คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 02
บรรยากาศงานแต่งของลู่หาน เป็นงานที่ค่อนข้างหรูหราเพราะเท่าที่รู้เจ้าสาวเป็นคนออกแบบและประสานงานเองโดยเพื่อนเข้าแทบไม่ได้เข้าไปยุ่ง
มินซอกอยู่ในชุดสูทสีเทาที่ตัดกับผิวขาวของเจ้าตัวไม่น้อย ผมที่เซตขึ้นเพื่องานนี้ทำให้เจ้าตัวดูสมกับคนวัย 25 ปลายๆ ส่วนเด็กอีกสองคนข้างหลังก็ไม่น้อยหน้าทั้งคู่อยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแล็คสีเลือกหมู ทั้งๆที่มินซอกบอกแล้วว่าไม่ต้องมาก็ได้จะได้พักยาวๆ เจ้าสองคนนั้นก็จะมาท่าเดียว บอกเขาว่าอยากเห็นเจ้าสาวพี่ลู่ แต่มิซอกว่าเจ้าเด็กพวกนั้นมากินอาหารในงานมากกว่า ตั้งแต่เดินเข้ามายังกินไม่หยุดเลย
ตอนนี้ก็ได้เวลาเริ่มงานลู่หานที่ออกมากับเจ้าสาวของเขามินอา สายตาทุกคนจดจ้องไปที่ทั้งคู่ แสงแฟลตจากทั้งนักข่าวและคนในงานฉายคู่แต่งงานที่กำลังเดินขึ้นเวที สายตาของมินซอกสบกับลู่หานพอดีดวงตากวางมีแต่ความดีใจที่ปิดไม่มิด ส่วนเจ้าสาวเพื่อนเขาน่ะเหรอถึงเธอจะยิ้มเขาก็สัมผัส บรรยากาศแปลๆที่เข้ามารบกวนได้ ตอนนี้ทั้งคู่ขึ้นไปบนเวทีแล้ว คู่รักที่ใครๆต่างอิจฉากำลังให้สัมภาษณ์พิธีกรบนเวที
งานล่วงเลยมาถึงกลางดึกทั้งคู่ก็เริ่มลงมาจาเวทีเพื่อทักทายแขกในงาน
BITTER Sweet
“หนูมินซอกใช่ไหมลูก”
“ครับ อ่า คุณน้าสวัสดีครับ” มินซอกก้มหัวลงเล็กน้อยเพื่อทักทายแม่ของลู่หาน หรือ คุณนาย ลู่ เชี่ยน ที่มายืนข้างหลังเขาเมื่อไหร่ไม่รู้
“เรียกแม่ก็ได้จ้ะ ยังไงหนูก็สนิทกับลู่หาน ขอบคุณหนูนะที่ช่วยดูแลลู่หานตอนน้าไม่อยู่ ลูกของหน้าคงทำให้หนูลำบากหน้าดู”
“ไม่เป็นไรครับ เรา เป็นเพื่อนสนิทกันไม่ลำบากหรอกครับ”
“จริงๆแล้วแม่น่ะอยากให้หนู...” ยังไม่ทันที่คุณนายลู่จะพูดจบ เสียงหนึ่งก็ขัดขึ้นมา
“คุณแม่คะ!! ” เจ้าสาวคนสวยที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนทั้งคู่
หญิงสาวมองหน้ามินซอกด้วยสายตาไม่เป็นมิตรนัก แต่มินซอกก็ไม่แปลกใจแต่สายตาที่เธอมองแม่สามีนี้สิเขาว่าเป็นสงครามประสาทย่อมๆได้เลย มินอาเป็นคนเริ่มที่จะพูดก่อนในสถานการณ์น่าอึดอัดนี้
“อ้าว มินซอกไม่เจอกันนานสบายดีไหม” น้ำเสียงกระแทกกระทั้น ทำให้มินซอกคิ้วกระตุกนิดๆ
“อืม สบายดี” มินซอกอย่าจะออกไปจากตรงนี้แล้ว ทำไมมันเครียดอย่างนี้เนี้ย
“ฉันก็ว่างั้นแหละ แล้วใครไปชวนนายมาละ ฉันนึกไม่ถึงว่านายจะมางานแต่งฉัน” เธอมองเขาด้วยสายตาเหยียดๆ
“ลู่หาน” แม่ลู่หานเป็นคนตอบคำถามนี้ พร้อมจ้องตาเธออย่างท้าทาย มินอาดูอึ้งไปนิดๆ เธอมองมาทางเขาอย่างต้องการคำตอบ
“เขาเป็นเพื่อนสนิดที่สุดของสามีเธอ เรื่องแค่นี้คนที่เป็นภรรยาน่าจะรู้นะ” ตอนนี้มินซอกอยากกลับบ้านแล้ว ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้ที่สุด
“ฉันนึกว่าเขามาในฐานะเพื่อนใครซักคนในงานน่ะค่ะ ไม่คิดว่า..”หญิงสาวยังไม่ทันพูดจบคุณนายลู่ก็พูดแทรกขึ้นมา
“เธอควรใส่ใจอะไรมากกว่านี้นะ จะเป็นสะใภ้บ้านนี้น่ะ” คุณนายลู่มองมินอาตั้งแต่หัวจรดท้าว
“หนูรู้ว่าคุณแม่ไม่ชอบหนูแต่จะมาพูดอะไรตอนนี้มันก็สายไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ” เธอจองหน้ากลับอย่างไม่กลัว แต่ลู่ เชี่ยน ก็ยังคงพูดต่อและจ้องเธอกลับ
“ ทำงานเป็น ที่สำคัญที่สุด... มีเหตุผล และ ความซื่อสัตย์”
“คุณแม่พูดอย่างนี้ไม่ให้เกียรติ หนูเลยนะคะ นี้ก็งานแต่งหนู !! ”
“ฉันพูดไม่ให้เกียรติเธอยังไง”
“พูดแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นไงคะ”
“ไหนล่ะคนอื่น ตรงนี้มีหนูมินซอก เพื่อนสนิทลู่หาน เหมือนลูกของฉันอีกคน” ลู่ เชี่ยน ดึงมินซอกมายืนข้างๆเธอ “แล้วฉันไม่ได้จะพูดให้เธอเสียหาย หรือไม่ให้เกียรติอย่างที่เธอคิด ฉันพูดตามที่ฉันเห็นละเธอก็น่าจะรู้ดีว่าฉันหมายถึงอะไร”
“ไปเถอะมินซอก แม่อยู่ตรงนี้นานๆมีหวังเป็นลมแน่ คนแก่ก็แบบนี้ละ ฮ่าๆ” ถือเป็นการจบบทสนทนาที่ทำให้บุคคลที่สามอย่างมินซอกสงสัยไม่น้อย แต่เรื่องของครอบครัวคนอื่นมินซอกไม่อยากเข้าไปยุ่ง เขาโค้งให้กับเพื่อนสาวเล็กน้อยว่าตนจะไปแล้ว แต่เธอกลับไม่ได้สนใจการกระทำนั้นเลย
ใบหน้าของมินอาตอนนี้ดูโกรธเกรี้ยวสุดๆแต่เธอก็พยามระงับอารมณ์ของตัวเองเอาไว้วันนี้คือวันที่เธอควรจะมีความสุข รอยยิ้มที่ถูกสร้างขึ้นมากลับมาบนใบหน้าของเธออีกครั้ง แต่ในใจเธอนั้นไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าเธอคิด หรือจะ ทำอะไร...
BITTER Sweet
ลู่ เชี่ยน ที่ตอนนี้พามินซอกมาอยู่บริเวณที่ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ เธอมองไปรอบๆงานที่ตอนนี้เจ้าสาวเดินไปอยู่เคียงข้างเจ้าบ่าวทั้งคู่พูดคุยกับแขกในงาน มินซอกเดาว่าคงเป็นหุ้นส่วนธุรกิจที่ลู่ หานเคยเล่าให้ฟัง
“มินซอก แม่ถามอะไรหนูต้องตอบตามความจริงนะลูก” น้ำเสียงของเธอไม่สู้ดีนะ เขาได้แต่พยักหน้าตอบไป
“หนูรักลูกน้าไหม”
“รักสิครับ ก็เขาเป็นเพื่อนสนิทผม”
“ไม่ใช่แบบเพื่อนสนิทแต่แบบคนรักละ” เธอมองผมด้วยสีหน้าจริงจัง มินซอกไม่รู้ว่าแม่ของลู่หานคิดอะไรถึงถามมาแบบนั้น
“อ่า คุณน้าถามอะไรแบบนั้นล่ะครับ ผมจะรักเขาแบบนั้นได้ยังไง อีกอย่างเราก็เป็นผู้ชายทั้งคู่” ไม่รู้ว่าน้ำเสียงที่พูดออกไปตลกหรือยังไง ถึงทำให้ลู่ เชี่ยง หันมามองพร้อมหัวเราะเบา
“เหรอจ้ะ ถ้าหนูยอมรับแม่ก็จะยกเจ้าลู่ให้เลยนะเนี้ย แม่อยากให้คนดีๆมาดูแลลู่หาน และ แม่ถูกชะตากับหนูมากนะ” ลู่ เชี่ยงตบบ่าเล็กนั้นเบา แต่ตาเธอยังคงมองไปรอบๆงาน
“แม่อาบน้ำร้อนมาก่อนแม่พอจะดูออกว่าเราสองคนคิดอะไร แต่ตอนนี้ลูกชายแม่คงหลงมินอาเต็มที่จนไม่คิดทบทวนให้ดีก่อน หนูมินซอก...”เธอหยุดไปซักพัก ละสายตาจะคู่บ่าวสาวมามองที่มินซอก
“ถ้าหนูจะแต่งงานกับใครซักคน คิดให้ดี ดูกันไปนานๆ แล้วหนูจะมีความสุขกับชีวิตคู่”
“ครับ” มินซอกตอบได้แค่นั้นจริงๆ ลู่ เชี่ยงพูดเหมือนรู้อะไรมาแต่มินซอกคิดว่าเขาก็เป็นคนดูคนเก่งพอสมควร หรือมินซอกอาจจะคิดมากไปเองก็ได้
“งั้นน้าไปเดินดูรอบๆงานก่อนนะ”
“ครับ” มินซอกโค้งอย่างสุภาพให้คนแก่กว่าที่ตอนนี้เดินออกไปแล้ว
มินซอกยังคงยืนอยู่ตรงนี้ ยืนมองงานแต่งของลู่หาน ในมุมเงียบๆของงานนี้ เขาว่าเขาทำใจได้แล้วนะที่จะเห็นภาพนี้ แต่ก็รู้สึกโหวงๆไม่ได้ เพื่อนสนิทที่สุดของเขากำลังมีครอบครับที่สมบรูณ์ เขายังจำวันที่เจอลู่หานครั่งแรกได้ตอนนั้นอยู่ปีหนึ่งน้ำหนักตัวก็ยังไม่ลด แว่นหนาเตอะ จึงทำให้การเขาไปใช้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะคนต่างรุมแต่จะแกล้งเขาทั้งรุ่นพี่ และรุ่นเดียวกัน ก็คงมีแต่ลู่หานมั้งที่เขามาชวนคุยถึงตอนแรกจะชอบแกล้งเขาเรียกได้ว่าเป็นแกนนำเลยแหละ แต่ก็เป็นคนที่ชวนให้เขาเปลี่ยนตัวเอง ทั้งเล่นบอล ว่ายน้ำ คอสลดอาหาร สารพัดวิธีที่มาช่วยเขา ก็เคยถามนะว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ ลู่หานก็แค่ยิ้มและบอกเขาว่า ‘ฉันหล่อขนานนี้ จะให้มีเพื่อนสนิทอ้วนตุตะแบบนี้ได้ไง แบบอาจจะทำให้เรตติ้งฉันตกเลยนะ’
มันเป็นช่วงเวลาดีๆจนทำให้มินซอกเผลอใจไปชอบเพื่อนสนิทตัวเอง ใช่ว่าตั้งแต่เขาดูดีขึ้นก็มีคนเขามาจีบพอสมควรทั้งหญิงทั้งชาย บางคนก็คบด้วยแต่ไม่กี่เดือนก็โดนบอกเลิก หาว่าเขาไม่สนใจบ้าง หนอนหนังสือบ้าง แต่คนที่อยู่ข้างๆเขาหนอนนั้นก็คงมีแต่ลู่หานที่เขามากวนประสาท จนทำให้เผลอคิดว่าแค่มีลู่หาน ความรักก็คงไม่สำคัญ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว
“นี้!! พี่มินซอก” มินซอกสะดุ้งเล็กน้อย เพราะเสียงดังข้างหูเขา
“มีอะไรจงแด เรียกพี่ซะเสียงดัง” คนตัวเล็กสายหัวไล้ความมึนเล็กน้อย
“ก็พี่มั่วแต่เหม่อ แต่ชั่งเหอะพี่ลู่หานเรียก บอกว่าให้รีบพาไปหาด่วน” แล้วมินซอกก็ถูกจงแดและดีโอไปหาเจ้าบ่าง เจ้าสาวที่ กำลังคุยอยู่กับชายหนุ่มสองคน คนตัวสูงท่าทางมีภูมิฐานรู้สึกจะเป็นคริสเป็นประธานบริษัท ที่ลู่หานเป็นรองประธานอยู่ แต่อีกคนมินซอกก็ไม่รู้จักเป็นผู้หญิงรูปร่างดี กำลังควงแขนชายหนุ่ม
“มาซักที นี้เพื่อนสนิทฉันมินซอก มินซอกนี้คริสลูกพี่ลูกน้องฉัน” ทั้งคู่โค้งให้กัน ก่อนที่คริสจะเริ่มพูดเกี่ยวกับเรื่องการว่างแผนธุรกิจที่จะมาปรึกษามินซอก แต่มีธุระด่วนเลยขอตัวกลับก่อน ตอนนี้ก็เหลือเขา ลู่หานแล้วก็มินอา ส่วนเจ้าสองคนนั้นน่ะเหรอลากเขามาถึงก็รีบวิ่งไปหาของกินแล้ว
บรรยากาศที่น่าอึดอัดมินซอกอกเลยก้าวออกจากตรงนั้นแต่ลู่หานกลับคว้าข้อมือเล็กนั้นไว้ ทั้งคู่จ้องกันซักพักก่อนมินซอกจะเป็นคนเริ่มพูด
“มีอะไร” มินซอกจ้องหน้าลู่หานอย่างต้องการคำตอบ เขาอยากออกไปจากตรงนี้เต็มที
“ก็นายอ่ะ มางานฉันก็ไม่ยอมมาทัก ฉันแต่ไปคุยกับแม่ฉันเนี้ยนะ ถ้าไม่เจอเด็กสองคนนั้นฉันคงนึกว่านายใจร้ายไม่มางานฉันจริงๆนะเนี้ย” ลู่หานปล่อยมือมินซอกแล้วทำท่าเช็ดน้ำตา ทำให้คนตัวเล็กยิ้มออกมาน้อยๆ
“ฮ่าๆ เป็นเจ้าบ่าวแล้วอย่าขี้น้อยใจสิ ก็ฉันเห็นนายคุยกับคนในงานฉันเลยไม่อยากกวน” ทั้งคู่คุยกันอย่างกับไม่เจอกันนานจนลืมไปว่าตรงนี้ยังมีมินอาอยู่อีกคน จนเจ้าสาวตัวเล็กทนไม่ไหวเขย่าแขนลู่หาน บอกว่าเธอเพลียเพราะตอนนี้เวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยงคืนแล้ว
“มินอาไปอยู่กับคุณแม่ก่อนนะ เดี๋ยวลู่ตามไป” เธอแค่ยิ้มก่อนจะเดินไปแต่สายตาที่มองก่อนไปนั้นมินซอกจะทำเป็นไม่เห็นแล้วกัน
“นายว่าไงจะไปเป็นที่ปรึกษาประจำให้บริษัทเราไหม”
“ไม่ล่ะ แค่งานที่ร้านก็จะแย่แล้ว รอให้ทุกอย่างเข้าที่กว่านี้แล้วกัน ถ้าเขายังอยากรับฉันอยู่ฉันก็ตกลง” มินซอกตอบตามความจริงเขาอยากให้ให้ทุกอย่างลงตัวก่อน ฝึกเด็กสอนคนนั้นอีกหน่อยเขาว่าช่วยได้มากทีเดียว
“อืม ฉันไม่บังคับ บริษัทอยากได้คนทำงานเก่งแบบนายจริงๆนะ แล้วฉันก็อยากทำงานกับนายด้วย” อย่ามองด้วยสายาลูกกวางอยางนั้นสิ ถ้าเขาใจอ่อนขึ้นมาล่ะ เราควรทิ้งระยะห่างแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว
“โอเค ซักเดือนหน้าถ้านายรอได้ฉันก็ตกลง” มินซอกตอบอย่างเหนื่อยๆการที่จะให้สู้กับลูกตื้อลู่หาน มินซอกขอผ่าน
“จริงนะมินซอก เย้ๆ” ลู่หานโผลกอดมินซอกพร้อมสายไปมาเหมือนกอดตุ๊กตาอย่างไรอย่างนั้น
ทั้งคู่เดินออกไปหน้างานพร้อมกัน ตรงนั้นจงแดกับดีโอรอเขาอยู่แล้ว ต่างคนต่างแยกย้ายไปบ้านของตัวเอง
รถญี่ปุ่นขนาดกลางแล่นอยู่บนท้องถนนที่โล่งซึ่งทำให้รู้ว่าเวลาล่วงเลยมาจนจะเช้าแล้ว จงแดกับดีโอบอกว่าจะไปข้างบ้านเขาเพราะไม่อยากให้มินซอกส่งพวกเขาเสร็จแล้วกลับบ้านคนเดียว เสียเวลา เปลืองน้ำมัน เจ้าสองคนนี้จะว่าเหมือนน้องก็ว่าได้มินซอกเสียแม่ไปตอนจบมหาลัย พี่น้องก็ไม่มี เด็กสอคนนี้เลยเป็นเหมือนครอบครัวของเขา ตอนนี้ดีโอก็หลับไปแล้วเหลือแค่เข้ากับจงแดที่ยังจ้องมองพื้นถนนข้างหน้า
“พี่มินซอกไหวนะ” จงแดถามมินซอกด้วยความเป็นห่วงๆ
“ทำไมถึง...” ยังไม่ทันมินซอกจะพูดจบ เสียงหนึ่งก็แทรกขึ้นมา
“น้ำตาพี่ไหล ไม่รู้ตัวเลยเหรอครับ” เป็นดีโอที่ตื่นเมื่อไหร่ไม่รู้ยื่นหน้ามาหาเขา
มินซอกไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองร้องไห้ตั้งแต่เมื่อไหร่ อยู่ดีๆน้ำใสๆก็ไหลลงมาอาบแก้ม มือเล็กปาดมันออกอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาได้แต่บอกพวกเด็กๆว่า “พี่ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง” แค่นั้นจริงๆ
ช่วงคุยกับ fonshi - แก้คำผิดค่ะ ยังมีคนรออยู่ไหมมมม ขอเสียงหน่อย 5555
ความคิดเห็น