คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอน รัก........
ตอน รัก .........
แสงแดดยามเช้าที่สาดแสงลอดผ่านหน้าตางเข้ามากระทบร่างบางที่ตอนนี้ถึงแม้แสงแดดที่ส่องมาจะเริ่มทำให้รู้สึกร้อนเพียงใด ก็ไม่มีที่ท่าว่าเขาจะลุกขึ้นมาประท้วงกับแสงแดดที่ส่องอยู่นี้เลยสักนิด
“ถ้าไม่เคยลองทำตามหัวใจ จะรู้ได้ไมว่าเราจะไปได้ไกลสักเท่าไหร่.............”
เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์เครื่องบางดังขึ้นท้ามกลางความเงียบให้ห้องนอน ร่างบางที่หลับสนิทอยู่บนเตียงต้องจำใจเอื้อมมือบางหยิบโทรศัพท์เจ้ากรรมมารับอย่างเสียไม่ได้
“ซิน มาที่บริษัทเดี๋ยวนี้เลย เกิดเรื่องใหญ่แล้ว !!”
ปลายสายที่โผรงขึ้นมาทันทีไม่ใช่ใครที่ไหน พี่เอผู้จัดการนั้นเอง น้ำเสียงปลายสายดูเคร่งเครียดและรีบร้อนชอบกล
“เกิดอะไรขึ้นคับ ?”
“ไอ้นัท มันจะลาออก !!”
“...............................”
“ซิน !! ฟังพี่อยู่รึเปล่า !! ซิน !!”
“ลาออก... มันเรื่องอะไรกันคับ !?” มือบางที่ถือโทรศัพท์อยู่เริ่มสั่นเทา ในหัวมีแต่ความสับสนและเรื่องราวมากมายผุดขึ้น
“พี่ว่าซินมาคุยกับมันเองดีกว่า...”
“คับ งั้นแค่นี้นะคับ อีก10นาทีซินคงไปถึง”
ร่างบางรีบวางโทรศัพท์ แล้วลุกขึ้นจากเตียงอย่างเร็ว เลยทำให้ร่างกายที่บอบช้ำจากเรื่องเมื่อคืนล้มลงกับพื้นห้อง ขาสั่นจนไม่มีแรงลุกมือบางก็สั่นเทา แถมยังเจ็บไปทั้งตัว แต่ถึงอย่างนั้นร่างบางก็ทำใจแข็งฝืนให้ร่างกายขยับพาตัวเองเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย เพราะว่ายังคงเจ็บอยู่เลยทำให้อาบน้ำแต่งตัวไม่สะดวกนัก แต่ไม่นานร่างบางก็จัดการจนเสร็จ หยิบกุญแจรถเดินออกไปจากบ้านด้วยร่างกายที่ปวดกร้าว
วันนี้รถไม่ติดมากเลยทำให้ซินขับรถมาถึงบริษัทได้เร็วกว่าที่คาดไว้ ร่างบางจอดรถพาตัวเองขึ้นลิบจากชั้นจอดรถ กดเลือกชั้นบนสุดที่เป็นห้องของพี่ชมพู รอไม่นานลิบก็ขึ้นถึงชั้นสุดท้ายขณะที่ประตูลิบกำลังเปิดออก สายตาของร่างบางก็จับจ้องอยู่ที่ใครอีกคนที่ยืนอยู่หน้าประตูลิบ ใบหน้าของคนที่เขาอยากจะเจอที่สุดในตอนนี้ ใบหน้าของคนที่เขามีเรื่องมากมายอยากจะพูด
“นัท.........” เสียงแผ่วเบาเอ่ยเรียกชื่อร่างแกร่งตรงหน้า ดวงตาคู่สวยจ้องลึกลงไปในตาสีดำสนิทของอีกคน
“...........................”
ไม่มีการตอบรับใดๆเลยจากร่างแกร่งตรงหน้า มีแต่ความเงียบความอึดอัด และบรรยากาศที่อยากจะอธิบาย ในตอนที่ประตูลิบกำลังจะปิดลงร่างบางก็รีบก้าวออกมา หยุดอยู่ตรงหน้าของร่างแกร่ง และทันใดนั้น
“เพี๊ยะ !!”
เสียงฝ่ามือบางกระทบกับแก้มของร่างแกร่งอย่างแรง แก้มหนาขึ้นสีเกิดเป็นรอยมือ
สมควรแล้วกับสิ่งที่ผมได้รับ แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ ผมที่ทำร้ายเขาสมควรจะตายไปจริงๆ ทำไมคนอย่างผมมันถึงได้เลวขนาดนี้
“ตบอีกสิ แค่นี้มันยังน้อยไปสำหรับคนเลวๆแบบนัทด้วยซ้ำ.....” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบอยู่นาน
ไหล่เล็กๆของร่างบางสั่นเทา กุมมือข้างที่ตบหน้าร่างสูงไว้แน่น น้ำตาเอ่อล้นดวงตาคู่สวยไหลอาบแก้มอย่างไม่คิดที่จะห้าม ใบหน้าเปื้อนน้ำตาเงยขึ้นสบตาร่างแกร่งอย่างเจ็บปวด มือบางทั้งสองข้างยกขึ้นอีกครั้ง
ร่างแกร่งไม่หลบมือบางที่ยกขึ้น เขายืนนิ่งไม่ขยับสักนิด เหมือนกับยอมจำนนทุกอย่าง ดวงตาคมไม่สื่อความหมาย ริมฝีปากหนาไม่เอ่ยอะไร
“คน..ขี้ขลาด.....ฮึ..ก.....ฮึก..ทำไ..ม....คิด..ไ..ด้...แต่จะ...หนี” มือบางทุบเบาๆที่แผงอกกว้างของร่างแกร่ง
พูดไปร้องไห้สะอึกสะอื่นไป หยาดน้ำอุ่นๆไหลลงอาบแก้มอย่างไม่คิดที่จะหยุด มือบางทุบลงเบาๆซ้ำแล้วซ้ำเล่าลงที่แผงอกของร่างแกร่ง
“ใช่แล้ว...ฉันมันไอ้ขี้ขลาด....” มือหนารวบมือบางของคนตรงหน้าไว้ มือบางสั่นเทาอ่อนแรง
ร่างบางสะบัดมือตัวเองออก เพราะว่าร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้วและยังต้องร้องไห้อย่างหนัก ทำให้ร่างกายรับไม่ไหว ร่างบางเซเกือบจะทรุดลงกับพื้นแต่มือหนาคว้าไว้ได้ทัน
“ไม่ใช่..มันไม่ใช่แบบนั้น...ทำไมนัทถึงไม่ถามเราบ้าง...ทำไมถึงไม่เคยมองว่าเรารู้สึกยังไง.............ทำไมนัทถึงไม่พูดมันออกมาทั้งๆ ทั้งๆทีเรา......” ร่างบางเงยหน้าขึ้นมาสบตบ “ทำไมถึงได้ชอบคิดอะไรเอาเอง.....ทำไมถึงได้ชอบเก็บทุกอย่างไว้กับตัว.....ทั้งๆที่เราอยู่ตรงนี้ เราอยู่เคียงข้างนัท ตรงนี้ไม่เคยไปไหน และไม่คิดที่จะไปด้วยซ้ำ...........”
ในตาสีดำสนิทฉายแววไม่เข้าใจ เรื่อราวมากมายเริ่มย้อนเข้ามาในหัว ใบหน้าหวานที่มักจะยิ้มให้เขาอยู่เสมอ ร่างบางที่มักยืนเคียงข้างเขาไม่ไปไหน เสียงใส่ๆที่มักเรียกแต่ชื่อของเขา มือบางที่กุมมือเขายามที่เขาไม่เหลือใคร ดวงตาที่มักมองแต่เขา..................มาตลอด !
‘ยินดีที่รู้จักนะ เราชื่อซิน จากนี้ไปฝากตัวด้วยนะ’
‘ขอเสียงกรี๊ดให้นัท มือกีตาร์สุดหล่อ ของผม ด้วยคับ’
‘ขอบคุณคนอื่นมาก็เยอะแล้ว แต่เรายังไม่ได้ขอบคุณกันเองเลย ยังไงก็ขอบคุณนัทมากนะที่อยู่เคียงข้างกันแบบนี้ขอบคุณ’
‘ถามว่าร้อนไมเหรอ ? เอ่อ.... ถ้านัทเช็ดให้ก็ร้อนนะ’
‘เราช่วยเติมเต็มกันในส่วนที่อีกคนหนึ่งขาดไป ผมก็ยอมรับว่าผมเล่นดนตรีไม่เก่งเลย แต่นัทเขาเล่นกีตาร์เก่ง ผมแต่งเพลงได้ ร้องเพลงได้ แต่เล่นดนตรีไม่ได้ นัทเขาเป็นดูโอของผมที่เก่ง ที่ร่วมเดินหน้าให้ ซิงกูล่าร์ มาด้วยกัน’
‘อันนี้ก็ต้องดูกันต่อไป’
‘เป็นห่วงคับ เพราะนัทเขาเป็นคนที่ถ้าได้ทำงานแล้วก็จะมุ่งมั้นและเต็มที่กับมัน เลยลืมและละเลยที่จะดูแลตัวเองผมก็เลยเป็นห่วงเรื่องสุขภาพคับ’
‘เพราะว่าเราสองคนมีอะไรหลายอย่างที่เหมือนกัน มันเลยทำให้เราสนิทและเข้ากันได้เป็นอย่างดี’
‘ก็คบกันอยู่คับ’
“ซิน.....” นิ้วแกร่งยกขึ้นปาดน้ำตาของร่างบางอย่างเบามือ ใบหน้าเรียบเฉยระบายรอยยิ้ม ที่จะมีให้ร่างบางเพียงคนเดียวเท่านั้น “ยังอยากให้โอกาสอีกสักครั้งรึเปล่า ?”
ใบหน้าเปื้อนน้ำตาซบลงบนอกแกร่ง “ถ้าเราไม่ให้โอกาสคงไม่มาที่นี้แล้วทำอะไรบ้าๆแบบนี้หรอก...” ร่างบางเอ่ยเสียงอู้อี้ในลำคอ ซ้อนแก้มที่แดงจัดเพราะเขินในคำพูดของตัวเอง และรอยยิ้มของร่างแกร่งเมื่อครู่
“ขอบคุณนะคับ นางฟ้าของผม” มือหนาโอบกอดร่างบางไว้แน่น ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว เข้าใจถึงจิตใจของร่างบางและหัวใจของร่างบางตรงหน้าแล้ว เขาเข้าใจหมดแล้วว่าการที่เขามัวแต่กลัวว่าการที่เขามัวแต่ขี้ขลาดและคิดเองเออเอง มันทำให้เขาได้มองข้ามสิ่งสำคัญไป สิ่งสำคัญที่ร่างบางสื่อถึงเขาอยู่ตลอดเวลา
END
ซะที่ไหนละ ?
(ผลัก !! ตุบ !! อึก !! ) ง่าอย่าเพิ่งทำร้ายกันเยี่ยงนี้คะ เพราะเรื่องราวมันจะจบง่ายอะไรปานนี้
เพราะนี้มันแค่บทเริ่มต้นเท่านั้น (ตุง ตุง แช่ :: เสียงประกอบ)
นี้แค่บทเริ่มต้นเท่านั้นคะ อันนาขอกระซิบเนื้อเรื่องแบบเกริ่นๆสักนิด เอาหูมาคะเอาหูมา
เพื่อน แฟน แค่เขียนมันก็ไม่เหมือนกันแล้ว
แล้วนี้เขาสองคนจะปรับตัวยังไงกับความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปแบบกะทันหัน
ไหนจะซินที่อยู่ดีๆ ก็ทำตัวแปลกไป
นัทที่เริ่มเคลือบแครงในความรู้สึกของซิน
เพราะต่างฝ่ายต่างก็รักกันมาก มากเกินจนทำให้มองไม่เห็นสิ่งสำคัญบางอย่าง
แล้วก็ก่อให้เกิดความไม่แน่ใจในรักที่เลือก จนนำมาสู่เรื่องที่ทำให้ต้องทำร้ายจิตใจของกันและกัน
ไหนจะยังต้องสู้กับสังคมที่ต่างก็ไม่ยอมรับในความสัมพันธ์
ความยากลำบากในการเผชิญหน้ากับความจริง
ที่นำมาซึ่งความกลัวและเจ็บปวดจนทำให้สั่นคลอนไปถึงจิตใจ และความรักต่อกัน
โอ้ !!!!!!!
เอาเป็นว่าติดตามคะติดตาม
ที่มาของนัทครึ่งหน้า
ความคิดเห็น