ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic รักได้ไหม...นายเพื่อนสนิท

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 .....

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 54


    'Gray long' Mëlődy

    บทที่ 1




    หนึ่งเดือนก่อนหน้า



    "โอ๊ย !"

        

          
    ร่างสูงที่กำลังนั่งเกากีตาร์อยู่ชะงักมือและหันมามองร่างบางข้างๆที่อยู่ดีๆก็ส่งเสียงร้องขึ้น



    "เป็นไร ซิน ?"

         ร่างสูงวางกีตาร์ตัวโปรดแล้วหันมาถามอย่างเป็นห่วง



    "ออ..กระดาษโน้ตเพลงมันบาดมือนะ"

         ร่างบางหันมาตอบพร้อมกับกุมนิ้วที่ถูกกระดาษเจ้ากรรมบาด



    "ไหนดูสิ ทำยังไงเนี่ยให้กระดาษปาดมือ ทำไมไม่รู้จักระวังบ้างเลยนะ"

         นัทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุๆแบบฉบับซายามาเฟียของตน ร่างสูงจูงมือร่างบางไปทำแผล จัดการฆ่าเชื้อและแปะพราดสเตอร์ให้เป็นที่เรียบร้อย



    "ทีหลังก็ระวังหน่อยละ ช่วงนี้เป็นแผลเยอะเลยนิ อย่ามัวแต่ใจรอยคิดอะไรเรื่อยเปื่อยนักจะได้ไม ?"

         ร่างสูงเอ่ยขึ้นพรางยื่นมือข้างหนึ่งไปลูบผมยาวสวยของร่างบาง ที่หลังๆจะกลายเป็นการขยี้ผมเล่น เพราะหมั่นไส้มากกว่า



    "อย่าสิ ผมเสียทรงหมด อุส่าไปนั่งร้านทำผมตั้งนาน"

         ร่างบางว่าพรางลูบผมตัวเองและจัดทรงไปในตัวป้อยๆ แล้วหันไปมองร่างสูงอย่างค้อนๆ แล้วตบท้ายด้วยการเชิดใส่แบบสวยงามตามแบบฉบับนางฟ้าอีกตามเคย

            

     .... นายจะรู้ไมนะ ว่าการกระทำแบบนั้น มันทำให้ใครบางคนตรงนี้ใจเต้นแค่ไหน อย่าน่ารักให้มันมากนักสินางฟ้า เดี๋ยวมาเฟียคนนี้ก็อดใจไม่ได้เผลอทำเรื่องบ้าๆขึ้นมาจะทำไง ? .....

     

    "นัท..นัท ๆๆ นี่นัท นัท !!"

    "หืม มีไร เรียกเสียงดังเชียวหูจะแตกแล้วเนี่ย ?"

    "ก็นัทอะ ว่าแต่ซินชอบคิดอะไรเรื่อยเปื่อยที่ตัวเองยังทำเลย เห็นไมนี่ให้ซินพูดคนเดียวอยู่ได้ตั้งนาน"

         คนตัวเล็กทำท่าทางงอนๆแบบน่ารักแล้วก็หันมาค้อนใส่เขาซะอย่างนั้น นี่เขาคงต้องง้ออีกตามเคยสินะ นี่ท่าเขางอนบ้างจะมาง้อแบบที่เขาทำอยู่ไมนะ ? จู่ๆความคิดแปลกๆก็ผุดขึ้นมาในใจของร่าสูง นั้นสิ ? ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาเขายังไม่เคยงอนร่างบางเลยนิน่า.....

             

     ..... ไม่ใช่ว่าไม่มีเรื่องให้ต้องงอน แต่บางทีมันอาจเป็นตัวเขาเองก็ได้ อาจเป็นเพราะเขาไม่ใจแข็งพอ ไม่กล้ามากพอที่จะงอนร่างบางก็ได้ นั้นก็เป็นเพราะ เพราะว่าเขา ? .....

     

     

    ณ ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัด กระบี่

         เสียงกรี๊ดจากแฟนคลับสาวๆที่อยู่ในร้านดังขึ้นแบบ คนกรี๊ดคงไม่กลัวว่าคอจะแตกหรือจะแคร์ว่าคนฟังหูจะดับกันไปข้างนึง ที่เป็นแบบนั้นก็เป็นเพราะการมาเยือนของวงน้องใหม่ Singular ที่กำลังดังเป็นพรุแตกที่ในตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเขาทั้งสองคน ซิน นักร้องนำ และนัท มือกีตาร์



    "เอาละคับเพลงต่อไปผมว่าทุกคนคงร้องได้กันนะคับเพราะว่าเพลงนี้เป็นเพลงในซิงเกิลที่สองที่เราได้ปล่อยออกมา ใช่ไมคับคุณนัทคับ"

    "คับผม ไปฟังกันเลยคับ เบา เบา คับ"

         พอพูดจบร่างสูงก็ลงมือใช้ปลายนิ้วดีดกีตาร์คู่ใจจนออกมาเป็นทำนองที่เพราะจับใจ รอไม่นานเสียงร้องใส่ๆของร่างบางก็ดังขึ้น


    "คิดถึงฉันสักครั้งเมื่อไม่ได้คิดถึงใคร

    ทำตัวตามสบายแล้วเจอกันในความฝัน

    มีเวลาดีๆ ก็บอกให้ฉันได้ฟัง

    ไม่มากเกินไปกว่านั้น ค่อยๆรักกัน เบาเบา"

         เสียงที่อ่อนหวานจับใจและใบหน้าคนร้องที่งดงามราวกับรูปปั้น ส่งให้เพลงที่มีความหมายดีๆทำนองเพราะๆและเสียงร้องจับใจ ขับให้เพลง เบาเบา ไม่ได้เบาสมชื่อ



    "วันนี้เหนื่อยหน่อยนะทุกคน"

         เสียงของพี่เอผู้จัดการส่วนตัวของวง Singular ดังขึ้นขณะที่ทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่บนรถตู้ของบบริษัทเพื่อมุ่งหน้าไปที่โรงแรมในตัวเมืองกระบี่ที่พวกเขามาเปิดทัวร์คอนเล็กๆที่นี้



    "ก็นิดหน่อยคับ แต่พอเห็นแฟนคลับนะ ซินนี้หายเหนื่อยเลย"

         ร่างบางเอ่ยขึ้นขณะยิ้มกว้างจนแก้มดูเหมือนจะปริซะให้ได้แล้ว



    "อืม ไม่นึกเลยว่าแม้แต่แฟนคลับที่จังหวัดอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงก็ตามมาด้วยแบบนั้นนะ"

         นัท พูดขึ้นขณะกำลังมองร่างบางที่ตอนนี้ ยิ้มแก้มปริและเหม่อลอยแนวเพ้อฝันไปไกลเต็มทีแล้ว เฮ้อ..ให้มันได้แบบนี้ทุกทีสิน่าไม่ว่าจะขึ้นเวทีกี่ครั้งแต่ร่างบางก็มักจะอดตื่นเต้นไม่ได้ซะทุกครั้งไป จนบางครั้งมันก็ทำให้คนนิ่งๆหน้าตายอย่าเขาพรอยตื่นเต้นไปด้วยซะงั้น ก็นะมันเป็นเอกลักษณ์ ของร่างบางนี่นะ เพราะความคิดแบบนั้นมันเลยพรอยทำให้เสือยิ้มยากแบบเขาแอบอมยิ้มออกมาแบบเงียบๆได้

          พอรถมาจอดอยู่หน้าโรงแรม SS กว่าจะเข้าโรงแรมได้ก็ปาไปเกือบชั่วโมงเพราะว่ามีแฟนคลับที่รู้ตามมาอออยู่หน้าโรงแรมเต็มไปหมด กว่าจะถ่ายรูปแจกลายเซนและปรีกตัวออกมาได้ก็เล่นทำเอาเหงื่อตกกันทั้ง รบพ พนักงานโรงแรม ไปจนถึง ตัวศิลปินเอง

    "ซิน กับ นัท นอนห้องเดียวกันเหมือนเดิมนะ เพราะมันจะได้ง่ายต่อการดูแล แฟนคลับที่มารอก็ไม่มีทีท่าว่าจะลามือง่ายๆด้วยสิ นัทคืนนี้ก็อย่าออกไปเที่ยวไหนละเข้าใจไม ?"

         พี่เอสั่งเสร็จสับก็ล็อคห้องปล่อยให้ซิน นัทได้พักผ่อน พร้อมกับไม่ลืมพูดสั่งตอนท้ายเรื่องนัท ที่ไม่ว่าจะไปทัวร์คอนที่จังหวัดไหนก็ต้องออกไปเที่ยวกลางคืนมันซะทุกงานสิน่า เรื่องข่าวคราวที่แล้วที่เกือบไปมีเรื่องก็ทำเอาถูกเรียกตัวจากผู้ใหญ่ไปต่อว่าซะ คราวนี้เขาที่เป็นถึงผู้จัดการเลยจะยอมใจอ่อนเหมือนทุกครั้งอีกไม่ได้แล้ว


    "คับๆๆๆๆ"

         นัท รับคับพี่ผู้จัดการจอมเผด็จการแบบเหนื่อยๆ พร้อมทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างล้าๆ เพราะว่าวันนี้เจอศึกหนักกันแต่เช้ายังไม่ได้พักกันเลย



    "ซิน ไปอาบน้ำก่อนนะ"

         ร่างบางเอ่ยขึ้นพรางมองร่างสูงที่ดูเหมือนจะเหนื่อยมากๆนอนซมอยู่บนเตียง ดวงตาหลับพริ้ม



    "อืม อาบเผื่อด้วยนะ"

         ร่างสูงพูดขึ้น ทั้งที่ดวงตายังปิดสนิท



    "จะบ้าเหรอ !"

    "ขี้เกียจแล้วอะ เหนื่อย"

    "ถ้าไม่อาบน้ำก็ไปนอนนอกห้องเลยนะ เหม็จจะตาย ดูดิเน่าหมดแล้ว"

         ร่างบางพูด ขณะใช้นิ้วเรียวยาวจิ้มร่างสูงที่หน้าอก แบบหยอกๆตามประสาคนขี้แกล้ง จนไม่ทันตั้งตัวร่างบางก็โดนร่างสูงดึงแขนเรียวด้วยกำลังไม่มากของร่างสูง  ไม่ถึงอึดใจร่างบางก็ลงไปนอนทับร่างสูงที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียงเสียแล้ว


    "อะ ! ทำบ้าไรเนี่ยนัท ตกใจหมด"

    "คิดถึง.."

    "เป็นไรเนี่ยอยู่ด้วยกันทั้งวันมาคิดถึงอะไรกัน บ้าปะ ?"

         ร่างบางใช้มือข้างที่ว่างจากการเกราะกุมของร่างสูงทุบหน้าอกร่างสูงเบาๆพรางยันตัวจะลุกขึ้น แต่ก็โดนแรงของร่างสูงรั้งร่างให้ขยับไปไหนไม่ได้อีกตามเคย ร่างบางตอนนี้ก็เลยได้แต่นอนซบหน้าลงบนอกแกร่ง ด้วยแก้มที่ขึ้นสีแดงระเรื่อและหัวใจที่เต้นแรงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้


    "อยู่ด้วยกันก็จริง แต่ก็ไม่มีโอกาสได้พูดด้วยกันสักครั้งนี่น่า ทำแต่งานๆๆ"


    "เฮ้อ...เอาแต่ใจจริงคุณมาเฟีย !"

         ร่างบางพูดขึ้นอย่างเหนื่อยๆพรางใช้มือทุบอกร่างแกร่งด้วยแรงที่มีอยู่เกือบจะทั้งหมด แต่มันก็ไม่ทำให้ร่างแกร่งที่ตอนนี้ได้หลับไปแล้วรู้สึกสะทกสะท้านขึ้นมาได้เลยสักนิด

    "อ่าว ? หลับไปซะแล้ว ตื่นนะไอ้มาเฟียแล้วจะทำไงนี้ ปล่อยนะ คนจะไปอาบน้ำ !!"

              

    ..... ขอโทษนะฉันขออยู่แบบนี้อีกนิดได้ไม แค่อีกนิดเดี๋ยวก็ยังดี มันอาจจะเป็นการทำอะไรที่ดูเหมือนฉวยโอกาส แต่ว่าขอร้องละ แค่ตอนนี้เท่านั้นที่ฉันจะกอดนายได้ .....

     

     

    เช้าวันจันทร์ ณ ห้อง 047 ในโรแรม SS


    "นัทว่าซินมัดผมดีไม ?"

         ร่างบางเอ่ยขึ้นขณะกำลังวุ่นอยู่กับการคิดว่าจะปล่อยผมหรือว่าจะมัดดี อยู่หน้ากระจกบานโตตรงโต๊ะเครื่องแป้ง พรางหันมาถามร่างแกร่ง เพราะว่าเขาหาทางออกไม่เจอสักที


    "ปล่อย"


    "จะดีเหรอ ก็วันนี้แดดร้อนจะตาย"


    "เฮ้อ..แล้วจะถามทำไม ?"

         ร่างแกร่งมองร่างบางอย่างไม่เข้าใจ ก็ในเมื่อขอความเห็นจากเขาแท้ๆ พอเขาให้ความเห็นก็ไม่ชอบซะงั้น เอาแต่ใจได้น่ารักอะไรแบบนี้น่า คนสวยนิ !


    "งั้นมัดก็ได้ ถ้านัทบอกว่าดี ดีไม ?"

         ร่างบางหันมายิ้มให้ร่างสูงพร้อมกับยัดเยียดยางมัดผมสีดำสีเดียวกับผมให้กับร่างสูงที่ยื่นมือไปรับไว้อย่างรู้งาน ว่าร่างบางจะให้เขาทำอะไร


    "คราวนี้เอาแบบไหนละ ?"

         ร่างสูงใช้หวี หวีผมยาวหยักศกที่ยาวระดับกลางหลังของร่างบางอย่างเบามือ พรางเงยหน้าถามความเห็นของร่างบางผ่านทางกระจกเงาที่สะท้อนภาพเขากับร่างบางที่กำลังนั่งทำหน้าครุ่นคิดซะเต็มที่ ราวกับว่าเรื่องที่ถามนั้นเป็นเรื่องคอขาดบาดตายซะจริงๆ


    "คิดไม่ออกอะ ? นัทว่าแบบไหนดีซินก็เอาแบบนั้นละกัน"


    "เอางั้นก็ จัดไป
    "

         ร่างแกร่งกร้าวผมร่างบางขึ้นแล้วมัดแบบหลวมๆ พร้อมกับปล่อยผมปอยเล็กๆให้คลอที่ข้างแก้ม ดูแล้วออกแนวเซอๆแบบไม่ตั้งใจ ให้เข้ากับผ้าพันคอที่ร่างบางชอบหยิบมาใส่ แบบอากาศร้อนแค่ไหนก็ต้องขาดผ้าพันคอไม่ได้ ช่างแต่งตัวไม่เข้ากับสภาพอากาศเอาซะเลย


    "อะ เสร็จแล้วเป็นไงถูกใจไม ?"


    "อืม ! ถูกใจมากๆเลย นัทนิเก่งเนอะ"

         ร่างบางเอ่ยขึ้นพรางหันไปยิ้มกว้างให้ร่างแกร่งที่อยู่ด้านหลัง


    "นี่ถ้าซินไม่มีนัทนะ ต้องแย่แน่เลยละ"


    "เออ ? แล้วตอนเรายังไม่ได้เจอกันใครมัดผมให้ซิน หรือว่าจะมัดเอง"

         ร่างแกร่งถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะตอนนั้นซินก็ไว้ผมข้อนข้างจะยาวแล้วนะ ตอนที่เจอกันแรกๆ แล้วเขาเองก็เห็นซินมัดผมด้วยละ ตอนนั้น


    "ม๊าซินทำให้"


    "ออ..งั้นถ้านัทไม่อยู่ซินก็ให้ม๊าทำให้เหมือนเดิมสิ"


    "นัททำให้นะดีแล้ว เพราะตอนนี้ซินก็มีนัทอยู่นิ แล้วนัทก็ต้องอยู่เป็นมือกีตาร์ให้ซินตลอดไปด้วยนะ อิอิ"

         ร่างบางหันมายิ้มกว้างให้ร่างแกร่ง ก่อนเดินไปเข้าห้องน้ำร่างบางคงไม่ทันได้สังเกดเห็นว่าตอนนี้หน้าของมาเฟียหน้าตายนั้นริมฝีปากของเขาได้ยกยิ้มกว้างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะดีใจกับคำพูดที่ร่างบางพูดไปโดยไม่ได้คิดอะไร เพราะดีใจที่ได้รับคำมั้นว่า เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป


    "อย่ายิ้มแบบนั้นได้ไม ไอ้มาเฟียพี่ขนลุกวะ !"

         พี่เอพูดขึ้นขณะยืนพิงประตูเพราะพี่เอนั้นได้เห็นเหตุการณ์และได้ยินบทสนทนาทั้งหมดเข้าโดยบังเอิญเพราะกะว่าจะเข้ามาปลุกและบอกตารางงาน ก็ดันมาเจอเรื่องน่าขนลุกแต่เช้าเลย ร่างแกร่งหุบยิ้มกว้างทันทีแล้วหันไปมองหน้าพี่เอแบบเคืองๆ นี้ถ้าไม่เห็นว่าเป็นพี่เขากระทืบจมดินไปนานละ


    "ไม่ต้องมองหน้าฉันแบบอยากฆ่าทางสายตาได้ปะ ไอ้มาเฟียโรคจิต !"


    "โรคจิต ? "


    "เออ..ไอ้โรคจิต"


    "พี่จะบ้าเหรอ โรคจิตที่ไหนจะหล่อแบบผม"

        ร่างแกร่งพูดขึ้นด้วยสีหน้า หน้าตายแบบสุดๆ


    "เฮอะ ! ถ้ามั่นใจว่าหล่อแล้วทำไมไม่กล้าทำไรซะทีวะ ?"


    "มันไม่เกี่ยวกันสักหน่อย พี่ไม่รู้อะไร..."


    "ไม่รู้อะไร ? ฉันเนี่ยนะไม่รู้อะไร แกคิดว่าฉันโง่เหรอไง ถ้าฉันโง่ก็คงไม่มีทางรู้ในสิ่งที่แกรู้สึกหรอกไอ้มาเฟีย"


    "ก็ผมกลัวนิพี่ ?"


    "กลัว กลัวอะไรวะ ฉันว่าสิ่งที่แกกลัวมาตลอดมันใจแกมากกว่าไอ้มาเฟีย"

         คำพูดของพี่เอนั้นเป็นคำพูดที่แทงใจดำร่างแกร่งอย่างมาก ใช่แล้วสิ่งที่เขากลัวก็คือตัวเขาเอง ตัวเขาที่ไม่กล้าแม้แต่ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง ตัวเขาที่ไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึงเรื่องที่จะทำตามใจตัวเองสักครั้ง เพราะเขากลัว กลัวว่าร่างบางจะหายไปถ้ารู้ความจริง กลัวว่าบางทีแม้แต่คำว่าเพื่อนก็จะไม่หลงเหลืออยู่เลย


    "ฉันละไม่เข้าใจแกจริงๆวะ รู้สึกยังไงก็พูดไปสิ เก็บเงียบอยู่แบบนี้แกมีความสุขเหรอไง ?"


    "......"


    "คุยไรกันเหรอ บรรยากาศเครียดจัง ?"

         ร่างบางพูดขึ้นหลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำและเจอเข้ากับสถานการ ตึงเครียดแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้เข้า แต่ร่างบางก็ไม่ทันได้ยินว่าทั้งสองคนนั้นคุยเรื่องอะไรกัน


    "ออ..พี่แค่ตักเตือนนัทเรื่องข่าวนิดหน่อยนะ ไม่มีอะไร"

         พี่เอโกหกคำโตออกไปแบบคิดได้เรื่องไหนก็พูดไปซะก่อนที่ร่างบางจะสงสัยหรือซักไซ้มากกว่านี้ 


    "เอาๆๆ เตรียมตัวกันเสร็จแล้วก็ไปได้แล้วไปเดี๋ยวจะสาย กว่าจะนั่งรถไปถึงกรุงเทพ ก็อีกตั้ง 4 ชั่วโมง"

         พี่เอสั่งเสร็จสรรพก็เดินออกไปนอกห้องเพื่อไปดูความเรียบร้อย และทิ้งให้ทั้งสองนั้นได้อยู่ด้วยกันในสถานการที่ดูอึดอัดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้


    "นัท เป็นอะไรรึเปล่าทำไมหน้าตาดูไม่ดีเลย ?"


    "เออ..ไม่เป็นไรหรอกเราไปกันเถอะเดี๋ยวพี่เอจะรอนาน"


    "อืม.."

         ร่างบางตอบแบบงงๆ พรางมองแผ่นหลังของร่างแกร่งที่ตอนนี้เดินออกจากห้องริ้วไปโน่นแล้ว โดยที่ไม่คิดจะรอเขาที่ตัวเล็กกว่าเลยสักนิด


    "อะ ! รอกันบ้างสิคุณมาเฟีย"

         ร่างแกร่งลดความเร็วของฝีเท้าลงเพื่อรอร่างบางที่วิ่งด้วยความเร็วที่ดูเหมือนจะสุดๆแล้ว กับความสูงที่น้อยนิด และร่างกายที่บางปานจะปลิวลมซะให้ได้ จะผอมไปไหนเนี่ย


    "ชักช้าเดี๋ยวพี่เอก็ไปก่อนหรอก"


    "งะ ! พี่เอจะไปก่อนได้ไง ในเมื่อเราสองคนที่เป็นตัวเอกยังไปไม่ถึงเลย"


    "คนอย่างพี่เอ คิดเหรอไงว่าเขาจะไม่ทำ ?"

         ร่างแกร่งหยุดเดินแล้วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วถามร่างบางด้วยคำถามที่ต้องรู้ๆกันอยู่


    "อะ !งั้นซินไปก่อนแล้วนะ บาย !"


    "เฮ้ย ! อย่าวิ่งสิเดี๋ยวก็ล้ม"

         ร่างแกร่งวิ่งตามร่างบางที่ตอนนี้ชิ่งวิ่งนำหน้าเขาไปซะแล้ว

              ..... เฮ้อไอ้มาเฟียหน้าตาย เลิกขี้ขลาดแล้ววิ่งตามไปได้แล้ว เรานะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็อยากลองดู อยากลองดูว่าตัวเอง จะมีความกล้าแค่ไหน เอาวะ ! เป็นไงเป็นกัน .....

     

     

     

     

     

      

     เอาละคะ !

    ตอนนี้เราก็มาเริ่มตอนที่สองกันแล้ว นี่แค่บทนำนะเนี่ย

    บทนำของ อันนาไรฟิวร์ มันออกแนวแบบความคิดของ นัทอ่านะ

    มันก็เลยออกมาเหนื่อยๆเรื่อยๆหน่อย อยากเขียนตรงนี้ให้ นัทออกแนวความคิดของนัทซะมากกว่า

    เพราะว่าเนื้อหาจริงๆมันจะดราม้า และออกแนวเกือบ Sm อิอิ ดูเหมือน อันนาไรฟิวร์ จะเก็บอาการไม่อยู่ซะแล้ว

    ยังไงอ่านแล้วก็ช่วยคอมเม้นหน่อยนะคะ เพราะว่าอยากรู้ว่าคนดูอยากให้เนื้อเรื่องออกมาเป็นแบบไหน

    เพราะเรื่องนี้อันนาไรฟิวร์นั้น แต่งสดๆตามความคิดกระแสคนอ่านและสภาพอากาศด้วยนะ (เกี่ยวไม ?)

     

     

     

    เซอคะเซอ =,,=


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×