ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~can you remember me~

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่1 ความทรงของเธอคนนี้

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 49


                ฉันชื่อ ข้าวฟ่าง เป็นคนธรรมดาที่มีความทรงจำที่ไม่อยากจำ เพราะฉันต้องพลัดพรากจากเพื่อนสนิท คนหนึ่งเขาชื่อว่า ไวท์ เขาไปเพื่อนกับฉันตั้งเด็กอายุ 3-4 ขวบ พอดีบ้านเราอยู่ใกล้กันพ่อแม่ของเราทั้ง 2 จึงเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทกัน พ่อของฉันชื่อ กิต ส่วนแม่ฉันชื่อ ดวง มีธรุกิจโรงแรมของตัวเองตั้งอยู่หัวหิน แล้วพ่อแม่ของไวท์ชื่อ ลุง ฉัตรทำงานเป็นทูตในกับ ป้า เนตร ซึ่งเป็นแม่บ้าน พ่อของเราสนิทกันมากจึงทำให้เราทั้ง 2 คิดว่าเหมือนมีพ่อ2 คน แม่ 2 คน เราเรียนโรงเรียนเดียวกันตั้งแต่เด็ก ไวท์เป็นคนน่ารัก อ่อนหวาน สุภาพ ในสายตาฉัน ทำให้ฉันมีความรู้สึกเกินกว่าคำว่าเพื่อน แต่ฉันไม่เคยบอกให้ไวท์ได้รู้เลย โรงเรียนของพวกเราเป็น โรงเรียน อินเตอร์ อยู่ในย่านตัวเมือง กลุ่มของพวกเรามีกันอยู่ 6 คนคือฉันไวท์ แพรว ขิม ซัน พาร์ค เราทั้ง 6 เป็นเพื่อนรักเพื่อนตายไปไหนไปด้วยกันตลอด แต่แล้ววันที่เราทั้ง 2 อายุได้ 17 ปี ก็มีเหตุที่ฉันกับไวท์ต้องจากกัน เพราะไวท์ต้องย้ายไปอยู่อเมริกา เพราะพ่อของไวท์เป็นทูตต้องย้ายไปประจำอยู่ที่ อเมริกา แระเรื่องนี้ก็รู้ไปถึงกลุ่มเพื่อนของฉัน พวกเพื่อนโทรมาลาไวท์กันยกใหญ่ พูดทำนองว่าไปแล้วอย่าลืมกัน กลับมาหากันบ้าง ประสาเพื่อน วันรุ่งขึ้น ฉันจึงขอร้องให้พ่อไปชวนครอบครัวของไวท์ไปเที่ยวทะเล แล้วจะได้ไปที่โรงแรมของเราด้วย พ่อของฉันก็เห็นด้วย ฉันจึงไปชวนครอบครัวของไวท์ไปกัน ซึ่งครอบครัวของไวท์ก็ตกลง เราทั้ง 2 ครอบครัวจึงไปเที่ยวทะเลกัน พอมาถึงทะเลฉันกับไวท์ก็รีบนำของตัวเอง วิ่งเข้าไปในโรงแรมของครอบครัวฉัน พนักงานในโรงแรมเมื่อเห็นฉัน ก็รีบเข้าทักทายตามภาษา คนรู้จักกัน ฉันจึงขอกุญแจของห้องฉันกับไวท์แล้วรีบไปเก็บของเข้าห้องกัน เพื่อจะลงไปเล่นทะเลกัน พอเล่นกันเสร็จแล้วเราก็ต่างเดินเรียบชายหาดเพื่อเดินคุยกัน ฉันเป็นฝ่ายเริ่มถาม

             

    ไวท์สัญญา อะไรกับเราสักอย่างได้ไหม?” ข้าวฟ่างพูดยังคนเลือนลอยตกในภวังค์

    อะไรเหรอ ฟ่าง ไวท์ถามกลับ

    สัญญาว่าจะไม่ลืมเรา ต้องกลับมาหาเรานะ และส่งจดหมายมาหาเราด้วยนะ ข้าวฟ่างบอกด้วยเสียงแผ่วเบา

    ได้ซิ เราสัญญาว่าจะไม่ลืมเธอเลยข้าวฟ่าง แล้วถ้าเราไปอยู่ที่นู้นเราจะส่งจดหมายมาหานะ ไวท์เริ่มสังเกตเสียงและกริยาของข้าวฟ่าง ว่าผิดปกติจึงทำให้เขาตอบรับเพื่อจะไม่ทำให้ฟ่างเสียใจ

    ขอบใจนะ ที่สัญญากับเรา ข้าวฟ่างดีใจจนน้ำตาไหล

    ไม่เป็นไรนิ เพราะเราเป็นเพื่อนกันนิ ไวท์โพล่งออกไป

     ใช่....เพราะเราเป็นเพื่อนกัน (แต่มีบางสิ่งที่ข้าวฟ่างไม่ได้บอกไวท์ ก็คือว่า เธอรักเขานั้นเอง)คำพูดของไวท์เป็นสิ่งเตือนใจเธอตลอดว่าเธอคือเพื่อนเท่านั้น และฉันก็เงียบไป

    วันนี้ท้องฟ้าโล่งเนาะ เห็นดาวเต็มไปหมดเลย สวยไหมฟ่าง ไวท์พูดขึ้นมา เพราะเห็นฉันเงียบไป

    สวยซิ สวยมากๆๆๆฉันเลยเริ่มรู้สึกตัว และเริ่มดูนาฬิกา เป็นเวลา 3 ทุ่มกว่าๆเพราะต่างเดินคุยไปดูดาวไปจนลืมเวลาแล้วฉันจึงทักขึ้นมาว่า หิ้วข้าวแระไปกินข้าวกันดีกว่า เวลานี้เป็นเวลาดึกมาก จึงทำให้ทั้ง 2 กินข้าวเหมือนคนอดยาก มาเป็นปี เพราะเมื่อเห็นอาหารก็รีบกระโดด เข้าใส่ทั้งคู่ พ่อแม่ของพวกเราต่างดูพวกเราอย่างเอ็นดู แล้วพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ไวท์ ออกเดินทางไป อเมริกา เครื่องจะออกตอน ตี 1 ของวันมะรืน จึงทำให้เราต้องรีบเข้านอนหลังจากกินข้าวเสร็จ เพื่อที่จะกลับกรุงเทพกัน และวันที่ ไวท์จะเดินทางก็มาถึงฉันบอกพ่อแม่ของฉันว่า ยังงัยฉันก็จะต้องไปส่งไวท์ให้ได้ พ่อแม่ฉันจึงอนุญาต แล้วเราทั้งครอบครัวก็ไปส่งไวท์ที่ สนามบินดอนเมือง ก่อนที่ฉันจะจากกับฉันส่งของบางอย่างให้ไว้ มันเป็นสร้อยที่ทำมาจากหอยสีขาวร่อยต่อกันอย่างประณีต ในขณะเดียวกันไวท์ได้ขอโทษฉันที่ไม่มีของอะไรให้ฉันเลย ฉันก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก มันจึงทำให้ไวท์รู้สึกดีขึ้น เราต่างล่ำลากันนาน จนพ่อของไวท์มาขอตัวไป เพราะต้องไปเช็คอินขึ้นเครื่องแล้วหลังจากที่ไวท์เดินจากไปแล้ว น้ำตาของฉันก็ร่วงรินลงมาเหมือนสายน้ำ พ่อหันหน้ามามองฉันแล้วพูดว่า

    เราต้องเข็มแข็งนะ ฟ่าง อย่าร้องไห้นะคับคนดีของพ่อน้ำเสียงของพ่อบอกได้ถึงความห่วงใยมาถึงฉัน

    หนูไม่ได้ร้องให้นะ แค่ฝุ่นเข้าตานะฉันตอบเสียงอู้อี้

    พ่อกับแม่ของฉันได้แต่หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

    หลังจากที่กลับมาบ้านฉันก็รีบไปนอนเพราะตอนนี้มันตี2.30พรุ่งนี้ต้องไป โรงเรียนแต่เช้า

     

    รุ่งขึ้น

    ฟ่างสายแล้วนะ แม่ตะโกนเรียกฉัน

    ค่ะ......ฉันตอบอย่างงัวเงีย

    ลูกคนนี้นิ ไม่ได้อย่างใจแม่เลย แม่ฉันบ่นอยู่ตลอด

    หนูมันไม่ดีนิค่ะฉันตอบไปอย่างง้อน

    โอ๋... แม่ล้อเล่นนะลูก เจอมุขนี้ฉันเข้าไป แม่ง้อเลย 5555+

    หนูไปแล้วนะค่ะ แม่ ฉันวิ่งไปพูดไป

     

    พอถึงโรงเรียนกลุ่มเพื่อนฉันก็รอรับข้าวสารจากฉันเหมือนเสือที่พร้อมจะตะคลุบเหยื่อยังงัยยังงั้น

    เป็นยังงัยบ้างว่ะฟ่าง พาร์คแหกปากถาม

    ก็ดีอ่ะ

    ยัยฟ่างไปส่งไวท์กี่โมงอ่ะ ตาลถามอย่างอยากรู้อยากเห็น

    ตี1ง่ะฟ่างบอกว่าอยากรู้ทำไม

    ก็เพื่อนฉันนิ ย่ะ ตาลแย้ง

    ตลกนิจะเริ่มสงคราม วาทศิลป์ หรือย่ะนั่ง 2 ตัวนิ แพรวถามขึ้นมา

    เงียบไปเลย ยัยแพรวทั้ง 2 บอกพร้อมกัน

    ทีงี้ทำมาเป็นพร้อมใจ แพรวว่ากลับ

    จนมีท่าทีที่ 3 คนนี้จะไปหยุด ซันเลยบอกให้เงียบ แต่สุดท้ายก็โดนด่าว่า เสรือก ตามเคย พอถึงเวลาเข้าชั้นเรียน อาจารย์ที่ประจำห้องของฉันได้แจ้งให้ นักเรียนทุกคนทราบว่า ไวท์ ได้ไปเมืองนอกแล้ว และก็มีเสียงซุบซิบเสียดายกัน ใหญ่โดยเฉพาะเหล่า แรดแระชะนี ทั้งหลาย(แล้วนางเอกเราจะเป็นชะนีไหมเนี้ย)

    หลังจากเลิกเรียนเสร็จฉันก็รีบกลับบ้านเพราะวันนี้ฉันจะเขียนจดหมายไปหาไวท์

     

    ทางด้านไวท์หลังจากที่ไปถึงอเมริกาได้ไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง เพื่อก่อนที่จะเข้าเรียน ม.5 ที่นี้ ไวท์มีพื้นฐานทางด้านภาษาที่ดีอยู่แล้ว เพราะเรียนดรงเรียนอินเตอรืตั้งแต่เด็ก บวกกับซัมเมอร์ที่อังกฤษทุกปี จึงทำให้ไวท์พูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว พ่อแม่ของไวท์ได้ส่งไวท์ไปเรียน โรงเรียนที่มีชื่อเสียงและมีแต่คนรวยไปเรียน วันแรกที่ไวท์ไปโรงเรียนก็มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง ที่มองมาอย่างให้ความสนใจและมั่นไส้ เพราะไวท์ไปคนรูปร่างถึงสูงโปร่ง ผิวสีแทน ถึงแม้จะอายุแค่ 17 ปีแถมด้วยหน้าตาอันคมคายที่ได้มาจาก พ่อของตน ยิ่งเพิ่ม ความหล่ออีกหลายเท่าและในขณะที่ไวท์เดินอยู่ในก็มีผู้หญิงคน หนึ่งเข้ามาทักทายไวท์ซึ่งเป็นคนที่หน้าตาสวยเลยที่เดียว

    “hi” ผู้หญิงคนนั้นทัก

    “hi” ไวท์ก็ตอบไปด้วยท่าทีเขิน

    ฉันชื่อ เจสสิก้าเรียกสั้นว่าเจสนะ  เธอล่ะชื่ออะไร เจสถาม

    ฉันชื่อ ไวท์ นะ ไวท์ยังมีท่าทีเขินๆ

    งั้นเธอย้ายมาจากไทยเหรอ เจสถามไปเรื่อยๆ

    อืม เธอรู้ได้ไงล่ะ ไวท์ถามออกไป

    ก็เมื่อวาน อาจารย์ห้องฉันบอกนะว่าจะมี คนไทยย้ายมาใหม่นะเจสตอบไปพร้อมดูท่าทีของไวท์อย่างเงียบ เพราะว่าเธอก็ชอบไวท์ตั้งแต่ที่เห็น

    งั้นเธอมาเป็นเพื่อนฉันเอาไหมเจสถาม

    ไ...ด้..ได้จริงเหรอ ไวท์เขินๆ

    จริงซิ เดียวฉันจะไปแนะนำเพื่อนฉันนะ ตามมาซิ เจสบอก

    พอมาถึงกลุ่มโต๊ะเพื่อนของเจส เจสก็แนะนำเพื่อนแต่ล่ะคนชองเธอ ก็จะมี อลิซ แองจี้ โทนี่ เซบาสเตียน พอแนะนำให้รู้จักกันหมดแล้ว แองจี้ก็กระซิบกับเจสเบาว่า ได้เหยื่ออีกแล้วซิ เจสฟังแล้วก็ขำขึ้นมา จนไวท์และเพื่อนทั้งหมดหันมามอง

    เจสกระซิบกับไปว่า คนนี้แระ ตัวจริงย่ะ พอได้ฟังแล้ว ทั้ง 2 หันหน้ามาหาแล้วยิ้มเล็กน้อย

    ไวท์ ทำไมนายมาอยู่ที่นี้เหรอเซบาสเตียนถาม

    พ่อเราไปทูตนะ เลยย้ายมาประจำการที่นี้ ไวท์ตอบไป

    พ่อเป็นทูตเหรอ ว้าวอลิซร้องอยากตกใจ

    ไม่ดีขนาดนั้นหรอก ไวท์แย้ง

    ไวท์มีแฟนยังอ่ะ โทนี่ถาม

    ยังหรอกอ่ะ กำลังมองอยู่นะ ไวท์ตอบไปแล้วทำท่าทางมองไปรอบแล้ว หยุดตรงเจส

    และทำให้คนทั้งโต๊ะ มองออกอย่างรู้กัน หลังจากที่คุยกันเสร็จแล้วทั้งหมดก็เข้าไปเรียนกัน อาจารย์ก็ให้ไวท์มาแนะนำตัว แค่ไวท์ไปยืนอยู่หน้าห้อง ผู้หญิงทั้งห้องก็กรี๊ดกันใหญ่ จนอาจารย์ต้องมาบอกให้เงียบกันได้แล้ว จึงทำให้ผู้หญิงในห้องเงียบลงไปบ้าง แต่ก็ยังมีบ้างคนที่อาการค้าง หลังจากที่ไวท์แนะนำตัวเสร็จ อาจารย์ก็เริ่มสอน ผู้หญิงบางคนต่างนั่งมองไวท์อย่างใจจดใจจ่อ ทำให้อาจารย์เห็นแล้วก็กระแอ่มเบาเป็นเชิงเตือนทำให้นักเรียนหญิง ตื่น จากภวังค์ และตั้งใจเรียนพอพักเที่ยงมาถึง

     

    โฮ้ เสน่ห์แรงจังหว่ะไวท์เซบาสเตียนพูดขึ้น

    ไม่ขนาดนั้นหรอกไวท์ตอบไป

    นิดเดียวซะทีไหนเล่า ผู้หญิงทั้งห้องเนี้ยมองกันตาระยิบระยับเลยนะแองจี้พูด

    รวมเธอด้วยไหมล่ะโทนี้แซ่ว

    อีตาบ้าแองจี้ด่ากลับ

    การสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่น พอพักเสร็จก็เข้าไปเรียนต่ออีกพอตอน 3 โมง โรงเรียนก็เลิก เจสเลยชวนไวท์ไปเที่ยวด้วยกันทั้งกลุ่มไวท์ตอบตกลง ไวท์โทรไปขออนุญาตพ่อแม่ของตัวเองท่านทั้ง2ก็ให้ไป เจสก็พาไปเที่ยวย่าน shopping apartment store และอื่นทั้งคืน หลังจากเที่ยวกันเสร็จ ต่างแยกกันกลับบ้าน เจสกับไวท์ได้กลับด้วยกัน เพราะบ้านทั้งห่างกันไม่กี่บล๊อค หลังจากที่ทั้งคู่เดินกันมาสักพักทั้งคู่กับเริ่มสนทนากัน

    เจส....ไวท์กระซิป

    อะไรเหรอเจสถามกลับ

    เราอยากจะรู้ว่าถ้าเราขอ...ไวทเงียบไป

    อะไรล่ะ พูดมาเถอะเจสก็รู้อยู่แล้วว่าไวท์อยากพูดอะไร เธอจึงพูดเป็นเชิงๆๆไป

    เราขอให้เราคบกันได้ไหมเจสพูด

    เราก็คบกันเป็นเพื่อนนิ หรือไวท์อยากเป้นมากกว่านั้นเจสถามไปทั้งที่ใจเต้นโครมๆๆอยู่ข้างในใจ

    อืมไวท์อายทันที

    ได้ซิเจสก็อายเหมือนกัน

    ไวท์ก็บอกว่าเขาชอบเธอตั้งแต่ครั้งแรกทีเห็น เจสก็เช่นเดียวกัน ทั้งคู่ก็เดินกอดกันจนมาถึงบ้านของเจส แล้วเจสก็จูบลาไวท์ก่อนจะเข้าบ้าน ส่วนไวท์ก็เดินกลับบ้านอย่างดีใจที่เธอตอบรับความสัมพันธ์กับเขา พอไวท์กลับมาถึงบ้านไวท์ก็ได้รับจดหมายจาก ข้าวฟ่าง ไวท์ก็หยิบขึ้นมาอ่าน พออ่านจบไวท์ก็เขียนส่งของตัวเองไปให้ข้าวฟ่างเขียนเล่า เขาเพิ่งจะคบกับผู้หญิงคนหนึ่งและเขามีเพื่อนมากมายและเรื่องต่างๆๆอีกพอคนในกลุ่มรู้ข่าวว่าไวท์กับเจสเป็นแฟนก็ ฉลองกันโดยไปเที่ยวสวนสนุกและอื่นอีกมาก

              หลังจากที่ข้าวฟ่างได้รับจดหมายจากไวท์ ข้าวฟ่างก็ดีใจมากเลยแกะอ่าน แต่พออ่านน้ำตาของข้าวฟ่างก็ไหลหยดลงเป็นสายฝน เพราะเธอเสียใจมากที่ไวท์คบกับใคร และยิ่งกว่านั้นเธอเสียใจเพราะเธอไม่ได้บอกว่าเธอรักเขามากเพียงใด....เธอร้องไห้จนหลับไปโดยปริยายเช้ารุ่งขึ้นแม่ของฟ่างมาปลุก แต่ต้องพบว่ารู้ตัวเองเป็นไข้ แม่เธอจึงบอกให้เธอผักผ่อนและแม่เธอจะโทรไปลาโรงเรียนให้เธอเอง

              ทางด้านไวท์หลังจากที่คบกับเจสแล้ว ไวท์รักเจสมากจนโดนว่าเป็นคู่รักหวานฉ่ำแห่งปี และทำให้สาวๆๆหลายคนในโรงเรียนต้องอกหัก วันหนึ่งเจสก็ไปเที่ยวบ้านของไวท์แล้วไปสะดุดเห็นสร้อยที่ทำมาจากหอยสีขาวประกายทั้งเส้น เธอจึงถามว่าของใครให้มา ไวท์ตอบไปว่าของเพื่อนที่เมืองไทยนะ เจสหรี่ตามองไวท์แล้วถามว่า ผู้หญิงหรือชาย ไวท์เลยตอบวาผู้หญิงนะว่าชื่อ ข้าวฟ่าง เจสเลยซักถามไปเรื่อย จนเธอไม่พอใจเมื่อรู้ว่าไวท์กับข้าวฟ่างเป้นเพื่อนรักและสนิทกันเธอกลัวว่าวันหนึ่งไวท์กลับผู้หญิงคนนี้ต้องรักกัน เธอจึงเงียบแล้วใช้ความคิดว่าจะมีวิธีไหนที่จะไม่ให้ไวท์ติดต่อกลับข้าวฟ่าง ไวทืเริ่มรู้สึกถึงความเงียบจึงทำลายบรรยากาศโดยบอกว่าไปกินข้าวข้างนอกกันไหมไม่งั้นไปซื้ออะไรมากินในบ้านก็ได้ เจสเลือกอย่างหลังแทน แล้วให้ไวท์เป็นคนไปซื้อ เธอบอกว่าเธอจะรออยู่บ้านและเหตุที่เธอเข้าออกบ้านไวท์ได้สะดวกเพราะพ่อแม่ของไวท์ก็ชอบเธอเอาซะมากๆๆ หลังจากที่ไวท์ออกไปซื้อข้าว เธอก็เริ่มค้นหาที่อยุ่ของข้าวฟ่าง แล้สเธอก็ไปเจอจดหมายเก่าๆเธอจึงดูชื่อแล้วอ่านก็รุ้ว่าเป็นข้าวฟ่างเธอจึงเริ่มจดที่อยู่ไปเพื่อจะส่งจดหมายไปบอกว่าเลิกยุ่งกับแฟนของเธอซํกที สักพักไวท์ก็กลับมาพร้อมข้าวของมากมาย แล้วไวท์กลับเจสก็ลงมือทานข้าวกันอย่างสนุกสนาน พอเริ่มดึกเจสก็ขอตัวกลับบ้านไปก่อน เพื่อจะเขียนจดหมายไปหาข้าวฟ่างว่าให้เลิกยุ่งกับไวท์ซักทีโดยอ้างว่าไวท์บอกว่าอย่ามายุ่งอะไรกับเขาอีก

     

              ข้าวฟ่างนั่งอ่านจดหมายฉบับของที่เจสส่งมาแต่เธอนึกว่าไวท์เป็นคนส่งมาเธอนั่งร้องไห้อีกตามเคย แต่คราวเธอรู้แล้วว่าไวท์ได้ลืมสัญญาที่มีไว้ให้กับเธอแล้ว

    ข้าวฟ่างจึงตั้งสติของตนเองให้ดีว่า ในเมื่อเขาลืมเราได้เราก็ต้องลืมเขาได้เหมือนกัน ในด้านทางไวท์หลังจากที่ไม่ได้จดหมายของข้าวฟ่างเขาก้รู้สึกแปลกๆๆเขาจึงคุยเรื่องนี้กับเจส เจสก็บอกว่าเขาคงลืมไวท์แล้วล่ะ อย่าไปสนใจเลยนะและก็เป็นดั่งคาดไวท์ไม่ได้สนใจกระตือรือร้นอะไรเลย เพราะตอนนี้เขาก็ไม่ได้สนใจข้าวฟ่างและเหมือนเพราะตอนนี้เขามีเจสแล้วเขาจึงลืมข้าวฟ่างอย่างง่ายด่าย  ในขณะที่ข้าวฟ่างก็จะลืมเขาเช่นกัน แต่เธอก็ทำไม่ได้เพราะเธอก็รู้ว่าเธอรักเขา และก็จะรักตลอดไป.......จนบัดนี้ฉันก็อายุ 25 แล้ว และฉันยังอยากจะรู้ว่าเขายังจำเพื่อนคนนี้ของเขาได้รึป่าว

      

     

             

     นิยายเรื่องแรกงับถ้าอ่านและงงขอโทดทีนะงับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×