ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SMS] Halloween Event

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5 - - END --

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 55


    30 ตุลาคม.....

    “ นี่ เคยได้ยินข่าวลืออะไรแปลกๆบ้างไหม” ลูกค้าขาประจำของร้านขายของชำในหมู่บ้านกล่าวให้เจ้าของร้านผู้เป็นชายวัยกลางคนฟัง

    “ทำไมเหรอครับ?” ชายหนุ่มย้อนถาม

    “ข่าวลือที่ว่า โบสถ์เก่าในป่านะ มีปิศาจสิงอยู่น่ะสิ”

    “เอ๋?”

    “แล้วก็นะ บาทหลวงที่นั่นน่ะ เป็นคนเลี้ยงปิศาจเอาไว้ด้วยล่ะ”

    บทสนทนาถึงเรื่องชวนขนหัวลุกต้องสิ้นสุดลง เมื่อร่างบางของใครบางคนเดินก้าวเข้ามาในร้าน

    “ อ๊ะ ท่านบาทหลวง สบายดีหรือครับ?” เจ้าของร้านทักขึ้น แล้วแสร้งทำเหมือนกับว่าบทสนทนาเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น

    “สบายดีครับ พวกท่านล่ะ” เอแคลร์ยิ้ม

    “ ก็เรื่อยๆนะครับ ช่วงนี้เศรษฐกิจมันก็ไม่ได้แบบนี้แหละ” เจ้าของร้านตอบ

    “เอ..หมู่นี้เหมือนว่าท่านมีนักเดินทางแวะมาหรือคะ ซื้อของไปเยอะกว่าเมื่อก่อนอีก?”หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามขณะที่กำลังทำความสะอาดพื้นร้านอยู่

    เด็กหนุ่มชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะตอบออกมาเบาๆว่า

    “ก็ไม่เชิงหรอกครับ..” แต่หารู้ไม่ว่ายิ่งเป็นการเพิ่มพูนความสงสัยจากชาวบ้านให้มากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว

    พอผู้เป็นบาทหลวงเดินอออกจากร้านไป บทสนทนาก็เริ่มเต้นขึ้นอีกครั้ง

    “น่าสงสัยจริงๆ”

    “ งั้นก็แอบตามไปพิสูจน์ซะเลยไหมละ?” ใครบางคนเสนอขึ้นมา

    “ นั่นสินะ....”

    ....

    ..

    “โอ้ เอ่เอ๊ กลับมาแล้วเหรอ?” จูเลียตเอ่ยทัก พลางห้อยหัวลงมาจากต้นไม้ใหญ่

    “ขึ้นไปทำอะไรบนนั้นกันครับ..” เอแคลร์ถาม

    “สังเกตการณ์อะไรนิดหน่อย” จูเลียตตอบอย่างอารมณ์ดี

    “แล้ว..โรมิโอล่ะครับ” ไม่ทันขาดครับร่างสูงโปร่งของบุคคลที่กำลังถามถึงก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้

    “เอ่เอ๊คิดถึงผมหรอครับเนี่ย..” โรมิโอแหย่บาทหลวงคนสวยเล่น

    “ป...เปล่าสักหน่อยนะครับ” แก้มเนียนแดงระเรื่อขึ้นมาเสียดื้อๆ เห็นแล้วยิ่งน่ารัก น่าแกล้งเข้าไปใหญ่

    “ เฮ้ๆ คิดถึงฉันด้วยสิ” จูเลียตกระโดดลงมาจากต้นไม้ก่อนจะเข้าไปกอดร่างเล็กที่หน้าแดงเป็นมะเขือเทศสุก

    “ครับๆ เอาเป็นว่าก็คิดถึงทั้งคู่นั่นแหละครับ” เอแคลร์ตัดบทแก้อาการเขิน พร้อมสองปิศาจหนุ่มที่เข้ามากอดนัวเนียเหมือนกับเด็กๆ

    สักพักใบหน้าสวยหวานก็แสดงอาการกังวลปรากฏออกมาให้ได้เห็น ทำให้ทั้งคู่อดสงสัยไม่ได้

    “มีอะไรเหรอ เอ่เอ๊?”

    “...เปล่าครับ แค่ช่วงนี้ในหมู่บ้านมีข่าวลือไม่ค่อยดีเกี่ยวกับที่นี่สักเท่าไหร่..”

    “ข่าวลืออะไรงั้นเหรอครับ?” โรมิโอถาม

    “อ่า..ช่างมันเถอะ วันนี้วันเกิดพวกท่านนี้ อย่าพูดเรื่องแย่ๆกันเลยเนอะ” เอแคลร์ฝืนยิ้มบางๆให้คนทั้งคู่ แต่ก็ไม่สามารถตบตาปิศาจทั้งสองได้

    ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าของผู้คนจำนวนมากก็ดังไล่ขึ้นมาเรื่อยๆอย่างไม่คาดคิดมาก่อน ยิ่งทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกตกใจและกระวนกระวายไปมากกว่าเก่า

    ซึ่งดูเหมือนว่า แม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถร้องขออธิษฐานอะไรได้อีกแล้ว..

    “นั่นไงล่ะ!! จับตัวมันไว้ บาทหลวงคนนั้นเลี้ยงปิศาจอยู่จริงๆด้วย!!” เสียงหนึ่งดังขึ้นมา เมื่อหันไปก็พบกับชาวบ้านจำนวนมากที่ถืออาวุธมาด้วย พร้อมกับบาทหลวงที่เป็นบาทหลวงของโบสถ์ในหมู่บ้าน

    “ หึ คิดถูกแล้วสินะที่แอบตามมันมา!!

    “อ..อะไรกันน่ะ? พวกท่าน” เอแคลร์ประหลาดใจอยู่ไม่น้อย และนึกโทษตัวเองที่ปล่อยให้พวกชาวบ้านตามมาจนถึงที่นี่

    “ แต่ว่าปิศาจพวกนี้ไม่ได้ทำร้ายใครนะ! ได้โปรดฟังก่อนเถอะ!!

    “หุบปาก! เอ้า พวกแกมัวทำอะไรอยู่เล่า!! จับตัวบาทหลวงคนนั้นไว้สิ!” ฉับพลันชาวบ้านจำนวนมากกรูเข้ามารวบตัวร่างบางไว้แต่ทว่ากลับถูกพลังของปิศาจผลักออกไป

    “อย่ามาแตะต้องของๆเรานะ!!” เสียงทุ้มตวาด

    “หึ อ๋อ..ที่แท้ก็พวกบาปที่คิดต่อต้านพระเจ้ากันทั้งนั้น งั้นก็จงรับบทลงโทษจากพระเจ้าไปซะเถอะ!” หัวหน้าหมู่บ้านพูดขึ้น ก่อนที่เสียงบทสวดจากเหล่าบาทหลวงและซิสเตอร์จะดังกังวาลขึ้น แล่นเข้าสู่โสตประสาทของปิศาจฝาแฝดทั้งสอง จนปวดหัวอื้อไปหมด พร้อมกับชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่มุ่งเข้ามาจับตัวบาทหลวงหนุ่มเอาไว้

    “นี่!! พวกท่าน!! ขอร้องล่ะ อย่าทำอะไรพวกเขาเลยนะ!! พวกเขาไม่ใช่ปิศาจที่เลวร้ายนะ!!” ร่างบางดิ้นรนหวังให้หลุดพ้นจากการจับกุม แต่ทว่าก็ไร้ผล

    “เงียบน่า! เจ้าน่ะไม่ใช่บาทหลวงอีกแล้ว! เป็นแค่คนต่ำช้าที่เป็นทาสของพวกปิศาจชั้นต่ำนี่เท่านั้นแหละ!!” เสียงแหบห้าวตวาดใส่เด็กหนุ่ม พร้อมกับแรงฟาดจากฝ่ามือลงเข้าที่ใบหน้าอย่างไม่ปรานี ก่อนจะตามมาด้วยน้ำเสียงสะใจอย่างถึงที่สุดว่า

    “อย่างเจ้าอสูรร้ายพวกนั้นนะ ต้องถูกจับตรึงไว้กับกางเขนศักดิ์สิทธิ์ ส่วนเจ้า..!! มนุษย์โสโครก ต้องได้รับโทษอย่างสาสม!!

    ดวงตาสีอัญมณีเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจสุดขีดเมื่อเห็นร่างที่คุ้นตาของบุคคลทั้งสองที่อยู่ตรงหน้า ถึงจับตรึงไว้กับกางเขนใหญ่

    “ ไม่!! จะทำอะไรผมก็ได้ แต่ปล่อยพวกเขาไปเถอะ!! ขอร้องล่ะครับ!!” เสียงเล็กร้องตะโกนขอความเห็นใจอย่างสุดชีวิต

    “หุบปากซะ!!” พลั่วขนาดใหญ่ทุบลงที่ศรีษะบางจนของเหลวสีแดงสดไหลย้อมจากศรีษะลงสู่ใบหน้าขาวนวลเนียนของผู้ถูกกระทำ แต่ทว่าเจ้าตัวก็ยังไม่ยอมหมดฤทธิ์เสียง่ายๆ พยายามดิ้นให้หลุดพ้นจากพันธการที่เกาะกุม

    โรมิโอและจูเลียตพยายามหาทางให้หลุดพ้นจากกางเขนที่ถูกตรึงอยู่ ยิ่งเห็นคนตรงหน้าถูกทำร้าย ยิ่งทำให้รู้สึกคลั่งจนแทบบ้า

    “เก่งนักนะแก!!”  มือหยาบกระชากกลุ่มผมสีกาแฟขึ้นมาอย่างไม่ปราณี ดวงหน้าหวานถูกจับให้เงยขึ้น ก่อนที่ริมฝีปากบางจะถูกบังคับให้เปิดออก

    ของเหลวสีประหลาดถูกกรอกลงไป ในโพรงปากเล็กอย่างไม่ขาดสาย แม้เจ้าตัวจะสำลักมันออกมาเพียงใดก็ตาม

    “กลืนมันลงไปสิ กลืนให้หมด!!” ชายวัยกลางคนตวาด ราวกับสั่งนักโทษ

    ยาพิษถูกกรอกลงไปให้เอแคลร์ดื่มจนหมดขวด ไม่นานนักร่างบางที่ไร้แรงต่อต้าน ล้มฟุบลงไปกับพื้นหญ้า และสำลักไอออกมาไม่หยุด จนของเหลวสีแดงสดทะลักออกมาจากริมฝีปากบางที่ซีดเซียว

    พระเจ้า ท่านยังมีอยู่จริงหรือไม่

    ท่านเคยรับฟังคำขอจากข้าหรือไม่

    ...

    เสียงเล็กๆจากตัวข้า..

    มนุษย์ธรรมดาที่ไร้ซึ่งอำนาจวิเศษ

    มนุษย์ธรรมดาที่ไร้ซึ่งพลังอันแข็งแกร่ง

    มนุษย์ธรรมที่แค่หวังอยากจะมีชีวิตที่มีความสุข

    ..

    ท่านมอบปิศาจสองตนให้ข้า

    สอนให้หัวใจของข้าได้เรียนรู้และลุ่มหลงในความรักที่ผิดบาป

    ..

    แล้วลงทัณฑ์ให้ข้าได้พบเจอกับความปวดร้าวทรมาณเช่นนี้น่ะหรือ

    ...นี่หรือ...

    สิ่งที่ใครต่อใครเรียกมันว่า
    “โชคชะตา”

     

    เหตุการณ์เหล่านั้นอยู่ในสายตาของปิศาจทั้งคู่ตลอดเวลา

    และพวกเขา..กำลังจะบ้าคลั่ง

    “นี่ สัญญาได้ไหม?”

    “หืม..?”

    “สัญญาได้ไหมว่าพวกนายจะไม่ทำร้ายใครอีก..”

    ขอโทษทีนะ..แต่พวกเราคงรักษาสัญญานั่นไม่ได้แล้วล่ะ

    โซ่ตรวนที่ใช้พันธนาการปิศาจทั้งสองขาดสะบั้นลง ความเจ็บปวดที่ได้รับจากกางเขนศักดิ์สิทธิ์ ไม่เท่ากับความเจ็บปวดในสิ่งที่เรียกว่า หัวใจ ที่ไม่อาจปกป้องสิ่งที่ตนรักได้

    หายไปซะ.. หายไปซะให้หมด!!

     

    เลือดคาวคลุ้งจากกายของคนหมู่มาก สาดกระจายไปทั่วบริเวณ ราวกับฝันร้ายที่หวนย้อนมาอีกครั้ง ในอดีตเรื่องทำนองนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อน...ใช่ไหมนะ?

    ต้องสังหารคนเท่าไหร่ ต้องเจ็บปวดอีกแค่ไหน จึงจะสงบสุขเสียที ชีวิตแบบนี้ ไม่ได้น่าอิจฉาหรอกนะ..เอแคลร์

     

     
     

    สายฝนโปรยปรายลงมาท่ามกลางบรรยากาศอึมครึม กลิ่นคาวคละคลุ้งของเลือดสดๆลอยอบอวลอยู่ในอากาศ

    มัน..จบแล้วรึยังนะ

    ม่านฝนที่ปกคลุม ทำให้เห็นทิวทัศน์ได้เพียงจางๆ แต่ก็ไม่ยากนักต่อการมองเห็น และ

    ภาพที่ปรากฏตรงหน้านอกจากศพของชาวบ้านนับสิบ ก็คือ..ร่างของใครบางคนที่นอนแน่นิ่งอยู่...ท่ามกลางหยาดฝนนับพันเม็ด ...เอแคลร์...

    ร่างสูงโปร่งทั้งสองรีบเข้าไปพยุงบุคคลที่เห็นตรงหน้าทันที

    “นี่..นี่..ลืมตาขึ้นมาสิ!” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างตื่นตระหนก

    “ได้ยินเรารึเปล่า!” เหมือนกับว่าร่างเล็กยังคงมีการตอบสนอง เปลือกตานวลค่อยๆลืมตาขึ้นมา ดวงตาสีประหลาดไม่สดใสดั่งแต่ก่อน มันขุ่นมัวจนน่าใจหาย

    ลมหายใจที่โรยริน เสียงกระซิบแผ่วเบาที่จับความได้ลางๆจากริมฝีปากบางที่ซีดเซียวว่า

    “ขอโทษครับ..”

    “อย่าพูดแบบนั้นสิครับ..” โรมิโอบอกพร้อมประคองคนในอ้อมแขนขึ้นมา

    “ไม่เป็นไรนะ..พวกเราจะทำให้เป็นปิศาจเอาไหม ?” จูเลียตเสนอ ใบหน้าหล่อเหลาของปิศาจทั้งสอง ซีดลงกว่าเดิมนิดหน่อย

    ใบหน้าหวานยิ้มบางๆก่อนจะส่ายหน้า ดีใจนิดๆที่ได้เห็นสีหน้าอื่นบ้างเสียที..

    “ผมเคยบอกแล้วนี่ครับ..ว่าผมเกิดเป็นมนุษย์...ก็ต้องตายในฐานะมนุษย์สิ” เอแคลร์บอกด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา กายบางเริ่มเย็นเฉียบ เปลือกตาบางที่หนักอึ้ง และความอุ่นจากโลหิตที่ไหลชโลม

    “แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น..จะตายเอานะครับ” แวมไพร์หนุ่มบอก

    แม้จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันถึงชีวิตขนาดไหน แต่ดูเหมือนร่างเล็กจะไม่ได้สนใจมันเลยแม้แต่นิด

    “ แค่นี้ก็ดีแล้วล่ะครับ..ผม...ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับ..” ริมฝีปากบางยังคงยิ้ม หยดน้ำใสที่ไหลรินลงจากดูตาคู่สวย ถูกกลืนไปกับสายฝน ความเย็นที่แผ่กว้างยากที่จะยื้อเอาไว้

    “ พวกเราจะหาวิธีรักษานะ แข็งใจไว้หน่อยสิ..เอแคลร์!! ได้ยินรึเปล่า!” จูเลียตยิ่งตื่นตระหนกเมื่อเห็นเปลือกตานวลค่อยๆปิดลง

    “สุขสันต์วันเกิดนะครับ..” เด็กหนุ่มยิ้มบางๆ น้ำเสียงจากประโยค สุดท้ายเบาหวิวจนใจหาย ก่อนที่ร่างเล็กจะแน่นิ่งและไม่มีการตอบสนองใดๆอีก

     ราวกับหัวใจจะหยุดเต้น และโลกทั้งใบจะหยุดหมุนตามไปด้วย ภาพที่เห็นตรงหน้าเหลือเพียงแต่ร่างที่ไร้วิญญาณของคนที่คุ้นเคย ไร้ซึ่งลมหายใจ ไร้ซึ่งการตอบรับใดๆอีก

    เสียงที่เคยได้ยินก็ไม่อาจจะได้ยินมันอีกครั้ง.. ไม่มีสัมผัสจากมืออุ่น ไม่มีอ้อมกอด ไม่มี...อยู่บนโลกนี้อีกแล้ว..

    หยดน้ำตาไหลรินลงมาจากดวงตาสีอัญมณี..ทั้งสองคู่อย่างไม่รู้ตัว

    เสียงสายฝนที่โปรยปรายปิดกั้นซึ่งเสียงร่ำไห้ เศร้าครวญของปิศาจทั้งสอง

    หนึ่งความรักที่เสียไป หนึ่งสิ่งสำคัญที่ปกป้องไม่ได้..

    ใครเล่าจะรู้ ว่าปิศาจที่ถูกตราหน้าว่าต่ำช้า ก็ล้วนมีความรักได้..

    แค่คำว่ารัก ที่เคยอยากจะเอื้อนเอ่ยให้อีกฝ่ายได้ยิน..

    แต่ก็ไม่มีทางที่จะได้พูดมันอีก..ไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะได้รับรู้ไป..ตลอดกาล...

     

     

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ตำนานของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง...

    ลึกเข้าไป ในป่าลึก..ที่ไร้ซึ่งถนนหนทาง และแสงไฟ

    มีโบสถ์เก่าแก่ที่เป็นสถานที่ที่บาทหลวงซาตานอาศัยอยู่

    บาทหลวงผู้ชั่วร้ายที่เป็นทาสของแม่มด  บาทหลวงผู้ชั่วร้ายที่ชุบเลี้ยงปิศาจเอาไว้

    และสองปิศาจที่ใครๆต่างพากันตราหน้าว่า..

    เป็นอสูรกายร้าย ที่แสนต่ำช้าและมืดดำ...

    เวลาผ่านไป

    บาทหลวงต่ำช้าถูกพระเจ้าทอดทิ้งและได้รับโทษทัณฑ์จนสิ้นชีวิต

    แลกด้วยการสังเวยชีวิตของคนหมู่บ้านด้วยน้ำมือของปิศาจร้าย

    เสียงร่ำไห้ที่เป็นดั่งคำสาปยามฝนโปรย

    โบสถ์ร้างที่เป็นดั่งสถานต้องห้าม

    ว่ากันว่า

    คือตัวแทนของตำนานที่แสนเลวร้ายของบาทหลวงและซาตาน

    ...

    นั่นคือสิ่งที่คนรุ่นหลังเล่าขานสืบต่อกันมา....ในอีกมุมมองที่ต่างออกไป...



     

    :) Shalunla




    MusicPlaylist
    Music Playlist at MixPod.com
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×