คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 ยามเจ็บปวด การปฐมพยาบาลเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
เช้าอันสดใสแห่งเมืองคาบูกิโจ
สามสหายรับจ้างสารพัดก็ยังมีโมเมนท์ดีๆให้ได้เห็นในสวนสาธารณะเช่นเคย
ต่างคนต่างพากันวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งมันก็ไม่เกิดขึ้นกับชายหนุ่มผมยักศกสีเงินคนนี้
‘ซากาตะ กินโทกิ’
“นี่พวกนาย ฉันว่ากลับดีกว่ามั้ง” กินโทกิทักขึ้นเมื่อเวลามันล่วงเลยมาจนถึงเที่ยง
แต่ก็ยังเห็นคางุระ ชินปาจิ และซาดะฮารุ(หมาน้อย(?)แห่งร้านรับจ้าง)เล่นกันสนุกอยู่
“อากินจังกลับไปก่องก็ได้น่อ อั๊วจะเล่งกับซาดะฮารุ”
“นั่นสิครับคุณกิน เดี๋ยวผมก็ต้องหาซื้อของเข้าด้วย”
“ก็ได้ๆ งั้นไปเจอกันที่ร้านล่ะ” แล้วกินโทกิก็ได้เดินออกไป
แต่เดินไปได้ไม่ถึงครึ่งก้าว กินโทกิก็โดนรถบรรทุกชนเข้าจังๆจนลอยไปร่วงติดต้นไม้
โชคยังดีที่ชินปาจิกับคางุระเห็นพอดี
“คณกิน!!!!/อากินจัง!!!!” แล้วทั้งสองคนก็ไปช่วยนำร่างของกินโทกิที่ติดอยู่บนต้นไม้ลงมา
แต่ปัญหาได้มาเยือนพวกเขาสองคนซะแล้ว
หลังจากที่กินโทกิโดนรถบรรทุกชนเต็มๆแบบจังๆเข้า
กินโทกิก็สลบไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นเลย ซึ่งตอนนี้ทั้งสองคนก็ครุ่นคิดกันอยู่ว่าจะทำยังไง
ก็รู้ๆกันอยูแล้วว่าต้องส่งโรงพยาบาล
แต่เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ควรหาวิธีไปด้วย
เผื่อไปถึงโรงพยาบาลแล้วชีพจรหยุดเต้นขึ้นมาจะเป็นเรื่องใหญ่
แต่จะให้ทำยังไงล่ะ? ก็ควรที่จะปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนไง
เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายสุดๆไปเลย
ว่าแล้วชินปาจิก็หยิบกล่องเครื่องมือปฐมพยาบาลออกมาแล้วตรวดเช็คของดูว่ามีอะไรจะใช้ไดบ้าง
“คางุระจัง
ช่วยปั๊มหัวใจโดยการเอามือกดบนแผ่นอกของคุณกินทีนะ ออกแรงหน่อยๆอะไรงี้”
“ได้เลยน่อ!”
แล้วคางุระก็เริ่มหน้าที่ที่ได้รับจากหนุ่มโสดซิง(ชินปาจิต่างหากล่ะครับ!!!)ทันที
ส่วนทางด้านชินปา
เขาก็โทรศัพท์เรียกรถพยาบาล แต่ระหว่างที่เขาใช้โทรศัพท์อยู่นั้น
กร็อบ กร็อบ ปึ้ก ตุ้บ
คางุระที่กำลังปั๊มหัวใจของกินโทกินั้นกลายสภาพมาเป็นหักกระดูกแผ่นอกของกินโทกิแทน
“คางุระจ๊างงงงงงงงง หยุดก๊อนนนนนนนนนน” ชินปาจิรีบห้ามทันทีทันใด
แต่ว่าอาการรีบของชินปาจินั้น
ตุ้บ!!!
ทำให้กล่องเครื่องมือปฐมพยาบาลหล่นใส่หน้าของกินโทกิจนเลือดไหลออกมาอย่างชุ่มมือ
ซึ่งก็เป็นขณะเดียวกันที่หน่วยราดตระเวนหน่วยที่หนึ่งผ่านมาพอดี หรือก็คือเจ้าชายดาวS
‘โอคิตะ โซโกะ’
“ทำอะไรของเธอน่ะ ยัยหมวยนรกสาหร่ายดองเน่า” โอคิตะทัก(ต่อมโกรธในสมอง)คางุระด้วยสีหน้าออกโมโหนิดๆ
แต่ยังคงความเรียบนิ่งไว้อยู่ก่อนจะเดินไปหาคางุระแล้วใส่กุญแจมือไว้ที่ข้อมือของคางุระก่อนจะพูดขึ้นต่อว่า
“เธอถูกจับแล้ว ข้อหาฆ่าคนกลางที่สาธารณะ
แถมฆ่าลูกพี่ที่ฉันนับถืออีกต่างหาก”
“ว่าไงนะ อาตี๋ตูดเป็ด!?!”
“พวกนายมาทำอะไรกันฮะ? โซโกะ แกก็ชอบอู้งานตลอดเลยนะ” บุคคลที่ปรากฏตัวมาอีกคนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ‘ฮิจิคาตะ
โทชิโร่’ คนเดิม เพิ่มเติมคือ มายองเนสสองลังกระดาษ
“คุณฮิจิคาตะมาพอดีเลย ช่วยอะไรหน่อยสิครับ!!!” แล้วชินปาจิก็อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง
“งั้นหรอ? ฉันแนะนำนะ ให้ถวายชีวิตมันด้วยพาเฟต์หรือนมสตรอเบอร์รี่สิ
มันคงไปสบายอย่างดีเลยล่ะ”
“ช่วยได้มากเลยครับเพ่!!!!!!!!!”
“ล้อเล่นๆ ก็พาไปส่งโรงพยาบาล แค่นั้นเอง”
“แต่การปฐมพยาบาลยังไปไม่ถึงไหนเลยนะครับ”
“การปฐมพยาบาลหรอ......?” ฮิจิคาตะพูดพลางชำเลืองไปมองร่างที่นอนสลบของกินโทกิก่อนจะเผยรอยยิ้มของรองปีศาจออกมา
ทำเอาชินปาจิกับคางุระคิดหนักขึ้นมาทันที
“ถ้างั้นก็เริ่มการปฐมพยาบาลให้ลูกพี่กันได้เลย!” โอคิตะพูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ
ณ ชินเซ็นกุมิ
“แล้วพวกนายทำอะไรไปแล้วบ้างล่ะ?”
ฮิจิคาตะถามพร้อมกับกระดาษและปากกา
ดูรวมๆแล้วเหมือนฮิจิคาตะในตอนนี้ไม่ได้มาเป็นตำรวจ แต่ดันมาเป็นคุณหมอตรวจสุขภาพแทน
“ก็ปั๊มหัวใจ....จึ๋ย!!!!”
ไม่ทันที่ชินปาจิจะพูดจบ
ดาบของฮิจิคาตะก็มาจ่อที่คอหอยของเขาอย่างไร้ปราณี
“นี่เจ้าแว่น
การปฐมพยาบาล แกได้แต่ปั๊มหัวใจอย่างเดียวรึไง?” ฮิจิคาตะพูดพลางพ่นควันบุหรี่ออกมา
“งั้นเดี๋ยวฉันทำให้ดูเองนะ
ดูไว้เป็นตัวอย่างล่ะ” คนที่เสนอตัวคนแรกคือโอคิตะ โซโกะ
โอคิตะพูดจบก็เดินไปหาฮิจิคาตะ
ใช้สันมือของตนสับเข้าที่คอของฮิจิคาตะจนเจ้าตัวสลบไป
“ทำอะไรครับเนี่ยยยยยยย
คุณโอคิตะ แบบนี้ก็ได้ศพเพิ่มน่ะสิครับ!!!!!!!!!”
“นี่อาตี๋ตูดเป็ด
ลื้อตั้งใจทำแบบนี้ใช่มั้ยน่อ!?!?!” แล้วคางุระก็กระโจนเข้าไปหวังจะถีบหน้าคนตรงหน้าให้หายหมั่นไส้
แต่น่าเสียดายที่เรื่องนั้นจะไม่เกิดขึ้น
“ใจเย็นๆก่อนสิ
ยัยหมวยนรก” โอคิตะสามารถหลบการโจมตีของคางุระได้อย่างสบายๆ
แถมไม่มีทีท่าว่าคางุระจะเหนื่อยเลยด้วยซ้ำ
“คุณโอคิตะ
คางุระจัง ใจเย็นก่อนครับ! สู้กันแบบนี้เดี๋ยวทั้งสองคนก็ได้ตายกันพอดีหรอกครับ!!!” ชินปาจิพยายามห้ามแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีใครฟังเลย ก็แน่ล่ะ
เป็นแค่แว่นจืดชืดไม่มีใครสนใจหรอก
แต่เมื่อต้ดมาในฉากของกินโทกิกับฮิจิคาตะที่ร่างไร้การเคลื่อนไหวอยู่นั้น
จู่ๆก็เหมือนจะได้ยินเสียงใครอัดกันอยู่
“เจ้าบ้ามายองเลอร์เอ๊ย!!!!!!!
แกจะตามมาด้วยทำไมฟระ!!!!!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าโซโกะ
ฉันคงไม่อยู่ในสภาพนี้หรอกเฟ้ย!!!!”
ประโยคการสนทนาที่ดูเป็นการทะเลาะวิวาทนี่คงจะไม่ใช่ของใครที่ไหนหรอก
ซากาตะ กินโทกิ และ ฮิจิคาตะ โทชิโร่
ที่บัดนี้ได้กลายเป็นวิญญาณที่ออกจากร่างแต่ไม่รู้ว่าจะนำวิญญาณเข้าร่างยังไง
“เอาเป็นว่า พวกเราทั้งคู่ได้กลายเป็นวิญญาณแบบนี้เพราะเจ้าโซโกะ” ฮิจิคาตะสรุปผลออกมา แต่ก็โดนกินโทกิพูดเถียงใส่
“นั่นมันแกคนเดียวเฟ้ย!!!!
ที่ฉันเป็นแบบนี้เพราะรถบรรทุกมาชนใส่ระหว่างที่ฉันจะกลับร้านนาเหวย!!!”
“รถบรรทุกงั้นหรอ....” ฮิจิคาตะครุ่นคืดสักพักก่อนจะนึกอะไรออกได้
"รถบรรทุกนั้น โซโกะเป็นคนขับระหว่างราดตระเวนน่ะ" และแน่นอนว่าคำตอบนี้ทำให้คุณกินเกิดอาการโมโหขั้นรุนแรงในชั่วพริบตาเดียว
"สุดท้ายต้นตอก็มาจากพวกเอ็งนี่ฝ่าาาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!!"
"ใจเย็นๆน่าเจ้าบ้าน้ำตาล ฉันว่าพวกเราก็ต้องหาทางเข้าร่างในระหว่างที่พวกนั้นคอยปฐมพยาบาลเรานะ"
"ตูไม่ยอมใช้ท่าประสานวิญญาณในโ0ล อีทเตอร์หรอกนะจะบอกให้"
"นี่สรุปได้ฟังที่พูดสักคำมั้ยเนี่ย!?!"
"แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะครับ หาทางฟื้นคุณกินกับคุณฮิจิคาตะไม่ได้ซะที" ชินปาจิพูดขึ้น
ในระหว่างที่อยู่ฉากของสองวิญญาณนั้น พวกโอคิตะก็ได้พยายามหาวิธีทุกวิธีมาฟื้นร่างไร้วิญญาณที่ทำเท่าไรก็ไม่ขยับซะที
อย่างคางุระก็พยายามบีบนวดกล้ามเนื้อให้เผื่อว่าชีพจรจะเต้น(เต้นจนตายน่ะสิไม่ว่า!!!//กินโทกิ)
ชินปาจิก็ใช้ผงธูปมาโปรยใส่ร่างของทั้งสอง(ให้ไปสู่สุขติหรือไงกัน!?!//ฮิจิคาตะ)
ส่วนโอคิตะใช้บาซูก้ายิงใส่แบบไม่ยั้ง(ยิงให้ไปตายใช่ม้ายยยยยยยย//ฮิจิคาตะ,กินโทกิ)
"งั้นก็เหลืออยู่วิธีเดียวเท่านั้น...." โอคิตะพูดเว้นช่วงพร้อมกับที่ปั๊มหัวใจขนาดฝ่าพระบาทของยักษ์ขึ้นมาทาบบนแผ่นอกของฮิจิคาตะ(แล้วทำไมตูต้องเป็นคนแรกตลอดเลยฟะ!?!?!?!?!?)
"คุณโอคิตะ หรือว่า...!"
"ใช่แล้วเจ้าแว่น วิธีที่จะทำให้สองคนนี้ฟื้นขึ้นมาได้ก็มีแต่ต้องปั๊มหัวใจเท่านั้น"
"อาตี๋ซาดิสม์ อั๊วเข้าใจความรู้สึกของลื้อแล้วน่อ......"คางุระพูดก่อนที่น้ำตาจะใหลรินออกมา ชินปาจิก็ได้แต่สวดภาวนา
"หนึ่ง...สอง...สาม!!!!!!!!!!!" แล้วโอคิตะก็ได้ลงเคื่องปั๊มหัวใจเป็นที่เรียบร้อย
ณ โรงพยาบาล
"คุณกิน คุณฮิจิคาตะ เป็นยังไงกันบ้างครับ?" ชินปาจิที่มาเยี่ยมคนป่วยถามขึ้น
แต่งวดนี้เขาต้องเอาใจใส่ผู้ป่วยเป็นพิเศษ เนื่องจากที่ความผิดส่วนหนึ่งเป็นของตัวเขาเอง อีกเรื่องหนึ่งคือทั้งโอคิตะทั้งคางุระไม่ได้สนใจชีวิตของทั้งสองคนเลย ก็เลยไมามาเยี่ยมด้วย
ตอนนี้ดวงตาของกินโทกิกับฮิจิคาตะเป็นประกายเลยทีเดียว
เนี่ยแหละ พระเจ้าของพวกเรา!!! นี่คือสิ่งที่กินโทกิกับฮิจิคาตะคิดมาตลอดกับหนุ่มโสดซิงอย่างชินปาจิ
ชินปาจิยิ้มหน่อยๆก่อนจะหยิบของชอบที่ทั้งสองคนอยากได้มานานมาวางไว้ตรงหน้าก่อนจะลุกออกไปแล้วทิ้งท้ายว่า
"ผมไปทำงานรับจ้างต่อนะครับ ไว้ว่างๆจะมาเยี่ยม หายไวๆนะครับ ทั้งสองคน"
เมื่อชินปาจิออกไป บรรยากาศก็เงียบไปได้สักพัก ก่อนจะ.....
ตุ้บ ตั้บ ตุ้บ พลั่ก เพล้ง
เกิดการทะเลาะกันของสองหนุ่มในห้องผู้ป่วย
ส่งสัยคงจะแค้นเรื่องรถบรรทุกไม่หายสินะเนี่ย
ความคิดเห็น