คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : 05
ทุกอย่างดูปกติหลังจากเขาไปปรึกษาพี่แอลโจ พี่คริสก็กลับบ้านเร็วขึ้นมีบ้างที่กลับเช้าแต่ชานยอลก็ไม่ได้สงสัยอะไรเพราะช่วงนี้พี่แอลโจก็บอกว่างานที่บริษัทวุ่นวายมาก และที่เขาสังเกตคริสก็ไม่มีท่าทางผิดปกติอะไร
“ชานยอลครับอย่าลืมจัดเสื้อผ้าเสร็จยังเราไปกันพรุ่งนี้แล้ว
“ครับๆ พี่ก็มาช่วยจัดของพี่แทนที่จะเอาเวลาได้ดูสารคดีอวกาศสิ” มาเร่งเขาแล้วตัวเองนอนดูทีวีเนี้ยนะ เมื่อเห็นว่าไม่มีท่าทีที่ชายหนุ่มจะลุกขึ้นเลยชานยอลจึงเอาแปรสีฟันของคริสปาเข้ากลางหัวอย่างจัง
“โอ๊ยชานยอล ทำอะไรเนี้ย” ชานยอลทำหน้าล้อเลียนคริสก่อนจะเดินไปเก็บแปรที่พึ่งคว้างไปแล้วกลับไปก่อนจะลงมือจัดของต่อ
“มาพี่ช่วย” ชานยอลกำลังจะยกกระเป๋าทั้งสองใบออกไปวางหน้าห้อง มือใหญ่ก็เข้ามาคว้าไป ก็ดีเขาจะได้ไปนอนซักที
หลังจากคริสยกของที่ต้องใชเดินทางพรุ่งนี้ไปไว้หน้าห้องเสร็จแล้วก็ต้องแปลกใจที่ชานยอลหลับไปโดยไม่บอกไม่กล่าวสงสัยจะเหนื่อยก็ตัวเล็กของเขาน่ะทั้งทำงานบ้านแถมยังจัดกระเป๋าให้อีก จะหาคนดีขนาดนี้ที่ไหนได้อีกทั้งมีเหตุผลทั้งใจดี
“พี่รักเรามากนะ” คริสก้มลงไปจูบชานยอลเบาๆที่หน้าผากเพราะไม่อยากให้คนตัวเล็กกว่าตื่น
เช้าวันต่อมาทุกคนมารวมกันที่ท่าเรือก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังเกาะส่วนตัวของบริษัท มันเหมือนเป็นวันรวมพนักงานหุ่นส่วนแนวหน้าของบริษัท ซึ่งชานยอลก็รู้จักเกือบทั้งหมดเพรามันไม่ใช่ครั่งแรกที่เจอกัน พี่คริสชอบจัดงานพักผ่อนประจำปีแบบนี้เรื่อยๆ เขาบอกว่าถือเป็นการผ่อนคลายไปในตัว ครั้งนี้ก็มีคนไม่มาก แค่ 9 คน และดูน้อยกว่าปกติทุกทีก็เกือบ 20 คน
ที่ชานยอลรู้จักก็มีพี่ลู่หานที่มากับภรรยา พี่เลย์ที่นึกคึกยังไงมาปกติพี่เขาไม่ค่อยยุ่งกับงานบริษัทเท่าไหร่ จงอินหุ้นส่วนรายใหญ่ที่เป็นรุ่นน้องของลู่หานกับหญิงสาวที่ดูเหมือนจะเป็นแฟนของเจ้าตัว แล้วก็ผู้ชายตัวเล็กอีกสองคนพี่คริสบอกว่าคนที่ชื่อมินซอกจะมาเป็นเลขาพี่ลู่เดือนหน้าเลยกับจงแดน้องมินซอกอยากพามาทำความรู้จัก กับอีกคนชื่อเฉินเป็นน้องพี่มินซอก ตอนแรกเขาก็นึกว่ามินซอกอายุน้อยกว่าเขาแต่กลายเป็นเท่าพี่ลู่กับพี่คริสซะนี้
“ฮา ถึงซักที”เป็นเลย์ที่รีบก้าวออกมาจากเรื่อเพราะเจ้าตัวเมารถเต็มทที
ต่างคนต่างขนยกของเข้าที่พักตนเอง แน่นอที่ชานยอลต้องนอนกับคริส พี่ลู่กับภรรยา จงอินกับแฟนสาว พี่มิซอกกับจงแด แล้วพี่เลย์ที่ต้องนอนคนเดียว ตอนแรกพี่แอลโจที่ต้องมาดันติดธุระซะนี้
“ทำไมทำหน้าเหมือนบูดแบบนั้นครับ” ชานยอลซึ่งไม่รู้ว่าพี่คริสเป็นอะไรหน้าบูดบึ่ง
“ก็ไอจงอินน่ะสิพา...” คริสหยุดพูดกะทันหัน เรื่องนี้มีแค่ลู่หานที่รู้กับเมินอาและดูเหมือนเธอจะจำไม่ได้ซะด้วยสิ “ไม่มีอะไรหรอกแค่เบื่อหน้าไอจงอินที่เอาลูกของหุ้นส่วนพี่มาควงเล่น ชานยอลก็รู้นิสัยมันฟันแล้วทิ้งเกินผู้หญิงคนนั้นแค้นถอนหุ้นไปล่ะซวนแน่”
“ผมพึ่งรู้นะเนี้ยว่าพี่เป็นห่วงเรื่องนี้ด้วย” ชานยอลหยิบเสื้อจากกระเป๋าไปแควนในตู้ก่อนจะกลับมาจ้องสามีที่ต้อนนี้หน้าบอกบุญไม่รับสุดๆ
“ปล่อยมันไปเถอพี่ก็รูจงอินมันเอาตัวรอดเก่ง”
“ก็คงงั้น “ ใบหน้าของชายหนุ่มยังไม่คลายความกังวลแม้แต่น้อย “พี่ขอไปหาไอลู่ก่อนนะ จะไปดูเรื่องอาหารเย็นด้วย”
“ครับๆ” ชานยอลพูดจบก็ล้มตัวนอนแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นเกม
คริสเดินมาจนเจอเป้าหมายที่ต้องการจะคุย ไม่ใช่ลู่หานอย่างที่บอกชานยอลไป แต่เป็นหญิงสาว
“เธอมาที่นี้ทำไม” คริสไม่รอช้ารีบไปคว้าแขนของหญิงสาวมาที่มุมอับ
เธอคนนั้นไม่มีท่าทีหวาดกลัวซักนิดซ้ำยังนึกขำท่าทีร้อนรนของคริสด้วยซ้ำ ก็นะแต่สามีที่ไหนจะใจเย็นตอนที่เห็นเมียน้อยของตัวเองเข้ามาทำความรู้จักกับเมียหลวงนิจริงไหม
“ก็ฉันเป็นแฟนจงอินนิคะ เขาพาฉันมาก็ไม่เห็นจะแปลก” เธอตั้งใจที่จะกวนประสาทร่างสูงตรงหน้าอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันเคยบอกเธอแล้วนะว่าอย่ามายุ่งวุ่นวายกับชานยอล”
“ถึงฉันจะไม่ยุ่ง แต่คุณคิดว่าความลับมันจะเก็บได้นานขนาดไหนกัน เมียคุณไม่โง่ขนาดนั้นหรอกจริงไหม”
“ฉันเตือนเธอแล้วนะว่าอย่าเข้าใกล้ชานยอลอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” แล้วคริสก็เดินออกไป ปกป้องมันเข้าไปดูสิว่าตอนมันไม่เหลือใครมันจะทำยังไงภรรยาที่อ่อนต่อโลกของคุณเหรอจะมาสู้กับฉัน
“มายื่นหัวเราะอะไรตรงนี้ครับ”
“ไม่มีอะไรค่ะ ไปดูทะเลกันนะคะ จงอิน” จากนั้นทั้งคู่จับมือกันไปเดินริมหาด
BITTER Sweet
พระอาทิตย์เริ่มตกดิน ทุกคนจึงมารวมตัวกันเพื่อทานอาหารเย็น อาหารมากมายบนโต๊ะ คริส ลู่หาน เลย์ และจงอินก็กำลังปรึกษากันว่าพรุ่งนี้จะทำกิจกรรมอะไรกัน ส่วนชานยอลที่นั่งข้างมินซอกก็กำลังคุยกันเรื่องร้านกาแฟที่เจ้าตัวสนใจ และอยากลองไปซักครั่งส่วนจงแดก็กินไม่สนใจโลก บรรยากาศวันนี้เต็มไปด้วยความผ่อนคลาย
ยกเว้นหญิงสาวทั้งสองคนที่ดูเหมือนตอนนี้กลายเป็นส่วนเกินของโต๊ะอาหารไปแล้ว
“พรุ่งนี้เราจะไปดูน้ำตกกัน มีใครอยากไปไหนอีกไหม” คริสพูดขึ้นหลังจากปรึกษากันภายในกลุ่มจึงถามขึ้น
ทุกคนต่างบอกยังไงก็ได้ให้คริสกับลู่หานเป็นคนเลือกกิจกรรมในครั่งนี้
“งั้นพรุ่งนี้เจอกัน 10 โมงเช้าแล้วกัน”ลู่หานพูดขึ้นก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกลับห้องตัวเองไป
ตรงนี้ก็คงเหลือแค่เลย์แล้วก็ลู่หานเท่านั้นที่ยังไม่ลุกไปไหน
“นายว่าผู้หญิงที่มากับจงอินเป็นยังไง” ไม่แปลกที่ผู้ชายจะเปิดประเด็นเรื่องหญิงสาว
“ก็สวยดี นายสนใจ?” ลู่หานที่เป็นเพื่อนดื่มในคืนนี้ของเลย์อดสงสัยไม่ได้
“เปล่า” เลย์ถอนหายใจเบาๆ “นายเห็นสายตาเธอตอนมองคริสไหมมันแพรวพราวซะจนฉันสงสัยว่าเธอมาในฐานะแฟนของไอจงอินมันจริงเหรอ”
“นายสงสัยมากไปเปล่าเธออาจจะเห็นว่าคริสหล่อก็ได้” มีแค่ลู่หานเท่านั้นที่รู้ถึงความสัมพันธ์ของสองคนนี้ ถึงแม้เลย์จะเป็นเพื่อนสนิทก็เถอะเรื่องนี้คนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี
“ฉันว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น นายก็รู้เรื่องนี้ด้วยสิท่า”เลย์หัวเราะในลำคงก่อนกระดกเหล้าจนหมดแก้ว
“ฮ่าๆ ไม่ต้องบอกฉันก็ได้เพราะความลับมันไม่มีจริงหรอกนายว่าไหม”เป็นเลย์ที่ไม่รอคำตอบจากเพื่อนข้างๆที่สีหน้าเรียบไม่มีท่าว่าจะพูดอะไรออกมา จะให้ลู่หานบอกทุกอย่างคงเป็นไปไม่ได้เพราะเขาเองก็ไม่ได้รู้เห็นเรื่องนี้โดยตรง
“ว่าแต่นายเถอะ คิดยังไงให้มินซอกมาเป็นเลขา” ลู่หานที่พึ่งดื่มแถมสำลัก อยู่ดีๆก็เปลี่ยนเรื่องกันอย่างนี้เลยเหรอว่ะ
“ก็... นายก็รู้มินซอกเก่งจะตาย คงช่วยงานบริษัทเราได้เยอะเลยล่ะ”
“แค่นั้นจริงเหรอ หึ” เลย์ไม่เชื่อหรอกว่าเพื่อนหน้ากวางของเขาแค่อยากให้มินซอกมาช่วยงานบริษัทอย่างเดียวน่ะ
“ฉันจะกลับไปทำงาน” อะไรของมันว่ะลู่หานล่ะงงกับความอินดี้ของมันจริงๆ “แต่มินซอกต้องเป็นเลขาฉันแทนนาย”
“เฮ้ย!”
“ตกใจอะไรว่ะ ก็ฉันจะไปทำงานตามที่พวกนายขอแล้วไง แล้วก็ข้อตกลงในครั่งนี้คือ มินซอก คริสน่ะตกลงอยู่แล้ว ว่าแต่นายยอมหรือเปล่า” เขาล่ะอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ เครียดจนหน้าเหี่ยวแล้วเพื่อน
“ไม่ได้เว้ยมินซอกเป็นเลขาฉันไม่ใช้นาย”
“แต่มินซอกยังไม่ได้ตกลงจะเป็นเลขานายเลย เขาแค่บอกว่าจะเข้ามาช่วยแผนกวางแผนงานเฉยๆ อีกอย่างนายอยู่การตลาด” แหม่ขนาดไม่เขาทำงานล่ะรู้ดีจริงนะลู่หานได้แต่นินทาในใจ ก็ไอบ้านี้สิพูดได้กวนส้นมาก
“ไม่ได้ก็คือไม่ได้ และนายก็ต้องเข้ามาทำงานด้วยถ้าฉันไม่เจอนายที่บริษัทล่ะก็ฉันจะไปลากนายมามัดไว้กับเก้าอี้ห้องทำงานแน่” เถียงกับมันแล้วไม่ชนะแน่ลู่หานขอตัดบทเลยแล้วกัน
“หวงจริงๆนะเพื่อนคนนี้ แต่งานแล้วก็ปล่อยให้มินซอกเขาเลือกทางของตัวเอง มึงจะเอาเขามาอยู่ข้างๆมึงตลอดชีวิตอย่างนี้ไม่ได้นะเว้ย” ห่างกันไม่ได้เลย
“แต่กู...” อี้ชิ้งได้แต่ถอนหายใจ ปัญหาของเพื่อนทั้งสอง คนหนึ่งก็บ้าที่ริอาจไปมีบ้านเล็ก ส่วนอีกคนก็ไม่รู้ใจตัวเอง อี้ชิ้งเป็นคนอ่านคนเก่งแล้วยิ่งกับเพื่อนสนิทมองตาก็รู้ใจแล้ว
“ฉันล่ะไม่เข้าใจนายจริงๆ แต่อย่าให้มันเลยเถิดก็แล้วกัน ถ้าเกิดอะไรขึ้นแค่คำขอโทษเหมือนเมื่อก่อนมันไม่พอหรอกนะ” เขาแค่อยากจะเตือนสติลู่หานแต่งงานแล้วด้วย
“ฉันจะพยายาม” หน้าลู่หานเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด
อี้ชิ้งได้แต่ตบบ่าเพื่อเพื่อปลอบใจ แต่เขาไม่เชื่อหรอกเจอหน้ากันทุกวัน อยู่ใกล้กันทุกวัน ลู่หานจะหลอกตัวเองต่อไปได้จริงเหรอ
หลอกตัวเองว่าไม่ได้รักคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อสนิทที่สุด
ความคิดเห็น