ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BITTER Sweet - krisyeol l lumin { EXO }

    ลำดับตอนที่ #2 : 01

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ย. 57


    ห้องของคอนโดหรูถูกตกแต่งด้วยเทียน และกระดาษสี เพื่อการเฉลิมฉลอง ชานยอลบรรจงแต่งห้องนั่งเล่นอย่าดี เพื่อวันครบรอบของเขากับคริส 2 ปีแล้วสินะที่เราแต่งานกัน พอนึกย้อนไปก็ยังรู้สึกเขิน ตอนที่พี่คริสของเขาแต่งงานกลางมหาลัย ก็ตรงนั้นน่ะเพื่อนๆเขากลังลงมาจากตึกเรียนคนน้อยซะที่ไหน

     

    “อ่า เสร็จแล้ว” ชานยอลมองดูผลงานของตนอย่างภาคภูมิใจ อาหารถูกจัดไว้อย่างสวยงามบนโต๊ะกลางห้อง พร้อมจุดเทียน กะเซอร์ไพรส์พร้อมกดเบอร์ในโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่พี่คริสซื้อให้เมื่อเดือนที่แล้ว เพราะชานยอลซุ่มซามทำตกลงไปในหม้อที่น้ำกำลังเดือด แต่พี่คริสก็มส่วนผิดแล่นทำเขาตกใจ มากอดจากข้างหลังแบบนั้น ทำให้อาหารมื้อนั้นเป็นอันยกเลิก สุดท้ายก็ต้องออกไปกินข้าวข้างนอก

    “พี่คริสรับสักที

     

    “น้องยอลมีอะไรครับ”

     

    “พี่คริสถึงไหนแล้ว”

     

    ตุบ เสียงเหมือนโทศัพท์กระทบอะไรซักอย่างรุนแรงแต่สายยังไม่ได้ตัดไป

     

    “....”

     

     “พี่คริส...  พี่คริสครับเป็นอะไรรึเปล่าทำไมไม่ตอบชานยอลละ พี่คริสสสสสสสสส” เงียบไม่มีสัญญาณตอบรับ - ผมกังวลจังทำไมเขาไม่ตอบผม เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าหรือผมโทรไปตอนเขาขับรถอยู่เกิดอุบัติเหตุรึเปล่า น้ำตาของชานยอลค่อยๆไหลอาบแก้ม

     

    “ฮึก พี่คริสเป็นอะไรรึเปล่า ตอบชานยอลสิ “ ชานยอลกำโทรศัพท์แน่นควาเครียด ความกังวลเริ่มก่อตัวขึ้น

     

    กริ้ก เสียงไขกุญแจห้อง ไม่สามารถเรียกสนใจจากคนในห้องได้เลย ผู้ชายตัวสูงสาวเท้าเข้ามาใกล้ชานยอลเรื่อยๆ

     

    “อ๊ะ”  ร่างที่ร้องไห้อยู่ตรงพื้นสะดุ้งขึ้นเมื่อมีใครเข้ามากอดจากด้านหลัง พอหันกลับไปพบคนข้างหลังคือใครชานยอลยิ่งตกใจ ช่อดอกไม่ใหญ่บังหน้าผู้มาเยือนใหม่

     

    “พะ...พี่คริส” คริสคุกเขาตรงหน้าชานยอลพร้อมยื่นช่อดอกไม้นั้น

     

    “พี่ให้ครับ แด่วันครบรอบของเรา” พร้อมร้อยยิ้มหวาน คริสไม่เคยคิดว่าจะรักคนตรงหน้านี้มากขนานแต่งงานกัน เสือผู้หญิงอย่างเขาจะมาหยุดที่ใครสักคนมันไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ชานยอลนั้นทำให้เขารักจนถอนตัวไม่ขึ้นรุ่นน้องในมหาลัยที่มีรอยยิ้มสดใสตลอดเวลา

     

    ร่างเล็กกว่าโผกอดคริสเหมือนกลัวเขาจะหายไป พร้อมปล่อยโฮออกมาเหมือนเด็ก

     

    “พี่อยู่ตรงนี้แล้วร้องไห้เหมือนเด็กไปได้”พร้อมเช็ดน้ำตาจากร่างเล็กเบาๆ

     

    “ฮึก ก็พี่คริสน่ะสิ ฮึก อยู่ดีๆก็เงียบไปแถมเสียงเหมือนโทรศัพท์กระแทกอะไรแรงๆ ผมก็นึกว่าพี่เป็นอะไร“ ชานยอลสะอื้นไม่หยุดริสจึงกอดร่างเล็กแน่น

     

    “พี่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ร้องนะครับ เรามาทานอาหารที่ชานยอลเตรียมไว้ดีกว่าพี่หิวแล้ว” คริสลูบหัวชานยอลเบาๆพร้อมจูงมือไปที่โต๊ะอากหาร

     

    หลังจากทานอาหารที่ชานยอลเตรียมไว้อย่างอิ่มไปทั่วกัน ก็ช่วยกันเก็บจานล้าง เก็บโต๊ะจนห้องสะอาดแต่มันก็ยังเหลือกลิ่นอายของความสุขที่ทั้งคู่มอบให้กัน เมื่อเก็บทุกอย่างเรียบร้อยแล้วทั้งคู่ก็พากันไปนั่งที่โซฟา ดูหนังเรื่องโปรด

     

    หนังกำลังอยู่ในช่วงที่น่าเบื่อของใครหลายๆคนชานยอลจึงไม่พลาดโอกาสถามเรื่องที่พี่คริสไมยอมตอบเขาปล่อยให้เขาร้องไห้เหมือนคนบ้า มันน่างอนไหมละ “แล้วพี่คริสทำไมเงียบไปตอนคุยโทรศัพท์ครับ ยอลเป็นห่วงรู้ไหม” คนในออมแขนเงยหน้าไปถามร่างสูงที่กำลังให้ความสนใจฉากหน้าเบื่อตรงหน้า

     

    “พี่คริส ! ได้ยิ่นที่ชานยอลถามไหม” เอาสิถ้ายังไม่สนใจอีกเขาจะไปนอนแล้ว

     

    “ครับๆ”

     

    “ที่ชานยอลถาม ได้ยินไหมครับ”จ้องหน้าอกคนอย่างคาดโทษ ถ้าไม่ตอบนะ คืนนี้ล๊อกห้อง

     

    “อ๋อ คือพี่ทำโทรศัพท์ตกน่ะ เลยจะเข้ามาเซอร์ไพรส์เงียบๆ เข้ามาตกใจเลยชานยอลร้องไห้ฮือไม่หยุด เหมือนเด็กเลย” เขย่าหัวร่างเล็กด้วยความหมั่นเคี้ยวแต่คนข้างหน้านะสิ ไม่เล่นกับเขาเลย แถมยังปัดมือเขาออกอีก

     

    “ชานยอลไม่ใช่เด็กนะ” แต่การกระทำนี้ตรงข้ามนะครับ - คริสได้แต่คิดในใจ ขืนตอบไปไม่ได้นอนในห้องแน่ไอคริส

     

    “โอเคครับ ไม่เด็กก็ไม่เด็ก”

     

    “พี่คริสอย่าเล่นแบบนี้อีกนะ”

     

    “ครับพี่จะไม่เล่นแบบนี้แล้ว” พร้อมกอดคนตัวเล็กแน่น

     

    ตอนนี้ชานยอลหลับไปแล้ว คริสอุ้มชานยอลอย่างเบามือเพื่อไม่ให้คนตัวเล็กในอ้อมแขนตื่น พร้อมจูบราตรีสวัสดิ์ แล้วล้มตัวนอนข้าง

     

    คืนนี้เขากะจะทำการบ้านกับชานยอลสักหน่อย แต่เจ้าตัวเล็กคงเหนื่อยเกินไป เล่นจัดห้องทำอาหารให้ขนานนี้ ไม่รู้กระทะไม่ไปกี่ใบแล้ว

     

    ความสุขมักจะผ่านไปเร็วแต่มันคือความทรงจำที่ล้ำค่าที่สุด และเขาจะไม่ให้ใครหรืออะไรมาพรากความสุขนี้เด็จขาด

     

     

    BITTER Sweet

     

    ลู่หานรีบแต่งตัวออกจากบ้านเพื่อไปบอกข่าวดีให้กันเพื่อนสนิทของเขา แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่จะเปลี่ยนไป

     

    ร้านกาแฟใจกลางเมือง บรรยากาศอบอุ่นของร้านทำให้มีลูกค้าแวะเข้ามาอยู่เรื่อยๆอีกทั้งกาแฟรสชาติดีทำให้มีลูกค้าประจำอยู่ไม่น้อย มินซอกเจ้าของร้านตัวน้อยที่วุ่นอยู่หน้าเครื่องทำกาแฟ เพราะตอนเที่ยงลูกค้าจะเยอะเป็นพิเศษ ดีที่มีลูกมืออย่างจงแดกับดีโอ ไม่งั้นบาริสต้าคนนี้ต้องตายแน่ๆเลย

     

    “ยินดีต้อนรับครับ อ้าวพี่ลู่หาน” ดีโอที่ทำหน้าที่ต้อนรับอย่างดี เขาพาผมไปนั่งที่ประจำในมุมที่น้อยคนนักจะเข้าไปนั่ง   

     

    “สวัสดีดีโอ”

     

    “เดี๋ยวผมไปเรียกพี่มินซอกให้นะครับ” ลู่หานมองไปที่เค้าเตอร์ร้านแล้วเพื่อนตัวเล็กเขายังยุ่งวุ่นวายอยู่เลย

     

    “ไม่ต้อง ให้ลูกค้าน้อยก่อนดีกว่า พี่รอได้”

     

    “อ่า.. ครับ แล้วพี่จะรับอะไรครับ”

     

    “พี่เอาคาปูชิโน่ร้อนแล้วกัน”

     

    “ครับ สักครู่นะครับ”

     

    เงยหน้ามาจากโทศัพท์อีกที เวลาล่วงเลยไปจนฟ้าข้างนอกเริ่มมืดแล้ว ผู้คนก็บางตาลงบ้างแล้ว เพราะร้านกำลังจะปิด เด็กสองคนนั้นก็ช่วยกันเก็บร้าน  มินซอกจึงมีเวลามานั่งคุยกับเพื่อนที่มาหาเข้าหาตั้งแต่บ่าย

     

    “ขอโทษนะที่ทำให้นายต้องรอนาน” เพื่อนตัวเล็กล้มตัวนั่งตรงข้ามเขา  หน้าที่ยังแต้มด้วยแดงจากความร้อนของไอนำจากเครื่องทำกาแฟยังไม่หายไป

     

    “อืม พักก่อนไหมหน้ายังแดงอยู่เลย” พูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง ลูกค้าวันนี้เยอะเป็นพิเศษอาจจะเพราะเข้าฤดูหนาวผู้คนเลยต้องหาอะไรอุ่นๆทานกัน เพื่อนเขาเลยต้องทำงานหนักเป็นสองเท่า

     

    “โอเค แต่ฉันไม่เป็นไรหรอก แค่นี้จิ๊บๆ” คนตัวเล็กพูดอย่างหน้าเอ็นดู ตัวแค่นี้ทำเป็นเก่งลู่หานได้แต่ยิ้ม ขืนพูดไปได้โดนกาแฟสาดหน้าแน่

     

    ทั้งคู่คุยกันตามประสาเพื่อนขนานไม่เจอกันแค่สามวันก็เหมือนจะมีเรื่องเล่าเป็นปี ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของร้านมินซอกที่เจ้าตัวเล็กวางแผนจะสอน ดีโอ กัน จงแดเรื่องการทำกาแฟอย่างจริงจัง

     

    “แล้วนายมีอะไร ยอมทนรอจนฉันเลิกงานเนี้ย”

     

    “ฉันบอกแล้วอย่าตกใจเป็นลมไปละ”

     

    “บอกมาสิ เดี๊ยวแกล้งเป็นลมให้” มินซอกพูดติดตลก

     

    “มินซอกฉันจะแต่งงาน”ลู่หานพูด้วยน้ำเสียงดีใจ พร้อมเลื่อนมือไปกุมมือเพื่อตัวเล็ก คนตัวเล็กเบิกตากว้าง 

     

    “กับ....มินอา ” มินซอกค่อยๆดึงมือตนออกมา มองลู่หานด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก จะดีใจก็ไม่เสียใจก็ไม่ แต่มันก็แค่แป๊บเดียวเท่านั้นก่อนจะเปลี่ยนเป็นความยินดี

     

    “ก็ใช่น่ะสิ จะเป็นใครอีกหละ แล้วนายจะไปงานแต่งเราไหม อาทิตย์หน้า”

     

    “ไม่รู้สิ ฉันต้องดูเด็กสองคนนี้จะให้อยู่ร้านกันสองคนคงไม่ไหว” มินซอกมองไปที่ดีโอกับจงแดที่กำลังช่วยกันเก็บร้าน จริงๆก็แค่ข้ออ้างที่จะไม่ไปแค่นั้นแหละ

     

    “ก็เอาสองคนนั้นไปด้วย ปิดร้านซักวันไม่ทำให้นายจนหรอกน่า งานแต่งเพื่อนทั้งที” อ่อนว่อนเพื่อนตัวเล็ก ก็เขาอยากให้เพื่อนสนิทไป มินซอกจะว่าเป็นเพื่อนตายเลยก็ได้ จะไม่ได้ไง

     

    “แต่...”

     

    “ดีโอ จองแด อาทิตย์ หน้ามินซอกให้หยุดหนึ่งวันแต่พวกนายต้องไปงานแต่งฉัน โอเคไหม” ไม่ทันที่มินซอกจะพูดจบลู่หานก็รีบตัดบทไปซะก่อน

     

    “ครับ!” ตอบพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง นานๆเด็กพวกนี้จะได้พักไม่แปลกเลยที่รีบตอบโดยยังไม่ดูสีหน้าของเจ้าของร้านที่ตอนนี้บึ้งยิ่งกว่าตอนที่รู้ว่าตนสอบไม่ผ่าน

    “เห็นไหมเด็กๆยังเห็นด้วย” แต่สีหน้ามินซอกบึ่งยิงกว่าเดิมจะมันมือชกกันแบบนี้เลยเหรอลู่หาน!!

     

    “ถ้านายยังปฏิเสธอีกฉันจะมาจัดงานแต่งกลางร้านนายเลย เอาสิ” มินซอกกำลังจะพูดก็ถูกขัดอีกครั้งจนเจ้าตัวเล็ก ทำหน้าปลงๆ เพราะเขาก็หมดข้ออ้างแล้วเหมือนกัน

     

    “โอเคๆ นายนี้มันเผด็จการชะมัด

     

    “ก็มินซอกน่ะสิมีเวลาหยุดทั้งที่ก็ไม่ใช้ ฉันหวังดีนะเนี้ย หรือนายอิจฉาที่ฉันหนี้ไปแต่งงานก่อน โอ๋ๆอย่าร้องนะครับหนูมินซอก” พูดพร้อมโยกหัวคนตัวเล็กไปมา แต่ถูกปัดออก สีหน้าเหนื่อยๆของมินซอกทำให้เขาไม่กล้าเล่นต่อ

     

    “จริงด้วยพี่มินซอกหยุดซัก สองสามวัน” จงแดพูดขึ้น

     

    “ใช่ๆ” แถมด้วยดีโอ ที่เป็นคู่หูดูโอ้ขอวันหยุด

     

    “ก็ได้ ฉันให้พวกนายหยุดอีกสองวันหลังงานแต่งลู่หาน โอเคไหม นี้เพราะเห็นทำงานกันหนักนะเนี้ย”

     

    “รับทราบคร๊าบบบ” ทั้งสองตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมช่วยกันเก็บร้านต่อ

     

    “เป็นอันว่า ตกลงนะคับหนูมินซอกเดี๋ยวพี่ลู่จะรีบส่งการ์ดมาให้เลย”

     

    “อืม กลับบ้านได้แล้วคุณเจ้าบ่าว” มินซอกลุกพร้อมเดินไปที่ประตู

     

    “ครับๆ บายมินซอกรอรับโทรศัพท์ด้วยคืนนี้”

     

    รถคันหรูขับออกไปจากร้านแล้ว มินซอกก็กลับเข้ามาเก็บร้านจะได้กลับบ้านกันซักที

     

     

    BITTER Sweet

     

     

    2 ทุ่ม ร้านก็ล็อกเรียบร้อยพวกเขาสามคนต่างแยกย้ายกลับบ้านของตัวเอง ระหว่าทางมินซอกได้แต่คิดถึงเรื่องของลู่หานที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น

     

     ผู้หญิงที่เขาเคยสารภาพรักด้วย

     

    มันเหมือนตลกร้ายนะว่าไหม 3เดือนที่แล้ว ลู่หานมาบอกกับเค้าว่ามีแฟนชื่อมินอา ตอนแรกก็คิดในแง่ดีว่าคงชื่อเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่ มินอาคนนั้นคือคนเดียวกัน คนที่พูดกับเขาไม่กี่ประโยคแต่ทำให้เขาแทบล้มทั้งยืน

     

    ไปพ้นๆจากชีวิตฉันซักที !! นายมันน่ารำคาญที่สุด ”

     

    ก็นะตอนนั้นเขายังอ้วนใส่แว่นอยู่เลย แต่ก็ไม่โกรธลู่หานหรอกนะที่ได้เป็นแฟนกับผู้หญิงคนนั้น และลู่หานก็ยังไม่รู้ด้วยว่าเขาเคยไปสารภาพรัก เพราะมันก่อนหน้าที่จะเจอลู่หาน 1 ปีในมหาลัย เพื่อนมีความสุขเราก็ควรมีความสุขด้วยสิ แต่ทำไมมินซอกรู้สึกเศร้าแหะ พอคิดว่าจะไม่มีใครมาคอยทำให้รำคาญแล้ว

     

    ไขกุญแจเข้าห้องขนาดกลางของตน ก่อนที่มินซอกจะอาบน้ำแรงสั้นจากโทรศัพท์ที่ว่าอยู่บนโต๊ะหน้าทีวีก็สั่นขึ้น

     

    คุณมี 1 ข้อความ 

     

    ข้อความจากเป็นเบอร์ที่เขาไม่รู้จัก สงสัยจะพวกโปรโมชั่นที่ส่งมาทางมือถือจึงทำให้มินซอกไม่ได้สนใจ กะว่าอาบน้ำเสร็จค่อยเปิด

    เมื่อถึงเตียงมินซอกจึงเป็นโทรศัพท์ขึ้นมาดู

    ข้อความใหม่

    จาก : เบอร์ที่ไม่รู้จัก 094 – xxx – xxxx

    “ฉันรู้ว่านายเป็นเพื่อนสนิทกันแต่ออกไปจาชีวิตลู่หานซะ !! อย่าหาว่าไปเตือน”

     

    เขาไม่ตกใจเลยว่าข้อความนี้เป็นของใคร ก็คงเป็นมินอาสินะเธอดูไม่ชอบหน้าเขาซะด้วย มินซอกกดปิดเครื่องเพราะไม่รู้จะใสใจทำไมเขากับลู่หานเป็นแค่เพื่อนกันนิ และด้วยความเหนื่อยล้าทำให้คนตัวเล็กหลับไปอย่างง่ายดาย

     




               ช่วงคุยกับ fonshi – รอกันนานไหมมมมม ขอเสียงหน่อย ตอนนี้ก็ไม่ได้แก้อะไรมาก คำผิดเยอะอยู่ต้องขอโทษด้วยนะ เรากลับมาอ่านยังขำเลย 55 ไม่น่าจะเหลื่อคำผิดแล้วล่ะรอสอบเสร็จเราจะพยายามทยอยลงนะ 

    เจอกันเมื่อโลกต้องการค่ะ บาย J

     






     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×