ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Gintama : Day X Day ชีวิตเราก็เงี้ยะแหละนะ!

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 ยามเจ็บปวด การปฐมพยาบาลเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 465
      13
      13 มี.ค. 60

                     เช้าอันสดใสแห่งเมืองคาบูกิโจ สามสหายรับจ้างสารพัดก็ยังมีโมเมนท์ดีๆให้ได้เห็นในสวนสาธารณะเช่นเคย ต่างคนต่างพากันวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งมันก็ไม่เกิดขึ้นกับชายหนุ่มผมยักศกสีเงินคนนี้ ซากาตะ กินโทกิ

                    “นี่พวกนาย ฉันว่ากลับดีกว่ามั้งกินโทกิทักขึ้นเมื่อเวลามันล่วงเลยมาจนถึงเที่ยง แต่ก็ยังเห็นคางุระ ชินปาจิ และซาดะฮารุ(หมาน้อย(?)แห่งร้านรับจ้าง)เล่นกันสนุกอยู่

                    อากินจังกลับไปก่องก็ได้น่อ อั๊วจะเล่งกับซาดะฮารุ

                    “นั่นสิครับคุณกิน เดี๋ยวผมก็ต้องหาซื้อของเข้าด้วย

                    “ก็ได้ๆ งั้นไปเจอกันที่ร้านล่ะแล้วกินโทกิก็ได้เดินออกไป แต่เดินไปได้ไม่ถึงครึ่งก้าว กินโทกิก็โดนรถบรรทุกชนเข้าจังๆจนลอยไปร่วงติดต้นไม้ โชคยังดีที่ชินปาจิกับคางุระเห็นพอดี

                    คณกิน!!!!/อากินจัง!!!!” แล้วทั้งสองคนก็ไปช่วยนำร่างของกินโทกิที่ติดอยู่บนต้นไม้ลงมา แต่ปัญหาได้มาเยือนพวกเขาสองคนซะแล้ว

                    หลังจากที่กินโทกิโดนรถบรรทุกชนเต็มๆแบบจังๆเข้า กินโทกิก็สลบไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นเลย ซึ่งตอนนี้ทั้งสองคนก็ครุ่นคิดกันอยู่ว่าจะทำยังไง

    ก็รู้ๆกันอยูแล้วว่าต้องส่งโรงพยาบาล แต่เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ควรหาวิธีไปด้วย เผื่อไปถึงโรงพยาบาลแล้วชีพจรหยุดเต้นขึ้นมาจะเป็นเรื่องใหญ่

    แต่จะให้ทำยังไงล่ะ? ก็ควรที่จะปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนไง เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายสุดๆไปเลย

    ว่าแล้วชินปาจิก็หยิบกล่องเครื่องมือปฐมพยาบาลออกมาแล้วตรวดเช็คของดูว่ามีอะไรจะใช้ไดบ้าง

    คางุระจัง ช่วยปั๊มหัวใจโดยการเอามือกดบนแผ่นอกของคุณกินทีนะ ออกแรงหน่อยๆอะไรงี้

    ได้เลยน่อ!” แล้วคางุระก็เริ่มหน้าที่ที่ได้รับจากหนุ่มโสดซิง(ชินปาจิต่างหากล่ะครับ!!!)ทันที

    ส่วนทางด้านชินปา เขาก็โทรศัพท์เรียกรถพยาบาล แต่ระหว่างที่เขาใช้โทรศัพท์อยู่นั้น

    กร็อบ กร็อบ ปึ้ก ตุ้บ

                     คางุระที่กำลังปั๊มหัวใจของกินโทกินั้นกลายสภาพมาเป็นหักกระดูกแผ่นอกของกินโทกิแทน

                    คางุระจ๊างงงงงงงงง หยุดก๊อนนนนนนนนนนชินปาจิรีบห้ามทันทีทันใด แต่ว่าอาการรีบของชินปาจินั้น

    ตุ้บ!!!

                    ทำให้กล่องเครื่องมือปฐมพยาบาลหล่นใส่หน้าของกินโทกิจนเลือดไหลออกมาอย่างชุ่มมือ ซึ่งก็เป็นขณะเดียวกันที่หน่วยราดตระเวนหน่วยที่หนึ่งผ่านมาพอดี หรือก็คือเจ้าชายดาวS ‘โอคิตะ โซโกะ

                    “ทำอะไรของเธอน่ะ ยัยหมวยนรกสาหร่ายดองเน่าโอคิตะทัก(ต่อมโกรธในสมอง)คางุระด้วยสีหน้าออกโมโหนิดๆ แต่ยังคงความเรียบนิ่งไว้อยู่ก่อนจะเดินไปหาคางุระแล้วใส่กุญแจมือไว้ที่ข้อมือของคางุระก่อนจะพูดขึ้นต่อว่า

                    เธอถูกจับแล้ว ข้อหาฆ่าคนกลางที่สาธารณะ แถมฆ่าลูกพี่ที่ฉันนับถืออีกต่างหาก

                    “ว่าไงนะ อาตี๋ตูดเป็ด!?!”

                    “พวกนายมาทำอะไรกันฮะ? โซโกะ แกก็ชอบอู้งานตลอดเลยนะบุคคลที่ปรากฏตัวมาอีกคนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ฮิจิคาตะ โทชิโร่คนเดิม เพิ่มเติมคือ มายองเนสสองลังกระดาษ

                    คุณฮิจิคาตะมาพอดีเลย ช่วยอะไรหน่อยสิครับ!!!” แล้วชินปาจิก็อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง

                    งั้นหรอ? ฉันแนะนำนะ ให้ถวายชีวิตมันด้วยพาเฟต์หรือนมสตรอเบอร์รี่สิ มันคงไปสบายอย่างดีเลยล่ะ

                    “ช่วยได้มากเลยครับเพ่!!!!!!!!!”

                    “ล้อเล่นๆ ก็พาไปส่งโรงพยาบาล แค่นั้นเอง

                    “แต่การปฐมพยาบาลยังไปไม่ถึงไหนเลยนะครับ

                    “การปฐมพยาบาลหรอ......?” ฮิจิคาตะพูดพลางชำเลืองไปมองร่างที่นอนสลบของกินโทกิก่อนจะเผยรอยยิ้มของรองปีศาจออกมา ทำเอาชินปาจิกับคางุระคิดหนักขึ้นมาทันที

                    ถ้างั้นก็เริ่มการปฐมพยาบาลให้ลูกพี่กันได้เลย!” โอคิตะพูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ

    ณ ชินเซ็นกุมิ      

    แล้วพวกนายทำอะไรไปแล้วบ้างล่ะ?” ฮิจิคาตะถามพร้อมกับกระดาษและปากกา ดูรวมๆแล้วเหมือนฮิจิคาตะในตอนนี้ไม่ได้มาเป็นตำรวจ แต่ดันมาเป็นคุณหมอตรวจสุขภาพแทน

    ก็ปั๊มหัวใจ....จึ๋ย!!!!”

    ไม่ทันที่ชินปาจิจะพูดจบ ดาบของฮิจิคาตะก็มาจ่อที่คอหอยของเขาอย่างไร้ปราณี

    นี่เจ้าแว่น การปฐมพยาบาล แกได้แต่ปั๊มหัวใจอย่างเดียวรึไง?” ฮิจิคาตะพูดพลางพ่นควันบุหรี่ออกมา

    งั้นเดี๋ยวฉันทำให้ดูเองนะ ดูไว้เป็นตัวอย่างล่ะคนที่เสนอตัวคนแรกคือโอคิตะ โซโกะ

    โอคิตะพูดจบก็เดินไปหาฮิจิคาตะ ใช้สันมือของตนสับเข้าที่คอของฮิจิคาตะจนเจ้าตัวสลบไป

    ทำอะไรครับเนี่ยยยยยยย คุณโอคิตะ แบบนี้ก็ได้ศพเพิ่มน่ะสิครับ!!!!!!!!!”

    นี่อาตี๋ตูดเป็ด ลื้อตั้งใจทำแบบนี้ใช่มั้ยน่อ!?!?!” แล้วคางุระก็กระโจนเข้าไปหวังจะถีบหน้าคนตรงหน้าให้หายหมั่นไส้ แต่น่าเสียดายที่เรื่องนั้นจะไม่เกิดขึ้น

    ใจเย็นๆก่อนสิ ยัยหมวยนรกโอคิตะสามารถหลบการโจมตีของคางุระได้อย่างสบายๆ แถมไม่มีทีท่าว่าคางุระจะเหนื่อยเลยด้วยซ้ำ

    คุณโอคิตะ คางุระจัง ใจเย็นก่อนครับ! สู้กันแบบนี้เดี๋ยวทั้งสองคนก็ได้ตายกันพอดีหรอกครับ!!!” ชินปาจิพยายามห้ามแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีใครฟังเลย ก็แน่ล่ะ เป็นแค่แว่นจืดชืดไม่มีใครสนใจหรอก

     

    แต่เมื่อต้ดมาในฉากของกินโทกิกับฮิจิคาตะที่ร่างไร้การเคลื่อนไหวอยู่นั้น จู่ๆก็เหมือนจะได้ยินเสียงใครอัดกันอยู่

      “เจ้าบ้ามายองเลอร์เอ๊ย!!!!!!! แกจะตามมาด้วยทำไมฟระ!!!!!”

      “ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าโซโกะ ฉันคงไม่อยู่ในสภาพนี้หรอกเฟ้ย!!!!”

                    ประโยคการสนทนาที่ดูเป็นการทะเลาะวิวาทนี่คงจะไม่ใช่ของใครที่ไหนหรอก

                    ซากาตะ กินโทกิ และ ฮิจิคาตะ โทชิโร่ ที่บัดนี้ได้กลายเป็นวิญญาณที่ออกจากร่างแต่ไม่รู้ว่าจะนำวิญญาณเข้าร่างยังไง

                    เอาเป็นว่า พวกเราทั้งคู่ได้กลายเป็นวิญญาณแบบนี้เพราะเจ้าโซโกะฮิจิคาตะสรุปผลออกมา แต่ก็โดนกินโทกิพูดเถียงใส่

                    นั่นมันแกคนเดียวเฟ้ย!!!! ที่ฉันเป็นแบบนี้เพราะรถบรรทุกมาชนใส่ระหว่างที่ฉันจะกลับร้านนาเหวย!!!”

                    รถบรรทุกงั้นหรอ....” ฮิจิคาตะครุ่นคืดสักพักก่อนจะนึกอะไรออกได้

                  "รถบรรทุกนั้น โซโกะเป็นคนขับระหว่างราดตระเวนน่ะ" และแน่นอนว่าคำตอบนี้ทำให้คุณกินเกิดอาการโมโหขั้นรุนแรงในชั่วพริบตาเดียว

                   "สุดท้ายต้นตอก็มาจากพวกเอ็งนี่ฝ่าาาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!!"

                   "ใจเย็นๆน่าเจ้าบ้าน้ำตาล ฉันว่าพวกเราก็ต้องหาทางเข้าร่างในระหว่างที่พวกนั้นคอยปฐมพยาบาลเรานะ"

                   "ตูไม่ยอมใช้ท่าประสานวิญญาณในโ0ล อีทเตอร์หรอกนะจะบอกให้"

                   "นี่สรุปได้ฟังที่พูดสักคำมั้ยเนี่ย!?!"


                   "แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะครับ หาทางฟื้นคุณกินกับคุณฮิจิคาตะไม่ได้ซะที" ชินปาจิพูดขึ้น

                   ในระหว่างที่อยู่ฉากของสองวิญญาณนั้น พวกโอคิตะก็ได้พยายามหาวิธีทุกวิธีมาฟื้นร่างไร้วิญญาณที่ทำเท่าไรก็ไม่ขยับซะที

                   อย่างคางุระก็พยายามบีบนวดกล้ามเนื้อให้เผื่อว่าชีพจรจะเต้น(เต้นจนตายน่ะสิไม่ว่า!!!//กินโทกิ)

                   ชินปาจิก็ใช้ผงธูปมาโปรยใส่ร่างของทั้งสอง(ให้ไปสู่สุขติหรือไงกัน!?!//ฮิจิคาตะ)

                   ส่วนโอคิตะใช้บาซูก้ายิงใส่แบบไม่ยั้ง(ยิงให้ไปตายใช่ม้ายยยยยยยย//ฮิจิคาตะ,กินโทกิ)

                   "งั้นก็เหลืออยู่วิธีเดียวเท่านั้น...." โอคิตะพูดเว้นช่วงพร้อมกับที่ปั๊มหัวใจขนาดฝ่าพระบาทของยักษ์ขึ้นมาทาบบนแผ่นอกของฮิจิคาตะ(แล้วทำไมตูต้องเป็นคนแรกตลอดเลยฟะ!?!?!?!?!?)

                   "คุณโอคิตะ หรือว่า...!"

                   "ใช่แล้วเจ้าแว่น วิธีที่จะทำให้สองคนนี้ฟื้นขึ้นมาได้ก็มีแต่ต้องปั๊มหัวใจเท่านั้น"

                   "อาตี๋ซาดิสม์ อั๊วเข้าใจความรู้สึกของลื้อแล้วน่อ......"คางุระพูดก่อนที่น้ำตาจะใหลรินออกมา ชินปาจิก็ได้แต่สวดภาวนา

                   "หนึ่ง...สอง...สาม!!!!!!!!!!!" แล้วโอคิตะก็ได้ลงเคื่องปั๊มหัวใจเป็นที่เรียบร้อย

    ณ โรงพยาบาล

                   "คุณกิน คุณฮิจิคาตะ เป็นยังไงกันบ้างครับ?" ชินปาจิที่มาเยี่ยมคนป่วยถามขึ้น 

                   แต่งวดนี้เขาต้องเอาใจใส่ผู้ป่วยเป็นพิเศษ เนื่องจากที่ความผิดส่วนหนึ่งเป็นของตัวเขาเอง อีกเรื่องหนึ่งคือทั้งโอคิตะทั้งคางุระไม่ได้สนใจชีวิตของทั้งสองคนเลย ก็เลยไมามาเยี่ยมด้วย

                   ตอนนี้ดวงตาของกินโทกิกับฮิจิคาตะเป็นประกายเลยทีเดียว

                   เนี่ยแหละ พระเจ้าของพวกเรา!!! นี่คือสิ่งที่กินโทกิกับฮิจิคาตะคิดมาตลอดกับหนุ่มโสดซิงอย่างชินปาจิ

                   ชินปาจิยิ้มหน่อยๆก่อนจะหยิบของชอบที่ทั้งสองคนอยากได้มานานมาวางไว้ตรงหน้าก่อนจะลุกออกไปแล้วทิ้งท้ายว่า

                   "ผมไปทำงานรับจ้างต่อนะครับ ไว้ว่างๆจะมาเยี่ยม หายไวๆนะครับ ทั้งสองคน"

                   เมื่อชินปาจิออกไป บรรยากาศก็เงียบไปได้สักพัก ก่อนจะ.....

    ตุ้บ ตั้บ ตุ้บ พลั่ก เพล้ง

                   เกิดการทะเลาะกันของสองหนุ่มในห้องผู้ป่วย 

                   ส่งสัยคงจะแค้นเรื่องรถบรรทุกไม่หายสินะเนี่ย



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×