ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณอา... ที่รัก

    ลำดับตอนที่ #3 : ยินดี

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 58


    พลอยไพลินนั่งตัวเกร็งไปตลอดทางกลับบ้าน ต่อให้ยินดีสักเพียงไหนที่ไม่ต้องห่างบ้านอีกแล้ว แต่มาเวลานี้หญิงสาวกลับทำตัวไม่ถูกขึ้นมา

    คุณอาที่เฝ้าคิดถึงมาหลายปีทำหน้าที่ขับรถด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง บ่อยครั้งที่เขาเหลือบมองเรียวขาที่เจนใจ เพื่อนของหล่อนยืนยันว่ามันช่างเพรียวสวยในกางเกงรัดรูปแบบยอดนิยมในตอนนี้แล้ว เขาก็มีแต่จะยิ่งมีสีหน้าหนักใจยิ่งกว่าเก่า

    กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่อยู่ข้างหลังรถ เจ้าของรถหน้าบึ้ง ส่วนตุ๊กตาหน้ารถอย่างพลอยไพลินก็ได้แต่ระแวง กลัวคุณอาจะต่อว่าอะไรออกมาอีก

    หล่อนนั่งตัวห่อ ไหล่งุ้ม ไม่มีสง่าราศีเหมือนปกติ ระแวงว่าคุณอาจะหาเรื่องติจนลืมไปสิ้นว่าดีใจเพียงไหนที่ได้พบหน้าเขาอีกครั้งหลังจากที่เฝ้าคิดถึงเนิ่นนาน

    กรุงเทพฯ ยังรถติดหนักเหมือนที่หล่อนเคยจำได้ พอเลี้ยวรถลงจากทางด่วนไม่นานรถยุโรปคันโตก็มาติดอยู่ที่แยกไฟแดง แม้จะเป็นกลางวันวันหยุดราชการก็ตาม หล่อนใช้จังหวะที่เขากำลังเหยียบคันเร่งตอนสัญญาณไฟเขียวลอบมองใบหน้าคมคายอย่างเผลอไผล

    อานนท์ยังหล่อเหลาเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน คิ้วหนาตาคม จมูกโด่ง ทุกอย่างที่พลอยไพลินเคยนึกคิดถึงนับครั้งไม่ถ้วนเวลาที่อยู่ต่างประเทศ นับแต่นี้เป็นต้นไปไม่ต้องคิดถึงเขาอีกแล้ว เขาอยู่ตรงนี้ ใกล้... เพียงแค่จะเอื้อมมือคว้า

    แต่... หล่อนกลับทำได้มากที่สุดเพียงแค่มอง

    พลอยไพลินถอนหายใจออกมาอย่างลืมตัว แล้วต้องสะดุ้งเพราะอยู่ๆ คุณอาก็เอ่ยขึ้น

    “ถ้าเหนื่อยก็งีบหลับก่อนก็ได้ ถึงบ้านแล้วอาจะปลุก”

    หญิงสาวหันไปมองเขา พอสบตาเข้ากับนัยน์ตาสีดำขลับของเขาแล้วก็ต้องรีบหลบตาเสียเอง

    แค่เขาพูดด้วยเท่านี้ก็ไม่กล้าสบตาเขาเสียแล้ว

    “ไม่ได้เหนื่อยหรอกค่ะ” หล่อนตอบเสียงเบา

    “ถ้าอยากมองก็มองตรงๆ ก็ได้ อาไม่หวงหรอก” เขาพูดลอยๆ ขึ้น พอเห็นหญิงสาวหันมาทำตาโตใส่ ริมฝีปากหยักที่เพิ่งดุหล่อนก่อนหน้าก็คลี่ยิ้ม

    “พลอยไม่ได้ตั้งใจจะเสียมารยาท” หล่อนแก้ตัวอุบอิบ “แต่คุณอาก็ทราบใช่ไหมคะว่าเราไม่ได้พบหน้ากันนานมาก จนพลอยแทบจำไม่ได้แล้วว่าคุณอาหน้าตาเป็นยังไง”

    “ตามใจ” เขาพูดต่อทันที “ก็บอกแล้วไงว่าไม่หวง จะมองแค่ไหนก็ได้ พลอยก็รู้นี่ว่าอาตามใจพลอยเสมอ”

    พลอยไพลินมองเขาด้วยความแปลกใจ ไม่คิดว่าเขาจะใจดีขึ้นมา ตอนอยู่สนามบินเขายังทำหน้าหงิกหน้างอเหมือนอยากจะจับหล่อนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้มิดชิดเสียใหม่ ไม่ถึงชั่วโมงให้หลังเขาก็กลายเป็นอีกคน

    “ไม่จริงหรอกค่ะ” หล่อนเถียง “พลอยอยากให้คุณอาไปเยี่ยมพลอยบ้าง คุณอาก็ไม่ยอมไปเลย รู้ไหมว่าพลอยคิดถึงคุณอามากแค่ไหน”

    น้ำเสียงตัดพ้อออกไปทางน้อยใจอย่างไม่คิดจะปิดบัง ทำให้อานนท์นิ่งไปเล็กน้อย เขาละสายตาจากถนนมามองหญิงสาวก่อนจะยิ้มกว้างกว่าเก่า

    สัญญาณไฟแดงทำให้เขามีเวลามากพอที่จะสบตาหล่อนพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ

    “ก็นี่ไง ถือว่าอาชดเชยให้ก็แล้วกัน ต่อไปนี้อาจะตามใจพลอยทุกอย่างเลยดีไหม”

    หญิงสาวได้ฟังแล้วก็เริ่มยิ้มออก ในใจนั้นรู้ดีว่าสิ่งเดียวที่ต้องการจากเขาอะไร... แม้จะไม่กล้าเอ่ยปากออกไปก็ตาม

    หล่อนยินดีที่เขาบอกจะตามใจทุกอย่าง ต่อให้เขาไม่มีวันทำได้ก็ยินดีใจที่ได้ยิน

    “ถ้าอย่างนั้นก็เลิกพูดให้พลอยกลับไปเรียนต่อนะคะ พลอยไม่อยากเรียนแล้ว พลอยอยากกลับมาอยู่บ้าน อยู่กับคุณอา พลอยจะได้ดูแลคุณอาบ้าง ให้สมกับที่คุณอาดูแลพลอยมาตลอด”

    น้ำเสียงมุ่งมั่นแสดงออกชัดว่าจะตั้งใจทำอย่างปากว่าจริงๆ แต่คนฟังกลับหัวเราะออกมาเบาๆ

    “ลืมอะไรไปรึเปล่าน้องพลอย” เขาถามด้วยสีหน้ายิ้มๆ “อาโตแล้วดูแลตัวเองได้”

    หล่อนมองหน้าคนโตแล้วก็รู้สึกแก้มร้อนจัดขึ้นมา ไม่รู้เป็นยังไงแค่สบตาเขา แค่เขาพูดดีด้วยก็เป็นอันว่าต้องเขินเองเสียทุกครั้งกับผู้ชายอื่นพลอยไพลินแน่ใจว่าไม่มีอาการเช่นนี้ จะมีก็แต่กับเขาคนเดียวเท่านั้น

     

    บ้านขนาดสองชั้นตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนเนื้อที่กว่าครึ่งไร่ยังคงดีดูเหมือนที่หญิงสาวจำได้ ตัวบ้านทาสีอิฐด้านนอก ส่วนภายในเป็นสีครีม ข้าวของเครื่องเรือนก็ยังเป็นชุดเดิมตั้งแต่สมัยที่เจ้าของบ้านคนเดิมยังมีชีวิตอยู่

    พลอยไพลินมายืนกลางห้องรับแขกเหลียวมองรอบกายอย่างใจหาย ในใจนั้นอดจะทบทวนถึงวันแรกที่มาถึงบ้านหลังนี้ไม่ได้

    วันนั้นแม่พาหล่อนเก็บของย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของ คุณพ่อวิทย์สามีใหม่ของแม่ นับจากวันนั้นมาถึงวันนี้ก็สิบปีเต็มแล้ว หลังจากอุบัติทางรถยนต์อันน่าเศร้า พ่อวิทย์และแม่เพ็ญสิริจากหล่อนไปเก้าปีแล้ว ตั้งแต่ตอนอายุสิบหก

    เสียงอานนท์ลากกระเป๋าเดินทางใบโตมาหยุดอยู่ที่กลางบ้าน พลอยไพลินจึงหันไปมองเห็นว่าเขามองมาเช่นกัน อยู่ๆ พลอยไพลินก็รู้สึกว่าทนไม่ไหว น้ำตาที่คลออยู่เต็มหน่วยจะหล่นมิหล่นแหล่ พอได้เห็นใครอีกคนในชีวิตหญิงสาวก็วิ่งเข้าไปหาเขาอย่างลืมตัว

    หล่อนกางแขนทั้งสองข้างออก เพียงพริบตาเดียวนางสาวพลอยไพลินก็ตรงเข้าไปกอด คุณอาเอาไว้เสียแนบแน่น โดยไม่สนใจอีกแล้วว่าจะถูกเขาดุอีกหรือไม่ ขอแค่นาทีนี้ได้มีเขาอยู่ข้างกายก็พอแล้ว

    อานนท์ตกใจในตอนแรก เขาผงะไปเล็กน้อยกับแรงที่โถมเข้าหา ทว่าเพียงครู่เดียวมือแข็งแรงก็โอบกอดหล่อนไว้เช่นกันก่อนที่มือข้างถนัดจะยกขึ้นลูบศีรษะหญิงสาวเบาๆ

    “คิดถึงบ้านมากขนาดนี้เลยรึ เด็กขี้แย”

    สิ้นเสียงถามเบาๆ ของเขาที่ข้างหู คนขี้แยก็ปล่อยโฮกับอกเสื้อของเขา หล่อนไม่ได้คิดถึงบ้านมากอย่างที่เขาเข้าใจ แต่หล่อนเพิ่งรู้ต่างหากว่าเขามีความสำคัญมากเพียงไหน

    นับจากวันที่พ่อวิทย์กับแม่เพ็ญจากไป ก็มีแต่เขามิใช่หรือที่คอยดูแลเป็นทุกอย่างในชีวิต หากไม่มีเขา หล่อนจะมีวันนี้ได้อย่างไร

    “พลอยโตแล้วนะคะ ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว” หล่อนเถียงกับอกเสื้อของเขา พูดยังไม่ทันจบดีก็สูดน้ำมูกอีกฟืดหนึ่งก่อนจะเอ่ยต่อ “ทำไมคุณอาชอบคิดว่าพลอยเป็นเด็กอยู่เรื่อย”

    คนตัวโตหัวเราะเบาๆ จนช่วงอกแกร่งสั่นไหว หญิงสาวยังคงซุกหน้าลงกับอกเสื้อของเขาอย่างหาที่พึ่ง ต่อให้เขาหัวเราะจนหัวโยนหล่อนก็จะไม่มีวันจากเขาไปไหน

    “งั้นคนโตแล้วบอกอาหน่อยสิว่าร้องไห้ทำไม”

    คนร้องเงยหน้าขึ้นสบตาเขาอย่างสื่อความหมาย น่าเสียดายที่อานนท์ไม่เข้าใจสายตาเว้าวอนของหญิงสาวเลยสักนิด เขายังทำหน้างงใส่จนพลอยไพลินนึกน้อยใจ

    “สัญญากับพลอยนะคะคุณอา”

    “สัญญาอะไร”

    “สัญญาว่าจะไม่ไล่พลอยไปไหนอีก พลอยอยากอยู่กับคุณอาแบบนี้ตลอดไป”

    หลุดปากพูดออกไปแล้วหญิงสาวก็ใจหายไม่น้อย หล่อนไม่ได้ตั้งใจจะรุกเขาถึงเพียงนี้ เพียงแค่รู้สึกอึดอัดและหวาดหวั่นต่ออนาคต จึงอยากได้คำยืนยันของเขาเท่านั้น ไม่ได้คิดจะกดดันอย่างที่เอ่ยออกมา

    อานนท์เงียบไปชั่วอึดใจ หญิงสาวชักใจเสีย หล่อนไม่กล้าสบตาเขา ก้มหน้าซุกลงหาไออุ่นจากอ้อมกอดของเขาให้ได้มากที่สุดเพราะรู้ดีว่าคงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเขาบ่อยนัก ในเมื่อเขาเห็นหล่อนเป็นเพียงเด็กผู้หญิงในปกครองคนหนึ่งเท่านั้น

    แขนเรียวกอดเขาไว้แน่นเข้าไปอีก อยากโอบกระชับให้แน่ใจว่าตนเองไม่ได้ฝันไป หล่อนกำลังกอดเขา และเขาก็ไม่ดุอีกแล้ว หารู้ไม่ว่ามันทำให้อานนท์ลำบากใจไม่น้อย

    เนื้อตัวของหญิงสาวเบียดเสียดกับตัวเขาจนแทบไม่มีที่ว่าง หล่อนก็ยังกล้าจะกอดเขาให้แน่นกว่าเดิมเข้าไปอีก ไม่รู้หรือไรว่าเขาก็เป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น ควรแล้วหรือจะมากอดกับหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กในปกครองของเขา ต่อให้หล่อนอายุพ้นวัยผู้เยาว์มานานแล้วก็เถอะ

    เขารู้สึกได้ถึงเรือนร่างอ้อนแอ้นในอ้อมกอด ส่วนสัดของพลอยไพลินที่เขาเห็นที่สนามบินผ่านเสื้อที่ไม่ว่าหล่อนจะเดินไปทางไหนก็มีแต่ผู้ชายเหลียวมองขนาดนั้น ก็ยังไม่เท่ากับที่เขาได้สัมผัสในเวลานี้ เนื้อตัวเบียดเสียด เนินอกนุ่มบดเคล้าอยู่กับตัวเขา ช่วงเอวโค้งเว้า สะโพกผาย และที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือไม่ว่าเขาจะขยับแขนตอบรับการกอดของหล่อนไปทางไหน เจ้าตัวก็ดูจะยินดีให้เขากอดได้ตามใจชอบเสียอีก

    อานนท์อ้าปากจะดุที่หญิงสาวทำตัวไม่เหมาะสม แต่พอเห็นหล่อนน้ำตานองหน้าเขาก็ดุไม่ออก อันที่จริงที่ดุหล่อนเรื่องการแต่งตัวไปที่สนามบิน แล้วหลังจากนั้นพลอยไพลินก็จ๋อยลงถนัดตาทำให้เขาใจเสียอยู่ไม่น้อยเช่นกัน แล้วหล่อนเล่นกอดเขา ออดอ้อนเขาถึงเพียงนี้มีหรืออานนท์จะเอ่ยคำใดออกมาได้อีก

    “สัญญานะคะคุณอา”

    น้ำเสียงหญิงสาวกระเง้ากระงอด รอให้เขารับคำ หล่อนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย พอให้แพขนตาปรือขึ้นมองชายหนุ่ม ทำเอาอานนท์รู้สึกเหมือนถูกน็อก ทั้งที่อีกฝ่ายเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ เท่านั้น

    “ถ้าพลอยเชื่อฟังอา ไม่ดื้อกับอา อาจะไล่พลอยไปได้ไหน” เขาตอบออกมาในที่สุดแต่ดูเหมือนว่าคำตอบของเขาจะยิ่งทำให้หญิงสาวน้อยใจหนักกว่าเดิม

    “พลอยบอกแล้วไงคะว่าพลอยไม่ใช่เด็กๆ แล้ว จะไปดื้อกับคุณอาได้ยังไง” หล่อนว่าอย่างงอนๆ แต่ยังไม่ยอมปล่อยมือจากการโอบกอดเขาไว้เสียทั้งกาย “คุณอาดีกับพลอยมาตลอด พลอยไม่มีวันทำให้คุณอาเสียใจหรอกค่ะ”

    “แน่ใจนะ” เขาถามเหมือนอยากจะล้อเล่นมากกว่าจะไม่เชื่อถือ

    “ค่ะ” หล่อนรับคำทันที “คุณอาจำคำของพลอยเอาไว้เลยนะคะ คุณอาเป็นทุกสิ่งในชีวิตพลอย ไม่ว่าอะไรพลอยก็ให้คุณอาได้ทั้งนั้น”

    สิ้นคำสัญญาอานนท์ก็หัวเราะหึๆ อยู่ในลำคอก่อนจะบอกเสียงเป็นงานเป็นการ

    “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พลอยก็ควรจะปล่อยอาได้แล้ว รู้ไหม ถ้ากอดนานกว่านี้ อาต้องตบะแตกปล้ำพลอยแน่ๆ เลย”

    เขาพูดจบก็หัวเราะเสียเองให้เห็นว่าล้อเล่น แต่หญิงสาวกลับค้อนประหลับประเหลือกใส่เขา

    พลอยไพลินยอมปล่อยในที่สุด หล่อนอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าอย่างน้อยอานนท์ก็กอดตอบอย่างเต็มใจ เขาไม่ดุเลยสักคำ มิหนำซ้ำยังพูดจาเอาใจแถมให้อีก เท่านี้ก็มากเกินพอสำหรับการกลับบ้านวันแรก

    กระเป๋าเดินทางยังตั้งอยู่ที่เดิม หล่อนแน่ใจว่าห้องพักของตนเองก็ยังเป็นห้องเดิม ไม่ต้องรอให้เขาพาไปหล่อนก็จำทางได้ แต่ยังยืนตาแป๋วอยู่ต่อหน้าเขาอดไม่ได้จริงๆ ที่จะตอบเขากลับไป

    “ต่อให้คุณอาปล้ำ พลอยก็ยินดีค่ะ ก็บอกแล้วไงคะว่าไม่ว่าคุณอาจะต้องการอะไร พลอยก็ยินดีทั้งนั้น”

    พูดจบหญิงสาวก็รีบหัวเราะกลบเกลื่อน แต่ชักจะหัวเราะไม่ออกเมื่ออยู่ก็เห็นว่าคนตัวโตขยับเข้ามาใกล้... ใกล้เหมือนเมื่อครู่

    อานนท์ไม่พูดจาอะไรสักคำตอนที่เขาใช้สองมือจับหัวไล่หล่อนไว้แล้วแนบริมฝีปากตนลงกับกลีบปากบางที่เพิ่งท้าทายเขาไปเมื่อครู่อย่างถนัดถนี่

    พลอยไพลินยืนตัวแข็งทื่อแม้แต่ตอนที่เขาผละออกห่าง ดวงตาทั้งสองข้างมองเขากลมโต ไม่มีเสียงใดๆ เล็ดรอดออกจากริมฝีปากแม้แต่ตอนที่เขาส่งยิ้มให้

    อานนท์ไม่พูดจาอะไรอีกแต่เดินไปหิ้วกระเป๋าเดินทางใบโตขึ้นบันไดบ้านไปเงียบเชียบปล่อยให้พลอยไพลินยืนงงอยู่ตรงนั้น

    มือเรียวยกขึ้นแตะริมฝีปากตัวเอง รสจูบจากเขายังตราตรึงอยู่ตรงนี้ราวกับจะตอกย้ำว่าไม่ได้ฝันไป

    “คุณอา...” หล่อนเรียกเขาด้วยน้ำเสียงเหมือนละเมอ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×