้ความสามารถของนายต่างหาก”
คนๆนี้กำลังพูดอะไร...ลู่หานไม่เข้าใจ
คนๆนี้ลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับคนใส่หน้ากากที่เดินเข้ามายกโต๊ะและอาหารของเขาออกไปด้วย
“ลองไปเล่นกับมันดู” คนๆนี้พูดขึ้นพร้อมกับยื่นลูกแก้วให้เขาและเตรียมเดินจากไป
“เดี๋ยว!”
“ถ้าผม...ถ้าผมขยับมันไม่ได้ล่ะ?” ลู่หานถามเบาๆ
“นายทำได้...ฉันจะบังคับให้นายทำให้ได้” คนๆนี้ตอบก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับประตูที่ปิดลง ทิ้งให้ลู่หานยืนเคว้งอยู่กลางห้อง
--
ลู่หานรู้ว่าการพยายามทำให้ลูกแก้วขยับโดยไม่ใช้มือนั้นเป็นสิ่งที่โง่สิ้นดี แต่เขาก็ยังคงพยายามอยู่วันแล้ววันเล่า เขาจ้องมองมันจนปวดหัวแต่ก็ไม่มีทีท่าว่ามันจะขยับเลยสักนิด
เขาเคยโยนมันลงบนพื้นจนมันแตกกระจาย...คนสวมหน้ากากเหล่านั้นวิ่งเข้ามาพร้อมกับยื่นลูกแก้วลูกใหม่ให้เขาแล้วก็จากไป
ลู่หานไม่เคยรู้สึกขัดใจขนาดนี้มาก่อนในชีวิตเขา เขารู้สึกเหมือนถูกกักขังอยู่ในกรง...ถูกจ้องมองทั้งๆที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหน้าต่างอยู่ตรงไหน
คืนนั้น...มีบางอย่างเกิดขึ้น บางอย่างที่ลู่หานไม่วันลืม
ลู่หานตื่นขึ้นมาพร้อมกับร่างกายเปลือยเปล่าและมือหยาบกร้านที่สัมผัสเขาไปทั่ว ไม่...มันไม่ใช่คนๆเดิมที่เคยสัมผัสเขา ผู้ชายเปลือยเปล่าคนนี้ใส่หน้ากาก มือของเขาทั้งหยาบกร้านและไม่อ่อนโยนเท่าคนๆนั้น
ลู่หานพยายามจะผลักคนๆนี้ออกแต่คนๆนี้แข็งแรงมาก ลู่หานกรีดร้องในขณะที่คนๆนี้พยายามจะเข้ามาในตัวของเขา...เขารู้สึกขยะแขยงและพยายามบอกให้คนๆนี้หยุดแต่คนๆนี้ก็ไม่ฟังเขา
เขาพยายามดิ้นรน เขาหันไปมองลูกแก้วที่วางอยู่ข้างเตียงด้วยน้ำตานองหน้า...เขาอยากจะใช้มันเป็นอาวุธ เขาอยากจะหยิบมันขึ้นมาและโยนใส่คนที่กระทำใส่เขาอยู่ตอนนี้ เขาอยากจะ—
ทันใดนั้น...ลูกแก้วก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นและนั่นทำให้ลู่หานร้องขึ้นอย่างตกใจ
ประตูห้องถูกเปิดขึ้นพร้อมกับผู้ชายในหน้ากากที่หยุดการกระทำของตัวเอง ลู่หานรู้สึกได้ว่าน้ำหนักที่กดทับลงมาบนตัวเขาผ่อนลง ทั้งหวาดกลัวและตกใจ เขาไม่สามารถมองผู้ชายคนนี้ได้ เขากลัว...
แต่ก่อนที่ผู้คนจะกรูกันเข้ามาพาตัวผู้ชายใส่หน้ากากคนนี้ออกไป ลู่หานก็ได้ยินคำว่า “ขอโทษ” เบาๆ...และมันทำให้เขาร้องไห้ออกมา
เสียงฝีเท้าดังขึ้น...ลู่หานปาดน้ำตาลวกๆก่อนจะมองไปทางประตูที่เปิดออก มันคือผู้ชายทั้งสองคนที่เข้ามาหาเขาเมื่อวันก่อน ผู้ชายใส่ชุดกาวน์ทั้งสองคนที่ท่าทางเหมือนคุณหมอ
คุณหมอคนแรกลูบใบหน้าของชายใส่หน้ากากเบาๆอย่างทนุถนอมก่อนที่ชายใส่หน้ากากจะถูกพาออกจากห้องไป...
“นายไม่ควรยึดติดกับการทดลองของตัวเองนะ ซูโฮ” คุณหมอหน้าดุที่เข้ามาเป็นคนที่สองเมื่อวันก่อนพูดขึ้น
“นายควรดูแลลู่หานดีๆและเลิกทำตัวงี่เง่าได้แล้วนะ คริส” ซูโฮพูดก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
คริสกรอกตาไปมาก่อนจะหันมามองลู่หานที่นั่งมองคุณหมอทั้งสองคนด้วยใบหน้าสับสน
“ลุกขึ้นและใส่เสื้อซะ” คริสโยนเสื้อไปทางลู่หานก่อนจะเอ่ยขึ้น
“...”
“นายทำให้ลูกแก้วขยับ...ฉันจะยอมตอบคำถามข้อนึง”
[TBC.]
--
A/N: อ้าก มาเปิดเรื่องใหม่ทั้งๆที่เรื่องเก่าไม่จบ
5555555555555 มาลงให้อยากกันเล่นๆ
เพราะหลังจากตอนนี้ จะหายไปต่อเปเปอร์มาเช่ให้จบก่อน
แล้วค่อยกลับมาต่ออันนี้ -..-
ใครที่อยากอ่านก็เม้น ถ้าเรตติ้งไม่ดี ไรท์ไม่แปลต่อนะเออ.
B B
ความคิดเห็น