คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 .....
'Gray long' Mëlődy
บทที่ 1
หนึ่งเดือนก่อนหน้า
"โอ๊ย !"
ร่างสูงที่กำลังนั่งเกากีตาร์อยู่ชะงักมือและหันมามองร่างบางข้างๆที่อยู่ดีๆก็ส่งเสียงร้องขึ้น
"เป็นไร ซิน ?"
ร่างสูงวางกีตาร์ตัวโปรดแล้วหันมาถามอย่างเป็นห่วง
"ออ..กระดาษโน้ตเพลงมันบาดมือนะ"
ร่างบางหันมาตอบพร้อมกับกุมนิ้วที่ถูกกระดาษเจ้ากรรมบาด
"ไหนดูสิ ทำยังไงเนี่ยให้กระดาษปาดมือ ทำไมไม่รู้จักระวังบ้างเลยนะ"
นัทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุๆแบบฉบับซายามาเฟียของตน ร่างสูงจูงมือร่างบางไปทำแผล จัดการฆ่าเชื้อและแปะพราดสเตอร์ให้เป็นที่เรียบร้อย
"ทีหลังก็ระวังหน่อยละ ช่วงนี้เป็นแผลเยอะเลยนิ อย่ามัวแต่ใจรอยคิดอะไรเรื่อยเปื่อยนักจะได้ไม ?"
ร่างสูงเอ่ยขึ้นพรางยื่นมือข้างหนึ่งไปลูบผมยาวสวยของร่างบาง ที่หลังๆจะกลายเป็นการขยี้ผมเล่น เพราะหมั่นไส้มากกว่า
"อย่าสิ ผมเสียทรงหมด อุส่าไปนั่งร้านทำผมตั้งนาน"
ร่างบางว่าพรางลูบผมตัวเองและจัดทรงไปในตัวป้อยๆ แล้วหันไปมองร่างสูงอย่างค้อนๆ แล้วตบท้ายด้วยการเชิดใส่แบบสวยงามตามแบบฉบับนางฟ้าอีกตามเคย
.... นายจะรู้ไมนะ ว่าการกระทำแบบนั้น มันทำให้ใครบางคนตรงนี้ใจเต้นแค่ไหน อย่าน่ารักให้มันมากนักสินางฟ้า เดี๋ยวมาเฟียคนนี้ก็อดใจไม่ได้เผลอทำเรื่องบ้าๆขึ้นมาจะทำไง ? .....
"นัท..นัท ๆๆ นี่นัท นัท !!"
"หืม มีไร เรียกเสียงดังเชียวหูจะแตกแล้วเนี่ย ?"
"ก็นัทอะ ว่าแต่ซินชอบคิดอะไรเรื่อยเปื่อยที่ตัวเองยังทำเลย เห็นไมนี่ให้ซินพูดคนเดียวอยู่ได้ตั้งนาน"
คนตัวเล็กทำท่าทางงอนๆแบบน่ารักแล้วก็หันมาค้อนใส่เขาซะอย่างนั้น นี่เขาคงต้องง้ออีกตามเคยสินะ นี่ท่าเขางอนบ้างจะมาง้อแบบที่เขาทำอยู่ไมนะ ? จู่ๆความคิดแปลกๆก็ผุดขึ้นมาในใจของร่าสูง นั้นสิ ? ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาเขายังไม่เคยงอนร่างบางเลยนิน่า.....
..... ไม่ใช่ว่าไม่มีเรื่องให้ต้องงอน แต่บางทีมันอาจเป็นตัวเขาเองก็ได้ อาจเป็นเพราะเขาไม่ใจแข็งพอ ไม่กล้ามากพอที่จะงอนร่างบางก็ได้ นั้นก็เป็นเพราะ เพราะว่าเขา ? .....
ณ ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัด กระบี่
เสียงกรี๊ดจากแฟนคลับสาวๆที่อยู่ในร้านดังขึ้นแบบ คนกรี๊ดคงไม่กลัวว่าคอจะแตกหรือจะแคร์ว่าคนฟังหูจะดับกันไปข้างนึง ที่เป็นแบบนั้นก็เป็นเพราะการมาเยือนของวงน้องใหม่ Singular ที่กำลังดังเป็นพรุแตกที่ในตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเขาทั้งสองคน ซิน นักร้องนำ และนัท มือกีตาร์
"เอาละคับเพลงต่อไปผมว่าทุกคนคงร้องได้กันนะคับเพราะว่าเพลงนี้เป็นเพลงในซิงเกิลที่สองที่เราได้ปล่อยออกมา ใช่ไมคับคุณนัทคับ"
"คับผม ไปฟังกันเลยคับ เบา เบา คับ"
พอพูดจบร่างสูงก็ลงมือใช้ปลายนิ้วดีดกีตาร์คู่ใจจนออกมาเป็นทำนองที่เพราะจับใจ รอไม่นานเสียงร้องใส่ๆของร่างบางก็ดังขึ้น
"คิดถึงฉันสักครั้งเมื่อไม่ได้คิดถึงใคร
ทำตัวตามสบายแล้วเจอกันในความฝัน
มีเวลาดีๆ ก็บอกให้ฉันได้ฟัง
ไม่มากเกินไปกว่านั้น ค่อยๆรักกัน เบาเบา"
เสียงที่อ่อนหวานจับใจและใบหน้าคนร้องที่งดงามราวกับรูปปั้น ส่งให้เพลงที่มีความหมายดีๆทำนองเพราะๆและเสียงร้องจับใจ ขับให้เพลง เบาเบา ไม่ได้เบาสมชื่อ
"วันนี้เหนื่อยหน่อยนะทุกคน"
เสียงของพี่เอผู้จัดการส่วนตัวของวง Singular ดังขึ้นขณะที่ทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่บนรถตู้ของบบริษัทเพื่อมุ่งหน้าไปที่โรงแรมในตัวเมืองกระบี่ที่พวกเขามาเปิดทัวร์คอนเล็กๆที่นี้
"ก็นิดหน่อยคับ แต่พอเห็นแฟนคลับนะ ซินนี้หายเหนื่อยเลย"
ร่างบางเอ่ยขึ้นขณะยิ้มกว้างจนแก้มดูเหมือนจะปริซะให้ได้แล้ว
"อืม ไม่นึกเลยว่าแม้แต่แฟนคลับที่จังหวัดอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงก็ตามมาด้วยแบบนั้นนะ"
นัท พูดขึ้นขณะกำลังมองร่างบางที่ตอนนี้ ยิ้มแก้มปริและเหม่อลอยแนวเพ้อฝันไปไกลเต็มทีแล้ว เฮ้อ..ให้มันได้แบบนี้ทุกทีสิน่าไม่ว่าจะขึ้นเวทีกี่ครั้งแต่ร่างบางก็มักจะอดตื่นเต้นไม่ได้ซะทุกครั้งไป จนบางครั้งมันก็ทำให้คนนิ่งๆหน้าตายอย่าเขาพรอยตื่นเต้นไปด้วยซะงั้น ก็นะมันเป็นเอกลักษณ์ ของร่างบางนี่นะ เพราะความคิดแบบนั้นมันเลยพรอยทำให้เสือยิ้มยากแบบเขาแอบอมยิ้มออกมาแบบเงียบๆได้
พอรถมาจอดอยู่หน้าโรงแรม SS กว่าจะเข้าโรงแรมได้ก็ปาไปเกือบชั่วโมงเพราะว่ามีแฟนคลับที่รู้ตามมาอออยู่หน้าโรงแรมเต็มไปหมด กว่าจะถ่ายรูปแจกลายเซนและปรีกตัวออกมาได้ก็เล่นทำเอาเหงื่อตกกันทั้ง รบพ พนักงานโรงแรม ไปจนถึง ตัวศิลปินเอง
"ซิน กับ นัท นอนห้องเดียวกันเหมือนเดิมนะ เพราะมันจะได้ง่ายต่อการดูแล แฟนคลับที่มารอก็ไม่มีทีท่าว่าจะลามือง่ายๆด้วยสิ นัทคืนนี้ก็อย่าออกไปเที่ยวไหนละเข้าใจไม ?"
พี่เอสั่งเสร็จสับก็ล็อคห้องปล่อยให้ซิน นัทได้พักผ่อน พร้อมกับไม่ลืมพูดสั่งตอนท้ายเรื่องนัท ที่ไม่ว่าจะไปทัวร์คอนที่จังหวัดไหนก็ต้องออกไปเที่ยวกลางคืนมันซะทุกงานสิน่า เรื่องข่าวคราวที่แล้วที่เกือบไปมีเรื่องก็ทำเอาถูกเรียกตัวจากผู้ใหญ่ไปต่อว่าซะ คราวนี้เขาที่เป็นถึงผู้จัดการเลยจะยอมใจอ่อนเหมือนทุกครั้งอีกไม่ได้แล้ว
"คับๆๆๆๆ"
นัท รับคับพี่ผู้จัดการจอมเผด็จการแบบเหนื่อยๆ พร้อมทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างล้าๆ เพราะว่าวันนี้เจอศึกหนักกันแต่เช้ายังไม่ได้พักกันเลย
"ซิน ไปอาบน้ำก่อนนะ"
ร่างบางเอ่ยขึ้นพรางมองร่างสูงที่ดูเหมือนจะเหนื่อยมากๆนอนซมอยู่บนเตียง ดวงตาหลับพริ้ม
"อืม อาบเผื่อด้วยนะ"
ร่างสูงพูดขึ้น ทั้งที่ดวงตายังปิดสนิท
"จะบ้าเหรอ !"
"ขี้เกียจแล้วอะ เหนื่อย"
"ถ้าไม่อาบน้ำก็ไปนอนนอกห้องเลยนะ เหม็จจะตาย ดูดิเน่าหมดแล้ว"
ร่างบางพูด ขณะใช้นิ้วเรียวยาวจิ้มร่างสูงที่หน้าอก แบบหยอกๆตามประสาคนขี้แกล้ง จนไม่ทันตั้งตัวร่างบางก็โดนร่างสูงดึงแขนเรียวด้วยกำลังไม่มากของร่างสูง ไม่ถึงอึดใจร่างบางก็ลงไปนอนทับร่างสูงที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียงเสียแล้ว
"อะ ! ทำบ้าไรเนี่ยนัท ตกใจหมด"
"คิดถึง.."
"เป็นไรเนี่ยอยู่ด้วยกันทั้งวันมาคิดถึงอะไรกัน บ้าปะ ?"
ร่างบางใช้มือข้างที่ว่างจากการเกราะกุมของร่างสูงทุบหน้าอกร่างสูงเบาๆพรางยันตัวจะลุกขึ้น แต่ก็โดนแรงของร่างสูงรั้งร่างให้ขยับไปไหนไม่ได้อีกตามเคย ร่างบางตอนนี้ก็เลยได้แต่นอนซบหน้าลงบนอกแกร่ง ด้วยแก้มที่ขึ้นสีแดงระเรื่อและหัวใจที่เต้นแรงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
"อยู่ด้วยกันก็จริง แต่ก็ไม่มีโอกาสได้พูดด้วยกันสักครั้งนี่น่า ทำแต่งานๆๆ"
"เฮ้อ...เอาแต่ใจจริงคุณมาเฟีย !"
ร่างบางพูดขึ้นอย่างเหนื่อยๆพรางใช้มือทุบอกร่างแกร่งด้วยแรงที่มีอยู่เกือบจะทั้งหมด แต่มันก็ไม่ทำให้ร่างแกร่งที่ตอนนี้ได้หลับไปแล้วรู้สึกสะทกสะท้านขึ้นมาได้เลยสักนิด
"อ่าว ? หลับไปซะแล้ว ตื่นนะไอ้มาเฟียแล้วจะทำไงนี้ ปล่อยนะ คนจะไปอาบน้ำ !!"
..... ขอโทษนะฉันขออยู่แบบนี้อีกนิดได้ไม แค่อีกนิดเดี๋ยวก็ยังดี มันอาจจะเป็นการทำอะไรที่ดูเหมือนฉวยโอกาส แต่ว่าขอร้องละ แค่ตอนนี้เท่านั้นที่ฉันจะกอดนายได้ .....
เช้าวันจันทร์ ณ ห้อง 047 ในโรแรม SS
"นัทว่าซินมัดผมดีไม ?"
ร่างบางเอ่ยขึ้นขณะกำลังวุ่นอยู่กับการคิดว่าจะปล่อยผมหรือว่าจะมัดดี อยู่หน้ากระจกบานโตตรงโต๊ะเครื่องแป้ง พรางหันมาถามร่างแกร่ง เพราะว่าเขาหาทางออกไม่เจอสักที
"ปล่อย"
"จะดีเหรอ ก็วันนี้แดดร้อนจะตาย"
"เฮ้อ..แล้วจะถามทำไม ?"
ร่างแกร่งมองร่างบางอย่างไม่เข้าใจ ก็ในเมื่อขอความเห็นจากเขาแท้ๆ พอเขาให้ความเห็นก็ไม่ชอบซะงั้น เอาแต่ใจได้น่ารักอะไรแบบนี้น่า คนสวยนิ !
"งั้นมัดก็ได้ ถ้านัทบอกว่าดี ดีไม ?"
ร่างบางหันมายิ้มให้ร่างสูงพร้อมกับยัดเยียดยางมัดผมสีดำสีเดียวกับผมให้กับร่างสูงที่ยื่นมือไปรับไว้อย่างรู้งาน ว่าร่างบางจะให้เขาทำอะไร
"คราวนี้เอาแบบไหนละ ?"
ร่างสูงใช้หวี หวีผมยาวหยักศกที่ยาวระดับกลางหลังของร่างบางอย่างเบามือ พรางเงยหน้าถามความเห็นของร่างบางผ่านทางกระจกเงาที่สะท้อนภาพเขากับร่างบางที่กำลังนั่งทำหน้าครุ่นคิดซะเต็มที่ ราวกับว่าเรื่องที่ถามนั้นเป็นเรื่องคอขาดบาดตายซะจริงๆ
"คิดไม่ออกอะ ? นัทว่าแบบไหนดีซินก็เอาแบบนั้นละกัน"
"เอางั้นก็ จัดไป"
ร่างแกร่งกร้าวผมร่างบางขึ้นแล้วมัดแบบหลวมๆ พร้อมกับปล่อยผมปอยเล็กๆให้คลอที่ข้างแก้ม ดูแล้วออกแนวเซอๆแบบไม่ตั้งใจ ให้เข้ากับผ้าพันคอที่ร่างบางชอบหยิบมาใส่ แบบอากาศร้อนแค่ไหนก็ต้องขาดผ้าพันคอไม่ได้ ช่างแต่งตัวไม่เข้ากับสภาพอากาศเอาซะเลย
"อะ เสร็จแล้วเป็นไงถูกใจไม ?"
"อืม ! ถูกใจมากๆเลย นัทนิเก่งเนอะ"
ร่างบางเอ่ยขึ้นพรางหันไปยิ้มกว้างให้ร่างแกร่งที่อยู่ด้านหลัง
"นี่ถ้าซินไม่มีนัทนะ ต้องแย่แน่เลยละ"
"เออ ? แล้วตอนเรายังไม่ได้เจอกันใครมัดผมให้ซิน หรือว่าจะมัดเอง"
ร่างแกร่งถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะตอนนั้นซินก็ไว้ผมข้อนข้างจะยาวแล้วนะ ตอนที่เจอกันแรกๆ แล้วเขาเองก็เห็นซินมัดผมด้วยละ ตอนนั้น
"ม๊าซินทำให้"
"ออ..งั้นถ้านัทไม่อยู่ซินก็ให้ม๊าทำให้เหมือนเดิมสิ"
"นัททำให้นะดีแล้ว เพราะตอนนี้ซินก็มีนัทอยู่นิ แล้วนัทก็ต้องอยู่เป็นมือกีตาร์ให้ซินตลอดไปด้วยนะ อิอิ"
ร่างบางหันมายิ้มกว้างให้ร่างแกร่ง ก่อนเดินไปเข้าห้องน้ำร่างบางคงไม่ทันได้สังเกดเห็นว่าตอนนี้หน้าของมาเฟียหน้าตายนั้นริมฝีปากของเขาได้ยกยิ้มกว้างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะดีใจกับคำพูดที่ร่างบางพูดไปโดยไม่ได้คิดอะไร เพราะดีใจที่ได้รับคำมั้นว่า เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
"อย่ายิ้มแบบนั้นได้ไม ไอ้มาเฟียพี่ขนลุกวะ !"
พี่เอพูดขึ้นขณะยืนพิงประตูเพราะพี่เอนั้นได้เห็นเหตุการณ์และได้ยินบทสนทนาทั้งหมดเข้าโดยบังเอิญเพราะกะว่าจะเข้ามาปลุกและบอกตารางงาน ก็ดันมาเจอเรื่องน่าขนลุกแต่เช้าเลย ร่างแกร่งหุบยิ้มกว้างทันทีแล้วหันไปมองหน้าพี่เอแบบเคืองๆ นี้ถ้าไม่เห็นว่าเป็นพี่เขากระทืบจมดินไปนานละ
"ไม่ต้องมองหน้าฉันแบบอยากฆ่าทางสายตาได้ปะ ไอ้มาเฟียโรคจิต !"
"โรคจิต ? "
"เออ..ไอ้โรคจิต"
"พี่จะบ้าเหรอ โรคจิตที่ไหนจะหล่อแบบผม"
ร่างแกร่งพูดขึ้นด้วยสีหน้า หน้าตายแบบสุดๆ
"เฮอะ ! ถ้ามั่นใจว่าหล่อแล้วทำไมไม่กล้าทำไรซะทีวะ ?"
"มันไม่เกี่ยวกันสักหน่อย พี่ไม่รู้อะไร..."
"ไม่รู้อะไร ? ฉันเนี่ยนะไม่รู้อะไร แกคิดว่าฉันโง่เหรอไง ถ้าฉันโง่ก็คงไม่มีทางรู้ในสิ่งที่แกรู้สึกหรอกไอ้มาเฟีย"
"ก็ผมกลัวนิพี่ ?"
"กลัว กลัวอะไรวะ ฉันว่าสิ่งที่แกกลัวมาตลอดมันใจแกมากกว่าไอ้มาเฟีย"
คำพูดของพี่เอนั้นเป็นคำพูดที่แทงใจดำร่างแกร่งอย่างมาก ใช่แล้วสิ่งที่เขากลัวก็คือตัวเขาเอง ตัวเขาที่ไม่กล้าแม้แต่ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง ตัวเขาที่ไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึงเรื่องที่จะทำตามใจตัวเองสักครั้ง เพราะเขากลัว กลัวว่าร่างบางจะหายไปถ้ารู้ความจริง กลัวว่าบางทีแม้แต่คำว่าเพื่อนก็จะไม่หลงเหลืออยู่เลย
"ฉันละไม่เข้าใจแกจริงๆวะ รู้สึกยังไงก็พูดไปสิ เก็บเงียบอยู่แบบนี้แกมีความสุขเหรอไง ?"
"......"
"คุยไรกันเหรอ บรรยากาศเครียดจัง ?"
ร่างบางพูดขึ้นหลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำและเจอเข้ากับสถานการ ตึงเครียดแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้เข้า แต่ร่างบางก็ไม่ทันได้ยินว่าทั้งสองคนนั้นคุยเรื่องอะไรกัน
"ออ..พี่แค่ตักเตือนนัทเรื่องข่าวนิดหน่อยนะ ไม่มีอะไร"
พี่เอโกหกคำโตออกไปแบบคิดได้เรื่องไหนก็พูดไปซะก่อนที่ร่างบางจะสงสัยหรือซักไซ้มากกว่านี้
"เอาๆๆ เตรียมตัวกันเสร็จแล้วก็ไปได้แล้วไปเดี๋ยวจะสาย กว่าจะนั่งรถไปถึงกรุงเทพ ก็อีกตั้ง 4 ชั่วโมง"
พี่เอสั่งเสร็จสรรพก็เดินออกไปนอกห้องเพื่อไปดูความเรียบร้อย และทิ้งให้ทั้งสองนั้นได้อยู่ด้วยกันในสถานการที่ดูอึดอัดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
"นัท เป็นอะไรรึเปล่าทำไมหน้าตาดูไม่ดีเลย ?"
"เออ..ไม่เป็นไรหรอกเราไปกันเถอะเดี๋ยวพี่เอจะรอนาน"
"อืม.."
ร่างบางตอบแบบงงๆ พรางมองแผ่นหลังของร่างแกร่งที่ตอนนี้เดินออกจากห้องริ้วไปโน่นแล้ว โดยที่ไม่คิดจะรอเขาที่ตัวเล็กกว่าเลยสักนิด
"อะ ! รอกันบ้างสิคุณมาเฟีย"
ร่างแกร่งลดความเร็วของฝีเท้าลงเพื่อรอร่างบางที่วิ่งด้วยความเร็วที่ดูเหมือนจะสุดๆแล้ว กับความสูงที่น้อยนิด และร่างกายที่บางปานจะปลิวลมซะให้ได้ จะผอมไปไหนเนี่ย
"ชักช้าเดี๋ยวพี่เอก็ไปก่อนหรอก"
"งะ ! พี่เอจะไปก่อนได้ไง ในเมื่อเราสองคนที่เป็นตัวเอกยังไปไม่ถึงเลย"
"คนอย่างพี่เอ คิดเหรอไงว่าเขาจะไม่ทำ ?"
ร่างแกร่งหยุดเดินแล้วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วถามร่างบางด้วยคำถามที่ต้องรู้ๆกันอยู่
"อะ !งั้นซินไปก่อนแล้วนะ บาย !"
"เฮ้ย ! อย่าวิ่งสิเดี๋ยวก็ล้ม"
ร่างแกร่งวิ่งตามร่างบางที่ตอนนี้ชิ่งวิ่งนำหน้าเขาไปซะแล้ว
..... เฮ้อไอ้มาเฟียหน้าตาย เลิกขี้ขลาดแล้ววิ่งตามไปได้แล้ว เรานะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็อยากลองดู อยากลองดูว่าตัวเอง จะมีความกล้าแค่ไหน เอาวะ ! เป็นไงเป็นกัน .....
เอาละคะ !
ตอนนี้เราก็มาเริ่มตอนที่สองกันแล้ว นี่แค่บทนำนะเนี่ย
บทนำของ อันนาไรฟิวร์ มันออกแนวแบบความคิดของ นัทอ่านะ
มันก็เลยออกมาเหนื่อยๆเรื่อยๆหน่อย อยากเขียนตรงนี้ให้ นัทออกแนวความคิดของนัทซะมากกว่า
เพราะว่าเนื้อหาจริงๆมันจะดราม้า และออกแนวเกือบ Sm อิอิ ดูเหมือน อันนาไรฟิวร์ จะเก็บอาการไม่อยู่ซะแล้ว
ยังไงอ่านแล้วก็ช่วยคอมเม้นหน่อยนะคะ เพราะว่าอยากรู้ว่าคนดูอยากให้เนื้อเรื่องออกมาเป็นแบบไหน
เพราะเรื่องนี้อันนาไรฟิวร์นั้น แต่งสดๆตามความคิดกระแสคนอ่านและสภาพอากาศด้วยนะ (เกี่ยวไม ?)
เซอคะเซอ =,,=
ความคิดเห็น