คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : วิชาที่เรียนกับอาจารย์ที่สอน
5
วิชาที่เรียนกับอาจารย์ที่สอน
วันนี้ตื่นเช้าสบายกว่าเมื่อวาน(เพราะไอ้นาฬิกาบ้านั่นมันพังไปตั้งแต่เมื่อวาน) แต่ก็ตามเคยที่โคเรนจะตื่นเป็นคนที่ 2 ส่วนคนที่ครองแชมป์คนแรกก็คือ ฟีน่าเหมือนเดิม
“ไง...ตื่นแล้วหรอ”ฟีน่าทักทายหลังจากที่เห็นเพื่อนตื่น
“อืม...วันนี้นอนสบายชะมัดเลย ไม่เหมือนเมื่อวาน”ถึงจะตื่นมาทีหลังแต่ก็ไม่วายกัดคนที่ตื่นก่อน
“จ้าๆ”แต่คนที่โดนกัดก็ยังทำหน้าเป็นทองไม่รู้ร้อน
“ฮ้าว!~”และก็เป็นตามเดิมที่คนตื่นคนต่อไปจะเป็นแอรินกับคริสตี้
ห้องเรียน...
วิชาแรกที่เรียนคือวิชาประวัติศาสตร์ที่แสนจะน่าเบื่อ ที่ทำเอาคนทั้งห้องเกือบหลับแต่บางคนก็หลับไปแล้ว แต่โคเรนก็อาจจะหลับไปด้วยถ้าไม่ใช่ว่ามีเซเร็นคอยเอาปากกาจิ้มหัวปลุกอยู่ข้างๆ เพราะการเรียนเป็นคู่ต้องนั่งติดกัน เธอสลึมสลือนอนเกือบไปซบไหล่กับไอ้เจ้าเทพบ้าถ้าไม่ใช่ว่ามันจะผลักหัวเธอไปอีกทางจนแทบโขกกับโต๊ะไปแล้วทีนึง
....หมอนี้อึดจริงๆ คนอื่นๆเค้าจะหลับจนหัวแทบฟลุบกับโต๊ะอยู่แล้ว แต่มันกลับนั่งตาแป๋วฟังอาจารย์ฟาเวล โรเบตี้ท่องกลอนประวัติศาสตร์เป็นชั่วโมง...
โคเรนนับถือเซเร็นอยู่ในใจแต่ถ้าไม่ติดว่ามันผลักหัวเธอ เธอจะไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์วิชาตาค้างศาสตร์เลย
วิชาที่ 2 วิชาการคำนวณของอาจารย์แมททอร์ สลอวาเนียร์ คิดหัวแทบแตกกับการแก้สมการหาพื้นที่สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม หกเหลี่ยม ต่อด้วยโจทย์ปัญหาการคิดเงินและจำนวณคนปัจจุบันที่บางคนทำไม่ได้ จนต้องมานั่งนับนิ้วเอา เวลาที่โคเรนคิดก็คิดจนสมองกลับ ตาเหลือกไปคนละทาง แต่...เซเร็นกลับดูท่าทางมีความสุขมาก กับการได้คำนวณอะไรที่ชวนสมองแตก
พักเที่ยง...
“โอ๊ย! ปวดหัวๆ อยากนอนๆ”พอออกจากห้องโคเรนก็การตะโกนระบายความเครียดโดยไม่สนใจสายตาประชาชีที่หันมามอง
“เออ! ฉันก็ปวดหัวไม่แพ้แกหรอก แต่ช่วยเงียบๆได้มั้ย ฉันอายชาวบ้าน”ฟีน่าเอ่ยตำหนิที่โคเรนเสียงดัง
“ก็มันรู้สึกดีนี่นา เวลาเซ็งๆแล้วตะโกนอย่างงี้ โฮะๆๆ”พอโคเรนขจัดความเครียดเสร็จปุ๊บก็กลับมาหัวเราะสดใสร่าเริงซึ่งต่างจากเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง จนทำให้แอริน ฟีน่า กับคริสตี้ ทำหน้าระอาไปตามๆกัน
“หรอจ๊ะ”เสียงบุรุษผู้ซึ่งอารมณ์ดีที่สุดในการเรียน 2 คาบเมื่อกี้มาพร้อมกับผองเพื่อนซี้
“ไง...เซเร็นอารมณ์ดีจริงนะ ไม่ปวดหัวรึไง”แอรินเริ่มต้นถามทันทีที่ 4 บุรุษก้าวเข้ามาเดินด้วย
“อืม...ก็มันสนุกนี่นา แถมสะใจอีกต่างหากที่ได้แกล้งใครบางคนตอนคาบประวัติศาสตร์ ฮ่าๆๆ”ทันทีที่เซเร็นพูดจบก็ได้รับค้อนวงโตจากโคเรนไปตามๆกัน
“หรอ แปลกจริงนะนาย”โคเรนถามกลับ
“เธออ่ะไม่รู้หรอหมอนี่น่ะ มันเรียนเก่งจะตายชักกะแด่วๆอยู่แล้ว ไม่งั้นมันไม่มีฟามสุขขนาดนี้หรอก”ไซร์เริ่มอวดสรรพคุณแปลกๆของเพื่อนตัวเอง
“แล้วนี่ วันนี้ใครจะกินกับข้าวอะไรมั้ง”คริสตี้ถามเพราะท้องเริ่มร้องจ๊อกๆ
“ไม่รู้เหมือนกันเดี๋ยวไปถึงค่อยไปดู นี่!พวกเธอนั่งกับพวกฉันมะ”สคล็อตเอ่ยถาม
“อืม...ก็ดีเหมือนกัน”ฟีน่าเอ่ยตอบกลับไปด้วยอาการเซ็งๆนิดหน่อย
“แล้วมันเหลือวิชาวิปริตอะไรอีกล่ะเนี่ย”ทุกคนแทบหลุดขำกึก เมื่อได้ฟังชื่อวิชาประหลาดๆจากโคเรน
“ก็เหลือวิชาเวทมนตร์วิปริต กับวิชาเอาตัวรอดวิปลาส”ไซร์เริ่มเออออไปกับชื่อวิชาประหลาดๆของโคเรน ทำให้เพื่อนคนอื่นๆกลั้นหัวเราะไม่ไหว จนหัวเราะท้องแข็ง
“อ้อ!”แอรินทำมือเป็นทุบมือตัวเองดังป๊อบ!
“อะไรอีกอ่ะ”โคเรนถามอีก
“ก็ฉันได้ยินมาว่าอาจารย์ที่สอนวิชาเวทมนตร์อ่ะนะ เป็นแม่มดในตำนานที่ตอนนี้อายุราวๆ 50-60 ปี แต่ยังสาวเช้งกะเด๊ะยังกะสาววัยแรกรุ่นเลย อยู่ที่หมู่บ้านแม่มดในนรกนี้”แอรินอธิบายละเอียดยิบยังกับว่าเอาหนังสือมาอ่าน
“ขนาดนั้นเชียว!” 4 หนุ่มร้องแทบตะโกนกับรายการผู้หญิงอายุ 50-60ปี แต่กลับสาวเช้งกะเด๊ะ แล้วพอนึกภาพ
....อุบาศว์ว่ะ...
4 หนุ่มคิดในใจ พลางทำท่าสยอง
“เออน่า...เรื่องธรรมดาน่า ที่นรกมีถมเถไปที่ต้องปิดปังตัวเองเพราะว่าเป็นคนดังอย่างอาจารย์ฟาเวล โรเบตี้นั่นเห็นแก่ๆแต่ยังฟิตปั๋งอยู่เลยน่ะนั่น”คริสตี้อธิบายเพราะมีแหล่งข่าวมากมายที่เธอจะรู้ได้
“จ๊อกๆ!~”
“แฮะๆ ฉันว่าได้เวลากินข้าวแล้วล่ะ”โคเรนพูดอย่างอายๆแล้วก็เดินนำไปที่โรงอาหารอย่างไม่สนใจสายตาเพื่อนๆ ที่ตอนนี้เอือมระอาสุดๆ
....คนกำลังเล่าเรื่อง ดันท้องร้องซะได้ยัยนี้...
แอรินคิดในใจแล้วก็เดินตามไปที่โรงอาหารพร้อมกับทุกคน
หลังจากเสร็จอาหารมื้อเที่ยงสุดอร่อย ทุกคนก็เดินไปที่สนามใหญ่ที่เป็นสถานที่ที่เรียนเวทมนตร์
“เอาล่ะนักเรียนมาครบแล้วใช่มั้ย”
“ค่า/ครับ”ทุกคนขานรับอย่างเต็มเสียง
“งั้นครูขอแนะนำตัวก่อนนะ ครูชื่อแอนโจลีน เคาท์เวอร์สันนะ จะเป็นครูสอนเวทมนตร์ให้กับพวกเธอในปีการศึกษานี้”อาจารย์แอนโจลีน เริ่มรายการแนะนำตัวเป็นอันดับแรกก่อนจะสอนเวทมนตร์
“วันนี้เราจะเรียนเรื่องการเสกของ มันเป็นเวทย์พื้นฐานที่พวกเธอควรจะทำได้กันทุกคน และจะต้องมีของสังเวย”พอพูดถึงตรงนี้นักเรียนคนอื่นก็เริ่มทำหน้าซีดๆ
“นี่! ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นก็ได้ ไม่ได้เอาชีวิตมนุษย์มาสังเวยสักหน่อย หมายถึงอะไรก็ได้ที่อยู่ใกล้ๆตัวเรา แต่จะมากหรือจะน้อยขึ้นอยู่กับเวทย์ที่ต้องใช้ และถ้าเธอโตแล้วและมีความสามารถเธอก็จะสามารถซื้อคทาเป็นของตัวเองได้”พออาจารย์แอนโจลีนพูดก็มีนักเรียนคนนึงพูดแทรกขึ้นมา
“แล้วใช้คทากับใช้สิ่งของมันจะแตกต่างกันตรงไหนครับ”
“ก็การใช้สิ่งของถ้าเราใช้สิ่งของได้ไม่พอดีกับเวทย์ที่เราใช้เราก็จะสูญเสียพลัง แต่ถ้าใช้คทาเราก็จะไม่ค่อยเสียพลังงานเท่าไหร่ แต่จะมีเวทย์รักษานี่แหล่ะที่ใช้คทาแล้วจะเสียพลังงานมากนิดนึง”อาจารย์แอนโจลีนอธิบายอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋จนนักเรียนเข้าใจกันทั้งหมด
“เอาล่ะมาเรียนกันได้ล่ะ วันนี้จะสอนเวทย์เสกของ พูดตามครู แฮปเพิ้น”
“แฮปเพิ้น”
“ดีมากทีนี้ครูจะทำการสาธิตให้ดูก่อนนะ” จากนั้นอาจารย์แอนโจลีนก็หยิบหินก้อนหนึ่งขึ้นมาจากนั้นก็ท่องคาถาก่อนที่ก้อนหินก้อนนั้นฉับพลันจะกลายเป็น นกพิราบตัวสีขาวน่ารัก...
“เอาล่ะ! ทีนี้เป็นคู่ออกมาแล้วต้องเอาคล้ายๆกันนะ แค่คิดว่าจะเปลี่ยนเป็นอะไรก็คิดไว้ในใจแล้วก็ท่องคาถานะ เอาล่ะต่อแถวได้”พออาจารย์แอนโจลีนพูดจบนักเรียนที่มีเป็นคู่ก็เริ่มแย่งกันเข้าแถวกันมากมาย
“คู่แรก”พอพูดจบก็มีชาย 2 คนออกมาแล้วจับก้อนหินขึ้นมา
“แฮปเพิ้น!”พอทั้งคู่กล่าวพร้อมกันคนแรกหินกลายสุนัข คนที่ 2 หินกลายเป็นแมว
“โฮ่ง!”
“เมี๊ยว!”แล้วมัน 2 ตัวก็วิ่งไล่กันตามสัญชาตญาณทำให้อาจารย์แอนโจลีน
“ว๊าย!”ลอยขึ้นท้องฟ้าทันที ก็คงจะเดาได้ว่าอาจารย์แกเกลียดหมากับแมวอ่ะนะ
“โอเค! คนต่อไป!”อาจารย์สั่งเสียงออกโกรธๆนิดๆ จากนั้นก็มีชายหญิงคู่หนึ่งออกมาซึ่งก็คือ บล์อนกับแอริน
“แฮปเพิ้น”พอทั้งคู่ออกเสียงจากหินก็กลายเป็นดาบกับเคียวไปโดยปริยาย
“โอเค”ทีนี้น้ำเสียงอาจารย์เริ่มดีขึ้นนิดหน่อย แล้วก็มีชายกับหญิงอีกคู่แล้วก็มีไปเรื่อยๆจนจบวิชาเวทมนตร์
วิชาเอาตัวรอดของอาจารย์สเตฟาน มีเซเฟิ้ลซึ่งชื่อมันออกจะพิสดาลสักนิด แต่ก็เป็นวิชาที่สนุกไม่แพ้วิชาเวทมนตร์
“การเอาตัวรอดเมื่อจนมุม จงจำไว้ว่าจะมีทางรอดเล็กๆที่เราสามารถผ่านไปได้ แต่เรากลับไม่สนใจมันเอง ยกตัวอย่างเธอออกมา แล้วก็ขอผู้ชายอีกสักประมาณ 4 คน”
“หนู!”โคเรนแทบร้องลั่นเมื่ออาจารย์จะให้เจ้าหล่อนไปปะทะกับผู้ชายตั้ง 4 คน
“ก็เธอนั่นแหล่ะ! อ้าว...แล้วใครจะเป็นคนออกมาล่ะเนี่ยผู้ชาย 4 คนขออาสาสมัคร”แต่พวกผู้ชายกลับไม่รู้สึกรู้ร้อนรู้หนาวอะไรเสือกยกมือกันสอนลอน
“งั้นใครที่เป็นคู่กับยัยนี่ออกมา ขอบอกไว้ว่าอย่าเอาคนหื่นกามออกมาน่ะ เอานายนั่น นาย กะนายน่ะ ออกมา”พูดจบก็มีเซเร็นออกมา ไซร์ แล้วก็ผู้ชายอีก 2 คนที่เธอไม่รู้จัก
“อืมดี....ผู้ชายล้อมกันเป็นวงกลมเอาไว้เออดี แล้วทำยังไงก็ได้ไม่ให้ยัยนี่หนีออกมาจากวงกลมได้ล่ะกัน เอ้า! เริ่มได้” พอสิ้นเสียงก็ดูเหมือนว่าพวกผู้ชายจะพยายามป้องเธอไว้เต็มสตรีม จนแค่เธอขยับปลายเท้าก็ดูเหมือนว่าพวกมันจะขยับตามไปหมด แต่ดูเหมือนว่าสวรรค์จะเข้าข้างเธอเมื่อตรงแขนของเซเร็นกับไซร์กว้างพอสำหรับเธอรอดไปได้
“อ่ะ! สวัสดีค่ะอาจารย์แอนโจลีน”เป็นกลอุบายที่ง่ายแสนง่ายที่ทุกคนทั้งห้องหันไปมองหมด และตอนที่เธอกำลังจะกระโดดรอดไปนั้นเซเร็นกลับหันมาทันและผลักเธอล้มไป แต่ด้วยความที่หันมากะทันหันทำให้ดูเหมือนว่าจะทรงตัวไม่ดีจึงล้ม!!
“เฮ้ย!”เซเร็นร้อง แต่กลับล้มไม่ถึงพื้นด้วยเวทมนตร์ของอาจารย์สเตฟาน
“ก็นี่แหล่ะนะ! ฉันถึงบอกว่าวิชานี้มันยาก แล้วเวลาหาทางเอาตัวรอดน่ะ มันมีอันตรายรอบด้านเลยล่ะ แต่วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน ไปฝึกมาด้วยล่ะไอ้การหาทางเอาตัวรอดน่ะ เลิกได้”พอสั่งเลิกนักเรียนก็หันมากล่าวสวัสดีแล้วแล้วก็เริ่มทยอยออกจากห้องไป...
ความคิดเห็น